Group Blog
All Blog
|
--- แ ม่ เ ล่ า ใ ห้ ฟั ง --- แม่เล่าว่า ตอนแม่เป็นครูใหม่ ๆ จะมีครูเก่าแก่ ครูสูงวัยเยอะมาก และจะชอบนุ่งซิ่นไปสอน เด็ก ๆ ก็จะเรียกครูเหล่านี้ว่า ครูยาย บ่อยครั้ง หรือจะแทบทุกปีที่มีเด็กเข้าเรียน ป.1 ร้องไห้กระจองงองแง ไม่อยากมาโรงเรียน แทบแกะมือจากอกบรรดาแม่ ๆ ที่มาส่ง จากนั้นครูก็จะหลอกล่อให้เด็ก ๆ เลิกร้องไห้ เล่านิทานก็แล้ว พาเล่นอะไรก็แล้ว แต่มีเด็กนักเรียนตัวน้อย ๆ ของแม่ยืนร้องไห้แล้วบอกแม่ว่า ครูยาย ๆ ฉันจ้างครูบาทนึง พาฉันกลับบ้านหน่อยนะครูยาย ฮือ ฮือ ฮือ แม่ฉันก็โดนหางเลขเป็นครูยายไปกับเค้าด้วย บางที เด็กเฮี้ยว ๆ ที่ชอบแกล้งเพื่อนก็เยอะ มีทุกชั้น ทุกปี เด็กก็ซนตามประสาเด็ก แต่บางคนมันซนจัด แม่ก็เรียกมานั่งข้าง ๆ แม่ เพราะเวลาสอนเขาจะแหย่เพื่อนจนป่วนทั้งห้อง พอมาหน้าชั้น ได้นั่งโต๊ะครู เขาก็รื้อนั่นรื้อนี่ แม่ก็บอกว่า หัดนั่งนิ่ง ๆ หน่อย ทำอะไรก็ได้ แต่อย่ารื้อของครูและอย่าส่งเสียงดัง เพื่อน ๆ อยากเรียนหนังสือกัน ปรากฏว่า เขาแก้เสื้อนักเรียน นอนหลับหน้าชั้น ข้าง ๆ แม่ฉันทั้งวัน ก็..นะ..สอนกันไป อบรมกันไป ได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ยังอยู่ในสายตา แม่ว่าอย่างนั้น แต่แม่ไม่เคยตีเด็กเลยนะ ดื้อก็สอนเอา เหมือนที่ฉันไม่เคยถูกแม่ตีสักครั้งเดียว แม่สอนเด็ก ป.4-6 เด็กที่จบป.3 มาเรียนป.4 กับแม่ หอบเกรด 99% กันมายกห้อง แต่พอมาเรียนกับแม่ ผ่าน 50% ไม่กี่คน อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ แม่ก็ไม่เอาเรื่อง ก็สอนกันใหม่ทั้งหมด นอกจากสอนให้อ่านออกเขียนได้แล้ว โรงเรียนแม่มีแต่เด็กจน ๆ จนนี่จนจริง ๆ ข้าวกลางวันบางคนก็ไม่มีจะกิน หรือถ้ามีก็มีแต่ข้าวเหนียว ไม่มีกับข้าว เสื้อผ้าที่ใส่มาเรียนก็ไม่ค่อยมีใส่กันเลย แม่เอาเสื้อผ้าของพวกเราไปให้เด็ก ๆ ของแม่ประจำ ชื่อของพวกเราเต็มห้องที่แม่สอน รองเท้านี่ไม่ต้องพูดถึง ใส่อะไรมาก็ดีถม เพราะส่วนใหญ่ก็เท้าเปล่ามาโรงเรียน มาหลับในห้องบ้าง แม่ก็ไม่ว่า มาสายก็รู้เหตุผลในการมาสาย ลูกศิษย์แม่คนนึง ชื่อ อุเทน อยู่กับย่าสองคน เขาเก็บขยะขายตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเรียน แต่แม่จะรักเด็กคนนี้มาก เพราะเป็นเด็กดี จบป.6 แล้ว แม่ก็เห็นอุเทนเก็บขยะอยู่ แม่ถามว่า ตั้งแต่เช้าสุดเย็นนี่ ได้เงินเท่าไร ที่รู้คือ แค่พอกินไปวัน ๆ แม่ไปเยี่ยมบ้าน ไม่ใช่สิ เรียกว่า สี่เหลี่ยมมีฝากั้น เขากับแม่นอนข้าง ๆ กองขยะที่กำลังคัดเลือกจะไปส่งมากกว่า บางวัน อุเทนก็รอแม่หน้าโรงเรียน เพื่อเอาหนังสือที่เก็บจากขยะฝากครู เขาบอกแม่ว่า เขารู้ว่าครูชอบอ่านหนังสือ ทุกครั้งที่มีกองทุนเด็กยากจน ครูแต่ละคนก็จะเฟ้นเด็กที่จนที่สุด แม่บอกว่า มีแต่จนกับโคตรจน ทุกคนก็รู้ว่าใครจนกว่าใคร ในที่สุดแม่ก็ซาวเสียงลูกศิษย์ในห้องว่า เงิน 1,000 บาทนี้ ปีนี้เราสมควรจะให้ใคร แม้เขารู้ว่าเขาจน แต่พวกเขาก็รู้อีกว่า ใครที่จนกว่า สมควรได้รับเงินพันบาทนี้มากกว่าเขา ลูกศิษย์ของแม่ที่ได้ดีจริง ๆ ก็ได้งานที่ต้องยืนขาแข็ง เปิดประตูตามห้างสรรพสินค้า น้อยคนจะได้เรียนต่อ สภาพครอบครัวไม่เอื้ออำนวยให้ใครต้องกัดฟันเพื่อส่งใครเรียน แม้จะได้ยินเสียงกรอกหูทุกวันว่า เรียนสูง ๆ จะได้มีงานดี ๆ ทำ เรื่องเล่าของแม่กับเด็กนักเรียนแม่น่ะมากมาย แต่ฉันมักจะลืม ๆ ฟังบ่อย ๆ แต่ไม่สามารถเรียบเรียงมาเขียนได้ ส่วนใหญ่จะขำขื่น ๆ ขำในความเดียงสา บ่อยครั้งที่ฉันเผลอหัวเราะเรื่องเศร้า ๆ เหล่านี้ นั่นเพราะน้ำเสียงที่แม่เล่าให้ฟังดูเหมือนไม่ได้ทุกข์ยากตามสภาพจริง แม่เองก็หัวเราะแต่ลึก ๆ คือเวทนาลูกศิษย์และความไม่เท่าเทียมในโอกาสทุก ๆ โอกาสที่มีในโลกนี้ และไม่อยากเชื่อว่ามันยังมีอยู่จริง ๆ ลูก ๆ ฉันไม่เคยลำบาก ฉันก็ไม่รู้ว่าจะใส่ความลำบากให้ลูกได้อย่างไร นอกจากเล่าเรื่องความลำบากของคนอื่น ๆ ให้ฟัง อยากให้รู้ว่าตัวเองน่ะโชคดีกว่าเด็กในโลกอีกมากมายที่ได้รับโอกาสน้อยกว่าพวกเขา แค่อยากให้รู้หน้าที่ของตนและตั้งใจเรียนเท่านั้นเอง ขอบคุณค่ะ ภูพเยีย |
ภูเพยีย
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?] Friends Blog
|