หมอน
หมอน


ในสมัยก่อนเวลาคนเราง่วงนอน คนเราก็เอนตัวลงไปบนพื้นดินและนอนหลับไป ต่อมามนุษย์ก็รู้สึกว่าถ้าเอาแขนวางใต้ศีรษะในท่านอนตะแคงโดยเฉพาะนอนตะแคงขวา การนอนหลับจะง่ายและสนิทยิ่งขึ้น จึงได้นำขอนไม้มาวางไว้ใต้ศีรษะเวลาจะนอนหลับต่อมาก็ได้พัฒนาจากขอนไม้มาเป็นเครื่องเคลือบดินเผาดังเช่นหมอนสี่เหลี่ยมที่คนสมัยก่อนชอบนอนหนุนกัน แต่ในเวลาต่อมาเมื่อวัฒนธรรมทางยุโรปได้แผ่เข้ามาในภูมิภาคแถบนี้การนอนโดยใช้หมอนที่ยัดนุ่นย่อมนอนหลับได้สบายกว่าหมอนแข็งๆและนอนหลับฝันดีกว่าต่อมามีการใช้ฟองน้ำแทนทำให้หมอนนุ่นมากขึ้นและในปัจจุบันยังมีการออกแบบหมอนชนิดต่างๆ เพื่อป้องกันอาการตกหมอน ปวดคอ ปวดต้นคอหรือช่วยในภาวะปวดคอกระดูกคอเบี้ยวไม่เป็นส่วนโค้งตามธรรมชาติ เป็นต้น


มีการถกเถียงกันพอสมควรในวงการแพทย์ว่าเราจำเป็นต้องนอนหนุนหมอนหรือไม่ ฝ่ายหนึ่งบอกว่าความจริงถ้าคนเรานอนหลับโดยไม่ต้องใช้หมอนก็จะไม่เกิดปัญหาอาการปวดคอ ปวดต้นคอ
อีกฝ่ายหนึ่งก็บอกว่าการใช้หมอนที่ถูกสุขลักษณะจะช่วยให้ส่วนโค้งของคอปกติไม่ผิดรูปไปแต่ถ้าลองคิดดูให้ดีแล้วแล้ว ก็อาจจะถูกทั้งสองฝ่าย ขึ้นอยู่กับท่าทางในการนอนของแต่ล่ะคนปัญหาของคอ อายุและเพศของผู้นอนแต่ล่ะคน


อายุ

- ในเวลาที่เด็กๆนอนหลับ ลองสังเกตุดูสิค่ะหมอนมักจะตกหล่นและหลุดจากศีรษะไปหมด เพราะเด็กๆมักนอนดิ้น และไม่เคยนอนอยู่ในท่าไหนนานๆ

- ส่วนผู้ใหญ่เมื่อมีอายุมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เวลาที่เข้านอนในท่าไหนเราก็มักจะพบว่าเวลาตื่นขึ้นมาก็จะยังคงอยู่ในท่านั้นๆไม่เปลี่ยนแปลง ผลที่ตามมาก็คืออาการปวดเมื่อยแขนขาข้างที่ถูกทับอยู่เป็นเวลานาน


เพศ

- ผู้หญิงมักจะถูกสอนไม่ให้นอนหงาย จึงนิยมนอนตะแคงมากกว่า แต่การนอนตะแคงถ้าไม่ใช้หมอนเสียเลยศีรษะคงอยู่ในท่าเบี้ยวทำให้ปวดคอ ปวดต้นคอได้ง่าย

- ผู้ชายส่วนใหญ่มักนอนหงายหรือไม่ก็นอนตะแคงการแนะนำให้ใช้หรือไม่ใช้หมอนจึงขึ้นอยู่กับท่าทางเวลาที่เรานอนเวลานอนหงายอาจไม่ต้องใช้หมอนก็ได้


ท่านอน

-  หลายคนคงจะชอบนอนตะแคงใช่ไหมค่ะ แต่รู้ไหมค่ะว่าท่านอนตะแคงขวาอาจดีกว่าท่านอนตะแคงซ้ายทั้งนี้เนื่องจากหัวใจอยู่ข้างซ้ายของช่วงอกทำให้การไหลเวียนของเลือดที่ออกจากหัวใจสะดวกมากขึ้น แต่อาจไม่สบายสำหรับปอดข้างขวาซึ่งถูกนอนทับอยู่อย่างไรก็ตาม เราควรนอนตะแคงขวาสลับกับการนอนตะแคงซ้าย มันย่อมดีกว่านอนในท่าใดท่าหนึ่งนานจนเกินไปเพราะการนอนในท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไป จะทำให้การไหลเวียนของเลือดหยุดนิ่งเกิดอาการชาที่แขนขาส่วนที่ถูกทับได้

- ถ้าเรานอนหงายได้ การใช้หมอนอาจไม่จำเป็นนัก ลองนึกดูซิค่ะว่าถ้าหมอนสูงเกินไป จนคอเราต้องก้มมาข้างหน้าตลอดทั้งคืน ย่อมทำให้เกิดอาการเจ็บปวดคอได้ง่ายและเสี่ยงต่ออาการตกจากหมอนสูง ทำให้คอเคล็ดได้

- การนอนคว่ำ เป็นท่าที่ควรหลีกเลี่ยงนะค่ะ เพราะการนอนคว่ำจะทำให้เราหายใจไม่สะดวก ติดขัด แถมยังอาจจะทำให้เกิดอาการปวดต้นคอด้วย เนื่องจากต้องเงยมาข้างหลังหรือบิดหมุนไปข้างซ้ายหรือขวานานเกินไป


การเลือกหมอนที่เหมาะสมมีความสำคัญมากต่อผู้ที่มีปัญหาการปวดคอปวดต้นคอ ดังนั้นเราควรจะเลือกหมอนที่ไม่สูงจนเกินไปรองรับน้ำหนักศีรษะของเราได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าไม่รู้จะเลือกหมอนแบบไหนดีลองแวะมาเลือกหมอนของzitzleep.comดูสิค่ะมีให้เลือกหลายแบบเลยนะ


เข้าไปดูเว็บของเราได้ที่

//www.zitzleep.com/


♥♥ ติดต่อสอบถามเราได้ที่ LINE :@Zitzleep


เข้าไปดู VDO ผลิตภัณฑ์ของเราได้ที่

https://www.youtube.com/c/ZitZleepShop


ดูคำถามที่เพื่อนๆ มีการถามกันบอ่ยๆ ได้ที่

https://www.facebook.com/groups/zitzleep


ติดตามเราทาง Google+ ได้ที่

https://plus.google.com/+ZitZleepShop


#หมอน






Create Date : 21 กรกฎาคม 2558
Last Update : 21 กรกฎาคม 2558 21:27:01 น.
Counter : 2500 Pageviews.

0 comment
หมอนรองคอ
หมอนรองคอ


คุณเคยเดินทางไกลไหม แล้วคุณเดินทางด้วยพาหนะอะไรรถยนต์ รถไฟ รถทัวร์ รถตู้ เรือ หรือเครื่องบิน ถ้าคุณเดินทางไม่นานคุณคงไม่รู้สึกอะไรแต่ถ้าหากคุณจำเป็นต้องเดินทางไกลๆ และใช้เวลานานๆมันคงทำให้คุณรู้สึกไม่ดีนัก นอนก็ไม่ได้ นั่งก็ไม่สบาย พนักพิงก็ไม่สบายนัก ปวดคอปวดต้นคอ แต่หากว่าคุณมีหมอนรองคอสักใบมันคงจะทำให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น

คอของเรา

คอเป็นอวัยวะที่สำคัญของคนเรา ที่คอยเชื่อมต่อศีรษะกับร่างกายให้เชื่อมต่อกันและยังมีเส้นประสาทที่คอยรับคำสั่งต่างๆจากสมองไปยังกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่ากาย และคอยรับความรู้สึกต่างๆไปยังสมองเพราะฉะนั้นดูแลคอ ให้ดีๆนะค่ะ จะได้ไม่ปวดคอ

หมอนรองคอดีกับคอเราอย่างไร

1. หมอนรองคอช่วยให้สามารถนอนหลับบนรถ เคยไหมค่ะที่ต้องนั่งรถเป็นเวลานานๆ เพื่อไปเรียนไปทำงานหรือไปส่งลูกที่โรงเรียน แล้วต้องเจอรถติดชนิดไม่ขยับไปไหนหลับไปตื่นขึ้นมาก็ปวดคอ ปวดต้นคอ แต่ถ้าคุณมีหมอนรองคอดีๆสักใบก็จะทำให้การงีบหลับของคุณหรือลูกของคุณ สบายยิ่งขึ้นเพราะหมอนรองคอจะช่วยประคองศีรษะของเราทำให้เวลาตื่นขึ้นมา ไม่มีอาการปวดคอ หรือปวดต้นคอ


2. หมอนรองคอดีกับคุณเวลาที่คุณต้องเดินทางไกล เคยไหมค่ะที่ต้องนั่งรถหรือเครื่องบินเป็นเวลานานๆ นอนก็ลำบาก ขยับไปไหนก็ไม่สะดวกอยากจะยืดเส้นยืดสายก็ทำไม่ได้ แต่ถ้าคุณมีหมอนรองคอดีๆสักใบ ก็จะทำให้คุณสามารถนอนหลับได้สบายยิ่งขึ้นแม้ในสถานที่ที่ไม่อำนวยช่วยลดอาการปวดคอ ปวดต้นคอได้


3. หมอนรองคอดีกับคุณเวลาพักผ่อน เวลาคุณดูโทรทัศน์ เวลาที่คุณนั่งดูโทรทัศน์ คุณก็คงอยากจะนั่งดูสบายๆพิงโซฟา พิงเก้าอี้ หรือพิงพนัง แต่ถ้าคุณเผลอหลับไป คงจะไม่ดีแน่คุณอาจจะตื่นมาแล้วมีอาการปวดคอปวดต้นคอ หากว่าคุณมีหมอนรองคอดีๆสักใบ หมอนรองคอก็จะช่วยพยุงคอของคุณเอาไว้ทำให้คุณไม่รู้สึกปวดคอ ปวดต้นคอในเวลาคุณตื่นขึ้นมา


4. หมอนรองคอช่วยบรรเทาอาการปวดคอ ในเวลาที่คุณปวดคอ ปวดต้นคอจาก การออกกำลังกายที่มากเกินไปนอนผิดท่า นอนตกหมอน หรือ นั่งทำงานนานๆ หมอนรองคอดีๆ จะช่วยรองรับแรงกดทับของศีรษะทำให้อาการปวดบรรเทาลงได้

หมอนรองคอ ดีกับคอเราขนาดนี้คงจะต้องหามาลองใช้สักใบแล้วสินะค่ะ ถ้าไงลองเข้ามาชมสินค้า ZitZleep สิค่ะ

เข้าไปดูเว็บของเราได้ที่

//www.zitzleep.com/


♥♥ ติดต่อสอบถามเราได้ที่ LINE :@Zitzleep


เข้าไปดู VDO ผลิตภัณฑ์ของเราได้ที่

https://www.youtube.com/c/ZitZleepShop


เข้าไปดู facebook ของเราได้ที่

facebook.com/zitzleep


ดูคำถามที่เพื่อนๆ มีการถามกันบ่อยๆ ได้ที่

https://www.facebook.com/groups/zitzleep


#หมอนรองคอ





Create Date : 15 กรกฎาคม 2558
Last Update : 15 กรกฎาคม 2558 19:50:59 น.
Counter : 2976 Pageviews.

0 comment
การนั่งสมาธิมีประโยชน์อย่างไร
การนั่งสมาธิมีประโยชน์อย่างไร


เคยทราบกันไปไหมค่ะว่าการนั่งสมาธินั้นมีประโยชน์อย่างไรอยากจะนั่งสมาธิต้องทำอย่างไร นั่งสมาธิแล้วจะดีกับคุณแค่ไหนคุณอาจจะต้องนั่งทนหลังขดหลังแข็ง ปวดหลัง ปวดเอว ปวดก้นกบ จนอยากจะเลิกแต่ลองนั่งสมาธิดูเถอะค่ะ บางทีคุณอาจจะประหลาดใจกับผลลัพธ์ของการนั่งสมาธิจนคุณคาดไม่ถึงเลยก็ได้

สมาธิ ในความหมายของพจนานุกรม แปลว่า ที่ตั้งมั่นแห่ง จิต แต่สมาธิในความหมายของ การฝึกปฏิบัติ คือการทำใจให้นิ่งซึ่งต่างจากร่างกายที่ยิ่งเคลื่อนไหวยิ่งแข็งแรง แต่จิตใจนั้นตรงกันข้ามคือจิตใจหวั่นไหวย่อมอ่อนแอ แต่หากหยุดนิ่งเฉยได้แล้วจะยิ่งมีพลังเหมือนการรวมโฟกัสของแสงให้เป็นจุดเดียวกัน ย่อมมีพลังที่จะจุดไฟให้ติดได้


การเตรียมตัวก่อนเริ่มนั่งสมาธิ

- ก่อนจะเริ่มทำจิตใจให้สะอาดด้วยการนั่งสมาธิเราก็ควรจะต้องเริ่มด้วยการชำระล้างร่างกายให้สะอาดเสียก่อน อาบน้ำ ล้างหน้าล้างมือ ล้างเท้า เพื่อที่จะทำให้ร่างกายเรารู้สีกสบายมากขึ้น


- การเลือกสถานที่ในการทำสมาธินั้นก็เป็นสิ่งสำคัญมากนะค่ะควรเลือกสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ผู้คนไม่พลุกพล่านจอแจสงบเย็นสบาย เพื่อที่เราจะได้นั่งทำสมาธิได้ดียิ่งขึ้น


- ก่อนจะเริ่มทำสมาธิเราไม่ควรคิดมากห่วงหน้าพะวงหลัง เราควรทำใจให้สงบพยายามตัดความกังวลทุกอย่างออกไป เตรียมที่นั่งเบาะรองนั่งหรืออาสนะให้พร้อม เพื่อที่จะได้ทำสมาธิได้ดียิ่งขึ้น

- เริ่มด้วยการสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดา มารดา คุณครูบาอาจารย์ ที่ควรเริ่มแบบนี้เพราะมีงานวิจัยว่า การสวดมนตืทำให้จิตใจสงบเร็วขึ้น แล้วจึงตามด้วยการนั้งสมาธิ

- อย่าเคร่งเครียดมากจนเกินไปการตั้งใจมากจนเกินไปว่าจะต้องนั่งสมาธิให้ได้นานยิ่งขึ้นนั่งสมาธิให้ไปถึงขั้นโน้น ขั้นนี้จะทำให้ใจของเรามีแต่ความกังวล พะวงถึงแต่อนาคตเราควรกำหนดให้จิตของเราให้อยู่กับปัจจุบัน เมื่อเริ่มนั่งแรกๆ 5-10 นาทีก็เพียงพอเมื่อเริ่มคุ้นเคยแล้วก็ค่อยๆเพิ่มเวลาตามความสบาย จะนั่งได้นานขึ้นเองนะค่ะ

- เมื่อนั่งเสร็จแล้วก็ก็แผ่เมตตา แล้วหายใจยาวๆ 3 รอบ พอสบายแล้วค่อยๆลืมตา


ระหว่างนั่งทำสมาธิ

ในการนั่งสมาธิ เราควรนั่งในท่าขัดสมาธิ ขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้ายนิ้วชี้ขวาจรดนิ้วหัวแม่มือซ้าย วางไว้บนตัก หลังตรง ศีรษะตรง ไม่ควรนั่งพิงเพราะจะทำให้ง่วงได้ง่าย ในกรณีที่มีอาการป่วย ปวดเอว ปวดหลัง ปวดก้นกบ ลองหาเบาะรองนั่งมาลองใช้ดูก็ได้นะค่ะ แต่ถ้านั่งไม่ได้จริงๆ อย่างคุณพ่อ คุณแม่ที่นั่งขัดสมาธิไม่ได้ นั่งบนเก้าอี้แทนก็ได้ค่ะ นั่งสบายๆไม่ต้องเกร็งนะค่ะ จากนั้นค่อยๆหลับตาลงกำหนดให้สติอยู่กับลมหายใจของเรา เมื่อเราเริ่มฝึกสมาธิแรกๆไม่ควรนั่งนานจนเกินไปให้ใช้เวลาน้อยๆก่อน สัก 5-10 นาที จากนั้นเมื่อเราฝึกบ่อย ๆจนเริ่มชิน แล้ว จึงค่อยเพิ่มระยะเวลาขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อทำให้ร่างกายและจิตใจของเราค่อย ๆ ปรับตัวนะค่ะ


ประโยชน์ของการนั่งสมาธิ

- ทำให้เรานอนหลับสบายไม่ฝันร้าย เพราะการนั่งสมาธิทำให้เราจิตใจผ่องใส สะอาด บริสุทธิ์จึงทำให้เราคลายความวิตกกังวล ไม่คิดมาก ก็เลยหลับสบายนั่นเองค่ะ

- ช่วยให้เรามีความเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้นพัฒนาบุคลิคภาพให้ดีขึ้น สง่าผ่าเผยและรู้สึกกระปรี้กระเป่ามากขึ้นควมคุมตัวเองได้ดีขึ้น ให้เหมาะสมกับกาละเทศะอีกด้วย

- การนั่งสมาธิช่วยให้เรามีความจำดีขึ้นด้วยนะค่ะรอบคอบและรู้จักพินิจพิจารณาเรื่องต่างได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเรียนหรือทำงาน

- การนั่งสมาธิทำให้เราแก่ช้าด้วยนะคะการนั่งสมาธิทำให้ความเครียดที่จะมากระทบจิตใจของเราลดน้อยลง พอตัวเราไม่เครียดร่างกายของเราก็จะหลั่งสารทำทำให้เกิดความสุขทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงเพราะมีภูมิต้านทานเชื้อโรคนั้นเอง

- การนั่งสมาธิทำให้เราประพฤติดีทั้งทางกายวาจา และใจ ทำให้เราเป็นคนจิตใจอ่อนโยนยิ่งขึ้น รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น

- การฝึกนั่งสมาธินั้นจะช่วยทำให้จิตใจเราสงบนิ่งมากยิ่งขึ้นและเมื่อจิตใจเราสงบนิ่งเราก็จะมีพลังในการยับยั้งการกระทำทั้งทางกาย วาจาและใจช่วยให้เราสามารถระงับอารมณ์โมโห และอารมณ์ด้านลบต่างๆได้ดีขึ้น

- มีการศึกษาทำให้เราพบว่าผู้ที่มีจิตเป็นสมาธิจะมีความดันและอัตราการหายใจลดลง หัวใจเต้นช้าลงคลื่นสมองช้าและเป็นระเบียบมากขึ้น การเผาผลาญพลังงานในร่างกายลดลงความตึงตัวของกล้ามเนื้อลดลง ส่งผลทำให้มีสุขภาพดี และช่วยบำบัดรักษาโรคได้โดยเฉพาะหากทำร่วมกับการออกกำลังกายด้วย


การนั่งสมาธินั้นทำให้เกิดผลดีกับทั้งทางร่างกายและจิตใจเราควรจะหันมาเริ่มดูแลตัวเองด้วย

การนั่งสมาธิกันดีกว่าค่ะแต่หากถ้ามีปัญหากับการนั่ง ปวดเอว ปวดหลัง ปวดก้นกบแล้วหล่ะก็ลองเลือกเบาะรองนั่ง สักอันสิค่ะน่าจะช่วยคุณได้ หรือท่านที่อยากมีส่วนร่วมในบุญของพระคุณเจ้ารูปใดที่ท่านศัทธา

สามารถซื้อเบาะรองนั่งไปเป็นอาสนะสงฆ์ถวายท่านได้นะค่ะ ไม่ผิดวินัยสงฆ์ค่ะ  เวลาท่านนั่งสบายเราก็ได้บุญนะค่ะ


ลองแวะมาที่ เข้าไปดูเว็บของเราได้ที่

//www.zitzleep.com/


♥♥ ติดต่อสอบถามเราได้ที่ LINE :@Zitzleep


เข้าไปดู VDO ผลิตภัณฑ์ของเราได้ที่

https://www.youtube.com/c/ZitZleepShop


ดูคำถามที่เพื่อนๆ มีการถามกันบอ่ยๆ ได้ที่

https://www.facebook.com/groups/zitzleep


ติดตามเราทาง Google+ ได้ที่

https://plus.google.com/+ZitZleepShop


#นั่งสมาธิ





Create Date : 07 กรกฎาคม 2558
Last Update : 7 กรกฎาคม 2558 19:23:10 น.
Counter : 3650 Pageviews.

0 comment
ปวดเอว

ปวดเอว

มนุษย์ร้อยล่ะ 80 เปอร์เซ็น เคยมีอาการปวดเอว ปวดเอวด้านหลัง หรือปวดบั้นเอวกันมาแล้วทั้งนั้นอาการปวดเอวมักจะมาจากการใช้ชีวิตประจำวันของเราการเดิน การยืน การนั่ง หรือกระทั่งการนอน ถ้าคุณทำให้ร่างกายสมดุลได้ก็คงไม่ต้องกังวลเรื่องปวดเอวเลย

บางคนปวดมาก บางคนปวดน้อย บางคนปวดนาน หรืออาจปวดแป๊บเดียวก็ได้ แต่บางคนปวดเรื้อรัง ปวดๆหายๆปวดจนขยับไม่ได้เลยก็มี ซึ่งถ้าปวดมากและเรื้อรังควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุ เพราะนั้นอาจเป็นสัญญาณ ขอโรคร้ายก็ได้

แต่วันนี้การปวดเอวหรือปวดบั้นเอวที่เราจะพูดถึงเป็นอาการเล็กๆน้อยๆที่สร้างความรำคาญให้กับชีวิตประจำวันของเราซึ่งเราสามารถ บรรเทา หรือป้องกันได้นะค่ะ

สาเหตุของการปวดบั้นเอว

  • การยกของหนักมากเกินไปและไม่ถูกวิธี คุณแม่ที่มักจะอุ้มลูกอยู่ตลอดเวลา มีโอกาสปวดบั้นเอวมากเป็นพิเศษ
  • การยืนที่ไม่ถูกหลักกายภาพ มีสมดุลที่ไม่ถูกต้อง และยืนนานๆ
  • การเคลื่อนไหวที่ผิดท่าอย่างรวดเร็วและรุนแรง เช่น การเอี่ยวตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้บาดเจ็บ ปวดหลัง ปวดเอว ได้


  • คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ โดยเฉพาะใกล้คลอด อาการปวดเอว ปวดหลัง ปวดบั้นเอว เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ และจะหายไปเองในที่สุดเมื่อสุดสุดการตั้งครรภ์ ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับการดูแลค่ะ


  • คนที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป อ้วนเกินไป และ ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ร่างกายต้องแบกรับน้ำหนักมากทำให้ปวดบั้นเอว
  • การเกิดอาการบาดเจ็บที่อาจทำให้กล้ามเนื้อ เอ็นและเส้นเอ็นต่างๆ ในร่างกายที่เกี่ยวเนื่องกับกระดูกสันหลัง ที่อาจทำให้อวัยวะดังกล่าวเกิดความตึงเครียดได้
  • อายุที่มากขึ้นทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเจ็บปวดที่ลุกลามไปถึงขาหรือเท้า ทำให้มีอาการขาชา ขาอ่อนแรงหรืออ่อนแอ (เรียกวา สเคียติกา)
  • ความผิดปกติที่มีมาตั้งแต่กำเนิด หรือการเกิด เนื้องอกในกระดูกสันหลังซึ่งพบไม่มากนัก


การหลีกเลี่ยงป้องกัน และวิธีแก้ปวดเอวปวดหลัง

  • เวลายกของให้ใช้วิธีย่อตัวงไปหยิบของ แทนที่จะโน้มตัวลงไป หลีกเลี่ยงการใช้แรงมาก ๆ ในการยกของหนัก


  • หากต้องยืนนานๆ ให้ยืนตัวให้ตรง และพยายามเปลี่ยนน้ำหนักไปที่ขาข้างใดข้างหนึ่งอยู่บ่อยๆ ไม่ให้ขาข้างใดข้างหนึ่งรับภาระหนักเกินไป
  • ถ้ามีอาการปวดมากๆ ให้นอนลงกับพื้น แล้วใช้เท้าพาดบนเก้าอี้ให้เข่างอเป็นมุมฉาก
    สักครู่หนึ่งก็อาจทุเลาได้ ทำเมื่อโอกาสอำนวย เช่น ในระหว่างหยุดพักหรือหลังเลิกงาน
  • พยายามออกกำลังกาย เดิน ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ หรือเดินในน้ำลึกระดับหน้าอก เพื่อจะได้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกล้ามเนื้อขา และการทรงตัวยืนหันหลังพิงฝาผนัง ขยับขาทั้งสองข้างยื่นไปข้างหน้า ประมาณหนึ่งฟุตครึ่ง แล้วย่อตัวขึ้นลง เป็นการออกกำลังกายที่ดีมากสำหรับคนปวดหลัง
  • ไม่ควรนั่งนานๆ หากต้องนั่งนานควรเปลี่ยนท่าบ่อยๆ หรือเปลี่ยนเป็นเดินหรือยืนบ้างก็จะช่วยได้
  • การประคบร้อน ประคบเย็น สามารถช่วยบรรเทาอาการได้
  • การปรับเปลี่ยนท่านั่ง ให้เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการเอื้อมมือในระยะไกลๆ หรือการเอียวตัวเปลี่ยนท่าอย่างทันที
  • การออกกำลังเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
  • ถ้ามีอาการปวดเอว ปวดเอวด้านหลัง หรือปวดบั้นเอว แต่ถ้าปวดไม่หาย ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที

แต่ถ้าคุณต้องการมองหาอุปกรณ์เสริม

เพื่อช่วยให้อาการปวดหลังสบายขึ้น หรือบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น

เข้าไปดูเว็บของเราได้ที่

//www.zitzleep.com/product/53/BA-001


♥♥ ติดต่อสอบถามเราได้ที่ LINE :@Zitzleep


เข้าไปดู VDO ผลิตภัณฑ์ของเราได้ที่

https://www.youtube.com/c/ZitZleepShop


ดูคำถามที่เพื่อนๆ มีการถามกันบอ่ยๆ ได้ที่

https://www.facebook.com/groups/zitzleep


ติดตามเราทาง Google+ ได้ที่

https://plus.google.com/+ZitZleepShop


#ปวดเอว





Create Date : 30 มิถุนายน 2558
Last Update : 30 มิถุนายน 2558 19:41:32 น.
Counter : 3739 Pageviews.

0 comment
ท่านั่งที่ถูกต้อง
ท่านั่งที่ถูกต้อง


Smileyท่านั่งที่ถูกต้องนั้น ไม่ใช่แค่นั่งหลังตรงเพียงอย่างเดียวเราควรต้องคำนึงถึง คอ หลัง และไหล่ เพื่อการนั่งที่สบาย การนั่งหลังตรงจนเกินไป ก็ไม่ถูกต้องนักเพราะการที่ต้องนั่งเกร็งตลอดเวลาเพื่อให้หลังตรงอาจเป็นสาเหตูที่ทำให้ปวดหลังได้ด้วยเช่นกัน เพราะมันจะกลายเป็นการแอ่นหลัง ท่านั่งที่ถูกต้องนั้นควรจะนั่งแบบสบายๆตามธรรมชาติ ไม่ต้องนั่งเกร็ง หรือพยายามนั่งเพื่อให้หลังตรง อยู่ในระดับที่ตั้งฉากพอดี

Smileyเนื่องจากสมัยนี้เราต้องนั่งทำงานที่โต๊ะหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ บางครั้งมากกว่า 7ชั่งโมงเลยทีเดียวดังนั้นการนั่งไม่ถูกท่า นั่งไม่สบาย แล้วยังต้องนั่งนานๆ ทำกิจกรรมซ้ำ ก้เป็นสาเหตุ ของอาการไม่พึงประสงค์มากมาย ทั้ง ปวดเอว ปวดไหล่ ปวดคอ ปวดหลัง เจ็บก้นกบ และอีกมากมาย และถ้าบางคนรู้สึกว่าเรื่องเล็ก แค่ปวดๆเมื่อยๆ โดยที่ไม่ได้รับการแก้ไข อาการเล็กน้อยอาจกลายเป็นอาการเรื้อรังรุนแรงได้

"  ถ้าเราแก้ไขตั้งแต่ยังไม่เป็นเลยจะดีกว่าไหมค่ะ ด้วยการนั่งที่ถูกต้อง "


Smileyท่านั่งที่ถูกต้องในการทำงานควรเป็นอย่างไร

1. เราควรจะต้องนั่งหลังตรงและไม่ควรโน้มตัวไปข้างหน้ามากจนเกินไป เพื่อลดอาการตึงที่ช่วงหลังของเราและช่วยให้การหายใจนั้นสะดวกมากยิ่งขึ้น


2. วางเท้าให้ขนานไปกับพื้นทั้ง2 ข้าง เพราะการที่เท้าของเราอยู่ในลักษณะที่วางราบไปกับพื้นแล้วมันก็จะช่วยจัดท่าทางของร่างกายเราให้โดยอัตโนมัตินั่นเอง ถ้าหากนั่งไขว่ห้างหรือวางขาไว้เพียงข้างเดียว ก็จะส่งผลในเรื่องของความดัน ที่จะส่งลงไปที่ช่วงขาใต้หัวเข่าของเราและก็จะอาจจะเกิดผลเสียจากการที่เลือดไหลเวียนไม่ค่อยสะดวกอีกด้วย


3.  ในการมองหน้าจอนั้นเราควรจะต้องปรับระดับหน้าจอให้อยู่ตรงหน้าของเราพอดี ให้สายตานั้น มองตรงไปที่ด้านหน้า ไม่ก้มลง หรือไม่เงยหน้าขึ้นจนมากเกินไปจะช่วยลดอาการตึง หรืออาการเมื่อยล้าบริเวณกล้ามเนื้อช่วงคอได้



4. สำหรับการวางแขนในช่วงที่เราใช้งานคอมพิวเตอร์นั้น ควรเก็บข้อศอกไว้ในตำแหน่งที่ใกล้กับตัวสักหน่อยเพื่อที่จะช่วยให้ผ่อนคลายหัวไหล่และแขน ลดอาการเมื่อยล้าจากการใช้งานได้




5. ที่ข้อมือนั้นให้แน่ใจว่า เราไม่ได้บิดหรืองอข้อมือเงยขึ้นมากจนเกินไป หรือกดต่ำจนเกินไปเวลาที่เราพิมพ์ หรือใช้งานคีย์บอร์ด ซึ่งก็จะช่วยให้ไม่ได้เกิดอาการตึงหรือเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อด้วยเช่นกัน




Smileyท่านั่งที่ถูกต้องจะถ่ายเทน้ำหนักลงบนเก้าอี้ และขาที่วางเสมอกับพื้น แต่ถ้านั่งผิดวิธี น้ำหนักก็จะถ่ายเทจากคอลงไปที่เก้าอี้และขาทำให้เราต้องใช้ไหล่และบ่ายึดน้ำหนักตัวเราไว้ ลองดูเส้นสีแดงที่แสดงการถ่ายน้ำหนักที่ถูกต้อง

Smileyจะดีแค่ไหนถ้าเราจะหยุดอาการเจ็บปวดของเรา ก่อนที่จะกลายเป็นอาการเรื้อรังแก้ไขไม่ได้


Smiley สิ่งที่คุณทำได้ง่ายๆตอนนี้เลยคือนั่งให้ถูกต้องSmiley

ถ้าคุณต้องการตัวช่วยหรืออุปกรณ์ช่วยต่างๆ


ให้คุณหลีกเลี่ยงอาการเจ็บปวดได้ง่ายๆ

แวะเยี่ยมชมได้


เข้าไปดูเว็บของเราได้ที่

//www.zitzleep.com/BA-001


♥♥ ติดต่อสอบถามเราได้ที่ LINE :@Zitzleep


เข้าไปดู VDO ผลิตภัณฑ์ของเราได้ที่

https://www.youtube.com/c/ZitZleepShop


ดูคำถามที่เพื่อนๆ มีการถามกันบ่อยๆ ได้ที่

https://www.facebook.com/groups/zitzleep


ติดตามเราทาง Google+ ได้ที่

https://plus.google.com/+ZitZleepShop


#ปวดหลัง




Create Date : 23 มิถุนายน 2558
Last Update : 23 มิถุนายน 2558 20:02:31 น.
Counter : 1933 Pageviews.

0 comment
1  2  3  

SurasakSu
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Group Blog