ติดปีกความคิดถึง : และพาไปสักการะศาลหลักเมืองจังหวัดตรังเป็นตอนที่ 13
| | | |
เป็น POSTCARD ที่อุ้มได้รับมา จากปลายเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายนศกนี้ค่ะ ขอบคุณมิตรภาพดีดี ที่ถึงแม้ฝนตกน้ำท่วมก็ยังส่งมาให้สม่ำเสมอ ขอบใจจ๊ะ
3 ฉบับนี้มาจากน้องหนึ่ง Chenyuye ที่น้องหนึ่งเก็บตกจากการเดินทางมาฝากค่ะ ฉบับเจดีย์ชเวดากองจากประเทศเมียนมาร์ จากทุ่งนาข้าวอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน และเส้นจันทน์ผัดปู จ.จันทบุรี แหล่มและซาบซึ้งเสมอขอบใจจ๊ะน้องหนึ่ง
2 ฉบับนี้มาจากน้องอาคุงกล่องค่ะ เป็นภาพที่น้องกล่องถ่ายภาพมาเองเลยล่ะ ที่สำคัญมีโลโก้ให้รู้ว่าเป็นน้องกล่องตัวจริงเสียงจริง ขอบใจจ๊ะ
ภาพดอกบัวนี้ มาจากน้องชะเอมหวาน จ.สกลนครเจ้าค่ะ ขอบใจจ๊ะ
น้องชะเอมเขียนบอกเล่าเรื่องราวได้แหล่มค่ะ อ่านเอาเองเลยจ้า
3 ฉบับนี้มาจากน้องกะว่าก๋า จ.เชียงใหม่ค่ะ ขอบใจจ๊ะ งานสัปดาห์หนังสือนี่หมื่นตาฉบับที่ 3 จะวางขายใช่ไหมเอ่ย ??? ชอบข้อความน้องก๋าที่น้องก๋าเขียน และวาดภาพประกอบมาจังเลยล่ะ
ขอบใจสำหรับมิตรภาพดีดีที่มีให้เสมอจ้า แหล่มค่ะแหล่ม
| | | | |
| | | |
ว่าแล้วก็เข้าสู่ตอนที่ 13 ต่อไปเน๊าะ หลังจากเครื่องบินแตะรันเวย์จังหวัดตรัง รถตู้คันนี้แล่นมาจอดเทียบรอรับพาเที่ยวค่ะ พอเก็บสัมภาระไว้ที่โรงแรมศรีตรังกันแล้ว ล้อก็หมุนพาทะยานสู่ศาลหลักเมืองในบัดดล
แต่เพราะหลังเต่าเยอะและรถตู้โหลดต่ำ เลยมีเหตุขัดข้องเล็กน้อย
ทำให้ต้องเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์สองข้างทาง แต่อุปสรรคหรือจะมาสู้ศรัทธาอันแรงกล้า ที่พวกเราจะมาสักการะศาลหลักเมืองจังหวัดตรัง
ดังนั้น รถตู้ก็กลับมาวิ่งฉิวดีดังเดิม พาออกทริปทัวร์ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งวัน วิ่งมาถึงศาลหลักเมืองจงได้เลยค่ะ
ซึ่งคุณวิ ชยานันท์ แก่นแก้ว ผู้ช่วย ผอ.ททท. จังหวัดตรัง พาไปสักการะ นั่นก็คือศาลหลักเมือง ขอ-บอกว่า เมื่อมาถึงเมืองตรังแล้วอย่าลืมเด็ดขาดนะคะ ขอบคุณการท่องเที่ยวฯ จังหวัดตรังที่พาเที่ยวค่ะ
กล่าวกันว่าในปี พ.ศ. 2354 มีการตั้งเมืองตรังและมีการตั้งศาลหลักเมืองตรังปัจจุบัน ตั้งอยู่ที่ตำบลควนธานี อำเภอกันตัง สถานที่ตั้งตรงจุดนี้อยู่บริเวณที่ตั้งเมืองเก่า นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ที่น่าไปเยี่ยมเยือนและสักการะยิ่งนักค่ะ
จากหลักฐานของการสร้างศาลหลักเมืองตรัง เป็นเพียงการบอกเล่าของเชิงตำนาน ที่ถ่ายทอดกันมาในหมู่ชนชาวตรังรุ่นเก่า ศาลหลักเมืองแห่งนี้ มีวิญญาณอภิบาลเป็นสตรี จึงเรียกกันว่าศาลเจ้าแม่หลักเมือง เนื่องจากสมัยก่อนในพิธีตั้งศาลหลักเมืองนั้น พระอุภัย (พระอุไภยราชธานี) บางแห่งเรียกว่าพระอุไทย เจ้าเมือง (ผู้ว่าราชการเมืองในสมัยนั้น) ให้ทหารตีฆ้องร้องป่าวไปตามบ้านต่างๆ ถ้าผู้ใดขานรับให้นำตัวมาฝังในการตั้งศาลหลักเมือง ชาวบ้านส่วนใหญ่รู้เรื่องเข้าจึงไม่ยอมขาน แต่หญิงมีครรภ์ผู้หนึ่งชื่อนางบุญมา กำลังทำอาหารเย็นอยู่ในครัว เกิดพลั้งเผลอขานรับ จึงนำตัวไปฝังพร้อมพิธีฝังเสาหลักเมือง
โดยที่ตั้งศาลหลักเมืองเดิม เป็นเพียงเพิงเล็กๆ หลังคามุงสังกะสีเสา หลักเมืองมีจอมปลวกขึ้นจนมองไม่เห็นตัวเสาค่ะ
จนเมื่อถึง พ.ศ. 2504-2505 ทางจังหวัดได้ตั้งศาลาจัตุรมุขขึ้นแทนเพิงหลังคาเก่า และในปีพ.ศ. 2530 สร้างรั้ว ต่อมาพ.ศ. 2532 จึงได้ทำการลาดพื้นรอบๆ ศาลาค่ะ มีการเล่ากันมาว่า ศาลหลักเมืองแรกเริ่มเดิมทีไม่มีหลังคา สร้างเป็นเพิงเล็กๆ พอเป็นอาณาเขต คนรุ่นอายุ 100 ปีบอกว่า เคยเห็นหลังคามุงจากแล้วเปลี่ยนมาเป็นสังกะสี ล้อมรอบด้วยป่ายาง ใกล้ๆ กันนั้นมีต้นกระท้อนใหญ่ และเคยมีปืนใหญ่ด้วยค่ะ
โดยศาลหลักเมืองขณะนั้น เป็นศาลหลักเมืองที่ใช้ไม้มาเป็นเสาหลักเมือง โดยเป็นไม้ราชพฤกษ์จากโรงเรียนบ้านหนองไทร อำเภอนาโยงค่ะ ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ชาวบ้านที่เดินทางผ่านไปผ่านมา จะเข้ากราบไหว้สักการะ และมีการนําผ้าแพรหลากสีสวยสด ห่อหุ้มพันเอาไว้ค่ะ
ศาลหลักเมืองตรัง นับเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวตรัง จนเกิดความเชื่อถือศรัทธาในทางความศักดิ์สิทธิ์ มีการบนบานศาลกล่าวอยู่เสมอ
เล่ากันว่าคณะหนังตะลุงมโนราห์ ที่เดินทางผ่านศาลหลักเมืองแห่งนี้ จะต้องตีกลองหรือบรรเลงดนตรีสักการะ ทุกครั้งที่ผ่าน เพื่อมิให้เกิดข้อขัดข้องในการเดินทาง และการแสดง
อีกเรื่องหนึ่งก็คือตามประเพณีถือศีลกินผัก ของคนไทยเชื่อสายจีนในจังหวัดตรัง ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เมื่อขบวนแห่พระผ่านศาลหลักเมือง ก็ต้องแวะหยุดสักการะเสียก่อน
นอกจากนี้ชาวบ้านก็ได้ร่วมกันจัดพิธีถือศีลกินผัก ที่บริเวณศาลหลักเมืองขึ้นเป็นครั้งแรก ในปีพ.ศ.2511 และจัดต่อมาจนถึง พ.ศ.2533 จึงเลิกไปเพราะทางจังหวัดเตรียมการบูรณะค่ะ
จังหวัดตรังได้มาดำเนินการบูรณะศาลหลักเมือง เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ว่า ควนธานีคือที่ตั้งเมืองตรังในอดีต
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2536 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจิม และทรงพระสุหร่ายยอดเสาหลักเมืองตรัง ณ พระจำหนักสวนจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต แล้วทางจังหวัดอัญเชิญกลับมาทำพิธีสมโภช ที่ศาลากลางจังหวัดและอำเภอทุกอำเภอค่ะ
ต่อมาเมื่อวันเสาร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ.2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงเปิดศาลหลักเมืองค่ะ
ศาลหลักเมืองแห่งนี้ จึงเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจของชาวเมืองตรัง เป็นที่สักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นมรดกจากบรรพชนที่ลูกหลานชาวตรัง จักร่วมกันทำนุบำรุงรักษาไว้ ให้เป็นปูชนียสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองสืบไปค่ะ
แล้วอย่าแวะมาเติมน้ำมันด้วยนะคะ
พี่ประทีปหรือเปล่าหนอ เป็นวิทยากรอธิบายวันแรกเลยค่ะ อธิบายได้แหล่ม...ความรู้ตรึมเลยค่ะ
ภาพย่าดา ดา ภาพนี้เท่มากๆ ค่ะ
BLOG หน้าตอนที่ 14 จัดเต็มอาหารมื้อเช้าค่ะ
ขอขอบคุณ BG : คุณตะวันสีชมพู banner : คุณ no filling กรอบ : น้อง KungGuenter กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat เพลง : ติดปีกความคิดถึง : วงเวสป้า อาร์สยาม โค้ดแต่ง BLOG : ป้ามด & น้องดอกหญ้าเมืองเลย ของแต่ง BLOG : คุณชมพร & น้องญามี่ & คุณเนยสีฟ้า
| | | | |
Create Date : 03 ตุลาคม 2554 |
|
84 comments |
Last Update : 4 ตุลาคม 2554 21:41:58 น. |
Counter : 3984 Pageviews. |
|
|
|