Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
14 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 

เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ ตอนที่ 16 <เพราะผิดที่ฉันเอง>



สิ่งที่ยากจะยอมรับที่สุดคือการกระทำผิดพลาดที่ตัวเองเป็นคนก่อขึ้น

เพิ่งจะได้ตระหนักถึงความเป็นจริงก็ในตอนที่ตัวเองได้เจอกับมันเข้าเต็มๆ แล้วนั่นแหละ นึกแล้วอยากย้อนเวลากลับไปกลืนน้ำลายตัวเองเก็บคำพูดนั้นกลับมาแล้วยัดใส่หม้อดินปิดยันตร์ถ่วงทะเลแอนตาร์กติกเป็นที่สุด ไม่รู้ว่าฉันจะนั่งหมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องที่ตัวเองหลุดความในใจออกไปให้เขารู้ทำไมกันในเมื่อเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรสักนิด นั่งอี๋อ๋ออ้อนเด็กสาวๆ ทั้งที่แฟนหนุ่มของตัวเองก็ยืนทนโท่อยู่หน้าห้อง ปล่อยให้ฉันนั่งทำตัวเป็นเด็กสาวใจแตกฟังแต่เพลงประเภทมานั่งถามดาวถามเดือนว่าบอกรักเขาไปแล้วเขาจะคิดยังไงน้อ ฟังมันสองสามเวอร์ชั่นกลับไปกลับมาอยู่นั่น ตอนนั้นก็อินดีแต่ตอนนี้มันแสนจะน่ารำคาญ เออ อยากรู้ก็ให้มาดูกับตานี่ ถามทำไมดาว ตกหลุมรักดวงดาวเมื่อไรก็ค่อยไปถามโน่น

ปัดโธ่ ลิฟท์โรงพยาบาลนี้นี่มันยังไง ทำไมชักช้านัก คนเขาช้ำใจพ่ายรักจะรีบกลับไปนั่งแสดงเป็นนางเอกมิวสิควีดิโออกหักที่บ้านน่ะเข้าใจไหม เข้ามาตั้งนานยังอยู่ชั้นเดิม ก็ฉันจะลงไปที่จอดรถชั้นห้า อะ...

อ้าว ลืมกดปุ่มเลือกชั้นเองนี่หว่า

กว่าฉันจะตะบึงตะบอนพาลใส่วัตถุทุกอย่างรอบตัวตั้งแต่ปุ่มลิฟท์ที่ลืมกด ถังขยะอลูมิเนียมหน้าลิฟท์ที่ตั้งขวางหูขวางตาขวางหน้าฉัน ล่วงเลยไปถึงเซ็นเซอร์ประตูอัตโนมัติที่ทำงานช้ากว่าความต้องการคนใช้งานมาได้ถึงพิกัดจอดรถของตัวเองก็เล่นเอาเผาผลาญพลังงานไปไม่น้อย พอเปิดรถเข้ามาสตาร์ทนั่งเร่งแอร์ไประดับเย็นที่สุดได้ก็ต้องหอบหายใจสงบสติอารมณ์อยู่นาน

นานขนาดทำให้หัวแข็งๆ ร้อนๆ ค่อยผ่อนลงมาเย็นและอ่อนยวบ ไหล่ที่ตั้งอย่างถือดีของฉันกลับหมดแรงลู่ตกลงพร้อมกับแผ่นหลังที่ต้องหาสิ่งรองรับเป็นเบาะรองหลังของที่นั่งฝั่งคนขับ ฉันปล่อยมือจากพวงมาลัยที่กำเอาไว้แน่นในตอนแรกให้มาเกี่ยวไว้หลวมๆ พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่

ใครทำอะไรไว้ต้องได้สิ่งนั้นตอบแทนหรือเปล่า อาจเป็นตัวเวรกรรมที่เปรี้ยวจัดซ้อนท้ายวินมอเตอร์ไซค์ตามมาทันตั้งแต่วันที่ฉันไปหอมแก้มคุณแทนโชว์น้องฝนเข้า วันนี้เลยโดนย้อนศรกลับมาเจอเสียเอง แถมทางคุณแทนยังเป็นคนจับมือน้องฝนให้ป้อนผลไม้ให้อีกต่างหาก

ทำไมคิดถึงภาพที่เห็นมาแล้วมันร้อนที่หัวตาแปลกๆ น่าเกลียดน่ะ เรื่องแค่นี้ทำไมต้องร้องไห้ด้วย ใช่ ทำไมต้องร้อง ฉันออกจะเป็นที่ต้องการของผู้คนอีกมากมายขนาดนี้ จะไปเสียใจอะไรกับคนที่ไม่ได้เห็นเราอยู่ในสายตา ทั้งที่ฉันสู้อุตส่าห์เครียดแทบเป็นแทบตายในวันที่เขาเข้าโรงพยาบาล ลุกขึ้นสวดมนต์ทุกวันทั้งที่ขี้เกียจสันหลังยาวขนาดนี้ เพื่อที่เขาจะได้ฟื้นขึ้นมา บ้าที่สุด นังเพชรเอ้ย

เรียกแรงฮึกเหิมให้ตัวเองได้ก็ใส่เกียร์เหยียบคันเร่งออกรถไปยังจุดหมายปลายทาง

เสียเวลานั่งบิวท์แรงฮึดจริงๆ กว่าจะกลับมาถึงบ้านได้ก็ร้องไห้จนแสบตาไปหมด เปิดฟังเพลงอะไรก็สะเทือนใจ ทำไมสมัยนี้มีแต่เพลงอกหัก ไม่รู้จักทำเพลงประเภทปลุกใจให้คนไทยรักชาติกันบ้าง ตั้งแต่จำความได้ความรู้สึกนี้เพิ่งจะมีมาเป็นครั้งที่สองในชีวิต ครั้งแรกนั่นสมัยเพิ่งแตกเนื้อสาวยังอายุไม่ถึงเกณฑ์ทำบัตรประชาชนก็ริอ่านไปหลงหนุ่มรุ่นพี่ที่หนีไปเรียนต่อเมืองนอก ร้องไห้ไร้สาระไปแค่วันเดียวก็ทำใจได้ง่ายดาย ทุกวันนี้พี่เขาจะเป็นจะตายยังไงไม่ยักสนใจเลยฉัน แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ ความรู้สึกเหมือนถูกกดตรงช่วงอกมันบีบคั้นกว่านั้น ฉันรู้ว่ามันจะปวดหนึบอย่างนี้ไปอีกนาน แต่นานแค่ไหน ใครจะบอกได้เล่า

ดีที่วันนี้ฉันมาถึงบ้านก่อนทุกคนเลยไม่มีใครเห็นลูกสาวคนสวยสุดมั่นเสียน้ำตา ไม่อย่างนั้นคงมีรายการนั่งคั้นถามกันอีกสามสี่วันไม่จบว่าใคร ใคร้มันทำ โธ่ จะใครเล่า ก็ไอ้ตัวที่ทำให้ฉันขออนุญาตใช้คนในอาณัติของพ่อไปล้วงไส้ไฮโซเจ้าของกิจการโรงแรมนั่นน่ะสิ ตอนนั้นเล่นเอาได้ผู้สมรู้ร่วมคิดแปดเปื้อนอีกเป็นระนาว แต่ละคนฉาวได้ใจจริงๆ ยังหวาดๆ อยู่เลยว่าหากคุ้ยไปคุ้ยมาเกิดล่วงเลยไปปะเอาคลิปคุณแทนเข้าแล้วฉันจะทำยังไง จะทำใจได้หรือเปล่า แต่ถึงคราวนั้นเขาจะขาวสะอาด (ปิดได้มิดชิดมากๆ) ก็ไม่ช่วยอะไรในเมื่อฉันได้มาเจอภาพสะเทือนใจกว่าแยะ

"คุณเพชรคะ มีแขกมาหาค่ะ" เด็กในบ้านเคาะประตูเรียกลูกสาวรัฐมนตรีผู้มีใบหน้าแสนสวยในอดีตที่คาดว่าขณะนี้จะดูไม่ได้

"หลับอยู่ ไม่รู้ไม่ได้ยิน" ฉันตะโกนตอบเสียงอู้อี้เพราะหน้ายังซุกหมอนอยู่

"หลับแล้วจะตอบได้ยังไงหา เพชร! เปิดประตูรับฉันเดี๋ยวนี้เลย นี่เพื่อนแกมาไกลจากเมืองจันฯ เลยนะ" แขกที่ว่าสวนกลับมาทันควันชัดเจนจากหน้าประตูห้อง และเสียงนั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนอื่นไกลเลยจริงๆ

"ลูกชุบ!" ทันทีที่ประตูเปิดผลัวะด้วยฝีมือเจ้าของห้องอย่างฉันมันก็แทบล้มหงายเมื่อฉันโผเข้ากอดเพื่อนอย่างกับไม่ได้เจอกันมานานเป็นสิบปี (ทั้งที่แค่ไม่กี่เดือน)




"ไม่นึกว่าแกจะเป็นเอามากขนาดนี้ นี่แกยังไม่ได้เสีย เอ่อ อะไรให้เขาไปใช่ไหม" นังลูกชุบถามขึ้นมาเป็นประโยคแรกหลังจากเข้ามานั่งฟังฉันระบายความอัดอั้นตันใจในห้องจนจบครบกระบวนความ สายโทรเข้าทุกสายถูกฉันกดทิ้งหมดโดยไม่ดูแม้แต่หน้าจอว่าใครโทรมาเพียงเพราะว่าฉันไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะคุยกับใครได้ทั้งนั้น

"แก หมายถึง... นังบ้า คิดว่าฉันเป็นคนยังไงถึงจะยอมเสียตัวง่ายๆ ให้ผู้ชายน่ะเฮอะ นี่ฉันอวิกา มีพ่อมีแม่ที่คอยคุ้มหัวอยู่นะ" ฉันทำปากดีก่อนสั่งน้ำมูกลงกระดาษทิชชูอีกหนึ่งฟืดใหญ่แล้วปาลงถังอย่างแม่นยำ อีกอย่าง เขาจะอยากทำอะไรกับชะนีหรือเปล่าฉันยังไม่ชัวร์เท่าไหร่นัก เห็นจะมีแต่เรื่องแอบๆ อันนี้ที่ฉันไม่ได้บอกนังชุบ เกลียดตัวเองขึ้นมาจับใจที่ยังรู้สึกว่าต้องรักษาหน้าให้เขา

"เออ ขอโทษ แต่ดีแล้วที่แกคิดอย่างนั้นได้ ฉันละกลัวใจแกนัก ดูเอาอย่างไอ้เจ้าของโรงแรมอะไรที่เพิ่งถูกลบชื่อไปจากวงการนั่นสิ มาคั่วแกอยู่ไม่ใช่เหรอไง จู่ๆ ก็กลายเป็นอะไรไปแล้ว มั่วไม่เลือกอย่างนั้น ฉันละหวาดหวั่นจริงๆ เกิดวันดีคืนดีฉันเปิดอ่านอีเมล์แล้วเจอฟอร์เวิร์ดคลิปวีดิโอเรทเอ็กซ์ที่มีแกเป็นนางเอกแล้วจะทำยังไง"

วันนี้มันพูดยาวกว่าปกติ หรือติดนิสัยพูดมากจากสามีมาแล้วเรียบร้อย

"ว่าแต่ แกมายังไง คุณนทีล่ะ?" พอเริ่มโล่งในหัวอกก็ชักสนใจผู้มาเยี่ยมเยียนที่ยังไม่ทันได้แจ้งความจำนงหรือจุดประสงค์ใดๆ ในการปรากฏตัว

"มาคนเดียว นั่งรถทัวร์มาจากจันฯ แล้วต่อแท็กซี่มาบ้านแกเนี่ย" มันตอบเรื่อยๆ รับกับสีหน้าไร้อารมณ์ตามปกติ

"เห มาทำไม ตั้งใจมาหาฉันเนี่ยนะ แล้ว ยังไง ทำไมไม่บอกก่อน คุณนทีปล่อยแกมาได้ยังไง" ชักเริ่มได้กลิ่นแปลกๆ แล้วสิ หรือเพื่อนฉันมันจะตกบ่วงกรรมไปอีกคน

"คุณนทีไม่ได้ปล่อยมา แต่ว่าฉันหนีมาเฉยๆ"

"..."

ความเงียบเข้าปกคลุมชั่วขณะในห้องฉันจนได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศทำงานดังหึ่งๆ ก่อนที่ฉันจะแผดเสียงโวยวายลั่น

"อะไรของแก๊ หนีมา ได้ยังไง บ้าไปแล้ว" หน้าเซ็งๆ กับประโยคบอกเล่าสั้นๆ ของเพื่อนเรื่องหนีสามีทำให้ฉันลืมเรื่องปวดใจของตัวเองไปในบัดดล หลังจากนั้นเราก็เล่นรายการยี่สิบคำถามที่ผู้ตอบไม่ให้ความร่วมมือแต่อย่างใด จนเวลาล่วงเลยไปย่ำค่ำ จนกระทั่งพ่อและแม่กลับบ้านมาทำหน้างงๆ รับไหว้นังชุบพร้อมการอธิบายสั้นๆ จากฉันว่านังชุบมาเยี่ยมเยียนและวันนี้ก็จะมาค้างที่บ้านโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้ใหญ่ซักถามอะไรให้เสียการ และสุดท้ายการง้างปากก็มาสำเร็จที่ผับร้านประจำของแก๊งสาวโสดในอดีต

"สรุปว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กๆ แค่เนี้ย" ฉันยกแก้วคอกเทลขึ้นจิบและนั่งมองนังชุบนั่งดื่มนมปั่นอั้กๆ มันเปลี่ยนไปจริงๆ ทั้งพฤติกรรมการดื่มที่ปกติแล้วไม่เคยปฏิเสธฟองเบียร์นุ่มๆ หรือแอลกอฮอล์จางๆ เลยสักครั้ง รวมไปถึงความใจเย็นมีสติยั้งคิดก็พลอยเตลิดหายไปด้วย เพิ่งจะเห็นตรรกะโค่นล้มเรื่องเหล้าทำให้ขาดสติก็คราวนี้ นี่มันเลิกกินเหล้ามันยิ่งขาดสติ สงสัยตอนเด็กๆ แม่มันคงชงนมผิด แทนที่จะใส่น้ำร้อนดันกรอกเซี่ยงชุนลงขวดนมไปเสียฉิบ

"ก็ตอนนั้นมันโมโหนี่นา มีอย่างที่ไหน บอกว่าไม่ต้องซื้อเสียดายตังค์ก็ยังดื้อไปหามาจนได้" มันหมายถึงคุณนทีสามีสุดรักที่ไปถอยรถญี่ปุ่นสี่ประตูป้ายแดงออกมาหนึ่งคันเพราะไม่อยากให้เมียลำบากเดินทางด้วยการซ้อนบิ๊กไบค์ไปไหนมาไหนตลอดเวลา

"อ้าว ก็ไหนแกบอกว่าพ่อคุณนทีออกเงินให้ครึ่งหนึ่ง"

"มันก็ใช่ แต่เก็บเงินไว้เลี้ยง เอ้อ สร้างครอบครัวดีกว่าไหมล่ะ" แน่ะ ยังทำเป็นเถียง

"แล้วแกคิดว่าเขาไม่ได้เก็บเงินไว้สร้างครอบครัวหรือยังไง หือ ทำไมแค่เรื่องการแบ่งงบไว้เพื่อสิ่งอำนวยความสะดวกต้องมีปัญหา นี่ แกโตกว่าฉันไปก้าวหนึ่งแล้วนะ การแต่งงานน่าจะทำให้แกได้รับรู้ประสบการณ์ในชีวิตเพิ่มอีกอย่างแล้วไม่ใช่หรือไง ทำไมยังต้องใช้อารมณ์เป็นใหญ่อยู่อีก คุณนทีเขารักแกจะตาย ใครๆ ก็รู้ก็ดูออก"

นานทีปีหนจะได้ออกปากสั่งสอนเพื่อนคนนี้สักที ปกติมันจะแสดงบทนี้ตลอด

"แล้วนี่แกเป็นอะไร ทำไมวู่วามนัก ไม่เหมือนลูกชุบที่ฉันเคยรู้จักเลยนี่" ถามคนที่เริ่มคอตกสำนึกผิด

"ช่วงนี้ฉันอารมณ์ไม่ค่อยคงที่น่ะ ฮอร์โมนมันเปลี่ยน" ตอบเสียงอ่อย ฮอร์โมนอะไรมันจะมาเปลี่ยนเอาตอนสาวๆ อย่างนี้กันหือ เอ๊ะ หรือว่า?

"เฮ้ย นังชุบ อย่าบอกนะว่าแก..." ฉันชี้หน้ามันมือไม้สั่นอย่างเก็บความตื่นเต้นไว้ไม่ได้

"อือ...สองเดือนละ" มันทำท่าเอียงอายลูบหน้าท้องตัวเองเบาๆ ท่ามกลางความตื่นเต้นแทบล้นของฉัน หมายความว่าฉันจะได้เป็นป้า วุ้ย ไม่เอา แก่เชียว ฉันจะได้เป็นน้าแล้วสิเนี่ย

"ก็ ที่คุณนทีเขาออกรถเพราะเตรียมรับลูกคนแรกเนี่ย เขาไม่อยากให้ฉันซ้อนท้าย เขาว่ามันอันตราย คุณพ่อก็ดีใจใหญ่ทีแรกจะซื้อรถให้ทั้งคันรับขวัญหลานด้วยซ้ำแต่คุณนทีไม่ยอมจนได้แบ่งกันออกคนละครึ่งนั่นไง"

"แกนี่มันน่า... รู้อย่างนี้แล้วยังทำงอนหนีเขามาอีกนะแก เขาทั้งห่วงทั้งหวงแกขนาดไหน ป่านนี้ไม่ขาดใจตายไปแล้วเหรอ จู่ๆ เมียก็หนีหายมาอย่างนี้น่ะ แถมยังท้องอ่อนๆ อีก นี่ถ้าฉันเป็นสามีแกนะจะจับโบยด้วยหวายให้หลังลายเชียว" ขอด่าอีกหนึ่งชุดใหญ่ พอเข้าใจความรู้สึกของคนที่โมโหเพราะเป็นห่วงขึ้นมาในทันที อย่างที่คุณแทนโมโหก้อยตอนนั้นก็คงเหมือนกัน ฮึ ทำไมคิดถึงคุณแทนอีกแล้ว

"ส่ายหน้าทำไม" นังชุบคงเห็นฉันออกอาการประหลาดตอนส่ายหัวไล่ภาพใครบางคนออกไปจากในหัวสมอง

"ส่ายหน้าว่าแกนี่มันช่างใช้ไม่ได้ อะ โทรศัพท์แกอยู่ไหน รีบออกไปโทรหาสามีเลย เรียกให้เขามารับพากลับไปง้องอนกันซะให้จบเรื่อง ฉันไม่เปิดบ้านต้อนรับแกหรอก จำไว้นะชุบ จิ๊กซอว์ที่ต่อกันได้พอดีทั้งสองฝ่ายมันไม่ใช่สิ่งที่จะซื้อหาง่ายๆ เมื่อได้มันมาแล้วต้องรักษามันไว้ให้ดี อย่าทิ้งขว้างเหมือนเป็นสิ่งที่หมดค่า เพราะรู้ไหม ว่าหากแกปล่อยมันหลุดมือไปแล้วความสูญเสียจะเทียบไม่ได้กับอะไรทั้งนั้น" นังชุบเม้มปากเน่นมองหน้าฉันก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดเครื่องแล้วลุกออกไปกดเบอร์หาคนที่เป็นหัวใจอีกครึ่งดวงของมันอย่างว่าง่าย

ยังอีกอย่างนะนังชุบ ความรู้สึกของการสูญเสียมันไปอาจจะโหดร้ายพอๆ กันกับการไม่มีวันได้มันมาก็ได้ ดูเอาอย่างฉันในตอนนี้สิแกเอ๋ย ทำเป็นนักปราชญ์ผู้เปรื่องในเรื่องมุ้งชาวบ้าน ทีเรื่องหัวใจตัวเองละเอาตัวไม่รอด แค่เห็นเขากิ๊กกับสาวหน้าอ่อนนิดเดียวก็ร้องห่มร้องไห้เกินงามไปสามสี่ชั่วโมง ทำไมฉันไม่ไปรักใครที่เขาพร้อมมีใจให้ฉันเพียงคนเดียวบ้างนะ

"เพชร นั่นน้องเพชรใช่ไหมครับ" เสียงทุ้มๆ เรียกชื่อฉันดังขึ้นมาจากด้านหลังในตอนที่น้ำตาจวนเจียนจะหยดลงมาให้ขายหน้าอยู่รอมร่อ และนั่นก็ทำให้ฉันต้องค่อยๆ หันหน้าไปหาที่มาของเสียงโดยมีเอียงคอแอบปาดน้ำตาทิ้งได้อย่างเนียนๆ

"ค่ะ เอ่อ สวัสดีค่ะ" ฉันลุกขึ้นยืนให้อยู่ในระดับสายตาของเขา ใครสักคนที่ฉันรู้สึกคุ้นๆ แต่ไม่ยักจะนึกชื่อออกมายืนยิ้มเย็นอยู่ตรงหน้า ท่าทางของผู้ชายตัวสูงใหญ่ไหล่กว้างที่ดูยังไงก็แสนจะดูผู้ดีมีมาดอบอุ่นยังกับแสงแดดยามเช้า ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนใต้คิ้วเข้มพาดเฉียงที่ทอแสงอ่อนโยนนั่นยิ่งทำให้ชื่อเขาติดอยู่ที่ริมฝีปาก

"อะ พี่โรม!" หวิดใช้เสียงเกินเดซิเบลที่กฎหมายกำหนดตอนที่นึกออก พี่โรม หรือรมย์ คือคนคนนี้ คนที่เคยทำฉันนอนร้องไห้ไปหนึ่งคืนด้วยคำบอกลาแบบสุภาพของพี่ชายเพียงแต่ว่าตอนนั้นฉันไม่ได้อยากเป็นแค่น้องสาว

'หวังว่าน้องเพชร น้องสาวที่น่ารักเสมอในสายตาพี่จะตั้งใจเรียนนะครับ พี่คงต้องขอตัวไปเรียนตามที่ตัวเองต้องการสักพัก แล้วพี่จะคอยติดต่อมานะ บางทีพอพี่กลับมาเพชรอาจโตเป็นสาวแต่งงานกับคนดีๆ ไปแล้วก็ได้'

ครั้งนั้นสุดท้ายแล้วคนที่ขาดการติดต่อกลับไปกลายเป็นฉันเสียเอง เมื่อฉันได้เพื่อนใหม่ๆ เติบโตจากวัยเด็กสาวสู่การเป็นผู้หญิงเต็มตัวคนที่วางตัวเป็นแค่พี่ชายก็กลายเป็นคนไม่สำคัญอีกต่อไป ก็แหม ฉันน่ะ ยิ่งโตยิ่งสวย ยิ่งเข้าตาใครต่อใครตั้งมากมาย ไม่มีเวลาไปนั่งตอบจดหมายของพี่ชายนอกสายเลือดหรอกน่า

"นึกว่าจะลืมกันเสียแล้ว" พี่โรมยิ้ม ยิ้มแบบนี้ฉันจำได้ ต่อให้หนาวแค่ไหนโลกก็จะอบอุ่นได้ก็เพราะไอ้ยิ้มอย่างเนี้ย อ้อ รู้ละ พอมายืนในจุดนี้แล้วถึงนึกขึ้นได้ว่าทำไมเมื่อก่อนฉันถึงได้หลงพี่โรมนักหนา ก็มาดพี่ชายที่น่าจะปกป้องน้องสาวได้อย่างนี้นี่เล่า สมัยก่อนฉันยังไม่ใช่พวกความมั่นใจสูงย่อมอยากได้ที่พึ่งเป็นธรรมดา พอเริ่มโตมาก็เริ่มสวยนิสัยเสีย ใครหน้าไหนก็ไม่ต้องมายุ่ง ฉันเก่ง ฉันเริด ฉันดูแลตัวเองได้ย่ะ

"อันที่จริงเพชรก็เกือบลืมเหมือนกันล่ะค่ะ ว่าแต่ พี่โรมมาได้ยังไงคะ กลับมาไทยนานหรือยัง โอ้โห สิบปีได้แล้วมั้งที่ไม่ได้ติดต่อกันมาน่ะ" เท่าที่รู้ข่าวมาจากบรรดาเพื่อนเก่าๆ ก็ได้รู้เพียงว่าหลังจากที่เขาจบวิชาวิศวกรรมที่เยอรมันพี่เขาก็พกเชื้อชาติลูกครึ่งไทยใช้สัญชาติอเมริกันพร้อมกับรูปลักษณ์ที่กระเดียดไปทางตะวันตกให้เป็นประโยชน์ในการเข้าไปต่อสู้ฟาดฟันจนได้ทำงานในบริษัทผลิตรถยนต์แห่งใหญ่ในดีทรอยต์ แล้วเป็นไงมาไงไม่รู้ถึงมาอยู่นี่ได้

"เพิ่งกลับมาได้ไม่ถึงเดือน ตอนนี้ยังมาไล่พบปะกับเพื่อนๆ ไม่ครบกลุ่มเลย แถมไม่นึกว่าจะมาเจอเพชรที่นี่ได้โดยบังเอิญขนาดนี้"

"แปลกใจที่พี่โรมจำเพชรได้ เก่งจังค่ะ" นึกถึงเพชรในสมัยก่อนแล้วก็ยืดนิดๆ ฉันโตเป็นสาวมีอะไรที่ควรมีเต็มที่แล้วค่ะ จะมาเสียดายเอาตอนนี้ก็ช่วยไม่ได้นะ

"จำได้สิ ก็เพิ่งเป็นข่าวไปไม่กี่วัน พวกเพื่อนพี่ยังคุยกันขรมเลย"

แหงะ จำได้จากข่าวคาวฉาวโฉ่นั่นอะนะ

"แล้วนี่เพชรมากับใคร มากับแฟนหรือเปล่า แนะนำให้รู้จักหน่อยได้ไหม" ไม่เจอกันสิบปีพอพูดกันทีก็แทงใจเลยเหรอคะ

"ไม่ได้มากับแฟน เพชรยังไม่มีแฟนหรอกค่ะ" เพราะดันทะเล่อทะล่าไปรักแฟนของผู้ชายอื่นเข้า "มากับเพื่อนผู้หญิง ตอนนี้เขาออกไปโทรศัพท์"

"อืม พี่มีเรื่องอยากคุยกับเพชรเยอะเลย เอางี้ ระหว่างที่รอเพื่อน มาคุยกับพี่ก่อนก็แล้วกัน"



พี่โรมยังเป็นคนคุยง่ายด้วยท่าทางสบายๆ เหมือนเดิมจริงๆ จะมีคนสักกี่คนกันเชียวที่ยังคงคอนเซ็ปท์การพูดการจาได้คงที่น่านับถือขนาดนี้ ด้วยความที่เป็นคนดูไม่มีพิษภัยแถมคุยด้วยแล้วสบายใจอย่างนี้ของพี่โรม นั่นก็ช่วยให้ฉันหัวเราะได้หลายครั้ง ยิ่งตอนฟังเขาเล่าถึงสมัยที่ไปเรียนใหม่ๆ แล้วเผลอทำอะไรหลุดๆ ไปมั่ง คงจะเพลินเกินไปจนไม่ทันได้รู้ว่านังชุบเดินกลับมาแล้ว

"เอ่อ เพชร เหมือนเพื่อนเพชรจะกลับมาแล้วนะ" พี่โรมเปิดฝ่ามือไปทางด้านข้างของฉันที่ไอ้เจ้าตัวมันไม่ลืมหูลืมตาดูเลยว่ามีใครมายืนกันอยู่บ้าง ขนาดว่านังชุบออกไปพาคนกลับมาเพิ่มอีกสองหัวมาได้ยังไม่รู้ตัวอีก หัวหนึ่งคือนังสุ และหัวสองคือคุณพลที่ฉันยังหาเหตุผลของการปรากฏตัวของเขาไม่ได้ ทำไมไม่ไปเฝ้าแฟนหนุ่มเล่า เดี๋ยวชะนีในชุดนักศึกษาก็มาคาบไปหรอก

"พอดีเจอสุกับคุณพลข้างนอก เขามาตามหาแกกันน่ะ" นังชุบยืนเก้ๆ กังๆ เพราะที่นั่งถูกแย่งพร้อมพูดออกมาก่อนนังสุที่ทำท่าอึ้งแปลกๆ จ้องพี่โรมแบบพินิจพิเคราะห์

"อ้าย...พี่โรมนี่นา ใช่ไหม? พี่โรมนี่" อาจารย์สุภาเกิดอาการลมปราณแตกซ่านในทันทีที่นึกออกว่าผู้ร่วมโต๊ะของฉันเป็นใคร ก็น่ากรี๊ดอยู่หยอกเสียเมื่อไร พี่โรมนี่แทบจะเป็นชายในดวงใจสาวๆ ในโรงเรียนมัธยมที่เราเรียนจบกันมาเกือบค่อน ขนาดว่าพวกฉันเข้ามาเรียนปีแรกตอนที่พี่เขาเรียนปีสุดท้ายยังได้เอาตัวไปพัวพันจนรู้จักมักจี่กันได้เนี่ย

"อ่า ครับ เอ...น้องสุ สุภาใช่หรือเปล่า" คนถูกกรี๊ดชะงักไปนิดหนึ่งก่อนรำลึกอดีตชาติได้ถูกต้องแม่นยำ

"ใช่ค่ะ ใช่ๆ ตายแล้ว ไปไงมาไงถึงมาเจอกับยัยเพชรได้เล่านี่ หรือแกแอบนัดพี่เขามาคุยกันสองคน ทำยังงี้ได้ยังไงกัน โอ๊ย เหลือเชื่อจริงๆ" นี่ถ้าไม่ติดสายตาประชาชีมันคงโดดใส่พี่เขาไปแล้ว

"เอ่อ คุณสุครับ เรามาตามหาคุณเพชรกันไม่ใช่เหรอครับ" หนุ่มหน้าตี๋ที่ตามมาด้วยสะกิดเตือนเพื่อนฉันที่ดูเหมือนมันจะลืมจุดประสงค์ของการมาไปแล้วเรียบร้อย

"เออ ใช่ นี่เพชร หล่อนเป็นบ้าอะไรทำไมไม่เปิดเครื่อง เขาตามหากันให้ควั่กแล้ว โอ๊ย นี่ดีนะว่าแม่แกยังรู้ว่าออกมากับลูกชุบที่นี่ ไม่อย่างนั้นฉันได้แจ้งตำรวจตามหาแกแน่" พอมันตั้งสติได้ก็ใส่ฉันฉอดๆ โดยไม่ได้สนใจว่าใครจะนั่งงงบ้าง 'เขา' ที่ตามหากันให้ควั่กน่ะ แกหมายถึงใคร

"ขอโทษนะครับ พี่ว่า เหมือนพี่จะเป็นคนนอก ยังไงพี่ขอกลับไปหาเพื่อนก่อนดีกว่า" พี่โรมขยับตัวทำท่าจะลุกขึ้นตามมารยาท หรือไม่ก็เห็นท่าว่าตัวเองเริ่มเข้าสู่วงโคจรของมลพิษทางหูฉับพลัน

"อ๊ะ เดี๋ยวก่อนค่ะ พี่โรม เอ้อ คือนี่พี่โรม สุรู้แล้ว ชุบจำได้ไหม" ฉันถามนังชุบที่ทำหน้างงกว่าคุณพลเสียอีก

"จำไม่ได้ โรมไหน?" มันส่ายหน้าพร้อมทั้งก้มลงกระซิบ

"ตอนเรียนแกสนใจอะไรนอกไปจากผืนผ้าใบกับดินเหนียวมั่งมั๊ยเนี่ย นังชุบ" ฉันด่ามันกลับด้วยระดับวอลุ่มเท่ากัน จริงอยู่ว่าฉันกับนังสุจะรู้จักดีแต่คนที่ไม่เอาดีทางสังคมอย่างนังชุบจะจำไม่ได้ก็ไม่น่าแปลก

"เพื่อนอีกคนค่ะพี่โรม ชื่อลูกชุบ เรียนที่เดียวกันนั่นแหล่ะ แต่มันคงนึกไม่ออก" แนะนำกันใหม่ให้เขารู้จักกันตัดปัญหาไปแล้วกัน

"แล้ว ทางนั้น..." ตามมารยาทและความสบายๆ ที่พี่โรมน่าจะได้มาจากสังคมแห่งเสรีภาพ การปล่อยให้ใครไร้ส่วนร่วมย่อมไม่ใช่สิ่งที่พึงกระทำ เขาส่งสายตาไปทางคุณพลที่เริ่มคิ้วพันกันยุ่ง

"อ๋อ นี่คุณพล เป็น ง่า เพื่อนของ...พี่ชายลูกศิษย์สุเองค่ะ" ถือว่าเพื่อนฉันมีความพยายามเป็นเลิศในการให้นิยามความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนได้อย่างสวยงาม หวังว่าพี่โรมจะยังคงเข้าใจภาษาไทยได้ดี ไม่อย่างนั้นคงไปนั่งแปลทั้งคืนว่าไอ้คุณพลนี่มันเป็นญาติฝ่ายไหนของใครกันว้า

หลังจากที่ทุกคนได้กลายเป็นคนรู้จักพร้อมกับการแลกอีเมล์แอดเดรสระหว่างฉัน นังสุ และพี่โรมผ่านพ้นไปก็ถึงเวลาที่ฉันต้องมานั่งฟังคุณเพื่อนสวมวิญญาณอาจารย์บ่นใส่หูซ้ายที่คาดว่าสามารถทะลุออกหูขวาได้ในทันที

"สรุปว่าลูกชุบมีปัญหากับสามี แกเลยต้องปิดมือถือตัวเองหนีมาเป็นเพื่อน?" มันถามพร้อมเลิกคิ้วกวนๆ ทั้งที่ยังอยู่ต่อหน้าคนที่ควรจะรู้ตัวว่าอยู่ผิดที่ผิดทางระหว่างกลุ่มเพื่อนสาว

"อือ ใช่ แล้วทำไมต้องเดือดร้อน ฉันไม่ได้ถูกลักพาตัวไปที่ไหนสักหน่อย แล้วนี่อะไร ทำไมต้องลากคุณพลมาลำบากตามหาฉันด้วย ไม่ใช่เด็กสิบขวบนะยะ" ตั้งใจจะสื่อความหมายว่านายไม่เกี่ยว ไม่รู้เป็นไง เห็นหน้าแล้วพาลหงุดหงิด

"ผมไม่ได้ลำบากอะไรเลยครับ แต่พอดีว่าไอ้แทนมัน เอ้อ มันยังอยู่ในโรงพยาบาล"

"ไม่เข้าใจค่ะ แฟ... เพื่อนคุณอยู่ในโรงพยาบาลไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการตามหาฉันเลยสักนิด" เกือบหลุดคำว่าแฟนออกไป จะให้นังชุบรู้เรื่องมากไปกว่านี้ไม่ได้เกิดมันอินกับความยุ่งเหยิงที่ฉันจิตอ่อนก่อขึ้นมาเดี๋ยวกระทบกระเทือนเด็กในครรภ์

"คือมันกลัวว่าคุณเพชรจะเข้าใจมันผิด" ดูเหมือนเขาจะมีปัญหากับการสื่อสารบางอย่าง คำพูดเลยดูเหมือนจะติดๆ ขัดๆ จับความเชื่อมโยงไม่ค่อยได้

"นั่นมันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรที่ฉันต้องเข้าใจนี่คะ มันน่าจะเป็นปัญหาระหว่างคุณกับเขามากกว่า" เชิดหน้าเข้าไว้ทำใจแข็งๆ จะมาไม้ไหนกันอีกเล่า แค่นี้ก็ย่ำแย่เกินทน เกิดเอาไฟมาลนให้อ่อนมันไม่ยิ่งไปกันใหญ่เหรอ

"แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาของผม คือ ว้า..." เขาเริ่มทึ้งหัวตัวเองอย่างขัดใจ ดูท่าว่าอีกหน่อยคงลงไปนอนดิ้นไม่ก็กรี๊ดออกมาให้สะใจไปทั้งผับ

"งั้น ถ้าจะไม่เป็นการรบกวนเกินไป ช่วยกลับไปคุยกันที่บ้านเพชรได้ไหม คือคุณนที สามีฉันน่ะค่ะ" เข้าใจว่าอันหลังนี่ตั้งใจบอกคุณพล "อีกเดี๋ยวก็น่าจะมาถึงบ้านเพชรแล้ว"



กลายเป็นว่าแทนที่ฉันจะได้ส่งภรรยาท้องอ่อนกลับไปสู่อ้อมกอดสามีที่บ้านไร่เมืองจันฯ อันเป็นที่รักกลับต้องมาเดือดร้อนเปิดห้องรับรองสองห้องให้นังชุบกับคุณนทีและคุณพ่อสามีมันอีกห้อง คุณนทีจิตตกจนถึงขั้นต้องลากเอาพ่อตัวเองมาคอยเป็นเทอร์โมสตัทช่วยตัดอุณหภูมิที่ร้อนรุ่มของลูกชายในกรณีที่อาจระเบิดได้อย่างกะทันหัน แถมยังสามารถเอามาอ้างให้นังชุบตามกลับบ้านได้เพราะเกรงใจผู้ใหญ่อีกต่างหาก แต่แทนที่จะพากันกลับไป ท่านรัฐมนตรีอิทธิเกิดอยากแสดงความเป็นห่วงเป็นใยไม่ยอมให้กลับกันค่ำมืดดึกดื่น ไหนจะห่วงคนท้องคนไส้ สุดท้ายเลยต้องอยู่โยงกันหมด

ต้องเบือนหน้าหนีภาพลูกชุบกับสามีที่ตอนนี้กลับมาคืนดีรักใคร่กันปานจะกลืนนั่งกุมมือกันอยู่ตรงศาลาแปดเหลี่ยมหน้าบ้านที่ก่อเกิดความเหงาขึ้นมาจับใจ ยังนึกถึงตอนที่อัญเชิญแขกพลกับแขกสุกลับไปได้อย่างนิ่มนวลเมื่อสักชั่วโมงที่แล้ว

'แทนมันคิดว่าคุณอาจเข้าใจผิดที่เห็นน้องฝนอยู่ในห้องกับมันสองคนอย่างนั้น จริงๆ แล้วไม่ได้มีอะไรเลย ทั้งคู่ไม่ได้คิดอะไรกันในแง่นั้นเลยนะครับ' คุณพลละล่ำละลักอธิบายให้ฉันฟังทั้งที่ไม่จำเป็น เพื่ออะไร?

'ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีค่ะคุณพล ว่าคุณจะมาบอกฉันทำไม'

'เพราะว่าแทนมันโทรมาหาคุณแล้วคุณไม่ยอมรับสาย มันจะมาหาเองก็ไม่ได้ ไม่มีใครยอม ผมเลยต้องมาพูดแทนมันนี่แหละครับ'

ฉันตัดสินใจนิ่งอยู่พักเพื่อสังเกตอาการคุณพล หากเขาพูดไม่จริงฉันน่าจะรู้ได้ในทันทีว่ามีอะไรแอบแฝง แต่เปล่าเลย เหมือนสิ่งที่เขาพูดมันเป็นเรื่องจริง จนฉันเองชักสับสน แล้วยิ่งเรื่องที่ฉันหลุดปากพูดออกไปนั่นอีก คุณพลรู้รึเปล่า

'เอาเป็นว่า ไว้ฉันคุยกับคุณแทนเองก็แล้วกันค่ะ คุณคงไม่ว่าใช่ไหมคะ คุณพล'

'ไม่เลยครับ ตามสบาย จะคุยกับแทนมันนานแค่ไหนยังไงก็ได้ ผมไม่ได้เป็น โอ๊ย!' เขาพูดไม่จบเพราะอะไรบางอย่างหลังโต๊ะกลางโซฟานั่นทำให้เขาร้องออกมา และฉันก็รู้ด้วยว่าเป็นฝีมือนังสุ

'แล้วแกมาทำไม?' หันไปถามเพื่อนตัวเองบ้างเมื่อเห็นพิรุธ

'มาเป็นเพื่อนคุณพล ก้อยโทรหาฉันว่ามีเรื่องให้ช่วย เท่านั้น' มันตอบชัดเจนฉะฉานก็จริงแต่ยังเหมือนมีเรื่องปกปิดบางอย่าง

'เอาเถอะ ตอนนี้ฉันคิดว่านังชุบคงอยากพัก แกรู้แล้วยังว่ามันท้องน่ะ'

อาการเบิกตาโตของอาจารย์สุภาทำให้ฉันไม่แปลกใจเลยหากจะคิดว่ามันเพิ่งรู้ให้ได้เกิดการเอะอะโวยวายขึ้นอีกครั้ง แล้วฉันก็ไล่เพื่อนกับคนที่เพื่อนพามาให้กลับไปด้วยเหตุผลว่าลูกชุบอยากพักผ่อนก่อนที่สามีมันจะมาถึงในเวลาต่อมาไม่กี่นาที ประมาณว่าพอล้อรถคันหนึ่งออกไปก็มีคันใหม่เลี้ยวเข้ามา

แล้วฉันจะเลิกคิดถึงเขาได้ยังไงในเมื่อยังมองคู่รักคนอื่นได้ไม่เต็มตาอย่างนี้ ถ้าหากว่าคุณแทนกับน้องฝนไม่ได้คิดอะไรกันเลยจริงๆ แล้วฉันแค่เข้าใจผิดจับแพะชนแกะเอาเองล่ะ มันก็จะหมายความว่าฉันอีเดียตขั้นสุดเสียน้ำตาไร้ความหมาย แล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นมาหากรู้ว่ามันเป็นอย่างนั้น เขาก็ยังมีคุณพล ฉันก็ยังเป็นชะนีแขนยาวหน้าขาววอกอยู่เหมือนเดิม ไหนจะยังน้องฝนนั่นอีก ใครจะไปเชื่อว่าไม่ได้คิดอะไร เล่นประกาศตัวเป็นศัตรูอย่างนั้น...

แต่อาการผิดปกติอย่างเห็นได้ชัดของทั้งคุณพลและนังสุนั่นก็น่าคิด

หรือว่ามีอะไรที่ฉันพลาดไป มีอะไรที่ฉันยังไม่รู้อีกหรือเปล่า?


***********************************************

<จบตอนที่ 16 ครับผม>

ตอนที่แล้วต้องขอบคุณคนอ่านทุกคนนะคะ ทั้งคุณ Sakina, คุณ redclick, คุณ 2in1, คุณบู้บี้, คุณ dena เอ้อ แล้วก็คุณ Life's เอาบัตรมาให้ แหะๆ


ตอนนี้ต้องออกตัวด้วยเลยว่าจะไม่ค่อยขำ คืออารมณ์อยากให้ดาวน์ลงมานิดหนึ่งน่ะค่ะ (แต่ก็ไม่รู้ว่าเผลอเล่นมุกโปกฮาไปมั่งเปล่า )

ถ้าอยากคอมเม้นท์ ติติง ติฉิน หรือนินทา ก็บอกกันได้นะคะ (สองอันหลังถ้าบอกก็ไม่ใช่ติฉินนินทาแล้วคุณเบสต์)

บุญรักษาค่ะ




 

Create Date : 14 สิงหาคม 2551
8 comments
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2552 2:28:36 น.
Counter : 290 Pageviews.

 

สวัสดีครับ แวะมาอ่าน blog ครับ

 

โดย: boyblackcat 14 สิงหาคม 2551 23:35:32 น.  

 

ความใกล้จาแตกแล้วช่ายม๊ายยยย

 

โดย: 2in1 IP: 124.121.147.39 15 สิงหาคม 2551 5:29:28 น.  

 

 

โดย: redclick 15 สิงหาคม 2551 10:48:58 น.  

 

ดีค่ะ กำลังคิดถึงคุณนทีอยู่เลย
หุหุหุ น่ารักดี

 

โดย: dena IP: 203.155.149.89 15 สิงหาคม 2551 11:09:49 น.  

 

มากรี้ดพี่โรมค่ะ ชอบผู้ชายยิ้มสวย อิอิ

 

โดย: บู้บี้ IP: 133.82.251.202 15 สิงหาคม 2551 12:59:43 น.  

 

เฮ้อ...

ร้อนเนาะ...

(แล้วก็ออกไป)

 

โดย: ชญาลี 15 สิงหาคม 2551 23:57:50 น.  

 

ก้างหนึ่งไป แต่ใครจะกลายเป็นตัวจริง

ฮาดีค่ะ

 

โดย: river IP: 125.25.58.244 19 สิงหาคม 2551 23:03:40 น.  

 

อ้าว พี่ลูกชุบ..มีข่าวดีแล้วหรอค่ะ?
อิอิ

พี่เพรช...สู้ๆ

 

โดย: RuNz 17 ธันวาคม 2551 18:39:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


BestChild
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ไม่ใช่คนเลว แต่ไม่ใช่คนดี
ไม่ใช่คนมีน้ำใจ แต่ไม่ได้เห็นแก่ตัว
ไม่ใช่คนใจร้าย แต่ไม่ใช่ผู้หญิงใจดี
ไม่ได้ต่อต้านใคร แต่ไม่ใช่คนยอมคน
รับรู้ในตัวตน และไม่สนใครจะว่าอย่างไร
รู้จักให้อภัย แต่ไม่ใช่ไม่รู้จักแค้น
เป็นผู้หญิงแท้ที่ชอบโชว์แมน แต่ความจริงแสนจะอ่อนโยน O_o!!!


~ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ~


"...มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่เรียนรู้จากความผิดพลาด ไม่มีใครเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกต้องเสมอไปในโลกใบนี้ หากจะมีก็ให้ไอ้คนนั้นมันไปเป็นเทวดาเสีย อย่ามาเป็นคนให้เสียชาติเกิดกันเลย"

โรม / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ







"คนที่บอกว่าคุณไม่สวยคือคนที่ไม่ได้มองคุณรู้ไหม ถ้าหากเพียงมองคุณดีๆ รู้จักมองให้ถึงความเป็นตัวคุณแล้วก็จะรู้ว่าคุณน่ะสวย..."

ยอด / ผมก็เป็นพระเอกคนหนึ่ง







จิ๊กซอว์ที่ต่อกันได้พอดีทั้งสองฝ่ายมันไม่ใช่สิ่งที่จะซื้อหาง่ายๆ เมื่อได้มันมาแล้วต้องรักษามันไว้ให้ดี อย่าทิ้งขว้างเหมือนเป็นสิ่งที่หมดค่า เพราะรู้ไหม ว่าหากแกปล่อยมันหลุดมือไปแล้วความสูญเสียจะเทียบไม่ได้กับอะไรทั้งนั้น"

อวิกา / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ






"...ไอ้ผู้ชายมาดแต๋วที่พี่ก่นด่านักหนาตรงหน้านี่นะ...เท่าที่รู้จักมา บอกได้คำเดียว...โคตรแมนเลยเว้ยค่ะ"

นงนุช / แมน







คุณค่าที่ว่า ความรู้สึกในทุกๆ ใบหน้าของคนในรูปคือ 'ความสุข' ไม่เห็นจะต้องมีองค์ประกอบเป็นฉากสวยงาม

ลูกชุบ / สาวติสท์แตกกับหนุ่มไฮเปอร์







"...คุณกับผมอาจดูต่างกัน คุณเชื่องช้า ผมว่องไว คุณใจเย็น ผมใจร้อน คุณชอบจดจ้องและลากเส้น แต่ผมชอบมองผ่านเลนส์และกดชัตเตอร์ แต่รู้มั๊ยในจุดประสงค์ของทั้งหมดมันคือสิ่งเดียวกัน..."

นที / สาวติสท์แตกกับหนุ่มไฮเปอร์







"มันเป็นแค่ความทรงจำ จะดีหรือร้าย เราไม่สามารถลบมันออกไปได้ เก็บมันไว้ในอดีตและเดินต่อไปยังอนาคตข้างหน้า ปล่อยให้ความทรงจำเป็นเพียงแค่ความทรงจำ"

Matsumura Ryo / Hiroshima eki สถานีแห่งความทรงจำ








"...บางทีสิ่งที่แกเห็นมันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ เหรียญยังมีสองด้านได้เลยแก ประสาอะไรกับใจมนุษย์เล่า มันขึ้นอยู่กับว่าแกเลือกที่จะรับมันทุกด้านหรือเปล่า หากแกเลือกที่จะรับไว้เพียงด้านเดียวแล้วทุกข์ไปตลอดชีวิตน่ะมันคุ้มกันไหม..."

ลูกชุบ / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ









เฮ้อ... ผู้ชาย ไม่มีไม่ตาย แต่อยากได้สักคนแฮะ

"ฉัน"/ ท้องฟ้า หาดทราย สายลม ผมกระเจิง




ฝากคำทักทายไว้ด้วยจิ...รักตายเลย




ShoutMix chat widget




BestChild ในคอลัมน์นักเขียนรับเชิญ ลายปากกา 2009

BestChild ในคอลัมน์ "ลายรัก" ลายปากกา 2010




Friends' blogs
[Add BestChild's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.