Once upon a time ...
Group Blog
 
All blogs
 
ติดใจ


เวลาเห็นหน้า หรือเห็นชื่อใครบางคน ออกมาตามทีวีหรือสื่อสิ่งพิมพ์ อดไม่ได้จริงๆที่จะคิดไปถึงเหตุการณ์เก่าๆที่ยังติดอยู่ในใจ ความจำมันทำงาน เห็น..ทบทวน..มีองค์ประกอบรอบๆ..มีเรื่องที่ติดใจ ค้างคาใจ แล้วก็ลงความเห็นว่าชอบหรือไม่ชอบ คนคนนั้น

ช่วงนี้นั่งทบทวน คนที่ชอบและไม่ชอบ ในวงการหนึ่ง เผอิญว่าหลายปีก่อน เคยได้ทำงานในหน่วยงานที่จัดฝึกอบรม แล้วเลยได้รู้เห็นว่าบุคคลภายนอกหน่วยงานคนไหนทำอะไร เกี่ยวข้องกับหน่วยงานนั้นบ้าง

คนที่หนึ่ง เมื่อนานมาแล้ว เราเคยชอบเขา เราว่าเขาพูดจาตรงไปตรงมาดี กล้าวิจารณ์ แต่เมื่อได้ศึกษามากขึ้น ชักจะงงในคำวิจารณ์ ชักจะไม่แน่ใจ พอได้สัมผัสยามที่เขามารับตำแหน่งกรรมการ... สายตาเราเริ่มเอียงข้างแล้ว ความชอบใจเอียงมาข้างความไม่ชอบใจ คนที่กล้าเอ่ยปากว่าคนนั้นคนนี้ ตัวเขาเองก็มีพฤติกรรมที่เอาอะไรๆเข้าตัวอยู่เหมือนกัน ง่ายๆเลย จัดหลักสูตรฝึกอบรมที่โรงแรมไหน ตัวเขาจะไปร่วมวงอาหารกลางวันโต๊ะวีไอพีได้ทุกวัน นั่งรถจากที่ทำงานเพื่อมากินข้าวหรูที่โรงแรม แล้วคนแบบนี้ ไม่รู้หรือว่า..สิ่งที่เขาทำ มันควรหรือไม่ควร ?? ต่อให้ไปโดยหัวหน้าหน่วยงานชวนก็เถอะ เราไม่โทษว่าใครคนใดคนหนึ่งผิดหรอก เพราะความควร ไม่ควร คนแบบนี้ควรจะคิดเองได้

ยังไม่นับว่า พี่สาวรู้จักสนิทชิดเชื้อกับอดีตภรรยาของเขา คนที่ดูเหมือนเป็น family man แท้จริงก็มีอะไรซ่อนอยู่ข้างหลัง น่าเศร้าจัง และค่าตอบแทนเกี่ยวเนื่องกับตำแหน่ง ผู้ช่วยของเขาที่ได้ค่าตอบแทน ก็ไม่ได้จ้างมาจากที่ไหน เอาคนในครอบครัวตัวเองนั่นล่ะมารับผลตอบแทนส่วนนี้


คนที่สอง คนนี้เคยสอนเรา และก็สอนดี พูดจามีเหตุมีผล ติดใจอยู่นิดเดียวตอนไปดูงาน รู้รู้กันอยู่ว่า โปรแกรมศึกษาดูงานของเหล่าผู้บริหาร มันคือการไปเที่ยว ไม่เคยมีใครเอาจริงเอาจังกับความสูญเสียของงบประมาณประเทศที่ข้าราชการเอางบมา entertain ตัวเองโดยอาศัยการดูงานบังหน้า คนนี้ไปดูงานด้วย..แค่นั้นเองที่มันติดใจ มันติดใจเพราะในกลุ่มนั้น มีเขาไปด้วย อาศัยสิทธิพิเศษหรือความสัมพันธ์กับหัวหน้าหน่วยงานก็แล้วแต่ แล้วเลยมาเปรียบเทียบกับคนที่เราศรัทธา เขาไม่ไป คนที่เราศรัทธา เขาอาจจะทำอะไรอื่นที่เราไม่รู้ก็ได้ แต่ความติดใจตรงนี้ มันก็ยังติดอยู่ ช่วยไม่ได้จริงๆ


คนที่สาม พูดจาดูดีมีหลักการ บางช่วงบางเวลาที่เกี่ยวพันกับการเมือง เขาจะออกสื่อบ่อยมาก เขาเคยมารับทำงานวิจัยในราคาหลายแสน มีการต่อรองให้เขาได้ไปต่างประเทศด้วย เขาคงได้ประสบการณ์เอาไปใช้ในการดำเนินชีวิตเขาต่อไป สร้าง profile เขาให้ดูดีขึ้น แต่หน่วยงานแห่งนั้น ยังไม่เห็นว่าจะมีความคืบหน้าจากผลงานวิจัยที่จ่ายค่าตัวให้เขาไปแล้วเลย และเราเชื่อว่า หากมีใครถามเรื่องงานวิจัยส่วนนี้ เขาคงตอบได้หน้าตาเฉยว่า งานวิจัย รายงานของเขาทำไว้อย่างดี แต่เป็นที่คนในหน่วยงานไม่เอาไปใช้เอง ซึ่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่เขาแต่อยู่ที่หน่วยงานนั้นตะหาก


คนที่สี่ คนนี้ ถ้าไม่เอาไปเปรียบเทียบกับอีกคน ก็ดูธรรมดา แต่โลกนี้มีอะไรให้เปรียบเทียบอยู่บ้าง พอเทียบกันแล้ว พบว่าบางเรื่องที่เขาพูด มันแย้งกับที่อีกคนพูด เอาล่ะสิ จะเชื่อใครดี ก็ต้องดูกันที่เหตุผล และเราเห็นว่าการให้เหตุผลของเขายังไม่ชัดเจน นั่นก็เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องสำคัญคือ เขามารับตำแหน่งเป็นกรรมการ... ซึ่งไม่ได้มีบทบาทอะไรสักเท่าใดนัก แต่ตำแหน่งมันมีผลตอบแทน ต่อให้ไม่ทำอะไรเลย ผลตอบแทนก็เป็นเงินภาษีทั้งนั้นนี่นา


บางที เลยเหมือนเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย ใครจะมองใครดีก็ตาม ถ้าเป็นคนที่เราติดใจ ค้างใจ เรากลับไม่สามารถมองข้ามจุดสีเทาตรงนั้นไปได้ แม้จะรู้ว่า ไม่มีใครดีพร้อมก็ตาม หน้าฉากกับหลังฉาก บางที มันก็คนละฉาก เพียงแต่เรื่องที่ติดใจ ไม่ได้บอกเล่าให้ใครฟัง บอกไป จะมีคนเชื่อสักกี่คนนะ ?? ที่เขียนมานี่น่ะ ดูเหมือนเรื่องในจินตนาการ...อืม..จริงๆเป็น plot เรื่องสั้นที่ร่างเอาไว้ก่อนค่า


ติดใจคนอื่นมากพอแล้ว เห็นทีต้องติดใจตัวเองซะบ้าง เอาใจไปอยู่กับคนอื่นคงไม่เกิดประโยชน์อะไร เอาใจดูความร้ายๆของตัวเองน่าจะมีประโยชน์กว่า ตัวเรา ก็ไม่ได้ดีไปกว่าใครอื่นเท่าใดนักหรอก


Create Date : 25 มกราคม 2555
Last Update : 25 มกราคม 2555 20:42:28 น. 0 comments
Counter : 939 Pageviews.

saifan
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add saifan's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.