ไปเที่ยว ไปกินกันนะคะ ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะชมค่ะ
 

...ILLUMINATION TokyoMidtown Christmas 2009...(13/12/2009)

เมื่อวานไปถึง TokyoMidtown เกือบๆห้าโมง
ก็พยายามไปตั้งท่ารอคอยเหมือนคนญี่ปุ่นทั่วๆไปที่เขาตั้งใจ
ไปดูตอนที่ไฟยังไม่เปิด มันลุ้นๆดี เราต้องไปในช่วงนั้นค่ะ

ไปถึงสถานีรถไฟ Roppongi ประมาณ 16:35 น.
เดินไปที่บริเวณงาน เหลืออีก 7 นาที ก็จะ 17:00 น.
คนมามุงดูมากมาย มาก่อนป้าซิ่งอีกนะคะ
ป้าซิ่งก็รีบขึ้นบันไดไปบนสะพานเชื่อมระหว่างตึกกับสวนทันที
ยืนได้จังหวะพอดี แต่ก็มีคนยืนอยู่ก่อนหน้าเราแล้ว บังนิดๆ
ถ้าอยากถ่ายรูปต้องมายืนบนสะพาน จะได้ภาพดีหน่อยแต่ก็ไกลค่ะ
เวลาไฟเปิดขึ้นมา เราก็พลอยตื่นเต้นไปกับเขาด้วย
หลังจากไฟเปิดแล้ว เรามีความรู้สึกแถวราชดำเนินที่เมืองไทยเรา
อลังการณ์งานสร้างกว่าเป็นไหนๆ จนทุกวันนี้ก็ยังมีให้เห็นอยู่













มาตั้งแต่ไฟยังไม่เปิด จนไฟเปิด





นางเอกของประทีปไฟคือบริเวณนี้ค่ะ









ดูจนอิ่มพอประมาณ ก็เดินไปดูภายในอาคาร Midtown
มีโคมกระดาษ ห้อยระย้ายาว 17 เมตร
กระดาษขาวของญี่ปุ่นที่อยู่รอบๆ ตัดด้วยกรรไกร
ซึ่งพับกระดาษหลายชั้นแล้วจิตนาการณ์ออกมาเป็น
ลวดลายต่างๆออกแนวคริสต์มาส ประดับออกมาหลายลายด้วยกัน
อ่านในรายการ เขาจะเปิดไฟตอน 19:00 น. แต่
ป้าซิ่งไม่ได้ดูหรอกค่ะ เดินทางออกจากตรงนั้นไปซะแล้ว









มาดูซานตาครอส มี 27 แบบ ซึ่งเรียงลดหลั่นกันไปเป็นรูปปล่องอุโมงค์
สูง 4 เมตร มีตุ๊กตาซานตาครอสเรียงกันทั้งหมด 1,500 ตัว
มีสายน้ำเรียงเป็นเส้นวงกลม ทิ้งลงมาจากเพดานของอาคารจนสุดพื้น
















LED Light








คริสต์มาสพลาซ่า




 

Create Date : 14 ธันวาคม 2552    
Last Update : 15 ธันวาคม 2552 17:30:02 น.
Counter : 2309 Pageviews.  

ตลาดน้ำคลองสระบัว อยุธยา (8 Nov.2009)

ไปเที่ยวตลาดน้ำคลองสระบัว ที่จังหวัดอยุธยากับเขาบ้าง
บ้านป้าซิ่งอยู่ปากเกร็ด นนทบุรี นี่เอง อยุธยาจึงใกล้กันนิดเดียว

ไปเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนโน้น เพิ่งมีเวลาลงบล๊อควันนี้เอง
วันนั้นชั่วโมงที่ป้าซิ่งไป เป็นรอบการแสดงละครพื้นบ้านประยุกต์
เรื่อง "เจ้าเงาะกับนางรจนา"
รถไปจอดไว้ด้านหลังคันนาโน้น ไม่ได้ลงจอดที่ช่วงต้นๆที่มีคนเขาโบกมือ
เรียกให้จอดตรงนี้ก็ได้ครับ
ที่เราลงจอดเป็นบริเวณกว้าง มีเจ้าหน้าที่เอื้ออำนวยความสะดกไม่เรียกเก็บเงินใดๆ
ออกจากรถก็เดินไปตามทาง จะผ่านบริการเรือพายให้พายกันเล่น
เสียค่าบริการ 20 บาทด้วย
ใครพายเป็น พายไม่เป็นไม่ต้องกลัว เพราะน้ำในคลองตื้นมาก
สำคัญบริเวณเนื้อที่น้ำไม่กว้างเลย สนุกดีนะ ลองดูกันค่ะ













เรื่องพายเรือเล่น ป้าซิ่งเอาเป็นกิจกรรมก่อนกลับบ้านค่ะ
สนุกดี พายเล่นๆตั้งแต่เด็กๆ มาวันนี้ก็ยังพายไม่เก่งอยู่เหมือนเดิม ฮ่าๆ









แล้วก็ผ่านบ้านทรงไทย ที่เป็นสถานที่แต่งตัวของนักแสดงละครประยุกต์
มีผ้าไทยๆตากอยู่เต็มราว เพราะ ผ้าเปียกน้ำ





เดินไปเข้าสถานที่ ที่เขาขายอาหาร ที่กินอยู่บนแพไม้ไผ่
ส่วนตรงกลางเป็นเวทีสระกลางน้ำเพื่อการแสดง
วันนึงมี 5 รอบ และ 5 เรื่อง ไม่ซ้ำกันเลยค่ะ

ตอนขึ้นสะพาน เห็นควาย คันไถ และ ห่าน







บรรยากาศรอบๆสถานที่ ในน้ำก็มีปลา
สถานที่การแสดงพื้นน้ำจะมีสะพานไม้ใต้น้ำ









จะทานอาหาร ต้องซื้อคูปองกันก่อนนะคะ
แผ่นหนึ่ง 100 บาท ดวงละ 5 บาท อาหารราคาเท่าไหร่ก็ฉีกตามรอยปรุ





















































ไปกันทั้งหมด 6 คนรวมป้าซิ่งด้วย อาหารที่เราลงมือกินกัน มีตามรูปนี้ค่ะ










ส่วนเนื้อที่ห้องน้ำอยู่ด้านหลัง มีทุ่งนาเกษตรเล็กๆ



มาดูการแสดงละครพื้นบ้านประยุกต์ เรื่อง เจ้าเงาะกับนางรจนา
บรรยากาศเริ่มแรก สร้างบรรยากาศบนพื้นน้ำมีควันลอย
พร้อมด้วยการขับเสภาอันไพเราะ เหล่านักแสดงลงเรือ
มาลงที่สถานที่การแสดง ฟ้อนรำมาแต่ไกลอย่างงดงาม






























 

Create Date : 29 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2552 9:52:44 น.
Counter : 4947 Pageviews.  

ร้านกาแฟโจมา(JOMA)ที่..หลวงพระบาง..

ตอนไปเที่ยวที่หลวงพระบาง ก็ได้ไปนั่งเล่นๆที่ร้านกาแฟโจมา
(JOMA)กาแฟชาติตระกูลคานาดา
พยายามนึกถึงบรรยากาศภายในร้าน เวลานั่งแล้วมันเหมือนๆกับ
ร้านกาแฟวาวีของพี่น้องไทยเราที่แตกออกมาหลายสาขา
ส่วนกาแฟโจมา มีไม่กี่สาขาในประเทศลาว ที่เวียงจันทน์ก็มีนะคะ





แต่ในที่นี้ ป้าซิ่งไปนั่งชิลล์ที่หลวงพระบางติดที่ทำการไปรษณีย์
ซึ่งก็อยู่ถนนใกล้ๆกับไนท์พลาซ่าห่างกันไม่กี่กิโลเมตร
และในซอยด้านข้างร้านกาแฟโจมา มีเกสเฮ้าท์ราคา 400-500 บาทเยอะด้วยค่ะ
สรุปถ้าพักอยู่แถวโจมานี่ ก็จะได้รับความสะดวกสบาย
สถานที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากที่พักมาก ยามค่ำไม่น่ากลัวอะไรเลย



































น้ำปั่นผลไม้กีวีผสมกับใบมิ้นท์






 

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2552 13:52:06 น.
Counter : 3781 Pageviews.  

แบกเป้ไป>>สะบายดีประเทดลาว(หลวงพระบาง...ภาคต่อ.. )7-10 Oct.2009

เช้าต่อมาวันที่ 10 ตุลาคม 2009 วันนี้เป็นฉากสุดท้ายของการอำลาหลวงพระบางแล้วค่ะ

วันนี้ตั้งใจว่าจะใส่บาตรพระข้าวเหนียว ซึ่งป้าซิ่งตื่นนอนตอน ตีห้าครึ่ง
พอแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ลงมาที่ล๊อปบี้น้อยของที่พักเจ้าพะสิด
เพื่อที่จะมาพบปะกับน้องๆคนไทยกลุ่มเดิม เพราะมีบางคนก็จะไปใส่บาตรพระด้วยกัน
แต่ในที่สุด ก็ไม่สมหวังเพราะฝนตก พายุเข้าอย่างหนักหน่วง
พวกเราก็เลย..... นั่งเล่นพูดคุยกันตามอัทธาศัย
ซักพักก็มีแม่ค้าหาบขนมมาขาย พวกเราเลยเฮละโลเข้าไปรุมล้อมรอบหาบแม่ค้า
ขนมแป้งข้าวเหนียว คลุกมะพร้าวขูดสดๆใหม่ๆ น่ากินมาก
สะอาดด้วย ราคาถูกอีกต่างหาก อร่อยไม่หวานมาก
ขนมเหล่านี้ จึงโดนเสกเข้าท้องเพื่อเป็นอาหารเช้าในวันที่ฝนตก
(ถ้าฝนไม่ตก คงไม่ซื้อกินมั๊ง!!)
ตั้งใจซื้อเท่าที่ปากต้องการ ผลสุดท้ายก็ต้องเรียกแม่ค้าหาบกลับมาใหม่ท่ามกลางสายฝน
เพราะทุกคนบอกอร่อยๆๆๆๆๆๆ










หลังจากรับประทานขนมรองท้องแล้ว กลุ่มน้องๆทั้ง 5 คน
ก็เดินทางไปเที่ยวแหล่งทัวร์เต็มวัน เที่ยวพวกถ้ำ , น้ำตก กันต่อไป
ส่วนเราสาวแกร่แล้ว เคร่งในธรรมมะ ธัมโม ก็ไปเที่ยววัดนะซิ
วัดและพระราชวังเก่าของเจ้าลาวก็อยู่แถบบริเวณไนท์พลาซ่า
แค่แถวนี้ก็ได้ชมสถานที่ ที่งดงามแล้วค่ะ

วัดที่คุณรัตน์และป้าซิ่ง ตกลงไปอันดับแรก เห็นจะเป็นวัดเชียงม่วน
เป็นวัดที่เดินไม่ไกลอยู่ติดแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน เชื่อมกันพอดี

วัดเชียงม่วน เป็นวัดที่ป้าซิ่งประทับใจในความงดงามของลายแกะสลัก
ลงรักปิดทอง โบส์ถบางแห่งงดงามด้วยการปิดกระจกสีๆ เป็นรูปคน,
สัตว์ ,ต้นไม้,ใบไม้ ,วัดวาอาราม มีรื่องเล่าทางศาสนาด้วย
และวิถีชีวิตชาวบ้านท้องถิ่นของเขาค่ะ

ราคาบัตรค่าผ่านประตูคนละ 20,000 กีบ

บรรยากาศตอนเดินออกจากที่พัก แม่น้ำคานจะอยู่ทางขวามือ
ส่วนทางด้านซ้าย จะเป็นวัดทาดภูสี และที่พักราคาแพงอยู่ติดๆกัน
















ป้าซิ่งเดินมาทางด้านแม่น้ำคาน เลี่ยงมาทางซอย
เหมือนมาทางหลังวัดเลยค่ะ

แต่ถ้ามาทางด้านหน้าวัด เชิงบันไดวัดจะมีรูปแมวสีขาวๆ นั่งที่หัวบันได
และด้านหน้าวัดจะเป็นแม่น้ำโขง

แต่จะมาทางไหน ก็มีด่านเสียค่าบัตรผ่าน และ รูปพระอุโบสถสวย
มีบานประตูลายวิจิตรงดงามก็อยู่ที่เดียวกัน













































+++++ข้อปฏิบัติการใส่บาตรพระที่ชาวต่างชาติควรถือปฎิบัติ++++++







++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++






































ป้ายให้หยุด





ตู้ไปรษณีย์




ระหว่างทางเห็นร้านขายข้าวปุ้น ซึ่งเป็นร้านตั้งโต๊ะง่ายอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงแรมสันติ
ป้าซิ่งว่าที่เชียงคาน ข้าวปุ้นอร่อยกว่าค่ะ ส่วนข้าวปุ้นร้านนี้เป็นน้ำข้นเหมือนน้ำพะโล้ เพราะเนื้อทำจากเนื้อควาย
เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ได้ลองกินเนื้อควาย ก็อร่อยดีเหมือนเนื้อวัวเลย
เขาตุ๋นเนื้อควายเสียจนเปื่อยเชียวค่ะ














กินเสร็จก็เดินเรื่อยเปื่อยไปดูพิพิธภัณฑ์พระราชวัง
เป็นพระราชวังเก่าของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์
ไม่สามารถถ่ายรูปได้ ดูด้วยตาตนเอง
เสียค่าผ่านประตู 30,000 กีบ










หลังจากออกจากพิพิธภัณฑ์พระราชวัง เดินเล่นเรื่อยเปื่อย
และไปดื่มกาแฟกับอาหารกลางวันที่ร้าน JOMA (โจมา)ต่อ
เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่านิดๆได้ เดินออกมาเห็นฝั่งตรงข้ามมีวัด
มีพญานาคห้าหัวตัวสีเงินทอดยาว น่าสนใจดีเลยเข้าไปสำรวจ
บรรยากาศภายในกันค่ะ













เดินจนบ่ายคล้อย ขาเมื่อย พอดีผ่านร้านนวด เลยเข้าไปใช้บริการสะหน่อย
เป็นร้านของคนไทยไปเปิดกิจการที่นั่น ราคาชั่วโมงละ 200 บาท
ป้าซิ่งกับคุณรัตน์เลยตกลง ว่าดีเหมือนกัน เพราะมีเวลาอยู่บ้าง
ก่อนนั่งเครื่องบินกลับไปลงที่เวียงจันทน์ และจะต้องนั่งรถบัสกลับไทยในค่ำวันนั้น




นวดเสร็จไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้กับที่พักเฮือนเจ้าพะสิด
เพื่อไปสนามบินต่อ ถึงเวลานัด พนักงานขับรถก็พาไปส่งที่สนามบินหลวงพระบาง











ชุดขึ้นเครื่องบินกับแบกเป้ของป้าซิ่ง เก็บไว้เป็นที่ระลึก
เหมือนบ้านนอกเข้ากรุงเลยล่ะค่ะ



นั่งไฟลท์ QV 104 เวลา 19:20 น.ใช้เวลาบิน 40 นาทีถึงเวียงจันทน์
ตอน 2 ทุ่มพอดีเป๊ะ

















คุณรัตน์กับพนักงานต้อนรับหนุ่มบนเครื่องบิน





เครื่องบินลาวถึงสนามบินตอนสองทุ่ม
ต่อจากนั้นด้วยว่าต้องการรีบกลับเข้าไทยในคืนวันนี้ให้เสร็จสิ้น
ด่านปิดตอน 22:00 น. พวกเราเลยรีบนั่งแท๊กซี่ไปลงที่ด่านลาว
ภายในเวลาครึ่งชั่วโมงถึงด่านลาว(20:30 น.)
แล้วเราก็รีบนั่งรถบัสจากฝั่งด่านลาวเที่ยวสุดท้ายไปลงที่ด่านฝั่งไทย
ค่ารถบัส 16 บาทหรือ 4,000 กีบ





ถึงฝั่งด่านไทยสามทุ่มกว่าๆ
มีรถแท๊กซี่คนไทยรออยู่ เราก็รีบจ้างให้ไปส่งที่ท่ารถบัสหนองคาย100 บาทในค่ำวันนั้น
หวังจะนอนหลับในรถจะได้ไม่ต้องมาเสียค่าที่พักที่ฝั่งไทย แบกเป้ต้องอดทนค่ะ
ค่ารถบัสจากหนองคายไปกรุงเทพฯ 350 บาท
ใช้เวลาการเดินทาง 9 ชั่วโมงถึงเช้าวันใหม่ที่หมอซิต
ถึงหมอซิตประมาณหกโมงเช้ากว่าๆอย่างอิดโรยและหิวจังเลยค่ะ
จบการไปสะบายดีที่ประเทดลาวแต่เพียงเท่านี้นะคะ









 

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2552 13:59:17 น.
Counter : 4267 Pageviews.  

แบกเป้ไป>>สะบายดีประเทดลาว(หลวงพระบาง)7-10 Oct.2009)

วันที่ 9 ตุลาคม 2009 มีโปรแกรมไปหลวงพระบาง
วันนี้เป็นวันครูของประเทศลาว และ เป็นวันไปรษณีย์โลก
ตอนเช้าป้าซิ่งและคุณรัตน์ เช็คเอ๊าท์ออกจากริเวอร์ไซด์ บังกาโล
เดินออกมาหาอาหารกินแต่เช้า ปากซอยมีร้านเป็นเพิงสังกะสี
ตามตำรับชาวบ้านๆ กินกาแฟกับปาท่องโก๋ ก็อร่อยแล้วค่ะ ตบท้ายด้วยน้ำชาร้อน

เช้าวันนี้เด็กไปโรงเรียนด้วยหน้าตาสดใส
ตรงหน้าตะกร้าจักรยานมีดอกไม้สด และ ของขวัญ ให้แด่คุณครูกันทุกคน
คือจริงๆแล้วป้าซิ่งไม่รู้หรอกค่ะ เป็นวันอะไร?
ทำไมเห็นแต่เด็กไปโรงเรียนแล้วมีดอกไม้และของขวัญ
เลยเข้าไปสอบถามเด็กๆเลยได้คำตอบว่า วันนี้เป็นวันครู














กินเสร็จได้เวลาไปท่ารถวังเวียง ตามหมายกำหนดของตั๋ว
ที่ซื้อเมื่อวาน
ไปก่อนเวลารถมินิบัสออกสัก 20 นาที เป็นอย่างน้อย
บริเวณท่ารถวังเวียงก็ประมาณนี้ค่ะ ตามด้วยราคารถตู้น้อยๆ
















การไปหลวงพระบางด้วยทางรถ เมื่อเรารู้อยู่แล้วว่า
หนทางไกลเป็นเวลา 6 ชั่วโมงที่อยู่ในรถ เราจำเป็นจะต้องกินยาแก้เมารถ
ถ้าให้ดีเตรียมยาดม ยาหม่อง ให้ทั่วถึงท้องไส้ หมายถึง เอายาหม่องทาท้อง
รอบๆสะดือไปด้วยก็ดีนะคะ มันช่วยได้ พอๆกับเอาโกเอี๊ยะมาปิดสะดือน่ะค่ะ

เที่ยวรถตู้นี้พอดีมีคนไทยมาเป็นกรุ๊ปด้วย 5 คน
เราเลยได้เพื่อนเดินทางและคุยกันมาตลอด น่ารักดีทุกคน
แหะๆแต่ต่างกันตรงอายุ ส่วนความประพฤติและปฏิบัติก็ไม่แตกต่าง
ด้วยเพราะเราเป็นคนชอบเที่ยวเหมือนกันทุกคนค่ะ
แต่ละคนก็มาหาที่พักกันดาบหน้าทั้งนั้น เพราะที่หลวงพระบาง
มีเกสเฮ้าท์มากมายหลายสถานที่ มีให้เราเลือกเยอะมากทีเดียว

ตลอดเส้นทางจากวังเวียงจนถึงหลวงพระบาง
ถนนคดเคี้ยวมาก มากเสียยิ่งกว่าที่ปายอีก
โค้งเยอะมาก และก็อันตรายมากด้วย
เพราะแต่ละโค้ง ถ้าเป็นวงกลม 360 องศา โค้งมันจะปาเข้าไป 310 องศาแล้ว
แต่ยังไงมันก็เป็นรูปวงรี ก็สัดส่วนตามจินตนาการณ์เอา เพราะไม่รู้จะเอาไปเปรียบกับอะไรดี

ป้าซิ่งกับคุณรัตน์ รอดตัวไปไม่อ้วกแตก แต่ก็เล่นเอามึนปนเบลอๆ
เล่นกินยาแก้เมาก่อน ก็หลับไปช่วงๆแรกหลังคุยกับน้องๆในรถได้พอสมควรค่ะ
ผสมกับวิวทิวทัศน์ระหว่างทางสวยงาม มันสวยยิ่งกว่าไปอำเภอปาย แม่ฮ่องสอนอีก
มีหมอกด้วย แม้เป็นเดือนตุลาคมยามสายสิบโมงเช้าแล้วก็ยังมีหมอกให้เห็น
ภูเขาสวยทุกลูก
บางเนื้อที่ตามถนนจะมีวัว, ควาย, เป็ด, ไก่ ,หมูดำ เดินกันเต็มท้องถนน
เป็นไฮไลท์ของการเดินทาง










ความสวยงามตลอดเส้นทาง ยังฝังใจได้ตลอดไป
แต่พอมาเจอะอุบัติเหตุบนถนนของชีวิตคนอื่นและรถตกเหว
ก็ย้อนกลับมาดูตัวเราบอกได้ว่าขากลับ ตรูไม่กลับแล้วว่ะคุณรัตน์
เรากลับเครื่องบินลาวกันเหอะ !!
เด๋ว...ถึง หลวงพระบาง เราไปจองตั๋วเครื่องบินมาลงเวียงจันทน์ภายในประเทศกันดีกว่า
เพราะดูข้อมูลมาเหมือนกันราคาประมาณ 2,000 บาทได้
(สุดท้ายของที่สุดก็ซื้อได้ราคา 2,400 บาทแบบกระทันหันหนึ่งวัน
รวมค่ารถรับจากโรงแรมไปส่งถึงสนามบินหลวงพระบางด้วย)
ถ้าหากเราเตรียมล่วงหน้าว่าจะนั่งเครื่องบินแต่แรก
เราก็สามารถเตรียมจองตั๋วเครื่องบินเสียแต่แรกจะได้ราคาถูกว่านี้เยอะ

ภาพอุบัติเหตุรถตกเหว เพราะรถเดินทางมาถึงบริเวณเมื่อประมาณ ตี 4-5 ได้
ถนนมันลื่นและมาตรงโค้งพอดี รถเลยลื่นไถลตกเหวไปเลย
เป็นรถตู้ มีคนอยู่สิบกว่าคน หน่วยกู้ภัยกำลังช่วยกัน
ไทยมุงอย่างเราก็จอดรถลงไปดูกับเขาด้วย






รถผ่านไปได้เกือบสามชั่วโมง ก็ได้เวลาหยุดพักกินข้าว เข้าห้องน้ำกลางทาง




รถเดินทางต่อไปหลังอาหารแล้ว ทุกคนก็เงียบเพราะหลับกันเกือบหมดรถ
รถมาจอดถึงหลวงพระบาง มีคนขับรถแท๊กซี่จัมโบ้มารอถามเต็มเลยว่า
จะไปไหน ?พักที่ไหน? ในจำนวนนั้นก็จะมีพนักงานของโรงแรมที่พัก
มาถามและบอกราคาห้องเสร็จสรรพ์ แต่พอดีว่าในกลุ่มคนไทยมีคนเคย
มาเที่ยวหลวงพระบางอยู่แล้วคนหนึ่ง เลยชักชวนกันเหมารถไปลงที่
ร้านกาแฟ JOMA บอกว่าในซอยปากทางร้านกาแฟมีเกสเฮ้าท์ราคาถูกอยู่เยอะทีเดียว
ป้าซิ่งก็เข้าไปช่วยดูห้อง ไม่รู้เป็นไรถูกชะตากับน้องกลุ่มนี้มาก
ไปๆมาๆ ดูไป 3 ที่ก็ไม่ถูกใจ ราคา 400-500 บาท แต่อยากเดินดูที่พักที่อื่นต่อ
ก็เลยเดินเฮละโลกันไปอีกหลายกิโล ในที่สุดก็มาได้ที่พักแถวแม่น้ำคาน
เพราะป้าซิ่งได้จิ๊กโบชัวร์จากพนักงานที่ท่ารถ แล้วมาพิจารณาดู
ตามที่พนักงานบอกว่า 400 บาทครับ
ส่วนที่เราเห็นเกสเฮ้าท์ในซอย JOMA ไม่สวยเท่าที่พักเฮือนเจ้าพะสิด
แล้วอีกอย่างที่พักเจ้าพะสิดยังใหม่อยู่ เลยตัดสินใจไปที่พักนั้น
น้องกลุ่มนั้นส่งป้าซิ่งไปดูห้องคนเดียว ถ้าเห็นดีแล้วก็ต่อราคามาแล้วกัน
ตามนั้น ต่อราคาได้เดี๋ยวน้องเดินไปที่พักครับ
และแล้วช่วงระหว่างเวลาที่ป้าซิ่งไปดูห้อง ก็ทำให้คิดได้ว่า
น้องกลุ่มนั้น ส่งเรามาดูห้องพัก เหมือนส่งให้เราไปตายในสนามรบก่อนใคร
<<<แอบคิดเล่นๆไปงั้น แต่ก็อดขำไม่ได้>>>>
(น้องๆกลุ่มนั้น พักกัน 2 คืน ส่วนป้าซิ่งพักแค่คืนเดียว)
ต่อลองราคาแบบจนแล้วจนรอดก็ได้ราคา 360 บาท
ป้าซิ่งต่อ 350 บาท ยังไง ยังไง ก็ไม่ให้ ขี้เกียจต่อลองแค่ 10 บาท
เลยให้พนักงานโรงแรมขับรถแมงกาไซด์ไปตามน้องๆมา
น้องๆเห็นห้องก็โอเคเลยครับพี่ !!

ที่พักเฮือนเจ้าพะสิดเดินไกลพอสมควร
อยู่ตรงข้ามพระธาตุภูสี ทางขึ้นเขาพอดี
เราขึ้นอีกทาง ไปลงอีกทาง ซึ่งเป็นตลาดไนท์พลาซ่าพอดี
ที่พักอยู่ตรงข้ามร้านสเต๊กค์ลาว


















น้องในกลุ่มก็ชักชวนเราเหมือนรวมพลังแก๊งค์ เที่ยวกันในวันนั้น
เพราะวันรุ่งขึ้นต้องตัวใครตัวมัน เพราะคนละโปรแกรม
วันนี้ทำได้คือ ตอนห้าโมงเย็นเที่ยวนมัสการพระธาตุภูสี
และ ทานอาหารค่ำข้างทางร่วมกัน และ เดินเล่นไนท์พลาซ่า
ส่วนตอนเช้าวันใหม่ ใครตื่นเช้าก็มาใส่บาตรพระหลายร้อยรูปร่วมกัน
(พอเช้าจริงๆก็ไม่ได้ใส่ เพราะ ฝนตกหนักมากๆเลย แง๊ๆอดใส่บาตรข้าวเหนียว
)


ทาดพูสิ หรือ พระธาตุภูสี เสียค่าเข้าชม 20,000 กีบ




















ชื่นชมพระธาตูภูสี และ มองบรรยากาศรอบนอกบนเขาเสร็จ
ก็เดินลงบันไดเขาลงมาอีกทาง เป็นตลาดไนท์พลาซ่า
ของขายเหมือนถนนคนเดินแถวเชียงใหม่
แค่แตกต่างตรงมีเสื้อยืดโลโก้ลาว
และผ้าถุงสาวลาว ลวดลายถักทอด้วยมือแตกต่างกับไทย
ป้าซิ่งซื้อด้วยผืนหนึ่งเย็บเสร็จเรียบร้อย เตรียมใส่เดินเล่นในวันรุ่งขึ้น อิๆ

















กินอาหารมื้อค่ำด้วยกัน ด้วยบุฟเฟ่ย์ข้างทาง
จานใครจานมัน ก็สะดวกดีค่ะ
5,000 กีบ













ต่อจากนั้นแวะเข้าร้านกาแฟ JOMA ชาติตระกูลของประเทศคานาดา
ป้าซิ่งซื้อน้ำปั่นเป๊ปเปอร์มิ้นท์กับกีวี มาดื่ม
ไว้เช้าๆจะมากินอาหารเช้าที่ร้านนี้อีกและกาแฟด้วย







ก่อนจากกันในคืนนั้น แวะเข้าวัดแถวบริเวณไนท์พลาซ่า
เป็นโคมกระดาษสีสวยๆ ป้าซิ่งเห็นตั้งแต่เดินหาที่พักในตอนกลางวันแล้วค่ะ












สำหรับคืนนี้สิ้นสุดลงเท่านี้ก่อนนะคะ
บล๊อคถัดไปจะพาไปชมความสวยงามของวัดอารามหลวงสำคัญของหลวงพระบาง




 

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2552 10:16:58 น.
Counter : 4507 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  
 
 

ป้าซิ่ง Naomichan
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 70 คน [?]




........หลังไมค์ถึงป้าซิ่งค่ะ.........
[Add ป้าซิ่ง Naomichan's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com