CHEM IS TRY and *CHEMISTRY*
วันนี้ฝนตื่นนอนตอน 6 โมงเช้า เป็นปรากฏการณ์พิเศษในรอบปี ปกติถ้าไม่เกิน 10 โมงแม่จะไม่ลุกเป็นอันขาด ตื่นขึ้นมา ขยี้ตา แต่หน้ายังไม่ล้าง (ซกมกจริง) เดินสะโหลสะเหลหน้ามันไปห้องอ่านหนังสือที่นังมู๋ฝนดัดแปลงจากห้องนอนกลายเป็นห้องอ่านหนังสือที่มีกองหนังสือ เศษกระดาษและถุงขนมเกลื่อนห้อง มะรู้ห้องนอนหรือแหล่งสะสมขยะกันแน่ บรื้อ!!! วันนี้สอบวิชาสุดท้าย เมื่อคืนเป็นพวกท่าดีทีเหลว กางชีททำท่าประดุจมุ่งมั่นสุดๆ แล้วสุดท้ายก็มานอนแหมะที่เตียง เคลิ้มฝันไปไกลโข ตื่นมาอีกทีเพราะเสียงนาฬิกาปลุก....ลั่ลหล้า อ่านยังไม่ถึงไหนเลยต้องรีบๆๆๆๆมาอ่านในสภาพที่บรรยายมาทั้งหมด สอบตอน 9 โมงเช้า โอ้วข้อสอบ แน่ใจนะว่ามันเป็นข้อสอบ 5555 คือแบบว่าการทำข้อสอบวิชาหัวข้อพิเศษทางชีวเคมีวันนี้มันส์มาก อะไรจะสนุกสนานขนาดน๊าน.....พอสอบเสร็จก็ไปกลิ้งอยู่ห้องสมุด นั่งหาเปเปอร์ นั่งทำงานน แล้วก็ไม่ลืมที่จะฟุบหัวลงบนโต๊ะหลับมันซะเรียนเคมีมาจนวันนี้สอบเสร็จของปี 3 แล้ว มองกลับย้อนไป ตูผ่านมันมาได้ไงวะ บางช่วงเวลาก็เหมือนมันได้มาง่ายดาย แต่บางช่วงเวลาก็เหมือนเสียแรงไปเยอะโขแต่ก็ได้มันมาจนได้ ตั้งแต่ตอนเข้าปี 1 มาแรกๆ เห็นพี่พร่ำบอกเสมอๆ เขียนมันตัวเป้งๆหน้าห้องเวลานัดเข้าน้องปี1 (สมัยน๊าน)CHEM IS TRY .....มันคือไรหละ ตกอังกฤษ อิอิง่ายๆความหมายมันบ่งบอกอยู่ในตัว......จริงๆประโยคนี้มันแปลงมาจากCHEMISTRY แต่แค่เราเอามันมาแยกกันออกแค่นั้น แต่ความหมายดีเลยหละ เคมี....คือ ความพยายาม.....ตอนนั้นอยู่ปี 1 ไม่เคยคิดจะพิศวาสคำๆนี้ ไม่เคยมีคำๆนี้ในสมอง แต่ทุกวันนี้มันเกาะติดเข้าสู่กระแสเลือดเลยหละ เคมี คือความพยายาม พยายามจริงจริ๊ง....มันไม่ใช่แค่เรื่องเรียน แต่มันคือความพยายามในทุกเรื่อง หุหุตอนนี้ต้องหัดท่องคำๆนี้เอาไว้ แล้วจะได้ไม่ท้อมันง่ายๆ...ไม่ใช่เจอปัญหาแล้วตูจะถอยลูกเดียว อันที่จริงฝนว่าทุกอย่างนั่นแหละ มันคือความพยายาม ......พอสอบเสร็จ คิดถึงคำๆนี้แล้วมันใช่เลย เออจริงๆ เห็นด้วยสุดๆ เคมี คือ ความพยายาม.....จะมาสาธยายชีวิตเน่าๆช่วงที่ผ่านมาค่ะ ช่วงการสอบที่สามารถปลุกเรียกวิญญาณผีดิบสิงสู่ตัวฝนอีกครั้ง.....ช่วงที่ผ่านมาประเทศไทย โดยเฉพาะเขตอีสานร้อนบรรลัย ไม่รู้มันจะร้อนไปถึงไหน บางวันทำเอาฝนหงุดหงิดชนิดไม่อยากมองหน้าใครเลยหละ อาจจะเครียดๆเรื่องเรียนด้วยเลยพาลหงุดหงิดไปหมด.....พออากาศร้อน...พวกเราก็จะทำการย้ายฐานที่มั่นไปอ่านหนังสือกันที่ห้องสมุด เพราะแอร์มันเย็นฉ่ำ แต่ก็นั่นแหละเราคิดได้ คนอื่นทั้งมหาลัยมันก็คิดเช่นกันกับเรา เพราะฉะนั้นช่วงสอบ พื้นที่ห้องสมุดจะดูมีค่าสุดๆ มีการยื้อแย่กันเหมือนสินค้าลดราคาเลยหละ บนชั้น 4 ของห้องสมุดจะมีแบ่งเป็นห้องๆ ซึ่งคนไม่พลุกพล่าน เป็นที่หมายปองของทุกคน.....เพื่อนๆจะส่งนังมู๋ฝนหน่วยหน้าด้านกลิ้งขึ้นไปจองที่ โดยจะมีการถือกระเป๋าหนังสือกับชีทขึ้นไปด้วย กวาดสายตา หาทำเลเหมาะ วางกระเป๋าหนังสือลงปั๊บ.....กระจายหนังสือจาก 1 โต๊ะเป็น 2 โต๊ะ แถไปจนโต๊ะที่ 3 ไอ้คนที่นั่งอ่านอยู่ก่อนมองหน้าฝนนิดๆ ในใจมันคงคิด-แม่งมาคนเดียว เจือกจองไว้ตั้งหลายโต๊ะ หน้าด้านจริงๆแม่คนนี้-คือมันไม่พูดแต่ฝนอ่านสายตามันออก 5555 ก็ด้านจริงๆ ไปจองไว้กะไม่ให้ชาวบ้านเค้าได้มีที่นั่ง เก๊าะฉันจ่ายค่าธรรมเนียมเหมือนกันก็ขอเอาให้คุ้มหน่อยละกันพอทำการจองที่เสร็จปั๊บก็เดินลงมาสมทบกับเพื่อนๆที่ข้างล่าง หาข้าวกินกันที่โรงอาหาร.....โน่นกินเสร็จก็นั่งเม้าส์รอเวลาให้ถึง 10 โมงครึ่ง เพราะห้องสมุดจะเปิดแอร์ตอน 10 โมงครึ่ง ขืนรีบขึ้นไปก็ร้อนตาย รอให้เค้าเปิดแอร์ก่อน.....เราๆถึงค่อยย้านกองกันไปที่ที่จองเอาไว้ พอได้ฤกษ์อันเหมาะก็จะย้ายกันไปนั่งอ่านหนังสือตามมุมของตัวเอง.....เปิดหนังสือด้วยท่ามุ่งมั่น ไม่นานนักก็จะเริ่มๆโค้งคำนับหน้าไปแนบชิดกับหนังสือ หลับไปซะงั้น มันเป็นคุณสมบัติพิเศษคือนอนได้ทุกที่ นอนมันทุกเวลา จนได้ฉายา *หมูตอน เอาแต่นอน*ไปแล้ว.....ก็ต้องวิ่งลงมาพึ่งพากาแฟอีกครา พอจะทำท่าอ่านรู้เรื่อง...อาเหมยก็ดั๊นมาชวนไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านไอ้นุช โดยมีการนัดไอ้หนู ไอ้ตั้ม ไอ้ตันติกร แล้วต้องแถไปรับไอ้จักรที่หออีก.....ในขณะที่ขับรถไปรับไอ้จักรก็เจอน้องปี 1 แซว-อ้าวจะสอบกันแล้วก็เที่ยวกันเข้าไป- เด็กมันว่ากระทบแบบขำๆ แต่ขอโทษพี่ไม่สะทกสะท้านเล๊ย.....ขับรถจากมอไปบ้านไอ้นุช ผ่านทุ่งนา ผ่านท้องฟ้า ผ่าแสงอาทิตย์เพื่อไปกินส้มตำและอนุพันธ์ของส้มตำที่บ้านไอ้นุช กว่าจะกินกันเสร็จ ปาไป 3 ชั่วโมง เป็นการกินข้าวเที่ยงที่ยาวนานเหลือหลาย กว่าจะทำใจกลับมาอ่านหนังสือที่ห้องสมุดได้ ก็เกือบ 5 โมงเย็น ไอ้คนที่นั่งแถวๆโต๊ะที่พวกฝนอ่านหนังสือ มันก็มองมาด้วยสายตาประมาณว่า-พวกเมิงไปกินข้าวรึไปปลูกข้าวฟระ นานโคตร-ตกเย็นหลังจากอ่านหนังสือได้ไม่นาน ในความรู้สึกฝน มันยังไม่ถึงไหนเลย ก็ต้องลงไปเติมพลังด้วยการหาของกินที่ตลาดน้อยแหล่งรวมของกินของเด็ก มมส. อาหารของเราก็เลิศหรูไฮโซ ไม่ได้หากินกันได้ง่ายๆ....นั่นก็คือ ส้มตำ ปลาย่าง แกงหน่อไม้ แกงเห็ด อิอิ ข้าวเหนียวพร้อม แซบขนาดน๊อพี่น้อง....หลังจากอิ่มก็แยกย้ายกันกลับหอบ้าง บ้านบ้าง อ่านใครอ่านมันแล้วก็นอนเอาแรงเพื่อจะได้สู่ต่อวันรุ่งขึ้น.....ทุกๆวันจะมีการโทรจิกันมาอ่านหนังสือ ซึ่งบางวันหน่วยหน้าด้านอย่างฝนก็ไม่ยอมทำหน้าที่ดื้อๆ.....กินข้าวเสร็จค่อยไปหาที่นั่งเอาข้างหน้า บางวันคนที่ห้องสมุดเยอะมาก จนฝนมีความคิดว่า มันน่าจะขยายอาณาเขตมากกว่านี้หน่อยนะ....บางทีที่สอบหาที่นั่งไม่ได้ก็ต้องย้ายมันไปเรื่อยๆ บางทีต้องนั่งอ่านหลังคณะ บางวันหลังคณะไม่ว่างก็ย้ายไปตึกเภสัช บางวันตึกเภสัชเสียงดังก็ต้องย้ายไปตึกพยาบาลซึ่งมันเงียบโคตรๆ พอพวกเราไปก็ทำเอาคณะเค้าแตกไปเลย หุหุ การหาที่นั่งอ่านหนังสือเป็นเรื่องยุ่งวุ่นวายและเป็นปัญหาสำหรับพวกฝนมากๆ.....ชีวิตช่วงสอบ ลักษณะทางกายภาพจะมีดังนี้ค่ะ-หัวฟู ผมมันมักจะไม่ประสานสามัคคีกัน.....คิดจะชี้ก็ชี้ ไม่เคยปรึกษาเจ้าของหัวเล๊ย-สิงขึ้น เม็ดเป้งๆ.....อ๊ะแน่นอน ขึ้นได้ขึ้นดี ไม่คิดจะกระโดดไปขึ้นหน้าคนอื่นบ้างรึไงฟระ-น้ำหนักขึ้น อ่านหนังสือแทนที่มันจะผอม สำหรับฝนมันใช้ไม่ได้ผล....เพราะเวลาอ่านหนังสือ ฝนจะหิวทุกๆ 1 ชั่วโมง เอากับมันสิ-เสื้อผ้าก็จะยับๆ อาจจะเกิดจากรอยที่นอนด้วย นอนมันบ่อย แล้วก็ไม่มีเวลารีด....เอามาจากราวตากผ้า สลัดๆ แล้วก็ใส่มันมาเลย 5555 ซกมกจริงๆและทั้งหมดทั้งมวล มีเสียงสะท้อนมาว่า -แกเป็นงี้ไงฝน ถึงไม่มีแฟนก่าชาวบ้านเค้าซ๊าที ผู้ชายที่ไหนเค้าจะเอา-ช่วงสอบ....ชีวิตฝนจะผูกติดกับเพื่อนมากขึ้น กินข้าวเช้า กลางวัน เย็นกับพวกมันตลอด อาหารเช้าเราๆคือข้าวแกง อาหารเที่ยงคือลูกชิ้นหน้าห้องสมุด กินมันทุกวันจนหน้าจะกลมเป็นลูกชิ้นแล้ว ส่วนอาหารเย็นก็คือส้มตำบ้าง ห่อหมกบ้าง แกงเห็ดบ้าง.....แล้วต้องปิดท้ายด้วยกาแฟเย็นแก้วโตๆ....สั่งแม่ค้าว่าเอากาแฟ 3 ช้อนค่ะ ช้อนเดียวหนูนอนไม่แซบการสอบครั้งนี้รู้สึกเหมือนตัวเองจริงจังมากขึ้น....อ่านมากขึ้น จดจ่อกับมันมากขึ้น รวมทั้งเพื่อนๆฝนด้วย จากเมื่อก่อนที่อ่านบ้าง เล่นซะส่วนใหญ่ แต่พอสอบครั้งนี้ทุกคนดูเหมือนนิ่งขึ้น เงียบขึ้น แล้วก็จริงจังขึ้น แต่ผลก็นะ พอออกจากห้องสอบก็ส่ายหัวแล้วก็เดินคอตกกันทุกราย รวมฝนด้วยแหละ รู้สึกเหนื่อยมากๆ....ทั้งที่เราพยายามมากกว่าเก่า จริงจังมากกว่าเดิม แต่มันก็นะ เหมือนพยายามกี่ครั้งก็ตามแต่ มีค่าเท่าศูนย์ซะงั้น....สมกับที่พี่ๆบอก/เคมี คือ ความพยายาม/รู้สึกตั้งแต่มาเรียนเอกนี้...พยายามเหลือเกิ๊น พยายามมาตลอด 3 ปี มันช่างเหน็ดเหนื่อยอะไรเยี่ยงนี้.....สอบเสร็จแทนที่จะได้พักก่อนไปฝึกงาน แต่ก็ต้องมานั่งแปลงานปั่นงานส่ง ซึ่งฝนก็แถมาอัพบล็อก ขี้เกียจทำ....หาแรงบันดาลใจก่อน หุหุเมื่อวาน....นัดเจอกับโอ เมทสาวคนสนิทมาทำงานกันที่ห้องสมุด มันก็มาด้วยสภาพที่น่ากลัวมาก กระเป๋าเป้ที่เขาเอาไว้พายไปเดินป่า มันก็พายมา....ไอ้เราก็นึกว่าเสื้อผ้า ที่ไหนได้ หนังสือทั้งดุ้น ไปช่วยมันถือ เฮือก เล่นเอาแขนเกือบหลุด....มันแบกหนังสือมาเป็น 10 เล่น โอ้ว เรียนหนักของแท้....มีคนเค้าบอกมาว่า เรียนหนังสือนะไม่ใช่ไปแบกของจะได้หนัก....คร๊า งานนี้ไม่ได้แบกของแต่แบกหนังสือแทน เห็นสภาพเพื่อนแล้วคิดว่า ตูโคตรโชคดีเลยที่ไม่หลวมตัวไปเรียนพยาบาล 55555.....ได้คุยกันเยอะแยะหลังจากที่ไม่เจอกันนาน เพราะโอมันขึ้นวอร์ด ฝนก็ยุ่งเรื่องสอบ ก็เมื่อวานนี่แหละที่ได้เม้าส์....พูดเรื่องเก่าๆ จนไปจบที่เพื่อนสนิทอีกคนที่ตอนนี้มันแปลงร่างจากการเป็นโปรแกรมเมอร์ไปเป็นโปรแกรมมั่วซะงั้น....บอกกล่าวกันก่อน ถ้าบริษัทไหนจะรับเพื่อนฝนคนนี้ห้ามรับเด็ดขาด ก็มันออกจะประกาศตัวว่าเป็นโปรแกรมมั่วขนาดนั้น ท่านก็อย่าเสี่ยงรับมันเล๊ย.....ตอนกลับออกจากห้องสมุด ก็ต้องช่วยไอ้โอแบกหนังสือกลับอีก สงสารมันถ้าจะให้มันแบกคนเดียว.....เลยทำบุญช่วยมันซะหน่อย เผื่อผลบุญจะทำใฝนมีแฟนเป็นหมอ (เกี่ยวไหมเนี่ย)ชีวิตแทนที่จะได้หายใจทิ้งไปวันๆ....ก็ต้องมาทำสิ่งที่ค้างๆไว้ตอนช่วงสอบ-บ้านที่รอให้ฝนปัดกวาดเช็ดถู เฮ้อ แค่เห็นก็เหนื่อยแล้ว-ผ้ากองโต ที่ดองเค็มมันเอาไว้ คงจะถึงเวลาที่จะได้ซักซะที-รองเท้าที่เน่าแล้วเน่าอีก คงถึงเวลาของเจ้าแล้วหละ....จะได้เจอผงซักฟอกซะที-ซักเสื้อผ้า เช็คของแพ็คกระเป๋าเพื่อจะไปฝึกงาน-แปลเปเปอร์ ปั่นรายงานกับทำการบ้านชีวเคมีคลินิก....-อบรมฝึกงานวันที่ 7-8 อีก-อะไรอีกมากมาย....จนเริ่มจะคิดมันไม่ค่อยจะออกแล้วแป่ว บล็อกวันนี้ยาวมาก....ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรบ้าง ช่วงนี้จะออกอาการประสาทหลอนนิดๆ เพราะข้อสอบของท่านด็อกทั้งหลายคล้ายๆยาหลอนประสาทดีๆนี่เอง พอออกจากห้องสอบแล้วคล้ายๆจะหลอนๆกัน หุหุ ก็ถ้ามันจะแปลกๆ กลับไปกลับมา อ่านไม่รู้เรื่องก็ต้องเข้าใจค่ะ ช่วงนี้ฝนหลอนๆจริงๆช่วงนี้ฝนอัพบล็อกบ่อยๆ แต่คงไม่เท่าพี่ก๋า...ซูฮกพี่แกจริงๆ อิอิฝนคิดว่าคงไม่ได้อัพบล็อกตอนไปฝึกงาน เลยขออัพช่วงนี้บ่อยๆหน่อยละกัน เพราะหอที่ไปอยู่ตอนฝึกงาน แว่วมาว่ามันไม่มีเน็ต....ขาดใจตายพอดีมู๋ฝน ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง.....แต่ละสถาบันที่ไป ดังๆทั้งนั้น มีฝน มมส. กับเพื่อนอีกคน เค้าจะรอสับเละไหมน๊า...เค้าจะเหยียดสถาบันไหมน๊า....คิดไปต่างๆนานา แต่ก็เอาวะ....ถึงจะไม่เก่ง มาจากถิ่นที่ไม่ดัง ก็ขอไปตายเอาดาบหน้าแล้วกัน หุหุ-thank...อาเหมย ที่หมกมุ่นอ่านหนังสืออยู่ด้วยกันตลอด...-ไอ้นุช ข้าวบ้านแกอร่อยมากๆ จะไปใช้บริการบ่อยๆ ของฟรี ฉันชอบ-ไอ้ตั้ม ....ที่ทำให้กลุ่มเรามีเสียงดังตลอดเพราะเสียงแกกัดกับไอ้นุช-ไอ้ตันติกรที่จ้องแต่จะชวนเพื่อนเล่นไพ่...ตูบอกแล้วว่าสอบเสร็จก่อนค่อยชวน ชวนไม่ดูเวลาเล๊ยเพื่อนฉัน ทีเล่นไพ่หละเก่ง แหมสอบmath หละตกทุกที-ไอ้ยุ้ย ที่คอยให้ยืมชีท ไอ้อ้อย ไอ้กุ๊กที่สู้เถือกไถอ่านหนังสือด้วยกัน-ไอ้จักรที่คอยทำให้ฉันหัวเราะได้ตลอด....-ไอ้ปูที่มาลากกันไปอ่านหนังสือแต่ไก่โห่-ไอ้วี่ ที่ให้ยืมปากกา โน่นแหละ เปิดเทอม ปี 4 ค่อยเอาเด้อหมู่-และที่สำคัญ คุณแม่ที่คอยให้พรลูกก่อนไปสอบเสมอๆ....ไม่ว่าลูกจะกลับมาด้วยสภาพยังไงแม่ก็จะบอกว่า*-ไม่เป็นไรลูก เอาใหม่-* ซึ้งจาย-ขอบคุณเพื่อนๆในบล็อก......กับกำลังใจที่ส่งมาให้เสมอๆ....ยังไงๆฝนก็ยังยืนยัน เคมี คือ ความพยายาม แล้วคงต้องพยายามต่อ.....ทั้งหมดของชีวิตก็คือความพยาม ไอ้เคมีมันก็แค่ซับเซตเท่านั้นแหละเฮ้อ.......เหนื่อย พล่ามมายาวเกิ๊น ไปนอนแล้วค่ะพรุ่งนี้ต้องปั่นงานต่อ...คืนนี้อัพบล็อกเสร็จไม่มีอารมณ์ทำงานแระขอไปมุดคอกนอนแล้วนะคร๊า.....ฝันดีคร๊า Create Date : 04 มีนาคม 2552 6 comments Last Update : 5 มีนาคม 2552 0:26:36 น. Counter : 670 Pageviews. ShareTweet
วันนี้ฝนตื่นนอนตอน 6 โมงเช้า เป็นปรากฏการณ์พิเศษในรอบปี ปกติถ้าไม่เกิน 10 โมงแม่จะไม่ลุกเป็นอันขาด ตื่นขึ้นมา ขยี้ตา แต่หน้ายังไม่ล้าง (ซกมกจริง) เดินสะโหลสะเหลหน้ามันไปห้องอ่านหนังสือที่นังมู๋ฝนดัดแปลงจากห้องนอนกลายเป็นห้องอ่านหนังสือที่มีกองหนังสือ เศษกระดาษและถุงขนมเกลื่อนห้อง มะรู้ห้องนอนหรือแหล่งสะสมขยะกันแน่ บรื้อ!!! วันนี้สอบวิชาสุดท้าย เมื่อคืนเป็นพวกท่าดีทีเหลว กางชีททำท่าประดุจมุ่งมั่นสุดๆ แล้วสุดท้ายก็มานอนแหมะที่เตียง เคลิ้มฝันไปไกลโข ตื่นมาอีกทีเพราะเสียงนาฬิกาปลุก....ลั่ลหล้า อ่านยังไม่ถึงไหนเลยต้องรีบๆๆๆๆมาอ่านในสภาพที่บรรยายมาทั้งหมด สอบตอน 9 โมงเช้า โอ้วข้อสอบ แน่ใจนะว่ามันเป็นข้อสอบ 5555 คือแบบว่าการทำข้อสอบวิชาหัวข้อพิเศษทางชีวเคมีวันนี้มันส์มาก อะไรจะสนุกสนานขนาดน๊าน.....พอสอบเสร็จก็ไปกลิ้งอยู่ห้องสมุด นั่งหาเปเปอร์ นั่งทำงานน แล้วก็ไม่ลืมที่จะฟุบหัวลงบนโต๊ะหลับมันซะเรียนเคมีมาจนวันนี้สอบเสร็จของปี 3 แล้ว มองกลับย้อนไป ตูผ่านมันมาได้ไงวะ บางช่วงเวลาก็เหมือนมันได้มาง่ายดาย แต่บางช่วงเวลาก็เหมือนเสียแรงไปเยอะโขแต่ก็ได้มันมาจนได้ ตั้งแต่ตอนเข้าปี 1 มาแรกๆ เห็นพี่พร่ำบอกเสมอๆ เขียนมันตัวเป้งๆหน้าห้องเวลานัดเข้าน้องปี1 (สมัยน๊าน)CHEM IS TRY .....มันคือไรหละ ตกอังกฤษ อิอิง่ายๆความหมายมันบ่งบอกอยู่ในตัว......จริงๆประโยคนี้มันแปลงมาจากCHEMISTRY แต่แค่เราเอามันมาแยกกันออกแค่นั้น แต่ความหมายดีเลยหละ เคมี....คือ ความพยายาม.....ตอนนั้นอยู่ปี 1 ไม่เคยคิดจะพิศวาสคำๆนี้ ไม่เคยมีคำๆนี้ในสมอง แต่ทุกวันนี้มันเกาะติดเข้าสู่กระแสเลือดเลยหละ เคมี คือความพยายาม พยายามจริงจริ๊ง....มันไม่ใช่แค่เรื่องเรียน แต่มันคือความพยายามในทุกเรื่อง หุหุตอนนี้ต้องหัดท่องคำๆนี้เอาไว้ แล้วจะได้ไม่ท้อมันง่ายๆ...ไม่ใช่เจอปัญหาแล้วตูจะถอยลูกเดียว อันที่จริงฝนว่าทุกอย่างนั่นแหละ มันคือความพยายาม ......พอสอบเสร็จ คิดถึงคำๆนี้แล้วมันใช่เลย เออจริงๆ เห็นด้วยสุดๆ เคมี คือ ความพยายาม.....จะมาสาธยายชีวิตเน่าๆช่วงที่ผ่านมาค่ะ ช่วงการสอบที่สามารถปลุกเรียกวิญญาณผีดิบสิงสู่ตัวฝนอีกครั้ง.....ช่วงที่ผ่านมาประเทศไทย โดยเฉพาะเขตอีสานร้อนบรรลัย ไม่รู้มันจะร้อนไปถึงไหน บางวันทำเอาฝนหงุดหงิดชนิดไม่อยากมองหน้าใครเลยหละ อาจจะเครียดๆเรื่องเรียนด้วยเลยพาลหงุดหงิดไปหมด.....พออากาศร้อน...พวกเราก็จะทำการย้ายฐานที่มั่นไปอ่านหนังสือกันที่ห้องสมุด เพราะแอร์มันเย็นฉ่ำ แต่ก็นั่นแหละเราคิดได้ คนอื่นทั้งมหาลัยมันก็คิดเช่นกันกับเรา เพราะฉะนั้นช่วงสอบ พื้นที่ห้องสมุดจะดูมีค่าสุดๆ มีการยื้อแย่กันเหมือนสินค้าลดราคาเลยหละ บนชั้น 4 ของห้องสมุดจะมีแบ่งเป็นห้องๆ ซึ่งคนไม่พลุกพล่าน เป็นที่หมายปองของทุกคน.....เพื่อนๆจะส่งนังมู๋ฝนหน่วยหน้าด้านกลิ้งขึ้นไปจองที่ โดยจะมีการถือกระเป๋าหนังสือกับชีทขึ้นไปด้วย กวาดสายตา หาทำเลเหมาะ วางกระเป๋าหนังสือลงปั๊บ.....กระจายหนังสือจาก 1 โต๊ะเป็น 2 โต๊ะ แถไปจนโต๊ะที่ 3 ไอ้คนที่นั่งอ่านอยู่ก่อนมองหน้าฝนนิดๆ ในใจมันคงคิด-แม่งมาคนเดียว เจือกจองไว้ตั้งหลายโต๊ะ หน้าด้านจริงๆแม่คนนี้-คือมันไม่พูดแต่ฝนอ่านสายตามันออก 5555 ก็ด้านจริงๆ ไปจองไว้กะไม่ให้ชาวบ้านเค้าได้มีที่นั่ง เก๊าะฉันจ่ายค่าธรรมเนียมเหมือนกันก็ขอเอาให้คุ้มหน่อยละกันพอทำการจองที่เสร็จปั๊บก็เดินลงมาสมทบกับเพื่อนๆที่ข้างล่าง หาข้าวกินกันที่โรงอาหาร.....โน่นกินเสร็จก็นั่งเม้าส์รอเวลาให้ถึง 10 โมงครึ่ง เพราะห้องสมุดจะเปิดแอร์ตอน 10 โมงครึ่ง ขืนรีบขึ้นไปก็ร้อนตาย รอให้เค้าเปิดแอร์ก่อน.....เราๆถึงค่อยย้านกองกันไปที่ที่จองเอาไว้ พอได้ฤกษ์อันเหมาะก็จะย้ายกันไปนั่งอ่านหนังสือตามมุมของตัวเอง.....เปิดหนังสือด้วยท่ามุ่งมั่น ไม่นานนักก็จะเริ่มๆโค้งคำนับหน้าไปแนบชิดกับหนังสือ หลับไปซะงั้น มันเป็นคุณสมบัติพิเศษคือนอนได้ทุกที่ นอนมันทุกเวลา จนได้ฉายา *หมูตอน เอาแต่นอน*ไปแล้ว.....ก็ต้องวิ่งลงมาพึ่งพากาแฟอีกครา พอจะทำท่าอ่านรู้เรื่อง...อาเหมยก็ดั๊นมาชวนไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านไอ้นุช โดยมีการนัดไอ้หนู ไอ้ตั้ม ไอ้ตันติกร แล้วต้องแถไปรับไอ้จักรที่หออีก.....ในขณะที่ขับรถไปรับไอ้จักรก็เจอน้องปี 1 แซว-อ้าวจะสอบกันแล้วก็เที่ยวกันเข้าไป- เด็กมันว่ากระทบแบบขำๆ แต่ขอโทษพี่ไม่สะทกสะท้านเล๊ย.....ขับรถจากมอไปบ้านไอ้นุช ผ่านทุ่งนา ผ่านท้องฟ้า ผ่าแสงอาทิตย์เพื่อไปกินส้มตำและอนุพันธ์ของส้มตำที่บ้านไอ้นุช กว่าจะกินกันเสร็จ ปาไป 3 ชั่วโมง เป็นการกินข้าวเที่ยงที่ยาวนานเหลือหลาย กว่าจะทำใจกลับมาอ่านหนังสือที่ห้องสมุดได้ ก็เกือบ 5 โมงเย็น ไอ้คนที่นั่งแถวๆโต๊ะที่พวกฝนอ่านหนังสือ มันก็มองมาด้วยสายตาประมาณว่า-พวกเมิงไปกินข้าวรึไปปลูกข้าวฟระ นานโคตร-ตกเย็นหลังจากอ่านหนังสือได้ไม่นาน ในความรู้สึกฝน มันยังไม่ถึงไหนเลย ก็ต้องลงไปเติมพลังด้วยการหาของกินที่ตลาดน้อยแหล่งรวมของกินของเด็ก มมส. อาหารของเราก็เลิศหรูไฮโซ ไม่ได้หากินกันได้ง่ายๆ....นั่นก็คือ ส้มตำ ปลาย่าง แกงหน่อไม้ แกงเห็ด อิอิ ข้าวเหนียวพร้อม แซบขนาดน๊อพี่น้อง....หลังจากอิ่มก็แยกย้ายกันกลับหอบ้าง บ้านบ้าง อ่านใครอ่านมันแล้วก็นอนเอาแรงเพื่อจะได้สู่ต่อวันรุ่งขึ้น.....ทุกๆวันจะมีการโทรจิกันมาอ่านหนังสือ ซึ่งบางวันหน่วยหน้าด้านอย่างฝนก็ไม่ยอมทำหน้าที่ดื้อๆ.....กินข้าวเสร็จค่อยไปหาที่นั่งเอาข้างหน้า บางวันคนที่ห้องสมุดเยอะมาก จนฝนมีความคิดว่า มันน่าจะขยายอาณาเขตมากกว่านี้หน่อยนะ....บางทีที่สอบหาที่นั่งไม่ได้ก็ต้องย้ายมันไปเรื่อยๆ บางทีต้องนั่งอ่านหลังคณะ บางวันหลังคณะไม่ว่างก็ย้ายไปตึกเภสัช บางวันตึกเภสัชเสียงดังก็ต้องย้ายไปตึกพยาบาลซึ่งมันเงียบโคตรๆ พอพวกเราไปก็ทำเอาคณะเค้าแตกไปเลย หุหุ การหาที่นั่งอ่านหนังสือเป็นเรื่องยุ่งวุ่นวายและเป็นปัญหาสำหรับพวกฝนมากๆ.....ชีวิตช่วงสอบ ลักษณะทางกายภาพจะมีดังนี้ค่ะ-หัวฟู ผมมันมักจะไม่ประสานสามัคคีกัน.....คิดจะชี้ก็ชี้ ไม่เคยปรึกษาเจ้าของหัวเล๊ย-สิงขึ้น เม็ดเป้งๆ.....อ๊ะแน่นอน ขึ้นได้ขึ้นดี ไม่คิดจะกระโดดไปขึ้นหน้าคนอื่นบ้างรึไงฟระ-น้ำหนักขึ้น อ่านหนังสือแทนที่มันจะผอม สำหรับฝนมันใช้ไม่ได้ผล....เพราะเวลาอ่านหนังสือ ฝนจะหิวทุกๆ 1 ชั่วโมง เอากับมันสิ-เสื้อผ้าก็จะยับๆ อาจจะเกิดจากรอยที่นอนด้วย นอนมันบ่อย แล้วก็ไม่มีเวลารีด....เอามาจากราวตากผ้า สลัดๆ แล้วก็ใส่มันมาเลย 5555 ซกมกจริงๆและทั้งหมดทั้งมวล มีเสียงสะท้อนมาว่า -แกเป็นงี้ไงฝน ถึงไม่มีแฟนก่าชาวบ้านเค้าซ๊าที ผู้ชายที่ไหนเค้าจะเอา-ช่วงสอบ....ชีวิตฝนจะผูกติดกับเพื่อนมากขึ้น กินข้าวเช้า กลางวัน เย็นกับพวกมันตลอด อาหารเช้าเราๆคือข้าวแกง อาหารเที่ยงคือลูกชิ้นหน้าห้องสมุด กินมันทุกวันจนหน้าจะกลมเป็นลูกชิ้นแล้ว ส่วนอาหารเย็นก็คือส้มตำบ้าง ห่อหมกบ้าง แกงเห็ดบ้าง.....แล้วต้องปิดท้ายด้วยกาแฟเย็นแก้วโตๆ....สั่งแม่ค้าว่าเอากาแฟ 3 ช้อนค่ะ ช้อนเดียวหนูนอนไม่แซบการสอบครั้งนี้รู้สึกเหมือนตัวเองจริงจังมากขึ้น....อ่านมากขึ้น จดจ่อกับมันมากขึ้น รวมทั้งเพื่อนๆฝนด้วย จากเมื่อก่อนที่อ่านบ้าง เล่นซะส่วนใหญ่ แต่พอสอบครั้งนี้ทุกคนดูเหมือนนิ่งขึ้น เงียบขึ้น แล้วก็จริงจังขึ้น แต่ผลก็นะ พอออกจากห้องสอบก็ส่ายหัวแล้วก็เดินคอตกกันทุกราย รวมฝนด้วยแหละ รู้สึกเหนื่อยมากๆ....ทั้งที่เราพยายามมากกว่าเก่า จริงจังมากกว่าเดิม แต่มันก็นะ เหมือนพยายามกี่ครั้งก็ตามแต่ มีค่าเท่าศูนย์ซะงั้น....สมกับที่พี่ๆบอก/เคมี คือ ความพยายาม/รู้สึกตั้งแต่มาเรียนเอกนี้...พยายามเหลือเกิ๊น พยายามมาตลอด 3 ปี มันช่างเหน็ดเหนื่อยอะไรเยี่ยงนี้.....สอบเสร็จแทนที่จะได้พักก่อนไปฝึกงาน แต่ก็ต้องมานั่งแปลงานปั่นงานส่ง ซึ่งฝนก็แถมาอัพบล็อก ขี้เกียจทำ....หาแรงบันดาลใจก่อน หุหุเมื่อวาน....นัดเจอกับโอ เมทสาวคนสนิทมาทำงานกันที่ห้องสมุด มันก็มาด้วยสภาพที่น่ากลัวมาก กระเป๋าเป้ที่เขาเอาไว้พายไปเดินป่า มันก็พายมา....ไอ้เราก็นึกว่าเสื้อผ้า ที่ไหนได้ หนังสือทั้งดุ้น ไปช่วยมันถือ เฮือก เล่นเอาแขนเกือบหลุด....มันแบกหนังสือมาเป็น 10 เล่น โอ้ว เรียนหนักของแท้....มีคนเค้าบอกมาว่า เรียนหนังสือนะไม่ใช่ไปแบกของจะได้หนัก....คร๊า งานนี้ไม่ได้แบกของแต่แบกหนังสือแทน เห็นสภาพเพื่อนแล้วคิดว่า ตูโคตรโชคดีเลยที่ไม่หลวมตัวไปเรียนพยาบาล 55555.....ได้คุยกันเยอะแยะหลังจากที่ไม่เจอกันนาน เพราะโอมันขึ้นวอร์ด ฝนก็ยุ่งเรื่องสอบ ก็เมื่อวานนี่แหละที่ได้เม้าส์....พูดเรื่องเก่าๆ จนไปจบที่เพื่อนสนิทอีกคนที่ตอนนี้มันแปลงร่างจากการเป็นโปรแกรมเมอร์ไปเป็นโปรแกรมมั่วซะงั้น....บอกกล่าวกันก่อน ถ้าบริษัทไหนจะรับเพื่อนฝนคนนี้ห้ามรับเด็ดขาด ก็มันออกจะประกาศตัวว่าเป็นโปรแกรมมั่วขนาดนั้น ท่านก็อย่าเสี่ยงรับมันเล๊ย.....ตอนกลับออกจากห้องสมุด ก็ต้องช่วยไอ้โอแบกหนังสือกลับอีก สงสารมันถ้าจะให้มันแบกคนเดียว.....เลยทำบุญช่วยมันซะหน่อย เผื่อผลบุญจะทำใฝนมีแฟนเป็นหมอ (เกี่ยวไหมเนี่ย)ชีวิตแทนที่จะได้หายใจทิ้งไปวันๆ....ก็ต้องมาทำสิ่งที่ค้างๆไว้ตอนช่วงสอบ-บ้านที่รอให้ฝนปัดกวาดเช็ดถู เฮ้อ แค่เห็นก็เหนื่อยแล้ว-ผ้ากองโต ที่ดองเค็มมันเอาไว้ คงจะถึงเวลาที่จะได้ซักซะที-รองเท้าที่เน่าแล้วเน่าอีก คงถึงเวลาของเจ้าแล้วหละ....จะได้เจอผงซักฟอกซะที-ซักเสื้อผ้า เช็คของแพ็คกระเป๋าเพื่อจะไปฝึกงาน-แปลเปเปอร์ ปั่นรายงานกับทำการบ้านชีวเคมีคลินิก....-อบรมฝึกงานวันที่ 7-8 อีก-อะไรอีกมากมาย....จนเริ่มจะคิดมันไม่ค่อยจะออกแล้วแป่ว บล็อกวันนี้ยาวมาก....ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรบ้าง ช่วงนี้จะออกอาการประสาทหลอนนิดๆ เพราะข้อสอบของท่านด็อกทั้งหลายคล้ายๆยาหลอนประสาทดีๆนี่เอง พอออกจากห้องสอบแล้วคล้ายๆจะหลอนๆกัน หุหุ ก็ถ้ามันจะแปลกๆ กลับไปกลับมา อ่านไม่รู้เรื่องก็ต้องเข้าใจค่ะ ช่วงนี้ฝนหลอนๆจริงๆช่วงนี้ฝนอัพบล็อกบ่อยๆ แต่คงไม่เท่าพี่ก๋า...ซูฮกพี่แกจริงๆ อิอิฝนคิดว่าคงไม่ได้อัพบล็อกตอนไปฝึกงาน เลยขออัพช่วงนี้บ่อยๆหน่อยละกัน เพราะหอที่ไปอยู่ตอนฝึกงาน แว่วมาว่ามันไม่มีเน็ต....ขาดใจตายพอดีมู๋ฝน ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง.....แต่ละสถาบันที่ไป ดังๆทั้งนั้น มีฝน มมส. กับเพื่อนอีกคน เค้าจะรอสับเละไหมน๊า...เค้าจะเหยียดสถาบันไหมน๊า....คิดไปต่างๆนานา แต่ก็เอาวะ....ถึงจะไม่เก่ง มาจากถิ่นที่ไม่ดัง ก็ขอไปตายเอาดาบหน้าแล้วกัน หุหุ-thank...อาเหมย ที่หมกมุ่นอ่านหนังสืออยู่ด้วยกันตลอด...-ไอ้นุช ข้าวบ้านแกอร่อยมากๆ จะไปใช้บริการบ่อยๆ ของฟรี ฉันชอบ-ไอ้ตั้ม ....ที่ทำให้กลุ่มเรามีเสียงดังตลอดเพราะเสียงแกกัดกับไอ้นุช-ไอ้ตันติกรที่จ้องแต่จะชวนเพื่อนเล่นไพ่...ตูบอกแล้วว่าสอบเสร็จก่อนค่อยชวน ชวนไม่ดูเวลาเล๊ยเพื่อนฉัน ทีเล่นไพ่หละเก่ง แหมสอบmath หละตกทุกที-ไอ้ยุ้ย ที่คอยให้ยืมชีท ไอ้อ้อย ไอ้กุ๊กที่สู้เถือกไถอ่านหนังสือด้วยกัน-ไอ้จักรที่คอยทำให้ฉันหัวเราะได้ตลอด....-ไอ้ปูที่มาลากกันไปอ่านหนังสือแต่ไก่โห่-ไอ้วี่ ที่ให้ยืมปากกา โน่นแหละ เปิดเทอม ปี 4 ค่อยเอาเด้อหมู่-และที่สำคัญ คุณแม่ที่คอยให้พรลูกก่อนไปสอบเสมอๆ....ไม่ว่าลูกจะกลับมาด้วยสภาพยังไงแม่ก็จะบอกว่า*-ไม่เป็นไรลูก เอาใหม่-* ซึ้งจาย-ขอบคุณเพื่อนๆในบล็อก......กับกำลังใจที่ส่งมาให้เสมอๆ....ยังไงๆฝนก็ยังยืนยัน เคมี คือ ความพยายาม แล้วคงต้องพยายามต่อ.....ทั้งหมดของชีวิตก็คือความพยาม ไอ้เคมีมันก็แค่ซับเซตเท่านั้นแหละเฮ้อ.......เหนื่อย พล่ามมายาวเกิ๊น ไปนอนแล้วค่ะพรุ่งนี้ต้องปั่นงานต่อ...คืนนี้อัพบล็อกเสร็จไม่มีอารมณ์ทำงานแระขอไปมุดคอกนอนแล้วนะคร๊า.....ฝันดีคร๊า
เกรดสูงสุดคงไม่เกิน 1.5 ครับ 555555
ปิดเทอมต้องไปฝึกงาน
ก็หมายความว่าน้องฝนใกล้จะเรียนจบแล้วสินะครับ