Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
2 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ ตอนที่ 13 <เพราะใจผมเต็มร้อย>



เพชรมาเพราะอยากเห็นหน้าคุณ...อืม

เพชรมาเพราะอยากเห็นหน้าคุณ...อึ้ม

"เพชรมาเพราะอยากเห็นหน้าคุณ" อะ เหวย ทำไมเสียงหวานๆ ของคุณเพชรคนสวยของผม (ของผม?) มันถึงกลายเป็นเสียงแหบห้าวดีดดิ้นเหมือนควายตัวเมียครางแบบนั้น

"โลกเรียกแทนธรรม์ โลกเรียกแทนธรรม์ กลับสู่พื้นโลกด่วน ย้ำกลับสู่พื้นโลกด่วน" มันคือคุณไอ้พลที่ยืนถือโทรโข่งม้วนกระดาษกรอกเสียงตัวเองเข้าหูผม ให้ตาย ไอ้นี่ มันเข้ามาตอนไหนทำไมไม่ยักรู้ตัว

"อะแฮ่ม!" กระแอมทำไมฟะเรา "คุณพลมีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ" พูดพลางกลัดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อยและเดินกลับไปประจำตำแหน่งที่โต๊ะทำงาน ไม่ลืมคว้าเสื้อนอกเนคไทติดมือมาด้วย ทำหน้านิ่งๆ วางเสื้อไว้แถวนี้ก่อน เดี๋ยวมีพิรุธ

"ผมไม่มีอะไรกับหัวหน้าหรอกคร้าบ แต่ดูเหมือนว่าคนที่มีอะไรๆ กับหัวหน้าจะเพิ่งเดินเป็นตู้ไปรษณีย์ออกไปเมื่อกี๊มากกว่า"

"ไม่มีแล้วมาทำไม ผมจ้างคุณมาทำงานไม่ได้จ้างมาระรานเจ้านายนะครับ" ทุเรศน้ำเสียงตัวเองจริงๆ ตั้งใจให้คมเข้มบาดคอหอยมันแต่ว่าดันฟังกรุ้มกริ่มพิกล อืม...ตู้ไปรษณีย์สีแดงงั้นเหรอ เธอคงเขิน หึ หึ

"พอดีมีพรายกระซิบให้มาเฝ้าสถานการณ์ล่อแหลมว่ะครับ"

พรายกระซิบคงไม่ใช่ใครนอกจากเลขาที่น่ารักของผม แต่ก็จริงอย่างที่มันว่า สถานการณ์ล่อแหลม นี่ถ้าคุณเพชรไม่ชิ่งหนีออกไปเสียก่อนผมอาจได้ใช้สถานที่ทำงานผิดจุดประสงค์ แถมยังมาวางระเบิดน้ำเชื่อมทิ้งไว้ให้ไอ้พลที่มายืนแอบฟังอยู่ตรงหน้าประตูได้ยินอีก แหม...มันน่า น่ารักจริงๆ

"คุณชลแกเห็นบอสตัวเองรับแขกสาวสวยเข้าไปได้ก็ปิดประตูเงียบกริบไปนานสองนาน ใจคอแกเลยไม่ดีกลัวมีเรื่องอันตรายต่อประวัติอาชญากรรมเจ้านายเข้า เลยโทรเรียกกูมาช่วยกู้สถานการณ์ก่อนที่เจ้านายจะถูกจับเข้าตะรางข้อหาเจตนาลวนลามสาว"

"ลวนลามอะไรที่ไหน กูไม่ใช่พระเอกละครตอนค่ำนะเว้ย" ผมรีบโวยวายกลบเกลื่อน

"แล้วทำไมเสื้อผ้าหลุดลุ่ย นี่สถานที่ทำงานนะครับไม่ใช่โรงแรมม่านรูด ให้เกียรติสถานที่ด้วย" มันรู้ทันอีกแล้วสิ บ้าเอ๊ย ใครจะไปคิดว่าเป็นม่านรูด อย่างผมต้องห้องสวีทโรงแรมชั้นหนึ่งต่างหาก

"ก็กูร้อน แอร์มันไม่เย็น สงสัยต้องให้คุณชลตามทางซ่อมบำรุงมาดูหน่อยแล้ว" ขอโทษนะครับแผนกซ่อมบำรุงที่ต้องโบ้ยความผิดไปให้รับเต็มๆ ผมมั่วนิ่มเองครับ

"เออ...ให้ดีตามแม่บ้านให้เอาน้ำแข็งแช่น้ำมาให้มึงวักลูบหน้าด้วย อะไรที่มันร้อนๆ ได้ลดลงมั่ง เก็บกดมากไปเปล่าครับคุณแทน สนใจให้ผมพาไปปลดปล่อยไหม?" มันปรี่เข้ามาทำตาเป็นประกายใกล้ๆ ตอนประโยคข้อเสนอสุดท้าย

"พูดจาระวังหน่อย คนอย่างกูไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น มึงก็เถอะ สักวันเอดส์จะถามหา" ต้องด่าให้รู้สำนึกกันมั่ง คนรักครอบครัวอย่างผมต้องดีมีความสุภาพในเพศบุรุษทุกกระเบียดนิ้ว ถึงแม้อันที่จริงจะเก็บกดอย่างมันว่า แต่เอาน่า ผมมีวิธีของตัวเองแล้วกัน

"แหม่ พูดเล่นน่า กูเลิกแล้วเว้ยตั้งแต่เจอคุณสุ พอคิดจะไปก็มีหน้าเธอลอยมาละลายพฤติกรรมทุกที" แล้วไอ้คนเคยชั่วมันก็ทำหน้าเคลิ้มฝันให้คนมองให้รู้สึกอนาถใจในความเป็นไปได้ของมัน

"ว่าแต่...มึงว่า คุณเพชรเขาเริ่มคิดอะไรกับกูแล้วใช่ไหมวะ" นึกถึงสีหน้าตื่นเต้นตอนโดนผมพยายามล่อลวงกับคำพูดสุดท้ายแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ เสียดายชะมัด

"มีความเป็นไปได้ 95% ว่าคุณเพชรกำลังตกที่นั่งลำบากเพราะดันมาหลงเสน่ห์เกย์หนุ่มเข้าให้"

ได้ยินมันพูดแล้วสะอึก รอยชนักปักหลังมันเริ่มระบมเมื่อรู้ว่าใกล้ถึงเวลาดึงมันออก

"แล้วจะทำไงล่ะทีนี้" ไม่รู้ว่าถามมันจะได้อะไรไหมนะ

"ไม่รู้ว่ะ" เออ ขอบใจนะ "อันนี้สงสัยเห็นทีต้องพึ่งน้องมึงแล้วล่ะ ขอให้โชคดีมีเมียกวนตัวกวนใจไวๆ นะ"

"..."

"พอใจแล้ว ไปละ" แล้วมันก็เดินออกไปเฉยๆ นี่มันตั้งใจมาแค่ดูหน้าผมจริงๆ รึไงกัน



ผมยังนั่งเป็นไอ้บ้าอย่างเต็มใจอยู่สักระยะหลังจากที่กลับมาอยู่ในชุดเต็มยศอีกครั้งโดยไม่ต้องพึ่งช่างซ่อมบำรุง (แอร์เย็นตายชัก มาซ่อมเซิ่มอะไรอีก) ที่บอกว่าบ้ามันก็น่าอยู่ไหม นั่งยิ้มไปหัวเราะไปอยู่คนเดียว รู้ตัวอยู่แต่มันอดไม่ได้ ก็หัวใจมันพองโตนี่ครับ 'เพชรมาเพราะอยากเห็นหน้าคุณ' แค่นึกถึงใจก็จะละลายกลายเป็นของไหลอยู่แล้ว เวลาที่รู้สึกดีกับใครแล้วได้รับความรู้สึกแบบเดียวกันตอบกลับมามันดีอย่างนี้นี่เอง

ขนาดว่าคุณเลขามานั่งอยู่ทนโท่รอจดแผนงานประชุมใหญ่ประจำปีจากผม เจ้านายเธอก็ยังนั่งยิ้มอยู่ บ้าไปแล้วจริงๆ นะผมนี่

"มีอะไรดีๆ ขนาดนั้นเลยหรือคะคุณแทน ดูหน้าตาท่าทางมีความสุขผิดปกตินะคะ" คุณชลคงอดไม่ไหวจริงๆ ถึงได้เอ่ยถามออกมา

"วันนี้อากาศสดใส ผมก็ต้องสบายใจเป็นธรรมดา"

เปรี้ยง! ซ่า...

เสียงฟ้าร้องสะเทือนเข้ามาทันทีหลังผมพูดจบต่อด้วยเสียงเม็ดฝนกระทบผนังอีกระลอกใหญ่ หลังจากคุณชลสะดุ้งตกใจก็หันมามองหน้าผมขำๆ

"ดิฉันก็เพิ่งรู้นะคะบอส ว่าบอสเรียกพายุฝนแบบนี้ว่าสดใส"

"อ่า เท่าที่บอกนะครับ ทำให้มั่นใจว่าระดับบริหารและหุ้นส่วนทุกคนจะมาเข้าประชุมกันตรงเวลาด้วย" อึกอักกับความเป๋อของตัวเองแล้วก็ต้องรีบอ้างงานบังหน้าม้านๆ ของตัวเองเอาไว้ อะไรมันจะขนาดนั้น เพิ่งอนาถเพื่อนไปแหมบๆ ตอนนี้เริ่มอนาถตัวเองแล้ว

"ก่อนออกไปนะคะ นี่ค่ะ เอามาให้เลือกแบบ" ผมรับกระดาษสองสามแผ่นที่มีป้ายข้อความศิลป์หลายแบบบรรจุอยู่ในนั้นมาอย่างงงๆ รึผมสั่งเธอทำอะไรโดยที่จำไม่ได้อีกแล้ว

"แบบ? แบบอะไรครับ" คุณชลทำหน้าเหมือนกำลังหน่ายว่าผมนี่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยพร้อมตอบรายละเอียดให้เจ้านายโผล่พ้นปากอุโมงค์ก่อนเดินออกไปแบบเนิบๆ

"อ้าว ก็แบบป้ายที่ไว้ติดหน้าห้องตอนมีแขกอย่างเมื่อครู่ไงคะ 'ห้ามเข้า เครื่องจักรกำลังทำงาน' ดิฉันออกแบบมาให้เลือก อยากได้แบบไหนก็คอลบอกดิฉันไปก็แล้วกันค่ะจะได้สั่งทำ เผื่อบอสต้องใช้เวลาตัดสินใจนาน"

"..."



พายุฝนนอกบ้านสงบไปแล้วแต่ตอนนี้กลับมี 'ฝน' อยู่ในบ้านที่กำลังจะทำให้เมฆครึ้มขมุกขมัวยามย่ำค่ำ พอผมเหยียบถึงบ้านพร้อมน้องสาวที่ผมไปเกี่ยวมาจากมหาวิทยาลัยก็พบกับรถญี่ปุ่นคันเล็กจอดอยู่เรียบร้อยในโรงรถ ก้อยลงมาทำเสียงจึ๊กจั๊กขัดใจทันทีที่เห็นว่าเป็นรถใคร

"พี่แทนกับก้อยกลับมาถึงบ้านช้าจังนะคะ ฝนออกมาพร้อมๆ กันแต่มาถึงก่อน" คนที่มาถึงบ้านเพื่อนก่อนเจ้าตัวตรงดิ่งมาหาผมก่อนคนในบ้านจะมารับกระเป๋าเอกสารในมือเสียอีก

"ฝนจะมาทำไมไม่บอกเราก่อน" ก้อยทำหน้านิ่งผิดวิสัยถามเพื่อนเสียงเรียบ และนั่นก็หมายถึงกำลังไม่พอใจอยู่แน่ๆ หรือก้อยจะรู้อะไรบางอย่างที่ผมกำลังสงสัยอยู่

"ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะมา แต่พอดีนึกได้ว่าวันนี้ไม่มีคนอยู่บ้าน เลยมาอาศัยข้าวบ้านนี้กินหน่อยน่ะ ฝนกินไม่เยอะหรอก ก้อยก็รู้นี่" อันที่จริงข้อนี้ผมก็รู้ เห็นเอาแต่ดมๆ ยังเคยคิดเลยว่าเธออาจบริโภคอาหารด้วยการระเหิด

"ตามใจ แต่วันหน้าวันหลังก็บอกกันหน่อย เผื่อว่าแม่ครัวเขาจะได้จัดไว้ให้ทัน เอ้า ยืนทำอะไรอยู่เล่าพี่แทน ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมากินข้าวกินปลาได้แล้ว จะได้รีบๆ กินรีบๆ ปะ เอ้อ รีบๆ อิ่ม" น้องผมเริ่มพาลพาโลอีกแล้วครับ เป็นเหตุให้ผมต้องรีบสาวเท้าออกไปจากพื้นที่หย่อมความกดอากาศต่ำ ไม่ได้กลัวน้องสาวตัวเล็กๆ หรอกนะ แต่ไม่อยากให้บรรยากาศมันมัวซัวมากไปกว่านี้หรอก

แต่เมื่อผมอาบน้ำเปลี่ยนชุดเดินลงมากินข้าวตามคำสั่งน้องสาวก็ต้องผงะเกือบตกบันได เมื่อแขกที่ไม่คาดฝันมานั่งสลอนกันเต็มส่วนรับแขกพร้อมสตรีผู้เป็นใหญ่ในบ้านคือแม่ผม แถมหนึ่งในนั้นเป็นคนที่ทำให้ผมใจเต้นแรงกว่าปกติเสียด้วย

"พอดีแม่แวะไปทักทายเยี่ยมเยียนคุณนิลที่บ้านมาน่ะ เห็นว่าท่านรัฐมนตรีไม่อยู่เลยถือโอกาสชวนทั้งคุณนิลหนูเพชรมาทานข้าวกันที่นี่ ซื้อของกินมาจากร้านประจำบ้านเราแล้วด้วย จะได้ไม่ต้องลำบากแม่ครัว เลยเพิ่งเห็นว่าหนูฝนก็มา"

"ง่า ครับ สวัสดีครับคุณนิล" อะไรจะดีไปกว่าการเก๊กหน้าหล่อยกมือไหว้นอบน้อมผู้หลักผู้ใหญ่ที่อาจได้ตำแหน่งแม่ยายในเร็ววันเป็นไม่มีอีกแล้ว แต่ดูเหมือนคุณแม่ยาย (ว่าที่สิ) จะรับไหว้แบบเชิดๆ นี่คงมาเพราะว่าถูกแม่ผมรบเร้าล่ะสิ ขออภัยครับ ยังไงลูกสาวคุณแม่ยายนั้น ผมขอ

"สวัสดี อีกครั้งด้วยนะครับ คุณเพชร" ทักทายอีกคนพร้อมพยายามสบตา ข่มมุมปากไว้ไม่ให้ยกขึ้นยิ้มระริกระรี้เกินความหล่อสุขุม

ลูกสาวคนถูกบังคับมาเอ่ยปากสวัสดีแบบรวดเร็วสบตาผมกลับแวบเดียวแล้วเสหลบไปทางอื่นเสียอย่างนั้น นั่นแน่ เขินผมใช่ไหม แต่ยังไม่ทันได้หยอกไก่ เสียงถามด้วยความสงสัยก็เข้ามาช่วยเร่งปฏิกิริยาคนหน้ามึน

"อีกครั้ง? หมายความว่าวันนี้เจอกันแล้วหรือคะ" คุณนิลประดับขมวดคิ้วถามผม คุณเพชรทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ได้เนียนสุดๆ

"ครับ บังเอิญเจอกันเมื่อตอนกลางวันน่ะครับ ไม่มีอะไรมากหรอก" ผมรีบตอบตัดบท ยังไม่อยากให้คุณเพชรลำบากใจในตอนนี้ พระเอกดีๆ ต้องให้เกียรตินางเอกนี่นะ

"ถ้าอย่างนั้นพ่อว่าเราย้ายสถานที่ไปเป็นกินข้าวนอกบ้านกันไหม นะ ที่ศาลาแปดเหลี่ยมโน่น น่าจะครึกครื้นดีมีคนเยอะๆ" คุณพ่อผู้มีอารมณ์ดีเป็นนิจบรรเจิดไอเดียกินข้าวให้อร่อยมาให้กับบรรดาแขกสาวน้อยสาวใหญ่

"เออ เข้าท่า ไปแทน พาแขกเขาไปนั่งกันข้างนอกก่อน เดี๋ยวให้เด็กจัดสำรับตามไปให้" แม่ผมเริงรื่นไม่แพ้สามี ไม้ได้รู้บ้างเลยว่าตอนนี้มีคลื่นใต้น้ำเกิดขึ้นเสียแล้ว ถึงผมจะไม่รู้ชัดว่าอะไรเป็นอะไรแต่ผมก็ไม่ได้โง่นักหรอกนะ ก้อยตีหน้าเซ็งมองเพื่อนทีมองพี่สาวแต่งตั้งที แล้วกลับหันมาส่งสายตามองพี่ชายเหมือนเป็นตัวปัญหา ส่วนเพื่อนสาวที่ว่าก็ส่งสายตาท้าทายลูกสาวว่าที่แม่ยายผมอย่างเปิดเผย เห็นจะมีแต่คุณเพชรที่ยังคงสีหน้านางพญาได้ดีเยี่ยม คนอะไร

ถ้ารู้ว่าวงสนทนาอาหารเย็นมันจะฝืดเฝื่อนขนาดนี้ไล่ผมไปกินหมี่เกี้ยวปากซอยเสียยังจะดีกว่า ครั้นกว่าจะจัดแจงตำแหน่งที่นั่งกันได้ก็ปาไปหลายนาที ถ้ามีดนตรีประกอบเราคงได้เกมเก้าอี้ดนตรีหนึ่งยก ต่างกันเพียงไม่มีใครตกเก้าอี้แพ้ออกจากเกมเท่านั้น ทีแรกผมเชื้อเชิญให้แขกนั่งก่อน คุณนิลนั่งด้านใน ตามมาด้วยคุณเพชรข้างๆ และผมก็กะวางสนุกให้ตัวเองประกบ น้องฝนก็เดินฉับๆ มานั่งฉึบปิดข้างที่เหลือของคุณเพชรเสียอย่างนั้น พอก้อยเห็นผมยืนอ้าปากเป็นหมาเหวอเธอก็ขี่ม้าแคระมาช่วยผมโดยการบ่นว่าหากสามคนนั่งเรียงกันมันไม่บาลานซ์เพราะมันจะกลายเป็นว่าฝั่งแขกสายอ่อน ฝั่งเจ้าบ้านสายแข็งจะตะลุยอาหารบนโต๊ะได้ไม่เนียน จับเพื่อนตัวเองลุกขึ้นไปแปะไว้ข้างๆ ตัวหลังจากนั่งถัดคุณนิลประดับอีกฟาก ปิดน้องฝนด้วยพ่อผม สุดท้ายผมเลยได้นั่งข้างคุณเพชรสมใจโดยมีคุณรำไพลูกคู่คอยบอกบทอยู่ใกล้ๆ

เห็นไหม แค่ตำแหน่งที่นั่งก็เริ่มปวดกบาลแล้ว

ยังไม่สะใจพอ บทสนทนาที่ว่าสุดจะฝืดนั่นก็มาจากการอวดสรรพคุณลูกชายให้ว่าที่แม่ยายเคลิ้มของแม่ผม แล้วมันคงไม่ถูกหูคนฟังเท่าไร

"นี่ แทน ไหนลูกบอกว่าบริษัทขยายตลาดไปได้กี่เปอร์เซ็นต์แล้วนะ ที่ว่าสูงทะลุเพดานน่ะ"

"เอ่อ..." ผมเหลือบมองคุณนิลนิดหนึ่ง เห็นเธอยื่นปากออกมาแบบไม่เชื่อน้ำยาเล่นเอาผมจิตตก

"ก็ มากอยู่พอประมาณนะครับ ไม่ถึงกับทะลุเพดานอะไรหรอก" เป็ดย่างนี่มันรสชาติประหลาดพึลึก

"แหม ถ่อมตัวจังนะคะลูกชายคุณรำไพเนี่ย ใครๆ เขาออกร่ำลือกันนักหนาว่าทั้งเก่งทั้งฉลาด แถมมาดดีอีกต่างหากนี่คะ สงสัยได้มาจากคุณพ่อคุณแม่" คุณนิลประดับจีบปากจีบคอชมเชยแบบจิกๆ ยังไงอยู่

"โอ้ย แทนเขาดีด้วยตัวเองค่า ลูกชายดิฉันเนี่ย ไม่เคยต้องให้สอนให้สั่ง เหมือนเขามีดีติดตัวมาแต่เกิด" หวิดสำลักน้ำแกงจืดหน่อไม้จีน ร้อยวันพันปีไม่เคยชม ทีวันนี้จะมายกยอลูกต่อหน้าคนอื่น

"จะว่าไปก็ยังมีอีกคนนะ ที่เขากำลังฮือฮากันอยู่ พ่อปาล์ม แหม ติดปาก พ่อปวริศน่ะค่ะ ที่เป็นเจ้าของโรงแรมใหญ่ อายุยังน้อยอยู่แท้ๆ เป็นที่เชิดหน้าชูตาวงศ์ตระกูลได้ดีจริงๆ แถมเขาก็ดู 'มาดแมน' จริงๆ เสียด้วยนะ" เหมือนคุณนิลตั้งใจเน้นคำว่า มาดแมน อย่าบอกนะว่าคุณเพชรไปเล่าให้ฟังหมดน่ะ

"ก็พอรู้จักอยู่นะคะ จำได้ว่าได้รับโหวตหนุ่มฮอตอันดับสองรองจากลูกแทน" ผมขนลุกซู่ 'ลูกแทน' ที่ขานมานั่นมันน่าเอ็นดูเหลือเกิน ตั้งแต่โตมาเป็นหนุ่มเริ่มมีจิตปฏิพัทธ์ต่อเพศตรงข้ามก็ไม่เคยได้ยินแม่เรียกว่าลูกแทนมาก่อน มิน่า วันนี้ฝนถึงได้ตกหนัก

"ก็น่าแปลกนะคะ อันที่จริงหน้าตาท่าทางก็ดูสูสี ไม่รู้ทีว่าเอาอะไรมาตัดสิน สงสัยต้องถามสาวๆ หนูฝนว่าไงคะ"

เอาแล้ว! สองแม่เล่นกันเองไม่มันเอาตัวประกันหน้าอ่อนมาช่วย

"ก็ต้องพี่แทนสิคะที่ฝนจะโหวตให้อันดับหนึ่ง พี่แทนใจดี สุภาพ สุขุม มาดก็ดี แถมหล่อเอามากๆ สาวที่ไหนก็หลง"

แกร้ง! เสียงโลหะกระทบจานเซรามิกเบี่ยงเบนความสนใจเราไปยังที่มาทันที คุณเพชรกำลังยิ้มหวานให้คนรอบข้างอยู่อย่างมีมาด

"เพชรทำช้อนหลุดมือค่ะ จู่ๆ กล้ามเนื้อข้อมือก็กระตุก ขอโทษนะคะ" ไม่อยากคิดว่าเธอสะดุดด้วยคำพูดหมัดตรงของฝนหรือว่ากล้ามเนื้อข้อมือกระตุกกะทันหันจริงอย่างว่ากันแน่ ผมชักใจคอไม่ค่อยดี ลองคิดว่าเธอเริ่มมีใจให้ผมจริงแล้วดันมีน้องฝนมามีส่วนร่วมในความยุ่งเหยิงอีกคนมันจะสนุกขนาดไหน นี่ยังไม่ได้หาทางแก้ปมเกย์ที่สร้างมาเลยนะนี่

"เอ แม่ว่าไปหาหมอดีกว่ามั้ง เกิดกล้ามเนื้อมันกระตุกตอนขับรถจะทำยังไง อันตรายแย่ พอดีเลย พรุ่งนี้พ่อปาล์มจะแวะมาหาที่บ้าน ให้เขาพาไปดีกว่ามั้ย"

ไม่ดีเด็ดๆ! ผมเถียงอยู่ในใจ เรื่องอะไรจะปล่อยเนื้อเข้าปากเสือ

"ไม่ต้องหรอกค่ะ ไว้เพชรค่อยไปเองดีกว่า จะได้ไม่ต้องไปวุ่นวายรบกวนคนอื่นเขา"

เป็นตำตอบที่ถูกต้องแล้วครับ คุณเพชร

"วุ่นวายอะไรที่ไหน คนกันเองทั้งนั้น เข้านอกออกในอยู่เป็นประจำ มาหาเพชรออกบ่อยคุยกันกะหนุงกะหนิง คนอื่นคนไกลอะไรกัน" ดูเหมือนคนพูดจะมีความสุขเสียเหลือเกิน แต่ผมเริ่มร้อนแล้ว ลมไม่ค่อยพัดเลยแฮะ แล้วมัน หมายความว่าไง คุยกะหนุงกะหนิง

"หนูเพชรสนิทกับคุณปวริศมากเลยหรือจ๊ะ เอ น้าว่าที่มากินข้าวบ้านน้าคราวก่อนก็ดูสนิทสนมกับดีกับลูกบ้านนี้ออกนะ อืม ไม่เป็นไร หนูเพชรอาจเกรงใจเขา แต่ทางเราก็สะดวกนี่นะ พรุ่งนี้ถ้าแทนไม่ติดงานอะไรมากก็พาหนูเพชรไปหาหมอก็ได้นี่ลูก" ผมรีบพยักหน้ารับในทันใด เอ่ยปากออกไปไม่ได้ ข้าวเต็มปาก เดี๋ยวไม่สุขุม

"ไม่รบกวนคุณแทนหรอกค่ะ เดี๋ยวกระทบธุรกิจร้อยล้าน ไปกับพ่อปาล์มแหล่ะดีแล้ว รายนั้นก็ออกเต็มใจ ลูกเพชรก็ไม่ได้รังเกียจรังงอนอะไรสักหน่อย" ถึงไม่ได้พูดออกมาตรงๆ ก็พอจับความหมายได้ จริงหรือครับคุณเพชร

ท่าทางภาษาสายตาผมมันจะฟ้องความหมายได้ดี เพราะทันทีที่ผมสบตาคุณเพชรขวับเธอก็ส่ายหน้าถี่ๆ ทันควัน

"เป็นอะไรไปเพชร สั่นหัวทำไม กล้ามเนื้อคอกระตุกอีกหรือไงลูก"

"อ่า สั่นหลบยุงค่ะ ยุงเยอะ" ว่าแล้วสาวสวยก็ยกมือขึ้นปัดลมปัดแล้งไปเรื่อย ผมนั่งมาตั้งนานไม่เห็นโดนยุงกัด ยากันยุงไฟฟ้าก็ถูกติดตั้งไว้แล้ว จะมาจากไหนกันยุง

"ตายแล้ว เกิดหนูเพชรโดนยุงกัดไม่สบายไปจะทำยังไง ก้อยไปเอาโลชั่นกันยุงมาให้พี่เขาหน่อยสิลูก" แม่ผมดันรับมุกเสียอีก เล่นเอาก้อยหยุดเคี้ยวเป็ดกะทันหันเพ่งกระแสจิตถึงผมทันที อ่านได้ว่า 'เอาไงดีพี่' ผมก็ประสาทไวไม่แพ้กันส่งสายตากลับ 'เล่นตามเกมไปก่อน'

ก้อยกลืนเป็ดที่คาดว่ายังเคี้ยวไม่ละเอียดลงคอเอื้อกใหญ่ก่อนลุกขึ้นไปเสียอย่างไม่ได้ แต่ยังไม่ทันได้หันหลังออกไปไหนคุณเพชรก็เรียกไว้เสียก่อน

"ไม่ต้องแล้วค่ะ น้องก้อย ยุงที่บินแถวพี่มันเป็นยุงตัวผู้น่ะค่ะ บินตอมไปตอมมาแต่ว่าไม่กัดไม่ดูด มันไม่ใจ เอ๊ย...มันไม่ใช่ตัวเมีย" อึก ทำไมฟังสะดุดรูหูชอบกล

"โอ้โห พี่เพชรเก่งจังค่ะ ดูออกด้วยว่ายุงตัวผู้หรือตัวเมีย ดูยังไงคะวันหลังเผื่อฝนโดนยุงตอมมั่งจะได้รู้ทันมันก่อนโดนกัด"

เจ้ย นี่ก็อีกคน ที่ถามนี่ไม่รู้จริงหรือแค่อยากกระพือปล่องภูเขาไฟกันครับ

"ดูที่เจตนาแอบแฝงค่ะ ถ้ามันบินมาตั้งใจหาเรื่องกัดก็เป็นตัวเมีย แต่หากมันแค่บินมาคลอเคลียก็เป็นตัวผู้ ดูไม่ยากใช่ไหมคะ"

"เอ แต่ฝนคิดว่า..."

"เป็ดย่าง!"

เกือบทุกคนสะดุ้งเฮือกกับวลีเสียงดังผ่าเหล่าที่น้องสาวผมสร้างขึ้น

"เป็ดย่างร้านนี้อร่อยดีนะคะ กินเป็ดกันดีกว่าค่ะก้อยว่า เดี๋ยวทิ้งไว้ตากลมนานมันจะชืดหมด พี่แทนเติมข้าวไหม ส่งมาๆ เดี๋ยวก้อยตักให้เองเลย เอ้า นี่ไง ยอดคะน้าน้ำมันหอย อันนี้ฝนชอบ ก้อยจำได้ กินสิ" ปฎิกิริยาคนรอบข้างชะงักงันตามกันไปหมด ขนาดพ่อผมที่ทำนิ่งก้มหน้าก้มตากินไม่สนคนรอบข้างยังต้องเงยหน้ามามองลูกสาว

"เอ้า แล้วกัน มองก้อยมันไม่อร่อยหรอกค่ะ กิน กิน กิน นี่ น้านิลลองนี่ ไข่ตุ๋นเห็ดหอมเพื่อสุขภาพ รสชาติไม่จัดจ้านแต่นุ้มนุ่ม ดีกับกระเพาะนักล่ะค่ะ พี่แทน จานล่ะจาน ส่งมา"

ผมเอ้อ อ้า อยู่พักก็ได้สติ ปล่อยให้ไอ้ตัวฉลาดมันดึงเกมไปเล่นเองแล้วกันตอนนี้ทำตามไปก่อน

มื้อนั้นดำเนินไปอย่างฝืดเฝื่อนเลื่อนเปื้อนแต่สามารถจบลงได้ด้วยฝีมือน้องสาวคนเก่งของผม ก่อนที่ใครจะพาบรรยากาศหมองหม่นอึมครึมก้อยก็จะมาดึงออกนอกเรื่องเสมอ และชัดยิ่งกว่าชัดว่าน้องสาวได้นิสัยมาจากใครเมื่อครึ่งหลังพ่อผมเริ่มอิ่มท้องมีแรงมาเล่นมุกของคนอายุหกสิบกว่าให้ได้นั่งงงลำบากแม่ต้องคอยแปลเป็นระลอก

ยิ่งไปกว่านั้นทั้งพ่อทั้งน้องสาวผมยังทำหน้าที่ส่งแขกกลับบ้านใครบ้านเขาไปได้อย่างนิ่มนวลอีกต่างหาก ถึงจะขัดใจแม่ผมไปหน่อยว่าไม่สามารถทำคะแนนให้ลูกชายได้ดั่งใจแต่วันนี้ขอหยุดพักกระบวนทัพทิ้งไว้ก่อนดีกว่า

ขนาดที่พอล้อรถผู้มาเยือนทุกคันพ้นรั้วบ้านได้ก็ให้คนตัวเล็กต้องถอนหายใจเฮือก

"วันหน้าวันหลังจะทำอะไรก็มาปรึกษากันก่อนสิแม่ เกิดตั้งรับไม่ทันจะทำไง ลูกสะใภ้ได้หายวับ" ก้อยทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเล็กอย่างเหนื่อยอ่อน

"ก็ไม่คิดว่าคุณนิลจะหมายตาลูกเขยอื่นเอาไว้แล้วนี่ แหม พ่อปาล์มอย่างนั้น พ่อปาล์มอย่างนี้ เชอะ ลูกชายแม่ดีกว่าเห็นๆ" แม่ผมบ่นกระปอดกระแปดทำหน้าเป็นผู้ใหญ่งอนทำเอาผมอดยิ้มไม่ได้ ถึงจะเกือบสร้างความร้าวฉานแต่แม่ก็ยังเป็นแม่ที่น่ารักสำหรับผม เคืองกันไม่ลงจริงๆ

"แล้วเพื่อนเรานั่นมันยังไงกันหือ ก้อย พ่อว่ามันแปลกๆ" พ่อผมออกความเห็นในแบบตรงประเด็นค้างคาในใจผมพอดี

"มันก็ไม่ยังไงหรอกพ่อ เห็นว่าเป็นไงมันก็เป็นอย่างนั้น มีอะไรเดี๋ยวก้อยจัดการให้ได้" ตอบแบบกำกวมสิ้นดี

"แล้วมันจะเป็นปัญหารึเปล่า เอ หรือเราจะเปลี่ยนสะใภ้เป็นเพื่อนลูกสาวกันเลยดีไหมแม่? สิ้นเรื่องไป"

"พูดอะไรอย่างนั้นครับพ่อ ผมไม่ได้คิดอะไรกับเด็กอายุน้อยกว่าเกือบรอบอย่างนั้นหรอก มองดูก็เหมือนเห็นน้องตัวเอง จะให้ผมคิดอะไรด้วยได้ยังไง" โวยวายตีกันไว้ก่อนแม่จะอ้าปากโต้ตอบด้วยซ้ำ

"แสดงว่าสาวสะพรั่งอย่างหนูเพชรก็คิดได้สบายๆ งั้นสิ" อุ๊ก โดนพ่อผมดักจับได้เสียแล้ว

"ก็ ทำนองนั้น" อะไร พูดอ้อมแอ้มอย่างกับเขิน เสียเชิงชายหมดเลยตู

"งั้นก็เห็นเป็นเอกฉันท์ หนูเพชรน่ารัก ได้มาเป็นลูกสะใภ้ก็น่าชื่นใจดี ก้อยก็ไม่มีปัญหา แม่เราก็ยิ่งกว่าออกนอกหน้า เหลือแต่เราล่ะแทน ทำยังไงให้ได้เพชรน้ำงามมา พ่อจำเป็นต้องสอนหรือเปล่า"

"ไม่เป็นไรครับพ่อ ใจผมเต็มร้อย คนอย่างผมเคยแพ้ที่ไหนกัน" ยืดอกสามศอกตอบบุพการีได้อย่างมั่นใจ

"งั้นก็อย่าลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดของความเป็นลูกผู้ชายล่ะรู้ไหม ความจริงใจ ใช้ได้ไม่มีวันหมด"

ใจผมมันไหววูบทันทีที่ได้รับฟังคำพูดของคนที่ผมเคารพรักและเอาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตมาตลอด นั่น เป็นชนักปักหลังอันใหญ่ที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะดึงมันออกได้โดยไม่กระทบกระเทือน เพราะนับวัน มันก็ยิ่งปักลึกลงไปทุกที คงต้องสุดแล้วแต่ว่าโชคชะตาจะพาไป

Let it be…



********************************************************



กราบงามๆ สามทีซ้อน ค่าที่หายไปนานเหลือเกินโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า

ช่วงนี้งานยุ่งมากๆ พอวันหยุดก็ให้มีเหตุต้องเหนื่อยหนัก แถมมีเรื่องแมวที่เลี้ยงไว้ป่วยหนักเกือนไม่รอด ช่วงนั้นไม่มีอารมณ์จะเอาอะไรมาเขียนเลยค่ะ มันห่อเหี่ยว

แต่ตอนนี้แมวหายดีแล้ว (ยิปปี้!) และก็วันหยุดแล้วด้วย ฮี่ๆ

เพราะงั้นเลยเอามาวางไว้ให้ก่อนหนึ่งตอน เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาใจคนอ่านเอามาให้อีกตอนซ้อนเลย เพราะงั้นหวังว่ายังรักกันอยู่นะคะ นะคะ หงิงๆ

ตอนที่แล้วขอขอบคุณคนอ่านทุกคนนะคะ คุณ 2 in 1, คุณ Algeltomorrow, คุณ redclick, คุณ บู้บี้, คุณ dena และคุณ เมฆฝน

เจอกันคืนวันเสาร์ที่สอง สิงหาคมค่ะ (รู้สึกว่าจะคืนวันนี้นี่หล่ะ...มึน )

บุญรักษาจ๊ะ



Create Date : 02 สิงหาคม 2551
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2552 2:29:40 น. 5 comments
Counter : 305 Pageviews.

 
สนุกเหมือนเดิมเลยก่ะ ดีใจค่ะที่คนแต่งสบายใจแล้ว แมวก็สบายตัวแล้ว เลยว่างมาอัพให้เหมือนเดิม...คิดถึงตาหลอดเลยก่ะ


โดย: 2in1 IP: 124.121.147.138 วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:7:50:30 น.  

 
ไม่เก็นลงในพันทิบเลยอ่ะ งิงิ อ่ะยกโทษให้ สนุกเหมือนเดิมน่ะค่ะ แล้วของฝากหละ มายัง


โดย: Sakina IP: 124.121.108.32 วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:19:46:41 น.  

 
นึกว่าคุณ 2in1 จะไม่ตามมาอ่านต่อเสียแล้ว ใจแป้วๆ อยู่ ชนักปักหลังเพราะหายไปนานนนน

คุณ Sakina คะ เดี๋ยวลงในพันทิปให้ทีเดียวสองตอนเลย คงอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้หล่ะค่ะ

รักทุกคนค่า จุ๊บๆ


โดย: BestChild วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:21:21:33 น.  

 


โดย: redclick วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:10:14:59 น.  

 
....ข้อเสียของคนหล่อ

อิอิ


โดย: RuNz วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:19:12:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BestChild
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ไม่ใช่คนเลว แต่ไม่ใช่คนดี
ไม่ใช่คนมีน้ำใจ แต่ไม่ได้เห็นแก่ตัว
ไม่ใช่คนใจร้าย แต่ไม่ใช่ผู้หญิงใจดี
ไม่ได้ต่อต้านใคร แต่ไม่ใช่คนยอมคน
รับรู้ในตัวตน และไม่สนใครจะว่าอย่างไร
รู้จักให้อภัย แต่ไม่ใช่ไม่รู้จักแค้น
เป็นผู้หญิงแท้ที่ชอบโชว์แมน แต่ความจริงแสนจะอ่อนโยน O_o!!!


~ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ~


"...มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่เรียนรู้จากความผิดพลาด ไม่มีใครเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกต้องเสมอไปในโลกใบนี้ หากจะมีก็ให้ไอ้คนนั้นมันไปเป็นเทวดาเสีย อย่ามาเป็นคนให้เสียชาติเกิดกันเลย"

โรม / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ







"คนที่บอกว่าคุณไม่สวยคือคนที่ไม่ได้มองคุณรู้ไหม ถ้าหากเพียงมองคุณดีๆ รู้จักมองให้ถึงความเป็นตัวคุณแล้วก็จะรู้ว่าคุณน่ะสวย..."

ยอด / ผมก็เป็นพระเอกคนหนึ่ง







จิ๊กซอว์ที่ต่อกันได้พอดีทั้งสองฝ่ายมันไม่ใช่สิ่งที่จะซื้อหาง่ายๆ เมื่อได้มันมาแล้วต้องรักษามันไว้ให้ดี อย่าทิ้งขว้างเหมือนเป็นสิ่งที่หมดค่า เพราะรู้ไหม ว่าหากแกปล่อยมันหลุดมือไปแล้วความสูญเสียจะเทียบไม่ได้กับอะไรทั้งนั้น"

อวิกา / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ






"...ไอ้ผู้ชายมาดแต๋วที่พี่ก่นด่านักหนาตรงหน้านี่นะ...เท่าที่รู้จักมา บอกได้คำเดียว...โคตรแมนเลยเว้ยค่ะ"

นงนุช / แมน







คุณค่าที่ว่า ความรู้สึกในทุกๆ ใบหน้าของคนในรูปคือ 'ความสุข' ไม่เห็นจะต้องมีองค์ประกอบเป็นฉากสวยงาม

ลูกชุบ / สาวติสท์แตกกับหนุ่มไฮเปอร์







"...คุณกับผมอาจดูต่างกัน คุณเชื่องช้า ผมว่องไว คุณใจเย็น ผมใจร้อน คุณชอบจดจ้องและลากเส้น แต่ผมชอบมองผ่านเลนส์และกดชัตเตอร์ แต่รู้มั๊ยในจุดประสงค์ของทั้งหมดมันคือสิ่งเดียวกัน..."

นที / สาวติสท์แตกกับหนุ่มไฮเปอร์







"มันเป็นแค่ความทรงจำ จะดีหรือร้าย เราไม่สามารถลบมันออกไปได้ เก็บมันไว้ในอดีตและเดินต่อไปยังอนาคตข้างหน้า ปล่อยให้ความทรงจำเป็นเพียงแค่ความทรงจำ"

Matsumura Ryo / Hiroshima eki สถานีแห่งความทรงจำ








"...บางทีสิ่งที่แกเห็นมันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ เหรียญยังมีสองด้านได้เลยแก ประสาอะไรกับใจมนุษย์เล่า มันขึ้นอยู่กับว่าแกเลือกที่จะรับมันทุกด้านหรือเปล่า หากแกเลือกที่จะรับไว้เพียงด้านเดียวแล้วทุกข์ไปตลอดชีวิตน่ะมันคุ้มกันไหม..."

ลูกชุบ / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ









เฮ้อ... ผู้ชาย ไม่มีไม่ตาย แต่อยากได้สักคนแฮะ

"ฉัน"/ ท้องฟ้า หาดทราย สายลม ผมกระเจิง




ฝากคำทักทายไว้ด้วยจิ...รักตายเลย




ShoutMix chat widget




BestChild ในคอลัมน์นักเขียนรับเชิญ ลายปากกา 2009

BestChild ในคอลัมน์ "ลายรัก" ลายปากกา 2010




Friends' blogs
[Add BestChild's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.