เส้นทางการเข้าสู่หน่วยผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลศิริราช
สวัสดีอีกครั้งค่ะ ในที่สุดเราก็จุงมือคุณแฟน ตรวจที่โรงพยาบาลศิริราช (ใครเปิดบลอกนี้อ่านครั้งแรก อาจจะงงๆ ว่าเราไปทำอะไรมาบ้าง เปิดอ่านบลอกเก่าๆย้อนหลังได้เลยนะคะ)
ในบลอกนี้เราจะ มาเล่าขั้นตอนแบบละเอียด เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับว่าที่คุณแม่ท่านอื่นด้วย (จะได้ไม่ไปถึง แล้วเงอะงะอย่างเราค่ะ เฮ่อๆ)
เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ เนื่องจากว่าเราไม่เคยไปโรงพยาบาลศิริราช และไม่เคยเป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาลด้วย ก็อาศัยหาข้อมูลจากคุณแม่ๆในbloggang นี่แหละค่ะ ช่วยไว้ได้มากเลย
สืบข้อมูลคร่าวๆได้ความว่า เราจะเดินดุ่มๆเข้าไป หน่วยผู้มีบุตรยากของร.พ.เลยไม่ได้ ถ้าหากไม่มีบัตรผู้ป่วย และยังไม่เคยตรวจที่สูตินารีมาก่อน
คุณแม่หลายท่านแนะนำให้โทรไปสอบถามที่เบอร์ของหน่วยผู้มีบุตรยาก เราก็โทรเลยค่ะ คุณพยาบาลให้ข้อมูลดีมาก บอกให้เรา 1.ทำบัตรที่ตึกผู้ป่วยนอก 2.ตรวจเลือด ตรวจภายในที่ สูตินารีเวชชั้น3 แล้วพยาบาลจะนัดอีกทีว่าต้องทำอย่างไรต่อหลังทราบผล
มาเช้าๆเลยนะคะ เช้าที่สุดเท่าที่จะเช้าได้ หรือไม่เกิน9โมงครึ่ง นะคะ อ่อ มาพร้อมสามีได้ก็ดีนะคะ นำทะเบียนสมรสตัวจริงพร้อมสำเนามาด้วย แล้วถ้าเคยรักษาที่ไหนก็นำประวัติมาด้วยนะคะ--- (น่ารักมากค่ะ)
ก่อนอื่นฉันต้องขอประวัติการเข้าตรวจกับไทยนครินทร์ก่อนซินะ คิดได้เช่นนั้น เราก็โทรติดต่อขอเอกสารเลยค่ะ คุณพยาบาลบอกว่า รอไม่เกิน3วัน แล้วเจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับให้มารับเองทีาโรงพยาบาลนะคะ-- รอ รอ รอ
3วันพอดี ไปรับเอกสาร แล้วลางาน ลากคุณแฟนไปศิริราชทีนทีค่ะ
11/01/2016 วันแรกที่ไปสรุปเลยนะคะว่า ไปสายไม่ได้ตรวจค่ะ (แป่ว ไหนบอกเตรียมข้อมูลดีๆจะได้ไม่พลาด ไม่ไปเสียเที่ยวแล้วไง) เราไปถึง8โมงครึ่งค่ะ ด้วยความอยากสะดวกสะบาย ก็เลยขับรถไปกับคุณแฟน แต่ด้วยความโง่ ลืมเช็คที่จอดรถค่ะ ว่าจอดที่ไหน ใกล้สะดวกและรวดเร็ว สรุปรถติด วนหาที่จอด ไม่มี!! ในวัดอมรินทร์ก็เต็ม สุดท้ายต้องยอมจอดตึก ปิยมหาการุณย์ 100บ./ช.ม.!!!
จริงๆแล้วเราจะให้คุณแฟนวนไปหาที่จอดรถเอง เราลงจากรถกลางถนนมาทำบัตรผู้ป่วย แล้วขึ้นตรวจที่สูตินารีชั้น3ก่อนก็ได้ เพราะขั้นตอนนี้คุณสามีไม่เกี่ยวค่ะ (แต่ก็เงอะงะกันทั้งคู่ ไม่กล้าตัดสินใจอะไรกันซักอย่าง ยิ่งสามีเป็นโรคหลงทิศหลงทาง กลัวเค้าหลง ก็เลยรอจอดรถได้ก่อนแล้วค่อยไปพร้อมกัน แล้วเป็นไง ชวด เบยยย)
ทำบัตรผู้ป่วยใหม่แปบเดียวเองค่ะ ไม่ถึง10นาที ตอนยื่นบัตรประชาชนกับแบบฟอร์มที่กรอกแล้วเจ้าหน้าที่เค้าจะถามว่ามาทำอะไร เราบอกว่ามา ตรวจมีบุตรยาก-- อ่อ ต้องไปตรวจที่สูตินารีก่อนนะคะ แต่ตอนนี้ปิดแล้วนะคะ วันนี้ก็ทำบัตรไปก่อนแล้วมาใหม่นะคะ-- (แอบจิกสายตา สมน้ำหน้าไม่รู้จักมากันแต่เช้า) (เค้าผิดเอง เค้าขอโทษ)
สรุปวันแรก สามีภรรยาคู่นี้ ก็ได้แค่บัตรผู้ป่วยไปนอนกอดกันคนละใบ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพราะไม่ได้ตรวจอะไรเลย (แต่ดันต้องค่าจอดรถ100 กับค่าทางด่วนอีกเกือบ200 ไปเปล่าๆซินะ)
ใครจะไปตรวจย้ำนะคะ ไปเช้าๆ ถึงร.พ. 6โมงเช้าให้ได้ เป็นดีที่สุด ได้ที่จอดรถแน่นอน และไม่ต้องรอคิวนานเหมือนเราค่ะT___T
กลับมาตั้งหลักกันใหม่1วัน แล้ววันถัดไปก็ลุยกันอีกค่ะ ซึ่งก็คือวันนี้ 13/01/2016
ออกจากบ้านตี5กว่าๆ เดินทางจากบางบ่อประมาณ1ช.ม. ถึงร.พ. ประมาณ6โมงครึ่งค่ะ คุณแฟนขับรถ ส่วนเราหลับมาตลอดทาง ตื่นขึ้นมาก็มาอยู่ตรงนี้ซะแล้วค่ะ
เราจอดรถที่ข้างวัดอมรินทร์ค่ะ เช้าๆที่จอดเยอะ เลือกได้ตามสบายเลยค่ะ ค่าที่จอดเราออกมาบ่าย2เสีย50บาท แล้วก็เดินไปที่ตึกผู้ป่วยนอก ยื่นบัตรคนผู้ป่วยพร้อมบัตรประชาชน บอกเหมือนเดิมว่า มาตรวจมีบุตรยากค่ะ-- เจ้าหน้าที่บอก เอาแค่ของภรรยาก่อน สามียังไม่ต้อง ไปที่สุตินารีเวชชั่น3นะ--
ขึ้นมาก็เงอะงะค่ะ (ทำไงต่อวะ ทำไมไม่มีคนบอกฉ้านน) คุณแฟนบอกให้ถามซิ ถามๆ เราทั้งคู่ก็พยายามถาม แต่ไม่ค่อยได้มีโอกาสถาม (ถามใครก็ไล่ให้ไปรอๆ ไม่ยอมตอบดีๆหรือให้ข้อมูล) (เข้าใจค่ะว่างานแบบนี้ ต้องเจอไรบ้าง พูดเรื่องเดิมๆเป็นแสนๆครั้ง คนไข้ดื้อมึนก็เยอะ เรื่องธรรมดาที่เค้าจะขี้เกียจอธิบาย และใช้น้ำเสียงกระแทก)
โดนไล่ออกมาก็กวาดตามองไปเรื่อยๆ รอบๆค่ะ สังเกตเอาเองว่าคนอื่นเค้าทำไงกันบ้าง เค้ามีบัตรคิวอยู่ในมือกันได้ยังไง หยิบตรงไหน มีป้ายอะไรอ่านให้หมด (รู้ซึ้งก็วันนี้ ว่าการถาม ยังไงก็สู้การอ่านและสังเกตเอาเองไม่ได้)
นอกเรื่องนิดนึงค่ะ เมื่อวานในกลุ่มเพื่อนเก่าม.ปลาย ในไลน์ ประกาศเชิญไปงานเลี้ยงแต่งงาน เรามาดูอีกทีก็คุยกันไป2-3ร้อยข้อความแล้ว ด้วยความที่อยากรู้ว่าเพื่อนเราจัดที่ไหนเมื่อไหร่ยังไง เราก็เลื่อนไปอ่านตั้งแต่ข้อความแรกเลยค่ะ อ่านทุกคนทุกข้อความ ระหว่างอ่านก็หงุดหงิด เพราะที่คุยกันไม่มีอะไรเลย แต่ละคนเข้ามาก็ถามคำถามเดียวกัน ที่ไหน? เมื่อไหร่? (ซึ่งถ้ามุงเลื่อนขึ้นไปอ่านอีกหน่อย เหมือนกุมุง ก็รู้ป่าวว่ะ อีเจ้าภาพก็ตอบคำถามเดิมไปเป็นสิบๆรอบ ตบไหล่เจ้าภาพ เป็นกุกุเซ็งว่ะ สกิลการอ่านอิพวกนี้แม่งระดับ0)
ที่นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะ คิดมาตลอดว่าเรานี่ฉลาดรอบครอบชอบอ่านชอบสังเกตดีแล้ว คราวนี้รู้ซึ้งเลยว่า เรายังใช้ไม่ได้เลย ป้ายเค้าก็มีบอกขั้นตอนทำไมเราไม่อ่าน (ดีนะ เจ้ที่ไปถามมะกี้ ไม่ด่ากลับมาว่า ป้ายก็มีทำไมไม่อ่าน แต่ด่ามาก็ดีนะจะได้หายโง่เร็วกว่านี้) มัวแต่เอ๋ออยู่นาน ได้คิวที่10กว่า ทั้งๆมาตั้งแต่ยังไม่เปิด
ตอนได้คิว ประมาณ7โมงค่ะ จนท.บอกว่า ไปกินข้าวก่อนก็ได้ คุณหมอมา9โมง กินเสร็จแล้วก็มารอเรียกชื่อก่อน8โมงครึ่งแล้วกัน--
เรากับคุณแฟนเดินไปกินข้าวที่โรงอาหารสวัสดิการใกล้ๆค่ะ เกาเหลาเลือดหมูอร่อยมาก 7.30ก็ขึ้นมารอ ที่ชั้น3ที่เดิม (รีบๆ กันพลาด) ประมาณ8โมงคุณพยาบายก็เริ่มเรียกชื่อค่ะ เราก็รอไปเรื่อยๆจนถึงชื่อเรา
เข้าไปก็ชั่งน้ำหนัก (และจำเอาเอง ไม่มีคนมาบริการคอยจดให้เหมือนร.พ.เอกชนนะจร้า..) วัดความดัน แล้วถือผลไปที่โต๊ะคัดกรองเอง คราวนี้คุณพยาบาลก็จะถามว่าต้องการตรวจอะไร เราก็บอกว่าต้องการมีบุตรแต่ยังไม่มีซักทีเลยค่ะ-- เค้าก็ถามประวัติคร่าวๆนิดหน่อย แล้วบอกว่า ต้องตรวจมะเร็งปากมดลูกและตรวจภายในก่อนนะ ไปนั่งรอห้องตรวจเบอร์4นะ--
รับบัตรคิวมาก็เงอะงะอีกค่ะ ห้องเบอร์4มันอยู่ตรงไหนฟะ! ถามดีมั๊ยเนี่ย ไม่ซิไม่ซิ! เค้าก็มีป้ายชี้ออกชัดเจน เดี๋ยวก็โดนด่าขึ้นมาจริงๆซะหรอก ป้ายก็มีทำไมไม่อ่านค่ะ!! เราก็เดินตามป้ายไปเรื่อยๆค่ะ เดินเข้าไปในสุดเจอห้องเบอร์4จนได้ ตอนนั้นก็9โมงพอดี ดีใจค่ะ เราคิว10 คงรออีกไม่นานเท่าไหร่
ไม่นะเราจะมามัวนั่งแชท เอาแต่เล่นโทรศัพท์ ไม่สังเกตชาวบ้านชาวช่องเค้าไม่ได้นะ มองๆอ่านๆทุกป้าย สิ่งแรกที่ผิดสังเกตคือทำไมทุกคนท้องป่องๆกันแล้วทั้งนั้นเลยหว่า เก้าอี้ที่นั่งอยู่ก็แปะว่า ที่นั่งสำหรับสตรีมีครรภ์ มองคนเดินผ่านไปผ่านมา เค้าเอาป้ายคิวติดหน้าอกกันด้วย แต่ละคนไม่เหมือนกัน เราติดมั่งดีกว่า ติดแล้วก็หันหน้าให้ทุกคนเห็นชัดๆไปเลย กุไม่ได้มาเนียนนะเฟ้ย กุรอคิวอยู่นะเฟ้ย เร็วๆด้วยอย่าให้รอนาน
นั่งมองคนเดินไปเดินมาจนตาลายอยู่ชั่วโมงนึง ในใจเริ่มคิด หมอสายหรอทำไมไม่เรียกซักที ซักพักพี่พยาบาลคนนึงมองมาที่หน้าอกเราแล้วพูดขึ้นมาเสียงดังเลยว่า น้องป้ายเหลืองคิว10ห้องเบอร์4น่ะค่ะ หนูนั่งผิดห้องแล้วนะ!!
เราเริ่มใจเสียแล้วค่ะ ตายๆๆๆๆ แล้วปล่อยกุนั่งเอ๋ออยู่ได้เป็นชั่วโมง ป่านนี้เลยไปคิว20-30แล้วมั๊ง ตาลีตาลานวิ่งออกไปหาห้องเบอร์4 เอ๊าถามก็ถามวะ ยื่นป้ายให้จนท.ดูเลย อันนี้รอห้องไหนคะ เค้าก็ชี้มา เราพุ่งเข้าไปถามพยาบาลหน้าห้องก่อนเลย คิว10ยังไม่ถึงใช่ไหมค่ะ-- ยังค่ะ คิว1ก็ยังไม่ได้เริ่มเลยค่ะ อาจารย์หมอที่ตรวจประจำ เค้าเปลี่ยนตารางตรวจ อาจารย์หมอที่มาแทนก็ติดสอน กำลังจัดคิวให้ใหม่ที่ห้องถัดไป รออีกซักครู่ใหญ่ๆเลยนะคะ-- ถอนหายใจ1เฮือก (อย่างนี้เรียก โชคร้าย หรือโชคดีคะเนี่ย)
ระหว่างนั่งรออยู่ได้ยินพยาบาลดุคนไข้คนอื่น ป้ายคิวน่ะเก็บไว้ทำไม ทำไมไม่ติดอก แล้วจะรู้ได้ไงว่าใครเป็นใคร!! 0_0
นั่งรอต่อไปอีกชั่วโมงกว่า พอเรียกชื่อก็เข้าไปพบคุณหมอค่ะ ยังดูวัยรุ่นอยู่เลย น่ารัก พูดเพราะด้วย
อ.หมอซักประวัติแบบละเอียด และก็จดๆ อย่างใจเย็น แล้วพาเราไปเปลี่ยนผ้าถุงขึ้นขาหยั่ง ตรวจมะเร็งปากมดลูก และตรวจภายใน เจ็บค่ะ บอกตรงๆเลย แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากๆ ไม่ถึง10นาที ออกมายังมีจุกนิดๆด้วย เฮ่อๆ อ.หมอตัวเล็กแต่มือหนักเนอะ
อ.หมอบอกว่า ต่อไปจะส่งเข้าหน่วยผู้มีบุตรยากนะคะ ส่วนผลตรวจนี้จะส่งให้ทางไปรษณีย์ ให้ใบส่งตัวแผนที่มาเรียบร้อย ชำระเงิน 540บาทแล้วก็เดินไปตึก 100ปี ชั้น6เลยนะคะ--
ที่หน่วยผู้มีบุตรยากให้บรรยากาศอีกอย่างกับตึกผู้ป่วยนอก คุณพยาบาลดูอารมณ์ดี เข้าไปถึงก็เรียกให้ทำนู่นทำนี่ ไม่มีปล่อยให้เรายืนเอ๋อ บัตรผู้ป่วยที่คุณสามีทำมา จะได้ใช้ตอนนี้ค่ะ ยื่นทะเบียนสมรสแล้วรอเรียกตรวจ เราไม่เจาะจงคุณหมอค่ะ ก็เลยได้เข้าตรวจกับคุณหมออิศรินทร์ อาจารย์หญิงคนเดียวในหน่วย
ที่หน่วยผู้มีบุตรยาก เราตรวจอัลตราซาวด์ค่ะ(ขาหยั่งอีกแล้วซินะ) เมาท์หน่อยว่า มันมากค่ะ55 คือน้องเค้าจิ้มแล้วหมุนไปมาแรงมาก นานมาก หลายรอบ จนพี่หลับตาปี๋ กัดปากจิกเตียงเสียงดังกื๊ดๆ เจ็บค่ะ55 ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงพูดกับผู้ช่วยอีกคนว่าเจออะไรบ้าง น้องผู้ช่วยก็จดๆ พี่ก็ฟังไม่ค่อยเข้าใจทั้งหมด แต่พอรู้ว่ามีไข่ทั้งซ้ายและขวาเลย ในรังไข่ก็ไม่น่ามีpco นะ อายุ26-27เอง (เย้ๆ เอาเลยลูก เจ็บก็ยอม ไม่เหมือนที่เก่าจิ้มแล้วก็หมุน2-3จึ๊ก รีบๆ)
ส่วนคุณสามี ได้ถ้วยไปเก็บเชื้ออสุจิค่ะ ด้วยความไม่เคยคุณสามีถามพยาบาลเองเลยว่า ทำยังไงครับ -- ก็เข้าไปช่วยตัวเองในห้องนี้นะคะ แล้วก็หลั่งน้ำเชื้อลงในนี้-- (สามีหันมา กระซิบกับเรา อายว่ะ--) (ฉันก็อายเค้าเหมือนกันที่แกถามเมื่อกี้ว่า ทำยังไงอ่ะ--)
เสร็จเรียบร้อยก็ได้ใบนัดฉีดสี และตรวจเลือด ชำระเงินอีก590บาท ก็เดินจุงมือกันไปตึก72 รับใบนัด ระหว่างเดินก็แอบแซวคุณสามีว่า ช่วยตัวเองทำยังไงครับ-- 55 เค้าก็เมาท์ให้ฟังว่าในห้องมีหนังโป้ให้ดูด้วย ดีว่ะ (แน่ะ!!)
การฉีดสีต้องทำวันประจำเดือนมา วันนี้จึงยังตรวจไม่ได้ ประจำเดือนมาแล้วโทรมา พยาบาลจะบอกอีกทีว่าต้องทำอย่างไรค่ะ
แล้วก็เดินกลับไปที่ตึกผู้ป่วยนอกเพื่อเจาะเลือดเราทั่งคู่ไปตรวจ ฉ้าน...เกลียดตึกเน้.... เพราะรู้ตัวจะต้องไปยืนงงเงอะงะอีกแน่ๆ แล้วก็จริงๆค่ะ ไม่รู้ว่าต้องจ่ายเงินก่อนเจาะ ได้รับคิวที่961 มองไปห้องเจาะเลือดเห็นถึงคิว920เอง ไปหาขนมกินก่อนยังทันหิวๆ
เดินออกจากร.พ. ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม เห็นร้านก๋วยเตี๋ยว มีก๋วยจั๊บด้วย อยากกินก๋วยจั๊บ เข้าร้านสั่ง เค้าบอกหมด-- อ่ะ งั้นไม่กินกะได้ ไปนั่งรอหน้าห้องตรวจกันดีกว่า เข้าไปเรายังนั่งโง่อยู่ซักพัก คุณสามีขึ้นมาว่า นี่ๆ คนอื่นเค้าถือใบตรวจกันน่ะ ทำไมเราไม่มี-- เออว่ะ-- ไปถามซิไปถาม-- (ทั้งวันอ่ะ วันนี้)
เดินไปเห็นใบตรวจเราสองคน วางเหี่ยวไว้ที่ช่องการเงิน เราก็พุ่งเข้าไป อันนี้ของหนูค่ะ-- เรียกตั้งนานแล้วไม่ได้ยินหรือไง-- (งื้อ โดนดุจนได้จะร้องไห้) (ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้ายไม่รู้ที่ไม่ได้กินก๋วยจั๊บ) ต้องจ่ายเงินก่อน แล้วถึงจะเจาะได้นะ ค่าตรวจ3,130บาท -- เท่าไหร่นะคะ!?!-- 3,130บาทค่ะ-- (ด่ากุในใจซิมึง อินี่ตรวจเลือดเสร็จอย่าลืมไปตรวจหูด้วยนะ) (ตรวจเลือดเรา980 ของคุณสามี2,150บาท)
รอเจาะอีกประมาณ30นาที ค่ะ เจาะแปบเดียว แล้วก็เดินมึนๆ รอคุณสามี ช้ากว่าเพราะมัวแต่คุยเล่นกิ๊กกั๊กกับพยาบาล หรือตรวจเยอะกว่าจุงต้องเก็บเลือดไปหลายหลอดก็ไม่รู้นะ บ่ายสอง เป็นอันเสร็จภาระกิจของ ป้าปะ มามะ ในวันนี้แล้วนะคุณลูก
หวังว่าเราจะได้เห็นหน้าหนูเร็วๆนะ
ผลเป็นอย่างไร จะมาเล่าให้อ่านกันต่อนะคะ ขออภัยที่บลอกนี้บ่นยาวมากเลย นอกเรื่องไปเยอะเลยด้วย
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ขอบคุณค่ะ
Create Date : 13 มกราคม 2559 |
Last Update : 19 กรกฎาคม 2561 9:57:13 น. |
|
14 comments
|
Counter : 58650 Pageviews. |
|
|