" ค ว า ม สุ ข ผ ลิ ใ บ ใ น ทุ ก เ ช้ า" หนังสือเล่มใหม่ของ "ปะการัง" วางตลาดแล้ว
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
3 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
วาระพิเศษ - เราจะเอาอย่างไร? (ปะการัง)



จากสถานการณ์ของบ้านเมืองที่เป็นอยู่ขณะนี้ ทำให้ผมอยากตั้งข้อสังเกตและบันทึกไว้ให้พวกเราได้คิดต่อกันสักเล็กน้อย--

ขอเริ่มต้นสมมุติด้วยตัวอย่างนามธรรมที่ใช้กันบ่อยและจับต้องได้ง่าย ดังนี้ สมมุติมีโจรพยายามที่จะเข้ามาขโมยของในบ้านเรา แต่เราจับได้หลังจากที่ปีนรั้วเข้ามาและพยายามจะงัดแงะประตูบ้านเรา เราเลยโวยวายขึ้นเสียก่อน พอเรื่องถึงตำรวจ โจรบอกว่า เปลี่ยนใจไม่ขโมยแล้ว.. เมื่อเกิดการต่อล้อต่อเถียง ไม่ยอมความกัน ก็มีการเกลี้ยกล่อมว่า หันหน้าเข้าหากันเถิด อย่าแตกสามัคคีกันเลย เพราะปรากฏว่าโจรก็เป็นคนอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ผู้อาวุโสในหมู่บ้านบางคนก็พากันออกมาบอกว่า สมานฉันท์กันเถอะ

ถามว่า..นั่นเป็นวิธีคิดที่ถูกต้องไหม?

จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของประเทศเรา เมื่อมีปัญหาที่แก้ไม่ตก เกิดการแบ่งเป็นสองขั้ว เรามักจะมีคนเสนอหนทางที่สามขึ้นมา โดยมักจะใช้คำว่า ทางที่สาม วางตัวเป็นกลาง ไม่เข้าข้างใคร เสนอให้สมานฉันท์ หรือหันหน้าเข้าหากัน พร้อมกับพ่วงมาด้วยคำว่า "คนไทยด้วยกัน" ฟังดูผิวเผิน ก็เคลิบเคลิ้มชวนหลงใหล เหมือนเป็นทางออกที่งดงาม-- แต่เมื่อพิจารณาดูแล้ว นั่นเป็นวิธีแก้ปัญหาระยะยาวที่ถูกต้องจริงหรือ? นั่นเป็นการแก้ปัญหาที่ราก ต้นเหตุ หรือเพียงแค่ปลายเหตุ?

สิ่งหนึ่งเมื่อเกิดการขัดแย้ง จนบานปลาย และจบไม่ลง เรามักจะหลงประเด็นอันเป็นที่มาหลักของปัญหา.. เราไม่กล้าที่จะพิจารณาและชี้ว่า อะไรคือถูกหรือผิด อะไรคือความดีหรือความเลว เราก็เลยป้องกันตัวเอง ด้วยการบอกว่า ฉันเป็นกลาง หรือ หันหน้าเข้าหากันน่า สามัคคีกันไว้ เราคนไทยด้วยกัน

แต่-- ความถูกต้องกับความผิด สมานฉันท์ได้หรือไม่? ความดีกับความเลว ยอมกันได้หรือไม่?

ในต่างประเทศ ไม่ต้องดูอื่นไกล แม้แต่ประเทศในแถบเอเชียเรา เมื่อมีปัญหาการทุจริต หรือแม้แต่ความบกพร่องทางจริยธรรมเกิดขึ้น ยังไม่ต้องถึงกับมีใบเสร็จ เพียงแค่ดูไม่ชอบมาพากลให้เกิดความสงสัยเพียงเล็กน้อย นักการเมืองเหล่านั้น ก็ต้องแสดงสปิริตลาออกไป และไม่ใช่จบแค่ลาออกไป แต่ยังต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลเหมือนคนธรรมดาที่ไม่มีอำนาจอยู่ในมือเพื่อพิสูจน์ตัวเอง จนหลายรายต้องติดคุกติดตาราง แต่ในบ้านเมืองเรา มีการแสดงสปิริตเหล่านั้นบ้างหรือไม่ ส่วนใหญ่ที่เห็นและเป็นอยู่ คือตะแบงเถียง จนกว่าจะจับให้ได้คาหนังคาเขาเสียก่อน ถ้ารู้ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยม ก็รอดตัวไป หรือแม้แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล ก็ยังมีการวิ่งเต้น ทำให้ผิดเป็นถูก ทำดำให้เป็นขาว

เรารับรู้และเห็นสิ่งเหล่านี้อยู่เป็นประจำ จนกลายเป็นความเคยชิน และกลายเป็นคำพูดของคนยุคสมัยนี้ว่า "ใครๆก็โกงกันทั้งนั้น.." หรือ "โกงไม่เป็นไร แต่ขอให้ทำงาน" นั่นคือผลของการสมานฉันท์ระหว่างความถูกต้องกับความผิด เป็นผลจากความคิดของการสามัคคี การสมยอมกันของความดีและความเลว--

เราเคยชินกับการเริ่มยอมรับในสิ่งที่ไม่ถูกต้องมามากและนาน จนเข้าใจผิดว่า การยอมรับ การประสานสองสิ่งนั้น เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่แท้จริงแล้ว เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หวังผลทันตาเท่านั้น แต่ในระยะยาว เรากำลังสร้างสังคมและวัฒนธรรมที่ไร้คุณธรรม จริยธรรม เรากำลังหมักหมมสุมกองปัญหาให้เพิ่มขึ้น เราหลงทางอย่างสิ้นเชิง!

และทุกวันนี้ การขัดแย้งที่เราต้องเผชิญอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ก็พิสูจน์ชัดว่าเป็นเพราะผลมาจากการไม่ตัดสินให้เด็ดขาด สิ่งต่างๆที่เราต้องเผชิญอยู่นี้ ตอกย้ำให้เราเห็นว่า การยอมๆกันไปก่อนนั้น ส่งผลเสียในระยะยาวเพียงใด

คงจำได้ว่า ก่อนที่คุณทักษิณจะได้เป็นนายกฯครั้งแรก และมีคดีเรื่องซุกหุ้น เกิดปรากฏการณ์เห็นใจที่อยู่เหนือตัวบทกฏหมาย ผู้หลักผู้ใหญ่ผู้อาวุโสในบ้านเมืองออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงอนุโลม จนกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ว่า "ความบกพร่องโดยสุจริต" นั่นเป็นเพราะเราไม่ยึดถือในหลักเกณท์ที่เรามีใช่หรือไม่ เราใช้ "ความรู้สึก" เข้ามาเป็นตัวตั้งในการแก้ปัญหา เราสมานฉันท์ความถูกต้องกับความผิดด้วยการยอมๆไปก่อนใช่หรือไม่?

การยอมรับแบบไทยๆ ยอมผสมปนเปความผิดกับความถูก โดยหวังผลประโยชน์ในวันข้างหน้าว่า ให้เขาได้ทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ดูเหมือนจะเป็นที่ยอมรับกันในหมู่กว้างในตอนนั้น และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความคิดที่บานปลายกลายมาเป็นความคิดในวันนี้ "โกงบ้างไม่เป็นไร ขอให้ทำงานเท่านั้น" และดูเหมือนว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ สังคมเราจะเปลี่ยนมายอมรับอย่างสิ้นเชิงว่า โกงได้ถ้ากฏหมายมีช่องโหว่ หรือที่ร้ายที่สุดคือ "โกงได้โดยการแก้กฏหมายเสียใหม่ จากผิดให้เป็นถูก โดยใช้อำนาจหรือเงิน (ซึ่งก็คือโกงมานั่นเอง)"

เราเคยได้ยินเรื่องราวของคนที่เก็บเงินที่ใครบางคนทำหล่นไว้ แล้วนำส่งคืนเจ้าของ ถ้าเขาจะเก็บไว้เสียเอง ก็ไม่มีใครรู้ กฏหมายก็เอาผิดไม่ได้ แต่ถามว่า ทำไมเขาถึงไม่เก็บไว้เอง นั่นเป็นเพราะศีลธรรม จริยธรรมในใจของเขา ที่ทำให้เขาเกิดความละอายที่จะยึดครองสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง และทำให้เขาเกรงกลัวต่อบาป

เขาไม่ได้เข้าข้างตัวเอง หรือยอมสมานฉันท์ความถูกต้องกับความผิดในใจของเขา และยกประโยชน์ให้ตัวเอง..

การสั่งสมปัญหาโดยการไม่แก้ไขอย่างตรงไปตรงมา เพราะเข้าใจว่าการประสานนั่นเป็นหนทางสันติวิธีที่ดีที่สุดนั้น ยังได้สร้างผลข้างเคียงขึ้นมาให้กับสังคมอีกมากมาย เช่น คนมีเงินคือคนที่น่านับถือยกย่อง (ไม่ว่าเขาจะได้มาอย่างไร) คนที่ประสบความเร็จทางธุรกิจหน้าที่การงาน คือคนที่เป็นแบบอย่าง (ไม่ว่าเขาจะมีวิธีการคิดที่ถูกต้อง มีจริยธรรมหรือไม่) นักการเมืองที่สอบได้ คือคนที่มีสิทธิ์พูด (ไม่ว่าเขาจะได้เป็นด้วยวิธีการใด) คนที่มีปริญญาดอกเตอร์ คือคนที่ต้องเก่งกว่าคนธรรมดา (ไม่ว่าเขาจะได้ความรู้มาด้วยวิธีใด)

สิ่งเหล่านี้ ล้วนส่งผลให้เราเห็นตัวอย่างที่เป็นนามธรรมมากมายในสังคมทุกวันนี้ เราจึงมักจะเห็นคำพูดที่ถากถางคนอื่นในลักษณะนี้ว่า

"คุณไม่เคยประสบความสำเร็จในการงาน หรือ คุณล้มละลาย คุณจะมากู้ชาติได้อย่างไร?"

"คุณเป็นส.ส. สอบตก คุณไม่มีสิทธิ์มาพูด ประชาชนเลือกผม"

"ผมจบดอกเตอร์มา ผมท่องรัฐธรรมนูญได้ คุณมาดีเบตกับผมไหม?"

"ประชาธิปไตยต้องพูดในสภา อย่าเล่นข้างนอก เราได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน"

นี่เป็นคำพูดที่ถือสิทธิ์และได้ยินอยู่บ่อยๆ จนเหมือนเป็นคาถา ถ้าอย่างนั้น คนที่ไม่มีเงินล้าน ไม่มีกิจการใหญ่โต คนมีหนี้สิน หรือเป็นเพียงชาวไร่ ชาวนา ไม่ได้เป็นส.ส. ที่ประชาชนเลือกมา หรือไม่ได้เป็นดอกเตอร์ ไม่ได้อยู่ในสภา.. เราคงไม่มีสติปัญญาหรือสิทธิ์ในการร่วมดูแลประเทศชาติหรืออย่างไร?

สังคมของเรากำลังเบี่ยงเบน เกิดค่านิยมใหม่ๆที่ผิดๆมากมาย นอกจากไม่มีจริยธรรม ไม่มีคุณธรรมแล้ว เรากำลังเริ่มคล้อยตามและยอมรับ การโอ้อวด ยกตนข่มท่าน ไปด้วยโดยปริยาย..

การเล็งไปที่ผลลัพธ์อย่างเดียว โดยไม่สนใจในวิธีที่จะได้มา ทำให้เกิดความคิดที่วิปริตในสังคมยุคใหม่นี้อย่างน่าตกใจ เช่น แม่คนหนึ่งช่วยลูกโกงข้อสอบเพื่อให้สอบได้! หรือที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้น คือ พระชื่อดังรูปหนึ่งเห็นด้วยกับความคิดที่จะตั้งคาสิโนของรัฐบาล เพราะจะนำเงินเข้าประเทศ!! ความคิดในการสมานฉันท์ความดีกับความเลว ความถูกต้องกับความผิดกลายเป็นสิ่งที่รับได้ เพียงเพราะผลลัพท์ทางวัตถุเท่านั้นเองหรือ เราต้องการแต่สิ่งที่บำเรอทางกายภาพเท่านั้นเองหรือ เราทอดทิ้งไม่ใส่ใจในคุณธรรม ไม่บำรุงทางจิตวิญญาณเสียแล้วหรือ?

. . . . . . .

เคยอ่านบทให้สัมภาษณ์ของนายอานันท์ ปันยารชุน ที่มีต่อนักข่าวต่างประเทศ-- ท่านตอบนักข่าวคนหนึ่งในประเด็นเรื่องของประชาธิปไตยไว้น่าสนใจว่า

"ความจริงผมคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีโอกาสได้เห็นนักสังเกตการณ์ชาวตะวันตกเริ่มจะคิดเรื่องประชาธิปไตยทำนองเดียวกับคุณทักษิณ (เสียงหัวเราะและปรบมือ) ผมเป็นนักศึกษาในประเทศอังกฤษ 7 ปี อยู่ในประเทศอเมริกา 12 ปี และเดินทางไปทั่วโลกในระยะเวลา 50 ปี ผมมักถูกกล่าวว่าเป็นคนไทยนิสัยฝรั่ง อย่างไรก็ตาม.. ผมคิดไม่ถึงเลยว่าคนตะวันตกบางคนจะถือเอาว่าการเลือกตั้งคือประชาธิปไตย

..เราสนใจเพียงรูปแบบ มีรัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้ง มีฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ เท่านั้นหรือ เราไม่รู้ หรือลืมไปแล้วว่าประชาธิปไตยนั้น เป็นเรื่องของสังคมเปิด เรื่องหลักนิติธรรม เรื่องความโปร่งใส เรื่องเสรีภาพของสื่อมวลชน เรื่องภาระความรับผิดชอบ เรื่องการมีส่วนร่วมเรื่องความเป็นอิสระของฝ่ายตุลาการ เรื่องการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เรื่องการถ่วงดุลอำนาจ

ผมรู้สึกงงงวยอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีมานี่ เราพากันหลงทางจนขนาดไม่รู้ว่าเรามาจากไหน เราเป็นใคร และเรากำลังจะไปไหนแล้วหรือ เราลืมค่านิยมต่างๆ ของเราแล้วหรืออย่างไร เราเบาปัญญาขนาดนั้นเทียวหรือ ผมไม่กังวลหรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในอนาคต ที่ผมกังวลอย่างยิ่งก็คือ โลกของเราจะเป็นอย่างไร นี่เป็นคำถามที่สาหัสสากรรจ์ที่คุณต้องถามตัวเอง เรากำลังจะก้าวไปในทิศทางใด เราลืมหลักการพื้นฐานไปเสียแล้วหรือ เราลืมหลักศีลธรรมไปเสียแล้วหรือ"


จากเหตุการณ์ล่าสุดปัจจุบัน เมื่อมีการต่อต้านไม่ให้ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลยื่นแก้รัฐธรรมนูญเพื่อยกเลิกบางมาตราที่จะทำให้ขั้นตอนกระบวนการพิพากษาการทุจริตของอดีตนายกฯ-ทักษิณต้องตกไป (แทนที่จะมุ่งสนใจแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนหรือปัญหาทางภาคใต้ซึ่งสำคัญกว่า) ก็เกิดการคัดค้านอย่างกว้างขวาง แต่ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลก็ยืนกรานว่าตัวเองมาจากการเลือกตั้ง และไม่สนใจฟังเสียงคัดค้านนั้น จึงเกิดการประท้วงและทำท่าจะบานปลายมากขึ้นทุกที..

และเช่นเคย เหมือนทุกครั้งในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เราจะมีเสียงที่สามเกิดขึ้น นั่นคือ การสมานฉันท์ ให้ยอมๆกัน นั่นเป็นเพียงวิธีเดียวในการแก้ปัญหาจริงๆหรือ?

เราจะลืมถึงต้นเหตุของการขัดแย้งอีกแล้วหรือ? เราจะ "เอาน่า..คนไทยด้วยกัน"อีกแล้วหรือ? เราจะไม่มีใครสักคนที่จะกล้าชี้ชัดว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ อะไรที่จะต้องตัดสินให้เด็ดขาด หรือจะเอาแต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า Play Safe ยืนอยู่ตรงกลาง ฉันไม่เข้าข้างใครว่า ยอมๆกันน่า ตกลงกันได้ หรือ สมานฉันท์อย่างที่ชอบพูดกัน

เราลืมหลักการพื้นฐานไปเสียแล้วหรือ เราลืมหลักศีลธรรมไปเสียแล้วหรือ อย่างที่นายอานันท์ตั้งคำถาม!

ระหว่างความถูกต้องกับความผิด, ระหว่างความดีกับความเลว ไม่มีอะไรอยู่ตรงกลาง และไม่อาจประสานได้เพียงเพื่อ"ผลลัพธ์เฉพาะหน้า"!

เราต้องกล้าตัดสินใจและเอาให้ชัดกันไปเลย ว่าใครผิด ใครถูก จะเอาหัวหรือก้อยก็เอาไปเลยสักข้าง เราจะเอาสังคมแบบ "เน้นที่ผลลัพธ์เฉพาะหน้า" ก็เอาให้แน่ไปเลย แต่อย่าประสานกันจนกลายเป็นสังคมที่วิปริตอย่าง "โกงได้ ไม่เป็นไร" อย่างทุกวันนี้ เพื่อครั้งต่อไปเราจะไม่ได้ต้องมีการขัดแย้ง และมีทางสายที่สามมาบอกให้สมานฉันท์กันอีก!

หรือเราจะเอาแต่คอยปัดฝุ่นซุกไว้ใต้พรมไปวันๆ โดยไม่คิดที่จะจัดรื้อปัดกวาดให้มันสะอาดสักที ไม่มีอะไรต้องคอยซุกปิดซ่อนเร้น หรือเราจะต้องรอจนถึงวันที่ลูกหลานของเราสะดุดพรม ล้มลงหน้าคลุกฝุ่นและบาดเจ็บ หรือ เราจะรอจนถึงวันที่บ้านทั้งหลังพังทลายลงมา..

เลือกเอาเถอะครับ!


++++++++++++++++++++++++++++++++++++

*ขอแทรกด้วยบทความในวาระพิเศษนี้ เพียงหนึ่งถึงสองวัน แล้วจะกลับสู่บล็อกเดิม "ฉันตื่น เธอหลับ สลับฝัน คนละฟ้า" ต่อไป--

ผมคิดมาหลายวันแล้วว่าจะเขียนดีหรือไม่ แต่ก็ได้ตัดสินใจไปแล้ว ต้องขออภัย หากคิดแตกต่างไปจากท่าน.. ในบางเรื่องบางราว เราก็ผสมผสานความคิดได้ เราอาจจะยอมรับกันได้ เราสมานได้ แต่ในบางเรื่อง, บางครั้งเราก็ควรต้องมีการตัดสินใจให้แน่ชัดว่า เราจะเอาอย่างไรดี?

ขอบคุณครับ.




Create Date : 03 มิถุนายน 2551
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 20:38:30 น. 64 comments
Counter : 526 Pageviews.

 
สวัสดีครับปะการัง


สำหรับเช้าวันนี้...เปิดประเด็นได้สวยงามทีเดียวนะครับ

ผมคนหนึ่งหละไม่เห็นด้วยกับการเมืองในระบบโกงกินที่ผ่านมา

และเมื่อคราวก่อนผมก็ร่วมลงชื่อและร่วมไปชุมนุมกับเขาด้วย

แต่มาปีนี้ผมก็ได้แต่เฝ้าติดตามข่าวทางหน้าจอ บ้าง ทางเว็บไซต์บ้าง

ก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นรูปธรรมหรอก นอกจากเอาใจช่วย และอธิบายให้คนที่ไม่เข้าใจว่าฝั่งใดถูกและผิดในทัศนะที่เราเห็น

โดยส่วนตัวแล้วถือว่าเรื่องจริยธรรมของนักการเมืองนั้นควรจะมาก่อนสิ่งอื่นใดทีเดียว ความสามารถในส่วนอื่นๆนั้นมาทีหลัง


การต่อสู้คราวนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ

มันไม่เหมือนเมื่อก่อนตอน 14 ตุลา หรือ 6 ตุลา ที่ประชาชนมองเห็นไปในทิศทางเดียวกัน

แต่ตอนนี้ประชาชนต่างก็มีฝักมีฝ่ายเป็นของตัวเอง พลังในการขับไล่จึงไม่เต็มที่ ซ้ำยังมีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว


แล้วการขับไล่คนที่ขาด หิริ โอตัปปะ (ความละอายต่อความผิดบาป) ไม่ใช่ไล่ง่ายๆ

จะว่าไปแล้วก็เนื่องมาจากวัตถุนิยมก็มีส่วน เพราะคนมองเห็นว่าเงินสำคัญและวัตถุสำคัญ จึงยอมเพื่อสิ่งเหล่านี้กันหมด ตั้งแต่ประชาชนรากหญ้าจนถึงนักการเมืองผู้ทำท่าว่าทรงเกียรติ เพียงแต่ราคาถูกซื้อต่างกันเท่านั้นเอง และซื้อในรูปแบบที่ต่างกัน


เมื่อคราวเลือกตั้งที่ผ่านมา ผมก็ออกไปใช้สิทธิ์ เมื่อได้มาอย่างนี้แล้ว ผมก็ให้นึกประชดอยู่ในใจว่า การที่ประชาขนประเทศไทยเลือกผู้แทนมาอย่างไรนั้น มันก็เท่ากับฟ้องว่าประชาชนในประเทศนั้นเป็นแบบไหนเหมือนกัน

คือเพราะคุณยอมถูกซื้อ เมื่อถูกซื้อเขาก็เลือกคนแบบที่เห็นและเป็นอยู่มา ก็เลยได้ใครมาก็ไม่รู้มาปกครองบ้านเมือง ทั้งที่รู้ๆอยู่ชัดๆว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่ใครทำอะไรได้บ้างล่ะครับ



เมื่อถูกซื้อมาขนาดเลือกตั้งได้ (อย่างไม่น่าเชื่อ) จะทำกันอย่างไรดีครับพ่อแม่พี่น้อง

นึกอีกทีจะไปประชดประชาชนก็ไม่ถูก ก็ต้องด่าพวกนักการเมืองนั่นแหละที่อาศัยความเจ้าเล่ห์แสนกลหลอกซื้อพวกเขา

ปะการังครับ ! มันไม่ง่ายเลยในการต่อสู้ในครั้งนี้ แต่ผมก็แอบมีความหวังอยู่ในใจว่า ฝั่งที่ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงจะชนะ

เพราะผมยังเชื่อเรื่องธรรมะย่อมชนะอธรรม ถึงแม้จะต้องใช้เวลานานหน่อยก็ตาม

ผมยังเชื่อเรื่อง กรรม ที่แปลว่า การกระทำ
ใครทำอย่างได้ก็ได้รับผลอย่างนั้น ไม่ช้าก็เร็ว

แต่ผมเชื่อได้เลยว่า ขณะนี้ ปัจจุบันนาทีนี้ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ผมเชื่อว่าพวกที่ถูกด่าและขับไล่นั้นยากที่จะนอนหลับอย่างมีความสุข

เมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย ผมควรจะทำอย่างไรดี ทั้งที่ผมก็ไม่ได้ชอบฝ่ายที่ถูกขับไล่เลยแม้แต่น้อย

ผมเชื่อว่าโดยสามัญสำนึกของผู้คนนั้นยากที่จะเป็นกลางอย่างแท้จริง

"ไม่มีใครนั่งอยู่บนรั้วหรอก มีแต่อยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสมอแหละครับ"

ผมเชื่อว่าความคิดผมกับคุณก็ไม่แตกต่างกันหรอกในเรื่องนี้

แต่สิ่งที่ผมไม่อยากเห็นก็คือการใช้กำลัง หรือการะปะทะระหว่างคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าจะระหว่างฝ่ายใดกับฝ่ายใดก็ตาม

ผมไม่ได้ต้องการการประนีประนอมสมานฉันท์แบบปลอมๆ สมานฉันท์กันเพื่อกลุ่มนักการเมืองหรือเพื่อคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด

แต่ถ้าสมานฉันท์กันเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ผมเห็นด้วยครับ

ผมยังรู้สึกขอบคุณคุณสนธิ ที่ลุกขึ้นมา ขอบคุณสำราญ รอดเพชร ขอบคุณแกนนำหลายท่าน

ซึ่งมีชอบบ้างไม่ชอบบ้างในเรื่องส่วนตัวจุกจิกนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งแต่บุคคลเหล่านี้ก็กล้าหาญลุกขึ้นมาต่อสู้กลางแจ้ง

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆสำหรับเช้าวันนี้


โดย: โดม IP: 124.121.17.48 วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:8:08:08 น.  

 


โดย: Neilnuch_T วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:8:21:26 น.  

 

ขออภัยข้อความหล่นหาย...ตรงที่..

แต่ตอนนี้ประชาชนต่างก็มีฝักมีฝ่ายเป็นของตัวเอง พลังในการขับไล่จึงไม่เต็มที่

ซ้ำยังมีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว (หมายถึงว่า...ต่างฝ่ายต่างมีพวก ซึ่งทำให้เกิดการคานกัน คุณลองเข้าไปห้องดูราชดำเนินสิ ผมเข้าไปแล้วก็ได้แต่อึ้ง ไม่รู้จะเข้าไปสนทนาภาษาอะไร

เพราะแต่ละกระทู้...เฮ้อ...


โดย: โดม IP: 124.121.17.48 วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:8:26:56 น.  

 
สวัสดีค่ะปะการัง,

รอมานานแล้วค่ะ ว่าเมื่อไหร่หนอจะมีเรื่องการบ้านการเมืองแทรกเข้ามาบ้าง

และแล้ววันนั้นก็มาถึง
บ้านเกิดเมืองนอนเรา เป็นใครใครก็รัก จะมีแต่บางกลุ่ม บางคน ที่นอกจากจะไม่รักแล้ว ยังเฝ้าทำลายชาติ ขายชาติ เพื่อความร่ำรวย สุขสบาย ของตนเองและพวกพ้อง

เดี๋ยวเข้ามาใหม่ ช่วงนี้ขอทำงานในหน้าที่หน้าม้าขาประจำก่อนค่ะ

ไชโยคุณแม่น้องนิก, คุณหนอนฯ, บัว
วันนี้นกขมิ้นรีบบินเข้ามาก่อน ฮิฮิ


โดย: นกขมิ้น IP: 124.120.118.228 วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:8:35:59 น.  

 
เจ๋งมากค่ะ พี่ ได้ใจจริงๆ
สวัสดีค่ะพี่ปะการัง, พี่โดม, พี่หมิ้น

วันนี้พี่เปิดประเด็นมาได้ใจมากเลย พวกที่ส่งเสียงว่า ก็ตรูได้รับเลือกมานี่ เอ็งจะทำอะไรได้ พวก(มัน) ไม่มีความเป็นคนไทยเหลืออยู่หรอกค่ะ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็ไม่มีในใจหรือในสมองเลยสักนิด

เงินซื้อได้ทุกอย่างอย่างพี่โดมว่าแหละค่ะ ส่วนพวกเราที่ซื้อไม่ได้ ก็เป็นเสียงส่วนน้อย ที่ถึงพวกมันได้ยิน แต่ก็ทำหูทวนลมนะคะ
การชุมนุมเรียกร้องเกือบทุกครั้ง ถ้ามีโอกาสบัวจะไปร่วมด้วย ถึงไม่ได้ไปถึงเมืองหลวง แต่บ้านเราก็มีเวทีที่สะพานหิน (พี่ปะการังคงจำได้) บัวก็ช่วยเหลือเรื่องทุนทรัพย์ไปบ้างตามกำลัง ไม่ก็ร่วมซื้อเสื้อยืดบ้าง สมทบทุนค่าใช้จ่ายบ้าง

พวกเพื่อนๆ กับบัว พูดกันบ่อยๆ ว่า เมืองไทยเราน่ามีพวก "พลีชีพ" หรือพวก " กามิกาเซ่" จู่โจม ไอ้เลวพวกนั้นเนอะ ให้มันสิ้นซากไปเลย ถึงจะไม่อยากเห็นคนไทยปะทะคนไทยด้วยกันเอง แต่คนบางกลุ่มไม่มีความเป็น "ไทย" เหลืออยู่แล้วมั้งคะ เหมือนพวกซอมบี้ที่โดนฆ่าให้ตายเป็นผีดิบแล้วโดนล้างสมองไปแล้ว ยังไงยังงั้นเลย

บัวก็เชื่อเหมือนพี่โดมนะว่า "ธรรมะย่อมชนะอธรรม" แต่เมื่อไหร่ละคะพี่ เราจะต้องทนกันอีกถึงเมื่อไหร่ พวกนี้ถึงจะสิ้นไปสักที เกลียดๆๆๆ พวกมัน

ฮือๆ ขอโทษนะคะ ใช้คำไม่สุภาพเยอะ

ป.ล. ตอนนี้มี ที่ผิด 3 จุดนะคะ พี่ปะการัง ไม่บอกว่าตรงไหน อิ อิ


โดย: BUATALAY IP: 203.156.36.198 วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:10:34:30 น.  

 
ตามมาติดๆจ้ะคุณนกขมิ้น

ขอปรบมือ กับสำนึกข้อนี้ซักหน่อย
อย่างที่นักการเมืองบางคนไม่มีนะพี่

ได้คุยกับน้องคนนึงค่ะ เราก็ถามเขา
เรื่องบ้านเมืองเนี่ย น้องเขาไม่สนใจ
คิดไปแล้วน่าเศร้าอ่ะพี่ เราไม่ได้หวัง
ให้เขาเลือกข้างด้วยซ้ำไปนะ
แต่บ้านเมืองที่ตัวเองอยู่เนี่ย ไม่รู้เลยเหรอ
ว่าเขามีอะไรกันที่ไหน มีอะไรเกิดขึ้น

ที่เศร้าเพราะนึกสงสารน้องเขาอยู่ในใจว่า
ชีวิตน้องอ่ะ มันสวยสดงดงามตลอดเวลา
เลยหรืออย่างไร ถ้าไม่หัดมองโลก
ให้ไกลกว่าสิ่งรอบตัว วันหนึ่งที่ได้
เติบใหญ่ ในสังคมราชการอ่ะ เขาจะ
เท่าทันคนอื่นหรือปล่าวก็ไม่รู้

เซ็งเลยพี่

อยากให้พี่ตะเบบูญ่า ได้มาอ่านบทความ
หน้านี้จังเลยพี่ปะการัง

พี่หนอนฯ ช่วยส่งข่าวบอกพี่ตะเบบูญ่า
ให้ไปใช้เนทนอกสถานที่ด้วยนะจ้ะ
เดี๋ยวพี่เรากระอัก เพราะไม่ได้อ่าน

ขอบคุณค่ะพี่หนอนฯ


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.92.39 วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:10:48:20 น.  

 
จ๊าก โดนคุณบัวปาดหน้า


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.92.39 วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:10:49:16 น.  

 
และแล้วพี่ปะการังก็เปิดประเด็นเรื่องนี้จนได้
นาน ๆ จะเห็นพี่โดมแสดงความเห็นกับเรื่องการบ้านการเมืองอย่างนี้สักครั้ง
เรื่องนี้...เข้าใจว่าคงทำให้หลายคนอึดอัดใจอย่างยิ่ง


เล่านิดนึงก่อน
วันหนึ่งในรายการข่าวยอดฮิตตอนเช้า
ได้นำเทปท่านนายกฯ ที่พูดถึงการจะสลายม็อบมาให้ชมกัน
หนูแป้ง (เด็ก ป. 4) ขณะกำลังแต่งตัวไปโรงเรียนและดูภาพข่าวในทีวี
ถามว่า “แม่ ๆ ที่โรงเรียนหนู เพื่อน ๆ เขาพูดกันมากเลยว่า
คนนี้น่ะ (ชี้ไปที่ภาพท่านนายกฯ) เอาแต่ชิมโน่นชิมนี่ แล้วพูด ๆ ๆ ไม่เห็นทำอะไรเลย”
นี่เป็นภาพสะท้อนของท่านนายกฯ ประเทศไทยที่เด็กเล็ก ๆ เขาเล่าสู่กันฟัง (คงได้ยินผู้ใหญ่พูด)

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ได้มีโอกาสกินอาหารกลางวันร่วมกัน พ่อ แม่ และลูก พร้อมหน้าพร้อมตา ที่ห้องอาหารแห่งหนึ่ง
เนื่องจากเป็นครอบครัวที่ไม่ค่อยได้อยู่กันพร้อมหน้าหรือมีโอกาสกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันสักครั้ง (ต่างจากครอบครัวอื่น)
เรื่องที่พูดคุยกันที่โต๊ะอาหารจึงน่าจะเป็นเรื่องราวของครอบครัว ของลูก ๆ หรือสิ่งบันเทิงเริงใจอื่น ๆ
แต่ทว่าบทสนทนาที่โต๊ะอาหารวันนั้น กลับเป็นเรื่องของกลุ่มพันธมิตร เรื่องของรัฐบาล เรื่องของการบ้านการเมือง เรื่องปัญหาปากท้องของประชาชนตาดำ ๆ อย่างพวกเรา ฯลฯ นี่เป็นภาพสะท้อนสถานการณ์บ้านเมืองที่หนอนฯ เข้าใจว่า ทุกฝ่ายต่างก็รู้สึกอึดอัด และเป็นห่วงว่าเรื่องจะลงเอยอย่างไร

หนอนฯ เห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่า ผิดกับถูก หรือชั่วกับดี เป็นเรื่องที่รอมชอมกันไม่ได้ เป็นกลางไม่ได้ มันต้องเลือกข้างใดข้างหนึ่งแน่นอน

อย่างไรเสีย หนอนฯ ก็ยังมองว่าต้องมีกลุ่มคนอย่างกลุ่มแกนนำและเครือข่ายพันธมิตรที่เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มคนผู้กล้าหาญและเป็นผู้เสียสละความสุขส่วนตน เพราะต้องทนตากแดดตากฝนตากน้ำค้าง มาเรียกร้องความถูกต้อง เปิดหูเปิดตาประชาชน ให้ข่าวสารแก่ประชาชน และคานอำนาจกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน (แต่ทำประโยชน์เพื่อประชาชนน้อยกว่าประโยชน์ส่วนตน)

ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ประชาชนคนหนึ่งซึ่งอาจดูเล็กจ้อยเมื่ออยู่เพียงลำพังโดดเดี่ยว แต่เมื่อประชาชนซึ่งเล็กจ้อยหลาย ๆ คนรวมเป็นหนึ่งเดียวย่อมเกิดพลังเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ได้ ว่าแต่ว่าประชาชนที่เล็กจ้อยหลาย ๆ คนเหล่านั้นยืนหยัดข้างใครเท่านั้นเอง มีจำนวนเท่าไรที่ตื่นจากความฝันและได้เห็นความจริงแล้ว มีจำนวนเท่าไรที่พร้อมจะเลือกข้างความถูกต้องมากกว่าการยืนอยู่ตรงกลางหรือข้างความไม่ถูกต้อง มีจำนวนเท่าไรที่ยอมเหนื่อยยากลำบากในวันนี้เพื่อรักษาบางสิ่งบางอย่างเหลือไว้ให้ลูกหลาน ฯลฯ

แม้จะรู้สึกทดท้อต่อระบบการเมืองของไทยเรา แต่หนอนฯ ก็เชื่อว่า เราคงฝ่าฟันวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปได้อีกครั้ง แต่ก็เห็นด้วยว่าไม่ควรเป็นการแก้ทุกสิ่งอย่างเป็นการเฉพาะหน้า แล้วก็หมักหมมปัญหาให้ต้องกลับมาเรียกร้องให้แก้ไขอีกในอนาคต

******

พี่ปะการังและแฟนคลับ

สลับฉากจากความตึงเครียดชวนไปดู ปกหนังสือ "โลกในเม็ดทราย" ของพี่โดม ที่บล็อกพ่อพเยียค่ะ จั่วหัวเรื่องบล็อกไว้ว่า
"หนังสือเล่มนี้ไม่ซื้อไม่ว่า กรุณาลูบคลำด้วย"

หนอนฯ เห็นปกแล้วก็อยากลูบคลำ (ปก) กะเขาเหมือนกัน แค่ดูด้วยตาก็รู้สึกว่าสวยคลากสิกซะแล้ว ถ้าได้สัมผัสคงรู้สึกอยากอ่านไม่น้อย


โดย: หนอนฯ IP: 202.28.180.202 วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:12:25:38 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณหนอน,

เห็นแว๊บๆ ที่บล็อกพ่อพเยีย บอกว่าจะรีบมาบล็อกปะการัง

นกขมิ้นก็บินตามหลังมาติดๆ เลยค่ะ
คุณหนอนวิ่งเข้าเส้นชัยก่อนแบบฉิวเฉียด

เรื่องเล่าได้ใจมาก
ได้ดู clip เวทีพันธมิตรเห็นคุณหรั่งร้องเพลงรักเธอประเทศไทย แล้วยิ่งเกลียดพวกขายชาติที่สุด แต่สงสัยว่าพวกที่เคยประกาศตัวว่าเป็นศิลปินเพื่อชีวิตทั้งหลายหายไปไหน หรือว่ามัวแต่ไปเลี้ยงไก่ชนจนลืมอุดมการณ์เดิมๆ เสียหมด

เมื่อตอน 14 ตุลา ไปธรรมศาสตร์ทุกวัน ไปนั่งฟังพวกรุ่นพี่พูด มาตอนนี้ก็ตั้งใจจะไป (ถ้าไม่ถูกสลายด้วยวิชามารของพวกหน้าผลไม้ซะก่อน)





โดย: นกขมิ้น IP: 124.120.123.157 วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:12:52:44 น.  

 
ขออนุญาติมาเติมอาหารสมองยามเช้าค่ะ ..เป็นบทความที่ไม่ชี้นำ แต่ชวนให้ขบคิดตาม ...ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆค่ะ


โดย: shin chan (alei ) วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:15:52:34 น.  

 
หนูเห็นด้วยกับอาค่ะ

อยากให้มีจิตสำนึกกันบ้าง
ตอนเลือกตั้งยกว่าทำเพื่อประชาชน
หลังเลือกตั้ง ผมเป็นส.ส มีสิทธิ์มากกว่า
เฮ้อ

ปัญหาบ้านเมืองมีให้แก้มากมาย
แต่ก็ขวนขวายแต่จะแก้รัฐธรรมนูญ
ประชาชนไม่ได้กินรัฐธรรมนูญ
แต่ดินข้าวกืนปลาที่ราคาแพง
ซึ่งพวกเขาใช้เงินประชาชนซื้อเลยไม่รู้ค่าของเงินว่ามันยากแค่ไหนที่จะได้มา

ถ้าตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนไม่ดิ้นรนแต่จะแก้รัฐธรรมนูญวันนี้คงจะดีกว่านี้แล้วผ่านไปประชาชนก็คงยินยอมให้แก้ไข
แต่ไม่ใช่แก้เฉพาะกฏเกี่ยวกับส.สซึ่งประชาชนไม่มีสิทธิ์ที่ได้เสียอะไรเลย นอกจากท่านๆทั้งหลาย


วันนี้หนูขอแสดงความคิดหน่อยนะคะ อึดอัดกับสังคมไทยที่เห็นแก่ตัวเห็นแก่พรรคพวกค่ะ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:15:58:57 น.  

 
หนูมาแย้ววววว....

สวัสดีพี่ปะการัง แม่น้องนิก พี่หนอนฯและแฟนคลับทุกท่านเจ้าค่ะ

ไม่ได้มาเกือบสิบวัน โห...ตาลาย
ทั้งหน้านี้และหน้าโน้น...เยอะ..น่าอ่านไปโม้ดดดด...
หนูอ่านหน้าจอไม่ไหวหรอกค่ะ
ขอพิมพ์ไปละเลียดอ่าน
แล้วพรุ่งนี้มาตอบนะ..นะ..นะ
ตอนนี้เกือบสี่ทุ่มแล้ว เด็กอนามัยต้องไปนอนก่อนค่ะ


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 202.91.18.205 วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:21:26:27 น.  

 
ในที่สุด พันธมิตรตะเบบูญ่าก็มาแล้ว
เห็นยังพี่ปะการัง ไม่มา ไม่ใช่เธอ

น่ากลัว ซ่อมบ้านซ่อนเงินใหญ่เลยพี่

แซวเล่นจ้ะพี่ ชีวิตช่วงนี้ เต็มไปด้วยสาระ
ซะจนเหนื่อยใจพิกล อยากปิดเทอมเร็วๆ
แม่จะได้นอนตื่นสายทุ๊กวัน
เพราะต้องดู ASTV ตอนดึกอ่ะพี่


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.104.77 วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:2:20:32 น.  

 
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาช่วยแสดงความคิดเห็นกันนะครับ

ก็อย่างที่โดมพูด การต่อสู้ครั้งนี้คงเหน็ดเหนื่อยและยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร-- แต่เดิมพันสูงมาก ถ้าครั้งนี้แพ้ ผมเชื่อว่าประเทศไทยคงเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และคงไม่มีการต่อสู้ของภาคประชาชนอีกต่อไป..

ก็ดูอย่างการชุมนุมครั้งนี้สิ คนส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ วัยทำงาน จนถึงคนชรา แตกต่างจากสมัย 14 ตุลา ที่เป็นการเคลื่อนไหวของนักเรียน นักศึกษา คนรุ่นใหม่วัยเยาว์--

หากการชุมนุมครั้งนี้ไม่สามารถพลิกให้สังคมเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีกว่านี้ เราก็คงไม่ต้องหวังอะไรกับคนรุ่นต่อไปแล้วกระมัง เพราะเด็กทุกวันนี้ไม่รู้เรื่องการบ้านการเมือง นอกจากนักร้องเกาหลี ดาราคนไหนเป็นแฟนกับใคร.. แล้วเด็กที่จะกำลังจะโตมาในรุ่นต่อไป ก็ยิ่งน่าเป็นห่วงเข้าไปอีก เพราะพ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงดูเอง แต่โตมาด้วยมือพี่เลี้ยงพม่า!!

แล้วเราจะฝากความหวังกับใครดี?

ทุกวันนี้ ขนาดบ้านเมืองโดนปู้ยี่ปู้ยำขนาดนี้ เรายังมีคนระดับอาจารย์มหาวิทยาลัยออกมาบอกให้ติดริบบิ้นสีขาว ไม่เข้าข้างใคร.. ขออยู่ตรงกลาง ใครถูก ใครผิด ฉันก็จะวางเฉย ปลอดภัยไว้ก่อน

..เราจะอยู่กันอย่างนี้ต่อไปหรือ?

เพราะการวางเฉยไม่ใช่หรือ ที่ทำให้นักการเมืองได้ใจและทำกับบ้านเมืองขนาดนี้

ถึงขนาดนี้แล้ว เรายังไม่รู้ไม่ชี้ ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาอีกหรือ? เราจะอยู่กันนิ่งๆ สงบเสงี่ยม เป็นพลเมืองเรียบร้อยบนเส้นทางสีขาวหรือ?

ยิ่งตอนนี้ รัฐบาลพยายามชี้นำให้คนเห็นว่าการชุมนุมนั้นเป็นการสร้างความวุ่นวาย, ทำให้รถติด ฯลฯ

ถามว่า ความวุ่นวายนั้นมีสาเหตุมาจากไหน? ตลอดมาทุกยุคทุกสมัย.. ถ้ารัฐบาลทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ของประชาชน เราก็คงไม่มีกลุ่มพันธมิตรออกมา, เราก็จะไม่มีชาวนา ชาวไร่ ที่มีปัญหาเดือดร้อนออกมา, ถ้าทุกคนมีความสุข สบายดี จะมีใครที่อยากออกมาตากฝน ทนแดด นั่งประท้วงกลางถนน?

ปัญหารถติดนั่นก็เหมือนกัน เรามีมานานแล้ว.. ตอนนี้อาจจะติดขัดเพิ่มขึ้นอีกสาย ผมรู้ว่าผู้คนลำบากเดือดร้อน แต่ถามว่า เราเสียสละกันได้ไหม..

ประเทศเราเคยอยู่กันสบายเสียจนชิน ไม่เคยสิ้นชาติ ไม่เคยแพ้สงครามอย่างชาติอื่น ที่ผู้คนต้องเสียสละเพื่อกอบกู้สร้างชาติบ้านเมือง เราคิดแต่ปัญหาตัวเองว่ารถติดอย่างนั้นหรือ?

เราจะให้ปัญหารถติดมาเป็นข้ออ้าง เพื่อให้การชุมนุมหมดความชอบธรรม แล้วผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติในระยะยาวถูกทำร้ายทำลายต่อไป เพราะไม่มีกระบวนการใดขัดขวางเขาได้อย่างนั้นหรือ?

ผู้ปกครองที่ต้องพาลูกไปส่งโรงเรียนแถวนั้น หรือเด็กนักเรียนเอง เคยคิดสงสัยบ้างไหมว่า พวกเขามาชุมนุมกันทำไม, เพราะอะไร, เขาทำเพื่ออะไร? เรื่องราวเป็นอย่างไร?

เคยคิดสงสัย หาคำตอบที่เป็นความรู้ให้ตัวเองไหม?

หรือจะคิดเพียงว่า พวกนี้วุ่นวาย ทำฉันเดือดร้อน ฉันไม่ยุ่งด้วย ฉันไม่เข้าข้างใคร ฉันไม่สนใจ ฉันจะอยู่ของฉันอย่างนี้แหละ?

รุ่นเราโตมาพร้อมกับความทรงจำที่ว่า ครั้งหนึ่งเมื่อ 14 ตุลา ฉันอยู่ที่ไหน ฉันทำอะไร..

แต่เด็กรุ่นใหม่จะเติบโตขึ้นมาอย่างว่างเปล่า ไร้ราก เพราะดูแต่ละครทีวี และไปเวทีคอนเสิร์ตนักร้องเกาหลี แทนที่จะสนใจอยากรู้ว่า ที่เวทีพันธมิตร เขาออกมาทำไม และกำลังทำอะไร?

เอาแค่คิดสงสัยและอยากรู้ก็พอ ยังไม่ต้องพูดถึงสำนึกที่จะร่วมมีบทบาทในการรักษาบ้านเมือง..

คนที่ออกมารณรงค์ติดริบบิ้นสีขาว ขออยู่ตรงกลาง ไม่สนว่าข้างไหนเป็นอย่างไร แค่ออกมาติดริบบิ้นให้ผู้คน แล้วก็กลับบ้านไปนอนหลับสบายดูทีวี ไม่ต้องคิดอะไรมาก.. อย่างนั้น ทำเพื่อชาติบ้านเมือง เป็นฮีโร่ที่แท้จริงหรือ?

นอกจากไม่ช่วยแก้ปัญหาในวันนี้ ยังสร้างคนรุ่นใหม่ที่คิดไม่เป็น, เอาตัวรอด, เพิกเฉยต่อความเป็นไปของสังคม..

เราจะอยู่กันอย่างนี้ต่อไปหรือ?

. . . . . . . . . . .











โดย: ปะการัง (ชบาฉาย ) วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:9:10:09 น.  

 
นึกไม่ถึงว่าโดมจะเขียนยาวขนาดนี้ รู้สึกจะเป็นครั้งแรกที่เห็น ดีใจจริงๆที่ได้อ่าน

....

Neilnuch_Tยิ้มแบบนี้แปลว่าเห็นด้วยใช่ไหมครับ

....

คราวหน้า ไม่ต้องรอผมครับ นกขมิ้น อยากเริ่มเรื่องอะไร ก็เชิญเลยครับ

ตอน 14 ตุลา เอ.. ตอนนั้น เราอายุเท่าไหร่นะ.. จำได้แต่ว่าอยู่แถวเวทีสะพานหิน ตอนนั้น บัวฯ ยังขี้มูกเกรอะอยู่มั้ง?

....

ยังแข็งขันเหมือนเดิมนะ BUATALAY พี่รู้ตรงจุดหนึ่ง- "คาหนังคา" ใช่ไหม? ส่วนอีกสองจุดเฉลยมาเลย ขี้เกียจหา.. แหะ แหะ

....

พี่ว่า แม่น้องนิกเป็นแฟนพันธมิตรตัวจริง ดูASTV ทุกวัน น่าจะรู้อะไรมากกว่าพี่อีกนะ ลองลุยบ้างดิ

....

แหม ครอบครัวหนอนฯนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ แม้แต่น้องแป้งยังรู้ขนาดนี้ ทำให้ค่อยมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย ว่าประเทศไทยยังมีหวัง..

แว่บไปดูมาแล้ว ปกหนังสือของโดม สวยบาดใจจริงๆนะ

....

สบายดีไหมครับ shin chan ไม่ได้คุยกันเสียนาน ยังอยู่ที่นู่นหรือครับ.. ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะครับ

....

อาดีใจจริงๆ ที่หนูมัยดีนาห์ แสดงความคิดเห็นครับ

....

อ่านแล้ว ตะเบบูญ่า ช่วยมาแสดงความคิดเห็นดังๆด้วยนะ นะ นะ

....


โดย: ปะการัง (ชบาฉาย ) วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:9:45:30 น.  

 
พี่ปะการังคะ

ว่าเรื่องการบ้านการเมือง บางครั้งก็รู้สึกเหมือนทดท้อน่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามันจะลงเอยอย่างไร

แต่ดูเหมือนอีกข้างจะบอกว่า ปล่อย ๆ พวกชุมนุมเขาไปเหอะ เจอะฟ้าเจอะฝนทุกวันผู้คนก็จะเหนื่อยหน่ายไปเอง

วันศุกร์นี้ได้ข่าวว่าชาวนาอาจจะปิดถนนที่จะผ่านเข้ากรุงเทพฯ 4 มุมเมืองถ้าข้อเสนอและข้อเรียกร้องไม่เป็นผล รวมทั้งกลุ่มรถแท็กซี่ก็อาจจะรอผลการเจรจาในวันศุกร์นี้เช่นกัน

เหล่านี้คงเป็นเรื่องปากท้องของประชาชนด้วย

พี่ปะการังไม่ต้องพูดถึงเด็กนักศึกษาสมัยนี้ที่ส่วนน้อยจะสนใจเรื่องของบ้านเมือง แม้แต่ที่บ้าน (หมายถึงญาติ ๆ) เขาเห็นหนอนฯ ติดตามข่าวคราวจาก ASTV ก็ยังแบบว่า ขอโทษนะ ขอเปลี่ยนช่องไปดูละครทีวีได้มั้ย เฮ้อ...น่าเบื่อ...ชุมนุมกันอยู่ได้ไม่เลิกซักกะที ฯลฯ อะไรทำนองนั้น

ตอนนี้ก็เลยต้องพก MP4 รับคลื่น 97.75 เพื่อฟังความเคลื่อนไหวแทนในกรณีไม่สามารถดูทีวีได้

แต่ก็รับฟังข่าวสารจากสื่อและสถานีอื่นด้วยค่ะ ไม่ใช่แต่ที่ ASTV เจ้าเดียวค่ะ

สำหรับหนังสือปกสวยเรื่อง "โลกในเม็ดทราย" เท่าที่ทราบมาพี่โดมตั้งใจมอบให้พี่ปะการังอยู่แล้ว หนอนฯ กำลังรอหนังสือจากพี่เขาอยู่และจะส่งไปพร้อมกับหนังสืออีกระลอกน่ะค่ะ อดใจรอซักกะติ๊ด





โดย: หนอนฯ IP: 202.28.180.202 วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:13:12:25 น.  

 
ลุยไปทางไหนล่ะคะพี่ปะการัง
เราอยู่ถึงอเมริกาโน่นอ่ะ
ลุยได้ ก็แค่ในกรอบของฝรั่งเขา

แหมนะ ไอ้เครื่องดีวีดีของเรารึ
มันก็อัดไม่ได้ กำลังคิดว่า จะทำไง
ให้พี่ได้ดูของจริงบ้าง ไม่เพียงแต่
เอเอสนะพี่ ไทยทีวีสองช่องที่เมกา
ก็ถ่ายทอดสด อีกฝ่ายนึงตลอด
ด่าแบบทำลายประเทศชาติงั้นเลย
คลิปที่พี่ได้เห็นคุณเพ็ญเธอ ก็มาจาก
การถ่ายทอดออกทีวีหนึ่งในสองช่อง
นั้นแหละพี่ และจะว่า ไม่ได้ทำได้ไง
แล้วจะว่า..ไม่ผิด ก็เกินไปล่ะ

แม่น้องนิก ฟังนิดนึง ยังกดเปลี่ยนช่อง
มันหยาบเกินไปอ่ะพี่ แหมนะ..
ถ้าอดีตผบ.ทบ.ได้ฟังที่หญิงเพ็ญ
ด่าถึงเรื่องในมุ้งของท่าน คงอยู่ไม่ติด
เสียดาย เขาอยู่ในร่างผู้ชายนะ
คำพูด มันไม่รับกับใบหน้าอ่ะ

แต่ตอนนี้ อิช่องนั้น เงียบดั่งสายลม
ไม่กล้าออกมาด่าสาด เพราะเจอการ
ฟ้องร้องไปเต็มๆ ด้วยความสะใจ

ไว้เจอเฮียตุง จะแย๊บๆถามเฮียเขา
ถ้าหนูเขียนเก่งอย่างพี่นะ จะเหลือเรอะ
ขอเฮียแกเขียนลงหนังสือพิมพ์ไปนานแล้ว แกอ่ะ อยู่ข้างพันธมิตรไปเต็มๆ
แกออกเอเอสทีวีบ่อยไปเวลาไปเมืองไทย



โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.85.43 วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:23:54:33 น.  

 
ตอนเช้า เม้นท์เสร็จ กลับมาเม้นท์ใหม่
อีกช่วงนึงค่ะพี่ปะการัง

ขอบคุณพี่หนอนฯมากค่ะพี่
ที่จะส่งหนังสือ ให้คนอวุโส
แถวๆซานดิฯ กับน้องที่แอลเอ
(คิๆ) กราบงามๆค่ะพี่
เดี๋ยวไปขอบคุณคุณโดมด้วยพี่

พี่หนอนฯเชื่อป่ะ ขวัญเรือน
ราคาเท่าเดิม แต่เพราะความอวบอ้วน
ของมัน บวกน้ำมันแพง
ทางร้านเลยขอขึ้นราคาเป็นเล่มละ
6 ดอล ไม่ไหวอ่ะพี่ เดือนนึงต้องจ่าย
12 ดอล ก็หืดขึ้นคอนะพี่นะ
เลยเปลี่ยนไปรับ สกุลไทยอ่ะ
เล่มละสามดอลเอง เพราะมันบาง

พี่ปะการังจ้ะ ตะกี้ดูASTV
คุณอัญชลีเธอบอกว่า..พี่น้องคะ
น้ำที่ดื่มๆ ขอให้กินอย่างรู้ค่า
อย่าทิ้งขว้างให้เสียของ
เพราะน้ำนั้น หยาดมาจากฟากฟ้า
สุราลัย กรุณาอย่ากินทิ้งกินขว้าง

อยากให้พี่หนอนฯ ไปดื่มน้ำจังเลยอ่ะ





โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.85.43 วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:3:33:30 น.  

 
ส่งข่าวถึงพี่ปะการังและแม่น้องนิก

ตอนนี้หนังสือ โลกในเม็ดทราย อยู่ในมือหนอนฯ แล้วล่ะหนา วันสองวันนี้ (ที่ต้องใช้เวลา เพราะต้องไปหาก่อนว่าหนังสือที่รับปากว่าจะส่งไปให้พี่ปะการังมันมีเล่มไหนบ้างล่ะสิ เวลามันนานจัด ซ่อมบ้านด้วย ก็เลยไม่เป็นที่เป็นทางนัก)

ได้ลูบ ๆ คลำ ๆ ปกสวยคลาสสิกที่ผู้เขียนเปรียบไว้ว่าเหมือนยีนส์ฟอกที่ดูเก๋าแล้วก็อยากให้พี่ปะการังและแม่น้องนิกซึ่งอยู่ไกลได้สัมผัสบ้าง

ในเล่มอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นงานเขียนคอลัมน์ของพี่เขา (มีเรื่องที่เขียนในบล็อกแซมอยู่เล็กน้อย) แต่ก็คิดว่านอกจากประโยชน์จากการอ่านแล้ว หนังสือยังจัดเป็นของที่ระลึกอย่างหนึ่งได้เช่นกัน เมื่อมีลายเซ็นสดของผู้เขียนเขียนมอบไว้ให้ คนรักหนังสือก็มักอยากสะสมหนังสือเป็นธรรมดาค่ะ

อดใจรอนิดนะจ๊ะ


โดย: หนอนฯ IP: 58.9.170.113 วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:7:45:04 น.  

 
ขอแวะมาตอบสั้นๆก่อนนะครับ

ขอบคุณแม่น้องนิกที่เล่าให้ฟังครับ ถ้าเขียนกับเฮียตุงเมื่อไหร่ บอกด้วยนะ

ขอบคุณหนอนฯมากครับ ส่งเท่าที่มีก็พอ ไม่ต้องลำบากลำบนหรอกครับ ทำเท่าที่สะดวก อย่าให้ถึงกับเป็นภาระเลยครับ

ขอบคุณอีกครั้ง


โดย: ปะการัง IP: 72.197.61.207 วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:8:16:43 น.  

 
พี่หนอนฯคะ ขอบคุณค่ะพี่
อยากสัมผัสหนึ่งละ อีกหนึ่งคือ
ยิ้มได้ทุกครั้ง ที่คุณโดมเขียนข้อความ
และลายเซ็นให้แม่น้องนิกค่ะ

ข้อความ เป็นอะไรที่น่ารัก
ทำให้ได้ยิ้มเสมอ คุณโดมเขียน
ราวกับว่า แม่น้องนิกเป็นเด็กๆ
อ่านแล้ว ชื่นใจไงไม่รู้พี่..อิๆ
อ่านกี่ปีๆ เราก็ไม่แก่เงี้ย

มีความสุขทุกรอบค่ะ เวลาได้รับหนังสือ
จากพี่ๆอ่ะ เพราะมันหมายถึง
ความคิดถึง ความห่วงใยและมิตรภาพ
เกรงใจก็เกรงใจนะพี่ แต่รู้ว่าอย่าเอ่ยปาก
พูดเรื่องเงิน เดี๋ยวเจ็บใจฟรีๆ

โห..เม้นท์ใส่อีโมไม่ได้ ช่างน่าโมโห
ต้องล๊อกอิน..อะไรของเค้ากั๊น


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.84.90 วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:10:09:52 น.  

 
แม่น้องนิกคะ
สกุลไทยน่ะ รายสัปดาห์นะคะ คิดแล้วไม่เท่ากันเหรอคะ ถ้าเจอเดือนที่มีห้าสัปดาห์ก็เกินนะคะนั่น

อะฮู้ เจ๋งๆ แม่น้องนิกรู้มั้ยคะ เพื่อนบัวนะ เคยทำงานที่เดอะเนชั่น สมัยที่ นังเพ็ญ เธอ เป็นฝ่ายข่าว ตปท. เพื่อนบัวน่ะเคยชื่นชมมากๆ เดี๋ยวนี้เพื่อนบัวเกลียดยิ่งกว่าอะไรที่น่าขยะแขยงอีกค่ะ แล้วนังนี่เป็นคนไม่รู้เพศ อย่ามาเป็นเพศหญิงเหมือนเราเลยค่ะ เสียสถาบันเพศหญิงหมด

ช่ายๆ "หงุหงิ" เหมือนกันค่ะ ใช้ อีโมฯ ไม่ได้ เกิดอะไรขึ้น ก็ไม่ทราบค่ะ

พี่ปะการังคะ พี่เขียนคำว่า "ผลลัพธ์" ถูก 1 ครั้ง และเขียนผิด 2 ครั้งค่ะ


โดย: BUATALAY IP: 203.156.36.181 วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:10:41:05 น.  

 
พี่ปะการัง พี่หนอนฯ พี่โดม พูดได้ถูกใจตรงใจหนูที่สุดแล้วค่ะ..
หนูเห็นด้วยทุกประการ
ความดีความเลวรอมชอมไม่ได้
แต่ที่สะท้อนใจจนถึงขั้นทดท้อก็คือ
เอาผิด ลงโทษไม่ได้เพราะ แพ้อำนาจเงิน
ทำไมคนร้ายอายุยืน

หนูเคยคิดว่า ณ วันนี้ ถ้าไม่มีนายคนนั้นเพียงคนเดียว
ทุกอย่างคงจบ
ไม่ต้องมีการแก้นั่นแก้นี่
หรือออกมาพูดจาเหิมเกริมเพื่อเอาใจคนคนเดียว
ขนาดไม่มีตำแหน่ง เป็นแค่นกขมิ้น
ยังมีปัญญาเสนอหน้าพาแขกอาหรับมาดูลู่ทาง
ทำไมคิดได้แต่เรื่องขายชาติเรื่องเดียว หนูไม่เข้าใจจริงๆ

แม่น้องนิกจ๊ะ
อย่าแซวเลย ตอนนี้ไม่ได้ซ่อมบ้านซุกเงินอะไรทั้งสิ้น
หลายวันมานี้ง่วนอยู่หน้าไอซียูตลอดล่ะจ้ะ
ยังยุ่งไม่หาย...



โดย: ตะเบบูญ่า IP: 202.91.19.204 วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:22:19:13 น.  

 
คุณบัวเอ๊ย..นี่ถ้าไม่บอกว่ามันออกเป็น
รายสัปดาห์เนี่ย จะไม่รู้เลยนะคะ
อกจะแตก ตกใจน่ะ ไม่ต่างกันเล๊ย

ก็เลย..โทรไปหาพี่เขา ว่าขอกลับไปรับ
ขวัญเรือนอย่างเดิมก่อน แต่สกุลไทย
ที่เก็บไว้ให้ ก็ไม่ต้องคืน จะซื้อมาอ่าน
ดูว่า ชอบมั๊ย ถ้าชอบค่อยเปลี่ยน

บางที..แม่น้องนิกเป็นคนที่ว่า
แพงไม่ว่า ถ้าพอใจน่ะค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณบัว ที่บอกให้สะดุ้งนิดๆ
(แม่น้องนิกลูกบ้าเยอะค่ะคุณบัว
โลเลก็พอประมาณ ความอยากก็เยอะ)

+++++++++++
โถ พี่ตะเบบูญ่าเรา เหนื่อยก็ไม่บอก
เราก็นึกว่า มีความสุข ตีแบท ตีเทนนิส
เอาใจช่วยนะคะพี่..อย่างน้อยๆ
พี่ก็ไม่ความสุขทางหนึ่งใช่มั๊ยล่ะคะ
ส่งแรงใจไปช่วยพี่ ทำความดี
ทำเหนื่อยแค่ไหน ก็มีความสุข

โทษทีพี่ เราก็นึกว่า พี่ซ่อมบ้าน
จะให้เสร็จๆอ่ะค่ะ


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.76.34 วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:2:11:40 น.  

 
เฮ้อ พี่..เข้าไปอ่านราชดำเนิน
อย่างคุณโดมบอก อ่านแล้วเศร้าใจอ่ะ

ดูเหมือนว่า คนไทยชอบความร่ำรวย
ที่ทักษิณหยิบยื่นให้ โดยไม่ได้มองว่า
กว่าที่ทุกสิ่งจะตกถึงมือพวกเขานั้น
ทักษิณกับพรรคพวก ได้ไปเท่าไหร่


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.76.34 วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:7:38:30 น.  

 
ช่ายค่ะ แม่น้องนิก คนอีกจำนวนมหาศาลเห็นแก่เงินปลายจมูกที่เขาหยิบยื่นให้ แต่ไม่สนใจว่าชาติจะฉิบหาย (อุ๊บส์ หยาบคายไปมั้ยเนี่ย) บ้านเมืองจะล่มจม อันที่จริงคนรวยมีแค่กระจุกนั้นแหละ แต่บังเอิญมีอำนาจในมือด้วย คนธรรมดาอย่างเราก็ได้แต่ฮึดฮัดขัดแค้นใจ ที่ทำงานบัวเราคุยกันทุกวันเลยค่ะ เรื่องเนี้ย คือก่อนประชุมทุกเช้า เราจะเปิดประเด็นด้วยเหตุการณ์บ้านเมืองก่อนค่ะ

สรุปว่าแม่น้องนิกจะกลับมาอ่านขวัญเรือนเป้นเพื่อนกันเหมือนเดิมใช่มั้ยคะ ดีใจจัง

พี่หมิ้น หายตัวอีกแล้ว เจ้าของบ้านก็มาเปิดประเด็นไว้แล้วแว๊บๆ มาประเดี๋ยวๆ ก็หายจ้อยไปอีกแล้ว

ว่าแต่แม่น้องนิก ดูบอลยูโรมั้ยคะ เชียร์ทีมไหนคะ บอกหน่อยจิ ฮิ ฮิ


โดย: BUATALAY IP: 203.156.38.54 วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:11:35:13 น.  

 
แก้ไขค่ะ
อ่านขวัญเรือน "เป็น" เพื่อนกัน


โดย: BUATALAY IP: 203.156.38.54 วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:11:36:43 น.  

 
คุณบัวคะ เผอิญว่า คนอเมริกัน
ไม่บ้าฟุตบอลอ่ะค่ะ ก็เลยไม่เคยได้ดู
คนอเมริกันบ้าอเมริกันฟุตบอล
ไม่เชื่อถามพี่ปะการังเลยค่ะ

แล้วช่วงนี้อ่ะ อิๆ แม่น้องนิกเปิดเอเอส
ดูอย่างเดียว ดูแต่บ้านเรา บ้านเขา
ช่างมันเถอะ

แต่พรุ่งนี้ ว่าจะไปร่วมขบวนประท้วง
กับทางโรงเรียนซะหน่อย เพราะว่า
ท่านอาโนลด์ จะตัดงบประมาณด้าน
การศึกษาตั้งเยอะ ประมาณ 7 พันล้าน
ทำให้ต้องตัดจำนวนครู หนังสือ
ครูผู้ช่วย แล้วจำนวนนักเรียนต่อห้อง
จะต้องเพิ่มขึ้น

เรา ในฐานะพ่อแม่ ผู้เสียภาษีให้รัฐ
หนำซ้ำยังไปช่วยครูบ้างบางเวลา
ย่อมยอมไม่ได้ ใช่มั๊ยคะ ฉันเสียภาษี
ให้รัฐ แล้วจะมาตัดงบเพื่อลูกฉันได้ไง

ตอนเย็นขณะกินข้าวกำลังอร่อยๆ
กินข้าวกับปลากรอบ แทบจนแล้วเนี่ย
เพื่อนบ้าน เรียกเย้วๆอยู่หลังบ้าน
ถามว่า พรุ่งนี้ยูไปร่วมหรือปล่าว
เราก็ว่า ไปสิ หล่อนก็ว่า ฉันก็ไป
เอาสามีฉันไปด้วย งานนี้..สนุกแน่ๆ
มีเพื่อนร่วมก๊วน โดนไม่ต้องบังคับแบบนี้

เนาะ..เพื่อเด็กและเงินภาษีของเรา


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.92.69 วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:11:53:15 น.  

 
สวัสดีค่ะบัว,

มีบ่นๆ ช่วงนี้งานยุ่งจ๊ะ แต่รับรองว่าจะเข้ามาป่วนคู่กับบัวตลอดไป จนกว่าเจ้าของบ้าน หรือ ท่านอื่นๆ จะร้องขอให้ลาจอ.ฮิฮิ

พี่เคยมีประสบการณ์กับทากสิน (สะกดไม่ผิด sure!) หลายครั้งนะ ครั้งหนึ่งเจอที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อครั้งที่เปิดสนามบินใหม่ๆ โอ้โฮ! อลังการงานสร้าง (ต้อนรับ) มาก เหมือนต้อนรับเทวดามายังไง ยังงั้นเลย แล้วเขาสวนกับพี่นะ (กลุ่มพี่จองเที่ยวบินไปภูเก็ต flight แรกประเดิมสนามบินสุวรรณภูมิของการบินไทย) ทุกคนยกมือไหว้ปะล๊กๆ แบบตัวงอเป็นกุ้งถูกไฟเผา แต่พี่หน้าตั้ง หลังตรง และก๊อ ไหว้ไม่ลงค่ะ it ถามว่าไปไหนกันครับ พี่ตอบสวนไปเลยว่า เรื่องของดิฉันค่ะ

วินาทีนั้นพวกสอพลอที่ล้อมหน้าล้อมหลังถลึงตาใส่พี่ แต่ไม่มีการถ่ายรูปค่ะเพราะถ้าขืนถ่ายแล้วออกข่าว พี่ดังแน่นอน (จำที่แม่ค้าซอยละลายทรัพย์สร้างวีรกรรมชี้หน้าด่าทากสินได้ไหม ยกตัวอย่างให้ฟังค่ะคนๆ นั้นไม่ใช่พี่) (จะบอกว่าพี่สวยกว่าก็ไม่กล้าพูด เพราะมีแฟนคลับคนหนึ่งจับสังเกตได้ว่าพี่กังวลเรื่องอายุและความสวยความงามจ๊ะ)

อีกครั้งหนึ่งเป็นการไปช่วยหาเสียงให้ลูกกรอก เจอ it อีก วันนั้นเป็นงานบวชลูกคนในพื้นที่ เหตุการณ์เหมือนเดิม คืออลังการงานต้อนรับ

ระหว่างที่กินกันอร่อยๆ it ก็เดินทักทายผู้คน พี่ยังแกล้งพูดลอยๆ เลยว่า แถวนี้เคยมีธรณีสูบไหม

พี่เล่าให้คุณแม่ฟัง คุณแม่บอกว่าเธอๆเบาๆ หน่อย อยากให้พี่ตายตามธรรมชาติมากกว่า..555

เสียดายที่บ้านพี่รับ ASTV ไม่ได้
ได้แต่ติดตามข่าวตลอด
พี่ไม่ติดริบบิ้นขาวนะคะ




โดย: นกขมิ้น IP: 124.120.120.233 วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:13:34:07 น.  

 
พี่หมิ้นขา ใช้เน็ตที่ทำงานเหรอคะ ถ้าใช้ที่บ้านเข้าเว็บผู้จัดการออนไลน์ไปดูเลยค่ะ ASTV น่ะ

บัวก็ไม่ติดค่ะ ริบบิ้นขาวน่ะ ถ้าติดจะติดสีเหลืองค่ะ ตอนนี้ใส่แต่แถบรัดข้อมือสีเหลืองค่ะ เสื้อเหลือง ก็ยังสวมอยู่ทุกวันจันทร์ และหลายๆ โอกาส แบบว่ามีหลายตัวไงคะ

น้องสาว it ของพี่ ก็เคยมาทำใหญ่ กร่าง แถวนี้ค่ะ ไม่สนเหมือนกัน

อ้าว แม่น้องนิกบอกว่า กินข้าวกับน้ำพริกปลากรอบ นี่รวยไม่ใช่เหรอคะ หุ หุ

ว่าแล้วก็ช่วงนี้จะหายไปสัก 2-3 วันนะคะ แบบว่าพักร้อนเหลือเยอะ จนนายขู่ว่าถ้าไม่ใช้จะตัดทิ้ง ฮือๆ เลยลาไปนอนดีดพุงเล่นที่บ้านค่า


โดย: นกขมิ้น IP: 203.156.38.54 วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:13:55:21 น.  

 
เฮ้! บัว,

drink หรือป่าว ลองเหลือบตาขึ้นไปดูซิว่าเป็น ment ของใครกันแน่ ...จ๊ะ


โดย: นกขมิ้น IP: 124.120.120.233 วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:14:08:36 น.  

 

พี่ปะการังคะ
คิดไม่ถึงว่าจะได้อ่านประเด็นวาระแห่งชาติของพี่ที่นี่ ตัวเองถูกกล่าวหาว่าเป็นป้าแช่ม ถูกจูงจมูกไปตายบ้างล่ะ โง่บ้างล่ะหรือไปเป็นแพะให้สองฝ่ายที่ยังตกลงผลประโยชน์ไม่ลงตัวบ้างล่ะ ถูกถามมาตลอดว่า ป้าแช่มได้อะไรจากการไปนั่งเชียร์พันธมิตร
ก็ทุกวันที่มันเป็นอยู่มันคือประชาธิปไตยจอมปลอมนี่คะ เอะอะก็อ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง แล้วการเลือกตั้งที่ว่านี่มันมายังไง
เราต่างมีจริตในการแสดงออกว่าเห็นด้วยหรือไม่ อำนาจหากอยู่ในมือคนที่ขาดจริยธรรม คุณธรรม ขาดหิริโอตตัปปะแล้ว มันไล่ผีที่สิงนั่นออกยากเต็มประดา
เศร้าใจกับประชาธิปไตยที่กฎหมายบังคับใช้อ่อนแอเหลือเกิน เพียงเพราะคนใช้กฎหมายอยู่ในมือนักการเมืองที่ไม่เห็นความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย
วันที่เสียงภาคประชาชนมารวมตัวแบบนี้ กลับกลายเป็นอาชญากรเพราะเพียงเสียงเรียกร้องของกลุ่มสุขนิยม สรุปง่าย ๆ ว่า การเมืองก็เท่านี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้ แต่เราไม่ต้องการเพิกเฉยอีกแล้วล่ะค่ะ
ริบบิ้นขาวก็ไม่ติดค่ะ เสียความเคารพในตัวเองชอบกล ทุกวันนี้ก็ทุกข์ทนเห็นซาตานเคาะสังกะสีโยนเศษกระดูกที่แทะกันจนจะไม่เหลือให้แทะ ..และพยายามสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองได้อย่างไม่อาย
ใช่แล้ว..เขาไม่รู้จักความอายนี่คะ..



โดย: คนบ้านนอก IP: 118.172.59.130 วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:15:52:24 น.  

 
โถ..คุณนกขมิ้นอ่ะ แซวนิดเดียว
ในฐานะพลพรรครักปะการัง
หากทำร้ายน้ำใจ ก็ขอโทษค่ะ
แม่น้องนิกไม่มีเจตนาใดๆเลย

พูดไปเถอะค่ะ เรื่องความสวยความงาม
เราๆเนี่ย งามทั้งนั้นแหละค่ะ
งามน้ำใจ ไม่มีทุกข์ พอไม่ทุกข์
มองยังไงมันก็บั่นทอนอายุไปโข

น่าเสียดาย คุณนกขมิ้นดูASTV ไม่ได้
ที่ต่างแดนนั้น มีไทยทีวีช่องที่สนับสนุน
ทักษิณ ถึง 2 ช่องด้วยกัน it ก็ให้ข่าว
ที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายรัฐบาลตลอด
สรุป คนไทยต่างแดนก็แบ่งแยกเป็น
สองฝ่ายเหมือนกัน ตามแต่เขาจะรับ
สื่ออันไหน แล้วใช้ปัญญาคิดอย่างไร


+++++++++++++
คุณบัวคะ พักนี้ มันนึกอยากกินแต่
ข้าวสวยกับปลาแก้วทอด อร่อย
สะดวกและรวดเร็ว บางวันมันก็เบื่อ
ทำอาหาร กินอาหารแบบเดิมๆซ้ำไป
ซ้ำมา เพราะคุณสามีเธอกินอาหาร
หน้าตาแปลกๆไม่เป็น

วันนี้ กะว่าจะไปช่วยโรงเรียนประท้วง
หนอย ครูมันก็ไม่บอกเรานะว่าต้องใส่
เสื้อสีแดงไป say no ไอ้เราก็บ้านนอก
ไม่รู้เรื่องนี่ ดันใส่เสื้อขาว..โอ๊ยยยยย
กลับบ้านๆ เลิกช่วยไปเลย
แทนที่จะไปช่วยซัพพอร์ทเขาจะกลาย
เป็นให้เขาด่าแทนไปซะว่า..
จะมาสนับสนุนฝ่ายตรงข้าม หรือจะมา
ห้ามเขากัน..เนี่ย จะโทษครูหรือจะโทษ
ตัวเราเองดี

ใครมันจะไปรู้ว่าต้องใส่เสื้อสีแดงล่ะ

+++++++++++++
พี่ปะการังสวัสดีค่ะพี่

เห็นข่าวว่า คุณเพ็ญเธอมาเมกา
มาจิกว่า การปราศัยในต่างแดน
ของเธอมันหลุดไปถึงมือพันธมิตร
ได้อย่างไร

โห..พี่ it (ยืมคำคุณนกขมิ้นใช้ซะหน่อย)เอาส่วนไหนของร่างกายคิดน่ะ
ออกทีวีไทยในต่างแดนช่อง TOTV
ซะเต็มจออ่ะ คนฉลาดเขาก็อัดผ่าน
ทีวีกันยังได้ น้องเล่นอวดกร่างซะขนาดนั้น it จะเสียเงินบินมาทำมั๊ย ตลกอ่ะ

แล้วไม่นึกรู้อีกนะว่า เมืองนอกอ่ะ
วิทยาการล้ำหน้ากว่าเมืองไทยเท่าไหร่
ถ้ากล้ามาปาวๆถึงเมืองนอกอ่ะ
เขาอัดเทปกันทางไหนได้ เขาก็ทำสิ
ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย

เอ๊อ..แล้วมาเมกา หล่อนจะมาทำอะไร
ใครได้ล่ะน่ะ เมืองนอกเขาก็มีกฏหมาย
คุ้มครองของเขา เดาว่า หล่อนต้องมาด่า
ทีวีช่องที่อัดเงินให้แน่ๆ


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.85.56 วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:22:44:21 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณแม่น้องนิก,

รุ่นนี้แล้วไม่มีคำว่าน้อยใจค่ะ มีแต่หนักใจค่ะ เพราะมี it ทับอกอยู่ ไม่รู้ว่าจะปราบยังไงให้สิ้นซาก แบบขุดรากถอนโคนน่ะค่ะ
วันอังคารที่ผ่านมาไปออกสังคมเพื่อนบ้าน เป็นงานแต่งงาน มีนักการเมืองมาอีกเช่นเคย แหม! เสียดายมีแต่พวกลูกกรอกที่เป็นส.ส.ในพื้นที่เท่านั้น ไม่ยกมือไหว้เหมือนเดิมค่ะ

ถึงเวลาเป็นพิธีการ พิธีกรก็เชิญลูกกรอกขึ้นไปพูด ครั้นได้โอกาสขึ้นเวที น้ำลายก็แตกฟอง พูดเรื่องพรรค เรื่องปากท้องของกินราคาแพง แทนที่จะแนะนำอะไรที่เป็นประโยชน์ กลับบอกว่ารอก่อนนะครับ ไม่ต้องกลัว ท่านสมัครหัวหน้ารัฐบาลท่านเก่งมาก ท่านจะหาทางช่วยพ่อ แม่ พี่น้อง ให้เร็วที่สุด
จากนั้นก็ร้องเพลงแหล่ เนื้อหาบรรยาย สดุดี it และ นายกหัวโขน จนเบื่อจะฟัง เลยแกล้งเดินไปหาเจ้าภาพที่สนิทกัน บอกว่าจะให้ร้องอีกนานไหม จะกลับแล้วนะ (เขาเตรียมให้ขึ้นไปอวยพร) เจ้าภาพก็เลยให้คนไปส่งสัญญาณนักดนตรีๆ ก็เล่นซักพักก็ตัดตอนเลย ทำเป็นไฟดับ เล่นต่อไม่ได้...ส.ส.คนนั้นยังหน้าด้านพูดอีก (ฉลาดน้อย) บอกอยู่ดีๆ ทำไมไฟดับ งั้นวันนี้ผมขอลาพ่อ แม่ พี่น้อง เท่านี้ก่อนนะครับ

เสร็จงานไปถามเจ้าภาพว่ารู้จักกันด้วยหรือ เขาบอกไม่รู้จักหรอก มีคนมาขอให้ขึ้นไปพูด เขาก็เลยให้เกียรติ เพราะเห็นว่าเป็นส.ส.

ไม่รู้ว่าเลือกกันเข้ามาได้ยังไง สงสัยมีต่อท่อน้ำเลี้ยง

บัวฯ เขาแนะนำให้ดู ASTV จาก net แล้วค่ะ



โดย: นกขมิ้น IP: 124.120.243.239 วันที่: 7 มิถุนายน 2551 เวลา:9:56:44 น.  

 
ยังสบายดีที่กาน่าค่ะ คุณปะการัง เข้ามาอ่านบ่อยแต่ไม่ค่อยมาเม้นต์เท่าไหร่ค่ะ

ตอนนี้ก็ได้แค่ร่วมฟังถ่ายทอดสดของ ASTV ผ่านโปรแกรม Camfrog แต่เวลาที่จะได้ชมก็เที่ยงคืนของเมืองไทย ทุกท่านปักหลักกันด้วยใจจริงๆ บางวันฝนตก ก็ยังสู้ ได้เห็นน้องๆ นักศึกษาบ้าง มาพูด มาแสดงความคิดเห็น แต่น้อยกว่ารุ่นเดือนตุลา
ที่ใช้Camfrog ดูก็ดีนะคุณปะการัง ได้ทั้งภาพและเสียง แถมคุยกับคนที่อยู่ไทย บางทีก็เข้าไปคุยแลกเปลี่ยนสำหรับคนที่มีหลากหลายความคิดเห็น

เมื่อสองวันก่อน ตกใจ (แต่สำหรับคนที่นี่คงเป็นเรื่องไม่น่าตกใจ) มีการใช้กำลังความรุนแรงของตำรวจกาน่า กับประชาชนในเรื่องการขับไล่ ทำให้เสียปชช.เสียชีวิตไป สอง บาดเจ็บเพียบ หวังว่ารัฐบาลไทยคงไม่ลงดิ่ง ไปเหมือนบางที่ของแอฟริกาหรอกนะ


โดย: shin chan (alei ) วันที่: 7 มิถุนายน 2551 เวลา:16:34:43 น.  

 
เอิ๊กๆๆๆ นึกขำคุณนกขมิ้นว่า..ช่างกล้า
สมควรที่คุณแม่ท่านบอกว่า...

อยากให้คุณนกขมิ้นตายตามธรรมชาติ
มากกว่า..

แม่น้องนิกเรียกคุณนกขมิ้นว่า..พี่
ได้มั๊ยคะ

พี่เคยนึกมั๊ยว่า..อย่างเราๆบางทีห้าว
จนบางที พูดไปคนอื่นก็ยากที่จะรับ
เพราะสังคมยุคนี้ คงชอบคนแบบ
นักการเมือง คือกล้าและด้านเข้าไว้
ใครฟังไม่ฟัง ไม่เป็นไร ขอข้าได้มี
โอกาสพูด ใครชังไม่เป็นไรขอข้า
ได้ใส่ความคิดลงไปก็พอ แสร้งยิ้ม
เสมือนหนึ่งข้าคือผู้อาสามาช่วยชาติ

เมื่อวาน แม่น้องนิกนั่งดูทีวีไป
คุณสามีมายืนอยู่ด้านหลัง เราก็บอกว่า
อือ..รัฐบาลมันไม่กล้าสลายม๊อปนะ
คำพูดนึงที่ปรบมือให้คุณสามีตัวเองก็คือ

สลายทำไม เขาไม่ได้ไปทำลาย
ข้าวของที่ไหน ชุมนุมดีๆมาตั้งสิบกว่าวัน
รัฐบาลมีเหตุผลอะไรที่ต้องสลาย

พี่คิดดู ฝรั่งยังคิดแบบนี้อ่ะ

วันหนึ่ง ลูกนิกถามว่า..แม่..ทำไมแม่
ดูข่าวนี้ทุกวัน เกิดอะไรขึ้นเหรอแม่
ทำให้เราเกิดความรู้สึกที่ว่า อือ..
ลูกใส่ใจสิ่งที่เราดู

แล้วความคิดที่ตามมาก็คือ..วันนี้
ลูกอาจจะไม่เข้าใจ แต่ถ้าเราละเลย
ที่จะอธิบายความเป็นไป ปล่อยให้มัน
ผ่านไปเพราะคิดว่าลูกยังเด็กแล้วล่ะก็

วันหนึ่งที่ลูกโตขึ้นมาทดแทนรุ่นเรา
เขาจะเป็นคนของสังคมแบบไหน
แม่น้องนิกก็เลยต้องสอนลูกตั้งแต่วันนี้
อธิบายให้ลูกเข้าใจ สอนให้มีคุณธรรม
จริยธรรม แล้วรู้จักให้มากกว่ารับ

พี่นกขมิ้นเข้าใจที่แม่น้องนิกคิดมั๊ยคะ
แม้จะดูว่า ทำไปทำไม แต่เด็กสมัยนี้
ฉลาด ถ้าเราไม่สอนลูกเรา ก็เท่ากับ
เราปล่อยให้คนอย่าง it ที่ขึ้นไปพูด
บนเวที กรอกหูลูกเราแทนซะเอง

การฝังความคิดให้เด็กรู้จักคิดเป็น
เป็นสิ่งสำคัญ ใช่มั๊ยพี่ แม้ตอนนี้
ลูกจะยังแยกแยะไม่ได้ก็ตามที
แต่ถ้าเราไม่ละเลย ก็เชื่อว่า เราทำได้

เฮ้อ..เหนื่อย


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.76.186 วันที่: 7 มิถุนายน 2551 เวลา:23:49:09 น.  

 
คุณบัวคะ

เมื่อวาน แม่น้องนิกไปรับสกุลไทย
ที่บอกพี่เขาไว้ ว่าไม่ต้องคืน
เพราะอยากเห็นเนื้อหาสาระในนั้น
ก่อนตัดสินใจอีกที

พอรับมาเปิดอ่านเนื้อใน..ชอบค่ะ
แม้ว่า ราคาจะต่างกันเพียงสิบบาท
นั่นไม่ใช่ประเด็นที่จะทำให้ราคาขึ้น
ที่ขึ้น ก็คือน้ำหนักของสิ่งของ

แม่น้องนิกชอบอ่านคอลัมน์ที่เป็นสาระ
และนิยายค่ะ ซึ่งสกุลไทยมีนักเขียน
นิยายที่เราชื่นชอบ ภาษาสวย
อย่างว.วินิจฉัยกุล ปิยพร กิ่งฉัตร
และอีกหลายๆท่าน

ไม่รู้เป็นอะไรคุณบัว แม่น้องนิกชอบ
เรื่องเล่า ประวัติชีวิต และประวัติศาสตร์
พวกนี้อ่ะ ชอบอ่านไว้เรียนรู้
ส่วนนิยายก็มีไว้เพื่อผ่อนคลาย
การได้อ่านภาษาสละสลวยเราก็ได้
ความรู้ในการใช้ภาษาเขียนเพิ่มขึ้น

สรุป เปลี่ยนใจไปรับสกุลไทยละ



โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.76.186 วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:0:17:20 น.  

 
เหนื่อยครับ เหนื่อย.. เหนื่อยแทนพ่อแม่พี่น้องที่สะพานมัฆวาน สู้กับผู้มีอำนาจก็เหนื่อยพอแล้ว สู้กับคนที่ยังไม่รู้ก็เหนื่อยกว่า แล้วยังต้องสู้กับคนที่ไม่ยอมจะรับรู้ คิดแต่ความสุขของตัวเอง แล้วมองว่าการประท้วงเป็นเรื่องวุ่นวาย อย่างนี้ต้องเรียกว่าเหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ--

แถมยังต้องเจอสงครามจิตวิทยาแบบ--นักมวยบอกว่าเดือดร้อนไม่มีคนมาดูมวย (แต่กลับไปบริจาคให้ตำรวจตั้ง 9 แสน), แม้ค้าผลไม้เอาผลไม้มาเททิ้ง บอกขายไม่ได้, ตำรวจเปิดไฟแดงให้ถี่และนานเข้าไว้ แล้วขึ้นฮ.ไปถ่ายภาพว่ารถติดยาวเหยียด, บอกว่านักเรียนเดือดร้อน, เท่านั้นไม่พอให้ทีวีไปทำสารคดีประวัติของสุริยะใส หนึ่งในแกนนำพันธมิตร, แล้วยังรวมไปถึงขบวนการริบบิ้นสีขาว.. สารพัดจะเบี่ยงเบนประเด็น

ย้ำ-- ต้องระวังเรื่องสีขาวให้ดี เพราะสีขาวนอกจากจะทำให้ความถูกต้องพร่าเบลอแล้ว ยังช่วยละลายสีดำให้เจือจางลง กลายเป็นเทา.. ฉะนั้น ต้องรู้เท่าทันพวกตรงกลาง-สีขาวด้วย

ตอนนี้ คตส. กลุ่มคนกล้าที่ทำคดีทักษิณ ถูกฟ้องกลับข้อหาหมิ่นประมาท ตำรวจกุลีกุจอที่จะทำคดี ขณะที่จักรภพ คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เจ้าตัวขอเลื่อนมอบตัวครั้งแล้วครั้งเล่า..

บ้านเมืองแบบนี้, เราจะอยู่กันอย่างไร?

....

ขออนุญาตทักทาย คนบ้านนอก ถ้าจำไม่ผิด เพิ่งจะทักทายกันเป็นครั้งแรกใช่ไหมครับ ช่วยกันเข้ามาส่งเสียงบ่อยๆนะครับ จะได้ไม่ว้าเหว่เกินไป..

....

ชอบคำว่า "สบายดีที่กาน่า" ของ shin chan จะรวมเรื่องที่เขียนหรือเปล่า? เพราะคำนี้เหมาะเป็นชื่อหนังสือจัง

แวะเข้าไปดูบล็อกมานิดๆ เจอข่าวสหบาทา อันเดียวกับที่บอกว่าตำรวจยิงปชช.หรือเปล่า คงจะคนละอันกันกระมัง.. แต่คงหดหู่ทั้งสองเรื่อง

ยังไม่มีโอกาสตามอ่านจริงจัง แต่สงสัยว่าไปอยู่ที่กาน่าทำไมครับ?

....

ช่วงนี้ ตะเบบูญ่า คงจะเหนื่อย ทั้งเรื่องบ้านเมือง ทั้งเรื่องส่วนตัว ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ งดแซวกันชั่วคราว ให้พักผ่อนจิตใจครับ

....

ก่อนจะไปนอนดีดพุงเล่นอย่างที่บอก BUATALAY ก็เผลอเขียนชื่อตัวเองเป็นนกขมิ้น ฮ่า ต้องขอบันทึกไว้.. ;-)

....

ต้องขอปรบมือดังๆให้กับวีรกรรมของ นกขมิ้น อ่านแล้ว มันสะใจดี ต้องยอมรับว่า นายแน่มาก :-) ขอเอาใจช่วยให้ปฏิบัติต่อไปเรื่อยๆนะครับ

เอาอีก ๆ ๆ เจออีก ก็ใส่อีกนะครับ

ว่าแต่ว่า ทำไมดวงคุณนกขมิ้นเจอแต่คนพรรค์นี้ของพรรคนี้บ่อยจัง!

....

แหม นี่ถ้าแม่น้องนิกใส่เสื้อขาวไปประท้วงที่เมืองไทยล่ะก็ โกรธกันตายเลย ;-)

พี่รู้แล้วว่าห้องราชดำเนินเป็นอย่างไร พี่เลยเลี่ยงที่จะเข้าไปอ่าน กลัวจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ หมู่นี้ ต้องพยายามพาตัวเองไปสัมผัสธรรมชาติบ้าง ให้หัวใจได้สงบลงมาหน่อย.. กลัวความดันจะพุ่งปรี็๊ด

ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณจักรภพถึงมาอเมริกา แม่น้องนิกจับตาดูให้ดีๆนา เผื่อเขาหลบหนีคดีมา

ดีแล้วที่อธิบายให้ลูกเข้าใจ แต่เขายังโชคดีหน่อยที่อยู่ในประเทศที่การเมืองพัฒนามาถึงระดับหนึ่งแล้ว ความศักดิ์สิทธิ์ของกฏหมายยังมีอยู่..

ถ้าเมืองไทยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ ศาล ที่ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ศักดิ์สิทธิ์ รวดเร็ว ยุติธรรม การประท้วงที่มัฆวานก็ไม่เกิดขึ้น.. แต่นี่เป็นเพราะไม่รู้จะพึ่งใครดี ประชาชนก็เลยต้องพึ่งตัวเอง

อ้าว เปลี่ยนไปอ่านสกุลไทย ก็ต้องให้คุณโดมตามไปเขียนที่นั่นสินะ :-)

....




โดย: ปะการัง (ชบาฉาย ) วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:9:08:36 น.  

 
ชอบรูปนี้จัง.. ดูแล้วมีรอยยิ้ม ชื่นใจ



โดย: ปะการัง (ชบาฉาย ) วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:9:25:48 น.  

 
ตบเข่าดังฉาด..บอกให้รู้
เสียดาย เด็กข้างบนไม่ใช่นิก

โห..พี่ปะการังก็ ไม่ใส่หรอกเสื้อขาว
กลัวพี่โกรธอ่ะ นี่ขนาดอยู่เมืองนอกนะ
ตามข่าวซะรู้หมดเล๊ย งั้น..ทีวี
ไม่ต้องดูละพี่ จับใจความได้หมดอ่ะ

นี่ไงพี่..น้องถึงได้บอกว่า
อย่างเรา อยู่เมืองไทยยาก
เพราะเราคุ้นเคยระบบแบบพัฒนาแล้ว
ทุกอย่างเป็นที่พึ่งของประชาชนได้
แม้กระทั่งเรา กฏหมายเขายังคุ้มครอง
รัฐบาล อย่าได้มาเอาเปรียบเรา

พี่อย่าพูดเรื่องความดันสิ
ความดันเป็นเรื่องของคนแก่
พี่ยังไม่แก่ จะรีบดันไปไหนล่ะ
ดึงดัน ยังพอว่านะพี่นะ

อิๆ คุณโดมคงไม่ต้องถามไปเขียน
ถึงที่นั่นมั๊งคะพี่ พี่ก็..แซวเรื่อยเลย
อย่างน้อยๆอ่ะ การอ่านขวัญเรือน
ก็ทำให้ได้รู้จักคุณโดมนะพี่นะ
ลามเรื่อยจนมาได้รู้จักพี่ น้อยซะที่ไหน
น่าปลื้มใจไม่หยอก เจอแต่พี่ดีๆน่ารักน่ะ

แต่จะว่าไป ก็นานหลายปีเชียวนะพี่
จำได้ ตั้งแต่ยังไม่มีอลีนาโน่นน่ะ



โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.110.130 วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:9:51:30 น.  

 
สวัสดีค่ะปะการัง,
คนอยู่ทางโน้น (เมกา) รู้รายละเอียดเยอะมากกว่าคนทางนี้ (ไทย) อีกค่ะ

รวมทั้งคุณแม่น้องนิกด้วย
เลือดรักชาติแรงเหมือนนกขมิ้น

ที่ต้องไปมีชีวิตพัวพันกับส.ส.ขยะๆ กองนี้ก็เพราะครอบครัวเป็นตระกูลเก่าแก่ (แก่เฉพาะตระกูล แน่ะ! เผลอพูดเรื่องไม่ควรพูดอีกแย้ว) เดือนๆ หนึ่งรับซองเป็นกะตั๊ก ขึ้นอยู่กับว่าจะพอไปได้หรือไม่ได้น่ะค่ะ ส่วนใหญ่จะไปค่ะ ไปแสดงความยินดีบ้าง ไปแสดงความเสียใจบ้าง แล้วแต่โอกาส สิ่งที่ผิดหวังซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าคือส.ส. เลือกตั้งที่ไร พวกเห็บ เหาได้เข้ามาทุกที เขตเลือกตั้งก็มีส.ส.ลูกกรอก 2 ตน แล้วจะไม่ให้นกขมิ้นเจอได้ยังไง

นกขมิ้นไม่หนีค่ะ เราไปเพราะรักใคร่ชอบพอกับเจ้าภาพ แต่พวกนี้ชอบงานชาวบ้านๆ มากเขาไม่เชิญก็ยังหน้าด้านไป เจอมาหลายงานแล้ว

เวลาหาเสียงเขาไม่มาบ้านนกขมิ้นเองนะคะ จะมีนายหน้ามา เพราะเขารู้ดีว่าบ้านใครต้อนรับ บ้านใครไม่ต้อนรับ

ได้แรงใจจากปะการังแบบนี้ ขอสู้ค่ะ
เพื่อประเทศไทยของเรา...ไชโย...


*******
สวัสดีค่ะคุณแม่น้องนิก,

ยินดีมากค่ะที่มีน้องเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง
เป็นน้องที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีมากทีเดียว

พี่อ่านมาถึง paragraph สุดท้าย..
ความชอบของแม่น้องนิกช่างตรงกับพี่แป๊ะ (มีที่ไม่ตรงคือ...ชอบมีแฟนเป็นฝรั่ง)
โดยเฉพาะเรื่องชีวประวัติบุคคลสำคัญนะจะชอบมากค่ะ

มิน่าเล่าคนที่จะคุยกันได้ อย่างน้อยๆ รสนิยมต้องคล้ายๆ กัน ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้มาเป็นแฟนคลับปะการังด้วยกันหรอก
จริงไหมค่ะ



โดย: นกขมิ้น IP: 124.120.243.152 วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:16:20:23 น.  

 
พี่นกขมิ้นคะ

สามีฝรั่ง มันเป็นบุพเพค่ะพี่
น้องก็ไม่คิดเล๊ย ว่าชีวิตจะเป็นไปได้
ถึงขั้นนั้น เขามาจีบน้องนี่คะ
น้องก็เห็นว่า โค้งสุดท้ายแล้ว
ก็ตามนั้นละกัน ประมาณนี้แหละพี่

(แหม..เหมือนเล่าให้ศิราณีฟัง)

น้องก็อยากได้คนไทยเหมือนกัน
แต่มันไม่มีใครเข้าตาอ่ะพี่
ถึงน้องจะไม่สวย แต่น้องก็เลือก
หล่อไม่หล่อไม่สำคัญ สำคัญคือ
รับผิดชอบดูแลครอบครัวได้ก็พอใจ
เผอิญได้หล่อแถมมา ก็โอเคละพี่

จบพี่จบ






โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.88.39 วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:0:03:42 น.  

 
คู่หู คู่ป่วนยังไม่มา ขอคุยกับแม่น้องนิกไปพลางๆ ก่อน

*****
สวัสดีค่ะแม่น้องนิก,

แม่น้องนิกรีบตัดบทเลยเชียว กลัวพี่ชวนคุยเรื่องคู่ครองต่อ...ฮิฮิ (จ้องมานานแล้ว)

จะว่าไปแล้วพี่ก็เคยคิดจะมีแฟนผรั่งเหมือนกันนะ โอกาสพี่มีหลายครั้งตั้งแต่เป็นวัยรุ่น จนกระทั่งมีงานมีการทำ

งานที่พี่ทำต้องประสานงานกับองค์การระหว่างประเทศ ช่วงนั้นก็มองคนโน้นที คนนี้ที หล่อก็มี ไม่หล่อก็มี ลงพุงก็มี หนวดเครารุงรังก็มี มีครบหมด และส่วนใหญ่มีความรู้ดี ถึงขั้นดีมากด้วยนะ (แต่จะรวยมาหรือเปล่าไม่กล้าถามอ่ะ)

แต่ความที่บ้านพี่เป็นพวก conservative ก็สอนกันมาว่าอย่าไปจีบผู้ชายก่อน แล้วผลเป็นยังไงล่ะคุณปู่ หลานก็กินแห้วแล้วกินแห้วอีก..สุดท้ายพวกหล่อๆ กลับบ้านหมด เหลือแต่พวกลงพุง แล้วจะไหวเรอะ
555

พี่ถือคติว่า มีข้างแรม ก็ต้องมีข้างขึ้นค่ะ

จบค่ะจบ OK


โดย: นกขมิ้น IP: 124.120.124.245 วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:7:42:16 น.  

 
พี่นกขมิ้นคะ

แซวเล่นหรอกพี่ เรื่องจบๆไปเนี่ย
ฝรั่งเนี่ย แก่ตัวมานะพี่ หัวล้าน
ผิวหนังหยาบกร้านทุกราย
แต่ของหนูอ่ะ พยายามจะให้กินผัก
เยอะๆ จะได้สกัดผมร่วงเข้าไว้
พุงก็ไม่ยอมให้ลง
เมียเห็นแล้วใจไม่ค่อยจะดี

เดี๋ยวเพื่อนเขาจะหาว่า เราเลี้ยงดูไม่ดี
ไม่ก็..จะอุทานว่า..ต๊ายยยย
สมัยมันเป็นหนุ่มๆ โคตะระหล่อเลย
ทำไมตอนนี้ มันอุบาทถ์ขนาดนี้ล่ะ
อันนี้..รับไม่ได้เลยพี่ ใจจะขาด

พี่จ๋า ถ้าจะตัดสินใจโค้งสุดท้าย
กับฝรั่งวันไหนนะพี่ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
อย่างหนูเลยนะคะ รับรอง พี่ทิ้งขาด ชัวร์


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.88.39 วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:8:19:54 น.  

 
สวัสดีค่ะแม่น้องนิก,

จุ๊ๆ....เรากำลังหลงประเด็นกันหรือเปล่า topic มันเกี่ยวกับการเมืองนะ เหตุไฉนกำลังจะกลายเป็นการมุ้งเข้าไปทุกที..ฮิฮิ

ขอพักเรื่องการเมืองไว้ก่อน เดี๋ยวมีต่อ เรื่องเล่าการเมืองของพี่มีพอๆ กับเรื่องของบาทหลวงปะการังเลยค่ะ แต่ของปะการังเป็นเรื่องฝ่ายเทพ ของพี่เป็นเรื่องของพวกมารค่ะ

พี่พบแม่น้องนิกช้าไปมากๆ เวลานี้พี่น่าจะตกคำว่า "รถไฟเที่ยวสุดท้าย" หรือ "โค้งสุดท้าย" ไปสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่ถึงกับอยู่ "คานทองนิเวศน์" ค่ะ อย่างหลังนี่พี่ขอไปให้ไกลสักหมื่นลี้เลยค่ะ ไม่รู้ว่าพวก saleman จะหาพี่เจอไหม แต่พี่มีวิชาพลางตัวค่ะ

พี่ว่าฝรั่งถ้าขึ้นชื่อว่าหล่อนะ ยอมรับว่าหล่อจริง (หัวใจพี่เริ่มเต้นนิดๆ ) แล้วความหล่อมักมากับความน่ารัก เช่นบรรดาที่พบมาในสายงาน จะเป็นแบบ plus ด้วยนะคือมีดีกรีด้วย ถ้าไม่มีความรู้จะไม่ค่อยได้ตำแหน่งดีๆ ใน UN สักเท่าไหร่ เอาเป็นว่าที่พี่เคยแหล่ๆ ไว้มีตำแหน่งดีหมด (target) แต่ยังไม่ทันไปถึงไหนเลยพี่แกต้องถึงเวลากลับ หรือ ย้ายไปประเทศอื่น
ครั้นจะย้ายตามไปด้วย ก็ไม่มีใครชวนน่ะ พูดอยู่ได้ว่า ว่างๆ you ไปเที่ยวนะ ก็ I ไม่ต้องการแค่ไปเที่ยว you ไม่เข้าใจเหรอ (อันนี้ได้แต่คิด ยังไม่ทันพูด เห็นหน้าคุณปู่ลอยมากเสียก่อน) เฮ้อ!

ฝรั่งทางยุโรปนะ เวลาอายุมากขึ้นดูดีกว่าพวกอเมริกันนะ แม่น้องนิกคิดเหมือนพี่ไหม ตอนนี้มีอยู่คนหนึ่งยังดูดีอยู่เลย แต่ผมเริ่มน้อยลงๆ เมื่อตะกี้แนะนำเรื่องกินผัก พี่จะไปแนะนำเขา จะบอกว่า you กินไก่น้อยๆ กินผักแทนดีกว่า (ปริศนาธรรมเกี่ยวกับไก่ที่กิน..พูดมากไม่ได้เดี๋ยวโดน censor)

พอมีเวลาจะเข้ามาคุยเรื่องการเมืองต่อค่ะ

Have a nice day !


โดย: นกขมิ้น IP: 124.120.124.245 วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:9:24:18 น.  

 
อะไรกั๊น อะไรกันนี่
สวัสดีทุกๆ คนค่ะ
พี่ปะการังคะ สาบานได้เลยว่าบัวฯ ไม่ได้พิมพ์ผิด ทำไมมันกลายเป็นนกขมิ้นไปได้อ่ะ ที่ชัวร์ว่าไม่พิมพ์ผิด เพราะไม่เคยเขียน "นกขมิ้น" เฉยๆ จะมีแต่ "พี่นกฯ" หรือไม่ก็ "พี่หมิ้น" ไม่งั้นก็ "พี่นกขมิ้น" เต็มยศ แหม น้องเป็นคนไทยนะคะ ยังนับถือความอาวุโสอยู่ค่ะ อีกอย่าง ไม่มีทางพิมพ์ผิด 2 คอมเมนต์ติดๆ กันแหงๆ

หรือเจ้าของบล็อก "คาถาแรง" คะ อิ อิ
ขอตัวไปประชุมก่อนนะคะ เดี๋ยวมา "เมนต์" ต่อ


โดย: BUATALAY IP: 203.156.38.184 วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:9:28:34 น.  

 
สวัสดีค่ะทุกๆคน พี่ๆด้วย

พี่นกขมิ้นก็ ไม่ได้หลงประเด็นพี่
ผู้หญิง มันก็มีบ้างสิเนาะ ที่จะคุยเรื่อง
กิ้วๆก๊าวๆอ่ะ ผู้ชาย..ถอยไปก่อน
เดี๋ยวเราวกกลับเข้าประเด็นใหม่ก็ได้

ฝรั่งยุโรป กินอาหารมีประโยชน์ค่ะพี่
เขาจะรูปร่างดีนะ แต่ไม่วายหัวล้าน คิๆ

ก็แล้วทำไม เวลามีหนุ่มหล่อป้วนเปี้ยนหน้าคุณปู่พี่จะต้อง
ลอยมาขวางกั้นได้ทุกรอบเล๊ย
แหม..ช่างน่าเสียดาย ถ้าน้องอยู่ใกล้ๆ
รับรองพี่ จะกวาดมาให้พี่เลือกเลย
น้านนนน..ก็ว่าไป คารมเป็นต่ออ่ะพี่
แต่หนูก็จีบเนียนนะพี่นะ ไม่โฉ่งฉ่าง
แต่ตอนนี้ ไฟแผ่วไปละพี่ แต่ไม่ดับค่ะ

+++++++++++++
พี่ปะการังคะ พรุ่งนี้ วันเกิดหนูน้อย
จะห้าขวบละพี่ ยังไม่ได้อั๊พบล๊อก
อั๊พไม่ได้อ่ะ บล๊อกอืด
ไว้อั๊พเสร็จ จะมาชวนพี่ไปอวยพร
ให้สาวน้อยนะจ้ะ



โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:10:24:59 น.  

 
สวัสดีครับ ทุกๆคน

การเมืองกำลังร้อน นึกดีใจที่สาวๆ (?) ชวนกันคุยเรื่องเบาๆ อ่านไปอมยิ้มไป แต่อ่านไปได้สักพักชักร้อนขึ้นเรื่อยๆ เพราะคุยเรื่องผม เรื่องพุง ..เอาเป็นว่า ขอfadeไปกบดานเขียนบล็อกใหม่ดีกว่า.. เชิญตามสบายนะครับ ทั้งนกขมิ้นและแม่น้องนิก

....

BUATALAYครับ ถือว่าเป็นความผิดพลาดทางเทคนิคก็แล้วกัน อย่าใส่ความว่าพี่มีคาถาเชียวนา.. ไม่มี๊..ไม่มี

....

ได้เลยครับแม่น้องนิก.. ตอนนี้ซ้อมๆก่อนนะ--
Happy Birthday อลีนา!!

....


โดย: ปะการัง IP: 72.197.61.207 วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:13:54:36 น.  

 
วันเกิดลูกวันที่ 9 แม่อั๊พบล๊อกไม่ได้
ต้องมาอั๊พวันที่ 10 แห้วเลยพี่

ขอบคุณค่ะพี่นกขมิ้น ที่ตามหาขุมทรัพย์
จนเจอ ไปอวยพรให้หลานถึงที่
วันนี้อั๊พบล๊อกแล้ว เลยก๊อปคำอวยพร
ของพี่มาไว้หน้าบล๊อกเป็นคนแรก

พี่ปะการัง ตามไปอวยพรให้สาวน้อย
หน่อยนะคะพี่ ไปเมื่อไหร่ก็ได้พี่
เวลาพี่ไม่เหนื่อยอ่ะ หนูดองบล๊อกไว้

เชิญชวนพี่หนอนฯ พี่ตะเบบูญ่า
และคุณบัวด้วยนะคะ

คุณบัว คลิก Mommy and me
ข้างๆบล๊อกพี่ปะการังได้เลยค่ะ
มั่นใจซะด้วยนะว่า คุณบัวจะไป



โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.82.89 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:6:27:51 น.  

 
ขำก๊ากเลยค่ะพี่..ลุงรัง
หือ..เดี๋ยวนี้มุกกระจายนะพี่นะ

ขอบคุณค่ะคุณลุงสุดหล่อ


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.71.236 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:9:37:56 น.  

 
สวัสดีค่ะแม่น้องนิก,

ปลื้มใจและดีใจมากค่ะที่ copy คำอวยพรไปเก็บไว้ใน blog

อลีนาน่ารักมาก สงสัยจะสวยเหมือนคุณแม่
นิกก็น่าจะหล่อเหมือนคุณพ่อ
(คราวหน้าขอเปิดตัวคุณพ่อน้องนิกด้วยนะคะ)

ข้อเขียนใน blog อ่านเพลินดีค่ะ
อ่าน ment ก็สนุกดี ที่บอกว่าสนุกเพราะอู้คำเมืองโต้ตอบกันไปมา พี่ต้องตั้งใจอ่านทุกคำ...อ่านออกเสียง..เหมือนเรียนวิชาภาษาเหนือเลยค่ะ

มีครั้งหนึ่งพี่ไปพักผ่อนที่น่าน บ้านเพื่อนอยู่บนเขา แถวๆ คอวัง อากาศหนาวได้อารมณ์ดีมาก พูดออกมาเป็นควัน เห็นพวกเด็กๆ ชาวเขาแก้มแดงนั่งผิงไฟตามหมู่บ้าน

ทุกวันพี่ต้องเดินไปคุยกับพวกเขา รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ซื้อขนมไปให้ตามกำลังทรัพย์ทีมี รู้สึกประทับใจ ชอบมาก บางวันขี่จักรยานไปนั่งดูชาวบ้านทอผ้าน้ำไหล เคยฝันไว้ว่าจะไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ดังฝัน

******
สวัสดีค่ะบัว,

ทำไมประชุมนานจัง เข้ามาคุยคลายเครียดกันดีกว่าจ๊ะ

อย่าลืมเข้าไปอวยพรให้หลานอลีนานะจ๊ะ



โดย: นกขมิ้น IP: 124.120.118.85 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:9:58:47 น.  

 
สวัสดีค่ะ ทุกคน
มาแล้วค่ะ เมื่อวานประชุมเสร็จแล้วยุ่งตลอดค่ะ
ประชุมทุกวันแหละค่ะ อาชีพหลักนี่คะ พี่หมิ้นขา อ้อ แต่วันนี้เป็นประชุมประจำของทุก 2 สัปดาห์ ก็เปลี่ยนเป็นช่วงบ่ายแทนค่ะ ยาวนานไงคะ คนเยอะ เรื่องแยะ บางที ออกจากห้องประชุมเสียงแหบเลยค่ะ แหม ก็บัวคนเดียว สู้เสียงคนตั้ง 10 กว่าคน นี่นา พวกนั้น เขาผลัดกันพูด เลยไม่เหนื่อยนิคะ

หึ หึ ก็แม่ของหนูอลีนาเขาบอกทางไป "บ้าน" ชัดเจนซะขนาดนั้น ไม่ไปได้ไงคะ พี่หมิ้นอย่าลืมตามไปดูก็แล้วกัน

แล้วบัวสงสัยจิ๊ดนึงอ่ะค่ะ พี่หมิ้น พี่พูดออกมาเป็น "ควัน" เลยเหรอ ไม่เป็นคำพูดหรอกเหรอคะ ฮิ ฮิ อยากชวนไปโชว์ตัวในงานวัดข้างบ้านนะเนี่ย 555

แม่น้องนิกคะ บัวยกมือสนับสนุนพี่หมิ้นค่ะ เปิดตัวเลยค่ะ บัวก็อยากเห็นคนหล่อของแม่น้องนิกนะเนี่ย ดูสิว่าหล่อสูสี หรือกินขาดเจ้าของบล็อกนี้ อิ อิ ขอพาดพิงค่ะ โทษฐาน fade ไปกบดาน (ดีกว่า กบดำ-กบแดงหน่อย) อัพบล็อก หุ หุ


โดย: BUATALAY IP: 203.156.36.30 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:10:23:16 น.  

 
พี่บัว พี่นกขมิ้นคะ

สุดหล่อของแม่น้องนิกเหรอคะ
หล่อน้อยกว่าพี่ปะการังนิดนึงเองพี่
ราวๆนั้นแหละคะ วัยก็..ไร้เดียงสากว่า
ไปซักห้าปีกระมัง(ใช่มั๊ยพี่ปะการัง)

ครั้นจะบอกว่าหล่อมากเนี่ย
พี่ปะการังเธอจะเหวี่ยงค้อนใส่

พี่จ๋า อย่าเข้าใจผิดไปเลยพี่
ถ้าลูกหล่อและสวยน่ารักนะ
ช่วยยกประโยชน์ให้พ่อเขาเถอะค่ะ
ถือซะว่า ได้เลือดพ่อไปละกัน
เพราะแม่อ่ะ สาวเหนือ ตาชั้นเดียวพี่
ไม่รู้จะจัดว่า มีความงามประเภทไหน

แต่ถ้าลูกฉลาดนะ พี่ช่วยพยักหน้าด้วย
ว่าได้เลือดแม่ไปเต็มๆ


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.71.236 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:10:43:30 น.  

 
สวัสดีค่ะบัว,

ว่าแล้วเชียว..บัวต้องเข้ามาอ่าน..แวบๆ บ้างเถอะงานน่ะ เอาอย่างพี่ซินายไม่อยู่นะ นั่งหน้าคอมแบบเนียน ใครไม่รู้นึกว่าพี่ขยันเสียนักหนา..พี่ทำอะไรอยู่คงไม่ต้องเฉลยนะ..เดี๋ยวพวกฉลาดกว่าเขาจับได้...555 (ความสามารถเพาะตัว ห้ามลอกเลียนแบบ)

บัวอยู่ทางใต้คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล จะไปรู้ได้ยังไงว่าเวลาหนาวมากๆ แล้วมีควันออกมามันเป็นยังไง..พี่ยินดีไปออกงานวัดนะ คู่แข่งพี่ก็เด็กหัวโตๆ ไง เคยเห็นไหม (ห้ามปฏิเสธว่าไม่เคยเห็น ขนาดอีตักยังรู้จักวิธีเล่น) เดี๋ยวนี้ตามงานวัดหายเกลี้ยงไปหมด มีบ้างแต่หัวไม่โตเหมือนเมื่อก่อน น่าสงสารมาก

แม่น้องนิกไม่กล้าเปิดตัวสุด love หรอก แม่น้องนิกรู้ดีว่าจะต้องมีคนซึมเศร้า ปนอิจฉา อย่างน้อยหนึ่งคนจ๊ะ


โดย: นกขมิ้น IP: 124.120.118.85 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:10:48:19 น.  

 
พี่บัว พี่นกขมิ้นคะ

อยากเห็นหน้าสุดหล่อ กับแม่น้องนิก
ถ้าแวะไปที่บล๊อก พี่คลิกเรื่อง

อั๊พเดทครอบครัว

ในนั้นมีภาพให้พี่ติชมค่ะ

พี่ๆคนอื่น เค้าเห็นกันหมดแล้วพี่
เราไปเจอกันที่เมืองไทยค่ะ
ส่วนพี่ปะการังก็เห็นแล้ว

วันหลังเวลาคุยกัน จะได้ไม่ต้องแทงกั๊ก


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.71.236 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:10:49:48 น.  

 
อิ อิ เขินจัง แม่น้องนิก-นา อย่าถือสานะคะ คือว่าเป็นคนขี้เกียจหา ขี้เกียจอ่านย้อนหลัง แล้วก็บางทีก็ไม่อยากละลาบละล้วง แต่ทีนี้ แม่น้องนิก-นา อนุญาตแล้ว เลยไปชมโฉมทั้งครอบครัวเลยค่ะ
(ว่างๆ จะขอไปอ่านบล็อกทั้งหมดนะคะ)

ขอบอกว่า คุณจอห์น หน้าตาคล้ายดาราที่บัวฯ ชอบคนหนึ่งค่ะ อีตา Robin Williams น่ะค่ะ (พี่หมิ้นๆ เห็นด้วยมั้ยเอ่ย) แต่พิศๆ ดูแล้ว คุณสุดหล่อของแม่น้องนิก-นา หล่อกว่าหลายขีดอยู่ ดูท่าว่าจะหุ่นดีกว่าด้วยค่ะ ที่แน่ๆ คือหนุ่มกว่าพ่อ โรบิน แน่นอน อิ อิ

ส่วนแม่น้องนิก-นา หน้าตาคล้ายเพื่อนคนหนึ่ง ที่เรียนด้วยกันช่วงมหาวิทยาลัยมากๆ เลย จริงๆ นะคะ แต่เขาไม่ได้ชื่อแมวเหมียว นี่นา อีกอย่าง แม่น้องนิก-นา คงไม่ได้เรียนรุ่นเดียวกะบัวหรอกมั้งคะ อิ อิ

พี่นกฯ คร้าบบบบบบ บัวทำอย่างพี่ ได้ไม่บ่อยมากค่ะ เนื่องเพราะหน้าที่หลักไม่ต้องใช้คอมพ์ (เขารู้กันทั้งออฟฟิศแหละค่ะ) ปรกติใช้ลูกน้องทำ ยกเว้น ความลับสุดขอบฟ้า ถึงจะทำเอง อีก
อย่าง เครื่องคอมพ์ อยู่เยื้องๆ ไปหลังโต๊ะทำงาน แปลว่า ถ้าใช้คอมพ์ก็ต้องลุกมาจากโต๊ะทำงานค่ะ อ๊ะๆ อย่างบอกให้ย้ายคอมพ์ไปไว้ที่โต๊ะนะคะ คราวนี้นายจับได้แน่ๆ อิ อิ

แหม พี่ขา น้องอยู่ใต้ ก็ไม่ได้ "หลังเขา" นิคะ อุณหภูมิ - 4 องศา ก็เคยสัมผัสมาแล้วน่า นอนเต็นท์อีกต่างหาก หุ หุ คนทะเลนี่แหละ ชอบนักเชียวอากาศหนาวๆ น่ะ หลังสุดก็เพิ่งไป "ควันออกปาก" ที่ภูชี้ฟ้า เมื่อปีกลายนี่เองค่ะ อิ อิ

แต่ว่าหนูไม่เคยเห็นเด็กหัวโต จริงๆ นะพี่ ตอนนี้ ที่เห็นหัวโตอยู่คน ก็สุดหล่อ มาร์ท ใน นิมิตมาร อ่ะค่ะ พี่ขา ส่วน "อีตัก" น่ะ ไม่เคยเล่นหรอกค่ะ แต่เคยเห็นเขาเล่นกัน ของเล่นหนู หนักไปทาง ยิงหนังสติ๊ก ขึ้นต้นไม้ไปสร้างบ้านทาร์ซาน
ทอยตุ๊กตาหุ่นยนต์ เพราะไม่มีเพื่อนเล่นเป็นผู้หญิงเลยค่ะ

เฮ้อ จะได้เวลาประชุมอีกแล้ว บ่ายนี้เรื่องเยอะซะด้วยซีคะ
ขอตัวก่อนนะคะ สัญญา ว่าจะเอา หัวไปด้วยค่ะ


โดย: BUATALAY IP: 203.156.36.30 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:13:04:50 น.  

 
เบาๆหน่อย คนอยู่ทางนี้ ยังไม่หลับนะครับ ยังทำงานหน้าจออยู่

จะคุยถึงใครหล่อๆ ก็ขอให้เกรงใจกันบ้าง.. เดี๋ยวคืนนี้จะนอนไม่หลับ ต้องลุกไปหาค้อนสักหน่อย..

อะไรกัน แม่น้องนิก จอห์นจะอ่อนกว่าพี่ตั้งห้าปีเชียวหรือ? ไม่จริงมั้ง

ฮ่า.. คนหนึ่งพูดจนคอแห้ง, คนหนึ่งพูดเป็นควัน

ทำไมวันนี้เข้าบล็อกไม่ค่อยได้ โหลดช้ามาก?? ใครแกล้งไม่ให้เราเขียนอ๊ะปล่าว?


โดย: ปะการัง IP: 72.197.61.207 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:13:19:41 น.  

 
พี่ปะการังคะ ทำไมนอนดึกจัง เสียสุขภาพหมด เดี๋ยวความหล่อลดลงจะหาว่าน้องไม่บอกอีก ฮิ ฮิ

ตกลงพี่ว่าดีมั้ยละคะ ฮิลลารีเธอประกาศอย่างเป็นทางการแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าจะสนับสนุน บารัค โอบามา ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแน่นอนแล้ว แต่ว่าข่าว (ทางนี้) ยังไม่เห็นว่าโอบามาจะเลือกเธอเข้าร่วมทีมเพื่อชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี เลยค่ะ แล้วพี่คิดว่า โอบามา จะสู้คู่แข่งอีกพรรคได้มั้ยคะ
ป.ล. วันนี้ทำลายสถิติ ประชุมแค่ชั่วโมงครึ่ง (ทุกที ไม่เคยต่ำกว่า 2 ชั่วโมงนะ !!) คอไม่ทันแห้งค่ะ อิ อิ


โดย: BUATALAY IP: 203.156.36.30 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:15:48:06 น.  

 
อิๆ โทษทีจ้ะพี่ปะการัง
แม่น้องนิกชอบเหมาเอาว่า
พี่น่ะรุ่นเดียวกับคุณโดม
เอ..ว่าแต่พี่..เท่าไหร่นะ

(หลอกถามไปงั้นแหละค่ะพี่
ใครเขาจะกล้ามาบอกอายุ
หรือว่า พี่กล้าคะ)

++++++++
พี่นกขมิ้น คิดว่าแม่น้องนิก
ไม่กล้าเปิดตัวครอบครัวเหรอพี่
น้อยไปสิ..ไม่มีอะไรที่เราไม่กล้า
เว้นซะแต่ กลัวพี่ตาร้อนผ่าวๆ

แต่ไหนๆ ก็ไหนๆแล้วอ่ะพี่..นะ
ผู้ชายอ่ะ ออกบ้านปุ๊บ..ก็กลายเป็น
คนอื่นสำหรับเราไปแล้ว
(เว้นไว้แต่พี่ปะการังก็ได้..อ่ะ)
สรุปว่า..หนูอิจฉาพี่ละกัน

++++++++++
คุณบัวคะ

แม่น้องนิกอยากให้ฮิลลาลีชนะค่ะ
อยากเปลี่ยนประวัติศาสตร์อเมริกาบ้าง
เสียดาย

เป็นเพราะพี่ปะการังเชียร์โอบามาเชียว

แต่ตอนนี้อ่ะ เบื่อบุชมากเลย
ขอแต่เงินไปสนับสนุนที่อิรัก
เสียเงินเสียทองภาษีประชาชน
ไปยึดประเทศเค้าอ่ะ แล้วน้ำมัน
ถูกซะที่ไหน แพงเอาๆ

ก็ยังจะกระหน่ำของเงินอยู่นั่น
บ้านก็ราคาตก คนยังไม่มีปัญญาซื้อเลย
เพราะข้าวของราคาแพงขึ้น

เมื่อวานได้รับจดหมาย บอกว่า
ซิตี้จะขึ้นราคาค่าเก็บขยะ
ตายๆๆ เงินมีเท่าเดิม แต่ทุกอย่าง
มันพากันขึ้นราคา ตามน้ำมันแพง
ถ้าไม่ด่าผู้นำ แล้วจะไปด่าใครล่ะเนี่ย


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.94.143 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:20:56:37 น.  

 
สวัสดีค่ะแม่น้องนิก,

บัวกับพี่ไม่ได้เข้าไปอ่านตอนนี้จึงไม่ทราบค่ะ ขอเวลาเย็บหน้าก่อน 10 นาที

เข้าไปดูรูปครอบครัว (เน้นฝาละมี) แล้ว

เริ่มแรกมโนภาพตามคำบอกของแม่น้องนิกเรื่องกินผัก และ ลดพุง นึกว่าแม่น้องนิกกังวลไปเอง ความจริงคงไม่เป็นเช่นที่พูด ณ บัดนี้มองเห็นรูปธรรมชัดเจนว่าที่แม่น้องนิกกังวลน่ะ ไม่ค่อยไกลตัวนักหรอก...อีกมุมมองหนึ่งอาจจะถ่ายในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งนอน เมื่อหลังไม่ตรง แขม่วพุงลำบากนิ...

แม่น้องนิกชอบ The Beatles ใช่ไหมล่ะคะ โดยเฉพาะ John Lennon
ชื่อเดียวกันต่างกันแค่นามสกุล แล้วแม่น้องนิกก็คล้ายๆ Yoko Ono ด้วย..แฮะ

โดยรวมๆ แล้วน่ารักค่ะ โดยเฉพาะเด็ก ชอบรอยยิ้มของน้องนิก ดูสุขุมดี คุณแม่ต้องระวังสาวๆ หน่อยละกัน โตขึ้นเป็นหนุ่มเนื้อหอมแน่

ตอนนี้พี่กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะเจริญรอยตามแม่น้องนิกดีไหม ประมาณว่าคุณปู่พี่คงไปเกิดใหม่แล้วละ..555


โดย: นกขมิ้น IP: 124.120.114.116 วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:7:41:12 น.  

 
พี่นกขมิ้นคะ

พี่อย่าเจริญรอยตามหนูเลยพี่
ถ้าอยู่เมืองไทยก็โอเคล่ะ
แต่ถ้ามาอยู่เมืองนอกอ่ะ
ชีวิตเรา จากคุณนาย เป็นคุณแจ๋วเลย
คิดให้ดีๆนะพี่นะ

อุ๊ยพี่ เมื่อกี้ คุยกับคุณสามีเรื่องวันเกิด
วันเกิดเธอวันศุกร์นี้ เราก็ถามว่า
ยูจะเท่าไหร่แล้วนะ เธอตอบว่า 47
ด้วยใบหน้าเรียบเฉย พี่เอ๊ย แทบกรี้ด
เราก็อ้าปากกว้างๆส่งเสียง
ลอดออกไป ด้วยดวงตาเบิกโพลงว่า
ยูเนี่ยจะ จะ50 แก่ขนาดนี้เลยเหรอ

อิๆ ตอกย้ำเข้าไว้พี่

เดือนนี้ หนูจะหัวปั่นหน่อยค่ะพี่
เป็นเดือนเกิดสามพ่อลูกเขาค่ะ
กินฉลองซะ สามคน สามเค็ก


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.244.10.32 วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:10:33:16 น.  

 
สวัสดีค่ะแม่น้องนิก,

เหลียวซ้ายแลขวา สงสัยเรา (แม่น้องนิก, พี่และบัว) ถูกปล่อยเกาะซะแล้ว !

คุยกันเจ๊าะแจ๊ะอยู่ 3 คน เจ้าของบ้านไม่เหลียวแล..ฮือๆๆ ไม่เป็นไร บอกแล้วว่าไม่ไล่ ไม่ไป blog นี้เข้ามาคุยแล้วสบายใจ ถึงเพื่อนคุยจะน้อย แต่มีคุณภาพทั้งนั้น

ขึ้นชื่อว่าฝรั่งทั้งชาย หญิง เป็นเช่นที่แม่น้องนิกบอกจริงๆ ค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเป็นหนุ่ม เป็นสาวเร็วเกินไปหรือเปล่า ดูสิค่ะ อายุแค่สิบแก่ๆ ก็ออกเดทแล้ว พ่อแม่ฝรั่งบางคน ลูกยังหาคนออกเดทไม่ได้เครียดก็มี ตรงกันข้ามกับคนไทย พ่อแม่จะสอนว่าไม่ต้องรีบมีหรอกแฟนน่ะ เดี๋ยวก็มาเอง ถ้าเป็นเนื้อคู่กันแล้วยังไงๆ ก็ต้องมาเจอกัน ซึ่งยุคนี้สมัยนี้บางคนอาจคิดว่าเชย ถ้าเรารีบร้อนเกินไปบางครั้งก็มีข้อผิดพลาด ชีวิตก็จะไม่มีความสุข

John ปีนี้ครบ 47 แต่ก็ OK นะแม่น้องนิก คือยังมีเค้าหล่อให้เราชื่นใจ นอนหลับฝันดี แต่อย่าไปยึดติดกับรูปร่างภายนอกมากเพราะเป็นเรื่องของสังขาร ความรักแบบยั่งยืนที่เขามอบให้เราต่างหากที่เราต้องการ จริงไหมจ๊ะ





โดย: นกขมิ้น IP: 124.120.114.116 วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:11:05:25 น.  

 
จริงครับ ๆๆ ความหล่อเป็นของนอกกาย เป็นเรื่องของสังขาร ผมนะ รู้สัจธรรมข้อนี้ลึกซึ้งตั้งแต่เกิดแล้วล่ะครับ :-)

ไม่ได้มา แต่ก็แอบอ่านอยู่ครับ เชิญตามสบายครับ อย่าพาดพิงก็แล้วกัน


โดย: ปะการัง IP: 72.197.60.216 วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:11:32:00 น.  

 
แม่น้องนิกขา ถ้าคุณจอห์นจะ 47 จริง จะอ่อนกว่าพี่ปะการังตั้ง 5 ปีเชียวเหรอค้า พี่ปะการังเค้าก็ "ปูนนั้น" เอ๊ย "รุ่นนั้น" ไม่ใช่เหรอ อิ อิ
อ๊ะๆ ไม่ได้พาดพิงนะคะ "เอ่ยถึง" เลยแหละ 555

แม่น้องนิกคะ ก็เห็นเขาว่า ถ้า โอบามา ได้เป็น ประธานาธิบดี ก็พลิกประวัติศาสตร์ เหมือนกัน เพราะเป็นคนผิวดำคนแรก แถมมีเชื้อสายแอฟริกันอีกต่างหาก ไม่ใช่เหรอคะ

อู๊ยยยยยย เค้ก 3 ก้อน นึกถึงน้ำหนักที่จะพุ่งกระฉูดไปด้วยเลยค่ะ งั้นถือโอกาส Happy Birthday to Khun John ล่วงหน้าตรงนี้เลยก็แล้วกันนะคะ ส่วนพรแบบน้องอลีนาให้ไม่ได้ค่ะ เพราะถือธรรมเนียมไทยว่าผู้อ่อนอาวุโสกว่าอวยพรผู้ใหญ่กว่าไม่ได้น่ะค่ะ อิ อิ

ดูสิคะ ข่าวว่าที่เกาหลีใต้น่ะ รัฐมนตรีเขาแสดงสปิริตลาออกกันเป็นทีมเพราะประชาชนต่อต้านเรื่องนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯ (เขากลัวเชื้อวัวบ้า) แล้วคนอยู่ที่นั่นอย่างแม่น้องนิก อย่างพี่ปะการังรู้สึกยังไงคะ ทานเนื้อกันรึเปล่า แต่ของพี่ไทยเราด่ากันแล้วตั้งหลายเรื่องนับไม่ถ้วน ประท้วงก็แล้ว อะไรก็แล้ว พวกยังหน้าด้านอยู่ แบบ "ไม่สน ..ใครจะทำไม..ได้"
อ่ะ

ฮั่นแน่ พี่หมิ้น เอาจริงเหรอ เจ้าคุณปู่จะฮึ่มฮั่มๆ อยู่ข้างบนซะละมั้งเนี่ย แล้วตกลงพี่หมิ้นจะยัง "ไม่รีบร้อน" หรือว่า "รีบร้อน" ดีคะ ฮิ ฮิ

คำคม (บาดใจใครบางคน) วันนี้:-

ความหล่อเป็นของนอกกาย (ซะเมื่อไหร่)
มองๆ ไป ก็ชื่น...ตา ชื่น...ใจ นะเออ


โดย: BUATALAY IP: 203.156.61.189 วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:12:33:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชบาฉาย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




"ปะการัง" เป็นนักเขียนที่มีผลงานบทกวีและเพลง เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน.. กลับมาเขียนหนังสืออีกครั้ง ตามคำชักชวนและได้รับเอื้อเฟื้อบล็อก "ชบาฉาย"นี้ จากโดม วุฒิชัย



เริ่ม 13 ส.ค. 2550
เชิญ!!!

คลิกอ่านเรื่องของ"พ่อพเยีย"



~ คลิกดูภาพถ่ายสไตล์"ปะการัง" ~
Friends' blogs
[Add ชบาฉาย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.