มาลุยกันต่อ.. ผาแต้ม เสาเฉลียง (ต่อจากลาวใต้หรรษา)



แล้วก็เป็นอีกหนึ่งเช้าที่ปากเซค่ะ

ถาพที่ถ่ายนั้นเป็นภาพจากระเบียงของโรงแรมดาวเวียงที่พักเมื่อคืน

ชอบโรงแรมนี้มากเพราะตัวโรงแรมมีระเบียงยาวๆ ให้เดินได้เกือบรอบสี่ด้านเลยค่ะ

แบบว่าเห็นเมืองปากเซเกือบสามร้อยหกสิบองศาเลย



ขอออกมาหาของกินยอดฮิตที่ใครๆ ก็บอกว่ามาเที่ยวลาวแล้วต้องลองกันหน่อย





เป็น บาเก็ต แซนวิช

แต่รู้สึกร้านที่มาทานจะไม่เหมือนกับที่เค้าบอกกันมาเท่าไหร่

หรือเราสั่งไม่ถูกก็ไม่รู้

แทนที่จะเป็นไส้ไข่ดาว กลายมาเป็นหมูผัดน้ำมันหอย

แต่ก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ

(ดีเหมือนกันที่ได้ลองแบบนี้ เพราะที่นครพนมก็มีแบบเป็นไส้ไข่ให้กินบ่อยแล้ว)



แล้วก็เดินเลยไปลองกาแฟลาวเจ้าดัง Company by Dao กะเค้าซะหน่อย

กลิ่นหอมใช้ได้ แต่รสเข้มไม่ใช่น้อยเลย

ปกติกินกาแฟแค่ช็อตเดียวก็ว่าขมแล้ว สรุปว่า เช้านี้ได้ตื่นเต็มตาเลยค่ะ



แล้วก็ได้เวลาบอกลาเมืองปากเซ เดินทางกลับอุบลแล้วล่ะค่ะ

เรากะจะไปเที่ยวผาแต้มด้วย เลยหารถไปลงที่ช่องเม็ก

(นึกอยากจะขอสัมผัสสองแถวลาวกะเค้าหน่อยเถอะ

เลยไปหารถเอาที่นี่เลยค่ะ ตลาดดาวเรือง)



แล้วเจ้าสองแถว ที่มีผู้ร่วมทางเต็ม (จนแทบล้น) คันรถก็แล่นมั่ง จอดมั่ง

และสุดท้ายก็พาเรามาถึงตลาดช่องเม็กในที่สุดค่ะ



จัดการเรื่องผ่านแดนเรียบร้อย

ก็หาจ้างรถพาเราไปปล่อย เอ้ย! ไปส่งที่ผาแต้มค่ะ

จากช่องเม็กไปอีกชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงผาแต้มแล้วค่ะ

การท่องเที่ยวบนผาแต้มค่อนข้างลำบากเหมือนกันสำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัว

เพราะที่เที่ยวเด่นๆ อยู่ห่างกันพอสมควร

ต้องทำใจกันนิดหนึ่งล่ะ

ให้รถเหมาพาเราเอาของไปเก็บที่บ้าน

และเลยไปส่งที่ผาแต้ม (จุดชมวิวและชมภาพเขียนสี)

ก็จำใจบอกลาเค้าด้วยตาละห้อย (แค่สามวิ)

ก่อนจะเริงร่า ลุยกันต่อค่ะ



กินข้าวกลางวันกันเรียบร้อย ก็ออกเดินชมภาพเขียนสีกันค่ะ

การมาชมภาพเขียน ในความคิดนุ่น ถ้าเป็นช่วงบ่ายจะดีกว่านะคะ

เพราะถ้าเป็นช่วงเช้า แสงจะเข้าด้านหน้าผา

ทำให้มีเงาจากต้นไม้ใบไม้มาทำให้ภาพที่ลางเลือนอยู่แล้ว ยิ่งมองยากเข้าไปอีก



มาดูภาพเขียนของมนุษย์ถ้ำ ประมาณ 3000 ปีมาแล้ว ทั้งสี่กลุ่มกันค่ะ



ภาพกลุ่มที่หนึ่ง เห็นเป็นรูปอะไรกันบ้างคะ นุ่นเห็นเป็น

กางปลาหลายๆ ตัว ที่มีไส้เดือนยักษ์พาดผ่านอ่ะ ^^

มองข้างทางก็จะเป็นคน (นักท่องเที่ยวเองนี่แหละค่ะ) เอาหินมาเรียงๆ กันไว้

คงเป็นตามความเชื่อของการขอพรอะไรสักอย่าง

แหงนมองด้านบนก็เจอ เอร้ย!! รังผึ้ง รังเบ้อเริ่ม OoO!



เดินต่อสักพักก็มาถึงกลุ่มภาพเขียนที่ 2 ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุด

มีทำนั่งร้านให้ขึ้นไปนั่งชมกันด้วย



ดูๆ แล้วก็เหมือนเป็นการจับปลา (ที่ดูๆ แล้วเหมือนพยูน)

แต่ไอ้หย่อยๆ หยิกๆ มุมล่างซ้าย

ถ้าให้คิดเอง สงสัยจะเป็นสาหร่ายอ่ะป่าว 55

และในมือคนๆ หนึ่ง เหมือนจะมีอาวุธคล้ายๆ เคียว ด้วยอ่ะ

หรือเค้าจะปลูกข้าวกันด้วย?



ยังเดินดูภาพกันไม่สุดทาง ก็ไปเจอกลุ่มเด็กนักเรียนวิ่งสวนทางกลับมา บอกว่ามีผึ้งแตกรังอยู่ข้างหน้า ไปต่อไม่ได้

ไอ้เราก็ แป้ว... เสียดายจัง เลยจำต้องเดินย้อนกลับทางเดิม

ตั้งใจไว้เต็มที่ว่าพรุ่งนี้จะต้องเดินชมต่อให้ได้



แต่ขอเอาภาพในกลุ่มที่ 3 และ 4 มารวมในวันนี้เลยแล้วกันนะคะ

ภาพกลุ่มที่ 3 เห็นไหมคะ ว่าแสงเงาตอนเช้าทำให้ดูภาพได้ยากขึ้น



ภาพกลุ่มนี้ต้องแหงนหน้ามองหาดีๆ ค่ะ จะเห็นเล็กๆ รางๆ

แต่เจ้าภาพบนหินที่ยื่นมาเป็นแท่นๆ เนี่ยเด่นดีค่ะ

ดูๆ น่าจะเป็นแผนที่หมู่บ้าน หรือเปล่า??

เอ๊ะ แต่เค้าอยู่ถ้ำกัน หรือจะเป็นโพรงถ้ำหว่า... ฮะๆ คิดไปนั่น





เดินต่ออีกไกล จนขึ้นมาถึงทางที่จะกลับไปลานจอดรถ

ก็มาถึงทางลงไปชมภาพเขียนกลุ่มที่ 4 ที่ผาหมอน

ทางเดินลงลำบากนิดหน่อย และกลุ่มภาพเขียนก็อยู่เลียบผาเลยอ่ะ

ใครกลัวความสูงก็แย่หน่อยละคะ



ภาพนี้ที่สำคัญ คือ มีภาพคนใส่กระโปรง ซึ่งที่เห็นๆ มีอยู่คนเดียวนี่แหละค่ะ

และรูปที่เห็นได้เยอะ (ในกลุ่มภาพอื่นๆ ด้วย) ก็คือรูปฝ่ามือค่ะ

มีปะๆ ไปทั่วเลย บางมือก็เล็กเหมือนมือเด็กประมาณวัยประถม

ดูแล้วน่ากลัวเหมือนกันนะคะ

(กลัวว่าเผลอๆ แล้วเจ้าของมือเค้าจะโผล่มือออกมา

แล้วดึงเราข้ามมิติไปอย่างนางเอกนิยายหลายๆ เรื่องงี้ 555 จินตนาการไปไกลล่ะ)



แล้วก็ตัดไปตอนที่จำต้องเดินกลับเพราะฝูงผึ้ง

เราก็มุ่งหน้าไป เสาเฉลียง กันแทนค่ะ

(ตอนแรกคิดว่าจะมาตอนพรุ่งนี้เช้าอ่ะค่ะ)







เจ้าเสาเฉลียงเนี่ย ดูๆ ไปก็คล้ายจะมีคนจงใจ แกะหินเป็นรูปหัวใจ

แล้วเอามาวางแปะไว้บนเสานะคะ

เหมือนเป็นอนุสรณ์ความรักจากธรรมชาติเลยเนอะ (ชักจะเพ้อใหญ่)



ด้านหลังเสาเฉลียง ก็เป็น จุดชมวิว ณ ลานหินแตกอ่ะค่ะ มองๆ แล้วน่ากลัวจะตกลงไป แล้วผ่านหลุมดำทะลุมิติไปเหมือนกัน ฮะๆ มันยังไม่เลิกบ้า



ใกล้จะมืดแล้ว กลับบ้านพักกันเถอะค่ะ

บ้านพักมณีเทวา สะอาด กว้างขวาง (เพราะสำหรับอยู่ได้ 6 คน)

มีลานระเบียงหลังบ้านด้วย แหม...ถ้ามีเสื่อจะเอามาปูนั่งดูดาวซะหน่อย



อาหารก็สั่งร้านอาหารจากผาแต้มให้เอามาส่งค่ะ



จบไปอีกวัน พรุ่งนี้ก็เป็นวันเที่ยววันสุดท้ายแล้วสิเนี่ย...

วันนี้เหนื่อยเต็มที ขอราตรีสวัสดิ์ล่ะค่ะ




Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 1 มีนาคม 2553 22:34:37 น. 3 comments
Counter : 896 Pageviews.

 
เห็นความแตกต่าง ระหว่างพระอาทิตย์ขึ้น กับพระอาทิตย์ตก..ที่ผาแต้มมั้ยคะ..


โดย: poongie วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:19:40 น.  

 
สวัสดีครับ....

แวะมาเที่ยวด้วย
ใจถึง และอึดด้วยที่นั่งสองแถวลาว
ดูเหมือนจากปากเซ - ช่องเม็กเลยนะครับ....

ว่าไปแล้วเมืองปากเซ เคยไปมาสองครั้ง...ครั้งแรก 2 วัน หนึ่งคืน
ไม่สะใจ ไปใหม่ต้นปีที่แล้ 3 วัน 2 คืน.... มีคว่ทรู้สึกว่าชอบที่นั่นนะ

ส่วนที่ผาแต้มไม่ได้แวะ
ตอนมาทริปอุบล ก็เลยไปโน่น
สามพันโบก และพักโขงเจียม
และเขื่อนสิรินธร.....

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะครับ


โดย: wicsir วันที่: 1 มีนาคม 2553 เวลา:12:14:04 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ


โดย: นู๋ที วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:9:06:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แก่นฝัน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ รักการกินและทำอาหาร
รักการท่องเที่ยว รักการถ่ายภาพ
รักการวาดเขียน รักเสียงดนตรี
รักการอ่าน รักการเขียน
และ รัก... ที่จะ 'ฝัน'


ขอเตือนนะคะ
งานเขียนทุกชิ้น และภาพทุกภาพในบล็อกนี้
เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล็อกแต่เพียงผู้เดียว
ขอสงวนสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
ห้ามมิให้ผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ดัดแปลง แก้ไข
หรือเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใด
โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
มิฉะนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมายสูงสุด
โดยไม่มีการประนีประนอมยอมความแต่ประการใดนะคะ
New Comments
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
27 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แก่นฝัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.