" ค ว า ม สุ ข ผ ลิ ใ บ ใ น ทุ ก เ ช้ า" หนังสือเล่มใหม่ของ "ปะการัง" วางตลาดแล้ว
Group Blog
 
 
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
30 กันยายน 2550
 
All Blogs
 

Tag มา แถกไป สไตล์ ปะการัง



สวัสดีครับ ทุกๆคน Filmgus ส่งtagมาให้ ผมเห็นว่าคำถามสนุกดี ก็เลยตอบดู ที่ไหนได้ ตั้งสามสิบเอ็ดข้อแน่ะ แต่ผมก็ชอบครับ ลองอ่านคำตอบดูนะครับ

************

1. ชื่อเล่นชื่อไรเอ่ย?

แล้วแต่ว่าใครเป็นคนเรียก- -

ถ้าเป็นที่บ้านจะเรียกชื่อเล่นที่เป็นภาษาจีน ออกเสียงคล้ายคำว่า “เซ็ง” ในภาษาไทย ส่วนเพื่อนที่โรงเรียนตอนเด็กจะเรียกผมด้วยนิกเนมที่ตั้งตามสีผิว--ขาว ต่อเมื่อเข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ผมปฎิวัติครั้งใหญ่ ให้ทุกคนเรียกไปในแนวทางเดียวกัน ว่าชื่อเล่น “ฤทธิ์” เพราะเท่กว่าชื่อจีนและนิกเนมที่เพื่อนตั้งให้ อีกทั้งยังมาจากชื่อจริงที่ว่า “ณรงค์ฤทธิ์” พอมาที่อเมริกา บอกฝรั่งว่าชื่อ RIT ก็ยิ่่งเท่เข้าไปอีก สั้นๆง่ายๆ เขียนก็สวย แต่ฝรั่งชอบนึกว่า Rick ทุกที

2. ลืมตามาดูโลกเมื่อไหร่กัน?

ถ้าไม่ตอบตรงๆ เดี๋ยวก็หาว่าคงแก่มากๆเลย คิดอยู่สองวันก็ตัดสินใจบอกไปตามความจริงแล้วกัน ซึ่งก็แก่นั่นแหละ แต่แก่มากหรือไม่ ก็แล้วแต่มุมมองของคน ถ้าฝรั่งเขาจะบอกว่าเป็นวัยเริ่มต้น ลงตัว สุขุม ลุ่มลึก ถ้าคนไทยเขาจะเรียกว่าหนุ่มใหญ่ วัยฉกรรจ์ คนที่มองโลกในแง่ร้ายสักหน่อย ก็อาจจะบอกว่าเป็นวัยไม้ใกล้ฝั่ง เอ้า แล้วจะบอกไหมนี่.. ก็กำลังจะบอกนี่ไง ยี่สิบเจ็ดมีนาคมสองห้าศูนย์สี่ครับ รู้แล้วมีความสุขขึ้นไหมครับ? อิอิ

3. มีพี่น้องมั้ย?

พี่สาวห้าคน และน้องสาวอีกหนึ่งคน แต่ยอมรับกันเป็นเอกฉันท์ว่าผมหล่อที่สุดในจำนวนพี่น้องทั้งหมด อย่างไร้คู่แข่ง (อ้าว ไม่ได้ถามหรอกหรือ ไม่เป็นไร ตอบแถมไปแล้วกัน เพราะยังไงๆก็เป็นความจริงอยู่ดี)

4. สิ่งที่ชอบเป็นพิเศษคืออะไร?

ถามกว้างจัง ชอบความสุข สุขทั้งภายในภายนอก สุขทั้งกาย สบายทั้งใจ สุขที่ได้เขียนหนังสือ สุขที่ได้ฟังเพลง สุขที่ชีวิตไม่มีอะไรให้ทุกข์ร้อน ที่ชอบเป็นพิเศษ น่าจะเป็นช่วงที่ทำอะไรที่ตั้งใจเสร็จ แล้วรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย และอีกอย่างคือเช้าวันอาทิตย์ที่ไปโบสถ์ ความสงบในโบสถ์ ใบหน้ายิ้มแย่มแจ่มใสของผู้คน ชอบเป็นพิเศษครับ

5. แล้วสิ่งที่เกลียดล่ะ?

“เกลียด” เป็นคำที่แรงสำหรับผม ไม่ค่อยเกลียดอะไรจริงจัง นึกไม่ออก อาจจะแค่ไม่ชอบ เมื่อก่อนอาจจะบอกว่าเกลียดคนที่ทำอะไรไม่ดีกับเรา แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว พยายามไม่เกลียดอะไร พยายามที่จะรักและเข้าใจทุกคน แม้แต่ศัตรู (จะพยายามนะ)

6. มีสัตว์เลี้ยงมั้ย เป็นตัวอะไร ชื่ออะไรบ้าง ?

เคยเลี้ยงโดเบอร์แมน เป็นตัวหมาครับ (ถามแปลก.. ฮา) เพราะดูดุดันดี ตอนเลี้ยงไม่มีความรู้อะไร เขาบอกต้องตัดหาง ขลิบหูให้ตั้ง ก็พามันไปทำ แล้วก็เห็นมันเจ็บปวดทรมาน เขาบอกต้องพาเข้าโรงเรียนเพื่อฝึกให้มันนิ่ง ก็ส่งไปเข้าโรงเรียนตำรวจสุนัข ตอนนี้ นึกๆแล้วก็สงสาร ที่ตัวเองโง่ไปเชื่อคนอื่นแนะนำ เพราะหมาเองคงไม่ได้ต้องการ เราทำไปเพื่อความสุขตัวเราเองทั้งนั้น เมื่อความคิดเปลี่ยนไป ตอนหลังก็เลยพยายามไม่เลี้ยงอะไรอีก เพราะรู้ว่าตัวเองไม่มีเวลาพอ ถ้าเลี้ยงไม่ดีแล้ว จะเป็นการทรมานสัตว์ เลี้ยงแล้วทุกข์ใจ ทั้งสองฝ่าย

7. คุณชอบเครื่องดื่มอะไร ?

กาแฟครับ กาแฟเย็น ชาเย็นไทย ก็ยังคิดถึงบ่อยๆ

8. แล้วชอบกินอาหารอะไรบ้าง ?

อะไรก็ได้ที่อร่อย แต่ไม่ได้ทานเนื้อวัว เนื้อหมู ยังทานไก่ เป็ด และ อาหารทะเล ชอบกุ้งแช่น้ำปลา แกงเผ็ดเป็ดย่าง ข้าวมันไก่ ว่าไปแล้ว ชอบเนื้อไก่ ไม่ว่าจะเป็นไก่ย่าง ไก่ทอด ไก่ตุ๋นแบบจีน แล้วก็อาหารพื้นเมืองของภูเก็ต ที่หาไม่ได้จากแถบถิ่นอื่น

9. ชอบสีอะไร ?

ชอบ “สีสัน” นิตยสารของคุณทิวา สาระจูทะ (ฮา) ชอบอ่านตั้งแต่ตอนอยู่เมืองไทย ไม่ได้อ่านมาสิบกว่าปีแล้ว ไม่รู้ยังมีอยู่หรือเปล่า ชอบสีรุ้ง--งานดีไซน์ชั้นเยี่ยมของพระเจ้า ที่ผสมสีต่างๆได้ลงตัวกลมกลืนและนุ่มนวลยิ่ง

แหม.. ถามเรื่องสีนี่มันตอบยากนะ ก็ชอบเกือบทุกสี แล้วแต่ว่าจะเอามาใช้กับอะไร หรือขึ้นอยู่กับอะไร อย่างเช่น ชอบสีเขียวไพลของใบไม้กลางแดดเช้า ชอบสีชมพูอ่อนบนแก้มใสของเด็กน้อย แต่ถ้าให้ใส่เสื้อสีเขียวไพลกับกางเกงสีชมพูอ่อน ก็ไม่เอา ถ้าเป็นเสื้อผ้าชอบโทน ขาว ดำ น้ำตาล หรือฟ้าบ้าง

10. งานอดิเรกของคุณคืออะไร ?

ไม่ค่อยมีงานอดิเรก เพราะส่วนใหญ่มันจะกลายเป็นงาน อย่างเช่นเขียนหนังสือ, แต่งเพลงเป็นงานอดิเรกมาก่อน ก็กลายมาเป็นอาชีพในภายหลัง ไม่อยากเรียกว่าอ่านหนังสือเป็นงานอดิเรก เพราะต้องทำประจำทุกวันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร แต่ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเล่ม ฟังเพลงก็ฟังตลอด เวลาขับรถ หรือเวลานั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ถ้ามีเวลาว่างจริงๆ อยากเรียนเปียโน, วาดภาพ มากกว่า ซึ่งน่าจะเรียกได้ว่าเป็นงานอดิเรก ถ้าไม่ทำเป็นอาชีพเสียก่อน

ที่อเมริกานี่ เขามีชั้นเรียนให้เรียนฟรีเป็นร้อยๆคลาสเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ ทำกับข้าว รำมวยไทชิ ไปจนถึงวาดภาพแบบญี่ปุ่น ผมเคยไปสมัครเรียนเปียโน แต่ทางโรงเรียนไม่รับ เพราะอายุไม่ถึง แฮ่ม เป็นครั้งแรกที่ไปสมัครแล้ว เรายังเด็ก เพราะเขาเปิดสอนเฉพาะคนแก่ซีเนียร์วัย 55 ปี ขึ้นไป.. เฮ้อ ตอนนี้ก็ได้แต่รอเวลาให้อายุถึงเกณท์เรียน เพราะหนุ่มเกินไปแท้ๆเทียว

11. คุณมีปมด้อยมั้ยแล้วปมด้อยของคุณคืออะไร ?

ถ้าเป็นทางสรีระร่างกายคงมีเยอะไปหมด ตอนเด็กๆเคยรู้สึกว่าผิวขาวเป็นปมด้อย เพราะเพื่อนๆผิวคล้ำ เลยต้องไปว่ายน้ำที่หาดป่าตองทุกวันอาทิตย์ (สมัยที่ทั้งหาดทรายมีศาลาแค่สามหลัง ไม่ใช่ยุคนี้ที่มีโรงแรมเกลื่อนหาด) ว่ายตั้งแต่เช้ายันบ่าย เพื่อให้ผิวคล้ำ มันก็คล้ำสมใจอยู่สองวัน แล้วก็ลอกคราบเป็นกระดำกระด่าง กลับมาขาวเหมือนเดิมอีก กลุ้มใจมาก ยิ่งเวลาเรียน ร.ด. ต้องถอดเสื้อวิ่งไปรอบเมือง ก็ผ่องอยู่คนเดียวในกลุ่ม เวลาวิ่งไป ต้องคอยปลอบใจตัวเองว่า “ข้าเป็นโจนาธานนางนวล ไม่เหมือนคนอื่นในกลุ่ม” (ฮา)

ปมด้อยทางบุคลิกภาพอีกอย่างคือ เงียบขรึม ปากหนัก คุยไม่เก่ง โดยเฉพาะในที่สาธารณะ ชอบฟังมากกว่า แต่ถ้าคุยกันแค่สองคน หรือเขียน จะทำได้ ตอนเด็กๆเงียบ ไม่คุยกับใครในชั้นเรียน จนครูยกให้เราเป็นนักเรียนตัวอย่าง หารู้ไม่ว่า จริงๆแล้วมันพูดไม่เป็น แต่หลังจากมาอยู่ที่อเมริกา พยายามที่จะพูดมากขึ้น เพราะต้องพูดหน้าชั้นเรียน ต้องพูดในที่ประชุม ต้องพยายามครับ ต้องฝึกเอาใจใส่ต่อคู่สนทนา ทักถาม โต้ตอบบ้าง เพื่อไม่ให้เขาเสียใจ แต่ถ้าเลือกได้ ชอบนั่งเงียบๆครับ

12. ชอบแต่งตัวแนวไหน โชว์เสื้อผ้าของคุณหน่อยสิ ?

เมื่อก่อนตอนอยู่เมืองไทย ชอบแบรนด์เนมตามกระแสบ้าง แต่เดี๋ยวนี้ ไม่เอาแล้ว เพราะไม่มีใครมาปลิ้นคอเสื้อดูสักทีว่า เสื้อยี่ห้ออะไร เวลาซื้อมาแล้ว ก็ต้องตัดป้ายราคาทิ้ง ก็ไม่มีใครเห็นอยู่ดีว่า อุตส่าห์ซื้อมาตัวละหลายตังค์ (ฮา)

อยู่ที่อเมริกากลับซื้อเสื้อที่ราคาถูก ในเทศกาลลดราคา ใส่แล้วใส่นาน ใส่จนคอเสื้อเปื่อยก็มี เพราะโดยส่วนตัวเป็นเหมือนนายชวน ใส่เสื้อใหม่ๆ กระด้างๆไม่ได้ คันทั้งตัว เสื้อยิ่งเก่ายิ่งนิ่ม จะชอบมาก แต่โดยรวมแล้ว จะพยายามใส่ให้สี หรือสไตล์ของเสื้อกับกางเกงแมทช์กัน ไม่ใช่ไปคนละทิศคนละทาง คือแต่งให้ดูสบายตา และเรียบร้อย ถูกกาละเทศะ เรื่องแต่งตัวนี้ พี่สาวมักจะมาปลุกทุกเช้า เพื่อให้เช็คดูชุดที่ใส่ก่อนไปทำงานว่าเข้ากันดีมั้ย แม้แต่คุณแม่เวลาเลือกผ้าถุงที่จะใส่กับเสื้อลูกไม้ ยังต้องบอกคนขายผ้าถุงว่า ให้ทิ้งผ้าถุงไว้สักสามสี่ลายนะ รอลูกชายกลับจากโรงเรียน มาเลือกว่าลายไหนสวย เข้ากับเสื้อลูกไม้ที่มี (ฮา)

โดยสรุปแต่งให้ดูสบายตา ถูกกาละเทศะเท่านั้นเอง

13. คุณใส่นาฬิกาอะไรอยู่ ขอดูได้มั้ย ?

เคยมี TAG Heuer ที่พี่สาวซื้อมาฝากจากสวิตเซอร์แลนด์ แต่ใส่ที่อเมริกาได้ไม่กี่ปี ก็พัง ยังไม่รู้จะไปซ่อมที่ไหน ตอนนี้ก็เลยเอานาฬิกาที่เคยซื้อที่ฮ่องกงมาใส่แทน เป็นนาฬิกาแบบเรียบๆของ Guy Laroche ซื้อมาตั้งสิบกว่าปีแล้ว แต่กลับใช้ได้ทนทานนานกว่า ทั้งๆที่ปกติเป็นคนที่ใช้ของไม่ค่อยทนุถนอมเท่าไหร่ มีอยู่ช่วงหนึ่ง ใส่นาฬิกาของแถมจากแบงค์ สายสีเขียวอี๋ ใส่จนเพื่อนฝรั่งในที่ทำงานทนดูไม่ได้ บอกจะซื้อนาฬิกาเรือนใหม่ให้




14. เพลงไหนที่สามารถสื่อความเป็นคุณออกมาได้ ?

คงเป็นเพลงที่ตัวเองแต่งกระมัง โดยเฉพาะที่แต่งเองทั้งเนื้อร้องทำนอง ให้สุชาติ ชวางกูร ถ้าฟังแล้วรู้สึกอย่างไรในเพลงเหล่านั้น นั่นก็น่าจะบอกได้ถึงความเป็นตัวตน ความคิดความอ่านส่วนหนึ่งของผมได้บ้าง..มังครับ


15. กิจวัตรประจำวันของคุณเป็นยังไง ไหนบอกมาซิ ?

ไม่มีอะไรมาก ตื่นเช้า ทำงาน แต่เนื่องจากทำงานของตัวเอง ก็มีอิสระมากหน่อย ยืดหยุ่นได้ตามใจตัวเอง เช่น ชอบนอนดึก ทำงานทั้งคืน แทนที่จะต้องตื่นเช้าเหมือนคนทำงานทั่วไป ในกรณีที่ตอนเช้าไม่มีธุระสำคัญอะไร หรือไม่ต้องไปไหน.. แต่ที่แน่นอน เย็นวันศุกร์ จะต้องแวะไปช่วยงานที่โบสถ์ครับ

16. มีแฟนรึยัง ถ้ายังคุณอยากมีมั้ย ?

ยังไม่มีแฟนครับ และคงไม่อยากมี เพราะมีภรรยาแล้วครับ (ฮา)

17. แล้วถ้าเลือกได้ อยากมีแฟนหน้าตาเหมือนใคร ?

คงตอบไม่ได้ เพราะของอย่างนี้ ไม่ใช่อยู่ที่หน้าตา แต่ที่ความรู้จัก สนิทสนม คุ้ยเคยและเข้าใจกัน ทำให้เรามองข้ามที่หน้าตา ไปที่ภายใน คือจิตใจมากกว่า ว่าไปกับเราได้ไหม.. คงไม่มีใครตั้งใจว่าจะหาแฟนหน้าตาแบบนั้น แบบนี้ เพราะบางทีคุณอาจจะหาไม่ได้เลยทั้งชีวิต และถึงหาได้ เธอก็อาจจะบอกว่า “โทษทีค่ะ ดิฉันไม่ชอบหน้าตาแบบคุณค่ะ”

18. แล้วถ้าให้พาบุคคลในข้อ. 17 ไปเดท 1 วันจะพาไปไหน แล้วไปทำไรบ้าง ?

ไม่มีแฟน ก็เลยไม่อยากคิดให้เสียเวลา ถ้าเป็นภรรยา ตอนนี้เธอชอบอยู่ไม่กี่ที่ แต่ส่วนใหญ่เป็นป่า น่าจะเป็นป่าอะเมซอน ป่าแอฟริกาครับ

19. คุณว่าคุณหน้าเหมือนใคร ?

เมื่อก่อน มีคนบอกว่าเหมือนประวิทย์ ฟรีเบิร์ด และอีกครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เดินในศูนย์การค้า เคยมีคนทักว่าพี่แซมหรือเปล่า (ฮา) ภรรยาสงสัยมากว่า แซมไหน เท่าที่รู้จักคนชื่อแซมหน้าต่างกับเราราวฟ้ากับดิน เราเป็นดินนะครับ หรือเปรียบเทียบอีกที ต่างกันราวหน้ามือกับหลังเท้า เราก็ยังเป็นหลังเท้าอยู่ดีครับ

แต่จริงๆแล้ว เหมือนคุณพ่อผสมกับคุณแม่ครับ ตาตี่นี่มาจากคุณพ่อแน่นอนครับ ส่วนผิวกับสีผมมาจากคุณแม่ เส้นผมของผมมีสีน้ำตาลอ่อน เวลาเจอแดดจะออกสว่าง บางคนนึกว่าผมไปทำสีผมตามแฟชั่น ขอบอกว่า ไม่จริงครับ โธ่.. ถ้าทำจริงคงไม่เลือกย้อมบางเส้น แล้วปล่อยให้เหลือสีขาวไว้บางเส้นหรอกฟ่ะ.. (อุ๊บ..หลุดปาก)

20. ไหนขอดูรูปคุณตอนยิ้มหน่อยซิ?

ผมไม่ค่อยยิ้มหรอกครับ ปมด้อยอีกอย่างคือยิ้มไม่สวย ยิ้มแล้วเหมือนตัวนี้ครับ

ตอนสมัยเด็กชั้น ป. ครูประจำชั้นและเพื่อนทั้งห้องเห็นพ้องต้องกันให้ส่งผมเป็นตัวแทนของห้อง ไปแข่งเกม "ยิ้มยาก"ในงานวันเด็ก เวลาแข่งขันเขาให้ยืนล้อมเป็นวงกลม แล้วก็ให้คนดูรอบๆพูดหรือทำท่าตลก ยั่วให้เรายิ้มให้ได้ ใครหลุดยิ้มออกมาโดนคัดออก ผู้ที่เหลืออยู่เป็นคนสุดท้ายคือผู้ชนะ และก็เป็นไปตามคาด ผมเป็นคนสุดท้าย! รู้สึกจะเป็นเกมเดียวในชีวิต ที่แข่งแล้วชนะ.. ฮ่าๆ

21. ถ้าตกหลุมรักใครคนนึงอยู่ คุณจะบอกรักเค้าว่ายังไง ?

คำถามนี่ตอบไม่ได้หรอก เพราะมันแล้วแต่ว่าคนคนนั้นเป็นใคร มันต้องมีวิธีบอกเฉพาะคนนั่นแหละ บางคนต้องบอกตรงๆ บางคนต้องอ้อมไปนิดๆ จะบอกเป็นสูตรสำเร็จตายตัวไม่ได้ อย่างเช่น ถ้าผมตอบว่า จะบอกรักด้วยคำว่า“คิดถึงนะ..” แล้วเกิดวันไหน ผมบอกกับเพื่อนผม โดม วุฒิชัยว่า “คิดถึงนะ..” คุณโดมแกคงนึกหวั่นๆอยู่ในใจว่า “เอ๊ะ มันบอกรักกูหรือเปล่าวะ”

22. ห้องที่คุณชอบไปบ่อยๆในพันทิปคือห้องไหน ?

ไม่ค่อยได้ไป ถึงเข้าไป ผมก็ตอบไม่ได้ เพราะผมไม่ได้เป็นสมาชิก จะเข้าไปอ่านเฉพาะเมื่อมีความสนใจอะไรบางอย่างในขณะนั้นเท่านั้นเอง

23. คนที่มาเยี่ยม Blog คุณบ่อยๆมีใครบ้าง ขอสัก 10 ชื่อแล้วกัน ?

พ่อพเยีย (คนนี้ต้องมาอยู่แล้ว), หนอนเมืองกรุงฯ, flimgus, ตะเบบูญ่า, ทะเล, แม่ปัน-ปอง, สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น ประมาณนี้ที่เข้ามาบ่อยๆ นอกนั้นเป็นชื่อใหม่ๆที่เริ่มจะเข้ามา

24. แล้วเค้าแต่ละคนเป็นคนแบบไหนตามความรู้สึกของคุณ ?

ตอบรายบุคคลคงไม่ไหว และไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวทุกคน เท่าที่คุยกันทางบล็อก ก็รู้ว่าเป็นคนดี มีน้ำใจไมตรีทุกคน อีกอย่างเป็นเพราะเราชอบในสิ่งที่ใกล้เคียงกัน ก็เลยไปกันได้ดี เรื่องวัยก็คงมีส่วน.. เดาเอานะ เพราะไม่รู้ว่าแต่ละคนอายุเท่าไร แต่คงห่างกันไม่กี่ปีกระมัง (ฮา) เอาเป็นว่า ร่วมสมัยเดียวกัน

25. มีอะไรอยากบอกพวกเค้ามั้ย ?

อยากจะบอกว่า ขอบคุณสำหรับมิตรภาพและกำลังใจ ถ้ามีโอกาสไปเมืองไทย อยากเจอกับทุกคนครับ

26. แล้วกับคนที่ส่ง Tag มานี่ล่ะ คุณคิดยังไงกะเค้า ?

เพิ่งรู้จักกับ flimgus ทางบล็อก รู้แต่ว่าเธอเป็นแฟนบทกวีมาก่อน เคยจดงานของผมไว้บ้าง.. ต้องเรียกว่าได้รู้จักกันทางจิตวิญญาณในระดับหนึ่ง นอกจากนั้นยังไม่ได้คุยอะไรจริงจัง แต่คิดว่าเธอเป็นคนที่พูดคุยได้ ก็อย่างที่บอก ที่รู้จักทางบล็อกนี้ เป็นคนดีมีน้ำใจทุกคน อ้อ ชอบการถ่ายรูปของเธอด้วยครับ

27. แล้วจะบอกอะไรถึงคนที่ส่ง Tag มาให้คุณมั้ย ?

ปกติคุยกันทางบล็อกอยู่แล้ว คงได้ทำความรู้จักกันไปมากขึ้นเรื่อยๆ ขอบคุณที่นึกถึงและส่งTagมาให้ นะครับ

28. ตอนนี้คุณนึกถึงรายนามของคนที่คุณจะส่ง Tag ไปให้ 4 คนนั้นออกรึยัง
แล้วใน 4 คนนั้นมีใครบ้างล่ะ ?


ต้องเลือกเฉพาะคนที่มีบล็อกใช่ไหม และไม่รู้ว่าเขาเคยเล่นหรือยัง นึกได้แค่สองคนครับ คือ พ่อพเยีย, หนอนเมืองกรุงฯ,

29. คุณคิดว่า 4 คนนี้คิดยังไงกะคุณบ้าง หลังจากที่คุณส่ง Tag ไปให้ ?

พ่อพเยีย อาจจะคิดอย่างนี้ - - “ยังเขียนงานส่งไม่ทันเลย แล้วนี่ปะการังส่งอะไรมาอีกล่ะ จะฆ่าฉันหรือไง..”

หนอนเมืองกรุงฯ อาจจะคิดอย่างนี้- - “ถามข้อเดียว ฉันยังตอบยาวเป็นวา ถามสามสิบเอ็ดข้อ ทีนี้ ฉันไม่ต้องนอนกันพอดี!!”

30. ขอเหตุผลหน่อยสิว่าทำไมต้องส่งไปหา 4 คนนี้ด้วย ?

เพราะรู้ว่า ยังไงเขาก็ต้องตอบ เพราะเขาเหล่านี้เป็นคนดี มีน้ำใจ คงทำร้ายจิตใจผมไม่ลง และคงช่วยกันรักษาหน้าให้ผมเต็มที่ (ฮา)

อีกอย่าง พ่อพเยียเป็นนักเขียนมืออาชีพ เป็นคนใกล้วัด เอ่อ หมายถึงเป็นคนธรรมะธรรมโม คงต้องเทศน์ เอ๊ย..ตอบได้ดีน่าอ่าน มีสาระกว่าผมแน่ๆ ส่วนคุณหนอนเมืองกรุงฯ เป็นหนอนจริงๆ เพราะอ่านหนังสือเยอะ ชอบวิจารณ์นักเขียน ทีนี้ จะได้เขียนเองบ้าง เธอมีอะไรซ่อนเร้นในตัวเยอะเหมือนกัน ถ้าตอบจริงๆล่ะก็ สะเทือนวงการบล็อกแน่ๆ

31. ข้อสุดท้าย มีอะไรจะฝากถึงคนที่คุณกำลังจะส่ง Tag ไปหาเค้าบ้าง ?

ขอให้สนุกกับการตอบคำถามนะครับ แต่ขอกระซิบว่า เหนื่อยครับ!


แถมท้ายด้วย 5 ข้อ ชอบ

๑. ชอบท้องฟ้าสีฟ้าจัด มีก้อนเมฆลอยลม

๒. ชอบเลขไทย และเสียงของภาษาไทย เช่น “แผ่วพลิ้วบนผิวน้ำ”

๓. ชอบบทกวี, หนังสือปกสวย และ บรรยากาศร้านหนังสือ

๔. ชอบเพลงเบาๆ กลิ่นกาแฟ ในวันฝนตกพรำๆ

๕. ชอบรอยยิ้ม ความรู้สึกดีๆ เมื่อคนทั้งโลกช่วยเหลือกัน

และ 5 ข้อไม่ชอบ

๑. ไม่ชอบรถติด ความไม่มีระเบียบในการขับรถและเรื่องทั่วไป

๒. ไม่ชอบนักการเมืองไทยที่ซ้ำหน้าและพูดจาไปวันๆ ไม่ช่วยเหลือประชาชน

๓. ไม่ชอบการทำร้ายธรรมชาติ ตัดไม้ ทำร้ายแม่น้ำ หรือสัตว์ป่า

๔. ไม่ชอบคนที่โอ่ อวด วางอำนาจเหนือผู้อื่น และชอบถามว่า “รู้หรือเปล่า ว่าเป็นลูกใคร”

๕. ไม่ชอบสื่อมวลชนที่ไม่กล้าสู้เพื่อความจริง หนังสือพิมพ์ที่มีรูปภาพไม่เหมาะสม คนเขียนข่าวที่ไร้ความรู้และจรรยาบรรณ


ขอบคุณที่อ่านครับ
ปะการัง

CA, USA

* ภาพประกอบนาฬิกา ถ่ายโดยภรรยาครับ เธอกำลังเห่อถ่ายรูป เลยนึกสนุกไปรื้อนาฬิกามาจัดฉากถ่ายภาพประกอบมาให้ ดูเผินๆนึกว่าไปถ่ายมาจากตู้โชว์ในร้าน
ฮ่าๆ.. เท่านั้นไม่พอยังไปรื้อเสื้อที่ใส่จนเปื่อยมาด้วย ดีที่ห้ามไว้ทัน!!!




 

Create Date : 30 กันยายน 2550
27 comments
Last Update : 1 ตุลาคม 2550 6:25:36 น.
Counter : 1161 Pageviews.

 

โชคดีจริงๆ เลยแวะมาปุ๊บได้อ่านปั๊บ
ภาพบนหัวบลอกนี่ ดูเผินๆก็เหมือนพี่แซมจริงๆ ด้วยค่ะ

อ่านข้อ 29 นี่นั่งฮาอยู่คนเดียว

ขอบคุณที่ตอบ tag ค่ะ
ดีจริงๆ เลย
ได้อ่านอย่างกับ อ่านเขาสัมภาษณ์ดาราดัง

 

โดย: filmgus IP: 222.123.218.124 30 กันยายน 2550 14:43:18 น.  

 

มาอ่าน tag ค่ะ ตั้งแต่อ่านมา ของหลายๆคน คุณอาตอบได้มีสาระมากๆเลยค่ะ แบบจริงใจ จริงจัง มากๆ

 

โดย: มัยดีนาห์ 30 กันยายน 2550 14:56:20 น.  

 

สวัสดีจ้ะหนูมัยดีนาห์ข้างบน

กลับเข้ามาอีกรอบ(ที่จริงยังไม่ได้ไปไหน ฮ่าๆๆ)
คือคิดว่าตอบน้อยไป
เลยเข้ามาตอบอีกรอบ
ข้อสองน่ะค่ะ
กว่าจะตอบได้วกไปวกมาแต่ก็ได้อ่านแล้วก็ มีความสุขมากขึ้นค่ะ
ข้อสามก็ไม่ได้ถามว่าหล่อไม๊แต่ได้คำตอบแถมมาก็ฮาดี ฮ่าๆๆ
ข้อสี่ข้อห้าตอบได้ซึ้งจังค่ะ
ข้อหก เพิ่งจะมาขำตอนนี้ เพิ่งจะเข้าใจ ถามแปลกจริงๆ ตอนตัวเองตอบลืมตอบไปว่า เจ้าสัตว์ที่เลี้ยงนั่นก็เป็นตัวหมา

ข้อสิบเอ็ด ปมด้อยเรื่องขาว นี่อิจฉาจัง
ข้อสิบแปดที่ภรรยาคุณชอบป่าอเมซอน กริ๊ดเลยค่ะ ชอบเท่ห์ อิอิ
ข้อยี่สิบเอ็ดก็ขำดี อิ อิ
คุณโดมเข้ามาอ่านคงขำกลิ้ง ฮ่าๆ

สุดท้ายอยากบอกว่า เพิ่งรู้ว่าอ่าน tag นี่ก็สนุกสนานดีนะนี่
คุณโดมเข้ามาเจอ tag จะเป็นยังไงนะ
แล้วพี่หนอนอีกล่ะ ฮ่าๆๆ
อยากอ่านคำตอบของทั้งสองท่านเลย

 

โดย: filmgus 30 กันยายน 2550 15:21:18 น.  

 

สวัสดียามดึกครับปะการัง

เข้ามาบล็อกนี้ตามปกติ ไม่คิดว่าจะฟลุ้คได้อ่านtag ของคุณ

อ่านไปก็ยิ้มไป จังหวะดีเลยที่คุณมาตอบและลงรูปประกอบสุดหล่อไว้ด้วย

ผมต้องทิ้งบล็อกหน้านี้ไว้นานๆหน่อยนะ
เพราะโชว์รูปหล่อและโชว์ความลับส่วนตัวของปะการังที่หาอ่านที่ไหนไม่ได้

ผมขอยืดตอบจดหมายคุณไปอีกหน่อยก็แล้วกันน่า

ถ้าคุณจะแถกผมๆก็ยินดี แต่ต้องไปตอบที่บล็อกพ่อพเยีย และแต่ละคำถามดูเหมือนว่า ไม่ค่อยจะมีใครอยากรู้ของผมเท่าไหร่หรอก เพราะผมเปิดเผยไปจนเกือบหมดแล้ว


 

โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.19.26 30 กันยายน 2550 23:11:18 น.  

 

สวัสดียามดึก (ดึกกว่าพ่อพเยีย) ค่ะพี่ปะการัง

เปิดบล็อกมาต๊กกะใจ

ทั้งรูปภาพและคำถามคำตอบ
นึกว่ากำลังสัมภาษณ์ดาราดัง ๆ

เนื้อความยาวมากเลยค่ะ
ยังไม่ได้อ่านละเอียด
เพราะดึกมากแล้วค่ะ
เอาเป็นคืนพรุ่งนี้ค่อยมาอ่าน

แต่เห็นมีพาดพิงถึงหนอนฯ อยู่บ้าง
รู้สึกยินดีที่นักเขียนอย่างพี่ปะการังพาดพิงถึง

ไว้อ่านละเอียดแล้วค่อยมาคุยต่อค่ะ

ขอตัวไปนอนฝันหวานซักตื่นก่อนค่ะ
...

 

โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.172.37 1 ตุลาคม 2550 3:13:56 น.  

 

แว่บดูคำตอบข้อสอง (โดยบังเอิญ)

ทีแรกนึกว่า จะอ่อนกว่าพ่อพเยียสักปีสองปี ไม่ใช่เพราะดูอาวุโสหรอกค่ะ แต่เห็นว่ามีผลงานเยอะแยะตั้งแต่วัยหนุ่มน้อย

ที่ไหนได้ แก่กว่าหนอนฯ เพียงแค่ปีเดียวเอง และเป็นหนึ่งปีเต็ม ๆ พอดิบพอดีเด๊ะ

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะบังเอิญขนาดนี้
หนอนฯ เกิดวันที่ยีสิบเจ็ด มีนาคม สองห้าศูนย์ห้า ค่ะ

คิดเล่น ๆ ว่า วันที่ให้เกิดในปีหนึ่ง ๆ มีตั้ง 365 วัน แต่ไหง...มาชนวันชนเดือนกันได้ นี่คุยกันเล่น ๆ ประสาสองเราค่ะ
(แต่ให้คนอื่นได้ยินด้วย และถ้าพี่โดมมาได้เห็นหนอนฯ ตื่นตะลึงตึง ๆ ในเรื่องนี้ ท่านก็จะบอกว่า ทุกสิ่งเกิดขึ้นล้วนมาแต่เหตุ มีที่มาที่ไปทั้งนั้นแหละโยม... )

ไปนอนล่ะค่ะ ลูกสาวลุกขึ้นมาตามแม่ไปนอนแล้วค่ะ

 

โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.172.37 1 ตุลาคม 2550 3:31:40 น.  

 

ย่องมาตามคำชวนของน้องฟิล์มกัสค่ะ ... (ในที่สุดก็เจอบล็อกแล้วล่ะ เสร็จเรา ต่อไปจะย่องเข้ามาเยี่ยมบ่อยๆ นะคะ ในฐานะแฟนหนังสือมาตั้งแต่เยาว์)

คุณปะการังตอบได้น่ารักมากๆ เลย ... ทำเอาคิดถึงงานเก่าๆ (สมัยหนูยังเด็กๆ เป็นวัยหวาน) เอ้า ... จริงๆ นะ

แล้วจะต้องตามไปอ่านของพ่อพเยีย กะ พี่หนอนเมืองกรุงบ้างงงงงง

 

โดย: ดวงลดา 1 ตุลาคม 2550 7:42:52 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณปะการัง

เหมือนสัมภาษณ์ดาราเลยค่ะ
ได้อ่านคำถามครั้งแรกยังคิดอยู่ว่า
เอ ปะการังจะตอบไหมนะ
อ่านแล้วได้รู้จักปะการังมากขึ้น
ขำ ขำ ฮา ฮาด้วย
เมื่อก่อนนี้จะบอกว่า
ปะการังเหมือนประวิทย์ ฟรีเบิร์ด
เดี๋ยวนี้บอกไม่ถูกค่ะ
แล้วที่รู้สึกร่วมสมัยคือ
เราเกิดปีเดียวกันค่ะ

 

โดย: นกไพร IP: 125.25.50.70 1 ตุลาคม 2550 9:12:04 น.  

 

สวัสดีครับ คุณfilmgus

ดีใจที่เห็นคนอ่านมีรอยยิ้ม แสดงว่ามีความสุขกัน.. หวังว่าคำตอบคงไม่ทำให้คุณผิดหวัง ไม่เสียดายที่ส่งมาผิดคนนะครับ

อีกครั้งครับ, ขอบคุณที่ส่งคำถามมาให้ ทำให้ผมมีโอกาสคุยกับทุกคน ได้เล่าสู่กันฟัง หลังจากที่หายไปสิบกว่าปี

สวัสดีครับ มัยดีนาห์

ถ้าหลานอ่านแล้วมีสาระ อาก็ดีใจมากๆเลยครับ.. อาพยายามตั้งใจตอบ จริงใจ จริงจังกับทุกคำถามให้มากที่สุดเท่าที่มจะมากได้ครับ

ขอบคุณที่ชมนะครับ

สวัสดีครับ พ่อพเยีย

ผมว่าทิ้งเรื่องนี้ไว้สักวันสองวันก็พอแล้ว อันที่จริง ผมรีบตอบเพื่อคั่นช่วงระหว่างรอคุณตอบจดหมายไง..

อีกวันสองวันจะไปโพสต์คำถามแถกไว้ที่บล็อกพ่อพเยียนะครับ

สวัสดีครับ หนอนเมืองกรุงฯ

อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น เกิดวันเดือนเดียวกันเลย!! เท่าที่จำได้ ผมยังไม่รู้จักใครที่มีวันเกิด วันและเดือนตรงกันอย่างนี้..

มิน่าล่ะ คุณถึงเขียนหนังสือเก่ง (ฮา) ชมอย่างนี้มีนัยะซ่อยเร้น อิอิ

คุยกันอีกที หลังคุณอ่านจบก็แล้วกัน

สวัสดีครับ ดวงลดา

คุณเป็นคนที่ส่งtagไปที่น้องFilmgus ใช่ไหมครับ?

ยินดีที่ได้รู้จักครับ เชิญแวะมาเยี่ยมที่บล็อกบ่อยๆนะครับ แต่การเขียนอาจจะต่างจากช่วงที่คุณเคยอ่านตอนยังเป็นวัยหวาน.. ตอนนี้เขียนอ่านกันเฉพาะวัย(เบา)หวานอย่างพวกเราครับ >

สวัสดีครับ คุณนกไพร

เข้ามาครั้งเดียว แล้วหายไปเลย ใช่ไหมครับ

เรื่องคำถาม ต้องตอบสิครับ ถามอะไรก็ตอบครับ จะรู้สึกไม่ดีหน่อยนึง ก็ตรงที่ตอบเหมือนดาราดังไปหน่อย

อะฮ่า เห็นไหม เจอรุ่นเดียวกันทั้งนั้น.. ยินดีต้อนรับครับ!!


 

โดย: ปะการัง IP: 72.207.21.213 1 ตุลาคม 2550 11:02:01 น.  

 

แอ๊ วัย(เบา)หวาน ... น่ากลัวมากค่ะ

ขอบคุณคำเชิญค่า รับรองแวะมาบ่อยๆ แน่นอนค่ะ (แต่ขอไม่เป็นวัยเบาหวานนะคะ)

 

โดย: ดวงลดา 1 ตุลาคม 2550 14:24:38 น.  

 

โอ้โห พี่หนอน น่าตื่นตะลึงมากๆค่ะ

 

โดย: filmgus 1 ตุลาคม 2550 17:47:18 น.  

 

อ่านไปก๊ากกกก...ไปทุกข้อเลย ยกเว้นข้อ 25..
ซึ้งจนต้องซับน้ำลาย..เอ๊ย..น้ำตา
กลับมาแล้วหนูจะพาไปกินโต๊ะนะ

แหม..มหัศจรรย์พันลึก 27 มีนา เหมือนพี่หนอนฯเลย
Happy Birthday นะคะพี่ฤทธิ์(เริ่มตีสนิท)
บอกตอนนี้เลย เผื่อปีหน้าลืมค่ะ

บ้านชบาฉายหน้านี้ มันบะละเฮ่ยจริงๆ

 

โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.65.54 1 ตุลาคม 2550 19:24:37 น.  

 

ว้าว จบ แล้วเหรอ กำลังเพลินเชียว
ขอไปคิดดูก่อนนะ ว่า จะ tag อะไรดี
บายไปก่อนนะจ้ะ หิวข้าวแล้วล่ะ

 

โดย: p tim IP: 222.123.26.185 1 ตุลาคม 2550 19:43:15 น.  

 

ถาม =ท่านคือสิเหร่...ผีเพลงใช่หรือไม่?

 

โดย: ตาพรานบุญ 1 ตุลาคม 2550 21:08:47 น.  

 

ตอบ=ไม่ใช่ (จ๊ากกกก...รีบถามเกินไป แต่ใกล้เคียง)

 

โดย: ตาพรานบุญ 1 ตุลาคม 2550 21:11:49 น.  

 

สวัสดีครับคุณดวงลดา

ตกลงครับ ไม่เป็นครับ..
จะพยายามเป็นวัยหวานเช่นเดิมครับ

สวัสดีครับตะเบบูญ่า

เสร็จหนึ่งราย ต้องจดไว้ก่อน แต่ห้ามลูกเล่นให้กินแต่โต๊ะนะครับ ต้องสั่งอาหารด้วย

ถ้าลืมบอกเบิร์ธเดย์พี่ ก็ต้องลืมของหนอนด้วยจิ!

สวัสดีครับp tim

ตั้งสามสิบเอ็ดข้อ ยังไม่พอเหรอครับ
ตอบจนเหนื่อยแน่ะ

ไม่เห็นเข้ามานาน สบายดีนะครับ

สวัสดีครับ ตาพรานบุญ

ไม่ใช่ครับ สิเหร่เป็นนักเขียนรุ่นพี่ครับ แต่คนภูเก็ตเหมือนกัน ครั้งหลังสุดที่ติดต่อกัน คือช่วงที่ผมเขียนเรื่องให้ นิตยสาร "เดินทางท่องเที่ยว"กระมัง ซึ่งพี่สิเหร่เป็นบรรณาธิการ หลังจากนั้นไม่มีโอกาสเจอกันเลย ยี่สิบปีแล้วกระมัง.. พูดแล้ว..คิดถึงนะ

คุณเป็นแฟนหนังสือสิเหร่หรือครับ?

 

โดย: ปะการัง IP: 72.207.21.213 2 ตุลาคม 2550 8:30:58 น.  

 

สวัสดีค่ะปะการัง เข้ามาอ่านเจอถาม-ตอบดาราเข้าแล้ว ดีค่ะจะได้รู้ว่าตัวเองรุ่นราวคราวไหน คือจะบอกว่าแก่..ใจก็ยังไม่ค่อยยอมรับเท่าไร ต้องรอให้คนอื่นย้ำจึงจะรู้สึก ถึงอย่างไรก็หวังว่าจะไม่มีช่องว่างระหว่างวัยนะคะ (ชอบข้อ 24) ของแถมที่เขียนมาทั้งชอบและไม่ชอบก็ใกล้เคียงกันค่ะ พยายามจะทำตัวให้เนียนๆ เข้าไว้จะได้ลดช่องว่างให้มันแคบมาอีกหน่อย ไปอเมริกาเมื่อไหร่จะบอกนะคะ

 

โดย: นกขมิ้น IP: 124.120.125.100 2 ตุลาคม 2550 13:29:15 น.  

 

แวะเข้ามาเพราะพอได้ิยินเพลงความรักสีดำแล้วคิดถึง พอดีได้อ่านtag อ่านสนุกๆอยู่ดีๆก็จบแล้ว อยากเจอพี่เหมือนกันนะแต่คงไม่ใช่ที่เมืองไทยเพราะจะไปเมืองไทยเมื่อไหร่ยังไม่รู้เลย ถ้าจะไปก็คงเป็นช่วงกรกฏาฯสิงหาฯ เพราะโรงเรียนที่แฟนเป็นครูสอนอยู่ปิดหนึ่งเดือนครึ่ง ช่วงนั้นเราถึงจะไปเมืองไทย เพราะได้เที่ยวหลายๆที่ได้อยู่นานคุ้มค่าเครื่องบินด้วย ที่ว่าคงไม่ใช่ที่เมืองไทยเพราะคิดว่าถ้าพี่สัญจรผ่านมาทางเยอรมันบ้างก็คงได้เจอกัน แต่ว่ามันไม่ง่ายเลยนะ อยู่เมืองนอกก็รู้กันอยู่ถ้าไม่ปะเหมาะเคราะห์ดีจริงๆก็ยากอยู่ ว่าแต่ว่าถ้าพี่ผ่านมาจริงๆยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ เรื่องไปเที่ยวอเมริกายังเป็นเรื่องที่ยังเป็นแค่ความคิด เพราะจริงๆแล้วก็อยากเที่ยวไปหมด ไม่ว่าจะเป็น แม็กซิโก อันนี้แฟนอยากไป ส่วนน้องอยากไป มาจูปิจู อยากไปจอร์แดน นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย อยากไปโหม๊ด แต่ไม่มีตังค์ก็เลยขอเป็นแค่อยากไป แต่ที่ไปจริงๆคือเมืองไทย แล้วก็เล็มๆแถวสวิสฯ พอดีมีคนรู้จักอยู่สามสี่คนก็เลยขอไปอาศัยเค้านอนได้ประหยัดค่าที่พักไป สำหรัีบแฟนถ้าไปอเมริกาพี่แกอยากไปที่ไหนแล้วจำไม่ได้ ไปถามแกแล้วแกบอกจำไม่ได้แล้วจริงๆ ไม่เกป็นไรคนแก่แล้วก็งี้แหล่ะ ไม่ถือสา วันเกิดพี่ 27 มีนา ของแฟนน้อง 17 มีนา ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงเนอะ ส่วนปีเกิดก็ 2500 ของแฟนนะคะไม่ใช่ของน้อง ของน้องสิบเอ็ดปีให้หลังแม่ถึงให้ออกมา แต่แม่บอกว่าถ้ายาคุมกำเนิดออกมาเร็วกว่านี้คนที่สิบนี่ไม่ได้เกิด ก็เลยบอกแม่"สายไปแร๊ะแม่" แฟนแกเป็นนักอ่านตัวยง ใครมาบ้านนึกว่าห้องรับแขกเป็นห้องสมุด ส่วนน้องเป็นนักอ่านตัวย่อย ชอบฟังเพลงมากกว่า แต่ก็อ่านนะ ไอ้ประเภทอ่านไปหัวเราะไปนี่ยิ่งชอบ แต่ก็ต้องแอบอ่านเพราะบางทีไปอ่านตรงที่มีคนเยอะๆเค้าจะมองมาแล้วถามว่า"อะไรเข้า" คนใต้นะพี่คงจำได้ว่าเค้าชอบถามอะไรแรงๆพูดแรงๆ พูดถึงพี่นี่ใจดีใจกว้างนะ ถามมาตอบหมดเลย ไม่กั๊กเลย ดูรูปแล้วคิดว่าเหมือน จู นูโวมากกว่า ตรงที่คางนี่ท่าจะเป็นไปตามวัย ของแฟนน้องก็เป็นแต่เป็นที่พุง แกย้อยตามน้ำหนักของผัดเครื่องแกงไก่กับแกงเขียวหวานที่กินเข้าไปหกปีกว่าแล้ว พูดถึงเรื่องกินขอถามแบบผู้หญิงอยากรู้หน่อยนะคะว่า พี่ได้ทานอาหารไทยบ่อยแค่ไหน ตอนนี้ที่บ้านมี"น้ำพริกไตปลา"แบบสดเลย แช่เอาไว้ในห้องฟรีซ มีเยอะพอสมควร อยากส่งไปให้พี่กินจังเลย ของภูเก็ตแต้ๆเ๊อ๊ย แท้เลย ไปเมืองไทยทีไรจะขนกลับมาทุกที ประมาณสามสี่กิโล เอามาเผื่อคนอื่นด้วย กลายเป็นว่าน้ำพริกไตปลานี่ใครๆก็ชอบ คนอีสานยิ่งชอบใหญ่ ว่าแต่ชอบแกงไตปลารึปล่าวเอ่ย? เที่ยวนี้พี่สาวขนมาให้ พอดีหลานสาวมาเรียนภาษาฯแล้วก็อยากเข้ามหาวิทยาลัย ก็ให้เค้าอยู่ที่นี่เป็นปีแล้ว พอดีกลับภูเก็ตก็ยกกันมาทั้งบ้านเลย) ที่นี่หาของไทยไม่ยากเพราะคนไทยเยอะ ต้องขอโทษแควนๆพี่ปะการังนะคะเพราะเขียนออกจะเป็นเรื่องส่วนตัวอยู่เยอะซักหน่อย อาจจะเพราะเราอยู่ต่างประเทศและเราก็มาจากภูเก็ตเหมือนกัน ความเป็นอยู่คล้ายๆกันก็เลยเขียนค่อนข้างจะเป็นแบบนล้วงความลับของฝ่ายตรงข้าม แต่เที่ยวนี้อดปลาเค็ม พี่สาวมาอยู่่อาทิตย์นึงก็เลยไม่มีเวลาเข้ามาอ่านบล๊อก เพิ่งจะได้เข้ามานี่แหล่ะคะ ไม่ทราบพี่ไปภูเก็ตทุกปีรึปล่าว? ถ้าไม่ไปหลายปีแล้วก็มีอะไรจะมาเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงบางส่วนแต่คิดว่าพี่น่าจะได้กลับมาเยี่ยมภูเก็ตทุกครั้งนะ เข้าไปอ่านอีกบล๊อกนึีงแล้วก็มาตอบตรงนี้นะคะ พี่ติ่งพี่หมึกยังไปเยี่ยมไปหาอยู่ค่ะ ถ้ามีโอกาส แน่นอนจะต้องบอกข่าวของพี่ให้พี่ๆเค้ารู้ แน่นอนว่าต้องเซอร์ไพร้ส์ กลับไปอ่านขวัญเรือนคอลัมภ์ ริมรั้วหัวใจอีกครั้ง ก็รับรู้ถึงความรู้สึกของพี่ได้ว่าคิดถึงการเขียนหนังสือมากแค่ไหน หนังสือขวัญเรือนนี้อ่านมาตั้งแต่ม.3 จนกระทั่งบัดนี้ ชอบอ่านเพราะมีอะไรให้อ่านหลากหลายมาก ก็เลยคิดว่าถ้าพี่จะเขียนลงหนังสือก็ขอให้เป็นเล่มนี้ มีผู้หญิงไทยแต่งงานอยู่ต่างประเทศแล้วก็เป็นแฟนเก่าขวัญเรือนเยอะพอสมควร มีทุกประเทศเลยก็ว่าได้ (สาธุ ขอให้ฝันเป็นจริง) ชอบห้าข้อความไม่ชอบของพี่นะ โดยเฉพาะข้อ 5 พอเจอบล๊อกนี้ถึงได้เอ็นจอยที่จะเขียนไงคะ เจอคนใจคอเดียวกันหลายๆคน ค่อยสนุกที่จะเขียนหน่อย ตอนแรกจะไม่เขียนหรอกแต่พออ่านแล้วอดไม่ได้อีกแร๊ะ อ่านไปหัวเราะไป ก็เลยนั่งนานกว่าที่คิด แล้วเจอกันใหม่นะคะ สุขสันต์วันอังคารค่ะ

 

โดย: น้องเจี๊ยบ IP: 84.135.242.141 2 ตุลาคม 2550 21:12:22 น.  

 

เพิ่งไปกินข้าวกับน้ำพริกไตปลามา เผ็ดแบบลงไปนอนดิ้นได้เลย ปกติกินเผ็ดได้แ่ค่ปานกลาง ลืมบอกไปว่ารูปนาฬิกาถ่ายได้สวยมาก นึกว่าฝีมือพี่ซะอีก มีฝีมืออย่างนี้ถ่ายลงขายอีเบย์สบายๆเลย

 

โดย: น้องเจี๊ยบ IP: 84.135.242.141 2 ตุลาคม 2550 22:27:47 น.  

 

อีกหนึ่งคำถาม
พี่บอกว่าพี่เป็นคนพูดน้อยและยิ้มยาก ถ้าเกิดว่าพี่ได้เจอกับบรรดาแควนๆของพี่ที่เมืองไทย อยากถามว่าอะไรจะเกิดขึ้น? อย่าบอกนะว่าจะปล่อยให้แมงหวี่เค้าคุยกันแล้วพี่กับบรรดาแควนๆนั่งฟังอย่างเดียว

 

โดย: น้องเจี๊ยบ IP: 84.135.242.141 3 ตุลาคม 2550 6:01:26 น.  

 

สวัสดีครับ คุณนกขมิ้น

แก่ไม่แก่อยู่ที่ใจครับ
พูดตามตรงผมก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองแก่นะครับ นอกจากจะมีคนทัก ฮ่า..ฮ่า

แต่ถึงจะวัยหรือความคิดต่างกันอย่างไร ก็คุยกันได้เสมอครับ

สวัสดีครับ น้องเจี๊ยบ

อ่านจุใจ เช่นเคย

พี่คงไม่มีปัญญาไปเยอรมันเหมือนกันครับ แต่ถ้ามีโอกาส อยากไปแน่นอน..

พี่ไม่ได้กลับเมืองไทยเลยตั้งแต่มาที่อเมริกา สิบสามปีแล้ว เพราะฉะนั้น ก็ไม่ได้ไปภูเก็ตนานแล้วเช่นกัน คงมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเยอะ

พี่อยู่ที่นี่ โชคดีมีซูเปอร์มาร์เกตของคนลาว และเวียดนาม ภรรยาพี่ก็เลยทำอาหารไทยให้ทานได้ วันที่น้องพูดถึงแกงไตปลานี่ เราก็เพิ่งทำทานกัน แต่ไม่ใช่ของแท้ คือดัดแปลงเอาเท่าที่หาได้นะครับ.. ก็พอทุเลาความอยากไปได้บ้าง
เสียดายไม่ได้อยู่ใกล้ ไม่อย่างนั้น ฮึ่ม..


เรื่องเขียนลง"ขวัญเรือน" ก็อยากอยู่ครับ แต่คงไม่มีโอกาส เพราะของเขาแน่นเอี๊ยดด้วยสาระแล้ว.. ก็ดูไปเรื่อยๆ เพราะไม่เห็นนิตยสารของเมืองไทยนานแล้ว.. ไม่รู้ว่าเล่มไหนเป็นยังไง..

ถ้าได้กลับเมืองไทย เจอหน้าจริงๆ คงมีเรื่องคุยเองแหละ แต่ที่กลัวคือไม่มีแควนๆเหลืออยู่นะเซ่.. เพราะห่างหายไปนานเต็มที

ขอให้มีความสุขที่เยอรมันนะครับ พูดเยอรมันได้หรือยังเนี่ย?



 

โดย: ปะการัง IP: 72.207.21.213 3 ตุลาคม 2550 10:32:03 น.  

 

สวัสดีค่ะ พี่ปะการัง
เมื่อสามวันก่อนมาเข้าบล๊อกแล้วแต่จังหวะเดียวกัน เพื่อนโทรศัพท์มาจากเมืองไทยบอกข่าวไม่ดี เจอมุขนี้อารมณ์เสียไปหลายวันเลย ค่อนข้างโกรธและเครียด ตอนแรกว่าจะเขียนแบบสนุกๆให้ขำกันแต่พอเป็นแบบนี้มุขด้านเลยค่ะ ขำไม่ออก พยายามจะเขียนส่งข่าวมาแบบละครออนแอร์นะคะ แต่ตอนนี้ขาดสปอนเซอร์ ขอเวลาอีกนิ๊ดนึงนะคะ อาจจะเป็นพรุ่งนี้เช้าที่อาจจะมาเข้าเวบบ์เพราะตอนนี้ว่างแล้วด้วย รีดผ้าหมดแล้ว พรุ่งนี้ตื่น(แล้วแต่ว่าตอนไหนขึ้น)กินของเช้า(ทั้งที่เที่ยงแล้ว) ล้างของในครัวแล้วก็มานั่งอ่านข่าว แล้วอาจจะพร้อมสำหรับอารมณ์ที่จะเขียนมาถึงพี่ คงไม่เป็นไรนะคะ ตอนนี้อารมณ์เป็นปกติขึ้นมานิ๊ดนึงแล้ว พรุ่งนี้อาจจะดีขึ้นกว่านี้ แต่อาจจะเขียนอะไรที่ค่อนข้างซีเรียสนิดนึง แล้วมาอ่านกันนะคะ
รักษาสุขภาพและขอให้มีแต่วันดีๆนะคะ
น้องเจี๊ยบ

 

โดย: น้องเจี๊ยบ IP: 84.135.195.70 9 ตุลาคม 2550 5:32:56 น.  

 

มาแล้วค่ะ สวัสดีค่ะพี่ปะการัง
เบี้ยวไปหนึ่งวัน พอดีเมื่อวานเสิร์ชหารูปดอกไม้ในอินเตอร์เน็ตเพื่อเตรียมจะทำเมนูให้ร้านอาหารไทยที่อยู่อีกเมืองนึง ก็ไม่ไกลหรอกค่ะ นั่งรถไฟแปดนาที ขับรถก็เกือบครึ่งชั่วโมง แล้วก็ไปจัดการห่อพวกเครื่องแกงเสียใหม่ด้วย เพราะมันกินที่ในช่องฟรีซมาก เลยพบว่าพี่สาวเอาน้ำพริกมะขามมาให้ด้วย แต่หน้าตาไม่ค่อยเหมือนน้ำพริกมะขามที่เคยกิน คือที่เคยกินมันจะแบบละเอียดผัดแบบเปียกๆ แต่ของพี่สาวแข็งเป็นก้อนเลย อยากจะส่งให้พี่ทานมากๆเลยนะ น้ำพริกแกงไตปลาแห้งด้วย แต่เกรงว่าจะเสียเสียก่อนที่พี่จะได้รับเพราะความแตกต่างของอากาศ คือของน้องแช่ห้องฟรีซเอาไว้ แต่คิดว่าอากาศที่แคลิฟอร์เนียคงจะร้อนตลอด(น่าอิจฉาจัง)ก็เลยเป็นว่าอาหารต้องเสียไปเพราะไปเจอกับอากาศอีกแบบนึง คือเย็นแล้วมาร้อน อีกอย่างเรื่องการเข้มงวดเรื่องนำอาหารเข้าประเทศ ส่งทางไปรษณีย์ไม่รู้เค้าจะตรวจพบรึปล่าว คิดว่าตอนนี้อเมริกาคงจะเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิมตั้งแต่มีเหตุการณ์ระเบิดตามที่ต่างๆ ที่ว่าอยากจะส่งของกินให้พี่กับแฟนเพราะเข้าใจนะไม่ได้กลับบ้านตั้งสิบกว่าปี แต่ตอนอ่านเจอนั้นตาถลนออกมานอกเบ้าเลยนะพร้อมทั้งมีคำถามแบบกวนทีนตามมาในใจว่า อยู่เข้าไปได้ยังไงเอ๊ย...ทำใจได้ยังไง ไม่กลับบ้านเลย ว่าแต่ตอนพาแฟนพี่มาอยู่อเมริกานั้น พี่ไปขอพ่อตารึยัง? พ่อตาเลยรอตอนรับแบบมีเลศนัย


อยากจะถามพี่แบบคนไม่รู้จริงๆว่าอากาศที่แคลิฟอร์เนียเป็นยังไง? คิดว่าร้อนตลอดนะ ที่ยุโรปหนาวมากกว่าร้อน อากาศตอนนี้อยู่ที่ 15 องศา กลางคืนก็ลดลงไปครึ่งนึง เดือนหน้าก็จะหนาวกว่านี้อีก อยู่เยอรมันสบายดีมั๊ยเหรอ? ก็โอเคนะคะ ตอนนี้ดีกว่าตอนมาแรกๆ ถ้าจะให้สบายกว่านี้ก็คือมีงานทำมีเงินใช้เป็นของตัวเอง ต้องการเพียงเท่านี้ละคะ ส่วนเรื่องภาษานั้นพูดได้ค่ะ จำมาจากตอนที่แฟนทำคอมฯไม่ได้แล้วพี่แกก็สบทมาเป็นคำๆ คือ scheize แปลว่า shit, Das gibt dock nicht war แปลว่า not again, ya oder nein แปลว่า yes or no! พูดเล่าค่ะ คือจริงๆสามารถฟังเข้าใจได้มากกว่าพูดและเขียน มันยากจริงๆนะคะ เวิร์บมันมีเยอะมากๆเลย เค้าให้ไปเรียนก็บอกไม่ไปแล้ว แก่แล้วไฟตกชาร์ตแบ็ตไม่ขึ้นแล้ว พูดอังกฤษกับแฟนตลอด ก็ความผิดของพี่แกด้วยแหล่ะไม่ยอมพูดเยอรมันกับเรา แกคงเขินนะค่ะเพราะตอนที่เราเจอกันแกพากษ์ภาษาอังกฤษไม่ได้ใช้ Soundtrack แล้วพี่ล่ะพูดกับแฟนกับที่บ้านใช้เสียงSoundtrack รึปล่าว?
พูดถึงภูเก็ตนั้น กลับมาพี่ต้องจำสถานที่หลายๆแห่งไม่ได้แน่ๆ หลายอย่างเปลี่ยนไปมาก ถ้าพี่ไปอยู่กรุงเทพฯโดยที่ไม่ได้กลับภูเก็ตเลย ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะขนาดน้องไปอยู่กระบี่ตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 1991 แล้วก็ไปๆมาๆภูเก็ตยังจำอะไรไม่ได้ค่อยได้เลย เพราะเปลี่ยนไปมากจริงๆ ตามสี่แยกสามแยกป่าตอง ตอนนี้ตัดเป็นบายพาสหลายสาย ดูแล้วก็ยังงงๆว่าไปยังไงมายังไง สนามสุระกุลที่อยู่ใกล้บายพาสทางไปป่าตองถ้าไม่มองให้ดีก็จะมองผ่านไปได้ง่ายๆ หน้าโรงเรียนวิชิตสงครามที่เคยเป็นโรงเรียนประถมของน้องก็ถูกตัดเป็นทางบายพาสด้วย คือสภาพเก่าไม่เหลือเลย ไม่ว่าจะเป็นสะปำ ถนนไปป่าตอง สามกอง พี่มาเที่ยวนี้ต้องร้องเสียงสัญชาติเดิมของตัวเองเลยละว่า ไอ๊หยา! ทุกที่ไม่ว่า หาดสุรินทร์ ป่าตอง กะตะ กะรน ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด มีถนนเชื่อมกันทั้งเกาะสามารถขับรถไปทุกที่ได้โดยที่ไม่ต้องขับกลับ คือขับยาวไปเลยเพราะมันจะวนกลับมาที่เดิมเอง หาดกะตะที่รักของน้องก็เปี๋ยนไป๋ เพราะสมัยก่อนพวกเรายังเด็กจะติดรถเพื่อนบ้านไปเล่นน้ำที่หาดกะตะช่วงบ่ายวันอาทิตย์ ผู้ใหญ่เค้าทำอาหารไปกินกัน แล้วแม่บ้านก็นั่งล้อมวงเล่นไป เด็กๆก็เล่นน้ำแล้วก็มากิน กินแล้วก็ลงไปเล่นน้ำเพราะหาดมันไม่ได้เป็นของส่วนตัวของใคร บางทีฤดูวางไข่ของเต่า เราก็ไปค้างคืนกัน วิ่งจับปูลมมาทอดกินกัน ผู้ใหญ่ก็เตรียมของกินไว้่เช่นเคย สนุกมาก แต่พอน้องขึ้นม.2 ม.3 รู้สึกว่าโรงแรมคลับเมดจะก่อสร้างแล้ว ต่อมาปี 1991 ปลายปีก็ไปอยู่กระบี่ ช่วงนั้นนานๆกลับมาภูเก็ตทีก็พบว่ามันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งบัดนี้การก่อสร้างอะไรๆก็ยังคงมีมาเข้ามามากมาย โรงเรียนสตรีภูเก็ตตอนนี้ไม่ีมีแล้วค่ะที่เด็กจะขี่จักรยานไปโรงเรียน มีแต่มอเตอร์ไซค์กันทั้งนั้น ดีำไม่ดีเด็กนักเรียนขับรถยนต์ไปโรงเรียนด้วยแหน่ะ รถก็จะติดมากช่วงโรงเรียนเข้าและเลิกเรียน คิดว่าทั้งโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัยและสตรีภูเก็ตก็เปลี่ยนแปลงไปจนพี่คงจะงงเวลามาเห็น ถนนที่โรงเรียนพุทธมงคลฯ ตอนนี้ก็ตัดขึ้นมาใหม่ไปทะลุกับถนนหลวงพ่อวัดฉลอง ร้านเส้งโหก็ไปเปิดสาขาใหม่ตรงบริเวณนั้น โรงเรียนดาวรุ่งก็โดนตัดถนนจนจำหน้าเดิมไม่ได้เลย ถ้าไม่มองให้ดีๆหาไม่เจอจริงๆด้วย แล้วอีกเยอะแยะมากมายเจียระไนไม่หมดจริงๆ รู้แต่ว่าถ้าพี่มานะต้องให้ีคนนำทางซะแล้วล่ะ เพราะจำทางเก่าไม่ได้เพราะบางสายมันไม่อยู่แล้วหายไปกับความเจริญที่ตามมา จริงๆแล้วคนภูเก็ตจริงๆไม่กี่แสนหรอกค่ะ ที่เหลือคนที่อื่นหมด ที่สำคัญมีพม่าอาศัยอยู่ในภูเก็ตเยอะมาก หลานเพิ่งกลับไปแล้วกลับมาเล่าให้ฟังว่า ไปซื้อของกิน คนขายที่เป็นลูกจ้างเป็นพม่าพูดไทยได้เกือบจะทุกเจ้าแล้ว ต่อไปนี้เราก็จะมีลูกหลานไทยเชื้อสายพม่ากัน ก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้พม่าได้ประชาธิปไตยซะที เพราะคนที่เข้าหนีตายเข้าเมืองไทยมา จะได้กลับบ้านเกิดเค้าซะที ไปทำมาหากิน ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่พี่น้องไม่พลัดพรากและลำบากยากจนอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะมีผู้นำที่เห็นแก่ตัวมากๆ ไร้ซึ่งมนุษยธรรมและศีลธรรมอย่างผู้นำคนปัจจุบัน อยากให้สันติภาพและประชาธิปไตยกลับคืนสู่พม่าอย่างเร็วที่สุด ภาวนาเอาใจช่วยอยู่เสมอ
วันนี้จบแล้วนะคะ แล้วจะเขียนมาใหม่ คราวหน้าขอเม้าท์ถนนถลางนะคะ
Happy day Naka

 

โดย: น้องเจี๊ยบ IP: 84.135.193.47 11 ตุลาคม 2550 0:33:55 น.  

 

ขอแก้คำผิดหน่อยนะคะ พูดเล่นนะคะ ไม่ใช่พูดเล่า อีกอย่างที่ลืมเล่าไปคือเกี่ยวกับหาดทุกหาด เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วที่ประชาชนจะได้ไปใช้หาดเล่นน้ำเหมือนแต่ก่อน คิดว่าแทบทุกหาดจะถูกจับจองด้วยเ้จ้าของโรงแรม สำหรับแขกที่มาพักโดยเฉพาะ หาดกะตะนี่หมดทั้งแถบเลย บรรยากาศเก่าๆไม่เหลือเลย เมื่อก่อนพวกเราปูเสื่อเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบแต่เดี๋ยวนี้เค้าต้องนั่งเก้าอี้ชายหาดกันคะ มีให้เช่าเป็นชั่วโมงแถมด้วยมาเฟียคุมอีกตะหาก (ประมาณว่าห้ามนั่งฟรีนะโว๊ย) สำหรับหาดป่าตองพี่จะต้องนึกว่าป่าคอนกรีตถ้ามาเห็น ตอนนี้ในตำบลไสน้ำเย็นไม่มีความว่างเปล่าให้เห็นเหมือนแต่ก่อน ที่นงที่นา สวนไร่กลายเป็นบ้านเป็นเกสเฮ้าส์ เป็นโรงแรมตั้งติดๆกันยั๊วเยี้ยแบบหนอนที่ชอนไชไส้เน่าๆ ร้านคงร้านค้าบ้านคนไม่รู้อะไรต่อมิอะไร แล้วยังมีซอยเล็กซอยน้อยผุดขึ้นมา น้องไปกับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เค้าพาเข้าไสน้ำเย็นแล้วมาทะลุสี่แยกที่จะไปหาด ต้องบอกว่าอุแมเจ้า...ถ้ามาเองคงต้องกางแผนที่ งงไปหมด นี่ละคะภูเก็ตตอนนี้

 

โดย: น้องเจี๊ยบ IP: 84.135.193.47 11 ตุลาคม 2550 4:59:35 น.  

 

สวัสดีครับน้องเจี๊ยบ

ไม่ได้เข้ามาอ่านในนี้หลายวัน ขอโทษด้วย ตอนนี้ ขอบอกสั้นๆก่อนว่า ได้อ่านนะครับ ขอบคุณที่เล่าให้ฟัง เดี๋ยวจะมาคุยอีกทีนะครับ

 

โดย: ปะการัง IP: 72.207.18.27 11 ตุลาคม 2550 18:57:00 น.  

 

สวัสดีค่ะ พี่ปะการัง
หายไปนานเลย ไปทำงานใหม่อยู่เหรอคะ? หมายถึงเขียนหนังสือหรือลงเวบบ์ใหม่ อ่านหนังสือพิมพ์และฟังวิทยุ ดูทีวี มีข่าวไฟไหม้ที่ แคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก เสียหายมากมาย ไม่ทราบมีผลกระทบอะไรกับพี่บ้างมั๊ย? ยังไงส่งข่าวมาด้วยนะคะ เป็นห่วงพี่ทั้งสองคนค่ะ

 

โดย: น้องเจี๊ยบ IP: 84.135.255.254 26 ตุลาคม 2550 19:49:08 น.  

 

สวัสดีครับ น้องเจี๊ยบ

พี่สงสัยว่าน้องเจี๊ยบจะเก็บเฉพาะหน้านี้ไว้ใน Favorites เหรอครับ? เพราะพี่กับพี่โดมยังเขียนตอบจดหมายกันตามปกติ และพี่ก็เล่าเรื่องมากมายในหน้านั้น รวมทั้งเรื่องไฟไหม้.. ไม่ได้เงียบหายไปเลยนะครับ (ลองดูที่คอลัมน์ซ้ายมือ คลิกตรง"ชีวิตในจดหมายของผู้ชายสองคน")

ขอบคุณมากครับ ที่เป็นห่วง พี่ทั้งสองคนสบายดีครับ ไม่โดนผลกระทบจากไฟไหม้มากนัก โชคดีจริงๆ!!!

 

โดย: ปะการัง IP: 72.207.12.141 31 ตุลาคม 2550 15:24:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ชบาฉาย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




"ปะการัง" เป็นนักเขียนที่มีผลงานบทกวีและเพลง เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน.. กลับมาเขียนหนังสืออีกครั้ง ตามคำชักชวนและได้รับเอื้อเฟื้อบล็อก "ชบาฉาย"นี้ จากโดม วุฒิชัย



เริ่ม 13 ส.ค. 2550
เชิญ!!!

คลิกอ่านเรื่องของ"พ่อพเยีย"



~ คลิกดูภาพถ่ายสไตล์"ปะการัง" ~
Friends' blogs
[Add ชบาฉาย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.