space
space
space
 
มิถุนายน 2559
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
space
space
15 มิถุนายน 2559
space
space
space

A Slave's Master. (ไลท์โนเวล) บทที่ 8 สิ่งฝากฝัง


“ขยับมาใกล้ๆ หน่อยสิจ๊ะ”

ผมเข้าไปใกล้เธอตามคำเรียก ขณะที่กำลังโดนลูบหัว  ผมถามขึ้นมา “ท่านเป็นพี่สาวเควนหรือขอรับ? ดวงตาสีเขียวของท่านเหมือนของเควนเปี๊ยบเลย”

เธอหลับตาข้างหนึ่งขณะสัมผัสเปลือกตาข้างนั้น

“นี่น่ะหรือจ๊ะ? มันเป็นสัญลักษณ์จ้ะ”

สัญลักษณ์?

“ดวงตาสีเขียวคือเครื่องหมายแห่งเชื้อพระวงศ์ไงล่ะจ๊ะ”

ว้าว!

จริงสิ แม้จะรูปตาต่างกัน แต่ตาของลิโอเนลเองก็เป็นสีเขียว หมอนั่นเป็นเจ้าชายนี่นา

“ท่านเป็นเจ้าหญิงหรือขอรับ?”

เอ่อ ผมไม่เคยเจอเชื้อพระวงศ์อื่นนอกจากลิโอเนลด้วยสิ กับเควนนั่นก็ไม่รู้ โลกแห่งนี้มีราชาศัพท์หรือเปล่านะ ผมต้องใช้คำพูดพิเศษหรือเปล่า

“อืม… นั่นสินะ แม้ข้าจะเกิดในราชสกุล แต่เปล่าจ้ะ ข้าไม่ได้เป็นเจ้าหญิง มีเพียงยศศักดิ์ประดับก็เท่านั้นเอง” เธอส่งยิ้มน้อยๆ “ดัชเชสแห่งฟอลนัลจ้ะ”

ดัชเชส!

ว้าว แต่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินชื่อภูมิประเทศนะเนี่ย

“ที่นี่เรียกว่าฟอลนัลหรือขอรับ” ผมซักถามอย่างใคร่รู้ “เอ่อ ข้าต้องใช้ราชาศัพท์หรือเปล่าขอรับ?”

เธอจะรู้จักราชาศัพท์ไหมเนี่ย

“เจ้าจงกล่าวด้วยวาจาเช่นเดียวกับที่ใช้กับคนอื่นๆ เถอะนะ ตัวข้าเองไม่ได้สนใจเรื่องพิธีการใดๆ หรอกจ้ะ ถึงอย่างไร ข้าก็เป็นเพียงอดีตดัชเชสคนหนึ่ง”

อ้าว โดนปลดแล้วหรือ

เธอส่ายหน้าไปมาช้าๆ แทนคำตอบสำหรับคำถามที่ผมถามไปทีแรก

“ฟอลนัลไม่ใช่ที่นี่หรอกจ้ะ ฟอลนัลเป็นสถานที่ที่ไกลจากที่นี่ มุ่งไปทางเหนือ อากาศที่นั่นหนาวเย็นและมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี” เธอหัวเราะเล็กๆ “เห็นข้าซูบเซียวเช่นนี้ ความจริงข้าเป็นคนแข็งแรงมากเลยนะ บ่อยครั้งที่ข้ามักจะไปท่องเที่ยวที่นั่น ใช้เวลาว่างกับการเล่นกีฬาหิมะจ้ะ”

“งั้นท่านอาศัยอยู่ที่นี่ตลอดมาเลยหรือขอรับ? เห็นท่านว่าออกไปเที่ยว”

“ถูกต้องจ้ะ ที่นี่เป็นเมืองหลวง นอกจากจะเป็นศูนย์กลางของหลายๆ อย่างแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่เชื้อพระวงศ์มักจะมาอยู่รวมกัน ไม่เพียงเชื้อพระวงศ์เท่านั้น ชนชั้นสูง คหบดีผู้มั่งคั่ง ขุนนางชั้นสูง ไม่ใช่ทุกคนจะอยู่มาอยู่รวมกันที่นี่ก็จริง แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนั้นนะจ๊ะ

เธอเว้นจังหวะ

“ยิ่งเมืองรอบนอกออกไปเท่าไหร่ ยิ่งเห็นความแออัดน้อยลง แต่ก็เช่นเดียวกับความครึกครื้นและความเจริญต่างๆ จะมียกเว้นบ้างก็คือเมืองท่า เมืองที่เรือสำเภาการค้าทั้งหลายจะมาเทียบท่าเพื่อเติมเสบียงและซื้อของเพื่อนำไปขายต่อยังเมืองถัดไป หรือเมืองที่เป็นเส้นทางผ่านของนักเดินทางและคณะเร่ เมืองเช่นนี้จะครึกครื้นเพราะมีคนมากหน้าหลายตาแวะเวียนกันไปจ้ะ”

ผมตาโต “ท่านรู้เยอะดีจัง”

เธอยิ้มอย่างถูกใจ ไม่ว่าใครก็ชอบคำชมทั้งนั้น “ก็ดัชเชสนี่จ๊ะ ข้าต้องเรียนสิ่งต่างๆ ให้สมกับตำแหน่ง”

ก็จริง

“แต่ตอนนี้คนที่ต้องเรียนหนักกว่าข้าก็มีแล้วล่ะ เด็กน้อยที่ชอบไขกุญแจเข้ามาร้องไห้อยู่ตรงนี้” เธอวางมือลงบนที่นอนข้างตัว “ทั้งร่ำเรียนวิชาการ ซ้ำยังต้องเรียนวิชาดาบให้สมกับเป็นบุรุษผู้สง่างาม เด็กน้อยที่อยากทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด บัดนี้ปฏิบัติตนให้สมกับเป็นดยุคอย่างน่าภาคภูมิ”

ผมรู้สึกตงิดใจ

“ขอบใจที่ยอมมาเล่นกับเควนตินนะจ๊ะ”

นั่นปะไรเล่า!

“ง่า… เจ้าหมอนั่นไม่ได้สง่างามเลยสักนิด เอาแต่ใจ แถมได้ยินว่า…”

ผมเงียบไป นึกได้ว่าจะมาจีบพี่สาวเขานี่หว่า

เธอหัวเราะขึ้นมา คราวนี้ดูจะตลกกับคำพูดของผมอย่างจริงจัง “นั่นสินะจ๊ะ ข้าเองบางทีก็อยากบ่นอยู่เหมือนกัน ถ้าทำได้ล่ะก็นะจ๊ะ จะไม่ทำให้เขาฆ่าคนได้ตั้งแต่อายุยังน้อยขนาดนั้น”

ผมสนใจ “กี่ขวบขอรับ?”

“ห้าจ้ะ”

ห้า!

ให้ตาย! ห้าขวบฆ่าคน ถ้าผมโตขึ้นมาอย่างหมอนี่ ผมคงฆ่าคนไปเป็นร้อยเหมือนกัน ได้ยินว่าชนชั้นสูงบางกลุ่มจะมีนิสัยโหดร้ายป่าเถื่อน ฆ่าคนได้ไม่กะพริบตาเพราะความมีอำนาจในตน แต่…ห้าขวบ! ถ้าฆ่าคนตั้งแต่ห้าขวบ หมอนั่นจะมีงานอดิเรกฆ่าคนเล่นก็ไม่แปลกใจเลยนะ

จะว่าไป ขนาดคนได้ที่สองอย่างเควนยังฆ่าคนตั้งแต่อายุห้าขวบ ผมนึกเสียวสันหลังขึ้นมาว่ามือเล็กๆ ในร่างนี้ฆ่าคนไปแล้วกี่คน แวบแรก ผมนึกอยากกลับไปถามเจ๊อัลดู แต่คิดอีกที อย่าดีกว่า ถ้าได้คำตอบแล้วผมจะนอนไม่หลับเอา

“ถ้าท่านไม่ชอบ ทำไมไม่ปราบล่ะขอรับ? เขาหัวดื้อ ไม่ฟัง งั้นสินะขอรับ?”

“ถ้าจะว่าไม่ฟังก็ว่าได้ไม่เต็มปากนักหรอก” ดวงตาของเธอสลดลง “บางที คนที่ทำให้เขาต้องเป็นแบบนั้น อาจเป็นข้ากระมังจ๊ะ”

หืม

“เควนตินกำเนิดขึ้นมา โดยที่บิดาถูกสังหารตั้งแต่เขาลืมตาดูโลกไม่นาน”

หา!

“ทั้งที่เป็นแบบนั้น ผู้สังการสังหาร กลับไม่มีชีวิตยืดยาวมากไปกว่านั้นเลย หากจะพูดให้ถูก เขาได้สังหารผู้ที่จะคอยฟูมฟักเลี้ยงดูเควนตินให้เติบโตขึ้นมาอย่างถูกต้องไปโดยไม่รู้ถึงอนาคต อนาคตที่สำคัญ นั่นก็เพราะเควนติน เขาคือสายเลือดคนสุดท้ายในตระกูลเราจ้ะ”

ผมงง

“ท่านเป็นราชสกุลไม่ใช่หรือขอรับ? ทำไมถึงพูดว่าเหลือคนสุดท้ายล่ะขอรับ?”

ลิโอเนลก็ยังอยู่

“ราชสกุลก็คือสายเลือดหลักจ้ะ แต่ราชสกุลแบ่งออกเป็นตระกูลต่างๆ อย่างข้าคือตระกูลบอร์แซนเธีย นามของข้าคือเควนติน บอร์แซนเธีย จ้ะ”

ผมรำพึง “ชื่อเหมือนเควนเปี๊ยบเลย”

“จ้ะ” เธอยิ้มรับ “ก็ชื่อข้าถูกนำไปตั้งเป็นชื่อเขานี่นา”

ถ้านี่เป็นในการ์ตูน ต้องเครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นเหนือศีรษะผมไปแล้ว “ทำไมล่ะขอรับ?”

เสียงหัวเราะของเธอปรากฏขึ้นน้อยๆ อีกครั้ง

“ก็ข้าเป็นมารดาของเขานี่นา”

ห๊ะ! ไม่ใช่พี่สาวเรอะ!

ผมซับเหงื่อเล็กน้อย “ท่านเนี่ยดูอ่อนกว่าวัยจริงๆ นะขอรับ ดูเผินๆ อย่างกับสิบแปด”

ความอ่อนกว่าวัยช่างน่ากลัว

“ก็สิบแปดน่ะสิจ๊ะ” เธอส่งสายตางุนงงมาให้ผม “ไม่ปกติเหรอ?”

“อ้อ! เปล่าๆๆ ขอรับ ข้าแค่…คุ้นชินกับการที่ผู้หญิงจะแต่งงานตอนอายุยี่สิบกว่าๆ มากกว่า แต่ไม่ได้ปิดกั้นหรอกนะขอรับ”

“อย่างนี้นี่เอง”

อื้ม อื้ม

“โลกฝั่งนั้นเขามีธรรมเนียมแบบนั้นหรือจ๊ะ”

เฮ้ย!

ผมเงยหน้าขึ้นสบตาเธออย่างตกใจระคนมีคำถาม

โลกฝั่งนั้นหรือ โลกฝั่งนั้นมันโลกฝั่งไหน ฝั่งราชนิกูลกับสามัญชนคนทั่วไป หรือหมายถึงโลกอะไรกัน

ผมอยากถามว่าเมื่อครู่เธอหมายถึงอะไร แต่ก็ไม่กล้า คล้ายกลัวว่าหากทุกคนรู้ว่าผมไม่ใช่อาเธอร์ พวกเขาจะทำอย่างไรกับผมก็ไม่ทราบ โดยเฉพาะเจ๊อัลกับลิโอเนล สำหรับคนหนึ่งคือลูกชายที่แสนจะน่าภาคภูมิใจ ส่วนอีกคน คือเพื่อนรักที่หาใครมาทดแทนไม่ได้

“ที่โลกฝั่งนี้น่ะ ผู้หญิงจะได้รับจับคู่ตั้งแต่อายุสิบเจ็ดสิบแปดเป็นเรื่องปกติจ้ะ บางครั้งสิบหกยังมีเลย” เธอยิ้มพลาง ว่าไปพลาง “ข้าน่ะดื้อ แต่งงานกับผู้ชายที่ไม่มียศฐานบรรดาศักดิ์อะไร คนอื่นๆ โกรธกันใหญ่เลยล่ะ แต่ข้าก็ยังคงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในฐานะดัชเชสแห่งฟอลนัลต่อไปในดินแดนทางเหนือนั่น”

“แต่ท่านก็อยู่ที่นี่” ผมแย้ง

 “จ้ะ ตอนที่ข้าตั้งครรภ์เควนตินขึ้นมา ร่างกายข้าอ่อนแอลงมาก อากาศทางเหนือที่เคยเป็นสิ่งบันเทิงใจกลับบั่นทอนร่างกายข้าไม่หยุดยั้ง เพื่อที่จะมีชีวิตรอดและคลอดเขาออกมา ข้าจำต้องกลับมาอยู่ที่นี่จ้ะ”

“ท่านคงลำบากมาก” ผมนึกถึงฉากในละครหลังข่าวที่เคยดูสมัยเด็ก

“ไม่เลยจ้ะ! ก็ข้าอุ้มท้องทายาทผู้สืบทอดลำดับที่หนึ่งของตระกูลบอร์แซนอยู่นี่นา เมื่อเทียบกับอากาศหนาวๆ ของฟอลนัลแล้ว ห้องนี้นับว่าดีกว่าเดิมเยอะเลยจ้ะ”

จะว่าไป ผมก็รู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่มาแล้วว่าห้องนี้มันอากาศดีจริงๆ

สีหน้าเธอสลดลงอีกครั้ง “แต่เมื่อเควนตินกำเนิดมาได้ไม่นานเท่าไร พวกเขาคงสังหารสามีข้า สำหรับคนไม่มียศ ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีอำนาจใดคอยหนุนหลัง จะตายด้วยน้ำมือครอบครัวข้าก็หาใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ทั้งที่เป็นแบบนั้น แต่ในเวลาต่อมาไม่ถึงปี พวกเขาก็พากันสิ้นใจลงจ้ะ เควนตินจึงขาดผู้ใหญ่คอยนำทาง ไม่มีใครให้พึ่งพิง การที่เขาจะทำเรื่องโหดร้ายแบบนั้น คงเพราะอยากจะเข้มแข็งขึ้นเพื่อทดแทนความอ่อนแอที่ไม่อาจแสดงออกมาได้ก็เป็นได้จ้ะ ข้าเชื่ออย่างนั้น”

ผมนึกถึงวันที่เจ้านั่นช่วยฆ่างูให้

“จริงๆ เควนก็ไม่ใช่คนไม่ดีหรอกขอรับ แค่เวลาจับดาบแล้วจะน่ากลัวเฉยๆ แล้วก็เกลียดความพ่ายแพ้อย่างรุนแรง แต่ก็เป็นพวกแยกแยะออก”

“แยกแยะหรือจ๊ะ?”

“เขาไม่ฆ่าข้าขอรับ” ผมเอามือปาดๆ ลำคอ “ทั้งที่จะฆ่าข้าที่ชิงเอาชัยชนะไปก็ทำได้ แต่เขากลับไว้ชีวิตข้า แถมมีหลายทีที่ข้ารอดตายมาได้เพราะความปรานีของเขา เขาแยกแยะออกว่าข้าในตอนนี้ไม่ใช่อาเธอร์ที่เขารู้จัก แถมฟังความคิดเห็นของข้าด้วย”

คุณเควนตินน้ำตาคลอ

“จ้ะ” สายน้ำวาวใสไหลออกมาจากดวงตาของเธอทั้งคู่ “เด็กคนนี้เป็นคนดี ดีจริงๆ จ้ะ!”

แม้ช่วงนี้จะผ่านประสบการณ์ทำคนร้องไห้มาบ่อยที่สุดตั้งแต่เกิดมา แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะจัดการกับน้ำตาของเธอยังไงดี โธ่ ผมน่ะวันๆ อยู่กับอนิเมฯ อย่างดีก็ส่งเสียงปลอบใจจากหน้าจอ ส่วนฟิกเกอร์ก็ร้องไห้ไม่ได้

“เจ้าเป็นคนแรกที่พูดถึงเขาเช่นนี้ ที่ผ่านมา ข้าได้ยินเสียงมากมายที่พูดถึงความร้ายกาจของเขา ถึงมันจะจริงก็เถอะ” เธอเอื้อมมือมากุมมือทั้งสองข้างของผมไว้แน่น “ถ้าเป็นเจ้าล่ะก็ ต้องทำได้แน่จ้ะ!”

ผมมึน “ทำ? ทำอะไรขอรับ?”

“เป็นเพื่อนกับเขาไงล่ะ คอยประคองเขาแทนข้า” เธอส่งยิ้มตอบกลับมา “ข้าโชคดีที่เป็นสหายรักกับพระราชินีองค์ปัจจุบันมาตั้งแต่เยาว์วัย พระนางจึงมอบตำแหน่งดยุค ประกันอำนาจของเขา และมอบชื่อของข้าให้แก่เขา หาไม่แล้ว เด็กคนนี้คงมิอาจมีชีวิตอยู่มาได้พ้นปี”

อา…

“สำหรับเด็กที่เกิดมาก็รู้ว่าตัวเองมีอำนาจและต้องทำมันให้ดีที่สุด เขาคงกำลังวิ่งวนอยู่บนถนนที่ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน ไม่มีใครมอบความอ่อนโยนให้ และไม่รู้จะมอบความอ่อนโยนให้ใคร ฉะนั้น ขอร้องล่ะนะจ๊ะ ช่วยเขาแทนข้าที”

ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยมีใครฝากหน้าที่แบบนี้ให้ผมมาก่อน

“ถ้าท่านที่เป็นแม่ยังคุมเขาไม่ได้ ข้าจะทำได้ยังไงล่ะขอรับ?” ผมว่าอย่างจนปัญญา

“หากข้าสามารถสื่อสารกับเขาได้ ข้าจะไม่มีวันปล่อยให้เขาโดดเดี่ยวเช่นนี้เลย” คุณเควนตินส่งยิ้มอันแสนสลด “หากข้าไม่ได้สิ้นใจตั้งแต่คืนที่เขาถือกำเนิดขึ้นมาล่ะนะจ๊ะ”





Create Date : 15 มิถุนายน 2559
Last Update : 15 มิถุนายน 2559 0:15:48 น. 1 comments
Counter : 409 Pageviews.

 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:15:27:16 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 3190137
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 3190137's blog to your web]
space
space
space
space
space