Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
19 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
บทที่ 19 พลาด

“ไม่ ไม่นะริน เราเป็นเพื่อนกันนะ คุณอย่าทำแบบนี้”

“ไม่ต้องกลัวนะพี เดี๋ยวพอพีไปแล้ว รินก็จะตามพีไป เราจะได้ไปอยู่ด้วยกันไง”



…

………..

…………………….




โอ๊ย!...........




เคร้ง!!............





“พี คุณเป็นยังไงบ้าง”


.


.


.



เมื่อสองวันก่อน..................




โน๊ตบุ๊คดีไซด์หรูหลายยี่ห้อวางอยู่ในตู้กระจกอวดสายตาของลูกค้าที่ผ่านไปผ่านมาภายในร้าน รายละเอียดของแต่ละเครื่องวางอยู่ข้างๆ เพื่อความสะดวกในการเปรียบเทียบ ผมไล่สายตามองไปผ่านๆ ด้วยความสนใจ แต่แล้วผมก็ต้องเงยหน้าขึ้นจากของในตู้กระจกเหล่านั้นเมื่อพนักงานขายกล่าวทักทายกับผมอย่างเป็นมิตร

“สนใจเครื่องไหนครับ”

“อ๋อ เปล่าครับ พอดีผมเอาเครื่องมาให้ช่างเค้าดูนิดหน่อย”

“ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมก็เรียกผมได้เลยนะครับ”

“ขอบคุณมากครับ”

หลังจากที่พนักงานคล้อยหลังไปเพียงไม่นานผมก็เดินกลับไปหาช่างที่กำลังดูเครื่องให้ผมอยู่อย่างเขมักเขม้น ดูท่าทางแล้วสิ่งที่ผมต้องการให้ทำคงจะยากเอาเรื่องเพราะจากตอนแรกที่มีช่างเพียงคนเดียวตอนนี้มีช่างอยู่ประมาณห้าคนกำลังรุมเครื่องของผมอยู่ ผมเดินเข้าไปหากลุ่มช่างเหล่านั้นแล้วเอ่ยถามเสียงเครียด

“ยากมากเลยเหรอครับ”

“พอสมควรครับ นี่ผมก็เกณฑ์โปรแกรมเมอร์เก่งๆ มาหลายคน แต่ว่าการแฮคข้อมูลในปัจจุบันมันก็ค่อนข้างยาก”

ช่างคนนั้นหันกลับไปง่วนกับงานอีกครั้ง ผมเลยปล่อยให้บรรดาช่างทั้งหลายทำงานกันไปโดยไม่รบกวนอะไรอีก เวลาผ่านไปประมาณสามชั่วโมงเศษกว่าที่ทุกอย่างจะเสร็จสิ้นลง ช่างคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผมก่อนที่จะอธิบายการใช้งานให้ผมฟังอย่างละเอียด

“ผมลงโปรแกรมดักจับความเคลื่อนไหวไว้ในคอมฯ ของคุณแล้วนะครับ แล้วก็สั่งให้มันรันอัตโนมัติทุกครั้งที่เปิดขึ้นมา คุณสามารถควบคุมเครื่องคอมฯ ตัวนี้ได้จากเครื่องคอมฯ ตัวอื่นเสมือนว่าเป็นผู้ใช้เอง หรือคุณจะเฝ้าดูความเคลื่อนไหวและบันทึกไว้คล้ายๆ เป็นกล้องวงจรปิดอย่างเดียวก็ได้ แต่คอมฯ เครื่องที่คุณจะมาใช้ควบคุมต้องลงโปรแกรมบางอย่างเพิ่มเติมเพื่อให้ตรวจจับและบันทึกการทำงานของเครื่องตัวนี้ ซึ่งผมกับทีมโปรแกรมเมอร์ได้ไรท์โปรแกรมเหล่านั้นลงแผ่นซีดีไว้ให้คุณแล้ว คุณแค่นำไป install ในเครื่องที่คุณต้องการก็เรียบร้อย แต่ว่ามันมีข้อจำกัดบางอย่างนะครับ”

“อะไรครับ”

“คอมพิวเตอร์ทั้งสองเครื่องจะเชื่อมต่อกันได้เมื่อมีอินเตอร์เนตเท่านั้น แต่ไม่ต้องห่วงครับ โปรแกรมดักจับตัวนี้สามารถตรวจวัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้ ในช่วงที่ไม่มีการเชื่อมต่อ โปรแกรมจะบันทึกการทำงานของเครื่องไว้ให้โดยอัตโนมัติ ถึงแม้ว่าคุณจะสังเกตและควบคุมเครื่องตัวนี้ไม่ได้ แต่การทำงานทุกอย่างจะถูกบันทึกไว้ใน drive พิเศษที่ถูกซ่อนไว้ภายในคอมฯ ของคุณ แต่คุณต้องขยันย้ายไฟล์ออกมา เพราะข้อมูลที่บันทึกไว้ค่อนข้างหนักเครื่องอยู่เหมือนกัน”

“แล้วถ้าคนที่ใช้คอมฯ ตัวนี้เค้าลบไฟล์บางอย่างออกไป ผมสามารถ recover กลับมาอีกรอบได้มั๊ยครับ”

“ไม่ได้ครับ แต่ว่าการทำงานทุกอย่างจะถูกเก็บบันทึกไว้เป็นไฟล์วีดีโออยู่แล้ว ถึงแม้ว่าไฟล์นั้นจะถูกลบไป แต่ความเคลื่อนไว้ทุกอย่างจะถูกบันทึกไว้ทั้งหมด เหมือนกับว่ามีกล้องวงจรปิดที่ซ่อนอยู่ภายในเครื่อง อ้อ.....แต่ถ้าคุณอยากนำไฟล์ดังกล่าวกลับมา ลองใช้ system restore ก็ได้ครับ ซึ่งมันแถมมากับเครื่องคอมฯ ทุกตัวอยู่แล้ว”

“ขอบคุณมากนะครับ”

“ยินดีครับ เอ่อ.........ว่าแต่คุณอย่าไปบอกใครนะครับ ว่าผมเป็นแฮคเกอร์ ที่ผมช่วยคุณเป็นเพราะว่าคุณเป็นเพื่อนกับเจ้านายของผม คือ.....ผมกลัวโดนจับน่ะครับ”

“ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะไม่บอกใคร ไปก่อนนะครับ”
.
.
.
“ไอริน ทำอะไรอยู่เหรอ”

หลังจากที่ผมทานข้าวเย็นกับไอรินเสร็จเรียบร้อย นางเอกสาวก็นอนเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ที่โซฟาตัวยาวหน้าทีวี เธอหันมายิ้มน้อยๆ เมื่อผมลงไปนั่งอยู่ที่พื้นหน้าคอมฯ ตัวเดียวกันกับเธอ

“กำลังอัพเดตแฟชั่นเมืองนอกน่ะค่ะ จะได้ไม่ตกเทรนด์”

“คุณจะเอาชาสักถ้วยมั๊ย เดี๋ยวผมชงมาให้”

“ก็ดีค่ะ ขอบคุณมากนะ”

ผมหายเข้าไปในครัวอยู่พักใหญ่ แล้วนำชาหอมกรุ่นสองถ้วยออกมาด้วย ผมเดินกลับเข้าไปหาไอรินอีกครั้ง แล้วแกล้งสะดุดถังขยะข้างโซฟา เศษผงเศษกระดาษกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น ชาร้อนในถ้วยทั้งสองหกรดคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของไอรินทันที เสียงของนางเอกสาวหวีดร้องดังลั่นพร้อมๆ กับหน้าจอมอนิเตอร์ที่ดับไป ผมรีบวางถ้วยชาทั้งสองลงบนโต๊ะ แล้วหยิบกระดาษทิชชูที่วางอยู่ใกล้ๆ ถลาเข้าไปหาเธอที่ลุกขึ้นนั่งอยู่บนโซฟาทันที

“ไอริน ผมขอโทษ คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ชาลวกคุณมั๊ย”

“พี ทำไมซุ่มซ่ามอย่างนี้ล่ะคะ” นางเอกสาวขึ้นเสียงกับผมด้วยความหงุดหงิด

“ผมขอโทษนะไอริน แต่ถังขยะที่อยู่ตรงนั้นผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่ามันเกะกะคุณก็ไม่เชื่อผม ว่าแต่คุณยังไม่บอกผมเลยว่าคุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

นางเอกสาวถอนหายใจแรงอย่างพยายามระงับอารมณ์โกรธที่กำลังพลุ่งพล่าน แต่เสียงที่เธอตอบกลับมายังกระแทกกระทั้นจนผมรู้สึกได้

“ ไอรินไม่เจ็บหรอก แต่โน๊ตบุ๊คไอรินเนี่ยสิ มันซ่อมไม่ได้แล้วมั๊ง”

“ผมขอโทษนะ ไอริน”

ผมเอื้อมมือไปกอดเธอเอาไว้อย่างเอาใจ โยกตัวไปมาน้อยๆ พร้อมกับเอาคางไปเกยไว้บนไหล่ขาวนวล

“เอางี้ละกัน เดี๋ยวผมจะซื้อคอมฯ เครื่องใหม่ให้ คุณเลือกได้เลยนะว่าจะเอาแบบไหน สเปคไหน แต่ระหว่างนี้คุณเอาคอมฯ ของผมไปใช้ก่อนละกัน นะครับ นะ”

“ก็ได้ค่ะ”

“หายโกรธผมน๊า นะ”

“อืม.....ก็ได้ หายโกรธก็ได้”

ผมส่งยิ้มหวานให้กับเธอ ทำให้เธอส่งยิ้มตอบกลับมา ผมจับหัวเธอให้ซุกอยู่ที่อกของผมทำให้เธอไม่เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ผมเผยออกมา

แผนการขั้นที่สองสำเร็จลงได้ด้วยดี ...............

.

.

.

ผมนั่งมองคอมพิวเตอร์ภายในห้องทำงานของบริษัทที่เชื่อมต่ออยู่กับโน๊ตบุ๊คของผมที่ให้ไอรินเอาไปใช้ ไอรินโอนเงินผ่านทางเว็บไซต์ไปยังบัญชีที่ชื่อ MUISM อีกครั้ง คราวนี้เป็นจำนวนเงินห้าหมื่นบาท ผมคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าลัทธิอะไรนั่นไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย สงสัยยากล่อมประสาทคงจะได้ใช้ก็ตอนนี้ล่ะ

“ฮัลโหล ทำงานเสร็จหรือยังครับ”

“เหลืออีกซีนนึงค่ะ กว่าจะเสร็จคงเที่ยงกว่าๆ”

“งั้นเดี๋ยวผมรับคุณไปทานข้าวกันนะ”

“โอเคค่ะ”

ผมพาไอรินมาทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งภายในห้างชื่อดัง หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟอาหารเรียบร้อย ผมกับนางเอกสาวก็จัดการกับอาการตรงหน้าโดยไม่รอช้า

“อร่อยมั๊ยครับริน ร้านนี้ผมมากินกับลูกค้าเมื่อวันก่อน เห็นว่าอร่อยดีเลยชวนคุณมา”

“ก็ใช้ได้นะคะ แต่รินชอบสเตคร้านที่คุณพาไปเมื่อวันก่อนมากกว่า”

“ว้า.....คุณพูดอย่างนี้ผมเสียใจนะเนี่ย” ผมแกล้งตีหน้าเศร้าทำตาน่าสงสารทำให้นางเอกสาวหัวเราะน้อยๆ อย่างอารมณ์ดี ระหว่างที่ไอรินกำลังเพลิดเพลินกับอาหารตรงหน้าผมก็ปัดโทรศัพท์มือถือของตัวเองลงไปที่พื้น อุปกรณ์สื่อสารลงไปนอนเอ้เอ้งเม้งอยู่ที่ปลายเท้าของเธอพอดิบพอดี

“โถ่......ผมนี่แย่จริงๆ ซุ่มซ่ามอีกแล้ว รินครับคุณช่วยหยิบโทรศัพท์ที่ปลายเท้าคุณให้ผมหน่อยได้มั๊ย ไม่รู้ว่าจะเสียหรือเปล่าเนี่ย”

นางเอกสาวก้มตัวลงไปอย่างว่าง่าย ขวดยาขนาดเล็กถูกหยิบออกมาจากกระเป๋าเสื้อนอกของผม ผงยาสีขาวผสมลงไปในน้ำดื่มของเธอพร้อมกับละลายอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอเก็บโทรศัพท์ของผมได้และวางมันไว้บนโต๊ะเธอก็ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ผมรอให้ยาออกฤทธิ์เพียงไม่กี่นาทีแล้วเริ่มถามคำถามสำคัญทันที

“คุณเป็นคนว่าจ้างมือปืนมาทำร้ายก้องใช่มั๊ย”

“ใช่”

“แล้วคุณรู้ตารางงานของก้องได้ยังไง”

“ฉันจ้างให้คนมาบอกฉัน”

“ใคร”

“ผู้ช่วยคุณกรกนก”

“แล้วคุณกรกนกรู้เรื่องนี้ไหม”

“ไม่รู้”

“แล้วคุณโอนเงินห้าหมื่นเข้าบัญชี MUISM ทำไม”

“เป็นค่าปิดปาก ไม่ให้มันซัดทอดมาถึงฉัน”

“คุณโอนเงินสองแสนไปให้เค้าแล้ว และคนร้ายก็ถูกจับหมดแล้ว แล้วคุณต้องโอนเงินอีกทำไม”

“มันเก็บมือปืนสองคนนั่นไม่สำเร็จ ทำให้ตำรวจสงสัย มันเลยขอเงินหลบหนี”

“แล้ว MUISM เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้”

“เป็นชื่อ”

“ชื่ออะไร”

“ชื่อ...........”

ยังไม่ทันที่ผมจะได้คำตอบจากไอริน เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นเสียก่อน พี่ปอโทรมาบอกว่าแผลที่ผ่าตัดของก้องฉีกเพราะวิ่งตามผมออกมาเมื่อเช้านี้ ผมรู้สึกสงสารก้องจับใจ แต่งานทางนี้ผมก็ละเลยไม่ได้ ความลับที่ถูกซ่อนไว้กำลังจะถูกเปิดเผย แต่สุดท้ายความเป็นห่วงก้องก็เอาชนะทุกอย่าง ผมจึงตัดสินใจพาไอรินไปส่งที่ห้องแล้วขับรถไปที่โรงพยาบาลทันที

“พี่ปอ ก้องเป็นไงบ้าง”

“ดีขึ้นแล้วล่ะ ตอนนี้กำลังนอนหลับอยู่”

“ขอบคุณพี่ปอมากนะครับที่ช่วยดูแลก้องให้”

“ไม่เป็นไรอยู่แล้ว ก็เรามันครอบครัวเดียวกันนี่หว่า”

“เอ่อ พี่ปอครับ ผมมีเรื่องให้ช่วยหน่อย”

“เรื่องอะไรเหรอพี”

“กล่อมคุณสุธีให้มาเป็นพยานให้เราครับ”

“คุณสุธี ผู้ช่วยเลขาพีน่ะเหรอ”

“ครับ ฟังนี่สิ” ผมเปิดไฟล์เสียงคำสารภาพของไอรินที่ผมอัดมาได้เมื่อสักครู่ให้พี่ปอฟัง พี่เขยของผมอึ้งไปอย่างคาดไม่ถึง หลังจากที่ผมส่งไฟล์เสียงทางบลูธูทเข้าโทรศัพท์ของพี่ปอเพื่อแบคอัพข้อมูล ผมก็รีบไปบ้านบุญรักษาเพื่อทำสำเนาลงแผ่นซีดีให้แม่ฟองเก็บไว้ทันที

.

.

.

ภายในผับชื่อดังเจ้าประจำ ผม ทิพย์ และน้องปุย นั่งพร้อมหน้ากันอยู่ที่โต๊ะตัวเดิม ประเด็นที่เราถกกันในวันนี้ก็หนีไม่พ้นเรื่องที่ว่า MUISM เป็นชื่อของอะไร

“อืม........จากไฟล์เสียงที่พี่พีเปิดให้พวกเราฟัง ปุยคิดว่ามันไม่น่าจะใช่ชื่อลัทธิอะไรนั่นแล้วแหละ”

“นั่นน่ะสิ ทิพย์ว่านะมันอาจจะเป็นโค้ด แต่ว่าคิดไม่ออกอ่ะ”

ผมนั่งฟังสองสาววิเคราะห์กันอย่างตั้งใจ ผมเห็นด้วยทั้งกับทิพย์และน้องปุย แต่ข้อมูลที่ผมมีในตอนนี้มันน้อยเหลือเกิน MUISM ถ้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับลัทธิ แล้วมันจะเป็นอะไร

“พี่พี ปุยว่าเราลองเขียนชื่อนั่นอีกครั้งในกระดาษดีมั๊ย เพราะถ้ามันเป็นโค้ด มันอาจจะมีอะไรแอบแฝงในตัวหนังสือนั่นก็ได้”

ผมสนับสนุนความคิดของน้องปุยเต็มที่ จึงขอปากกาจากบริกรที่อยู่แถวนั้นแล้วเขียนชื่อเจ้าปัญหาลงไปในกระดาษทิชชูที่อยู่บนโต๊ะ

MUISM..............

“เดี๋ยวทิพย์จะลองกลับหน้าเป็นหลังดูนะ”

MSIUM..........

ไม่มีความหมาย

“ปุยลองบ้าง ไหนลองจับอักษรมาตีลังกาซิ”

WnISW..........

ก็ยังไม่มีความหมาย

“เฮ้ย!!!!!!! ปุย พี หรือว่าเราแค่กลับหัวกระดาษ ไม่ต้องพลิกตัวอักษรให้วุ่ยวายล่ะ”

ผมค่อยๆ ผลิกกระดาษแผ่นนั้นช้าๆ ใจเต้นระทึกด้วยความคาดหวังว่าจะไขปริศนานี้ได้ กระดาษแผ่นน้อยเอียงลงมาสี่สิบห้าองศา เก้าสิบองศา ไล่มาเรื่อยๆ จนกระทั่ง ร้อยแปดสิบองศา ผมจ้องมองกระดาษแผ่นนั้นนิ่งอยู่หลายวินาที คำตอบที่ผมต้องการมาตลอดปรากฏอยู่ตรงหน้าของผมในตอนนี้แล้ว!!!!

WSInW..........

“ชัด ชัดเลย พี่ทิพย์ พี่พีเห็นมั๊ย......MUISM ก็คือพรเทพ!!!!! คุณไอรินโอนเงินเข้าบัญชีนายพรเทพ งั้นแสดงว่าคุณไอรินว่าจ้างนายพรเทพให้มาทำร้ายก้อง ใช่มั๊ย”

สาวร่างอวบร้องลั่นออกมาอย่างดีใจ ทุกคนพากันตื่นเต้นกับคำตอบที่ได้ ผมรีบต่อสายโทรศัพท์ไปหาพี่ปอทันที

“พี่ปอครับ ผมรู้แล้วว่าใครเป็นคนที่ไอรินว่าจ้างให้มาทำร้ายก้อง”

“ใช่พรเทพหรือเปล่า”

“ใช่ครับพี่ ว่าแต่พี่รู้ได้ยังไง”

“คุณสุธีสารภาพกับเราทุกอย่างแล้ว และซัดทอดไปถึงนายพรเทพ ที่นี้เราก็เหลือแค่ขอความร่วมมือจากทางธนาคารให้บอกข้อมูลของนายคนนี้ให้เราเท่านั้น”

“เยี่ยมไปเลยครับพี่ปอ ทีนี้แหละเราจะได้จับตัวคนร้ายมาลงโทษได้สักที”

.

.

.

วันนี้ผมตั้งใจเลิกงานเร็วกว่าปกติ เพื่อที่จะกลับไปเอาหลักฐานชิ้นสุดท้ายจากปากของไอรินว่าตอนนี้พรเทพอยู่ที่ไหน แต่เมื่อผมกลับมาถึงห้องกลับไม่มีใครอยู่เลย ผมเดินเข้าครัวเพื่อไปหยิบน้ำเย็นๆ ออกมาดื่มแก้กระหาย แต่แล้วผมก็ได้ยินเสียงประตูเปิดพร้อมกับเสียงไอริน กำลังพูดคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง

“ฉันบอกแกแล้วใช่มั๊ยว่าอย่ามาที่นี่”

“ก็คุณอยากหลบหน้าผมทำไมล่ะ ทางที่ดีคุณจ่ายตังค์ให้ผมไปกบดานซะดีกว่า เพราะตอนนี้ตำรวจเค้ารู้หมดแล้วว่าผมเป็นคนสั่งฆ่าไอ้นั่น แล้วจะให้ดีนะ คุณเองก็ควรที่จะหนีไปด้วย เดี๋ยวซวยเข้าตารางจะหาว่าผมไม่เตือน”

“ว่าไงนะ!!! ไม่จริง เป็นไปไม่ได้”

“มันเป็นไปแล้วล่ะคร้าบคุณผู้หญิง เหอะ ก็เพราะไอ้แฟนวิปริตของคุณนั่นแหละที่เป็นคนบอกตำรวจ”

“ไม่!!! พีไม่มีวันหักหลังฉัน เค้ารักฉันได้ยินมั๊ย”

“รักกับผีคุณสิ เค้าหลอกใช้คุณ รู้เอาไว้ซะด้วยนางโง่!!!!!”

ผมซึ่งแอบฟังบทสนทนาอยู่ในห้องครัวใช้โทรศัพท์คู่ใจอัดเสียงไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่การที่ผู้ชายตัวโตอย่างผมเข้ามาอยู่ในซอกหลืบแคบๆ มันก็อึดอัดไม่ใช่น้อย ผมเหยียดแขนออกไปเพื่อที่จะผ่อนคลายความเมื่อย แต่แล้วมือเจ้ากรรมก็ปัดกระติกน้ำข้างตัวหล่นกระแทกพื้นเสียงดัง ใจของผมหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ตาย.......ตายแน่ๆ แล้วไอ้พีเอ้ย

“เฮ้ย!!! ใครวะ” เสียงของนักเลงใหญ่ดังก้องไปทั่วห้องชุด ผมรีบแอบเข้าไปในหลีบระหว่างตู้เย็นกับอ่างล้างจาน สองมือถือกระทะที่หยิบฉวยได้แถวนั้นเอาไว้มั่น พรเทพเดินตรงเข้ามาในห้องครัว เข้าใกล้ผมเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งอยู่ในระยะที่ผมสามารถใช้กระทะฟาดหัวมันได้ ผมเงื้อมือขึ้นสุดแรงหวังให้ฟาดครั้งเดียวจอด แต่แล้วมันก็หันหลังกลับมาและบีบข้อมือผมไว้แน่น กระทะใบนั้นร่วงลงสู่พื้นอย่างง่ายดาย ชายตรงหน้าแสยะยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียมเหมือนดั่งมัจจุราชก็ไม่ปาน

“มึงจะทำอะไรกู”

“กูก็จะทำให้คนหนักแผ่นดินอย่างมึงไปชดใช้กรรมไง”

สิ้นเสียงของผม หมัดหนักๆ จากผู้ชายตรงหน้าก็พุงเข้าใส่เต็มๆ กรามจนเลือดกบปากแล้วซ้ำลงไปที่เดิมอย่างไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว หมัดอีกข้างพุ่งมาที่ท้องของผมจนเจ็บจุกไปหมด ผมทรุดลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง ฝ่าเท้าของผู้เหนือกว่าแตะเข้ามาที่ชายโครงของผมไม่ยั้ง ผมพยายามลุกขึ้นสู้แต่ก็ลุกไม่ไหว ชายตรงหน้ากำลังบ้าคลั่งด้วยความโกรธแค้นชิงชัง ผมกระอักเลือดสีแดงเข้มออกมานองเต็มพื้น ทำให้มันหัวเราะร่าด้วยความสะใจ

“มึงคิดจะจับกูงั้นเหรอ ฝันไปเถอะมึง”

คนร้ายเห็นว่าผมไม่ต่อสู้จึงชะล่าใจปล่อยผมไว้ที่พื้นอย่างไม่ใยดี มันเดินตามไอรินไปที่ตู้เซฟภายในห้องเพื่อเอาของมีค่าไว้ใช้เป็นทุนสำหรับการหลบหนี แต่แล้วโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น ผมจึงรีบกดรับสายทันทีโดยที่ไม่ทันมองว่าเป็นชื่อของใคร

“ฮโหลครับ”

“พ..”

ยังไม่ทันที่ผมจะได้ขอความช่วยเหลือจากปลายสาย นายพรเทพก็ถลาเข้ามาแย่งโทรศัพท์ของผมแล้วปาทิ้งจนชิ้นส่วนแตกกระจาย ผมได้แต่จ้องมองการกระทำของมันอย่างตะลึงงัน มันจับมือของผมไพล่หลังแล้วปลดเข็มขัดเส้นยาวของผมออก เพื่อใช้รัดข้อมือของผมจนแน่น ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งสายตาไปให้มันด้วยความแค้นเคือง มันก็คงจะรำคาญกับความดื้อด้านของผมจึงแตะเข้าที่ชายโครงของผมไปอีกไม่นับ

“พอ พอก่อนเทพ ฉันอยากจะคุยอะไรกับพีหน่อย” นางเอกสาวร้องห้ามการกระทำของมัน ก่อนที่จะหันมาหาผม

“พี พีเคยรักรินบ้างไหม” หญิงสาวถามผมทั้งน้ำตา ตัวของเธอสั่นสะท้านจากแรงสะอื้น

“รักสิ เมื่อก่อนผมรักรินมาก มากจนคิดว่าเราอาจจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่พอคุณทิ้งผมไป ความรักของผมที่มีต่อคุณมันก็เปลี่ยนรูปแบบ คุณเป็นเพื่อนที่ผมรักและหวังดีอยู่เสมอ แต่ริน........คุณไม่น่าทำแบบนี้เลย ผมผิดหวัง ผมเสียใจที่ผมเคยรักคุณ”

“ก็ที่รินเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณไม่ใช่เหรอ ที่รินทำไปทุกอย่างก็เพราะว่ารินรักคุณ รักมาก มากจนทนไม่ได้ถ้าต้องเสียคุณให้ใคร” นางเอกสาวกรีดร้องขึ้นมาสุดเสียง เธอคงจะเจ็บปวดและเสียใจ แต่เธอต้องยอมรับความจริงให้ได้

“คุณแน่ใจเหรอรินว่าที่คุณทำไปเป็นเพราะว่าคุณรักผม ไม่ใช่ว่าอยากจะเอาชนะ”

“ไม่ รินรักคุณ ที่รินทำไปก็เพราะรักคุณได้ยินมั๊ย ถ้าไม่มีไอ้บ้านั่นสักคนคุณก็จะหันมาสนใจรินคนเดียว”

“ผิดแล้วล่ะริน ถึงแม้ว่าจะไม่มีก้อง ผมก็ไม่กลับไปหาคุณอยู่ดี เพราะผมรู้ใจตัวเองแล้วว่าผมรักใคร”

“ไม่จริง พีรักริน เมื่อคืนเรายังมีความสุขด้วยกันอยู่เลย”

“ริน ผมขอโทษ...........ที่คุณเห็น ที่คุณรู้สึก ทุกๆ อย่าง มันเป็นเพราะฤทธิ์ยา”

“กรี๊ดดดดดดดดด ไม่จริง!!!!! พีรักริน พีรักริน พีต้องรักรินคนเดียวสิ”

“ริน........ยอมรับความจริงซะเถอะ มอบตัวซะนะ โทษหนักจะได้เป็นเบา”

นางเอกสาวยังคงสะอื้นไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ

“ ริน.......คุณยังคงเป็นเพื่อนที่ผมรักมากที่สุดคนนึงเสมอนะ ผมยังอยู่ข้างๆ คุณ เราจะแก้ปัญหานี้ไปด้วยกัน ผมจะช่วยคุณเอง มอบตัวเถอะนะไอริน”

“พี พีจะช่วยรินจริงๆ เหรอ พีต้องช่วยรินนะ นะ” หญิงสาวสะอึกสะอื้นอย่างหมดท่า ไม่เหลือเค้านางเอกชื่อดังแห่งวงการบันเทิงเลยแม้แต่นิดเดียว

“อย่าไปฟังมัน!!!” นายพรเทพประกาศกร้าวเสียงดัง

“ มันจะหลอกใช้คุณนะไอริน คิดดูซิ....พอมันจับคุณได้ มันก็จะปล่อยให้คุณทนทุกข์ทรมานอยู่ในคุกในขณะที่มันไปมีความสุขอยู่กับศัตรูหัวใจของคุณ คุณจะยอมได้เหรอ” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ของมันพยายามเกลี้ยกล่อมไอรินให้คล้อยตาม หญิงสาวดวงตาวาวโรจน์ กรีดร้องออกมาสุดเสียง

“ไม่!!! ไม่มีวัน ฉันไม่ยอม ไอ้นั่นมันไม่มีทางจะมีความสุขไปมากกว่าฉัน”

“ถ้าอย่างนั้น........ฆ่ามันสิ ในเมื่อคุณไม่ได้ คนอื่นก็ต้องไม่ได้”

มีดเล่มยาวถูกส่งเข้าสู่มือเรียวของนางเอกสาว ไอรินมองหน้าผมสลับกับนายพรเทพอย่างลังเล แผ่นหลังบอบบางถูกผลักให้มายืนอยู่เบื้องหน้าผม ไอรินค่อยๆ ย่อตัวลงช้าๆ จนใบหน้าของผมอยู่ในระดับสายตาของเธอ ผมส่ายหน้าเบาๆ ส่งสายตาขอร้องไม่ให้เธอทำแบบนี้ แต่หญิงสาวก็เงื้อมืดขึ้นสุดแขน




…

………..

…………………….




“ไม่ ไม่นะริน เราเป็นเพื่อนกันนะ คุณอย่าทำแบบนี้”

“ไม่ต้องกลัวนะพี เดี๋ยวพอพีไปแล้ว รินก็จะตามพีไป เราจะได้ไปอยู่ด้วยกันไง”

หญิงสาวปักมืดลงมาอย่างรวดเร็ว ผมหลับตาเตรียมรับกับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่แล้วผมก็ได้ยินเสียงไอรินหวีดร้อง และเสียงมืดเล่มยาวหล่นลงบนพื้น

“พี คุณเป็นยังไงบ้าง”

“ก้อง..........”

ผมได้ยินเสียงตัวเองครางเรียกชื่อของก้องบดินทร์อย่างแผ่วเบา คนหน้าหวานประคองตัวของผมเอาไว้บนตักพร้อมกับช่วยปลอดเข็มขัดที่รัดข้อมือของผมออก มือเรียวสวยของก้องลูบไล้ใบหน้าผมอย่างอ่อนโยน หยดน้ำใสร่วงหล่นจางดวงตากลมโตเมื่อเห็นบาดแผลที่อยู่บนตัวของผม เป็นไปได้ยังไง นี่ผมกำลังฝันอยู่หรือเปล่า??? หรือผมจะตายไปแล้วจริงๆ

“พี คุณเป็นอะไรมากมั๊ย ตอบผมหน่อยสิ ตอบผมมา”

แรงเขย่าจากก้องบดินทร์ ทำให้สติสัมปชัญญะของผมเริ่มกลับคืนมา ผมจับมือนุ่มของก้องเอาไว้แน่น แล้วเลื่อนให้มาประทับที่ริมฝีปาก

“ไม่เป็นไรก้อง ไม่เป็นไร”

“พี เราไปจากที่นี่กันเถอะ”

ก้องบดินทร์ประคองให้ผมลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ผมมองไปรอบๆ เห็นนายพรเทพกำลังแลกหมัดอยู่กับไอ้ตี๋นั่น ส่วนไอรินก็นั่งร้องไห้อยู่บนพื้นอย่างน่าสงสาร แต่แล้วจู่ๆ เธอก็หัวเราะขึ้นมาสลับกับร้องไห้ ผมถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกหนักหน่วง ถึงแม้ว่าผมอยากให้เธอชดใช้ในสิ่งที่เธอก่อ แต่ผมก็ไม่เคยนึกเลยว่าเธอจะต้องมีจุดจบเช่นนี้

“ก้อง ผมต้องไปช่วยรินก่อน”

คนหน้าหวานหันไปมองนางเอกสาวที่ตอนนี้สูญสิ้นซึ่งสติใดๆ แล้วหันกลับมามองหน้าผม ก้องบดินทร์พยักหน้าน้อยๆ อย่างเข้าใจ

“ไปเถอะพี”

แต่ก่อนที่ผมจะได้ไปช่วยเธอผมก็เห็นพรเทพตรงเข้ามาจะทำร้ายก้องจากทางด้านหลัง ผมผลักก้องออกไปให้พ้นทางแล้วถีบมันที่หน้าท้องจนสุดแรง นายพรเทพเสียหลักล้มตึง ผมรีบถลาเข้าไปหาก้องด้วยความเป็นห่วง แต่แล้วอยู่ๆ ไอรินก็ใช้แจกันทุบศีรษะของก้องอย่างแรงโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว ผมรีบก้มลงไปหาก้องแต่แล้วผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรแข็งๆ มากระแทกที่ศีรษะของตัวเองอย่างแรงจนตาพร่าเลือนไปหมด ผมล้มลงไปนอนอยู่บนพื้นข้างๆ ก้องบดินทร์ คนหน้าหวานหันหน้ามาทางผมพร้อมกับส่งยิ้มน้อยๆ มาให้ เสียงหวานหลุดออกมาจากริมฝีปากอิ่มผะแผ่วคล้ายอยู่ในห้วงแห่งความฝัน แต่ทว่ามันกลับดังชัดเจนอยู่ในใจของผม

“ผมรักคุณ.........”

ผมเอื้อมมือไปกุมมือของก้องเอาไว้แน่นก่อนที่ก้องจะแน่นิ่งไปพร้อมๆ กับสติสุดท้ายของผมที่ดับวูบลงเช่นกัน












Create Date : 19 กันยายน 2554
Last Update : 19 กันยายน 2554 23:14:22 น. 8 comments
Counter : 403 Pageviews.

 
ฮว้ากกกกกกกกก ตื่นเต้นๆๆๆๆๆๆ มาต่อไวๆเน่อ ปอ เอส ขอบคุณมากจ้า


โดย: แป้ง วารุณี IP: 58.11.59.243 วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:0:54:47 น.  

 
เอิ่มมมม....นี่พี่ฮันกะลังอ่านฟิคสายลับอยู่ใช่ม๊ายยย???

สนุกมากกกจ้ะ ลุ้นระทึก ตื่นเต้นมากก

แต่พูดก็พูดเถอะ ถึงยัยไอรินจะร้าย แต่มีจุดจบแบบนี้ ก็น่าสงสารนะ

แต่ที่น่าสงสารที่สุดคือ พี่พีกะน้องก้องเนี่ยแหล่ะ...ฮืออออ....น้องปอกะน้องเอสใจร้ายจังอ่ะ โดนทำร้ายหนักทั้งคู่ อย่าให้เค้าสองคนเป็นอะไรไปเลยน๊าาา...ฮือออ

ขอให้อานุภาพแห่งความรักของเค้าทั้งสองคน ดลบันดาลให้ทั้งคู่ปลอดภัย และกลับมาครองรักกันไวๆนะคะ

ขอบคุณน้องปอกะน้องเอสมากที่มาอัพฟิคนะคะ ยิ่งอ่านก็ยิ่งสนุกนะ เป็นฟิคประเทืองปัญญาจริงๆด้วย

รอตอนต่อไปจ้ะ


โดย: พี่ํฮันนี่ี IP: 180.210.216.74 วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:1:16:21 น.  

 
โอ๊ย!!! อะไรมันจะขนาดนี้ ซับซ้อน ซ่อนเงื่อนไปหมด แล้วทำมายยยยยยยพี่พี กับน้องก้อง ต้องโดนทำร้ายซะยับเยินปานนี้ แง้ๆๆๆๆๆๆๆ writer ใจร้าย อ่ะ มาต่อไวๆ นะคะ สาวกเครียดมากกกกกกกก ^_____^".


โดย: lek^lek. IP: 223.207.38.44 วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:4:20:47 น.  

 
กรี๊ดดดดดด...คุณพี๊!!!!! น้องก้อง!!!! โดนทำร้ายสลบไปทั้งคู่เลย T^T
ตอนนี้สนุกมากๆค่า มีให้ลุ้นให้ตื่นเต้นกันตลอดเลย
อยากอ่านต่อตอนหน้าแล้วอ่า~~~


โดย: Lookwha IP: 58.10.84.216 วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:11:08:08 น.  

 
ลุ้นไปมั้ยคะ พี่เอส พี่ปอ .. คนอ่านเหนื่อยน้าาาา T^T

ลุ้นให้พี่พีกะน้องก้อง ไม่เป็นอะไรมากนะคะ ^^


โดย: Angsumalin IP: 110.168.165.39 วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:15:35:01 น.  

 
ลุ้น!!!!ตื่นเต้น!!!!ระทึก!!!!
เอ่อ..!!!แน่ใจนะว่านี่เป็นฟิครักก้อง-พี????
อ่านไปลุ้นไป...หัวใจจะวายซะให้ได้
ต้องรอลุ้นตอนต่อไป....
เป็นกำลังไจให้ทั้งน้องเอสและน้องปอระคะ


โดย: Keamdeang1@smile IP: 58.9.68.194 วันที่: 21 กันยายน 2554 เวลา:16:58:48 น.  

 
กรี๊ดดดๆๆ ใจจะขาด!ลุ้นๆ


โดย: miyukik IP: 110.49.236.244, 82.145.209.2 วันที่: 21 กันยายน 2554 เวลา:22:56:07 น.  

 
กรี๊ดดดดดดดดด มากรี๊ด รอ ตอนต่อไป อิๆๆๆ โอมเพี๊ยง ตอนต่อไป จงมา ^____^".


โดย: lek^lek. IP: 223.205.238.246 วันที่: 5 ตุลาคม 2554 เวลา:23:50:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

biomedical_girl
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นนัก (หัด) เขียน ที่ได้แรงบันดาลใจในการแต่งเรื่องสั้นเรื่องแรกมาจากความน่ารักของตัวละคร พีรวิชญ์ และ ก้องบดินทร์ จากละครเรื่องพรุ่งนี้ก็รักเธอ โดยปกติจะเป็นนักศึกษาทุนในระดับปริญญาโทสาขาชีวเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ แต่เมื่อไหร่ที่ความเวิ่นเว้อบังเกิดก็จะแปลงร่างจากสาวเนิร์ด เป็นสาววายทันที ^^" นอกจากนี้ยังชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ และมีความใฝ่ฝันว่าสักวันฉันจะได้ออกเทป (หุหุ) บางครั้งในเวลาว่างๆ ก็จะแต่งเพลง แต่งกลอน ออกมาอยู่เสมอ จนบางครั้งคนรอบข้างถึงกับแซวว่าเธอน่าจะไปเรียนอักษรหรือนิเทศมากกว่าชีวโมเลกุลนะ --"
New Comments
Friends' blogs
[Add biomedical_girl's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.