7ท่า พิชิตปวด (หลัง)
7ท่า พิชิตปวด (หลัง)

วิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์เงินเดือนอย่างชาวเรา ทำงานวันละ 7 ชั่งโมง ขึ้นรถไฟฟ้าก็ก้มแชท กลับถึงบ้านก็เช็คเฟส

โอ้แม่เจ้านั่งก้มหน้ากันวันละกี่ชั่วโมงเนี่ย จะไม่ปวดหลังยังไงไหว ใครไม่ปวดหลังยกมือขึ้นหันซ้ายหันขวาดูล่ะ ไม่มีนี่

(นั่งพิมพ์อยู่คนเดียวนะจะบอกให้) งั้นชาวเราเราคงต้องหาวิธีแก้ปวดกันบ้างแล้วล่ะ นอกจากกินยาพารา (ยาครอบจักรวาล) หาหมอนวดคลายเส้น (จะเอาเวลาที่ไหนไปเนี่ย) หาหมอที่คลินิกใกล้บ้าน (โอ้วกว่าจะถึงบ้านคลินิกก็ปิดแระ) แล้วยังไงล่ะเนี่ยปวดหลัง ไม่มีเวลา แล้วฉันจะทำยังงายยยยยยยยย

มีซัก 7 นาที กับ 7 ท่าพิชิตปวด(หลัง) กันนะค่ะลองดูๆๆ ไม่หายไม่คิดตังค์จ้า (ถึงหายก็ไม่คิด) คุณฝาชีลองแล้ว บอกม่าม้าๆ แชร์เลยๆ งั้นม่าม้าจัดไปจร้า 7 ท่า ลองทำดู (ท่าออกกำลังกายนะจ๊ะ อย่าคิดมาก)


ท่าที่1. ยืดเอ็นร้อยหวายแล้วจร้า

แล้วไอ้เจ้าเอ็นร้อยหวายนี่มันตรงไหนอ่ะ ท่านผู้รู้เค้าบอกว่า มันเป็นเอ็นที่เชื่อต่อ ระหว่างส้นเท้ากับกล้ามเนื้อน่อง ถ้าเราเอามือจับที่เหนือส้นเท้าจะพบเป็นท่อนเรียกเอ็นร้อยหวายนะจ๊ะ เอ้า ลองจับดูจ้าจะได้ทำความรู้จักสวัสดีกัน เวลายืดเราจะได้รู้นะว่ายืดยัง ยืดถูกที่กันมั๊ยนะจ๊ะ

ทีนี้เริ่มด้วยการนอนราบลงกับพื้นชันเข่าขึ้นทั้งสองข้าง จากนั้นยกขาขึ้นข้างหนึ่ง แล้วเหยียดให้ตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วใช้มือสองข้างรั้งใต้ข้อพับเพื่อดึงขาเข้าหาตัว ดึงขาค้างไว้ 30วินาที แล้วสลับไปทำอีกข้าง 2 ข้างก็1 นาทีพอดี



Credit : //www.khaobox.com/2015/07/news033.html?m=1


ท่าที่2. ท่ากดเข่าแนบกับลำตัวจ้า

อันนี้ “เข่า” นะจ๊ะ คงไม่ต้องจำกัดความแล้วล่ะทุกคนน่าจะรู้จัก เอ้าถามอีกทีเผื่อใครหลงลืมเข่า ใครไม่รู้จักเข่ายกมือขึ้น 555(อีกครั้งนั่งพิมพิ์คนเดียวจ้า เราเพราะฉะนั้นไม่มีใครยกมือแน่นอน) ไม่มีใครยกไปต่อเลยนะจ๊ะ คริคริ

เริ่มเหมือนเดิมจ้านอนราบเลย แล้วชันเข่าขึ้นทั้ง 2 ข้าง ถ้าทำต่อจากเมื่อกี้ก็ไม่ต้องลุกนะจ๊ะต่อจากท่าชันเข่าเลย แล้วใช้มือทั้งสองข้าง รั้งใต้หัวเข่า เพื่อกดเข่าให้แนบลำตัวให้ชิดมากที่สุด ทำค้างไว้นาน 20-30วินาทีแล้วทำอีกข้าง อย่าลืมอีกข้างนะจ๊ะเดี๋ยวเข่ายืดไม่เท่ากัน (อิอิอิอิ เค้าล้อเล่น)



Credit : //www.khaobox.com/2015/07/news033.html?m=1


ท่าที่3.ท่าบิดตัวเป็นกลียวจ้า (เหมือนเกลียวจริงๆนะจ๊ะ)

อันนี้เริ่มด้วยนอนราบเหมือนเดิมจ้า ที่นอนๆอยู่นอนต่อไปเลยนะไม่ต้องลุก แล้ววางมือข้างหนึ่งให้ทำมุมฉากกับลำตัวแล้วบิดตัวไปอีกข้างหนึ่ง โดยใช้เข่าช่วย ทำค้างไว้นะจ๊ะซัก20-30 วินาที (นับ 1-20 ในใจก็พอกะประมาณได้นะ) แล้วสลับไปทำอีกข้างหนึ่งนะจ๊ะ ท่านี้จะรู้สึกได้เลยว่ากล้ามเนื้อหลังผ่อนคลายไปอย่างมากเลยจร้า



Credit : //www.khaobox.com/2015/07/news033.html?m=1


ท่าที่4.แล้ว ท่านอนไขว่ห้างจ้า ท่าที่นอนสบายที่สุด

ท่านี่ง่ายมากกกกกกกกกก ถึงง่ายที่สุด นอนค่ะนอน นอนต่อไปเลย แล้วไขว่ห้างเลยค่ะ ถ้าทำไม่เป็นลุกมานั่งไขว่ห้างเลยค่ะ แล้วนอนลงไป เหมือนกันเลย แค่เปลี่ยนจากนั่งเป็นนอนแค่นั้นเอง ทำได้ไหมค่ะ ใช่ค่ะ ไม่ยากเลย ทำสลับกัน 2 ข้างนะค่ะ( จะได้ไม่ลำเอียง อิอิ..) เหมือนเดิมค่ะ ทำข้างละ 20-30 นาที


Credit : //www.khaobox.com/2015/07/news033.html?m=1


ท่าที่5.ยืดกล้ามเนื้อสะโพกค่ะ

คราวนี้ไม่นอนแล้วนะค่ะอธิบายยากหน่อย แต่ทำไม่ยากค่ะ ดูรูปประกอบจะเข้าใจขึ้นนะค่ะ ลุกขึ้นค่ะ ตั้งเข่าข้างหนึ่งตั้งฉากกับตาตุ่มระวังอย่าให้เข่าล้าหน้าเกินปลายเท้านะค่ะ เพราะอาจทำให้เข่าบาดเจ็บได้ เอาให้ตั้งฉากค่ะ เป็นระดับที่ดีทีเดียว แล้วค่อยๆใช้ลำตัวกดเอวให้ต่ำลงมา จนรู้สึกตึงที่บริเวณสะโพก ขาด้านในและต้นขาด้านหน้าทำค้างไว้ 30 วินาที แล้วอีกครั้งหนึ่ง ทำสลับกับขาอีกข้างนะจ๊ะ



Credit : //www.khaobox.com/2015/07/news033.html?m=1


ท่าที่6. แล้วนะการยืดกล้ามเนื้อหน้าขา จ๊ะ

“หน้าขา” รู้จักกันม้ายยย เหมือนจะรู้จักนะจ๊ะ เอามาย้ำกันให้แน่ใจอีกที ว่าที่รู้จักอ่ะรู้จักถูกที่หรือเปล่า พจนานุกรมเค้าระบุไว้ว่าหน้าขาคือส่วนของขาด้านหน้านับตั้งแต่โคนขาไปถึงเหนือหัวเข่าอ่ะจ๊ะ อันนั้นล่ะ จับดูจ้า เค้าเรียก “หน้าขา”ล่ะ ทีนี้เราจะยืดตรงนี้กันละนะ

ท่านี้กลับมานอนอีกแล้วค่ะ คราวนี้นอนตะแคงเลยนะค่ะ เอามือหนึ่งหนุนหัวไว้แล้วเอามืออีกข้างหนึ่งจับข้อเท้าไปทางด้านหลังดึงรั้งไปให้ตึงสุดเลยนะคะ ให้รู้สึกว่าหน้าขาดึงเลยค่ะ ทำค้างไว้ 30วินาที เหมือนเดิมค่ะ สลับข้างด้วยนะค่ะ เอาล่ะ ยืดทั้งสองข้างแล้วก็ไปเลย ท่าสุดท้ายยยยยยย



Credit : //www.khaobox.com/2015/07/news033.html?m=1


ท่าที่7.ยืดกล้ามเนื้อหลังอ่ะจ๊ะ สุดท้ายแล้ว

ท่านี้ต้องหาตัวช่วยหน่อยนะค่ะ เช่นพนักเก้าอี้เป็นต้น ยืนขึ้นเลยค่ะ ไปเอาเก้าอี้มา ก้มตัวลงเอามือจับพนักเก้าอี้ไว้ยืดหลังให้สุดตั้งฉากกับพื้นเลย ทำค้างไว้ 30 วินาที เหมือนเดิมค่ะ



Credit : //www.khaobox.com/2015/07/news033.html?m=1


แล้วสลับไปยืนตรงยืดมือข้างหนึ่งข้ามหัวไปยืดให้สุด ดูรูปตามนะค่ะ จะเข้าใจง่ายขึ้น ทำค้างไว้ข้างละ10 วินาทีค่ะ ยืดให้ตึงสุดๆเลยนะค่ะ



Credit : //www.khaobox.com/2015/07/news033.html?m=1


ทำติดต่อกันทุกวันนะค่ะ ทำไปซัก 7-10 วัน อาการน่าจะดีขึ้นจ้า คุณฝาชีทำทีเดียวบอกว่าโดนจ้า โดนเลย

ก็เลยมาแชร์ต่อนะค่ะ ขอบคุณท่าผู้รู้จากข่าวบ๊อก.com ด้วยนะค่ะ




Create Date : 05 มกราคม 2559
Last Update : 5 มกราคม 2559 12:42:12 น.
Counter : 1493 Pageviews.

0 comment
การเตรียมตัวที่จะช่วยให้คุณหลับฝันดี
การเตรียมตัวที่จะช่วยให้คุณหลับฝันดี

   บ่อยครั้งเมื่อถึงเวลาที่ต้องนอนหลับคุณกลับไม่สามารถนอนหลับได้ ปัญหา 108 จากการทำงานของคุณก็กลับมาตามหลอกหลอนคุณในเวลานอนความเครียดความกังวลต่างรุมเร้า แม้แต่การออกกำลังกายใกล้เวลาเข้านอนหรือการทานอาหารบางชนิดที่ไปกระตุ้นให้เราตื่นตัวจนทำให้เรานอนไม่หลับ ปัจจัยต่างๆเหล่านี้อาจเกิดขึ้นกับคุณได้แต่ว่าคุณสามารถที่จะฝึกหรือเลิกนิสัยบางอย่างเพื่อแก้ปัญหาการนอนไม่หลับและนี้คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณสามารถหลับได้ง่ายขึ้นหลับสนิทขึ้น เพราะคุณภาพการนอนที่ดีย่อมส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคุณอีกด้วย

Smiley การออกกำลังกายในเวลาที่เหมาะสมจะทำให้การนอนหลับของคุณดียิ่งขึ้นหรือการทำกิจกรรมที่ใช้พลังงานอื่นๆก็ได้เหมือนกันนะค่ะแต่กิจกรรมดังกล่าวไม่ควรทำในเวลาใกล้เข้านอนเพราะจะทำให้ร่างกายตื่นตัวและนอนไม่หลับ

Smiley พยายามเข้านอนให้เป็นเวลา การเข้านอนในเวลาเดิมและตื่นในเวลาเดิมทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดตามเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ หรือจะไปเที่ยวที่ไหนก็แล้วแต่ พยายามจัดเวลาเข้านอนและตื่นนอนของคุณให้เหมือนเดิมเพื่อที่จะทำให้ร่างกายของคุณจดจำเวลาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับตารางเวลาของร่างกาย จะทำให้การนอนหลับในเวลากลางคืนของคุณดีขึ้นอ่อแต่ว่านะค่ะถ้าคุณพยายามนอนให้หลับสัก15นาที แล้วยังไม่สามารถนอนหลับได้คุณควรจะลุกจากเตียงแล้วหาอะไรทำเผื่อผ่อนคลาย เช่น การยืดเส้นเบาๆหรือดื่มน้ำอุ่นแล้วกลับไปนอน เพราะถ้าคุณนอนไม่หลับแล้วไปสัปหงกในตอนกลางวันยิ่งจะทำให้คุณนอนหลับยากยิ่งขึ้นในเวลากลางคืน


Credit ://mylistoflists.com/7-tips-for-getting-great-sleep/2/

Smiley ปรับปรุงวิธีการเข้านอนเมื่อถึงเวลาเข้านอนที่คุณได้กำหนดไว้แล้วให้คุณเตรียมตัวเข้านอนด้วยวิธีเดียวกันทุกคืนด้วยการหากิจกรรมเผื่อผ่อนคลายเช่นอาบน้ำอุ่น อ่านหนังสือ ฟังเพลงเบา ยืดเส้นยืดสายเบาๆ หรือการนั่งสมาธิเป็นต้นการผ่อนคลายไม่ควรทำจริงจังนะค่ะการผ่อนคลายเป็นการเตือนหรือบอกให้ร่างกายของคุณได้รู้ว่าตอนนี้ถึงเวลาที่จะเข้านอนแล้วแต่ว่าคุณควรจะหลีเลี่ยงพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ต่างๆนะค่ะพวกโทรทัศน์ มือถือ หรือแท็บเล็ตต่างๆ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะไปกระตุ้นร่างกายของคุณให้ตื่นตัวและจะนอนหลับยากยิ่งขึ้น


Credit ://mylistoflists.com/7-tips-for-getting-great-sleep/5/


Smiley จำกัดเวลาการนอนกลางวันของคุณการงีบหลับเวลากลางวันเป็นการพักระหว่างวันที่ดีเปรียบเหมือนการชาร์ตแบตให้กับร่างกายของคุณแต่ถ้าคุณงีบหลับนานเกินไปอาจจะส่งผลกระทบให้การนอนหลับในเวลากลางคืนนั้นยากยิ่งขึ้นเพราะฉะนั้นเวลาที่เหมาะสมกับการงีบในเวลากลางวันจึงไม่ควรนานเกิน 20 – 30นาทีเท่านั้น

Smiley
องดูสิ่งที่คุณทานหรือดื่มก่อนเข้านอนควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารมากจนเกินไป หรือเครื่องดื่มที่จะทำให้คุณนอนไม่หลับเช่นชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต่างๆแต่ว่านะค่ะการดื่มเครื่องดื่มสมุนไพรที่ปลอดคาเฟอีนหรือสิ่งเร้าสิ่งกระตุ้นการตื่นตัวจะช่วยให้คุณผ่อนคลายเป็นอย่างดี เมื่อใกล้ถึงเวลานอนแต่การดื่มเครื่องดื่มมากจนเกินไปยังอาจจะทำให้คุณต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกซึ่งจะรบกวนการนอนและทำให้คุณภาพการนอนของคุณลดลงอีกด้วย


Credit ://www.recipetineats.com/nutella-stuffed-pancakes/


Smiley จัดห้องนอนหรือสิ่งแวดล้อมในห้องนอนเพื่อให้คุณสามารถนอนได้อย่างสบายเช่น ห้องนอนควรจะมืด เย็น เงียบและมีอากาศถ่ายเทสะดวก จัดที่นอน หมอน ผ้าห่มที่เหมาะสมสำหรับคุณ หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนเช่น อุปกรณ์สื่อสาร สัตว์เลี้ยงเป็นต้น


Credit ://upcycledtreasures.com/2015/05/modern-rustic-bedroom-retreats/


ถ้าคุณนอนไม่หลับจริงๆจนเป็นปัญหากับการดำเนินชีวิตของคุณแล้วละก็การปรึกษาคุณหมอ จะเป็นทางเลือกที่ดีและปลอดภัยที่สุด คุณหมอนอาจแนะนำวิตามินหรือยาบางอย่างที่ปลอดภัยและช่วยคุณได้แต่ถ้าปัญหาคุณไม่ได้มากขนาดนั้น ลองมาเลือกดู สินค้าเครื่องนอนเพื่อช่วยให้การนอนหลับของคุณดีขึ้นได้ที่ร้านzitzleep นะค่ะ เรามีทั้งที่นอน topper หมอนเพื่อสุขภาพ เบาะรองนั่งเพื่อนั่งสมาธิ หมอนคุณแม่ (คนอ้วนลงพุง คนปวดหลังเวลานอนก็ช่วยได้ดีนะค่ะ) แวะไปเลือกชมกันได้นะค่ะ




Create Date : 21 ธันวาคม 2558
Last Update : 21 ธันวาคม 2558 21:55:39 น.
Counter : 507 Pageviews.

0 comment
ลดพุงผู้ชาย ด้วย 10 เคล็ดลับง่ายๆ

 

ลดพุงผู้ชาย  ด้วย 10 เคล็ดลับง่ายๆลดพุงผู้ชาย  ด้วย 10 เคล็ดลับง่ายๆ

Credit : //www.muscleandfitness.com/workouts/workout-tips/10-reasons-youre-holding-body-fat 

 

                สมัยนี้ผู้ชายเราก็เริ่มหันมาสนใจ ที่จะดูแลตัวเองกันมากขึ้นโดยเฉพาะไขมันส่วนเกินที่หน้าท้อง สาเหตุของพุงป่องนี้อาจไม่ใด้เกิดมาจากการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว และคนที่พุงป่องก็ไม่ได้แปลว่าอ้วน แต่อาจจะเป็นเพียงอาการบวมน้ำเท่านั้น นอกจากจะทำให้เรามีบุคลิคภาพไม่ดีแล้ว ยังอาจจะทำให้เราปวดหลังอีกด้วย  เรามีวิธีลดหน้าท้องผู้ชายด้วยวิธีง่ายๆ

10 เคล็ดลับลดพุงผู้ชาย

 ***1.คุณต้องพยายามกระตุ้นการเผาพลาญไขมันในร่างกาย   เพราะร่างกายของเราไม่สามารถเจาะจงกำจัดไขมันที่พอกอยู่ที่พุงเพียงอย่างเดียวได้  อาจจะทำด้วยวิธีการง่ายๆ   เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์   หรือเดินเล่นหรือเดินช็อปปิ้งกันหวานใจ หรืออาจจะจอดรถไกลหน่อยจะได้เดินเพิ่มขึ้นอีกนิด  อย่าฝืนจน ปวดหลัง ปวดเอว หรือปวดกล้ามเนื้อจนทำงานไม่ไหวนะครับ ต้องค่อยๆเป็น ค่อยๆไป

Credit : //www.stylisheve.com/22-very-unique-staircases-that-will-inspire-you/

 ***2.  มีงานวิจัยบางชิ้นยืนยันมาว่า ไขมันจะสลายตัวได้ง่ายกว่า เมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เย็น  ดังนั้นในช่วงเวลาที่เรากำลังพยายามลดพุงอยู่นั้น ให้เราพยายามอาบน้ำเย็น และงดการอบซาวน่า นอกจากจะช่วยชาติประหยัดพลังงานแล้วยังช่วยลดพุงของเราอีกด้วย

 ***3. ถ้าไม่อยากมีพุงโดยไม่ได้ตั้งใจแล้วต้องพยายามงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มชูกำลังทุกชนิด เพราะมันอาจจะเป็นสาเหตุทำให้คุณพุงป่องได้ ดังนั้นหากคุณไม่อยากมีพุงต้องพยายามเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มชูกำลัง

 

Credit : //www.howtogetrid.org/health/how-to-get-rid-of-a-beer-belly/

***4. การเข้านอนเร็ว นอนแต่หัวค่ำจะช่วยให้ร่างกายผลิตโกรทฮอร์โมนขึ้นมา โกรทฮอร์โมนจะช่วยในการเผาผลาญไขมันในร่างกายอย่างอย่างดี  เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่อยากลงพุง ก็ต้องรีบเข้านอนแต่หัวค่ำ  การฝึกสมาธิเพื่อผ่อนคลายก่อนเข้านอนจะช่วยได้มาก หากคุณนอนไม่หลับก็ลองดูว่าปัญหา อยู่ที่หมอนหรือที่นอนไหม ลองใช้หมอนเพื่อสุขภาพ ที่นอนเพื่อสุขภาพ นอกจากจะนอนหลับสบายแล้ว ยังไม่ทำให้คุณปวดหลังอีกด้วย

***5.วางแผนการรับประทานอาหารให้ไวขึ้นอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนที่เราจะนอน เพราะจะมีผลต่อการหลั่งของโกรทฮอร์โมนอีกด้วย

***6.การรับประทานอาหารช้าๆจะช่วยให้เราควบคุมปริมาณอาหารในแต่ล่ะมื้อ และควรรับประทานอาหารให้ครบ 5หมู่

***7.การออกกำลังกล้ามเนื้อต้นขา และสะโพกเป็นการกระตุ้นการเผาผลาญไขมันได้ดีที่สุด อย่ามัวแต่บริหารหน้าท้องเพียงอย่างเดียว คุณต้องกระตุ้นการเผาผลาญไขมันทั้งตัวด้วย การเน้นกล้ามเนื้อท้องอาจทำให้หน้าท้องคุณกลายเป็นซิกแพ็ก แต่ถ้าไขมันไม่หายไปซิกแพ็กก็อาจเหลือแค่แพ็กเดียว ที่สำคัญอย่าหักโหมนะครับ แต่ขอให้ทำเป็นประจำ 

 

 

Credit : //www.menshealth.com/fitness/best-glutes-exercises?slide=9

 ***8.ลองจัดโปรแกรมบริหารกล้ามเนื้อท้องสัก 2-3 เซ็ต ไว้สัก 2 วันต่อสัปดาห์ สลับกับการออกกำลังกายส่วนอื่นๆไม่ต้องฝืนออกกำลังกายหน้าท้องเพียงอย่างเดียวทุกวัน ด้วยการออกกำลังกายที่เหมาะสมอาจจะทำให้กล้ามเนื้อท้องเกิดได้ไวกว่าด้วยซ้ำไป แต่หากคุณมีอาการ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดก้นกบ ให้ลองหาเบาะรองนั่ง เบาะรองหลัง เพื่อช่วยบรรเทา อาการ ปวดหลัง ปวดเอว หรือปวดก้นกบ

 ***9.การยืนหลังตรง อกผาย ไหล่ผึ่ง จะช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหน้าท้องให้ตึงตัวตลอดเวลา เราควรที่จะฝึกยืน ฝึกเดิน และออกกำลังกายในท่าหลังตรงอยู่เสมอ จะทำให้คุณดูดีทั้งตัวครับ ไม่ใช่แค่พุง จุดอ่อนที่ทำให้พุงเกิดอยู่เสมอ คือ การที่คุณมีท่ายืนหลังค่อม ทำให้พุงดูเป็นกองไขมันน่าเกลียดและไม่น่าดู แม้ว่าคุณจะไม่อ้วนก็ตามที

***10. Abs Crunch with Leg Lift คือท่าบริหารหน้าท้องที่นิยมกันมากที่สุด เริ่มจาก นอน ยกขาหนีบ เท้าลอย ยกศีรษะ   อย่างไรก็ตาม การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การลดพุงผู้ชาย นั้นง่ายขึ้น วิธีลดหน้าท้องผู้ชายจะยากหรือง่ายก็อยู่ที่เราใส่ใจจะทำแค่ไหน

Credit : https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/originals/78/72/ec/7872ec1fab965ad2eaa4f6f65dcf8bd3.jpg

 

 แต่ถ้าคุณต้องการมองหาตัวช่วยที่จะทำให้คุณสบายยิ่งขึ้น หลังจากออกกำลังกาย แวะเยี่ยมชมได้ที่ www.zitzleep.com นะครับ  




Create Date : 30 สิงหาคม 2558
Last Update : 30 สิงหาคม 2558 16:49:23 น.
Counter : 1447 Pageviews.

การดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ ใน 3 เดือนแรก



Credit : //www.popsugar.com/moms/Movies-Watch-While-Pregnant-21151276#photo-21151276


ระหว่างที่คุณแม่ตั้งครรภ์ อาจจะเกิดอาการต่างๆมากมาย ที่ทำให้คุณแม่เกิดความวิตกวังวลได้ โดยทั่วไปอาการต่างๆที่เกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ จะหายไปเองตามระยะเวลาของการตั้งครรภ์ และอาการต่างๆก็มักจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของ ฮอร์โมน และสรีระที่เปลี่ยนแปลงของคุณแม่ ดังนั้นอาการต่างๆจึงจะหายไปเองเมื่อระดับ ของฮอร์โมน หรือการตั้งครรภ์ยุติลง คุณแม่จึงไม่ต้องกังวลกันนะค่ะ เพื่อให้การตั้งครรภ์ของคุณแม่สมบูรณ์ แข็งแรง และมีความสุข เพื่อต้อนรับลูกน้อยที่จะเกิดมาเป็นขวัญใจของทุกคนในครอบครัวกันนะค่ะ


- ในระยะ ประมาณ 10 ถึง 14 วันแรกระหว่างที่คุณแม่ตั้งครรภ์ อาจจะเกิดอาการเลือดออก ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติที่อาจจะมีเลือดออกนิดๆหน่อยๆ ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ลักษณะของเลือดที่ออกมาจะเป็นสีออกชมพูไม่เข้ม ไม่เหมือนเลือดประจำเดือน และมีจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถ้าเลือดออกมาในปริมาณมากๆ เป็นสีเข้มๆ และมีเลือดออกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน คุณแม่ตั้งครรภ์ ควรต้องรีบปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญทันทีนะค่ะ การการปรึกษาและพูดคุย ทำความเข้าใจกับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์ ลดความวิตกกังวลลงได้นะค่ะ และช่วงเวลานี้คุณอาจจะมีอาการตะคริวเกิดขึ้นได้นะค่ะไม่ต้องกังวลค่ะ


  - คุณแม่อาจจะเกิดอาการเมื่อยล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยอ่อน ในการทำกิจวัตประจำวันที่เคยทำเป็นประจำ นั้นเป็นเพราะว่าร่างกายของคุณแม่ต้องทำงานหนัก จากการผลิตฮอร์โมนและการจัดหาเลือดและสารอาหารให้กับลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ ของคุณแม่ กระบวนการนี้จะกระทบกระเทือนระบบประสาทส่วนกลางและทำให้คุณรู้สึกอ่อนเพลีย หรือ ง่วงนอน คุณแม่ควรหาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอในช่วงเวลานี้ เช่น อาจจะหาเวลางีบในช่วงสั้นๆ ในเวลากลางวันหรือเวลาที่เป็นไปได้ เมื่อผ่านช่วง 3 เดือนแรกนี้ไปแล้วคุณแม่หลายคนรู้สึกว่าแข็งแรงขึ้นและอาการอ่อนเพลียนั้นหายไป




Credit : //www.zitzleep.com/product/596/


-  อาการแพ้ท้องคลื่นไส้อาเจียน อาการดังกล่าวจะเป็นตั้งแต่ช่วงต้น ซึ่งพบว่าอาการแพ้มักจะเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ วันที่ 14 บางรายอาจแพ้ได้นานถึง 6 เดือน อาการแพ้อาจจะเกิดได้ตลอดเวลา ไม่ได้จำกัดว่าจะเกิดในช่วงเช้าของวันเสมอไป ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงระดับของสโตรเจนในร่างกายของคุณแม่ อาการคลื่นไส้อาเจียนไม่ได้เกิดขึ้นกับอาหารเท่านั้น คุณแม่บางคนอาจได้กลิ่นน้ำหอมไม่ได้ กลิ่นบุหรี่ หรือกลิ่นกาแฟ และสิ่งต่างๆอีกมากที่อาจกระตุ้นอาการคลื่นไส้ 


- การปวดปัสสาวะบ่อยมากขึ้นเนื่องจากมดลูกของคุณแม่ตั้งครรภ์ จะถูกกระตุ้น และขยายตัวขึ้นซึ่งทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ จะเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น อาการนี้อาจเป็นตลอดช่วงของการตั้งครรภ์ได้นะค่ะ


- อารมณ์แปรปรวนได้ อาการนี้ก็เป็นอาการปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อารมณ์แปรป่วนเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่ คุณแม่อาจจะพบว่าไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดีเท่าแต่ก่อน อาการนี้เป็นเรื่องปกติในช่วง 3 เดือนแรกและมักจะดีขึ้น และหายไปเองค่ะ





Credit : //www.momjunction.com/articles/helpful-tips-to-get-rid-of-a-stuffy-nose-during-pregnancy_0082365/


- คุณแม่อาจมีอาการเจ็บเต้านม จากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่ผลิต สโตรเจนและ progesterone จึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมสำหรับหน้าอกที่จะขยายใหญ่ขึ้น และเตรียมที่จะผลิตน้ำนมให้ลูกน้อยหลังคลอด บางคนเจ็บมากถึงขั้นสัมผัสไม่ได้หรือนอนคว่ำไม่ได้เลยทีเดียว การเปลี่ยนชุดชั้นในให้เป็นแบบที่อ่อนนุ่นเป็นพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับคุณแม่โดยเฉพาะอาจช่วยบรรเทาได้ค่ะ



- การเกิดอาการท้องผูก ท้องอืด สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์อาการท้องผูกถือเป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนที่ช้า ทานอาหาร ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ร่างกายของคุณชุ่มชื้น รับประทานผักและผลไม้เพื่อเพิ่มกากใยอาหาร จะช่วยให้บรรเทาอาการท้องผูกและท้องอืดได้


Credit : //www.stylecraze.com/articles/what-foods-to-eat-and-what-foods-to-avoid-during-pregnancy/


- อาการเวียนศีรษะของคุณแม่ตั้งครรภ์  การรู้สึกวิงเวียนศีรษะหรือเป็นลมบ่อยครั้ง สาเหตุมาจากน้ำตาลในเลือดต่ำ และการเปลี่ยนแปลงในการไหลเวียน และระดับฮอร์โมนที่เปล่ยนแปลง อาการนี้สามารถบรรเทาได้ได้วยการดื่มน้ำมากๆ และรับประทานแครกเกอร์และของว่างเพื่อสุขภาพอื่นๆ   หรือลูกอมเพื่อป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ  และไม่ต้องแปลกใจถ้าคุณรู้สึกมึนศีรษะ อ่อนเพลีย ง่วงนอน ลองหาเวลาพักผ่อนหรืองีบหลับดูสักเล็กน้อยจะช่วยคุณแม่ตั้งครรภ์ได้นะค่ะ



        เรามีผลิตภัณฑ์หลายชิ้นที่จะช่วยคุณแม่จากการปวดเมื่อยในขณะตั้งครรภ์และช่วยเสริมให้การตั้งครรภ์สมบูรณ์และมีคุณภาพและมีความสุขมากขึ้นลองไปเลือกชมได้เลยค่ะที่

//www.zitzleep.com/product/596/pl-018

เข้าไปดูเว็บของเราได้ที่

//www.zitzleep.com/product/596/pl-018

♥♥ ติดต่อสอบถามเราได้ที่ LINE :@Zitzleep

เข้าไปดู VDO ผลิตภัณฑ์ของเราได้ที่

https://www.youtube.com/c/ZitZleepShop

ดูคำถามที่เพื่อนๆ มีการถามกันบอ่ยๆ ได้ที่

https://www.facebook.com/groups/zitzleep

ติดตามเราทาง Google+ ได้ที่

https://plus.google.com/+ZitZleepShop

#ตั้งครรภ์ #ปวดหลัง #คุณแม่





Create Date : 20 สิงหาคม 2558
Last Update : 21 สิงหาคม 2558 12:03:36 น.
Counter : 703 Pageviews.

0 comment
อาการปวดหลังของคนท้อง

อาการปวดหลังของคนท้อง

เป็นเรื่องปกติค่ะที่คุณแม่จะรู้สึกปวดหลังระหว่างตั้งครรภ์ไม่มากก็น้อย เพราะต้องอุ้มท้องนานถึง 9เดือน แต่ก็มีวิธีอยู่หลายวิธีที่สามารถช่วยป้องกันและรักษาอาการปวดหลังได้

เช่น การเปลี่ยนท่า การออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อกับหลังให้แข็งแรงขึ้นการนอนในท่าที่ต่างไปจากเดิมหรือการนวดเพื่อผ่อนคลาย


สาเหตุของอาการปวดหลังระหว่างตั้งครรภ์

ผู้หญิงส่วนมากมักจะมีอาการปวดหลังระหว่างตั้งครรภ์โดยเฉพาะ ในช่วงสามเดือนหลังก่อนถึงกำหนดคลอดโดยทั่วไปอาการปวดหลังจะเกิดจากการที่น้ำหนักของครรภ์ถ่วงอยู่บริเวณด้านหน้า

ทำให้ต้องเกร็งกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างมากขึ้นนอกจากนี้ ในขณะที่ร่างกายปรับสภาพเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอดเส้นเอ็นต่างๆ ของร่างกายจะอ่อนนุ่มขึ้นกว่าปกติ


ซึ่งอาจทำให้คุณปวดบริเวณเชิงกรานและอาการปวดอาจลามไปถึงบริเวณก้นกบได้ อีกสาเหตุหนึ่งคือลูกในครรภ์ต้องการแคลเซียมไปสร้างกระดูกและฟัน ถ้าคุณแม่รับแคลเซียมเข้าไปไม่เพียงพอ

ร่างการอาจดึงแคลเซียมที่สะสมไว้ไปใช้ซึ่งก็รวมถึงที่กระดูกสันหลังด้วย จึงเป็นอีกสาเหตุของอาการปวดหลัง

วิธีลดอาการปวดหลังของคุณแม่ตั้งครรภ์

1.การฝึกการเคลื่อนไหวให้อยู่ในท่าทางที่ถูกต้อง เช่นการยืน การนั่งให้ตัวตรงเพราะร่างกายจะพยายามแอ่นไปข้างหน้าเพื่อรับน้ำหนักโดยไม่รู้ตัว ซึ่งท่าทางที่ไม่ถูกกต้องนี่เองที่เป็นสาเหตุของการปวดหลัง

2.บริหารกล้ามเนื้อท้องและเน้นให้กระดูกเชิงกรานทำงานให้ดีขึ้นด้วยการบริหารง่ายๆ ด้วย ท่าแมว ซึ่งท่านี้จะเป็นการเลียนแบบท่าของแมวเวลาโก่งตัว


เริ่มจากคุกเข่าในท่าคลานสี่ขาเหยียดหลังให้ตรงที่สุด จากนั้นหายใจเข้าให้เต็มปอด แล้วค่อยๆ โก่งหลังแขม่วหน้าท้อง ดันสะโพกไปทางด้านหน้า พร้อมกับหายใจออกโดยพยายามโก่งหลังให้โค้งมากๆ

(เท่าที่คุณแม่รู้สึกสบายถ้ารู้สึกเกร็งเกินไปแสดงว่าโก่งหลังเยอะเกินไป)เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อส่วนหลังและเป็นการให้กล้ามเนื้อหน้าท้องทำงานได้เต็มที่ จากนั้นค่อยๆ

ดันสะโพกกลับไปยังตำแหน่งเดิมและกลับเข้าสู่ท่าคลานสี่ขาทำสลับไปมา 10 – 15 ครั้ง / รอบ บริหารแบบนี้ประมาณ 3 – 5รอบต่อวัน

3.บริหารกล้ามเนื้อหลังและสะโพกให้แข็งแรง เพื่อให้พร้อมกับการรับน้ำหนักที่จะเกิดขึ้น

4.การควบคุมอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสมภายใต้ความปลอดภัยและการดูและของแพทย์ เพื่อไม่ให้น้ำหนักมากเกินไป และได้สารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ จะได้ไม่อ้วนหลังคลอดด้วยค่ะ

5.การปรับความสูงของรองเท้าให้เหมาะสมประมาณ 2-3 นิ้วก็เพียงพอเพราะถ้ารองเท้าสูงจะเพิ่มความตึงเครียดให้กระดูกสันหลังและทำให้ร่างการรักษาสมดุลได้ดีขึ้น

6.คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่หลังคลอดควรหลีกเลี่ยงการยกของหนัก แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆโดยเฉพาะเมื่อต้องเลี้ยงลูก อุ้มลูก ควรจะต้องอุ้มลูกหรือยกของในท่าที่ถูกต้อง คือ

ยืนตัวตรงแยกเท้าออกเท่าช่วงสะโพกโดยให้ปลายเท้าเฉียงออกประมาณ 45 องศา งอเข่าเล็กน้อยแล้วหย่อนตัวลงโดยให้น้ำหนักตัวอยู่ตรงกลางลำตัวและลงที่สะโพกแล้วยกของโดยใช้แขนและไหล่ แล้วใช้กำลังขายกพยุงตัวขึ้นไม่ใช่ใช้หลัง

แต่ทางที่ดีที่สุดควรหลีกเลี่ยงและหาคนช่วยดีกว่าค่ะ


7.ถ้าต้องยืนนานๆควรหาเก้าอี้เตี้ยๆมารองขาไว้ข้างหนึ่งเพื่อเป็นการพักขา

8.การปรับเปลี่ยนท่านั่งให้ถูกต้อง และไม่นั่งท่าเดิมเป็นเวลานานๆควรเปลี่ยนท่าทุกชั่งโมงโดยการนั่งเก้าอี้ที่เหมาะสมไม่แข็งหรือนิ่งเกินไป

ไม่ควรนั่งไขว่ห้าง และมีเก้าอี้เตี้ยๆมารองที่เท้า และมีพนักผิงให้ผ่อนคลายแต่ไม่ทำให้หลังงอ

9.ควรฝึกการลุกนั่งให้ถูกต้องโดยเฉพาะลุกจากท่านอน ต้องนอนตะแคงก่อนแล้วใช้มือเท้าดันตัวขึ้นไม่ควรลุกขึ้นตรงๆ

10.หากต้องการหยิบของในที่สูงหรือต้องปีนป่าย หาคนช่วยดีกว่านะค่ะ

11.ถ้าปวดมากควรปรึกษาคุณหมอนะค่ะหรือ ใช้อุปกรณ์ต่างๆช่วย เช่นเบาะรองนั่งพนักพิงหลัง เก้าอี้เล็กๆเสริมท่านั่งเป็นต้น


คุณแม่ตั้งครรภ์ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อรับคำแนะนำและปรึกษาเพื่อดูแลและบรรเทาอาการต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้


           ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการมองหาอุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยให้ร่างกายสบายขึ้นหรือบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นแวะเยี่ยมชมได้ที่    //www.zitzleep.com/product/596/ ค่ะ




Create Date : 06 สิงหาคม 2558
Last Update : 6 สิงหาคม 2558 15:21:26 น.
Counter : 1050 Pageviews.

0 comment
1  2  3  

SurasakSu
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Group Blog