|
|
มิใช่ความเห็นแก่ตัวที่ทำให้สมเด็จพระสมณโคดมทรงผินพระปฤษฎางค์ให้แก่พระราชวังของพระองค์
"มิใช่ความเห็นแก่ตัวที่ทำให้ประวัติศาสตร์ของทุกชาติเต็มไปด้วยวีรบุรุษและนักบุญ มิใช่ความเห็นแก่ตัวที่ในประวัติศาสตร์โลกทุกหน้าได้ระเบิดออกมาเป็นความงดงามแห่งการกระทำอันสูงส่งโดยทันทีหรือฉายรังสีนวลแห่งชีวิตอันมีเมตตาให้ปรากฏอยู่ มิใช่ความเห็นแก่ตัวที่ทำให้สมเด็จพระสมณโคดมทรงผินพระปฤษฎางค์ให้แก่พระราชวังของพระองค์ หรือทำให้โจนออฟอาร์ก (Maid of Orleans) ยกดาบขึ้นจากแท่นบูชา ทำให้นักรบสปาร์ตาทั้งสามร้อยสู้ตายในช่องเธอร์มอพิลี หรือที่รวบใบหอกจำนวนมากฝังเข้าไปในอกของ Winkelried ที่ใช้โซ่ล่าม Vincent de Paul ติดกับกระทงเรือแกลลีย์ หรือที่ทำให้เด็กเล็ก ๆ ที่อดอยากในระหว่างทุพภิกขภัยในอินเดียเดินโซซัดโซเซมายังสถานีบรรเทาทุกข์โดยมีเด็กน้อยผู้อดอยากที่อ่อนเพลียยิ่งกว่าอยู่ในวงแขน จะเรียกว่าศาสนา ความรักชาติ ความเห็นใจ ความกระตือรือร้นในมนุษยธรรม หรือความรักแห่งพระผู้เป็นเจ้า จะเรียกว่าอะไรก็ได้ตามที่ท่านต้องการ แต่ยังมีพลังอย่างหนึ่งซึ่งเหนือกว่าความเห็นแก่ตัวและขจัดความเห็นแก่ตัวออกไป พลังซึ่งเป็นไฟฟ้าแห่งจักรวาลของศีลธรรม พลังซึ่งทำให้พลังอื่น ๆ ทั้งสิ้นที่อยู่เคียงข้างอ่อนแอลงไป ทุกแห่งที่มนุษย์เคยอยู่ พลังนี้ได้แสดงอานุภาพมาแล้วและขณะนี้โลกก็เต็มไปด้วยพลังเช่นนี้ ดังที่เคยเป็นมา . . . " (จาก //geocities.com/utopiathai/ProgressAndPoverty.html หน้า 462-463)
ในหนังสืออเมริกันดีเด่น Progress and Poverty (ค.ศ.1879) เฮนรี จอร์จยังได้เขียนถึงกาฉลาดที่ชื่อ Bushanda ในมหากาพย์เรื่องรามายณะ คัมภีร์เวท และ พระธรรมบท ไว้ด้วยดังนี้
"ไม่เป็นการไร้เหตุผลที่ Bushanda กาฉลาดในเรื่องรามายณะ 'ผู้ได้อยู่มาในทุกส่วนของเอกภพและรู้เหตุการณ์ทุกอย่างนับตั้งแต่เริ่มกาลเวลา' ได้ประกาศว่า ถึงแม้การรังเกียจต่อประโยชน์ทางโลกจะเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความสุขสูงสุด แต่ความเจ็บปวดที่รุนแรงที่สุดก็เกิดขึ้นจากความยากจนสูงสุด . . . " (ProgressAndPoverty หน้า 356) และ
" . . . คัมภีร์เวทมิได้ประกาศสิ่งใดที่เป็นความจริงยิ่งไปกว่าเมื่อ Bushanda กาฉลาดกล่าวแก่พญาครุฑผู้เป็นพาหะของพระวิษณุว่า ความเจ็บปวดรุนแรงที่สุดนั้นอยู่ที่ความยากจน เพราะความยากจนหาได้เป็นแต่เพียงการทำให้สิ้นเนื้อประดาตัวเท่านั้นไม่ หากยังหมายถึงความอัปยศ ความต่ำทราม เป็นการเผาส่วนที่รู้สึกไวที่สุดของลักษณะทางศีลธรรมและทางจิตใจของเราเสมือนหนึ่งนาบด้วยเหล็กแดง . . . " (ProgressAndPoverty หน้า 457) และ
"คัมภีร์ทั้งหลายของผู้ที่เคยมาอยู่และล่วงลับไปแล้ว เช่นไบเบิล คัมภีร์ Zend Avesta พระเวท พระธรรมบท และคัมภีร์กุรอ่าน หลักคำสอนสำหรับเฉพาะกลุ่มของปรัชญาโบราณ ความหมายชั้นในของลัทธิศาสนาแปลก ๆ บัญญัติของสภาศาสนจักรต่าง ๆ คำสอนของ Fox, Wesley และ Savonarola ประเพณีของอินเดียนแดง และความเชื่อของคนป่าผิวดำ เหล่านี้ล้วนแต่มีความคิดและแก่นอันหนึ่งซึ่งร่วมกัน นั่นคืออะไรบางอย่างซึ่งดูคล้ายกับจะเป็นความเข้าใจที่บิดเบือนแตกต่างกันไปในสัจธรรมขั้นปฐมอันหนึ่ง และจากลูกโซ่แห่งความคิดที่เราได้ติดตามมา ดูเหมือนจะมีแสงของสิ่งที่เขาเหล่านั้นได้เห็นอย่างเลือนรางปรากฏให้เห็นแวบหนึ่งอย่างราง ๆ นั่นคือลำแสงสลัวแห่งความสัมพันธ์ขั้นเด็ดขาด ซึ่งความพยายามที่จะแสดงออกได้กลายมาเป็นแบบอย่างและนิยายอุปมาอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ . . . " (ProgressAndPoverty หน้า 563)
คำว่า Gautama, Ramayana, Veda, Vishnu และ Dhammapada มีอธิบายอยู่ในอภิธานท้ายหนังสือ Progress and Poverty หรือ ความก้าวหน้ากับความยากจน ที่ //geocities.com/utopiathai/ProgressAndPoverty.html ด้วย
Create Date : 03 กันยายน 2549 |
Last Update : 9 กันยายน 2549 9:16:08 น. |
|
0 comments
|
Counter : 650 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|