Group Blog
 
All blogs
 
12 ด่าน ที่แม่ท้องจะคลอดเองธรรมชาติ ต้องเจอ







คลอดเองธรรมชาติ ต้องเจออะไรบ้าง 

สวัสดีค่ะ ตอนนี้ออยท้องสอง ได้9 เดือนแล้วนะคะ เข้าใจคนท้องแก่ค่ะ พอใกล้คลอดจะกังวล และกลัวเรื่องการคลอด โดยเฉพาะแม่ที่คิดไว้ว่าจะคลอดธรรมชาติถ้าหากเป็นไปได้ ออยก็เหมือนกันค่ะ ถึงแม้นี่จะท้องสองแล้ว แต่ก็ยังตื่นเต้น นอนไม่หลับ ก็เลยจะนำประสบการณ์คลอดเองธรรมชาติตอนท้องแรก มารีวิวใหม่อีกครั้ง เผื่อว่าจะเรียกสติตัวเองกลับคืนมาได้บ้าง และแชร์ประสบการณ์กับแม่ๆที่ใกล้คลอดอยู่เหมือนกันค่ะ

29 มิถุนา วันที่ตัดสินใจโยนกระเป๋าเตรียมคลอด
ขึ้นรถ ไปโรงพยาบาล (อายุครรภ์ 40 วีคพอดี)
ออยเริ่มจดบันทึกเวลา เจ็บเตือน (ปวดท้อง/ท้องแข็ง/ท้องเกร็ง เบาๆช่วงใต้สะดือ) มาตั้งแต่ 38 วีคค่ะ แรกๆ จะเป็นวันละ 2-3 ครั้ง หลังๆ จะเป็นวันละ 10 ครั้งขึ้นไป จนมาถึงคืนวันที่ 28 มิถุนา อาการปวดท้องก็แปลกไปจากเดิมคือ ปวดตั้งแต่ยอดมดลูก บีบรัดทั่วทั้งท้อง แล้วหายไป ปนะมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมงก็มาอีก แต่ไม่ถึงกับปวดมาก พอนอนหลับได้ 

ตื่นเช้ามาพร้อมกับสัญชาตญาณแห่งความเป็นแม่ บอกพี่สาวให้เตรียมรถไว้ รอดูอาการอีกซักพัก ถ้าปวดถี่ขึ้นมากขึ้น ก็จะลองไปให้หมอตรวจดู อาการปวดไม่รุนแรงเลย ปวดบีบๆ แน่นๆ ไม่ถึงกับต้องร้องโอยๆ ไม่มีมูกเลือด ไม่มีน้ำเดิน ออยยังเดินไปเดินมาในบ้าน กินขนม ดูซีรี่ย์ตามปกติ แต่จะคอยจดเวลาปวดท้องไว้ตลอด  เห็นว่ามันถี่ขึ้น ตอนใกล้ๆเที่ยงก็เลย ตัดสินใจไปโรงพยาบาลค่ะ

ด่านแรกที่ต้องเจอที่โรงพยาบาล
ด่านที่ 1 ตรวจ NST เพื่อฟังหัวใจของทารก และการบีบตัวของมดลูก และการดิ้นของทารก

จากบ้านพี่สาว ขับรถไปไม่กี่นาทีก็ถึง ออยลงที่แผนกฉุกเฉิน โรงพยาบาลศิริราช มีบุรุษพยาบาลเอารถเข็นมารับ ยื่นใบฝากครรภ์ให้เจ้าหน้าที่ เค้าถามว่าจะไปห้องคลอดพิเศษหรือสามัญ เราก็บอกไปอย่างเขิลๆว่า “คลอดพิเศษค่ะ” ที่เขิลเพราะว่า เราไม่ได้เจ็บท้องมาก ไม่ได้ร้องเหมือนในละคร มองภายนอกไม่มีอาการเหมือนคนกำลังจะคลอดเลย ยังเฮฮาคุยเล่นกับพี่สาว เดินตัวปลิวลงจากรถเข็นเองด้วยซ้ำค่ะ

ถึงชั้น 8 พยาบาลก็ตรวจใบฝากครรภ์ ถามอาการ ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน เวลานี้ความเจ็บหายไปแล้ว คิดไว้ว่าโดนไล่กลับบ้านแล้วต้องมาใหม่อีกแน่เลย แต่คุณหมอก็รับไว้ตรวจ บอกญาติว่า รอตรวจประมาณ 2 ชั่วโมง ให้นั่งรอ แล้วจะมาแจ้งผลอีกที

ออยถูกให้เปลี่ยนเสื้อผ้า รองเท้า เข้าไปห้องคลอดแต่ตัว กระเป๋า โทรศัพท์ก็ไม่ให้นำเข้าไปเลยค่ะ ให้เอาไว้ที่ญาติทั้งหมด ด่านแรกเราจะยังไม่ต้องขึ้นขาหยั่ง นอนเตียงราบเพื่อตรวจ NST ก่อน ประมาณ 1 ชั่วโมง พยาบาลจะนำสาย 2 เส้น ติดเครื่องวัดกลมๆ มารัดไว้ที่ท้องเรา เพื่อตรวจวัดหัวใจการเต้นของหัวใจทารก การดิ้น และการบีบรัดของมดลูก แล้วก็เปิดทีวีให้เราดูไปพลางๆ (ห้องคลอดพิเศษมันดีอย่างนี้ค่ะ) 

ระหว่างนั้น ในใจคิดว่า โดนไล่กลับบ้านชัวร์ๆ มันไม่ปวดบีบๆ เหมือนอยู่ที่บ้านแล้ว มีแต่ความรู้สึกลูกดิ้น ลูกสะอึก แต่ยังไงก็สบายใจที่ได้มาตรวจ จะได้คลอดวันนี้หรือคลอดวันไหนก็ไม่เป็นไรค่ะ 

ด่านที่ 2 ตรวจปากมดลูกเปิด
ตรวจ NST ได้ประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ พยาบาลก็มาอ่านค่าที่เครื่อง ไม่ได้อ่านผลอะไรให้ออยฟัง แค่ถามเราว่าปวดระดับไหน ให้คะแนน1-10 “ระดับ 5 ค่ะ” คือปวดกลางๆ ตั้งแต่เช้า แต่ตอนนี้ไม่ค่อยปวดแล้วค่ะ กลัวโดนว่าปวดท้องไม่จริงแล้วมาทำมากๆ แต่พยาบาลก็ออกไปตามคุณหมอมาค่ะ คุณหมอบอกว่า จะตรวจปากมดลูกว่าเปิดหรือยัง ออยตื่นเต้นมากค่ะ เป็นครั้งแรกที่จะโดนตรวจปากมดลูกเปิดค่ะ

วิธีตรวจปากมดลูกคือ เราก็ชันขาขึ้น แล้วคุณหมอก็ใช้มือล้วงไปอย่างนั้นเลย ความเจ็บปวดมาแล้วค่ะ ได้เจ็บจริงๆสมใจอยากแล้วค่ะ เจ็บสุดๆก็ตอนคุณหมอล้วงเข้าไปตรวจปากมดลูกนี่แหละค่ะ ล้วง ดัน กด จนจุกไปหมด แต่สิ่งที่คุณหมอพูดออกมาก็ทำให้ยิ้มได้ทั้งน้ำตาซึม คือ “ปากมดลูกเปิด 3.5 เซนแล้วนะคะ ดูกระดูกเชิงกรานแล้ว คลอดธรรมชาติได้ค่ะ เดี๋ยวอยู่โรงพยาบาลรอคลอดได้เลยนะคะ” งง มากเลยค่ะ
แล้วคุณหมอก็เดินออกไปแจ้งญาติ ให้กลับไปรอที่บ้าน ใกล้คลอดแล้วจะโทรไปแจ้งให้มาอีกที 

ส่วนออยนอนงงต่อค่ะ คือฉันจะคลอดแล้วหรอ ปากมดลูกเปิดแล้วหรอ เปิดตอนไหนไม่เห็นรู้เรื่อง เลือดก็ไม่มีไม่ใช่หรอ หรือหมอทำให้มันเปิดเองหรือเปล่า ที่ล้วงไปเมื่อกี้มันแรงมากเลยนะ ไม่เปิดก็ต้องเปิดแหละ นี่มา กะโดนไล่กลับบ้าน แต่ต้องอยู่ยาวเลย ยังไม่ได้โพสเฟสเลยนะเนี่ย...

ด่านที่ 3 สวนอึ
บ่ายโมงครึ่ง หลังจากคุณหมอฟังธงว่าเริ่มขั้นตอนคลอดได้เลย ออยยังนอนงงไม่จบ และยังเจ็บระบบมไม่หาย พยาบาลก็เข้ามาสวนอึ วิธีสวนอึ คือ ให้เรานอนตะแคงบนเตียง แล้วพยาบาลก็นำลูกยาง ใส่ยาน้ำๆ เสียบและบีบ เข้าไปในรูทวารของเรา นี่เป็นการสวนอึครั้งแรกของออย ถามว่าอายไหม เป็นใครก็ต้องอาย แต่เราก็แค่ทำใจให้สบายๆ มันไม่ใช่เรื่องที่จะอาย พยาบาลเค้าไม่สนใจและจดจำหรอกว่า หน้าแบบนี้รูตูดเป็นแบบไหน วันนึงคนไข้หลายคน เขาทำจนชินแล้ว 

ไม่ถึง 5 นาที ก็รู้สึกปวดท้องอึค่ะ เราต้องลุกไปอึเอง ห้องคลอดพิเศษจะเหมือนโรงแรมเลย มีห้องน้ำในตัว เราก็นั่งอึปกตินี่แหละค่ะ อึออกจนหมดไส้หมดพุง แล้วกลับมานอนเตียง คาดสายรัด 2 เส้นนั้นไว้ต่อ

ด่านที่ 4 โกนขนจิมิ
พออึเสร็จกลับมานอนที่เตรียม ก็มีพยาบาล เข็นรถอุปกรณ์ มาทำความสะอาดจิมิให้ และจะต้องโกนขนจิมิให้ด้วย! อายไหม อายมาก แต่ทุกคนก็ต้องทำแบบนี้ไม่ใช่หรอ ทุกคนทำตามหน้าที่ เราก็ทำตามหน้าที่ไปเท่านั้นเอง อย่าไปคิดอะไรมากค่ะ ชันขาขึ้นตามที่พยาบาลสั่ง แล้วก็ปล่อยตัว ปล่อยใจ ตามสบาย ฟินๆไป

พยาบาลจะใช้กระโถนแบนๆมารองก้น แล้วโกนขนจิมิของเรา ออกจนหมด ด้วยมีดโกน พร้อมกับล้างทำความสะอาด พยาบาลทำดี ใจเย็นและ เบามือมาก ไม่มีทีท่ารังเกียจ ไม่พูดอะไรให้เรารู้สึกไม่ดีหรือกดดันเลยค่ะ 

ด่านที่ 5 เจาะสายน้ำเกลือ ให้ยาเร่งคลอด

บ่าย 2 ครึ่ง พยาบาลเจาะสายน้ำเกลือที่หลังมือซ้าย มือขวาจิกเตียงไว้ค่ะ เจ็บๆเสียวๆแป๊บเดียว คุณหมอจะสั่งยาเร่งคลอดออยผ่านสายน้ำเกลือ เพราะรู้สึกว่าพอหลังจากเจาะสายน้ำเกลือ ก็รู้สึกปวดท้องถี่ขึ้น และมากขึ้นด้วย แต่คุณหมอเค้าไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้บอกว่าจะใช้ยาเร่งคลอดหรือถามความเห็นอะไรเลย ออยว่าดีนะ คุณหมอที่นี่ไม่พูดมาก ไม่พูดอะไรให้เราสับสน หรือไม่สบายใจ คุณมีหน้าที่เบ่งตอนที่หมอสั่งอย่างเดียว 

คุณหมอและพยาบาล จะไม่ได้อยู่เฝ้าเราตลอด ปล่อยให้เรานอนอยู่คนเดียวค่ะ จะเข้ามาก็คือมาซักประวัติ มาวัดความดัน ถามอาการทุก 2 ชั่วโมง ดีที่เป็นห้องคลอดพิเศษ บรรยากาศดีมาก ไฟเหลืองๆนวลๆ แอร์เย็นๆ เหมือนมานอนโรงแรม ไม่วังเวงไม่น่ากลัวเลย เปิดทีวีไว้ไห้ดูตลอด ออยก็นอนดูทีวีไปเกร็งไปเป็นระยะๆ ความปวดค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็นระดับ 6 ระดับ 7 แล้ว

ด่านที่ 6 เจาะถุงน้ำคร่ำ

บ่าย 3 ครึ่ง ก็มีคุณหมอเข้ามาปลุก เพื่อตรวจดูปากมดลูกเป็นครั้งที่ 2 เจ็บสุดๆ เหมือนตอนแรกเลยค่ะ คุณหมอบอก เปิด 5 เซนแล้ว บอกทีมงานให้เตรียมเครื่องมือ เจาะถุงน้ำคร่ำ 

การเจาะถุงน้ำคร่ำ คือเขาก็จะเอากระโถนมารองก้น แล้วออยเห็นคุณหมอหยิบแท่งเหล็กยาวๆออกมาจากหลอด ดูแล้วน่าหวาดเสียว ไม่กล้าดูต่อ ก็เลยหลับตาปี๋ แป๊บเดี๋ยวก็ได้รู้สึกเสียง ดังโผล๊ะ มาจากข้างใน แล้วก็รู้สึกมีน้ำเหลวๆไหลออกมา ตอนเจาะไม่รู้สึกเจ็บเลยค่ะ

พอเจาะเสร็จก็ให้เรานอนปวดท้องต่อ อีก 2 ชั่วโมง และมันก็เริ่มปวดไประดับ 8 แล้วค่ะ ประมาณ 15-20 นาทีจะมาครั้ง ครั้งนึงก็ปวดประมาณ 2-3 นาที ทีวงทีวี เริ่มดูไม่รู้เรื่องแล้ว เริ่มได้ยินเสียงห้องข้างๆเชียร์เบ่ง เสียงเด็กข้างห้องร้อง ที่นี่จะมีแต่เด็กร้องนะ แม่จะปวดขนาดไหนห้ามร้อง ออยก็ไม่ร้องนอนกัดฟันปวดเงียบๆคนเดียวค่ะ

ด่านที่ 7 ให้ยาระงับความเจ็บปวด
5โมง ครึ่ง พยาบาลมาให้ยาระงับความเจ็บปวดผ่านสายน้ำเกลือ พยาบาลบอกเราว่า จะให้ยาแก้ปวดนะคะ มันจะมึนๆหน่อย ให้หลับไปเลยนะคะ ให้หลับไปเลยอย่าฝึนลืมตา ไม่งั้นเดี๋ยวเมา แล้วก็เอาถุงมาไว้ข้างๆให้เผื่อเราเมาอวก (คิดในใจหนูไม่เมาง่ายขนาดนั้นหรอค่ะ หนูคอแข็ง55) ออยก็ดีใจ ฉันจะได้หลับไปเลยใช่ไหม ไม่ต้องปวดแล้วใช่ไหม 

ให้ยาเสร็จ รีบหลับตา หวังว่าจะได้หลับโดยไม่รู้สึกอะไร แต่มันไม่หลับ แค่รู้สึกเหมือนหูดับ เสียงทุกอย่างจะเบาลง ลองกำมือดูก็ทำได้ เรายังมีสติ และก็ยังปวดอยู่เป็นระยะๆด้วย แต่เหมือนมันรู้สึกฟินๆ ลอยๆ ไม่กลัว ไม่กังวลอะไรเท่านั้นเอง


ด่านที่ 8 ดมออกซิเจน
1ทุ่ม ครึ่ง ก็มีคุณหมอมาตรวจปากมดลูกอีกครั้ง รู้สึกไม่กลัวเจ็บแล้ว จะตรวจจะล้วงยังไงก็ล้วงไป เพราะรู้สึกอยากคลอดแล้ว มันปวดจนท้องมวนๆไปหมด มันเหมือนปวดอึ เหมือนอยากเบ่งแล้ว หมอบอกว่า เปิด 9 เซนแล้วออยก็ดีใจ ใกล้แล้วๆ พยาบาลเปิดเครื่องออกซิเจน แล้วเอาหน้ากากออกซิเจน มาครอบปากครอบจมูกเราไว้ บอกว่า หายใจเข้าออกลึกๆ ให้ออกซิเจนไปถึงน้องนะคะ แล้วเหมือนยางรัดมันไม่แน่น ออยก็ต้องให้มือจับไว้ รู้สึกทุลักทุเลกับอีหน้ากากนี้ได้อีก

หมอบอกว่าห้ามเบ่งตอนนี้นะคะ เพราะปากมดลูกยังเปิดไม่หมด ถ้าเบ่งจะทำให้ปากมดลูกฉีกขาด รออีกประมาณ 1 ชั่วโมงนะคะ เดี๋ยวพยาบาลจะมาสวนฉี่นะคะ



ด่านที่ 9 สวนฉี่
ออยออกจากบ้านมาตั้งแต่เที่ยง จำได้ว่าดื่มน้ำครั้งสุดท้ายหลังมื้อเช้า รู้สึกหิวน้ำมาตลอด แต่พยาบาลไม่ให้ดื่ม น่าจะเพราะว่าถ้าไม่มีฉี่ในกระเพราะปัสวะน่าจะเบ่งได้ดีกว่า แต่ยังไงก็ต้องโดนสวนฉี่ค่ะ

วิธีสวนฉี่คือ จะใส่ท่อเข้าใปในช่องปัสสวะของเรา แล้วเราก็ไม่ต้องเบ่งไม่ต้องทำอะไร ปัสสวะจะไหลออกไปจนหมด รู้สึกไม่ชอบเลย มันเจ็บๆแสบๆ แต่ก็ยังน้อยกว่า อาการปวดเบ่งที่เริ่มมาถี่ขึ้น จุดที่ทรมานที่สุดในการคลอดเองธรรมชาติ บอกเลย ไม่ใช่ตอนหัวโผล่ออกมาอย่างที่คิดไว้ แต่เป็นตอนที่ปวดเบ่งแล้วหมอบอกว่าห้ามเบ่งนี่แหละ ทรมานสุดๆ

มันไม่ได้อารมณ์เจ็บปวด ที่จะต้องกรีดร้องเหมือนในละครด้วย มันเป็นอารมณ์ เหมือนคนปวดขี้ แล้วต้องอั้นขี้ ขี้มาจุกก้นแล้ว อยากเบ่งให้มันออกๆมาซักที ความรู้สึกอยากเบ่ง หรือที่เรียกกันว่า ลมเบ่ง มันจะมาทุก 10 นาที มาทีก็จะอยู่นานประมาณ 3 นาที ที่หมอบอกห้ามเบ่งน่ะ แอบเบ่งไปตั้งหลายครั้งเลยค่ะ 55 เหลืออีกแค่เซนเดียวเอง คิดว่าช่วยกันดันๆหน่อย ปากหมดลูกจะได้เปิดหมดเร็วๆ



ด่านที่ 10 กรีดปากช่องคลอด

ทนได้ไม่ถึงชั่วโมงก็เรียกพยาบาลว่า อยากเบ่งแล้วค่ะ ไม่ไหวแล้ว พยาบาลก็ไปตามหมอ คุณหมอมาล้วงดูก็อุทานติดตลกเบาๆ อ้าว หัวมาอยู่ตรงนี้แล้วเนี่ย จัดอุปกรณ์มาเลย 

แล้วพยาบาลประมาณ 4-5 คน ก็เข็นรถเครื่องมือ กรูกันเข้ามาห้องเรา ตั้งขาหยั่ง หมอประจำที่ พยาบาลประจำที่ ระหว่างที่รอลมเบ่งครั้งต่อไป คุณหมอจะกรีดปากช่องคลอด ถามความรู้สึกว่ากลัวไหม ตอนนั้นไม่กลัวอะไรแล้วค่ะ คือหมอจะทำอะไรก็ทำไปเลย ลมเบ่งหนูมา หนูเบ่งจริงๆด้วย อยากเบ่งไม่ไหวแล้ว

ขาเราจะอยู่บนขาหยั่ง มีผ้าคลุมอีกที เราจะไม่เห็นว่า คุณหมอทำอะไรบ้าง รู้สึกเหมือนมดกัดตอนคุณหมอจิ้มยาชา เท่านั้นเอง คุณหมอกรีดตรงไหน เมื่อไหร่ ก็ไม่รู้สึกเลยค่ะ 

ด่านที่ 11 เบ่งคลอดเอง
พอลมเบ่งมาก็บอกหมอ พอหมอบอกว่าเบ่งได้เลยค่ะ โอ้โห เหมือนถึงสวรรค์ วินาทีที่ได้เบ่งลูก มันวิเศษมากๆ รู้สึกภูมิใจ รู้สึกคุ้มค่าที่ได้เกิดมาชาตินี้ คิดถึงหน้าแม่ พลังมาจากไหนไม่รู้ เบ่งสุดแรงกะให้ลูกออกมาทีเดียวเลย แต่ไม่ออก หมดลมซะก่อน แถมเล่นซะขาเป็นตะคริว พยาบาลก็น่ารักนวดให้ด้วย ระหว่ารอลมเบ่งครั้งต่อไป 

ตอนเราเบ่ง จะมีคุณหมอนั่งคอยรับอยู่ที่ปากทาง ผู้ช่วยอีกคนยืนประกบ พยาบาลซ้ายขวาข้างละ 2 คน คอยกดท้อง เชียร์เบ่ง เอ้าเบ่งค่ะ คุณแม่ อื้ดๆ อื้ดๆ หายใจลึกๆค่ะ อื้ดๆ กดคอลงค่ะ อื้ดๆ พยาบาลเชียร์ได้ ร้องได้ แต่คนไข้ห้ามร้องโหยหวน ออยก็ไม่ได้ร้อง เพราะมันไม่มีความรู้สึกเจ็บทรามานอะไรขนาดนั้น รู้สึกมันๆ ฟินๆมากกว่า เพราะเหมือนเราได้เบ่งขี้55

ออยไม่เคยเรียนการฝึกเบ่ง ไม่เคยเข้าอบรมก่อนคลอด แค่ทำตามคำสั่งหมอและพยาบาล และสังเกตเรียนรู้จากร่างกายตัวเอง ยกแรกสอนเราให้รู้ว่า เราจะไปเบ่งยาวๆ แรงๆ ทีเดียวไม่ได้ มันไม่ออก เหนื่อยมาก เดี๋ยวเป็นตะคริวอีก 

ยกที่2 เลย แบ่งเบ่งเป็นจังหวะสั้นๆสม่ำเสอมค่ะ คุณหมอบอกว่า คุณแม่เก่งค่ะ ดีมากๆ แบบนั้นแหละค่ะ คุณพยาบาลก็เชียร์อยู่ข้างๆตลอด รู้สึกดีขึ้น มีกำลังใจมากขึ้น และเบ่งจนหัวออกมาได้ในยกที่ 3 

พอหลังจากนั้นเราก็ไม่ต้องเบ่งแล้ว คุณหมอจะขยับนำส่วนลำตัวออกมา แล้วขานเวลาเกิด 2 ทุ่ม 26 นาที แล้วยกตัวน้องขึ้นมา คุณแม่น้องผู้หญิงผู้ชายค่ะ ออยก็บอก ผู้ชายค่ะ แล้วคุณหมอก็ยกมาวางบนพุงเรา 

โมเม้นนี้ของออยก็ไม่เหมือนในละครอีกเหมือนกัน ออยไม่ร้องไห้เลย ตกใจลูกตัวเองด้วยซ้ำ สะดุ้งรีบดีดมือตัวเองออกมา ทั้งที่จี้หมิงคลอดออกมา ผิวใส ไม่มีไขเกาะ น่ารักมากๆ แต่เราไม่กล้าจับ เราว่ามือเราไม่สะอาด กลัวลูกหัก คุณหมอบอกจับได้ ออยก็ยังไม่จับ ก็เลยยกมาให้แม่หอมแก้ม แม่ก็จู๊บแก้มไปทีนึง คุณพยาลก็แยกออกไปทำความสะอาดค่ะ แล้วแม่ก็นอนงงต่อค่ะ นี่ตอนแรกคิดว่าจะโดนไล่กลับบ้าน เพราะปวดท้องไม่จริง แต่ก็คลอดเสร็จแล้วซะงั้น


ด่านสุดท้าย คลอดรก เย็บแผล นวดมดลูกให้เข้าอู่ 
เสร็จแล้วเราก็ต้องนอนต่อบนเตียงค่ะ เพื่อรอให้รกและถุงน้ำคร่ำคลอดออกมา ตอนนี้เราไม่ต้องเบ่งอะไรแล้ว นอนชิลๆ ได้เลย ขายังคงอยู่บนขาหยั่ง คุณหมอเข้าก็จัดการไป ไม่อยากชเง้อดูด้วย ว่ารกเป็นยังไง ไม่อยากเห็นเลือดค่ะ 

15-20 นาทีก็คลอดรกเสร็จค่ะ หลังจากนั้นคุณหมอก็เย็บแผล ไม่เจ็บเลยค่ะ ไม่รู้ว่าฉีดยาชาเพิ่มไหม แต่อย่างที่บอก สิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเจ็บปวดและน่ากลัวในการคลอดเอง อย่างกรีดปากช่องคลอด ตอนเบ่งจนหัวโผล่ หรือตอนเย็บแผล ไม่เจ็บและไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลยนะคะ สมัยนี้การแพทย์ดีมาก เขามียาชา ยาแก้ปวด คุณหมอก็เก่งด้วย 

จุดที่ทรมานที่สุดในการคลอดธรรมชาติสำหรับออยคือตอน อยากเบ่งแต่คุณหมอห้ามเบ่งเพราะปากมดลูกยังเปิดไม่หมดมากกว่า คุณแม่ที่กำลังจะคลอดธรรมชาติเหมือนกันอย่ากลัวหรือกังวลไปเลยค่ะ มั่นใจฝีมือหมอ เชื่อฟังคุณหมอและพยาบาล สังเกตอาการตัวเองดีๆ คิดถึงแม่ของเรา และแม่คนอื่นๆอีกหลายร้อยล้านคนบนโลกใบนี้ เขายังผ่านจุดนี้ไปได้ เราเองก็ต้องผ่านไปให้ได้เหมือนกันค่ะ

ก่อนจะย้ายออยไปห้องพัก จะมีพยาบาลมาสวนฉี่อีกทีนึงให้ก่อน ถามหาผ้าอนามัยแบบห่วงว่าเตรียมมาไหม เราก็ชี้ไปที่ถุงเสื้อผ้า แล้วพยาบาลก็หยิบมาใส่ให้ แล้วก็นวดๆ คลึงๆ ที่หน้าท้อง ให้มดลูกเข้าที่ด้วยค่ะ ได้ออกจากห้องคลอดพร้อมลูก เจอญาติที่มาเฝ้าหน้าห้อง มีสามี พี่สาว และป้าๆมาคอยรับ เข้าห้องพักได้ตอน 5 ทุ่มเที่ยงคืน กระบวกการแยกร่างสำเร็จได้อย่างราบรื่น 

ขอบคุณทีมแพทย์โรงพยาบาลศิริราช สามี พี่สาว ป้าๆ และกำลังใจจากแฟนเพจ และทุกคนที่ติดตามในยูทูปนะคะ ตอนต่อไปจะเล่าเรื่องตอนอยู่โรงพยาบาล และท้อง 2 นี้ จะคลอดธรรมชาติได้อย่างโหดมันฮา เหมือนท้องแรกหรือไม่ ก็จะมาอัพเดทและแชร์ประสบการณ์ต่อเรื่อยๆค่ะ





บลอกอื่นๆ
Smileyเส้นทางการเข้าสู่หน่วยผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลศิริราช
Smileyเล่าประสบการณ์ วันฉีดเชื้อ (IUI) ที่หน่วยผู้มีบุตรยาก ร.พ.ศิริราช
Smileyบันทึกอัพเดทอาการ และสรุปผลการฉีดเชื้อ iui ครั้ง
Smileyสรุปผล ฉีดเชื้อ iui รอบ2 ไข่โตช้า เชื้อก็น้อย ไม่มีอาการคนท้อง ความหวังเลือนลาง
Smileyสรุปผล ฉีดเชื้อ iui รอบ3 ไข่เล็กขนาดนี้ ผนังก็บาง หมอยังให้ฉีด เพลียจะหวัง
Smileyคุณหมอให้ฉีดเชื้อ (IUI) รอบ4 ถ้าไม่ติดจะทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ให้ต่อเลย
Smileyiui รอบ 4 ต้องยกเลิก เพราะไข่หาย!!! ไข่ไม่โต!!!
Smileyประสบการณ์เก็บไข่ ทำเด็กหลอดแก้ว(IVF) ที่หน่วยผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลศิริราช
Smileyเล่าประสบการณ์ ใส่ตัวอ่อน สรุป อัพเดทอาการ และค่าใช้จ่ายในการทำเด็กหลอดแก้ว IVF โรงพยาบาลศิราราช
Smileyสรุป อัพเดทอาการ และค่าใช้จ่ายในการทำเด็กหลอดแก้ว IVF โรงพยาบาลศิราราช
Smileyผลตรวจเลือด 15วัน หลังใส่ตัวอ่อน ระยะบาสโตซิส 1 ตัว เกรด B
Smileyทำเด็กหลอดแก่ว (IVF) : เตรียมตัว กระตุ้นไข่อย่างไร ให้ได้ไข่เยอะ ดี มีคุณภาพ
Smiley11 วิธีปฏิบัติตัวหลังใส่ตัวอ่อน ให้ติด IVF เด็กหลอดแก้ว ร.พ.ศิริราช




Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2562
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2562 19:09:54 น. 0 comments
Counter : 1431 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BeeryKiss
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 81 คน [?]








New Comments
Friends' blogs
[Add BeeryKiss's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.