Bloggang.com : คนขับช้า : The Blind Side

The Blind Side

กระตุ้นให้ถูกจุด

กำกับ : John Lee Handcock
นำแสดง : Sandra Bullock, Tim McGraw, Quintin Arron
ความยาว : 128 นาที
ระดับความชอบ : 9.5/10

ด้วยรางวัลออสการ์ของดารานำฝ่ายหญิงทำให้เอาหนังเรื่องนี้มาชม
แปลงลง iPhone ไว้ชม
ได้ดูจริงที่สนามบินหาดใหญ่ขณะรอขึ้นเครื่อง ยิ่งดูยิ่งชอบเนื้อหาดีมาก จนถึงเวลาบินเลยต้องหยุดดู จริงๆ น่าจะดูต่อบนเครื่องได้นะ แต่จากข้อบังคับการบินข้อที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ทำให้ไม่กล้าเอาออกมาดูเสียที แต่ตามหลักการแล้วเปิด Flight Mode และดูเฉพาะช่วงบนฟ้า งดช่วง Take Off และ Landing ก็น่าจะได้นะ เดี๋ยวต้องลอง จะได้ดูหนังที่ซื้อมาไว้ให้ลดลงไปบ้าง

เนื้อหาของหนังเรื่องนี้น่ารักมาก ทำให้เห็นน้ำใจของคนเมือง ที่นับวันจะหาได้ยากขึ้นทุกที แต่ในขั้นตอนการตัดสินใจให้ความช่วยเหลือ นางเอกของเราก็ใช้ Sensing ในการพิจารณาเสียพักหนึ่งเลย ฉากนี้ดี ลุ้นดี เพราะความเป็นแม่เธอเลยต้องคิดเยอะหน่อย คุณพ่อก็เก่ง เข้าใจคุณแม่เป็นอย่างดีจนบอกลูกๆ ได้ ต้องเข้าใจกันอย่างนี้สินะ จึงจะเรียกว่าครอบครัว

แล้วครอบครัวที่เต็มแล้วครอบครัวนี้ก็เปิดรับสมาชิกใหม่ที่มีปมในชีวิตที่ยิ่งใหญ่ โดยมีคุณแม่เป็นหัวหอกในการลุย แม้จะต้องไปถึงแหล่งของคนดำเธอก็ทำได้ดี
ฉากตะโกนตอบในสนามบอลก็สุดยอด ตอนเธอร้องบอกว่านั่นลูกฉัน ได้ใจดีจัง

ฉากที่นางเอกตอบเพื่อนไฮโซของเธอถึงการตัดสินใจรับเลี้ยง Michael Oher เด็ดเดี่ยวดีมาก ชอบครับ
หลายฉากเธอใช้การคุยทีละคนในครอบครัวจนเข้าใจกันทุกฝ่าย แล้วมาปรึกษากับสามีอีกครั้ง สมบูรณ์แบบครับ
พัฒนาการตัวละครก็เห็นได้ชัด ความสัมพันธ์ในครอบครัวกับสมาชิกใหม่ทำได้เด่นชัดในการพัฒนา ทั้งนี้ก็มาจากความเปิดกว้างของคนในครอบครัว
เป็นครอบครัวตัวอย่างเลย จะมีครอบครัวทั้งทีต้องให้ได้แบบนี้ครับ

จุดเด่นมากของคุณแม่อีกอย่างคือ การสังเกต เช่น การได้ข้อมูลเรื่องการปกป้องของ Oher จนนำไปสู่การกระตุ้นที่ถูกจุด (น่าจะเป็นที่มาของชื่อหนัง) โดยเชื่อมโยงกับความรักในครอบครัว
จนได้นักกีฬายิ่งใหญ่ขึ้นมาหนึ่งคน
The Blind Side อีกอย่างที่เห็นในหนังคือการที่แม่แท้ๆ ของ Michael ให้หลับตาเวลาทำเรื่องไม่ดี แล้วค่อยลืมตา

คุณแม่มักจะย้อนมาดูตัวเองเสมอเมื่อบางเรื่องไม่ได้เป็นตามที่วางไว้
การกอดเป็นการแสดงความรักที่ดีทีเดียว
พรรคการเมืองเป็นเรื่องสำคัญในสหรัฐฯ แต่ไม่ยิ่งใหญ่เท่าการเปิดใจ

คุณครูสอนพิเศษก็เจ๋ง เป็นอีกคนหนึ่งที่ช่วยพระเอกไว้ด้วยเทคนิคการเรียน

ฉากเปิดและปิดที่นำมาเชื่อมกัน ทำได้ดีมาก
และคำตอบของ Michael ก็บอกความคิดทุกอย่าง "เพราะครอบครัวผมอยากให้เรียนที่นั่น"
หมดคำถามไปเลยสำหรับผู้มาสัมภาษณ์
คนดูก็รู้ว่าตอนนี้ Michael ยอมรับการเป็นครอบครัวเดียวกันเรียบร้อย

บทหนังดีมากครับ เนื้อเรื่องน่าประทับใจ ทุกคนในเรื่องช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี
ดูแล้วทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้นเยอะเลย
ยิ่งมารู้ตอนท้ายว่าเป็นเรื่องจริง ยิ่งทำให้ชอบมากขึ้นทีเดียว

ดาราสาวแนว Rom(antic) Com(erdy) อย่าง Sandra Bullock ได้รับบทที่ดีและเหมาะกับเธอเลย ทำให้ประสบความสำเร็จคว้ารางวัลออสการ์มาครองได้

สังคมดีสร้างได้ครับ เริ่มที่ตัวเราและองค์กรเล็กๆ ของเราที่เรียกว่าครอบครัว
โดยต้องใส่ความพยายามและเทคนิคหลายๆ อย่างนะครับถึงจะทำให้ครอบครัวเรามีความสุขได้ หนังเรื่องนี้ทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว

ไม่ง่าย แต่เป็นไปได้ แค่ว่าเราต้องการจะได้มันไหม

มีความสุขทุกครอบครัวครับ

ปล.ผมดูหนังเรื่องนี้สองรอบในเวลาสามวัน ยิ่งดูยิ่งชอบ ผมว่าสอนการใช้ชีวิตครอบครัวได้เป็นอย่างดีครับ

Create Date : 08 เมษายน 2553

Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2555 16:22:41 น.

8 comments

Counter : 5350 Pageviews.

เหมือนกันเลยครับ จากที่ดูได้เพลินๆ ในช่วงแรก พอมารู้ว่าสร้างจากเรื่องจริงในตอนจบเลยประทับใจไปเลยในที่สุด

โดย: Nanatakara

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:19:08:26 น.

เห็นว่าไม่เข้าฉายในโรงแล้ว แอบเสียดายครับ

(แต่ส่วนตัวได้แผ่นมาแล้ว แต่ยังไม่ว่างดูเลย แหะ ๆ )

โดย: negima_xx

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:23:27:37 น.

เป็นหนังที่อบอุ่นมากเลยค่ะ
ดูแล้วfeel goodจริงๆเลยค่ะ
สังคมไม่ได้โหดร้ายเกินไป
ยังมีคนดีๆที่พร้อมจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้ที่อ่อนด้อยกว่า
ชอบครอบครัวTuohy มาก
รักใคร่ กลมเกลียวกันดีจังเลยค่ะ
โดยเฉพาะแม่ เหมือนแม่ในอุดมคติเลย
สวย แสนดี มีน้ำใจ เอาใจใส่ครอบครัว
แต่ที่ชอบที่สุดคือหนุ่มน้อย เอส เจ
แม้หน้าตาจะกระเต็มหน้า แต่เอาใจไปเลยค่ะ เป็นเด็กที่น่ารักมาก

โดย: มะนาวเพคะ IP: 113.53.182.54 วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:13:13:52 น.

..

หนังทำให้เรามีความหวัง และมีกำลังใจที่จะทำความดีครับ

โดย: POGGHI

วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:50:49 น.

อ่านเจอในสีสัน
Blind Side คือ มุมอับของควอเตอร์แบ็ค ในกีฬาอเมริกันฟุตบอล
ที่อาจจะเป็นช่องโหว่ให้ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาแท็คเกิ้ลได้โดยไม่ทันระวังตัว

โดย: คนขับช้า IP: 110.49.193.169 วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:1:21:17 น.

ดูแล้วชอบมากๆ
แอบน้ำตาคลอหลายฉากเหมือนกัน โดยเฉพาะตอนที่ Michael หิ้วถุงก๊อบแก๊บจะไปนอนที่โรงยิม ร้องไห้โดยไม่รู้ตัว

แต่ด้วยความที่หนังนำเสนอชั่วโมงกว่าๆ ก็เลยดูเหมือนชีวิตที่แสนทุกข์ของ Michael ดูเหมือนจะโชคดีจังเลย มีครอบครัวดีๆ รับไปดูแล มีความสุข แต่ในชีวิตจริงแล้วเค้าคงต้องต่อสู้อะไรมามากมาย...

โดย: เอิงเอย IP: 68.224.193.220 วันที่: 23 ตุลาคม 2553 เวลา:1:57:43 น.

เป็นหนังของคำงานด้านสังคมสงเคราะห์เลยค่ะ
ทั้งเรื่องบุตรบุญธรรมและการสงเคราะห์ตครอบครัว
เสียดายหนังไม่ได้ลงโรง(เท่าที่จำได้)
ต้องดูในVCD แทน
ตามมาment จาก facebook ค่ะ

โดย: เริงฤดีนะ IP: 110.168.11.209 วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:5:43:22 น.

จับประเด็นดีมากๆเลยครับ ความเห็นตรงกับผมหลายๆอย่างเลยครับ อิอิ

โดย: เพื่อนที่ดีที่สุด IP: 223.205.214.34 วันที่: 13 สิงหาคม 2555 เวลา:10:01:48 น.