Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
1 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ ตอนที่ 19 <เพราะผมเองที่ผิด>



และแล้วผมก็ต้องมาหมดมาดหล่ออีกครั้งระหว่างที่กำลังขับเคี่ยวอยู่กับไอ้หนุ่มมาดเทวดาเพียงเพราะว่าอยากโชว์เหนือหลังจากคุยกันได้ไม่กี่ประโยค นายรมย์นั่นบอกว่าโปรดปรานเครื่องยนต์และความเร็วเป็นที่สุด ผมละอยากจะรู้นักว่าไอ้หน้าติ๋มๆ ยิ้มเย็นๆ อย่างนั้นมันจะไปแรงและเร็วได้แค่ไหนกันเชียว ไอ้ความปากดีพร้อมอีโก้สูงของผมเลยชักพาให้หน้าหล่อๆ ต้องมามีรอยแผลอีกจนได้

ตอนแรกผมว่าผมกำลังจะได้เปรียบช่วงโค้งสุดท้ายอยู่แล้ว (ต่อให้มันเก่งชะมัดจนทำเอาผมหืดขึ้นคอก็เหอะ) แต่ไอ้แขนซ้ายเวรนี่ก็ไม่รู้จักช่วยกันทำมาหากินบ้าง ดันสำออยหมดแรงล้าไปอย่างนั้นตอนที่กำลังบังคับเลี้ยว และด้วยความเร็วและแรงคลื่นน้ำที่ปะทะข้างลำเรือมันเลยทำให้ผมเสียการควบคุมจนมันพลิกคว่ำ ดีว่าผมเตรียมตัวไว้ดีแล้วไอ้ที่จะถูกฟาดแรงกว่านี้เลยเหลือแค่คิ้วแตกนิดหน่อย แอนตาซิลแจกทองสักห้าหกบาทก็คงหายเจ็บ

แต่ที่ทำให้ผมมานั่งหัวเสียมึนงงหูชาอยู่นี่ก็เพราะแทนที่ผมจะได้โชว์แมนให้คุณเพชรเธอกรี๊ดสลบ กลับเป็นว่าเธอกลายเป็นฮีโรอิน (Heroine) ที่ไม่รู้ไปแย่งเรือเจ๊ตมาจากไหนไปซิ่งงมผมกลับมาฝั่งได้ด้วยตัวเองเสียนี่ หนำซ้ำแทนที่จะรีบประคบประหงมเอาใจคนเจ็บอย่างผมแต่เธอดันตวาดผมเสียลั่นหาด

"ทำอะไรไม่รู้จักคิด สังขารก็ยังไม่สู้ดียังจะไปแข่งอะไรกันไร้สาระ เกิดเป็นหนักกว่านี้จะทำยังไง ครั้งที่แล้วประมาทรถราคว่ำไปใครเขาใจหายใจคว่ำกันแค่ไหนยังไม่รู้สึกอีก ตอนนี้สำนึกมั่งไหม"

"ก็...ผมขอโทษ" หมดกันผม ราชสีห์เจ้าป่ากลายเป็นหมาชิสุ

"ดูสิ น้องก้อยเขาก็ตกใจจะแย่อยู่แล้ว เล่นอะไรห่ามๆ อายน้องมั่งไหมนี่ อายุเท่าไรแล้ว หือ" เธอชี้มือไปยังก้อยที่สะดุ้งเฮือกตกใจเมื่อโดนพาดพิง เข้าใจว่าหน้าตาตื่นๆ นั่นน่าจะมาจากเสียงอันทรงพลังอำนาจที่คุณเพชรใช้มากกว่าที่เห็นว่าผมเลือดออก

"ย่างสามสิบเอ็ด" ผมนั่งพับเพียบก้มหน้าแต่เหลือบตาขึ้นมองคนที่ยืนเท้าสะเอวค้ำหัวอยู่ในชุดน่าหวาดเสียวพร้อมตอบเสียงอ่อยๆ

"เอ่อ เพชร พี่ว่าใจเย็นๆ กันก่อนดีกว่าไหม นะ" นายรมย์พยายามปรับระดับความสูงคลื่นในทะเล

"เงียบไปเลยพี่โรม นี่ก็ด้วย จิตอ่อนตามคุณแทนไปได้ยังไง เพชรไม่นึกว่าพี่โรมจะเป็นคนที่ใจเย็นรอบคอบกว่านี้เสียอีก"

การหันขวับไปแหวผู้แทรกแซงเล่นเอาอดีตพี่โรมที่แสนดีนั่นเงียบกริบไปเลย ฮ่า สมน้ำหน้า

"ยังจะมายิ้มอีก คุณนี่มันเหลือเกินจริงๆ"

แหงะ โดนอีกละ บางทีผมอาจจะโดนผู้หญิงบ่นจนเลือดจากแผลที่คิ้วหยุดไหลไปเองหากว่าไม่มีใครวิ่งมากู้สถานการณ์ในตอนนี้

"มีใครเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ" คนที่วิ่งหิ้วกล่องปฐมพยาบาลเข้ามาใส่เสื้อชูชีพพร้อมปลอกแขนที่เขียนไว้โตๆ ว่า Life Guard ทำหน้าจริงจังถามกลุ่มคนที่เป็นเป้าของสายตาทุกคู่อย่างร้อนรน

"มีค่ะ บาดเจ็บคนหนึ่งนั่งเลือดอาบคิ้วแตกอยู่นี่ไง แล้วคุณหายไปไหนเนี่ย เป็นไลฟ์การ์ดยังไงปล่อยให้นักท่องเที่ยวทำซ่าไปขับเรือตรงเขตอันตราย เมื่อกี้ฉันมองหาคุณไม่เห็น ดีนะว่ายังรู้จักจอดเรือทิ้งไว้พร้อมกุญแจ ไม่อย่างนั้นฉันจะไปช่วยทันไหม แล้วบกพร่องต่อหน้าที่อย่างนี้ฉันจะต้องไปรายงานใคร นายกเทศมนตรีพังงาเขาอยู่ที่ไหน ใครมีเบอร์บ้างคะ"

ผมว่าในสภาวะอย่างนี้ใครก็ไม่ควรเสนอหน้าเข้ามาพูดอะไรกับคุณเพชร เพราะดูเหมือนว่ากำลังโกรธ มากด้วย และคาดว่าทุกคนในที่นั้นจะรู้ดีนอกเหนือไปจากหนุ่มคนนี้ ดูได้จากการยืนหุบปากนิ่งของทุกคน แม้แต่ก้อยเองยังไม่สู้

"ต้องขอประทานโทษจริงๆ ครับ ผมเดินไปห้องน้ำแวบเดียว ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุขึ้น"

หนุ่มผู้โชคร้ายรีบนั่งลงข้างผมเปิดกล่องปฐมพยาบาลออกมาหาอุปกรณ์ห้ามเลือดพร้อมสังเกตดูแผลคิ้วแตกของผม อูย มือหนักชิบเป๋ง

"ต้องเย็บครับ ผมว่าคุณรีบไปศูนย์พยาบาลดีกว่า ตรงนั้นมีอุปกรณ์พร้อมกว่านี้ มา ผมพาไป"

พ่อหนุ่มรีบพาออกนอกเรื่องความรับผิดชอบของไลฟ์การ์ดที่คุณเพชรกำลังยืนเดือดปุดพร่ำบ่นอยู่

"ไม่ต้อง ฉันพาไปเอง"

คุณเพชรรีบก้มลงมาฉุดแขนผมให้ลุกขึ้น และผลจากการลุกกะทันหันพร้อมกับความมึนแรงตีที่คิ้วและแรงสะเทือนกระดูกค้อนในช่องหูจากคลื่นเสียงคุณเพชรก็ทำให้ผมต้องซวนเซ

"เอ้า เดินไม่ไหวอีก คุณนี่นะ"

คุณเพชรยังบ่นต่อ ตอนนี้ทำอะไรก็ผิดไปหมดแต่ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่ผู้หญิงตัวบางเฉพาะในส่วนที่ควรบางนั้นรีบเข้ามาคว้าปีกผมขึ้นคล้องคอพร้อมกับพยุงผมออกเดินอย่างมาดแมนเกินตัว แถมยังเอาอะไรนุ่มๆ มาชนสีข้างผมอีก แหม อันที่จริงผมแค่หน้ามืดแวบเดียว ตอนนี้ก็ปกติดี แต่เอาน่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ ปล่อยคุณเพชรเธอแสดงความแมนต่อไปแล้วกัน

"เพชร พี่ช่วยดีกว่า"

นายรมย์พยายามแสดงความหวังดีค่าที่มัวแต่เร่งเรือไม่รู้จักหันมามองเลยว่าคู่แข่งตกน้ำเดี้ยงไปแล้วเรียบร้อย จนคุณเพชรบิดเรือขับสวนเข้ามาแล้วนั่นแหล่ะถึงได้ไหวตัวทันรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

"ไม่ต้อง เพชรสามารถ"

อูย กระชากเสียงเสียห้วน ให้ตายเถอะ ผมสาบานไว้ต่อหน้าท้องทะเลและหาดทรายตรงนี้เลยว่าถ้าไม่จำเป็นผมจะไม่ทำให้เธอโกรธอีกเลยตลอดชีวิตนี้ จริงๆ นะ



คุณเพชรเข้ามานั่งเฝ้าดูพยาบาลเย็บแผลที่หางคิ้วให้ด้วยสีหน้าที่ยังตึงๆ อยู่พร้อมเสื้อยืดตัวโคร่งที่สวมทับชุดว่ายน้ำชิ้นเล็กๆ นั่นเรียบร้อย (ว้า...) ไม่รู้ว่าทำไมต้องโกรธนักหนาได้ขนาดนั้นสิน่า

"เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวกลับกรุงเทพไปให้หมอที่นั่นเขาตัดไหมให้ก็ได้นะคะ อีกสักสัปดาห์สองสัปดาห์" คุณหมอหน้ากลมสวมแว่นพูดอย่างใจดีมีน้ำมะนาวอยู่เต็ม

"ขอบคุณครับ"

"มันเป็นหน้าที่อยู่แล้วค่ะ คุณแทนธรรม์สบายใจได้ อ้อ แล้วก็แผลนี่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอกค่ะ นิดๆ หน่อยๆ คุณเพชรไม่ต้องตกใจหรอกนะคะ แหม ท่าทางเป็นห่วงแฟนน่าดู"

"ไม่ใช่ค่ะ ดิฉันไม่ได้เป็นแฟนกับเขาสักหน่อย ฉันยังไม่มีแฟน" เธอกอดอกตอบสวนทันทีที่คุณหมอผู้น่ารักพูดประโยคถูกใจผมออกมา

"อะ อ้าว เอ้อ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ สรุปว่าคนที่ไม่ใช่แฟนคุณเพชรไม่เป็นอะไรมากค่ะ ถ้าปวดแผลก็กินยาแก้ปวดได้นะคะ" คุณหมอย้ำนิยามของตัวผมพร้อมยื่นซองยาที่เขียนไว้ที่ฉลากด้านหน้าว่า 'พาราเซตามอล ทุกสี่ถึงหกชั่วโมงหรือเฉพาะเวลามีอาการ' ให้กับผม และเมื่อคุณเพชรเห็นว่าเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว เธอก็ลุกขึ้นและเดินตัวปลิวออกไปทันทีโดยที่ไม่สนใจคนเจ็บที่ตัวเองหิ้วมาเลยสักนิด

ขณะที่ผมกำลังแอบน้อยใจเล็กๆ พร้อมกับการสรุปด้วยตัวเองว่าต้องพาตัวออกไปโดยไม่มีใครให้แอบฉวยโอกาสเหมือนขามา เสียงทักทายตรงนอกห้องพยาบาลก็ทำให้เกิดความสงสัยใคร่รู้

"อ้าว เพชร!"

"นังชุบ! คุณนทีด้วย ไปไงมาไงคะนี่"



ผู้ร่วมมื้ออาหารของทริปรับขวัญผมดูจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนจงใจมาเป็นพยานความเสียฟอร์มของผมให้ถ้วนหน้า เพื่อนของคุณเพชรผู้ท้องอ่อนๆ กับสามีที่เป็นคู่รักหนุงหนิงน่าอิจฉาเหลือเกินในสายตาผมพากันมาพักร้อนชมบรรยากาศ นัยว่าจะทำให้ลูกในท้องอารมณ์ดีตามแม่ไปด้วย เมื่อตอนบ่ายที่เราทั้งหมดไปเจอกันที่ศูนย์พยาบาลนั่นก็เพราะความอัธยาศัยดีของสามีเธอที่หกล้มไถลพื้นทรายจนตัวถลอกปอกเปิกตอนที่ไปร่วมเล่นบอลกับเด็กๆ ที่ชายหาดไม่ไกลจากรีสอร์ทที่พวกผมพักอยู่มากนัก

ร้านอาหารของรีสอร์ทที่เข้าใจจัดบรรยากาศริมทะเลกับชุดโต๊ะไม้ไผ่พร้อมเตาปิ้งบาร์บิคิวแบบช่วยเหลือตัวเองที่เราเลือกมานั่งกินฉลองการพบกันโดยบังเอิญของเพื่อนฝูงแลกกับการสังเวยหางคิ้วคนที่ถูกขโมยซีนอย่างผมนี้จัดได้ว่ามีกลิ่นอายความสบายในการพักผ่อนจริงๆ หากแต่ว่าคนขี้งอนจะสนใจผมให้มากกว่านี้อีกสักหน่อย น้องสาวจะคุยกับพี่ชายให้มากกว่าคนแปลกหน้าที่บังเอิญขอติดตามมาอีกนิด และไอ้คุณเพื่อนจะไม่มัวแต่ขายขนมจีบสาวให้มากเกินไปล่ะก็

"แล้วจะตั้งชื่อลูกว่าอะไรกันล่ะ ให้น้าสุตั้งให้หลานด้วยได้ไหม"

คุณสุดูท่าทางตื่นเต้นเหลือเกินกับทายาทตัวน้อยๆ ที่เป็นผลิตผลของคนอื่น

"คุณจะไปตั้งให้เขาทำไม ไว้คุณรอตั้งให้ลูกคุณดีกว่านะ ผมว่า แล้วถึงตอนนั้นผมจะช่วยคุณตั้งเอง" ไอ้พลทำกะลิ้มกะเหลี่ยสาวต่อหน้าประชาชีอีกแล้ว

"บ้า..." คุณสุชกแขนไอ้พลไปหนึ่งปึก ทำหน้าแดงพึมพำเบาๆ เฮ้อ ผู้หญิงนี่นะ เขินก็บ้า... อายก็บ้า...

"ต้องรู้ก่อนสิคะว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย จะได้ตั้งชื่อถูก" ก้อยขอแจมเรื่องคนอื่นอีกแล้ว

"เพิ่งสองเดือนกว่า ยังไม่รู้เลยครับว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ผมเชื่อว่าต้องเป็นลูกชายแน่ๆ ถ้าเป็นลูกชายผมก็จะฝึกให้หัดถ่ายภาพตั้งแต่มือถือกล้องเป็นเลยล่ะ เอ แต่คิดไปคิดมาก็ดี ถ้ามีลูกสาว ผมจะให้ลูกสาวผมไปฝึกทำขนมไทย แล้วเปิดร้านขนมไทย ตั้งชื่อร้านว่า ร้านลูกชุบ เออ เข้าทีแฮะ แต่เอ๊ะ... ถ้าชื่อลูกชุบก็จะไม่มีผมเกี่ยวสิ งั้น ลูกชุบในสายน้ำ ว้า เหมือนทำขนมตกน้ำแฮะ ไม่ดี อย่างนี้คงขายไม่ได้ อืม ถ้างั้นก็ให้ชื่อ อุบ!"

"เรื่องยาวเกินไปแล้วค่ะ เอาไว้ให้รู้ว่าลูกเป็นหญิงหรือชายก่อนดีกว่าไหม ค่อยมาว่ากันเรื่องต่อไปน่ะ" คุณลูกชุบส่งไข่เจียวหอยนางรมเข้าปากคุณนทีตอนทีเผลอ คาดว่าจะเป็นวิธีการปิดปากที่เธอใช้เวลาสามีเธอเมาน้ำลาย

"ว่าแต่คุณแทนสบายดีหรือเปล่าคะนี่ นั่งเงียบเชียว"

ขอบคุณครับคุณลูกชุบที่ยังอุตส่าห์แสดงความอาทรกับหมาหัวเน่าอย่างผม ทีคนอื่นไม่เห็นสนใจ สงสัยจะเป็นสัญชาติญาณของคนที่กำลังจะเป็นแม่

"ปกติดีครับ แค่ไม่รู้จะพูดอะไร ฟังคนอื่นคุยกันไปเพลินกว่า" ผมยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่ม ตอนแรกผมจะสั่งเบียร์แต่ใครไม่รู้จ้องผมตาวาวอย่างกับแม่เสือสาว ต้องรีบเปลี่ยนรายการกันแทบไม่ทัน

"ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น คุณนทีนี่ยังเหมือนเดิมเลยนะคะ คุยเก่งจริงๆ" คุณเพชรสำทับหนึ่งดอกก่อนเบี่ยงประเด็นอย่างรวดเร็ว

คนถูกทักเรื่องคุยเก่งกลืนไข่ลงคอเอื้อกใหญ่ ก่อนที่จะทำหน้าดำหน้าแดงเพราะไข่ติดคอให้คุณลูกชุบต้องรีบส่งน้ำให้ถึงปากพร้อมลูบหลังให้อีก ดูไปดูมาคู่นี้น่ารักดีจริงๆ ไม่ได้มีความสมบูรณ์แบบมาจากไหน แต่จากการกระทำที่ดูเอื้ออาทรต่อกันอย่างนั้นแล้วก็ทำให้รู้ได้เลยว่าเขารักกันจริงๆ ผมจะมีโอกาสได้มีบุญถูกคุณเพชรแสดงความรักอย่างนั้นบ้างหรือเปล่า โธ่เอ๋ย นั่งเชิดเมินผมอย่างนั้น

"ว่าแต่ ตกลงวันนี้พี่โรมชนะพี่แทนใช่ไหมคะนี่" น้องฝนถามคำถามแทงใจผมขึ้นมา

"ไม่หรอกครับ เกิดอุบัติเหตุก่อน การแข่งขันถือเป็นโมฆะ ต้องถือว่านั่นก็เป็นความผิดผมด้วยที่ไม่รู้จักดูคุณแทน ขนาดตกเรือไปใกล้ผมขนาดนั้นแท้ๆ กลับต้องให้เพชรออกไปช่วย" พ่อเทวดาแสดงความปรารถนาดีต่อมนุษย์โลกอีกแล้ว

"แต่ก็ถือว่าคุณรมย์ฝีมือไม่ธรรมดาเลยนะครับ ถ้าเกิดผมสภาพร่างกายพร้อมกว่านี้อาจต้องขอล้างตาอีกสักที"

"ยินดีเสมอครับ"

หนอย ยินดี ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน เฮอะ เดี๋ยวเจอของจริงแล้วจะหนาว

"แต่วันนี้พี่เพชรเท่มากเลยนะ ก้อยนะ มองตามตาค้างเลยตอนที่พี่เพชรวิ่งไปลากเจ็ตสกีของไลฟ์การ์ดออกมาสตาร์ทพุ่งออกไปกลางทะเลโน่นน่ะ โห ยังกะเจมส์บอนหญิง" น้องสาวผมทำตาเคลิ้มฝัน

"นั่นเป็นเพราะคนมันมีห่วงน่ะก้อย เวลาคนเราพะวักพะวนอยู่กับอะไรมากๆ ก็จะมีความสามารถทำได้ทุกอย่างแหละ"

"หมายความว่าไง ยัยสุ" คุณเพชรทำเสียงเข้มถาม เมื่อสังเกตได้ว่ามีกลิ่นไม่ชอบมาพากลในประโยคของเพื่อน

"เอ๊า ทำเองย่อมรู้เองสิ มาถามฉันจะรู้ไหม" คุณสุทำลอยหน้าลอยตาตอบเพื่อนที่สีตาเริ่มออกเขียวๆ

"หืม แล้วพี่เพชรห่วงอะไรอยู่ในทะเลหรือไงคะ ถึงต้องรีบออกไปอย่างนั้นน่ะ"

น้องฝนช่วยชงลูกส่งต่อ การมีสมุนเยอะๆ มันก็ดีอย่างนี้ ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่าหมาเริ่มหัวหอม

"ในทะเลมันจะมีอะไร มันก็มีแค่พี่โรม เรือเจ๊ต แล้วก็พี่แทนที่เพิ่งตกน้ำป๋อมแป๋มไปนั่นแหล่ะ อะไรมันน่าห่วงที่สุดล่ะ" แหม๊ น้องสาวผมแสนน่ารัก อยากจะคว้ามาจูบสักจ๊วบเป็นรางวัลจริงๆ

ไม่มีคำพูดอะไรมาตอบรับอาการสมุนรวมใจ แต่เธอกลับลุกขึ้นพรวดให้ใครต่อใครได้เอะอะ

"อ้าว นี่แกจะไปไหน" คนท้องอ่อนร้องถามเพื่อนที่จู่ๆ ก็เก้าอี้ร้อนขึ้นมา

"ไปห้องน้ำ เดี๋ยวกลับมา"

ผมยังนั่งเอ๋อดูคนหน้าเฉยชาลุกเดินออกไปเฉยๆ และอาจจะนั่งเอ๋ออยู่อย่างนั้นอีกครึ่งคืนหากไม่มีใครมาให้สติ

"คุณแทน ถ้าคุณไม่ตาม ผมจะไปเองนะ"

นายรมย์นั่นเอง คู่แข่งตัวฉกาจที่ผมตั้งป้อมยิงทั้งข้างหน้าข้างหลังรวมไปถึงปีกข้างกลับมองผมด้วยสายตารู้ทันและเปิดโอกาสให้เต็มๆ อย่างนั้น เรื่องอะไรผมจะปล่อยให้ใครคาบคุณเพชรไปเล่า เกิดปอดไม่สู้แล้วมาหยั่งเชิงผมงั้นเหรอ ไม่ยกให้หรอก

"เรื่องอะไร ผมก็ยังมั่นใจว่าผมเดินไวกว่าคุณแล้วกัน"

ว่าแล้วผมก็ต้องรีบลุกพรวดตามไปอีกคน เสียงคิกคักด้านหลังพร้อมแว่วๆ เสียงใครบางคนพูดยังลอยลมเข้าหูผมอยู่ไกลๆ แต่ได้ยินชัด

"ขอเจ้าแห่งทะเลช่วยดลใจให้คู่นี้สมหวังกันเสียทีเทิ้ดดด...สาธุ"


คุณเพชรไม่ได้เดินไปห้องน้ำอย่างที่บอก แต่กลับเดินเสไปทางสระว่ายน้ำสีครามที่มีชาวต่างชาติว่ายน้ำเล่นอยู่สองสามคนเท่านั้น เธอเดินเร็วๆ ในตอนแรกแล้วก็กลับลดระดับฝีเท้าลงจนยืนนิ่ง ผมก็แอบหยุดอยู่ห่างจากเธอไปไม่มากน้อย สงสัยว่าเธอคิดอะไรอยู่ จนกระทั่งเธอเดินอ้อมเลียบสระน้ำไปอีกด้านหนึ่งและทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้นอนยาวสีขาวสะอาด

เธอคงคิดอะไรใจลอยอยู่จริงๆ ขนาดว่าผมเดินมาถึงตัวแล้วยังไม่รู้สึกตัวสักนิด

"ไม่ทราบว่าตรงนี้มีคนนั่งหรือเปล่าครับ"

แหวะ น้ำเน่าจริงๆ กู แต่มันก็พูดออกไปแล้วนี่หว่า

คุณเพชรเหลือบตาขึ้นมองคนที่ถามอะไรไม่ได้เรื่องก่อนที่จะตอบด้วยความเคารพ

"ก็เห็นว่าเพชรนั่งหัวโด่อยู่คนเดียวแล้วจะถามหาใครล่ะคะ"

ไม่ได้การ เขาว่าเราต้องเอาน้ำเย็นเข้าลูบ วิ่งไปวักน้ำในสระสาดคุณเพชรเลยดีไหม อย่าเลย น่าอนาถเกินไป เอาเป็นว่านั่งเกลี้ยกล่อมอยู่ใกล้ๆ น่าจะเป็นความคิดที่ดีกว่า

"เพิ่งรู้ว่าคุณเพชรเรียกสระน้ำว่าห้องน้ำ ห้องน้ำบ้านคุณใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอครับ เผื่อไงวันหลังผมขอไปเยี่ยมชมมั่งนะ" จบมุกควายๆ ของผมเธอก็ค้อนให้วงโต

"ใช่ค่ะ ยิ่งห้องนอนเพชรนะ ใหญ่ยังกะสนามศุภฯ"

"งั้นวันหลังผมขอไปนอนค้างดูสักคืนนะ"

"คุณแทน เกินไปหน่อยแล้วค่ะ ถ้าพูดจาไม่น่าคบอย่างนี้เห็นทีจะคุยต่อไม่ได้ หรืออยากจะเป็นอย่างนายปวริศอีกคน" คุณเพชรคงโมโหจริงๆ ชกปากตัวเองโชว์ความจริงใจให้เธอดูสักทีท่าจะดีนะนี่ แต่เหมือนเก็บปากไว้ทำอย่างอื่นน่าจะดีกว่า

"ผมแค่ล้อเล่นน่า คุณเป็นอะไรไปครับ คุณเพชร ผมเผลอไปทำอะไรให้คุณอีกหรือเปล่า งอนผมบ่อยอย่างนี้ผมก็ง้อเหนื่อยแย่สิ" ต้องรีบเข้าโหมดฉอเลาะ งัดมาใช้ให้เต็มสตรีม มารยาสาไถอะไรเอามาใช้ให้หมดก๊อก

เธอมองหน้าผมนิ่งพักหนึ่งก่อนถอนหายใจยาวเหยียด

"เพชรนี่ก็ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ โมโหคุณแล้วพาลพาโลไปหมด อันที่จริงคุณก็ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยซ้ำ แค่คิดน้อยไปหน่อยเท่านั้น" มีทีท่าอ่อนลงก็จริง แต่เหมือนยังแอบกัดผมอยู่ให้พอเจ็บๆ คันๆ

"แล้วคุณเพชรโมโหผมทำไมเล่าครับ"

"จริงๆ แล้วที่พวกนั้นพูดกันมันก็ถูก เพชรแค่... เป็นห่วงคุณเท่านั้น ไม่อยากให้คุณเป็นอะไรไปอีก"

น่ารักครับ น่ารักมากๆ ยิ่งทำท่าอึกอักแต่พูดออกมาตรงๆ อย่างนั้นด้วยแล้ว

"ยิ่งรู้ว่ามีคนเป็นห่วงอยู่อย่างนี้ผมยิ่งไม่ยอมเป็นอะไรเป็นอันขาด คุณเพชรไม่ต้องกังวลใจไปหรอกครับ" นี่ ถือโอกาสคว้ามือมาจับไว้เสียเลยอย่ารอช้า เดี๋ยวตอนหน้าอวสานแล้วจะไม่ได้จับอีกบ่อยๆ (?)

"พรุ่งนี้เพชรคงต้องไปขอโทษคุณไลฟ์การ์ดนั่น วีนไปซะเยอะ" ทำหน้าสำนึกผิดได้น่ากอดจริงๆ เลยคุณเพชรของผมนี่น้า

"เขาไม่ว่าอะไรคนสวยๆ หรอกครับ อีกอย่างเขาคงคิดว่าคุณเป็นห่วงแฟนหนุ่มที่บาดเจ็บ"

"ฮื้อ ก็คุณไม่ใช่แฟนเพชรสักหน่อย มีแต่คนชอบเข้าใจผิด"

คุณเพชรทำบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ แต่แววตาเธอไม่ได้ตอบอย่างนั้น ผมมองออก ขนาดผมเอามือเธอมาจับไว้หลวมๆ ยังไม่เห็นสะบัดหนีไปเลย

"งั้นก็ทำให้ใช่เสียทีสิครับ คนอื่นเขาจะได้เข้าใจให้ถูกกันเสียที" ผมหยุดนิดหนึ่งให้คนที่ตวัดสายตามาจ้องผมนิ่งด้วยท่าทางที่ดูเหมือนจะอึ้งๆ ไปกับคำพูดเปิดเผยของผมได้ปรับสภาพสมองและอารมณ์ให้พร้อมรับสิ่งที่ผมกำลังจะบอกออกไป

"คุณเพชรครับ คบกับผม เป็นแฟนผมนะ ผม...รักคุณ"

ประโยคสุดท้ายผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้เพื่อกระซิบข้างหูให้มั่นใจว่าเธอได้ยินแน่นอน กลิ่นหอมจากกายเธอช่างยั่วยวนจมูกดีๆ ของผมจัง

แต่พอถอยห่างออกมาดูผลจากฝีมือตัวเองแล้วก็ให้ขำ สีหน้าคุณเพชรดูเหวอเหรอหราน่าดู อาการค้างทั้งปากทั้งตานั่นก็ทำให้ผมต้องเรียกชื่อเรียกสติเธอคืนมา

"คุณเพชรครับ"

"อือ ขะ คะ" เธอกระพริบตาปริบๆ สองสามทีพร้อมขานรับชื่อตัวเองเบลอๆ นั่นยิ่งทำให้ผมอดใจไม่ไหวไม่สนใจฝรั่งหัวแดงสองสามคนตรงนั้นโดยการเอียงหน้าเข้าหอมแก้มนุ่มคนน่ารักให้ชื่นใจสมกับที่อดใจไว้นานเหลือเกิน

"เอาคืนที่คุณเคยแอบหอมแก้มผมตอนนอนซมอยู่" แถมบอกความลับให้อีกหน่อยก็ได้เอ้า

"อะ คุณรู้!" คุณเพชรทำท่าตกใจ ยกมือขึ้นแตะแก้มตัวเองที่ค่อยๆ ขึ้นสีแดงอย่างเห็นได้ชัด

"ฮะ ฮะ ก้อยบอกผมหมดแล้ว อันที่จริงคุณไม่ต้องแอบหอมแก้มผมทีเผลอก็ได้ มาตอนมีสติอย่างนี้ผมก็เต็มใจ ยกให้คุณทั้งเนื้อทั้งตัวเลย อยากทำอะไรผมก็ยอมให้หมดเลยเอ้า" ก็ความเซ็กซี่ของผมน่ะมันห้ามได้ที่ไหน เกิดเร้าใจใครจะไปอดอยู่ ผมเข้าใจน่า

คุณเพชรกัดริมฝีปากแน่นแต่เหมือนกับพยายามกลั้นยิ้มอยู่ในที เฮ้อ โล่งใจจัง ผมทำสำเร็จแล้วใช่ไหม

"ตกลงเป็นแฟนกับผมได้ไหม คุณยังไม่ตอบผมเลย" ทวงครับ ต้องทำให้ชัด

"ป่านนี้แล้วยังจะถามเพชรอีก" ยัง ยังทำเลี่ยง

"ไม่เอา คุณต้องตอบให้ชัด โทษฐานที่ชอบดุผม ทำผมเสียฟอร์มว่าหงอสาว"

"อึก...เพชร..." เอาละ ใจเย็นนิดไอ้เสือ ใกล้แล้ว "เพชร...ตกลงค่ะ" เท่านั้นผมก็คว้าเอาเธอมากอดแน่นๆ โดยไม่รอขออนุญาตใดๆ ทั้งสิ้น

"บอกรักผมด้วย ผมอยากฟัง" แล้วความบ้าอำนาจก็เข้าครอบงำ

"อะไรเล่า เพชรก็เคยพูดไปแล้วนี่ คุณก็ได้ยิน"

"นั่นไม่นับ ต้องพูดกับผม ตรงๆ ชัดๆ เร็ว!"

"คุณแทนน่ะ! ทำไมเพชรต้องพูดอีกเล่า ไม่เอาหรอก" พยายามจะดันอกผมออกพร้อมอาการงอแงเหมือนเด็ก ให้ตาย สาวมั่นที่เคยทำท่าก๋ากั่นเปรี้ยวจี๊ดก็เขินได้น่ารักกะเขาเหมือนกันแฮะ

"ไม่พูดผมจูบ"

"เพชรรักคุณแทนค่ะ"

รวดเร็วแทบไม่หายใจเลยครับ ไม่รู้ว่ากลัวผมจะทำอย่างที่พูดจริงๆ หรือเปล่า แต่ว่า...

"ถึงพูดแล้วผมก็จูบอยู่ดี"

ทันทีที่พูดจบผมก็ทำอย่างที่บอกออกไป ไม่ได้หรอก เดี๋ยวโดนหาว่าไม่ใจ ลูกผู้ชายคำไหนต้องคำนั้น ริมฝีปากอุ่นอ่อนนุ่มที่สัมผัสกับริมฝีปากของผมนั้นมันช่างหวานเสียเหลือเกิน หากแต่แค่นั้นมันก็ยังไม่เพียงพอ เพียงแค่คุณเพชรเผลอเปิดปากอีกนิดผมก็ขอแทรกเข้าไปหาความอ่อนหวานนั้นอีกสักหน่อยให้สมกับความที่ต้องใช้น้ำอดน้ำทนและฝึกตบะอันแก่กล้ามานาน มันเป็นความรู้สึกที่ยากเกินกว่าจะบรรยายจริงๆ ยากเกินกว่าที่จะถอนจุมพิตนั้นออกมาได้ง่ายๆ

เมื่อผมถอนริมฝีปากออกมาอย่างเสียดายก็ได้พบกับดวงหน้าสีชมพูระเรื่อกับแววตาหวานล้ำที่ผมเชื่อว่านั่นมีไว้ให้กับผมคนเดียว โชคดีจริงๆ ที่ชาวต่างชาติแถวนี้ไม่มีใครสนใจคนไทยสองคนที่เกิดพิศวาสกันขึ้นมา สำหรับเขามันคงเป็นเรื่องแสนจะธรรมดา ขอบคุณครับทุกท่าน

คาดว่าการจูบดูดดื่มของคนที่กระหายมานานอย่างผมคงจะดูดพลังชีวิตคุณเพชรไปเสียหมดเธอถึงได้ซบกับอกผมนิ่งอย่างนั้น ไม่เป็นไร จะให้ซบอยู่อย่างนี้ทั้งคืนผมก็ไม่ว่า ต่อให้ยุงพวกนี้จะบินมาทิ่มขาผมอีกกี่ตัวก็ตาม (อูย คัน)

"ทีนี้ก็ห้ามไปประกาศปาวๆ ที่ไหนว่ายังไม่มีแฟนอีกแล้วรู้รึเปล่า ให้บอกว่าแฟนคุณชื่อแทนธรรม์ กำลังรักกันมาก หนุ่มหน้าไหนก็ห้ามมาเกาะแกะคุณเด็ดขาด ไม่งั้นเจอผมแน่"



ป่านนี้ทางโต๊ะอาหารนั่นคงนั่งสงสัยว่าคุณเพชรไปเข้าห้องน้ำถึงไหนถึงได้หายไปเป็นชั่วโมง คนไปตามก็พลอยหายไปด้วย ก็ในเมื่อได้ใจสาวมาเก็บไว้คนเดียวทั้งทีก็ขอแอบจู๋จี๋กันสองคนหน่อยเหอะ ทริปนี้มันเพื่อผมนี่นะ

เราสองคนตัดสินใจอ้อยอิ่งโรยน้ำตาลอยู่ริมสระโดยผมก็รู้หน้าที่สั่งไวน์มาเปิดฉลองแทนแชมเปญอย่างที่ควร ก็ผมมันหุ้นส่วนบริษัทส่งออกไวน์ เรื่องอะไรจะไปอุดหนุนแชมเปญของคนอื่นเล่าครับ ในเมื่อทุกอย่างราบรื่นขนาดนี้ สิ่งสุดท้ายปักหลังผมอยู่ก็น่าจะถึงเวลาดึงออกเสียที แต่ครั้นจะดึงออกไปแรงๆ ก็กลัวว่าจะเสียเลือดเสียเนื้อมากไป กล่อมให้คุณเพชรเคลิ้มสักหน่อยค่อยบอกความจริงน่าจะไม่สาย

"คุณเพชรรู้ไหมครับว่าทำไมขวดไวน์ถึงมีหลุมอยู่ข้างใต้ขวด" ผมถามคนที่กำลังจิบไวน์แดงรสชาติดีที่ผมเลือกเฟ้นมาให้จากรายการไวน์ที่รีสอร์ทมีอยู่ แน่นอนว่าต้องเป็นไวน์ไทยที่เป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจของผม

"ไม่รู้สิคะ ไว้เอาเปรียบผู้บริโภค?"

"เปล่าเลยครับ ที่ก้นขวดของไวน์น่ะ มันจะมีหลุมที่บุ๋มเข้าไปในขวดเพื่อดักตะกอนของไวน์ที่อาจเกิดขึ้นได้ตามกรรมวิธีการผลิต หลายคนที่ไม่รู้มักคิดอย่างนั้น"

"หมายความว่า ยิ่งขวดไวน์บุ๋มเข้าไปลึกเท่าไหร่ ไวน์จะยิ่งดีหรือคะ"

"ไม่ใช่ครับ ไวน์จะดีหรือไม่ดีมันไม่ได้ขึ้นกับการบุ๋มของขวด ยิ่งขวดมีหลุมลึกนั่นแสดงว่าความสามารถในการดักตะกอนก็ดีกว่าเท่านั้นเอง"

คุณเพชรพยักหน้าหงึกหงักว่าเข้าใจดี ก่อนที่จะจิบไวน์เข้าไปอีกอึก อืม เธอเริ่มคล้อยตามแล้ว

"ซึ่งนั่นหมายความว่า หลายๆ อย่างที่คุณเห็นและคิดมันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้น สิ่งที่คุณคิดว่ามันไม่ดี มันขี้โกง มันอาจจะมีจุดประสงค์ของตัวมันเองที่เกินกว่าคุณจะรับรู้มันได้หากไม่มีใครมาบอก และหากมีใครมาพูดอะไรให้คุณไขว้เขว คุณอาจจะต้องใช้ใจในการแยกแยะอีกสักหน่อยถึงจะรู้ว่าคุณจะรับที่จะเชื่อในสิ่งไหน สิ่งที่ตาเห็นหรือได้ยินมันอาจไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้"

คุณเพชรพยายามฟังผมนิ่งๆ บางทีผมอาจจะพูดจาวกวนเกินไปไม่กล้าเข้าประเด็น

"คุณแทนพยายามจะบอกอะไรกับเพชรคะ" เธอวางแก้วไวน์ลงกับโต๊ะกลมที่มีกระจกใสวางพาดเป็นพื้นโต๊ะเบาๆ ก่อนที่จะตั้งใจถาม เธอฉลาดอย่างที่คาดจริงๆ

"คุณเพชรครับ มีเรื่องที่ผมอยากบอกมานานแล้ว คือ..." จู่ๆ ผมก็พูดไม่ออกเสียอย่างนั้น บางทีไอ้ขี้ขลาดอย่างผมต้องโดนกระตุ้นด้วยแอลกอฮอล์อีกหน่อย

"นี่ เพชรให้คุณดื่มได้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยให้คุณเมานะ" คุณเพชรท้วงทันทีที่ผมยกแก้วไวน์ของตัวเองกรอกลงคอทีเดียวจนหมด

"คือ จริงๆ แล้วผมไม่ได้เป็น..."

"คุณสุ! ฟังผมก่อน"

ปัดโธ่เว้ย! มารที่ไหนมาผจญอีก คนกำลังจะได้พูดอยู่แล้ว เสียมู้ดหมด

เสียงเอะอะตรงริมสระอีกด้านหนึ่งทำให้หลายคนหันไปดูว่าเกิดจลาจลอะไรขึ้นรวมทั้งผมและคุณเพชร เห็นคุณสุเดินก้าวพรวดๆ อย่างคนมีอารมณ์หนีไอ้พลที่วิ่งตามมาติดๆ จนคว้าแขนคุณสุไว้ได้ แต่สุดท้ายมันก็ต้องปล่อยเมื่อเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังฉาดใหญ่ที่เกิดจากฝ่ามือคุณสุปะทะเข้าที่ซีกหน้ามันดังข้ามสระมาถึงนี่

เหวย นี่มันเกิดอะไรกันขึ้น คุณสุถึงได้โกรธมากขนาดนั้น

"สุ มีอะไรกัน" คุณเพชรร้องถามออกไปก่อนที่จะรีบลุกรับคุณสุที่หันมาเห็นคุณเพชรเข้าแล้วเปลี่ยนเส้นทางตรงมาทันที

"เพชร ไม่เอาแล้ว ฉันจะกลับ จะกลับจริงๆ ด้วย" คุณสุโผเข้ากอดคุณเพชรพูดเสียงสั่นเครือ ตายละหวา ไอ้พลไปทำอะไรเข้าคุณสุถึงได้ร้องห่มร้องไห้มาอย่างนั้น

"เดี๋ยวก่อน ใจเย็น ทะเลาะอะไรกันทำไมต้องทำรุนแรงถึงขนาดนั้น" คุณเพชรตบไหล่ตบหลังเพื่อนเบาๆ พยายามตะล่อมหาที่มาที่ไป ไอ้พลมึนลูกตบอยู่ไม่เท่าไรก็วิ่งตามมาได้ทัน

"คุณสุ ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้" ไอ้พลทำหน้าเหมือนบ้านไฟไหม้ตามมาละล่ำละลักพูด นี่มันไปนอกใจกับสาวละอ่อนที่ไหนให้คุณสุจับได้รึเปล่า ไหนว่าเลิกไปหมดแล้วไง ไอ้บ้านี่

"คุณตั้งใจ! ไม่ฟังอะไรทั้งนั้นแล้ว" เธอยังมีแรงผละจากคุณเพชรมาตวาดกลับแล้วสะบัดหน้าหนีอีกที ผมรู้แล้วว่าสองสาวนี่เป็นเพื่อนกันได้ยังไง

"ไม่นะ คุณฟังผมหน่อยเถอะ เรื่องในคืนนั้น..."

"คืนไหน ทำไม เกิดอะไรขึ้น คุณทำอะไรเพื่อนฉัน" เอาแล้ว คุณเพชรทำท่าปรับเข้าโหมดนางมารอีกแล้ว ไอ้บ้าพลเอ้ย ปากมอมแท้ๆ พูดอะไรไม่ผ่านสมองก่อนเล่าว้า

"ไม่ เพชร ฉันไม่อยากได้ยินอะไรอีกแล้ว ฉันจะกลับ ที่นี่มีแต่คนหลอกลวง กลับกันเถอะเพชร"

อ้าวๆ เรื่องอะไรจะให้คู่รักทะเลาะกันมามีผลกับแฟนหมาดๆ ของผมเล่าครับ พากลับได้ยังไง

"เอ่อ ผมว่าคุณสุลองทำใจเย็นๆ ลองฟังเหตุผลไอ้พลมันดูหน่อยไม่ดีกว่าหรือครับ อย่าผลีผลามไปเลย มันไม่ดีหรอก"

"คุณมันก็เหมือนเพื่อนคุณนั่นแหล่ะ คุณก็หลอกเพชรอยู่เหมือนกัน!"

เฮ้ย!

"ว่าไงนะสุ คุณแทนหลอกอะไรฉัน" ผมใจหายวาบ ไม่นะ ผมไม่ได้ต้องการให้คุณเพชรรู้ความจริงแบบนี้

"เอ่อ เพชร ฉัน" เหมือนคนที่ฟูมฟายอยู่จะเริ่มฉุกใจคิดได้ว่าตัวเองหลุดอะไรออกไปตอนไม่ได้สติ คุณสุปล่อยแขนจากเพื่อนแล้วทำท่าอึกอัก

"สุ ว่าไง เขาหลอกอะไรฉัน"

"คุณเพชร อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้เลยครับ นะ คุณสุ นั่งลงพูดจากันก่อน" ผมพยายามสุดความสามารถในการดึงให้ระดับอารมณ์ทุกคนเข้าสู่ปกติ หากพลาดไปก้าวเดียวก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรกับผมบ้าง

"ยัยสุ! บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ แกรู้อะไร"

สถานการณ์เปลี่ยนไปราวพลิกฝ่ามือ เมื่อตัวแสดงเอกเปลี่ยนจากคุณสุไอ้พลมาเป็นผมกับคุณเพชร โธ่ ช่วยมาเปลี่ยนบทกันตอนเข้าเลิฟซีนได้ไหม ฉากอย่างนี้ผมรับไม่ได้

คุณสุชักมีอาการร้อนตัว เหลือบมาสบตาผมแวบหนึ่งและผมก็ส่งสายตาบางอย่างกลับไปให้รู้ว่า อย่าเชียว อย่าได้พูดอะไรออกไปให้เรือเสียตอนนี้ เรือผมกำลังนั่งพายมากับคุณเพชรดีๆ อย่าให้เธอลุกขึ้นมายิงเรือทิ้งเสีย สถานการณ์กำลังตึงเครียดยิ่งกว่าการแบ่งแยกดินแดนในบางภูมิภาคของประเทศ ผมก็เห็นใครอีกหลายคนที่ลักษณะคุ้นตา ทั้งหมดกำลังเร่งฝีเท้าเข้ามาในจุดเกิดเหตุ

"อาจารย์สุ..." ก้อยวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหยุดข้างๆ อาจารย์ที่ปรึกษาพร้อมกับน้องฝนที่มาหยุดห่างออกไปนิดหนึ่ง น้องสาวมองหน้าผมสลับกับคุณเพชรแล้วกลับมาส่งคำถามทางสายตาให้คุณสุที่กำลังยกมือขึ้นปิดปากอย่างลืมตัว

"สุ เพชร มีอะไรกัน ทำไมถึงได้ทำหน้าเครียดกันอย่างนั้น" เพื่อนสาวอีกคนของกลุ่มเดินเข้ามาตามการประคับประคองของสามีที่ออกจะดูห่วงภรรยาตัวเองมากจนเกินพอดี แต่ดูเหมือนคุณเพชรจะสนใจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

"สุ ฉันขอให้แกบอกฉันมาเดี๋ยวนี้ คุณแทนหลอกอะไรฉัน"

น้ำเสียงเย็นเยียบนั้นกรีดเข้าขั้วหัวใจผมจนขนลุกซู่ อย่าเลย อย่า...

"เพชรฉัน ฉัน...ขอโทษ อย่าโกรธฉันนะ" คุณสุกำลังพ่ายสายตาเพื่อนสาว ผมแทบหมดแรงแล้วในตอนนี้

"อะไร ทำไมฉันต้องโกรธแก หมายความว่ายังไง หรือแกก็หลอกอะไรฉันอยู่"

"พะ เพชร ใจเย็นแล้วฟังนะ คุณแทนไม่ได้เป็นเกย์ เขาไม่เคยแม้แต่คิดจะเป็นเกย์ คุณพลไม่ได้เป็นคู่ขา พวกเราแค่จัดฉากให้เขาได้ใกล้ชิดแกเท่านั้น"

สิ้นเสียงอธิบายของคุณสุ โลกทั้งโลกก็เหมือนกับจะหยุดหมุน คุณเพชรนิ่งสนิท นิ่งและเงียบเหมือนก่อนคลื่นยักษ์จะซัดเข้าฝั่งอย่างไม่รู้ตัว เสียงหายใจเฮือกของใครบางคนดังขึ้นเหมือนตกใจเต็มที่ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา แม้แต่ผมที่อยากจะอธิบายให้เธอฟังทุกอย่าง ทุกๆ อย่าง แต่ผมก็ไม่สามารถพูดมันออกมาได้ หัวใจผมมันเหมือนกำลังโดนบีบคั้นให้จนแต้ม แถมยังหาทางออกไม่ได้

"พวกเรา..." คุณเพชรสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนพูดออกมาอีกครั้ง "ที่แกบอกว่าพวกเรานั่นหมายความว่าไม่ใช่แค่แกเท่านั้น...ก้อย" เธอหันมาสบตาน้องผมที่สะดุ้งรับสายตากรีดแทงนั่นอย่างทันควัน ก่อนที่จะไล่สายตาไปถอนเอาชนักที่หลังทุกคนออกอย่างเจ็บแสบ

"คุณพล ฝน...มีอะไรที่พี่ยังต้องรู้อีกไหม"

"คือ ฝน ขอโทษค่ะ เรื่องนั้น มันเป็นแผนทั้งหมด เราตั้งใจให้พี่เพชรร้อนใจ แม้แต่พี่แทนเองก็เพิ่งรู้ อย่าโกรธพี่แทนเลยนะคะ" ถึงไม่ต้องบอกผมก็รู้ว่าฝนหมายถึงเรื่องไหน ไม่มีอะไรจะทำร้ายจิตใจกันได้ขนาดนี้อีกแล้ว

"อ้อ สรุปว่าทุกคนฉลาดหมด มีแต่ฉันคนเดียวที่โง่ ใช่ไหมสุ ใช่ไหมคะ คุณแทน" คุณเพชรหันมาสรุปคำถามกับผมด้วยสีหน้าและน้ำเสียงราบเรียบแต่เย็นเยือกจนผมหวั่นใจ ไม่ใช่ ถ้าคุณเพชรโกธร เธอต้องโวยวายสิ ไม่ใช่นิ่งและเย็นจนผมไม่รู้จะทำยังไงแบบนี้

"พี่เพชร ทั้งหมดมันเกิดจากก้อยเอง ถ้าจะมีใครต้องรับโทษ ก็ขอให้เป็นก้อยนะคะ ทุกอย่างก้อยเป็นต้นคิดทั้งหมด ทุกเรื่อง...ก้อยขอร้อง อย่าโกรธพี่แทนเลย" น้องสาวผมเกาะแขนอ้อนวอนคุณเพชรด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ทั้งตาทั้งจมูกเป็นรอยแดงพร้อมทั้งน้ำตาคลอหน่วยจวนเจียนจะหยดลงมาอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนสิ่งที่น้องผมพยายามจะไม่เป็นผลสำเร็จเมื่อคุณเพชรค่อยๆ แกะมือก้อยออกจากตัวเหมือนไม่ต้องการให้มันมาสัมผัสแม้แต่นาที และการกระทำอย่างนั้นก็ทำให้ก้อยปล่อยโฮออกมา

คุณเพชรไม่สนใจน้องสาวผมที่ต้องมีเพื่อนมาปลอบใจทั้งที่ตัวเองก็ตาแดงๆ เธอหันมามองหน้าผมนิ่งด้วยแววตาว่างเปล่า ตอนนี้ผมรู้ตัวดีว่ากำลังจะถูกลงทัณฑ์ ผมรู้ตัวดีว่าผมเท่านั้นที่ผิด ต่อให้ใครอีกกี่ร้อยคนจะมาวางแผนให้ผม แต่คนที่ผิดที่สุดก็คือผมเอง ค่าที่ไม่รู้จักคิด ค่าที่ไม่ใจแข็ง ค่าที่ทำร้ายได้แม้แต่คนที่รัก

เกินกว่าที่ใครจะคาดคิด คุณเพชรเงื้อมือขึ้น ผมทำใจรับไว้แล้ว หากถูกคุณเพชรตบสักทีก็อาจจะช่วยให้สมองงี่เง่าของผมเข้าที่บ้างก็ได้ ผมหลับตาแน่น แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันยิ่งกว่านั้น ยิ่งกว่าการตบหน้าแรงๆ

เธอคว้าคอผมมาจูบ!

เนิ่นนาน จูบที่สร้างความอ่อนหวานอย่างที่สุด จูบที่ทำให้หัวสมองผมอื้ออึง ไม่รับรู้สรรพสิ่งใดรอบตัว และผมก็อยากจะให้มันยาวนานอยู่อย่างนั้น หากแต่ว่ามันคงเป็นได้แค่ฝัน เพราะผมต้องลืมตามาพบกับความเป็นจริงที่ว่า...

เธอถอนริมฝีปากที่ประทับความหวานทั้งหมดทั้งมวลออกอย่างเชื่องช้า ยิ้มให้กับผม แต่มันไม่ใช่ยิ้มที่ผมหลับตาแล้วหวังว่าจะลืมตามาเจอ ยิ้มที่มาพร้อมแววตาเยาะหยัน ยิ้มที่เต็มไปด้วยไฟแห่งความเจ็บแค้น

"คุณแทนธรรม์ ฉันขอให้คุณจำความรู้สึกนี้ไว้ให้ดี เพราะคุณจะไม่มีวันได้รับมันอีกต่อไป!"

******************************************************
<จบตอนที่สิบเก้า ว่าว ว่าว ว่าว ว่าว...>

อะนะ

ครั้งที่แล้วก็ต้องขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ คุณ oolong, คุณ 2in1 คุณเทียนสี มาเยี่ยมบ้าน และคุณ boyblackcat ที่แวะเข้ามาทักทายกันนะคะ

ตอนนี้นี่เขียนด้วยอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ตามตัวละครไปเลยแหล่ะ แล้วตอนหน้าก็จะเป็นตอนจบแล้วค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ

เจอกันตอนจบ บุญรักษาค่ะ



Create Date : 01 กันยายน 2551
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2552 2:27:31 น. 5 comments
Counter : 403 Pageviews.

 
จะจบแล้วเหรอคะ เร็วจัง


โดย: redclick วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:20:52:03 น.  

 
หวานได้แค่สามสี่บรรทัด กลับมาโกรธกันอีกแล้ว



โดย: บู้บี้ IP: 123.225.214.235 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:22:53:07 น.  

 
ว้าเสียดายจัง
ไม่น่าเลยคุณพล ไปหาเรื่องทะเลาะอะไรก็ไม่รู้
คุณแทนเลยซซยเลย น่าฉงฉาน


โดย: dena IP: 203.155.149.89 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:7:51:59 น.  

 
มาเยือนยะเยี่ยมถิ่น คนดี
หอบฝากสันธไมตรี มาให้
แม้มิอาจมากมี เทียมอื่น
แต่สุขใจที่ได้ อยู่เทียบเคียงกัน


โดย: คนมีแผลพ่อแม่ไม่รัก IP: 58.9.110.16 วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:6:46:46 น.  

 
แล้วกัน!!

= =


โดย: RuNz วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:20:29:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BestChild
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ไม่ใช่คนเลว แต่ไม่ใช่คนดี
ไม่ใช่คนมีน้ำใจ แต่ไม่ได้เห็นแก่ตัว
ไม่ใช่คนใจร้าย แต่ไม่ใช่ผู้หญิงใจดี
ไม่ได้ต่อต้านใคร แต่ไม่ใช่คนยอมคน
รับรู้ในตัวตน และไม่สนใครจะว่าอย่างไร
รู้จักให้อภัย แต่ไม่ใช่ไม่รู้จักแค้น
เป็นผู้หญิงแท้ที่ชอบโชว์แมน แต่ความจริงแสนจะอ่อนโยน O_o!!!


~ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ~


"...มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่เรียนรู้จากความผิดพลาด ไม่มีใครเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกต้องเสมอไปในโลกใบนี้ หากจะมีก็ให้ไอ้คนนั้นมันไปเป็นเทวดาเสีย อย่ามาเป็นคนให้เสียชาติเกิดกันเลย"

โรม / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ







"คนที่บอกว่าคุณไม่สวยคือคนที่ไม่ได้มองคุณรู้ไหม ถ้าหากเพียงมองคุณดีๆ รู้จักมองให้ถึงความเป็นตัวคุณแล้วก็จะรู้ว่าคุณน่ะสวย..."

ยอด / ผมก็เป็นพระเอกคนหนึ่ง







จิ๊กซอว์ที่ต่อกันได้พอดีทั้งสองฝ่ายมันไม่ใช่สิ่งที่จะซื้อหาง่ายๆ เมื่อได้มันมาแล้วต้องรักษามันไว้ให้ดี อย่าทิ้งขว้างเหมือนเป็นสิ่งที่หมดค่า เพราะรู้ไหม ว่าหากแกปล่อยมันหลุดมือไปแล้วความสูญเสียจะเทียบไม่ได้กับอะไรทั้งนั้น"

อวิกา / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ






"...ไอ้ผู้ชายมาดแต๋วที่พี่ก่นด่านักหนาตรงหน้านี่นะ...เท่าที่รู้จักมา บอกได้คำเดียว...โคตรแมนเลยเว้ยค่ะ"

นงนุช / แมน







คุณค่าที่ว่า ความรู้สึกในทุกๆ ใบหน้าของคนในรูปคือ 'ความสุข' ไม่เห็นจะต้องมีองค์ประกอบเป็นฉากสวยงาม

ลูกชุบ / สาวติสท์แตกกับหนุ่มไฮเปอร์







"...คุณกับผมอาจดูต่างกัน คุณเชื่องช้า ผมว่องไว คุณใจเย็น ผมใจร้อน คุณชอบจดจ้องและลากเส้น แต่ผมชอบมองผ่านเลนส์และกดชัตเตอร์ แต่รู้มั๊ยในจุดประสงค์ของทั้งหมดมันคือสิ่งเดียวกัน..."

นที / สาวติสท์แตกกับหนุ่มไฮเปอร์







"มันเป็นแค่ความทรงจำ จะดีหรือร้าย เราไม่สามารถลบมันออกไปได้ เก็บมันไว้ในอดีตและเดินต่อไปยังอนาคตข้างหน้า ปล่อยให้ความทรงจำเป็นเพียงแค่ความทรงจำ"

Matsumura Ryo / Hiroshima eki สถานีแห่งความทรงจำ








"...บางทีสิ่งที่แกเห็นมันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ เหรียญยังมีสองด้านได้เลยแก ประสาอะไรกับใจมนุษย์เล่า มันขึ้นอยู่กับว่าแกเลือกที่จะรับมันทุกด้านหรือเปล่า หากแกเลือกที่จะรับไว้เพียงด้านเดียวแล้วทุกข์ไปตลอดชีวิตน่ะมันคุ้มกันไหม..."

ลูกชุบ / เพราะเธอ...เลอค่าอมตะ









เฮ้อ... ผู้ชาย ไม่มีไม่ตาย แต่อยากได้สักคนแฮะ

"ฉัน"/ ท้องฟ้า หาดทราย สายลม ผมกระเจิง




ฝากคำทักทายไว้ด้วยจิ...รักตายเลย




ShoutMix chat widget




BestChild ในคอลัมน์นักเขียนรับเชิญ ลายปากกา 2009

BestChild ในคอลัมน์ "ลายรัก" ลายปากกา 2010




Friends' blogs
[Add BestChild's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.