Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
9 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ ตอนที่ 10 <เพราะความ (แอบ) แมนของเขาเป็นเหตุ>



รู้อย่างนี้ยุให้น้องก้อยลากคุณแทนไปเหวี่ยงแรปเตอร์อีกสักรอบสองรอบท่าจะดี แหม...ทำไมถึงได้ฟื้นตัวไวขนาดนี้ นี่ยังไม่ได้ปล่อยหมัดเด็ดเลยนะนี่ รู้หลบเป็นปีกเหลือเกินนะ ไม่รู้ว่าขยะแขยงชะนีอย่างฉันหรือว่าต่อมไร้ท่อมันกำลังทำงานตามสัญชาติญาณกันแน่ ดูสิ ลงทุนให้หนุนตักนิ่มๆ ของฉันแล้วแท้ๆ เชียว

"แหม ๆ ๆ ไม่ ทำ มะ ดา นะยะหล่อน" สุภาย้ำคำว่า ธรรมดา แบบแยกพยางค์น่าหมั่นไส้หลังจากส่งซิกเรียกฉันให้ออกมาไกลๆ คู่เกย์ที่กำลังนั่งกระแซะกันอยู่ตรงโน้น

"ปล่อยทิ้งไว้แว้บเดียว ก็เล่นเสียวกันเสียแล้ว"

"ปากแมว! ที่พูดน่ะออกมาจากสมองเหรอยะ ชั้นเสียหายนะ"

ใช่ ฉันเสียหายหลายดอก คิดเอาเถอะ ถึงขั้นลงทุนปานนี้แล้ว เกิดพ่อฉันรู้เข้าว่าลูกสาวตัวดีเล่นอะไรอยู่ละก็ แกเอาตายแน่ พ่อฉันล่ะ จริงจังหนักหนากับเรื่องการรักษาศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง

เรื่องของเรื่องมันก็เกิดจากเมื่อคืนวันนั้น วันที่ฉันเกิดสติแตกโทรไปหามันตอนตีสองกว่า แถมยังไปพ่นให้มันฟังอีกว่ากำลังตกหลุมใหญ่เข้าให้ และมันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหากไอ้หลุมที่ฉันเดินทะลึ่งไปตกเข้ามันดันติดป้ายไว้ว่า 'MEN ONLY'

'แกต้องเริ่มต้นด้วยการยั่วยวน กระชากเอาฟีโรโมนที่ธรรมชาติสร้างให้เพศหญิงอย่างแกมีอยู่อย่างล้นหลามมาหลอกล่อให้เขาคลั่ง'

นี่หากไม่ได้ฟังตอนตีสองมันจะสยองอย่างนี้ไหมนะ

'แล้วทีนี้ พอเขาเก็บกดความต้องการตามธรรมชาติสร้างไว้ไม่ไหว เขาต้องหันมาหลงแกหมดใจแน่ๆ'

'เออ ถ้าชั้นไม่เกิดพลาดท่าเสียตัวไปก่อนละก็นะ นังบ้า! หาแผนดีๆ ที่ไม่เสี่ยงศักดิ์ศรีกันหน่อยไม่ได้หรือไง'

'น่า แกจะกลัวอะไร หากเห็นท่าไม่ดีก็ตีเข้าหว่างขาสักทีแล้วหนีมาก็ได้'

พูดง่ายเหลือเกินนะเพื่อนฉัน

'แกรู้ได้ยังไงว่าแผนนี้จะสำเร็จ'

'ไม่ได้รู้ว่ามันจะสำเร็จ แต่เพราะว่ามันจะต้องสำเร็จแน่ๆ หึ หึ หึ'

ไม่รู้ว่าวิตกจริตไปเองหรือเปล่า แต่เสียงหัวเราะผ่านลำคอของมันในตอนนั้นช่างฟังดูน่าสงสัยจริงๆ

"แกพร้อมดำเนินแผนต่อไปหรือยัง" อาจารย์สาวเปรี้ยวเพื่อนฉันสะกิดต่อมขึ้นมาอีกแล้ว

"เอา...ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ให้มันรู้กันไปว่าเรื่องแค่นี้ นางสาวอวิกาจะทำไม่ได้"

สร้างแรงฮึกเหิมให้ตัวเองก่อนพร้อมทำตัวยั่วยวนต่อไป



ซูเปอร์สแปลช เป็นเครื่องเล่นที่เราคัดสรรแล้วอย่างดีว่าต้องมีเซ็กซี่โชว์ น้องก้อยก็แสนจะน่ารัก อยากเล่นไปซะทุกอย่าง รวมไปถึงไอ้เครื่องเล่นที่ต่อแถวยาวจนหูตูบแต่เสียวแค่วูบเดียว แถมเล่นเสร็จก็เปียกมะล่อกมะแล่กกันไปหมดอีกต่างหาก

"นี่ไงๆ ที่แบบนั่งๆ ขอนไม้แล้วไหลลงน้ำน่ะ"

เหลือบเห็นยัยสุขำกิ๊กกับขอนไม้ของก้อย

"พี่ขอผ่านนะ" คุณแทนออกตัวทันที เพิ่งจะหายพะอืดพะอมมาหมาดๆ มาเจออะไรอย่างนี้อีกคงขยาดละซี

"โห่...พี่แทนน่ะ ไม่ใจเลย งั้น...เอาอย่างนี้ พี่แทนนั่งด้านหลัง ก้อยนั่งด้านหน้า แบบว่าด้านหลังมันน่าจะทรมานน้อยกว่าไง ดีไหม"

"ไม่ดีเลยสักอย่าง ให้พี่ยืนเอ็นจอยอยู่ข้างล่างดีที่สุด" พ่อรูปหล่อปฏิเสธน้องสาวอย่างไร้เยื่อใย

"โฮ้...พี่แทนนี่ มานี่หน่อย มา" น้องสาวทำท่าจิ๊กจั๊กขัดใจก่อนที่จะลากแขนล่ำๆ ของพี่ชายไปสั่งสอน เอ่อ...คงไม่ใช่ คงลากออกไปคุยอะไรสักอย่าง เห็นก้อยทำท่าสลักสำคัญนักหนา ส่วนคนพี่ก็เกาหัวแกรกอย่างยุ่งยากใจ เรื่องของพี่ๆ น้องๆ นี่ลูกโทนอย่างฉันเข้าไม่ถึงจริงๆ

พักเดียวเหมือนได้ข้อตกลงสนธิสัญญาที่ดูท่าว่าก้อยจะได้เปรียบ ขนาดอยู่ห่างๆ ยังได้ยินเสียงถอนหายใจของคุณแทนดังเข้าหูแว่วๆ ก่อนที่ก้อยจะเดินยิ้มเผล่กลับมา

"สรุปว่าพี่แทนจะขึ้นไปเล่นเป็นเพื่อนก้อย มีใครจะไปอีกมั่ง" คนบ้าพลังขอโหวตจากทีมใหญ่ที่ใจเริ่มเหี่ยว

"เอ่อ...อาจารย์ขอสังเกตการณ์อยู่ตรงนี้ดีกว่า นะ" ยัยสุตัดช่องน้อยแต่พอตัว

"พี่จะอยู่เป็นเพื่อน เอ้อ...ถ่ายรูปให้ข้างล่างนี่" อ้าว คุณพล...ทิ้งแฟนหนุ่มเฉยๆ อย่างนั้นนะเหรอ

"ฝนกับพี่เพชรล่ะ อย่าบอกนะว่าจะทิ้งโอกาสมันๆ กันหมดน่ะ"

"ฝนคงไม่ไหว ขอเอาใจช่วยอยู่ข้างล่างนะ" สาวน้อยยิ้มแหยๆ จะสุภาพอะไรปานนั้น เรียบร้อยยังกับคนพับผ้า

และแล้วอายส์คอนแทคก็ตรงมาที่ฉันในทันใด น้องก้อยจ้องรอคำตอบ นังสุจ้องเตือนตามแผน คุณแทนจ้องตาคมกริบ คุณพลจ้องตาไม่กระพริบ น้องฝนจ้องแบบมีนัย อะไรของพวกคุณกันเนี่ย

"พี่อยากเล่นค่ะ"

น้องก้อยดีใจแทบโดดที่มีเพื่อนเล่นมากกว่าคนที่บังคับได้ แต่ยังไม่ทันได้ตรงเข้ามาลากแขนฉัน ใครบางคนก็เดินมากันท่า

"ผมว่า คุณเพชรอย่าเล่นเลยครับ" คนพี่โผล่มาสกัดดาวรุ่งทันควัน

"อ้าว...ไหงงั้นเล่าพี่แทน"

"ก็...ผู้หญิงเล่นอาจไม่เหมาะ"

"แล้วก้อยไม่ใช่ผู้หญิงตรงไหน เกิดมาได้ตั้งยี่สิบปีเพิ่งรู้วันนี้ว่าไม่ใช่ผู้หญิง"

กวนดีไหมล่ะ คุณเธอ

"ไม่ใช่ มันไม่เหมือนกัน ก้อยใส่เสื้อหนาสีเข้ม แต่คุณเพชร..." เขาหยุดทิ้งประโยคไว้ดื้อๆ ให้ทุกคนหันมาดู 'คุณเพชร' ที่ว่ามันมีอะไรน่า 'แต่'

ก้มลงมองสภาพ 'แต่' ที่คุณแทนว่า ก็แค่เนื้อผ้าบางเบาสีขาวสะอาด ปาดคอกว้างไปนิด อีดนิดก็คงเลื่อนลงมาตกตรงหัวไหล่ แหม...ไม่เห็นจะเป็นยังไง ใครเขาก็ใส่กัน

"แต่เพชรทำไมหรือคะ" ตีหน้าซื่อเข้าถาม ดูซิ จะว่ายังไง

"แต่คุณเพชร อาจจะไม่อยากเปียกในชุดสวยๆ แบบนี้หรอกนะครับ"

ใครบอกล่ะคู้ณ...นี่น่ะ จุดประสงค์หลัก

"แหม...ก็ไม่ใช่ชุดสวยอะไรสักหน่อย เปียกได้ก็แห้งได้ ใช่ไหมคะ น้องก้อย" หาลูกคู่สิคะ

"ถูกต้องที่สุด พี่แทนก็อ้างไปเรื่อย อยากให้เหลือคนน้อยๆ ก้อยจะได้เปลี่ยนใจไม่ขึ้นใช่ม้า ไม่มีทาง" ก้อยปรี่เข้ามากอดแขนฉันแน่น มาแนวนี้แสดงว่าวิญญาณน้องสาวเอาแต่ใจเข้าสิงแล้ว

"ไม่ใช่อย่างนั้น แต่มัน..." คุณแทนทำท่าลำบากใจ อะไรนักหนา อยากพูดอะไรก็พูดออกมาสิคะคุณ

"ไม่ใช่ก็ดี ไปพี่เพชร ไปต่อแถวกัน" แล้วก้อยก็ลากฉันไปต่อคิวยาวเป็นหางว่าวโดยไม่ลืมชะเง้อเหลียวหลังมาเอิ้น

"พี่แทนก็รีบตามมาด้วย ดีกว่าปล่อยไปแค่น้องสาวกับพี่สาวคนสวยใช่ไหม"

บางทีก็เกิดละอายใจที่ใช้น้องก้อยเป็นเครื่องมือป่วนพี่ชาย ดูเอาเถอะ คุณแทนชักหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้ว



เกือบชั่วโมงผ่านไปในบรรยากาศแสนมาคุหลังจากผ่านเสียงกรี๊ดกร๊าดและความเปียกแฉะของน้ำที่สาดเข้าเนื้อตัวของเราทั้งสามคน คุณแทนเริ่มมองละม้ายคล้ายจะเป็นยักษ์วัดแถวปทุมฯ ขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอน ว่ามันต้องหลังจากที่เขาปะทะวาจากับฉันแบบลืมทำตามแผนไปชั่วขณะจิต

'ผมบอกคุณแล้วใช่ไหมว่ามันจะเปียกแบบนี้ ทำไมไม่ฟังกันบ้าง'

เขาบ่นออกมาทันทีที่เราทั้งหมดกลับลงมายืนสมทบกันด้านล่างท่ามกลางสายตาบรรดาชายหนุ่มและแม้แต่หญิงสาวที่พุ่งตรงมายัง 'เรา'

ฉันไม่ได้ใช้คำผิด องค์ประกอบในเราคือฉันกับเขา หนึ่งคือฉันที่ดันทะลึ่งเซ็กซี่ไม่มีกาลเทศะ เสื้อขาวเปียกน้ำนี่มันช่างสยิวกิ้วจริงๆ ขนาดว่าตั้งใจยังอดยกมือกอดอกไว้ไม่ได้ และสองคือคนที่เซ็กซี่ดูโครตดีแบบไม่ได้ตั้งใจ ให้ตาย...ผู้ชายตอนเปียกนี่มันเร้าใจได้ขนาดนี้เลยหรือไงกัน สภาพเหมือนโดนสาดน้ำของผู้ชายที่ปกติจะดูดีมีสกุลรุนชาติกลับดูหล่อเด็ดขาดในมาดเปียกปอน เหมือนความแมนจะเข้ามาครอบงำได้เต็มกำลัง ยิ่งทำหน้าเข้มๆ ดุๆ อย่างนี้ด้วยแล้ว แทบจำไม่ได้เลยว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นอย่างไร

'ยังทำเฉยอีก คุณฟังผมมั่งมั้ยเนี่ย' คุณแทนดุฉันปาวๆ โดยไม่สนน้องสาวที่ยืนเอ๋ออยู่ข้างๆ ค่าที่ตกใจในปฏิกิริยาของพี่ชายตัวเอง น้องก้อยกลับสงบเสงี่ยมเก็บปากเก็บคำผิดปกติ

'เฮ้อ...เพชรไม่ได้ทำเฉยเสียหน่อย' แค่ปล่อยอารมณ์เคลิบเคลิ้มเท่านั้นเอง

'อย่างไหนที่ว่าไม่เฉย ดูสิ...เสื้อเปียกบางเฉียบอย่างนี้ ดูได้ที่ไหน'

'เอ๊ะ...เพชรก็ไม่ได้ใช้ให้ดูนี่คะ' ใครว่า ตั้งใจให้คุณดูคนเดียวเลยต่างหาก

'ไม่ได้ตั้งใจให้ดูเขาก็ดูกันทั้งนั้น หรือคุณชอบที่เป็นจุดสนใจกัน'

'พี่แทน!'

น้องก้อยเรียกชื่อพี่ชายอย่างตกใจในคำพูดตำหนิอย่างชัดเจน และนั่นมันก็ทำให้ฉันเริ่มฉุนขึ้นมาตะหงิดๆ

'ชั้นไม่ได้อยากเป็นจุดสนใจ ทำไมต้องพูดถึงขนาดนี้'

ใช่ ทำไมต้องพูดกันถึงขนาดนี้ ในเมื่อคนที่ฉันต้องการให้สนใจมันก็แค่คุณคนเดียวเท่านั้น แต่นี่นอกจากคุณจะไม่ได้พิศวาสอะไรในตัวผู้หญิงอย่างฉันแล้วยังมาตั้งป้อมตำหนิกันอีก มันเกินไปไหม

'ถ้าไม่พูดอย่างนี้แล้วคุณจะเข้าใจไหม ทำไมไม่รู้จักคิด'

'ทำไมชั้นจะไม่คิด คิดแล้ว คุณต่างหาก ที่ไม่รู้จักคิด'

ไหนๆ ก็ไหนๆ จะเหลืออะไรดีอีกละฉัน ดื้อรั้น ยั่วสวาท ไร้สมอง มากันครบแล้วนี่

'แล้วผมจะต้องคิดอะไรให้มันมากมาย นี่เรื่องของตัวคุณเองแท้ๆ ผมไม่ได้มีอะไรเสียหายสักหน่อย'

'สะ เสียหาย! แล้วเรื่องแค่นี้มันมีอะไรเสียหายตรงไหน บอกให้ชั้นเข้าใจได้ไหมคะคุณแทน'

'ได้...ก็คุณน่ะ'

'พี่แทน...พอเถอะค่ะ อย่าไปว่าพี่เพชรเขา' น้องสาวเริ่มเข้ามาปรามพี่ชายในขณะที่คนอื่นๆ ยังคงอึ้งกับอาการประจำเดือนผิดปกติของเกย์หนุ่มรูปงาม

'เราก็อีกคน เอาแต่ใจเกินไปแล้ว พี่พูดอะไรก็ไม่เคยเชื่อ นี่พี่เป็นพี่นะ' หันไปเสียงเข้มใส่น้องสาวอีกคน เล่นเอาทางนั้นชะงักไปในทันควัน ฉันก็เพิ่งจะเคยเห็นเขาหัวเสียขนาดนี้

'คุณน่ะ ไม่ใช่คนโนเนมที่ใครๆ ก็ไม่รู้จักที่ไหน คุณเป็นลูกเต้าเหล่าใครทำไมจะไม่มีใครรู้ มาทำเนื้อตัวล่อแหลมไม่รู้จักระวังอย่างนี้ไม่กลัวเสียชื่อพ่อคุณบ้างหรือไง'

ด้วยวาจาตำหนิอย่างร้ายกาจของเขาทำให้ฉันชาไปทั้งหน้า รู้สึกเจ็บยิ่งกว่าโดนตบหน้าเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้น ฉันเกิดละอายขึ้นมาจริงๆ เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด แต่ที่น่าเจ็บใจที่สุดคือ เขาพูดถูก

'คุณแทนคะ หากคุณจะกรุณาให้เกียรติดิฉันและคุณพ่อของดิฉันมากกว่านี้ก็กรุณาหยุดกล่าวหากันสักที ก่อนที่ใครต่อใครจะมาสงสัยและเข้าใจอะไรผิดๆ ไปมากขึ้น'

นับหนึ่งถึงร้อยในใจและพยายามข่มอารมณ์ให้นิ่งที่สุด การดึงเอาคุณพ่อของฉันขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการหยุดทำตัวเหลวไหลใช้ได้ผลอย่างที่สุด รวมถึงทำให้รู้สึกผิดจนนึกถึงคำสอนของพ่อในการข่มโทสะ และโมหะใดๆ ไม่ให้มันกลับมาทำร้ายตัวเรา

คุณแทนหยุดท่าทีในทันควันเมื่อรู้ตัวว่าได้ใช้เสียงดังเกินเดซิเบลที่เหมาะที่ควร ประกอบกับมีสายตาหลายคู่นอกเหนือไปจากกลุ่มคนที่มาด้วยกันเริ่มเลียบๆ เคียงๆ สอดส่ายเข้ามาแล้วด้วย ฉันยังคงยืนนิ่งครุ่นคิดหาเหตุผลที่เขาเกิดองค์ลงขึ้นมาอย่างนี้ เกิดไม่พอใจอะไรหนักหนา หรือว่ากำลังรำคาญลูกหูลูกตากับชะนีอย่างฉันเต็มแก่กันแน่

'เฮ้ย...น่าๆ หิวอีกแล้ว หิวอีกแล้ว ไปนั่งหาอะไรเย็นๆ กินกันก่อนเถอะ นะ ไป ไป' คุณพลเดินเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ด้วยสิ่งที่จรรโลงใจมนุษย์เป็นที่สุดคือ เรื่องกิน



และมันก็เป็นที่มาของบรรยากาศมาคุตลอดระยะเวลาการนั่งดูดน้ำผลไม้รสฝาดเฝื่อนรวมกันของมนุษย์หกคนที่พยายามทำตัวร่าเริงสนุกสนานปล่อยมุกกันเกินความจำเป็น และนั่นก็ยังดูเหมือนจะมีคนปลีกวิเวกไร้ส่วนร่วมในกลุ่มไปสอง ไม่เถียงว่าหนึ่งในนั้นเป็นฉัน อีกคน...คงไม่ต้องเอ่ยถึง

"บ้านผีสิง อย่างสุดท้ายที่ยังไม่ได้เข้าแล้วก้อยอยากจะขอ...ให้ทุกคนเข้าไปกันเยอะๆ ได้อุ่นใจ แล้วหลังจากนั้นเราก็กลับบ้านกันได้แล้ว เย็นแล้วด้วย นะคะทุกคน" ขอร้องด้วยสายตาเว้าวอนน่าใจอ่อนจริงๆ ขนาดขุ่นๆ ยังรู้สึกไหววูบ

"เอาสิ เนอะ...แทน ไปเนอะ คุณเพชร นะครับ" ทำไมต้องเน้นมาที่ฉันกับคุณชายเชิดสะบัดสะบิ้งที่ชื่อว่าแทนธรรม์ด้วย อยากเข้าก็ไปสวีทกรี๊ดกร๊าดกันสองคนสิ อย่ามายุ่งกับฉัน น้องก้อยอ้อนได้ แต่ผู้ชายอย่างนายฉันไม่สนย่ะ ชิ

"เพชร เอานะ แค่เข้าไปเดินเล่นๆ น่า จิตแข็งอยู่แล้วนี่ ไม่ใช่เหรอ หนุกๆ น่า" ยัยสุยุฉันมั่ง ทำไม จะให้ไปยั่วอะไรเขาในบ้านผี เดี๋ยวก็โดนด่าอีกหรอกว่าไม่อายผีสางมันบ้าง

"ใครไม่เข้าไปถือว่าใจมด!" จู่ๆ ก้อยก็ลุกขึ้นพรวด ประกาศกร้าว

"คนตัวใหญ่ๆ ที่ไหนจะใจมดไม่รู้ แต่พี่จะเข้า" ฉันลุกขึ้นมั่งและพูดเป็นประโยคแรกหลังจากนั่งเก็บกดมานาน พยายามพูดกระทบกระเทียบพวกหนังหน้าไม่รับแขกแถวนี้

"งั้นพี่ก็จะเข้าเหมือนกันก้อย ไม่อยากให้ใครมาหาว่าใจมด" ไอ้คนตัวใหญ่ที่ฉันพูดประชดใส่ก็ลุกขึ้นเต็มความสูงมั่ง หนอย เบ่งว่าตัวสูงกว่า เออสิ อย่ามาทำหลุดแต๋วแตกให้เห็นเชียว แม่จะแฉกลางสวนสนุกเนี่ย มาด่าฉันนัก ว่าทำตัวไม่เหมาะสม เดี๋ยวจะทำให้หลุดตำแหน่งชายเซ็กซี่ในฝันเลยคอยดู

"เพชร แกคิดอะไรอยู่" นังสุเดินตามมารั้งฉันไว้ในตอนที่ทุกคนได้ข้อสรุปว่าจะพากันเฮโลเข้าบ้านผีสิงหมดทั้งเหล่า

"ไม่ได้คิดอะไรเลย" ฉันลอยหน้าลอยตาตอบ

"แกอย่ามาโกหก ชั้นเห็นแววตาแกนะยะ นี่ทะเลาะกันแล้วอย่าพาลทำผิดแผนเชียวแก ลงทุนมาไม่น้อยแล้ว"

แน่ะ ดันรู้ทันฉันอีก

"พอเถอะแผนแกน่ะ นอกจากเขาจะไม่ตกหลุมแล้วจะยิ่งพาลเกลียดชั้นเข้าไปอีก และชั้นเองก็ชักหมั่นไส้เขาเต็มทีแล้ว ให้มันรู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป"

"นั่น ว่าแล้ว อีโก้บังเกิด ทีคืนนั้นละทำมาเป็นเพ้อรำพึงรำพัน ทำไมเปลี่ยนใจง่ายอย่างนี้ โลเลนี่"

"แกลองมาหลงเสน่ห์เกย์ดูมั่งไหมล่ะ ว่ามันน่าชื่นมื่นใจแค่ไหน รีบๆ ตัดความรู้สึกไปตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่า ไม่อยากถูกมองในแง่ร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว" ตามนั้น มันจะไปมีประโยชน์อะไรหากใจเขาไม่สนผู้หญิง ยิ่งดันทุรังยิ่งไม่เป็นผลดีกับตัวเองเลย

"เฮ้ย...อย่าคิดอย่างนั้นเชียว แกจะตัดใจไม่ได้นะ" โวยวายขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทำไมมันต้องจริงจังกับเรื่องของชั้นนัก

"ทำไมจะไม่ได้ ชั้นรักศักดิ์ศรีที่อาจจะยังพอมีอยู่ย่ะ ถูกเขาด่ามามันก็น่าอยู่หรอก ไม่ต้องมายุแยงตะแคงมองชั้นแล้ว ดิเอนด์"

"เพชร..." ลากชื่อฉันซะยาวเชียวแก "แกต้องฟังชั้นนะ"

มันเป็นยังไงนะวันนี้ มีแต่คนสั่งให้ฉันฟัง ฉันเถียงใครหรือยังหา

"เอาละ แกไม่พอใจแผนนี้ก็ได้ เดี๋ยวชั้นหาแผนใหม่ให้ แต่แกห้ามตัดใจเด็ดขาด นี่คือคำสั่งจากเพื่อนสนิทของแก ถ้าไม่พอจะขอให้ลูกชุบมาช่วยพูดด้วย"

เอะอะก็อ้างนังชุบ มีหรือมันจะช่วยพูด แค่มันรู้ว่าฉันเล่นอะไรก็น่ากลัวจะไล่ด่าเปิงกันแล้ว คนเถรตรงติสท์แตกอย่างมันมีหรือจะยอม อีกอย่าง คนมีสามีแล้วจะมาสนใจอะไรเพื่อนโสดๆ อย่างฉัน

"จะตัดใจหรือไม่มันก็เรื่องของชั้น ถ้ามันลำบากนักก็จะรับหมั้นคุณปวริศขวัญใจแม่ชั้นไปให้รู้แล้วรู้รอด จบเรื่องกันไป ได้ไม่ต้องฟุ้งซ่านอีก" พูดประชดชีวิตไปอย่างนั้นแหล่ะค่ะ เรื่องอะไรจะหาใบไผ่มาพันตัวให้ระคายผิว คันคะเยอน่ะสิ

"ห้ามเด็ดขาด จำไว้!"

รีบพูดตบท้ายแล้วรุนหลังฉันไปเข้ากลุ่มที่เดินนำลิ่วๆ ไปไกลแล้ว นี่หากบอกว่ามันได้รับค่าจ้างงามๆ จากใครให้ทำอย่างนี้ฉันว่ามันก็น่าเชื่อ ดูลงทุนลงสมองเหลือเกิน ทุกทีไม่เห็นกระตือรือร้นทำอะไรให้ชาวบ้านอย่างนี้สักที



บ้านผีสิงที่ว่าไม่เห็นจะดูน่ากลัวตรงไหน ทีตอนฉันไปช่วยงานมูลนิธิฯ บางที่ยังมีบรรยากาศหลอนกว่านี้เยอะ พวกเราลำเลียงยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่ของบ้านผีสิงที่ยืนไซโคคนนั้นคนนี้ไปเรื่อยเปื่อย น้องก้อยดูทำท่ากระปรี้กระเปร่า น้องฝนดูหลอนเล็กๆ นอกนั้นทำท่าเหมือนเดินผ่านโรงพยาบาล ไร้ซึ่งอาการใดๆ

"ขะ ข้างในจะมืดมากไหมนี่"

ยังไม่ทันย่างเข้าไปก็ได้ยินเสียงน้องฝนสะดุดแปลกๆ อย่าบอกนะว่ากลัว แหม...ละอ่อนนี่ช่างบริสุทธิ์ สดใสจริงๆ

"ไม่หรอกน่า หนุกๆ โฮ้...กรี๊ดกร๊าดเอาสะใจน่า" ก้อยเพิ่มความฮึกเหิมโดยเอามันเข้าข่ม และยังคงได้ยินเสียงหงุงหงิงโต้ตอบระหว่างสองสาวน้อยไปเรื่อยๆ ที่เกาะกลุ่มเดินตามๆ กัน แน่นอนว่าต้องปิดท้ายด้วยกระทาชายสองนายตามหลัง ได้ยินแต่เสียงทุ้มๆ ของใครงึมงำคุยกันอยู่เบาๆ จับความไม่ได้ อย่าให้รู้นะว่านินทาผู้หญิงแท้ๆ ที่เดินกันอยู่ข้างหน้าน่ะ เดี๋ยวมีเฮ

เดินเข้าไปเจอตัวอะไรเขย่าๆ กรง อะไรห้อยระโยงรยางค์แล้วก็เริ่มขำ เสียงกรี้ดกร้าดวี้ดว้ายที่ดังก้องสะท้อนไปมาในบ้านผีสิงนี้คงมาจากอาการตามน้ำมากกว่ากลัวจริง เพราะมันน่ารักมากกว่าน่าขำเสียอีก ฉันกับสุภาเดินอยู่ใกล้ๆ ให้ไหล่ติดกันเพื่อไม่ให้เกิดการหลงกันในความมืดเท่านั้น อันที่จริงแสงสลัวๆ ก็พอช่วยให้เดาได้ว่าใครเป็นใคร

พอเดินมาได้ถึงส่วนหนึ่งที่เป็นทางเลี้ยวมุมผนังบังทาง ยัยสุก็เดินเลยฉันไปหน่อยแล้ว ส่วนสองสาวน้อยนั่นไม่ต้องพูดถึง พากันวิ่งไปไหนก่อนแล้วตั้งไกล รู้สึกว่าก้อยจะอาศัยความกลัวของเพื่อนเป็นตัวบิวท์อารมณ์สนุกสนาน หรือพูดอีกอย่างว่าเป็นพวกลูกอีช่างแกล้ง มีความสุขบนความทุกข์ผู้อื่นนั่นเอง

เมื่อรู้สึกว่าใครคนหนึ่งทางด้านหลังกำลังจะเดินแซงหน้าฉันไป แสงไฟสลัวก็ดับพรึ่บ

เสียงวี้ดว้ายดังขึ้นมากกว่าเดิมเสียอีก เอาล่ะสิ นี่มุกใหม่ของบ้านผีสิงที่นี่หรือเปล่า จะอย่างไรก็แล้วแต่ การเดินเป็นตาบอดคลำช้างต่อไปในนี้ดูท่าจะไม่ดีแน่ๆ ฉันยืนนิ่งอยู่กับที่ ค่อยๆ วาดมือไปรอบๆ เผื่อจะเจอใครบ้าง

"สุ...ยัยสุ อยู่แถวนี้หรือเปล่า"

เงียบ ไร้การตอบรับ และเสียงวี้ดว้ายเริ่มซาลงกลายเป็นเสียงจ้อกแจ้กมาจากไกลๆ

"เอ่อ...คุณพล คุณแทน อยู่แถวนี้ไหมคะ" กลั้นใจเรียกอีกสองชื่อที่น่าจะอยู่ไม่ไกล

"คุณเพชรครับ" เสียงทุ้มดังขึ้นใกล้ๆ หูพร้อมกับมืออุ่นๆ วางลงบนไหล่ของฉันทั้งสองข้าง และด้วยอุณหภูมิของร่างกายมนุษย์ที่แผ่เข้ามาใกล้ทำให้รู้ว่าเขายืนซ้อนอยู่เบื้องหลังฉันนี่เอง

"คุณแทน" ชื่อของคนคนนั้นหลุดจากปากฉันไปเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย

ความเงียบชั่วอึดใจที่ทั้งฉันและเขาก่อมันยิ่งกลับทำให้อึดอัดใจมากกว่าเดิม ไม่คุยก็ยังไงอยู่ จะคุยก็ดูเหมือนยอมดีด้วยแล้ว จะทำเหมือนไม่มีเขาอยู่ก็ไม่ได้ในเมื่อมือเขาก็ยังอยู่ที่เดิม

"ผมจำกลิ่นคุณได้"

เขาพูดขึ้นมาก่อน จำกลิ่นได้ นี่หมายความว่าฉันเหม็นหรือไง

"เอ่อ...ผมหมายถึง กลิ่นหอมๆ เย็นๆ ที่ผมเคยบอกว่า...ชอบ น่ะครับ"

อ๋อ กลิ่นปริกลี่ฮีท แล้วทำไมต้องใช้น้ำเสียงนุ่มชวนเคลิ้มขนาดนั้น

"ไม่นึกว่ากลิ่นแป้งยังติดอยู่ เปียกมาขนาดนั้น"

ป๊ะ...ฉันดันเผลอไปพูดถึงชนวนศึกเสียนี่ กำลังจะดีแล้วเชียว เขาเลยเงียบไปอีก

"ผมขอโทษนะ"

หือ...ว่าไงนะ

"ผมขอโทษที่ทำโมโหใส่คุณ ไม่ได้ตั้งใจจะว่าคุณไม่ดีแบบนั้น" เสียงของเขาเบาทุ้มต่ำแต่ย้ำชัดอยู่ข้างหูฉัน

ฉันยังคงเงียบ รอเขาพูดต่อไป เชื่อว่าไม่ใช่แค่นั้นที่เขาต้องการจะพูด

"แค่ไม่อยากให้ใครมองคุณอย่างนั้น"

"คะ?" สำเนียงเสียงพูดหลุดออกไปจากไขสันหลังไม่ทันได้ผ่านสมอง

"หมายถึง ไม่อยากให้ใครเขามามองคนที่มาด้วยกันอย่างนั้นนะครับ คือ คนอื่นๆ คิดจะจ้องคุณด้วยสายตาอย่างนั้นมันกระทบถึงคนที่มาด้วย"

"เพชร...ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ" ค่อยๆ พูดช้าๆ พยายามคิดตาม แต่เขาพูดอะไรหว่า

"คือ...ว้า สรุปว่าผมไม่อยากให้ใครมองคุณก็พอ"

ไม่เข้าใจหนักกว่าเดิมอีก พูดยังกับ...หวง...ฮื้อ ไม่ใช่แล้ว

"ขออนุญาตนะครับ เดี๋ยวหลง" มืออุ่นที่วางบนไหล่เลื่อนลงไปจับจูงที่มือข้างหนึ่งของฉันแทนอย่างมึนๆ คือหมายถึง ฉันนี่แหล่ะที่มึนๆ ไม่เข้าใจในคำพูด ไม่เข้าใจในการกระทำของเขาเลยจริงๆ หรือช่วงระดูผ่านไปแล้ว

เพียงอึดใจเดียว ไฟสลัวกับเสียงคอมเพรสเซอร์แอร์ก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม นั่นทำให้ฉันเข้าใจว่าที่เมื่อสักครู่นี้หายใจได้ไม่ทั่วท้องก็เพราะอากาศหายใจไม่พอนี่เอง ระบบระบายอากาศมันหยุดชั่วครู่ ถ่ายเทไม่สะดวกก็งี้ ว่าแต่...ทำไมยังไม่ปล่อยมือฉันอีก

"เอ่อ...คุณแทนคะ ไฟมาแล้วค่ะ" บอกหน่อย เผื่อลืม

"ครับ เห็นแล้ว งั้นเราก็ออกไปกันดีกว่ามั๊ย ไม่รู้สี่คนนั้นหายไปไหนแล้ว" ว่าแล้วก็จูงมือฉันพาเดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่คุณแทนจะรู้ไหมว่าอะไรมันเกิดขึ้นในใจฉันอีกครั้ง ไอ้ที่คิดจะตัดใจ จะไม่สนเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานั้นมันหายไปไหนหมดไม่รู้ ฉันเสร็จเขาตั้งแต่ผมขอโทษนั่นแล้วด้วยซ้ำ โธ่...ชาติก่อนไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้ชาตินี้ถึงต้องมาชดใช้อย่างนี้

การเข้าบ้านผีสิงอาจช่วยให้เกิดรายการโจรกลับใจ เกย์กลับตัวก็เป็นได้ เพราะขนาดว่าออกมาถึงตรงนี้ ที่จุดที่บรรดาเพื่อนและน้องรออยู่ เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือฉัน นี่ขนาดว่าติดด่านเจ้าหน้าที่สวนสนุกที่มายืนรอแจกท๊อฟฟี่กับลูกโป่งตรงทางออกเป็นการขออภัยลูกค้าอยู่นานสองนานแล้วแท้ๆ (แล้วทำไมฉันถึงยอมให้เขาจูงมืออยู่อย่างนี้ไม่สะบัดออกเสียทีเล่า)

"หือ..." คู่รักหนุ่มทำตาโตมองมายังจุดเกิดเหตุ สลับกับมองหน้าคุณแทนพร้อมครางในลำคอ เอาล่ะสิ จะมีตบล้างน้ำกันบ้างไหมนี่

"อ๊ะ..." เป็นเวลาเดียวกันกับที่ยัยสุหันมาเห็นเราสองคนและอุทานออกมาคำเดียว

ส่วนน้องก้อยยิ้มกรุ้มกริ่มท่าทางประหลาด แต่น้องฝนทำหน้าเหมือนตกใจมากกว่าประหลาดใจ เอาเถอะ...ตอนนี้ชักเริ่มกระอักกระอ่วนใจ ไม่รู้จะคิดหาเหตุผลไปทำไมให้เสียเวลา

"ต้องคอยจูงไว้ไม่งั้นเดี๋ยวคุณเพชรจะหลงทาง พลก็ร้ายมากๆ เลยนะ นายน่ะ ทำไมไม่อยู่รอพากันออกมาด้วย หนีออกมาก่อนได้นะ"

สวรรค์ล่มค่ะท่านผู้ชม ปล่อยให้ไก่ในใจแตกออกจากเล้าได้ไม่เท่าไรก็ปล่อยไก่เพศผู้มากกไข่ดักทางเสียแล้ว ปัดโธ่... เขายกมือตัวเองที่ดันมีมือฉันติดอยู่ด้วยขึ้นโชว์หราเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาเสียเหลือเกินพร้อมคำอธิบายขยายความให้แฟนหนุ่มเข้าใจ ก่อนจะปล่อยมือฉันไปอย่างไม่ไยดี เท่านั้นยังไม่เจ็บใจพอยังมาอ้อล้อต่อหน้าประชาชีอีก

ชิชะ...ทำให้ฉันหลงเพ้องั้นเหรอ

"สุ..." ฉันรีบเบียดตัวเข้ากระซิบใส่หูเพื่อนร่วมอุดมการณ์ต้านเกย์หล่อ

"กลับถึงบ้านปั๊บเรารีบหาแผนสองด่วน อะไรที่มันไม่เสียถึงพ่อชั้นขอเล่นด้วย!"


***********************************************
Stupid Cupid - The Queen


<จบตอน 10 จ้า>


กลับมาแย้วววว...


หลังจากหายไปอีกหลายวันก็ได้เวลากลับมาเสียที อารมณ์นี่กว่าจะมาก็ยากเนอะ

คนเขียนเริ่มเอียนความหวานแล้วอะค่ะ กะว่าเดี๋ยวครึ่งหลังของเรื่องจะเขียนให้รันทดโอชินเลย เอาเศร้าๆ เลยดีไหม นะ หรือไม่ก็โหดๆ เหี้ยมๆ ฮาร์ดคอร์

เออเนอะ! เข้าท่า (ดูเหมือนคนเขียนมันจะบ้าไปแล้ว)


ช่วงนี้งานเครียดมากๆ ค่ะ ฮือ


ไว้เจอกันงวดหน้า บุญรักษานะคะ




Create Date : 09 กรกฎาคม 2551
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2552 2:31:22 น. 10 comments
Counter : 346 Pageviews.

 


โดย: redclick วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:57:59 น.  

 
คนอ่านก็บ้านะ บ้าอยากอ่านหนะ รอ..น้า......


โดย: 2in1 IP: 124.121.150.132 วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:6:19:46 น.  

 
มาขอบคุณค่ะ

คุณ redclick: ยิ้มถูกใจหรือยิ้มเยาะคะนี่

คุณ 2in1: แหมๆๆ งั้นเรามาจูงมือกันเข้าโรง'บาลบ้ากันเนอะ


โดย: BestChild วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:7:50:33 น.  

 
ไม่เอาเศร้าค่ะ ขอขำๆได้ไหมคะ


โดย: บู้บี้ IP: 133.82.251.202 วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:18:32 น.  

 
คุณ บู้บี้: เอาขำๆ งั้นเดี๋ยวเบสต์ไปสมัครงานพิเศษตลกคาเฟ่ดีกว่านะ



โดย: BestChild วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:20:21 น.  

 
อยู่คาเฟ่ไหนอย่าลืมบอกบู้บี้นะคะ จะตามไปดูค่ะ อิอิ ^_______^


โดย: บู้บี้ IP: 133.82.251.202 วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:15:48 น.  

 
นับวันรอ
ตอนต่อไป...


โดย: ชญาลี วันที่: 12 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:43:35 น.  

 


โดย: BestChild วันที่: 12 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:45:12 น.  

 
เพลงนี้ไม่ได้ฟังนานแล้ว อยากเต้นระบำ อิอิ

ตกลงใครมีแผนกันบ้างนี่ เริ่มขำปวดท้อง

น้องก้อยรายนี่ก็แสบไม่เบา 55555
จอมวางแผน


จมูกคุณแทนก็ดีเลิศ
คุณเพชรหนอยังคิดอยู่ได้ว่าเป็นเกย์ เฮ้อออ
ว่าไปถ้าคุณเพชรโดนตบล้างน้ำขึ้นมาจริง ๆ คงเมามันยิ่งกว่านี้ อิอิ


โดย: พรายทราย วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:39:15 น.  

 
แปะไว้ก่อนน่ะค่ะ
พุ่งนี้ตามอ่านใหม่
(พ่อ..มา T_T)

สนุกมากๆ ค่ะ

ปล. ตอนหน้าจะแนวไหนน่า...โหดๆ? อิอิ


โดย: RuNz วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:3:45:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BestChild
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ไม่ใช่คนเลว แต่ไม่ใช่คนดี
ไม่ใช่คนมีน้ำใจ แต่ไม่ได้เห็นแก่ตัว
ไม่ใช่คนใจร้าย แต่ไม่ใช่ผู้หญิงใจดี
ไม่ได้ต่อต้านใคร แต่ไม่ใช่คนยอมคน
รับรู้ในตัวตน และไม่สนใครจะว่าอย่างไร
รู้จักให้อภัย แต่ไม่ใช่ไม่รู้จักแค้น
เป็นผู้หญิงแท้ที่ชอบโชว์แมน แต่ความจริงแสนจะอ่อนโยน O_o!!!


~ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ~


"...มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่เรียนรู้จากความผิดพลาด ไม่มีใครเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกต้องเสมอไปในโลกใบนี้ หากจะมีก็ให้ไอ้คนนั้นมันไปเป็นเทวดาเสีย อย่ามาเป็นคนให้เสียชาติเกิดกันเลย"

โรม / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ







"คนที่บอกว่าคุณไม่สวยคือคนที่ไม่ได้มองคุณรู้ไหม ถ้าหากเพียงมองคุณดีๆ รู้จักมองให้ถึงความเป็นตัวคุณแล้วก็จะรู้ว่าคุณน่ะสวย..."

ยอด / ผมก็เป็นพระเอกคนหนึ่ง







จิ๊กซอว์ที่ต่อกันได้พอดีทั้งสองฝ่ายมันไม่ใช่สิ่งที่จะซื้อหาง่ายๆ เมื่อได้มันมาแล้วต้องรักษามันไว้ให้ดี อย่าทิ้งขว้างเหมือนเป็นสิ่งที่หมดค่า เพราะรู้ไหม ว่าหากแกปล่อยมันหลุดมือไปแล้วความสูญเสียจะเทียบไม่ได้กับอะไรทั้งนั้น"

อวิกา / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ






"...ไอ้ผู้ชายมาดแต๋วที่พี่ก่นด่านักหนาตรงหน้านี่นะ...เท่าที่รู้จักมา บอกได้คำเดียว...โคตรแมนเลยเว้ยค่ะ"

นงนุช / แมน







คุณค่าที่ว่า ความรู้สึกในทุกๆ ใบหน้าของคนในรูปคือ 'ความสุข' ไม่เห็นจะต้องมีองค์ประกอบเป็นฉากสวยงาม

ลูกชุบ / สาวติสท์แตกกับหนุ่มไฮเปอร์







"...คุณกับผมอาจดูต่างกัน คุณเชื่องช้า ผมว่องไว คุณใจเย็น ผมใจร้อน คุณชอบจดจ้องและลากเส้น แต่ผมชอบมองผ่านเลนส์และกดชัตเตอร์ แต่รู้มั๊ยในจุดประสงค์ของทั้งหมดมันคือสิ่งเดียวกัน..."

นที / สาวติสท์แตกกับหนุ่มไฮเปอร์







"มันเป็นแค่ความทรงจำ จะดีหรือร้าย เราไม่สามารถลบมันออกไปได้ เก็บมันไว้ในอดีตและเดินต่อไปยังอนาคตข้างหน้า ปล่อยให้ความทรงจำเป็นเพียงแค่ความทรงจำ"

Matsumura Ryo / Hiroshima eki สถานีแห่งความทรงจำ








"...บางทีสิ่งที่แกเห็นมันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ เหรียญยังมีสองด้านได้เลยแก ประสาอะไรกับใจมนุษย์เล่า มันขึ้นอยู่กับว่าแกเลือกที่จะรับมันทุกด้านหรือเปล่า หากแกเลือกที่จะรับไว้เพียงด้านเดียวแล้วทุกข์ไปตลอดชีวิตน่ะมันคุ้มกันไหม..."

ลูกชุบ / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ









เฮ้อ... ผู้ชาย ไม่มีไม่ตาย แต่อยากได้สักคนแฮะ

"ฉัน"/ ท้องฟ้า หาดทราย สายลม ผมกระเจิง




ฝากคำทักทายไว้ด้วยจิ...รักตายเลย




ShoutMix chat widget




BestChild ในคอลัมน์นักเขียนรับเชิญ ลายปากกา 2009

BestChild ในคอลัมน์ "ลายรัก" ลายปากกา 2010




Friends' blogs
[Add BestChild's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.