Sweet Home: Sweet Honeymoon
แสงแดดอ่อนที่ส่องผ่านเข้ามากระทบ เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังอยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับเสียงนกร้องแว่วทำให้ใบหน้าเรียวขาวที่หลับพริ้มอยู่กับหมอนสีขาวใบโตค่อยๆ ปรือตาขึ้น

“อืม....” เช้าแล้วเหรอเนี่ย...ยังไม่อยากลุกเลย คิดแล้วก็อ้าปากหาวออกมาเล็กๆ - - หลับต่อก็ได้นี่นะ

ร่างบางพลิกตัวหันหนีแสงแดดไปอีกทาง เอื้อมคว้าหมอนข้างมากอด ขาเรียวกวาดเอากองผ้าห่มปลายเท้าตกลงไปกองกับพื้นข้างเตียง...แต่ยังไม่ทันได้หลับอย่างใจคิดก็ต้องสะดุ้งโหยง เพราะร่างสูงของใครอีกคนโถมลงมาทับ

“ตื่นได้แล้ว คนขี้เซา” เสียงทุ้มบอกร่าเริง กลิ่นสบู่หอมอ่อนๆ ลอยกรุ่น ก็แน่ล่ะ รีบไปอาบน้ำให้สดชื่นมาแล้วนี่นา มือเย็นชื้นเอื้อมมาดึงหมอนข้างออกไปจากคนที่กำลังพลิกหนี

“ไม่เอา...ง่วงจะแย่แล้ว แฮร์รี่...”

ใบหน้าสวยงัวเงียบอกทั้งที่ยังหลับตา ทำให้ชายหนุ่มผมดำคลี่ยิ้ม แต่ก็ไม่ละความพยายาม ร่างสูงขยับเข้าไปชิดจนแทบจะตัวติดกับคนที่นอนอยู่ก่อน

“ไหนนายบอกว่า อยากไปเล่นเจตสกีไง วันนี้แดดดีนะ” ไม่พูดเปล่า ยังกดปลายจมูกไปที่แก้มใสเสียฟอดหนึ่ง “ตื่นเถอะ...” เงียบ...ไม่ยอมลุก คราวนี้เป้าหมายเลยเลื่อนลงมาประทับริมฝีปากที่หัวไหล่ขาว

“...ฮื้อ!” ร่างบางชักตาสว่างเมื่อมือเย็นอ้อมมาดึงเอวคอดเข้าไปหา รีบส่งเสียงห้ามเสียก่อน “ไม่เอานะ!” ยังไม่ทันลืมตากำปั้นเล็กก็ทุบปั่กเข้าที่ต้นแขนคนกอดได้อย่างแม่นยำ “เล่นบ้าอะไรแต่เช้าห๊า”

“ก็นายไม่ยอมตื่นนี่นา” ไม่ยอมเลิก ว่าแล้วก็...อีกฟอดที่แก้มซ้าย

คราวนี้คนขี้เซาเลยได้ฤกษ์ตื่นเต็มตา “พอแล้ว! ตื่นแล้วน่า!” เดรโกบ่นพลางหันหน้าหนีจมูกกับปากซุกซนนั่นไปด้วย แต่เจ้าของดวงตาสีมรกตกลับทำหน้ายิ้มๆ ไม่ยอมผละอ้อมแขนออกสักนิด คนถูกกอดต้องเอามือดันหน้าคนที่อยู่ด้านบนให้ออกไปไกลหน่อย

“เอ๊...ก็บอกว่าตื่นแล้วไง!” เสียงแหวชักดังขึ้น เมื่อคนจู่โจมทำท่าจะซุกหน้ากับต้นคอขาวๆ นิ้วเรียวเลยจัดการหนีบเนื้อต้นแขนหมับเข้าให้

“อูย..ไม่เห็นต้องหยิกเลยเดรโก” อีกฝ่ายยอมปล่อยมือแล้วหันมาลูบแขนตัวเองป้อยๆ งึมงำเสียงอ่อย “นายบอกให้ฉันรีบตื่นไม่ใช่เหรอ ทำไมมาตื่นสายเองล่ะ”

ร่างบางชิงลุกขึ้นนั่งเสียก่อนที่อีกฝ่ายจะหากำไรได้มากกว่านี้ “ก็บอกว่าตื่นแล้วๆ นายอยากไม่ยอมฟังเองนี่” ใบหน้าสวยแอบตวัดค้อนคนที่ลุกขึ้นมานั่งยิ้มอยู่ใกล้ๆ

หนอย...มาว่าเราตื่นสาย ก็ใครล่ะ ทำให้เมื่อคืนกว่าจะได้นอนน่ะห๊ะ!

แฮร์รี่มองคนตัวเล็กที่ผละหนีไปเสียไกล แถมยังทำหน้าตาระแวงๆ ได้น่ารักจนอยากจะแกล้งต่อ แต่ไม่กล้าลงมือ...ก็ฝ่ายนั้นเล่นตั้งท่ากางเล็บรอจัดการอยู่นี่นา

“งั้นก็ไปอาบน้ำได้แล้ว”ร่างสูงเปลี่ยนยุทธวิธีกะทันหัน รีบรุนหลังอีกฝ่ายให้เดินเข้าประตูบานเล็ก “เดี๋ยวทานข้าวแล้วไปเดินเล่นกัน” มือเรียวยาวคว้าผ้าเช็ดตัวติดมือไปด้วย

“รู้แล้วน่า!...เอ๊ะ! แล้วจะเข้ามาด้วยทำไม!” คนถูกดันร้องโวยวายเสียงลั่น

“ก็มาช่วยนายอาบน้ำไง จะได้ไวๆ”

“ไม่ต้อง! ฉันอาบเองได้.....นี่!!!” ///

หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว ร่างบางก็เดินออกมาที่ระเบียง อากาศสดชื่นเต็มไปด้วยออกซิเจนผสมกับกลิ่นเค็มของน้ำทะเลทำให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเลย เดรโกเท้าแขนบนระเบียงไม้กลมของวิลลา ใบหน้าเรียวขาวก้มลงมองดูพื้นน้ำสีมรกตใสแจ๋วเบื้องล่าง

สวยจัง...ดูกี่ทีๆ ก็ไม่มีเบื่อ

ชายหนุ่มผมบลอนด์คิดพลางเพ่งมองฝูงปลาที่ว่ายเวียนมาวนอยู่รอบเสาไม้ต้นใหญ่ เขาติดใจรีสอร์ทนี้ตั้งแต่แรกเห็นเป็นภาพเล็กๆ จากหน้าต่างเครื่องบินแล้ว หมู่วิลลาที่ถูกสร้างให้อยู่เหนือผิวน้ำเป็นกระท่อมแบบพื้นเมือง ตัวบ้านทำจากไม้ไผ่กับท่อนไม้กลมแข็งแรง หลังคามุงด้วยจาก เชื่อมกันด้วยทางเดินแคบเป็นแถวโอบล้อมอ่าว เบื้องหน้าคือผืนน้ำสีฟ้าอมเขียว ไกลสุดตา ส่วนเบื้องหลังเป็นหาดทรายขาวสะอาด ชุ่มชื้นด้วยหมู่ต้นมะพร้าว ไม่แปลกใจเลยที่พวกมักเกิ้ลเรียกที่นี่ว่าสรรค์บนดิน

ร่างบางนิ่งมองอยู่นานจนเกือบสะดุ้ง เมื่อแขนยาวของใครบางคนเอื้อมมาโอบกอดจากด้านหลัง

“หิวหรือยัง?” เสียงทุ้มถามอย่างเอาใจ ทำให้คนตัวเล็กกว่าหันไปคลี่ยิ้มพร้อมกับพยักหน้า

“อือ กินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวจะได้ไปเล่นเจตสกี” มือเรียวเป็นฝ่ายดึงคนที่มาตามให้กลับเข้าไปยังร่มเงาของหลังคา โต๊ะอาหารเช้าอย่างง่ายถูกจัดไว้รอเรียบร้อยรวดเร็วสมกับเป็นรูมเซอร์วิสของรีสอร์ทขนาด 5 ดาว

แฮร์รี่นั่งเอามือเท้าคางมองอีกฝ่ายที่รีบทานอาหารอย่างกระตือรือร้น แล้วก็ส่ายหน้า เวลาจะไปเล่นเนี่ย แอคทีฟจริงๆ ทีเมื่อกี้ละไม่ยอมตื่น

...แต่ก็ดีแล้วล่ะ ที่เขาพามาเที่ยวก็เพราะอยากเห็นคนตรงหน้าสนุกสนานร่าเริงนั่นแหละ คนตัวเล็กบอบบางคนนี้ต้องเจอเรื่องร้ายๆ มาพอแล้ว ตั้งแต่ตอนปี 6 จนสงครามกับฝ่ายมืดเสร็จสิ้น ถ้าเป็นไปได้ ต่อไปเขาก็อยากจะทำให้มีความสุขมากๆ มีความสุขตลอดไปเลย...

มัวแต่มองเพลินคิดเพลินจนใบหน้าสวยเงยขึ้นมาเห็นเข้า เลยดุเสียงแหวเข้าให้

“มองอะไรเล่า! รีบกินสิ!”

เดรโกว่าแล้วก็ก้มลงทานอาหารต่อ ชายหนุ่มผมดำเลยต้องรีบก้มลงจัดการจานอาหารของตัวเองบ้าง

“ครับๆ” แกล้งทำท่าหงอล้อ แต่ในใจก็ยังไม่วายแอบคิด

เอ..ลงกลัวกันเสียแต่ต้นมือแบบนี้ สงสัยต่อไปจะหือไม่ขึ้นเสียละมังเรา?

..........................................................................

ด้วยความที่ขึ้นชื่อด้านโรแมนติก ภาพคู่รักหรือคู่แต่งงานใหม่พากันมาฮันนีมูนหวานชื่นจึงไม่ใช่ภาพแปลกตาสำหรับที่นี่ หากคนสองคนที่จูงมือเดินเคียงกันตามความยาวของชายหาดสีขาวในตอนนี้กลับสะดุดสายตาทุกคู่ให้มองตามด้วยความชื่นชม

ดวงตาสีฟ้าปรายมองบรรดาหญิงสาวที่จ้องมาที่พวกเขาอย่างไม่ค่อยพอใจนัก พวกที่กำลังเล่นกันน้ำอยู่ชะงัก หลายคนที่กำลังนอนอาบแดดถึงกับลุกขึ้นมาจ้องเอาจ้องเอาอย่างไม่เกรงใจเสียด้วยซ้ำ แถม...แทบจะทุกรายส่งยิ้มเชิญชวนให้เสียด้วย

ใบหน้าเรียวตวัดกลับมาที่เพื่อนร่วมทางของตัวเองอย่างฉุนๆ

“หืม? มีอะไรเหรอ เดรโก?” คนถูกค้อนเลิกคิ้วถามอย่างงุนงง เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย ดูท่าจะไม่รู้เลยสินะ ว่าถูกตกเป็นเป้าหมายไปเรียบร้อยแล้ว คนตัวเล็กกว่าหันหน้ากลับ ไม่ตอบเสียอย่างนั้น แต่ไม่วายเหลือบมองคนข้างๆ เป็นระยะ

ที่จริงจะว่าพวกสาวๆ นั่นทั้งหมดก็ไม่ถูก ก็เจ้านี่ไปสะดุดตาชาวบ้านเขาเองด้วยแหละ ใบหน้าคมกับทรงผมสีดำค่อนข้างยุ่งที่ตอนนี้เริ่มยาวละต้นคอทำให้ดูเซอร์มากกว่าปกติ ร่างสูง ไหล่กว้างรับกับกล้ามแขนและอกกว้างที่ค่อยๆ สอบลงมาเป็นเอวราบเรียบไร้ไขมัน แถมยังผิวสีน้ำตาลอ่อนที่เกิดจากการออกกำลังกายกลางแดดมานานนั่นอีก

เซ็กซี่น่ะ ก็ใช่อยู่หรอกนะ แต่ว่า...เชอะ!

คิดอย่างโมโหแล้วก็ก้มลงมองเสื้อยืดตัวโคร่งที่ถูกบังคับให้ใส่ ทำไมหมอนี่ใส่กางเกงขาห้าส่วนตัวเดียวได้ แต่เขาต้องใส่เสื้อคลุมด้วยล่ะเนี่ย! ไม่ยุติธรรมเลย!

มือเรียวขยับทำท่าจะถอดเสื้อตัวนั้นออก แต่กลับถูกยึดไว้

“จะถอดทำไมน่ะ?” แฮร์รี่ถามพลางขมวดคิ้ว เลยโดนตวัดค้อนไปอีกที

“ก็ฉันร้อน!” เสียงหวานบอกอย่างหงุดหงิด จะยื้อยุดมือออก “ปล่อยนะ ทีนายยังถอดเสื้อได้เลย” ว่าแล้วก็หลุดโวยวายออกมาจนได้ แต่ร่างสูงของคนตรงหน้ากลับไม่ยอมปล่อยตามใจเหมือนเช่นเคย

“แดดแรงนะ...เดี๋ยวไม่สบาย”

ชายหนุ่มผมดำพยายามประนีประนอมเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำหน้าบู้ “ฉันซ้อมควิดิชตากแดดตากลมบ่อยจนชินแล้วเลยไม่เป็นไรไง” มือเรียวยาวดึงเสื้อตัวใหญ่ลงมาจัดให้เข้าที่เข้าทาง ดวงตาสีเขียวมรกตมองไปยังอีกทางอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ทำให้กลุ่มนักเล่นวินเซิร์ฟที่กำลังจ้องมาที่ร่างบางรีบหลบตากันวูบวาบ

ไอ้เรื่องห่วงกลัวจะไม่สบายน่ะก็จริงอยู่ แต่ที่ให้ใส่เสื้อไว้เนี่ย...เป็นเพราะหวงมากกว่า ก็คนน่ารักของเขาช่างไม่ได้รู้ตัวเอาเสียเลยนี่นา ว่าใบหน้าเนียนกับผมสีบลอนด์นุ่มสลวยนั่นสะดุดตาขนาดไหน ยิ่งเรียวแขนบอบบางกับช่วงขาเพรียวขาวที่โผล่พ้นกางเกงขาสั้นลงไปยังข้อเท้าเล็กเปล่าเปลือย ยิ่งดึงดูดไอ้พวกเสือสิงห์กระทิงแรดแถวนี้เข้าไปใหญ่

แค่นี้เขาก็ต้องทำหน้าดุมาตั้งแต่เดินหัวหาดยันท้ายหาดแล้วนะ เห็นใจกันหน่อยเถอะ

“เฮอะ!” ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เข้าใจเจตนาของเขาจริงๆ นั่นแหละ ใบหน้าสวยยังคงบึ้งตึง ทำแก้มป่องนิดๆ แบบที่ทำให้รู้ว่าชักจะเริ่มงอนแล้วนะ แฮร์รี่เลยดึงร่างบางเข้ามาชิดพลางกระซิบเอาใจ

“ไว้กลับไปถึงวิลล่าแล้วค่อยถอดออกเถอะนะ” ชายหนุ่มผมดำเลื่อนมือมาแปะที่เอวบาง “...ถ้าอยู่ในห้อง จะไม่ใส่อะไรเลยทั้งวัน ฉันก็ไม่ว่าหรอกนะ”

ประโยคสุดท้ายทำเอาใบหน้าเรียวร้อนซู่ขึ้นมาทันควัน “บ้า!” มือเล็กทุบบ่าคนลามกไม่ดูกาลเทศะเสียงดังตุบ “พูดอะไรออกมา ไม่อายบ้างหรือไงห๊ะ?!”

แล้วเดรโกก็แทบจะอ้าปากค้างเมื่อร่างสูงก้มลงหอมแก้มฟอดเข้าให้เป็นคำตอบ

“แฮร์รี่!!!!!!!” ขนาดมีคนอื่นอยู่เต็มหาดยังกล้าทำแบบนี้ได้อีกเหรอเนี่ย! เจ้าคนหน้าไม่อาย! แล้วยังมายิ้มแบบไม่สนอีกนะ หนอย....

คนตัวเล็กผละเดินหนีลิ่วๆ แทบจะทันทีที่อีกฝ่ายยอมคลายอ้อมแขน

“เฮ้ เดรโก อย่าเดินเร็วนักสิ เพิ่งกินข้าวกลางวันมา เดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก”

เสียงทุ้มยังมีการมาเตือน แต่คนถูกเรียกไม่ยอมฟังเสียง ก้าวฉับๆ พร้อมกับตะโกนไล่หลัง

“ใครจะหน้าด้านหน้าทนได้แบบนายกันเล่า เจ้าบ้า!”

..........................................................................

แขนเรียวที่ถูกพันด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กยื่นออกไปข้างเมื่อเห็นเงาสีดำที่ปรากฏอยู่ริบๆ บนยอดไม้ ไม่นานนกฮูกเหยี่ยวสีดำตัวใหญ่ก็โผลงมาหา ไซ้จงอยปากลงกับแก้มใสเบาๆ อย่างรักใคร่

“ชู่ว! ฮอร์ก เบาๆ นะ” นิ้วเรียวข้างที่ว่างแตะริมฝีปากเป็นเชิงเตือนสัตว์เลี้ยง ก่อนจะเหลือบมองคนที่นอนหนุนตักตนเองอยู่ พอเห็นใบหน้าสีน้ำตาลอ่อนยังคงหลับพริ้มอยู่เหมือนเดิม เดรโกก็ค่อยลูบขนของเจ้านกฮูกอย่างเอาใจ “ไง เอาจดหมายมารึเปล่า”

ขาข้างที่ถูกผูกกับซองสีขาวสะอาดถูกยื่นมาให้เป็นคำตอบ ทำให้เจ้าของคลี่ยิ้มชม มือเล็กแกะจดหมายออกก่อนจะขยับพูดสั่งเบาๆ “เก่งมาก ไปพักในกรงที่วิลล่าก่อนนะ ฉันเตรียมน้ำกับอาหารอร่อยๆ ไว้ให้แล้ว” สะบัดแขนเพียงเล็กน้อย เงาสีดำก็บินหวือออกไป

ร่างบางกำลังจะเปิดจดหมายออกอ่าน อยู่ๆ ก็มีเสียงทักจากด้านล่าง “แม่นายเขียนมาว่าไงเหรอ?” คนที่คิดว่ากำลังหลับพลิกตัวนอนตะแคง เงยหน้าขึ้นมามอง

“ยังไม่ได้อ่านเลย จะรู้ได้ไง” ส่ายหน้าพร้อมกับบ่นในใจ...แสนรู้อีกนะว่าคนเขียนคือแม่เขา “ตื่นแล้วก็ลุกไปซะที หนักจะแย่” มือเรียวดันศีรษะของอีกฝ่ายออกเบาๆ แต่แขนยาวของคนด้านล่างกลับอ้อมมายึดเอวบางไว้แน่น

“ไม่เอา...กำลังสบายเลยนี่นา~”

ทำเสียงออดอ้อน แกล้งกดจมูกลงกับท้องนิ่มๆ จนเจ้าของตักสะดุ้งดุเสียงลั่น

“นี่! อย่ามาเล่นบ้าๆ นะ จะนอนก็นอนดีๆ ไม่งั้นก็ไม่ต้องนอน!” ขู่พร้อมกับเพิ่มแรงผลักมือ ชายหนุ่มผมดำเลยต้องรีบยอมแพ้

“โอเคๆ นอนดีๆ ก็ได้” ร่างสูงพลิกตัวกลับมานอนหงายมองฟ้าทำตาปริบๆ

เดรโกย่นจมูกใส่คนขี้แกล้งแล้วค่อยเปิดจดหมายออกอ่าน ใบหน้าสวยคลี่ยิ้มบ้าง ขมวดคิ้วทำหน้าบึ้งบ้าง ก่อนจะนิ่งอยู่ชั่วครู่ มือเรียววางจดหมายลงแล้วเงยหน้ามองดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าด้วยสายตาเหม่อๆ

“มีอะไรเหรอ?” แฮร์รี่ถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไปนาน

“ไม่มีอะไรหรอก” คนตัวเล็กส่ายหน้าเร็วๆ เก็บจดหมายเข้าซอง “นายจะกลับรึยัง?”

ดวงตาสีมรกตมองดูใบหน้าสวยที่มีเค้าซึมอยู่อึดใจ ก่อนจะพยักหน้า “อืม ไปเถอะ แสงจะหมดแล้ว
นี่เนอะ” ร่างสูงขยับลุกขึ้นมาก่อนจะยื่นมือไปดึงเจ้าของตักอุ่นเมื่อครู่ให้ลุกตาม “กลับวิลล่าไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยไปหาข้าวเย็นกินแล้วกันนะ” ชายหนุ่มผมดำเอ่ยชวน

“ก็ได้” อีกฝ่ายพยักหน้าแล้วเดินเคียงกันกลับที่พัก


ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้วทำให้ทั่วบริเวณวิลล่าดูสลัวลง มีเพียงแสงจากตัวกระท่อมและตะเกียงเจ้าพายุที่แขวนไว้ริมระเบียงทางเดินเป็นระยะๆ ซึ่งที่จริงก็ไม่จำเป็นนัก เพราะที่นี่วางระบบสายไฟใต้ทะเล ดังนั้นทุกวิลล่าจึงมีไฟฟ้าใช้ แต่คนที่มาพักส่วนใหญ่ก็เลือกจะให้จุดตะเกียงแบบพื้นเมือง เพราะมันให้บรรยากาศดีกว่ามากนั่นเอง

เดรโกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเดินออกจากห้องน้ำแล้วเห็นโต๊ะดินเนอร์ถูกจัดไว้ที่ชานระเบียง ปกติพวกเขาจะไปทานอาหารกันที่ร้านอาหารในโรงแรมซึ่งอยู่ริมชายหาด แต่วันนี้คนที่ขออาบน้ำก่อนแถมบอกว่ามีธุระต้องจัดการ กลับกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่เหนือโต๊ะ

“ทำอะไรน่ะ?” ร่างบางเอี้ยวตัวผ่านหลังไปมอง “หือ?” ใบหน้าสวยเลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังง่วนอยู่ “นายจะจัดจานอาหารทำไม?” ปกติอาหารจากครัวของโรงแรมก็จัดมาเรียบร้อยแล้วนี่นา

คนถูกถามไม่ตอบ แต่กลับบิขนมปังอบชิ้นเล็กๆ ใช้ช้อนตักสลัดในชามใส่ก่อนมายื่นป้อนให้ “เอ้า”

“อะไรเนี่ย?” เดรโกเหล่มองอย่างไม่ไว้ใจอยู่ชั่วครู่ แต่เห็นว่ามันน่ากินดีเหมือนกันเลยยอมอ้าปากรับ

“อร่อยไหม?” ชายหนุ่มผมดำถามยิ้มๆ

คนชิมเคี้ยวช้าๆ อย่างพยายามพิจารณา “อือ...ก็พอใช้ได้” พูดไปอย่างนั้น แต่ความจริงแล้วมันอร่อยมากเลยแหละ แปลกแฮะ ปกติเชฟที่นี่ชอบทำอาหารรสจัดนี่นา ตัวเขาเองน่ะติดหวานเสียมากกว่า กินอาหารพื้นเมืองทีไรต้องเรียกหาน้ำตาลมาเติมทุกที

“ดีจัง” ใบหน้าสีน้ำตาลอ่อนคลี่ยิ้มกว้าง “ที่จริงไม่ค่อยคุ้นกับเครื่องปรุงของที่นี่เท่าไหร่ กลัวว่านายจะไม่ชอบนะเนี่ย” มือเรียวยาวจัดการเทสลัดในชามใส่จานด้วยท่าทางทะมัดทะแมง ขณะที่เดรโกทำหน้างงอยู่ชั่วครู่

“นี่นายทำเองเหรอ?” ไม่ยักรู้แฮะว่าเจ้านี่ทำอาหารเป็นกะเขาด้วย

อีกฝ่ายเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนที่ขอยืมมาจากห้องครัวของโรงแรมพร้อมกับตอบยิ้มๆ เหมือนรู้ใจ

“ก็ตอนอยู่กับพวกเดอร์สลีย์...ญาติมักเกิ้ลของฉันน่ะ ฉันเป็นคนทำครัวนี่นา” ถึงจะถูกบังคับก็เถอะ แต่ว่าพอทำๆ ไปมันก็ชินไปเอง แล้วก็รู้สึกสนุกขึ้นมาด้วย ยิ่งพอออกมาอยู่คนเดียวที่บ้านเลขที่ 12 เขาเลยไม่จำเป็นต้องพึ่งอาหารสำเร็จรูปสักมื้อ

“เอาล่ะ อาหารพร้อมแล้ว” ชายหนุ่มผมดำดึงร่างบางมานั่งที่เก้าอี้ก่อนที่ตนเองจะทรุดนั่งตรงข้ามกัน ท่าทางกระตือรือร้นนั้นทำให้คนตัวเล็กยิ้มขำ หยิบส้อมมาตักสลัดเข้าปากก่อนจะแกล้งพูดขู่ยิ้มๆ

“ดีล่ะ ในเมื่อนายทำอาหารได้ ต่อไปนายต้องเป็นคนทำกับข้าว”

แฮร์รี่มองอีกฝ่ายที่กลับมาร่าเริงอีกครั้งแล้วก็คลี่ยิ้ม พยักหน้าตอบรับคำสั่งโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด

“ได้เลย” ให้ทำอาหารให้นายกินน่ะ จะทำให้ตลอดชีวิตเลยก็ได้



หลังดินเนอร์มื้อเล็กๆ นั้นเสร็จสิ้น ชายหนุ่มผมดำก็โทรบอกที่ฟรอนท์ให้มายกจานชามกับอุปกรณ์ไปคืนที่ห้องครัว ก่อนจะขอตัวไปล้างไม้ล้างมือเสียหน่อย เดรโกถึงได้มีเวลาอยู่คนเดียวเงียบๆ ชั่วครู่

ร่างบางยืนเท้าแขนอยู่ริมระเบียงที่เดียวกับเมื่อเช้า แต่ผืนฟ้ายามนี้กลับเป็นสีดำสนิท แต่งแต้มด้วยดวงดาวนับพันนับหมื่นให้ความงามอีกแบบหนึ่ง ดวงตาสีฟ้าเหม่อมองไปไกล ลมเย็นพัดเข้ามาทำให้รู้สึกเย็นจนเกือบจะต้องยกมือกอดอก แต่แขนยาวของใครอีกคนกลับอ้อมมาโอบกอดจากด้านหลังพร้อมกับวางคางเกยกับไหล่เขา

“หนาวเหรอ?” เสียงทุ้มถามเบาๆ แต่ชายหนุ่มผมบลอนด์เพียงแต่หันไปบอกสั้นๆ “นิดหน่อยน่ะ” พูดแล้วก็หันไปมองดูดาวต่อ

“พ่อนายยังไม่หายโกรธล่ะสิ?” ไม่ต้องอ่านตัวจดหมาย ดูจากท่าทางของร่างบางที่ซึมไปก็พอจะเดาได้

เดรโกพยักหน้า นี่แหละที่ทำให้กังวลปนเซ็งนิดๆ มาจนถึงตอนนี้ “เฮ้อ...” ร่างบางถอนใจออกมาดัง
เฮือกใหญ่ ใบหน้าสวยขมวดคิ้วครุ่นคิด แม่เขาน่ะตามใจเขาทุกเรื่องมาตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่ว่าเขาจะเลือกอะไรทำอะไรก็ไม่เคย ส่วนพ่อก็ไม่ค่อยอยากจะเถียงกับแม่ เลยพลอยไม่ว่าอะไรไปด้วย มาเรื่องนี้แหละที่ค้านหัวชนฝา ยังไงก็ไม่ยอมรับท่าเดียว แถมยังต้องป้อมซะจนบรรยากาศในบ้านมาคุ

...ถ้าการมาเที่ยวครั้งนี้จะไม่สนุกเต็มที่ ก็เพราะเขาต้องมัวห่วงแม่ที่อยู่โยงเฝ้าบ้านคอยอยู่เอาใจคนแก่ขี้หงุดหงิดคนนั้นนั่นแหละ

“...ไม่รู้ทำไมถึงดื้อนักนะ” เสียงหวานบ่นงึมงำ

“นั่นสิ...” แฮร์รี่พยักหน้าอย่างเข้าใจ หวนนึกถึงตอนที่ต้องบุกเดี่ยวไปคฤหาสน์มัลฟอยแล้วก็ทั้งขำทั้งฉุน เขาถูกทิ้งให้อยู่หน้าประตูอยู่เป็นวัน โดยที่เจ้าบ้านแทบจะไม่คิดจะโผล่หน้ามาดูด้วยซ้ำ ขนาดลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทั้งขอร้อง ทั้งอ้อน ทั้งขู่สารพัด ก็ยังไม่ยอมละทิฐิ จนชายหนุ่มผมดำแทบจะพาคนตรงหน้าหนีเสียให้รู้แล้วรู้รอด

“ยิ้มอะไรน่ะ” คนตัวเล็กกว่าหันมาเห็นสีหน้าก็เลยขมวดคิ้ว

ฝ่ายที่ถูกถามส่ายหน้าไม่ยอมตอบ มือยาวกลับโอบเอวคอดเข้ามาหา ซุกหน้ากับผมหอมๆ ก่อนจะพูดล้อ

“คนแก่น่ะโกรธไม่นานหรอก พอมีหลานไปให้อุ้ม ขี้คร้านจะเห่อจนลืม”

ใบหน้าสวยงงไปชั่วครู่ พอทำความเข้าใจ แก้มก็ร้อนซู่ขึ้นมาทันควัน “จะบ้าเรอะ! ฉันเป็นผู้ชาย นายก็เป็นผู้ชาย จะมีหลานให้อุ้มได้ยังไ...”

ยังไม่ทันจบประโยคก็ต้องอ้าปากค้าง เมื่อร่างสูงตวัดร่างเขาขึ้นจนตัวลอยจากพื้น แขนยาวรัดไว้แน่นอย่างไม่ยอมให้ผละหนี เสียงพูดกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

“แสดงว่านายยังศึกษาเวทมนต์มาไม่พอสินะ งั้น...เดี๋ยวฉันอธิบายให้ฟังแล้วกัน”

แล้วชายหนุ่มผมดำอุ้มคนตัวเล็กที่กำลังโวยวายหน้าแดงก่ำกลับเข้าไปในห้อง ท่ามกลางเสียงคลื่นจากผืนทะเลเบื้องนอกที่ยังดังแว่วๆ ไปจนตลอดคืน


**TALK**

NaO

พระเจ้า...ฟิกตามแรงบันดาลใจชั่วแล่นอีกแล้ว ฟังเพลง Honeymoon ของวง Flure แล้วกรี๊ดกร๊าด พล็อตหลั่งไหล แต่เขียนไปสักพักเกิดแหม่งๆ ขึ้นมา “เอ๊ะ นี่มันฟิกแฮร์รี่แน่เร้อ” ต้องเรียกให้ไอ้ชามาอ่าน ไอ้ชาก็ฟันธงทันควัน “นี่มันทักกี้-ซึบาสะนี่นา” สงสัยเพราะเพิ่งดู PV Venus มาแหงเลยติดภาพ เหอๆ ต้องมานั่งแก้อีก

งานไม่เยอะ แต่ช่วงนี้ขี้เกียจอย่างแรงอ่ะ เฮ้อเฮอ


Acacha (Co.-like usual) ^^”----:

เหนื่อยเหลือเกินนน แต่ก็ยังโดนใช้แรงงานต่อไป เรื่องนี้ฟิคเจอาร์มากๆ บอกเค้าแล้วนะ แต่ก็....
///เพลง Attack (30 seconds to Mars) เพิ่งไปเจอ^^” เฮฟา....แบบว่า.... หุหุหุ////


ของแถมทิ้งท้าย

ในหน้า Word บนจอคอม ณ คืนวันหนึ่ง


ถึงอคาชา

เฮ้ย เขียนต่อทีเด๊ะ เขียนๆ ไปแล้วมันยังไงไม่รู้ว่ะ ที่จริงอยากให้แฮร์รี่มันดูเด็กกว่าตอนมีลูกแล้วน่ะ แต่รู้สึกเหมือนเขียนออกมาแล้วเป็นเฮียกี้ 555+ ทำไมวะ ช่วงนี้ไม่ได้อ่านฟิกเจอาร์สักหน่อย

ปวดบ่าๆ ฟร้อยยยย พอเครียดแล้วเขียนไม่ออกจริงๆ นะเนี่ย




ถึงนะโอ
เรื่องการเขียน บอกได้ทันทีว่าเหมือนฟิคของบีบีทีมมาก ไม่จำเป็นต้องใส่คำพูดแทรกลงไป หรือพูดง่ายๆ ก็คือ การเขียนแบบ subjective ขนาดนั้นก็ได้นะ โดยเฉพาะการใช้คำแบบที่เราไม่เคยใช้ จั๊กจี้พิลึกว่ะ

เรื่องคำ เหมือนเดิม เห็นได้ชัดว่าได้รับอิทธิพลจาก opiumสุดๆ

บุคลิคตัวละคร ทำได้โอเคแล้ว เดรโก ค่อนข้างดี แต่ที่ยังมีจิ๊กๆอยู่หน่อย คือ แฮร์รี่ ---- เลี่ยนอิ๊บอ๋าย---- เอ๊ย ไม่ต้องให้มันหวังแตะโน่นจูบนี่บ่อยนักก็ได้ หลายฉากเลย เหมือนฟิคเจอาร์ แต่ก็ไม่ได้ขัดอะไรมาก มีแค่ อย่าให้มันทำไรเลี่ยนๆ บ่อยนักก็ได้

ส่วนเรื่องที่จะให้เขียนต่อ ....แสบตาแล้วว่ะ มองไม่ไหว ง่วงด้วย ถ้าจะให้เขียนต่อ ไว้พรุ่งนี้ วันอังคาร-พุธจะว่างของจริง บ๋าย บาย

: อคาชา




Create Date : 18 มกราคม 2549
Last Update : 18 มกราคม 2549 13:27:19 น.
Counter : 1189 Pageviews.

1 comments
  
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 18 มกราคม 2549 เวลา:13:56:31 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นะโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]