Group Blog
All Blog
--- เ มื่ อ อ ย า ก รู้ ว่ า กิ โ ล ที่ 3 5 มี ปี ศ า จ จ ริ ง ห รื อ ไ ม่ ---








เ มื่ อ อ ย า ก รู้ ว่ า
กิ โ ล ที่ 3 5 มี ปี ศ า จ จ ริ ง มั้ ย
ก็ เ ล ย ต้ อ ง ล อ ง วิ่ ง ดู :)








เช้านี้ ประมาณตี 4 เราจอดรถไว้ข้างศูนย์ประชุมนานาชาติ
อากาศหนาวมาก แต่ไม่ใส่เสื้อแจ็คเก็ต คิดว่า วิ่งสักพักน่าจะอุ่นขึ้น มีบัฟคลุมหัวและปิดหูไว้ รู้สึกอุ่นขึ้น ลืมถุงมืออีกแล้ว !

เราเริ่มวิ่งเส้นทางเลียบคลองชล เป็นเส้นทางสำหรับจักรยาน 5 กิโลบวกอีก 3 กิโลถึงปากทางห้วยตึงเฒ่า

วิ่งสองรอบห้วยตึงเฒ่าสองรอบ ๆ ละ 3 กิโลโดยประมาณ
วิ่งออกมาสี่กิโลและวนเข้าไปอีก
วนห้วยตึงเฒ่าอีกสองรอบ

เราลองจิบน้ำกิโลที่ 5 / 12 / 17 และ 28 ตามที่รับรู้มาเพื่อหมุนเวียนความมีชีวิตชีวาของร่างกาย ไม่ให้ดื่มเมื่อกระหายเพราะนำไปใช้ไม่ทัน

ครบ 28 กิโล ฉันนึกว่าจบการวิ่งยาวของเช้านี้แล้ว คนที่บ้านพาไปร้านของชำให้เลือกน้ำดื่ม ฉันเลือกเกเตอเรด ใจน่ะอยากกินข้าวผัดกระเพราไข่ดาวมาก หิวซะงั้น
แต่คนที่บ้านเดินนำหน้าไป ฉันเลยจิบน้ำไปหนึ่งส่วนสี่เท่านั้นทั้งที่ขวดเล็ก เขาบอกว่า อย่าเดินช้า กินน้ำก็สาวเท้ายาว ๆ เราก็งง เดินช้าก็บ่นนิ เขาถามอีก จะเก็บน้ำรึยัง (คือให้ใส่น้ำในเป้ของเขา) เราก็เก็บ เพราะชื่นใจแล้ว แต่หิวข้าวจัง จากนั้นเขาก็บอกว่า วิ่งต่อนะ วิ่งไปที่รถเลย

ครั้งแรกฉันคิดว่าแค่ปากทางห้วยตึงเฒ่า เหตุเพราะวิ่งนานเกินไปประสาทอาจกลับได้ คำนวณเลขไม่ได้ นึกไม่ออกว่าต้องวิ่งอีกกี่กิโลจึงจะถึงรถ

วิ่งไป ๆ ก็ไม่ถึงปากทางซะที พอถึงปากทาง เอ้า .. เลี้ยวขวา เพิ่งถึงทางจักรยาน คิดออกแล้ว วิ่งอีก 5 กิโลกว่าจะหมดทางจักรยาน ฉันก็จ็อกกิ้งช้า ๆ เร่งไม่ได้

หมดเส้นทางจักรยาน ยังเหลืออีก 2 กิโลโอย...หน้าศูนย์ประชุมทำไมไกลอย่างนี้
ระหว่างทางไป มีเพื่อนนักวิ่งที่น่าจะมาเวลาเดียวกับเรา เขาวิ่งกันสามคน ไม่คิดสงสัยว่ามาวิ่งกันทำไมตั้งแต่ตีสี่ ถามตัวเองก็พอ เหตุผลไม่น่าต่างกัน

ฉันหยุดตอนข้ามถนน แกล้งทำยืดเหยียด ลิ้นห้อยจนเกือบจะถึงพุง แอบดีใจที่ได้พักตอนรอรถแล่นผ่าน ฝรั่งรูปหล่อกำลังวิ่งมา เห็นลิ้นจิพื้นฉันแน่เลย เขาตบบ่าให้กำลังใจและบอกฉันว่า สู้ ๆ

นะ... คนวิ่งเหมือนกันจะเข้าใจ ฉันหยุดแป๊บ เพื่อจะจ็อกกิ้งต่อ นึกไม่ออกว่า หากเดิน จะไปถึงรถเมื่อไหร่ ไม่มีทางที่ฉันจะเดินไปถึงได้เลย พอเริ่มจ็อกกิ้ง มันดีกว่าเยอะ รู้สึกว่า ระยะมันใกล้เข้ามาได้ ถึงว่า นักวิ่งประสบการณ์บอกนักบอกหนาว่า อย่าเดิน ขามันจะหนักและจะขาตายวิ่งไม่ออก กัดฟันยกขาสูง ๆ และจ็อก ๆ ให้เป็นนิสัย มันจริงมาก ๆ

35 กิโลที่ไม่มีปีศาจ เพราะฉันพอแค่นี้ ไม่รู้ว่า หลังจากนี้จะเจออะไร อาการตะคริว ชนกำแพง ขาตาย เป็นยังไง มันยังไม่เกิด ไม่ใช่ว่าจะไม่เกิด คิดแต่แรกว่า หากตะคริวจับน่อง เราจะทำยังไง จะวิ่งต่อได้หรือเปล่า เราจึงลอง คนที่บ้านจะวนกลับอีกรอบ ฉันไม่เอาแล้ว พอแค่นี้ก่อนวันนี้ กลัวหัวใจจะหยุดเต้น

ถึงกระนั้น วันซ้อมกับวันจริงอาจไม่เหมือนกัน สนามวิ่งก็เหมือนสนามชีวิต มีเหตุพลิกผันได้ตลอด ไม่เคยมีสูตรสำเร็จว่า วิ่งได้ขนาดนี้แล้วจะวิ่งแบบนี้ได้อีกบนสนามจริง มีตัวแปรและปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่คาดคิดได้ เพียงแต่การซ้อมนั้นทำให้เรารู้ตัวเอง ประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าได้บ้างจากการซ้อมวิ่งระยะจริงหรือใกล้เคียง ไม่วิ่งดิบหรือเอาแต่ใจถึงเข้าว่า มันไม่พอและไม่คุ้ม สงสารร่างกาย เพราะหากบาดเจ็บแล้วฟื้นตัวยาก เสียดายมากหากไม่ได้วิ่งอีก

ระหว่างวิ่ง เราไม่ได้คุยกัน แต่วิ่งจบถามกันว่า เธอคิดอะไรระหว่างสี่ชั่วโมงกว่าที่วิ่งตามกัน

เราคิดเหมือนกันเป๊ะคือ ไม่คิดอะไร วิ่งไปเรื่อย ๆ ดูเท้าไม่ให้สะดุดล้ม ระวังเรื่องข้อเท้าพลิก ชะลอวิ่งเมื่อลงเนิน พยายามจ๊อกกิ้งเวลาขึ้นเนินแทนการเดิน วิ่งจังหวะของเรา คุม pace ของเรา ไม่เร่งตามใคร

แต่ที่คิดต่างกันคือ เขาบอกว่า วิ่งได้แล้ว ต่อไปต้องวิ่งเวลาดีกว่านี้

ฉันไม่หือไม่อือ เข้าใจเขานะ แต่ฉันยังไม่นึกเรื่องสถิติ กลัวร่างกายจะพัง สงสารข้อเท้าและเข่า อยากถนอมมากกว่าเพราะเราอายุมากขึ้น ๆ ทุกวัน

ฉันอยากวิ่งเก็บเหรียญที่ระลึกระยะสิบกิโลไปนาน ๆ ขอมีสติวิ่งแบบวันนี้ได้ก็ดีใจแล้ว วิ่งสนุก มีความสุขและไม่เจ็บด้วย
เรายืดเหยียดหลังวิ่งเกือบยี่สิบนาที
แต่ฉันหิวมาก หิวจนตาลาย ไม่มีอะไรกินระหว่างวิ่งเลยนอกจากน้ำ ยังไม่เคยลองกลูเจล กล้วยตาก อินทผลัมหรือเยลลี่ที่เพื่อน ๆ แนะนำไว้ เอาไว้ลองคราวหน้า

วิ่งเสร็จ บอกสีมาว่า ช่วยพาไปกินก๋วยเตี๋ยวน้ำตกหน่อย หิวมาก ๆ
ฉันสั่งพิเศษสองชามโต ๆ และกินหมดด้วย อร่อยเด็ดที่ร้านก๋วยเตี๋ยวย่าภา


คงวิ่งเพราะเหตุนี้สินะ

















บันทึกการวิ่งยาวที่ห้วยตึงเฒ่า
เช้าวันเสาร์ที่ 16 มกราคม 2559






















การอยู่อย่างสบายคือ
อย่าปล่อยให้อดีตหรืออนาคต
มาขโมยปัจจุบันของเราไป
::
::
เช้านี้วิเศษมาก เพราะหลังจากวิ่งยาว เราจะนึกสภาพหลังการวิ่งด้วยว่าเราจะเดี้ยงมั้ย จะเดินลงบันไดยังไง

ปรากฎว่า โอเคมาก ไม่ปวดกล้ามเนื้อหน้าขา น่อง ข้อเท้าและเข่า อาจจะดีเพราะเรายืดเหยียดได้ดีและนานพอที่กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย
นึกถึงที่เดินลงจากดอยหลวงเชียงดาวเมื่อเสาร์ที่แล้ว ปวดหน้าขามาก ๆ เพราะเดินจิกเท้าลงทางชันกว่าจะวิ่งได้เหมือนเดิมก็วันพุธ ( จันทร์-เดิน 5กิโล/อังคาร-จ็อกกิ้ง 5 กิโล/พุธ-วิ่ง12.27กิโล/พฤหัส-จ็อกกิ้ง5กิโล/ศุกร์-พักเพราะวันเสาร์จะวิ่งยาว จบที่ 35.15 กิโล 4.38 ชั่วโมง)

เรากินอาหารชดเชยให้มากและฉันกินได้มาก ดื่มน้ำมาก ๆ และรอวิ่งยืดเหยียดเบา ๆ ตอนเย็นหลังเลิกงานอีกที


ขอบคุณร่างกายและหัวใจในวันนี้
กินข้าวกับลูกก่อนกลับบ้าน
รออ่านประสบการณ์ของเพื่อน ๆ ที่จอมบึงมาราธอนในวันนี้




ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย
17 มกราคม 2559













Create Date : 17 มกราคม 2559
Last Update : 17 มกราคม 2559 13:08:42 น.
Counter : 758 Pageviews.

2 comments
  


วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม -- เดินบนเทรดมิลล์ 4 กิโล
เป็นการเดินยืดเหยียดมากกว่า

วันจันทร์ที่ 18 มกราคม -- วิ่งสปีด 8 -- 40 นาที 5 กิโล
ไม่เจ็บสะโพก ต้นขา เข่าและน่อง
มีปวดข้อเท้าขวานิดหน่อยเพราะวันเสาร์วิ่งนาน
แต่เช้าวันอังคารก็โอเค


โดย: ภูเพยีย วันที่: 19 มกราคม 2559 เวลา:7:32:57 น.
  
แวะมาทักทายจ้าาา sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite ร้อยไหม IPL Medisyst adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ Cover Paint สักไรผม 3D Eyebrow Haijai.com สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรเพื่อสุขภาพ น้ำมันมะพร้าว ขิง ประโยชน์ของขิง ผู้หญิง สุขภาพผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการ ตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อคนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4713825 วันที่: 11 สิงหาคม 2561 เวลา:13:48:43 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ภูเพยีย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



  •  Bloggang.com