วิธีเลือก กระเป๋า แบรนด์เนมใบแรกของชีวิต
ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่อยากได้กระเป๋าแบรนด์หรูๆสวยๆสักใบหรอกค่ะ แต่ที่หลายๆคนไม่มีก็เพราะราคามันไม่สมดุลกับเงินเดือนของตัวเองน่ะสิ ก็แหม
ราคาของกระเป๋าบางใบนี่เท่ากับเงินเดือนที่ได้หลายเดือนรวมกันเลยนะคะ แต่เราเชื่อว่ายังมีสาวๆหลายคนใฝ่ฝันที่จะได้ครอบครองกระเป๋าแบรนด์เนมสวยๆ คอยเก็บหอมรอมริบเงินไปเรื่อยๆ จนได้เงินมาก้อนหนึ่งใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้นเรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าเราจะเลือกกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกในชีวิตยังไงให้สวยถูกใจ คุ้มค่า และเหมาะสมกับเราให้ได้มากที่สุด 1. สำรวจจุดประสงค์และไลฟ์สไตล์ส่วนตัว หลักๆ เลย ต้องถามตัวเองก่อนว่า เราซื้อกระเป๋าใบนี้เพื่ออะไร? จะซื้อกระเป๋าเอาไว้ใช้ไปทำงาน หรือไปเที่ยว ถ้าเอาไปทำงานต้องดูที่อาชีพและลักษณะของการใช้บ่อยๆ ถ้าคุณต้องพบปะผู้คนมากมาย หรือทำอาชีพที่ต้องมีลุคภูมิฐาน น่าเชื่อถือ ต้องเลือกกระเป๋าที่มีวัสดุดี การตัดเย็บดี สีสุภาพ หากคุณประกอบธุรกิจส่วนตัว ทำงานในออฟฟิศที่มีอิสระในการแต่งตัวได้เต็มที่ ก็เลือกสีสันสดใสได้ตามใจชอบได้เลย หรือหากคุณต้องเดินทางไปโน่นมานี่ หอบข้าวของพะรุงพะรังบ่อยๆ ก็เลือกที่น้ำหนักเบาแต่ทนทานดีที่สุดค่ะ หากคุณเลือกซื้อกระเป๋าเพื่อเอาไว้ใช้ในยามว่างลองแมตช์กระเป๋ากับไลฟ์สไตล์ของคุณดูนะคะ กระเป๋า Oversized หรือ Tote เหมาะกับสาวๆที่ชอบพกของมากมาย ล้วงกระเป๋าแล้วเจอทุกอย่าง กระเป๋า Backpack เหมาะกับสาวขาลุย ชอบความคล่องตัว กระเป๋า Mini Bag เหมาะกับสาวนักช้อปที่อยากช้อปเพลินๆ แบบไม่ปวดไหล่ด้วย กระเป๋า Satchel เหมาะกับสาวนักอ่านที่ชอบพกหนังสือหรือแท็บเล็ตติดตัว กระเป๋า Clutch เหมาะกับปาร์ตี้หรืองานเลี้ยงตอนกลางคืน ที่ไม่ต้องพบของอะไรมาก 2. หลีกเลี่ยงโลโก้แบรนด์ใหญ่ๆหนาๆ ถ้าคุณรู้ตัวว่าคุณไม่ใช่สาวฐานะดีที่จะเปลี่ยนกระเป๋าแบรนด์เนมบ่อยๆ เราอยากให้เลือกรุ่นคลาสสิกเรียบๆที่ไม่จำเป็นต้องมีโลโก้แบรนด์ใหญ่เป้งให้คนจำได้ทุกครั้งที่หยิบมาใช้ การลดจุดเด่นในตัวกระเป๋าลงจะทำให้คุณหยิบมาใช้ได้บ่อยๆจนคนไม่รู้สึกว่าคุณใช้กระเป๋าใบนี้ซ้ำไปซ้ำมา และจะไม่ทำให้คุณเบื่อง่ายด้วยค่ะ 3. ดีไซน์ กระเป๋า ด้านในต้องเหมาะกับของที่เราจะใส่ หากคุณเป็นคนที่พกโทรศัทพ์มือถือ กุญแจรถ ยาดม ผ้าอนามัย ทิชชู่ ลิปสติก หมากฝรั่ง กรรไกรตัดเล็บ ไหมขัดฟัน กระดาษซับหน้า ฯลฯ เอาไว้ในกระเป๋า ควรเลือกกระเป๋าที่มีช่องแบ่งใส่ของให้เหมาะกับของที่จะใส่ด้วย ของกระจุกกระจิกยิ่งเยอะ ช่องใส่ของก็ต้องเยอะตามไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ของมีคมมาข่วนหน้าจอโทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งหาของไม่เจอเพราะรวมของเล็กๆไปอยู่ในช่องกระเป๋าใหญ่ช่องเดียวจนหมด 4. ก่อนซื้อต้องได้ลองจับของจริง ไม่ว่าคุณจะซื้อผ่านช่องทางไหน ออนไลน์ ซื้อมือสอง หรือไปซื้อที่ช็อป เราแนะนำให้คุณหาโอกาสสัมผัสและลองถือด้วยตัวคุณเองก่อนซื้อ คุณจะได้กะขนาดกระเป๋า ดูสี สัมผัสเท็กซ์เจอร์ และได้ลองถือจริงๆ เราจะได้รู้ว่ามันหนักไปหรือเบาไปหรือไม่ ลองเปิดกระเป๋า รูดซิป หรือแม้กระทั่งเทียบกับขนาดกระเป๋าสตางค์ หากกระเป๋าสตางค์ของคุณมีขนาดใหญ่ เมื่อคุณนำมาใช้จริงๆจะได้ไม่มีปัญหาว่าไม่ชอบตรงนั้นตรงนี้ของกระเป๋าทีหลังยังไงล่ะ 5. ราคาที่เหมาะสมกับฐานะ อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรกว่าไม่ใช่ว่าสาวออฟฟิศธรรมดาๆอย่างเราจะถือกระเป๋าแบรนด์เนมไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นการที่คุณจะเอาเงินที่คุณเก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต หรือนั่งผ่อนบัตรเครดิตทุกเดือนเพื่อซื้อกระเป๋าหรูๆเพียงใบเดียว ก็ดูจะลำบากชีวิตไปเปล่าๆ ทางที่ดีลองคำนวณตัวเลขเงินเดือนและค่าใช้จ่าย จำนวนเงินที่จะเก็บได้ในแต่ละเดือน และเลือกแบรนด์ที่เราพอจะจับต้องได้แบบไม่ลำบากก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ไม่เช่นนั้นการครอบครองกระเป๋าแบรนด์เนมแสนรักที่คุณคิดว่าจะทำให้คุณนอนกอดหลับฝันดีทุกคืน อาจจะทำให้คุณต้องมานั่งน้ำตาตกแล้วรู้สึกเสียดายเงินทีหลังนะคะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมพก สติ ก่อนซื้อนะ
Create Date : 10 ตุลาคม 2557 |
Last Update : 10 ตุลาคม 2557 8:13:41 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1073 Pageviews. |
|
|
|