"ทะเลดาวในใจ" โดย ฌามิวอาห์




นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ได้อ้างอิงกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่มีผลประโยชน์ต่อหนังสือเล่มนี้




“ทะเลดาวในใจ” โดย ฌามิวอาห์


เรื่องนี้ ถือเป็นตอนแรก ก่อนที่ “ริยาห...พายุทราย สายลมรัก” จะเริ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย บางเหตุการณ์ ก็คาบเกี่ยวกันด้วยซ้ำไป

เรื่องนี้อ่านไปพอสมควร ทำให้ต้องไปหยิบเช่ามาอ่านอีกรอบ ทวนอีกซะ เกือบๆ รอบ (ก็อ่านไม่หมดนี่นา) เพื่อมาเขียนบล็อคเนี่ยแหละ ชอบอ่ะ นิยาย ที่มีเรื่องต่อๆ กัน มันดูคุ้นเคยกะตัวละครดี

เรื่องนี้ ออกจะอ่อนกว่า ไม่รู้ว่า เพราะเป็นเรื่องแรกของผู้แต่งหรือเปล่า เพราะเท่าที่อ่านจากบทแนะนำจาก บก. เห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก

บุคลิกตัวละครดูขัดแย้งในบางเรื่อง อย่างเจ้าชายโมราฟ เป็นนักการทูต แต่ก็เป็นผู้บัญชาการเงาแห่งกองทัพทะเลทรายที่ดุ และเข้มงวด ในขณะเดียวกัน ก็มีความเป็นเด็ก เพราะอยากกลั่นแกล้งนางเอก ที่เป็นน้องสาวของนที ผู้ที่ได้น้องสาว (นอกไส้) ของเจ้าชายไปเป็นคู่ครอง

แต่อาจจะไม่แปลก สำหรับนิยายแฟนตาซีเช่นนี้ อ่านไปยิ้มไปได้ แต่ความสนุกของเรื่องราว ในความคิดของเลขาฯ คงไม่เท่าเรื่อง ริยาหฯ

สองเรื่องนี้ มีกันท้าวความกันถึงเล็กๆ ลักษณะที่หยิบยกมาทั้งย่อหน้า มันออกจะแปร่งๆ แทนที่จะเขียนบรรยายในความนึกคิดของตัวเอกแต่ละคน ให้อยู่ในความคิดของตัวเอง ให้ผู้อ่านได้คาดเดาได้ว่า เป็นเหตุการณ์ตอนไหน ดูท่าจะดีกว่า

ตอนนี้ กำลังหยิบอ่านอีกเรื่องของคุณฌามิวอาห์มาอ่าน จริงๆ ก็เคยอ่านเรื่องอื่นมาแล้ว แต่ว่า นานเสียจนให้เขียนบทวิพากย์แบบนี้ คงจะยาก เพราะเลือนๆ ไปเสียแล้ว

พออ่าน 2 เรื่องนี้แล้ว คงต้องไปหยิบ โกบี ไม่ก็ ฟ้าจรดทรายมาอ่านอีกสักรอบ (รอบที่เท่าไร แล้วก็ไม่รู้) แต่เรื่องหลังเสียดายมาก เพื่อนยืมหาย ยืมหาย ต้องควักตังค์ซื้อเพื่อเก็บไว้อีกทีละ คราวนี้ ต้องทำ log book บันทึกช่วยจำเรื่องหยิบยืม เพราะหนังเอย ซีรี่ส์เอย ยืมหาย ลืมหายเสียหลายเรื่องแล้ว




ตัวละคร

เจ้าชายโมราฟ ซามิล อัลอัสซาร์
น้ำ มารีน
นที
เกล อลิญ่า
อาลี
ไมเคิล
เจ้าชายไมเร็ต โซซาร์ อัลวาลฮิม
คุรุฮัสซัน





คำโปรยหนังสือ

เมื่อน้องสาวสุดที่รักละทิ้งฐานันดรเพื่อความรัก จึงกลายเป็นการจุดเพลิงโทสะให้แก่เจ้าชายโมราฟ ซามิล อัลอัสซาร์ ให้ทวงคืนในสิ่งที่มีค่าทัดเทียมกัน!!!

หากพอเวลาผ่านไป... เมื่อได้รู้ถึงอัธยาศัยที่แท้จริงของสตรีผู้นั้น ‘มารีน’ ความผูกพันจึงถักทอก่อเกิดบนผืนทะเลทรายสีทอง ท่ามกลางทะเลดาว...

ทว่าเมื่อหนึ่งคือฟ้า อีกหนึ่งคือดิน และทั้งสองก็ดูห่างไกลกันเหลือเกิน ความรักจึงดูเหมือนไม่มีทางจะเป็นไปได้ หากคำพูดที่ว่า ‘เมื่อเจ้าได้พบคนที่หัวใจเจ้าบอกว่าใช่ เจ้าจะไม่สนใจอีกเลยว่าเลือดของเขาเป็นสีอะไร’ นั่นคือสิ่งย้ำเตือน ฟ้าและดินจะต้องทำเช่นไร จึงจะเชื่อมระยะทางอันแสนไกลนั้นมาบรรจบพบกัน



เครดิต : รูปภาพปกหนังสือจาก //www.jamsai.com



Create Date : 07 กรกฎาคม 2551
Last Update : 7 กรกฎาคม 2551 20:23:55 น.
Counter : 718 Pageviews.

1 comment
"ริยาห...พายุทราย สายลมรัก" โดย ฌามิวอาห์




นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ได้อ้างอิงกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่มีผลประโยชน์ต่อหนังสือเล่มนี้




“ริยาห...พายุทราย สายลมรัก” โดย ฌามิวอาห์


เรื่องนี้ หากถือว่า เป็นภาคต่อของ “ทะเลดาวในใจ” ก็คงได้ หากใครได้อ่านไปแล้ว แต่สำหรับการนำมาเอ่ยถึงในครั้งนี้ กลับลงเรื่องนี้ก่อนเพราะว่า กำลังอ่านอยู่พอดี

เลขาฯ เป็นคนที่ชอบหนังสือ หรือเรื่องราวประเภทนี้อยู่แล้ว พวกเจ้าชาย เจ้าหญิง ดินแดนอารยะ อย่างดินแดนตะวันออกกลาง หรือทะเลทราย จะเห็นได้จากหนังสือเล่มโปรด “โกบี” ของ โสภาค สุวรรณ ที่เมื่อนึกถึงนวนิยายเล่มโปรด จะต้องนึกถึงโกบีเป็นอันดับแรก

เรื่องราวของดินแดนทะเลทราย ไม่ว่าจะส่วนใด มันมีมนต์เสน่ห์สำหรับเลขาฯ เกือบทุกเรื่องไป และเรื่องนี้ก็เช่นกัน เรื่องราวของเจ้าชายรัชทายาทไมเร็ต คู่ปรับเจ้าชายโมราฟ จากทะเลดาวในใจ คิดว่าหลายๆ คนคงอ่านไปแล้ว เพราะออกมาแล้วนานพอควร แต่เลขาฯ เพิ่งจะไปหยิบมาอ่าน

ต้องยอมรับว่า ฌามิวอาห์ แต่งเรื่องแนวนี้ได้ค่อนข้างดี แม้จะไม่ได้ลงลึกด้านวัฒนธรรมของดินแดนเหล่านี้มากนัก แต่ก็มีการค้นคว้าเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในโลกใส่ไปได้ดี และเรื่องราวแม้จะไม่ต่างไปจากเดิมนัก แต่การดำเนินเรื่องดี มีตัวละครที่เข้ามาแทรกหรือปูเรื่องได้อย่างดี รวมไปถึงการดำเนินเรื่องราวหลักระหว่างพระนาง ความสัมพันธ์ของคนสองคน และการนำความเชื่อของคนในดินแดนบริเวณนี้ มาผูกเรื่อง ก่อให้เกิดเรื่องราวความรักต่างชนชาติและชนชั้นของพระเอก และนางเอก

เรื่องนี้ให้แง่คิดในเรื่องของความรัก ความห่วงใย ในการคิดถึงใจเขาใจเรา มากกว่า ที่จะยึดกับความเชื่อเดิมๆ ที่เป็นเพียงสิ่งที่คิดและเชื่อกันมาเท่านั้น

เรื่องราวจบอย่าง happy ending ซึ่งอ่านแล้วก็ยิ้มมีความสุข ในเวลาเครียดๆ



ตัวละคร

เจ้าชายไมเร็ต โซซาร์ อัลวาลฮิม
อมิเกล
เจ้าชายโมราฟ ซามิล อัลอัสซาร์
พระราชาธิบดีฮาม
พระรานีมุนา
จามาล
บาฮา
อาเดล
คาร์มีซ
คุรุอัคบาร์





คำโปรยหนังสือ

‘เจ้าชายไมเร็ต โซซาร์ อัลวาลฮิม’ เจ้าชายรัชทายาทแห่งไอฮาร่า ผู้ครอบครองพระสมัญญาตรงตามพระอุปนิสัย ‘ริยาห...เจ้าแห่งสายลม’ ท่ามกลางแสงตะวันร้อนแรงแผดเผา เหนือผืนทรายแห่งดินแดนพระแม่สีทอง สายลมจะพัดรุนแรงไร้ทิศทางดุจพายุลูกใหญ่อยู่เสมอ ไม่มีผู้ใดแม้ยิ่งใหญ่เพียงไหนหาญกล้าเข้าหยุดยั้ง

หากแล้ววันหนึ่ง ดวงใจแห่งสายลมก็ปรากฏขึ้นตามคำทำนายของโองการแห่งดวงดาว แต่ใครจะสามารถยับยั้งความรุนแรง ณ ใจกลางของพายุได้ จะมีวันที่สายลมอ่อนโยนจนพัดผ่านกระซิบแผ่วถึงความรักอ่อนหวานให้ดวงใจ ซึ่งเหนื่อยล้าหลงทางมานานแสนนานได้สัมผัสถึงตัวตนที่แท้จริงบ้างหรือไม่ ชาติกำเนิดที่หนึ่งถูกบิดเบือน อีกหนึ่งก่อให้เกิดความเคียดแค้นชิงชังฝังลึกยาวนาน จะสามารถคลี่คลายได้หรือเมื่อตกอยู่ท่ามกลางวังวนของความทะนง ในความเข้มข้นของสายเลือดสีน้ำเงิน

... ฤๅความรักจะสามารถนำทาง...ดวงใจของริยาหแห่งไอฮาร่า... ดวงใจแห่งสายลม...



เครดิต : รูปภาพปกหนังสือจาก //www.jamsai.com



Create Date : 03 กรกฎาคม 2551
Last Update : 3 กรกฎาคม 2551 21:18:31 น.
Counter : 470 Pageviews.

1 comment
"โอบลมห่มรัก" โดย พิชญา




นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่มีส่วนได้หรือเสียใดๆ ทั้งสิ้น

กรุณาอย่านำไปตัดสินใจใดๆ ค่ะ




“โอบลมห่มรัก” โดย พิชญา


เรื่องราวของคน 2 คนที่บังเอิ๊น บังเอิญเพิ่งอกหักมาเหมือนๆ กัน คนนึงลุกขึ้นได้ เพราะสภาพแวดล้อมที่เติบโตมาในสภาพพึ่งพาตัวเอง กับอีกหนึ่งสาว ที่คบกันมาเป็นสิบปี แต่อีกฝ่ายกลับคิดก้าวกระโดดไปหาสาวที่รวยกว่า หวังเป็นหนูตกถังข้าวสาร เธอเศร้ายาวนาน เพราะว่าเธอยอมเขาทุกอย่าง (แต่ยังไม่ยอมให้ร่างกาย) ยอมเลิกคบเพื่อน ยอมเปลี่ยนตัวเอง ทำในสิ่งไม่ชอบ แม้แต่บ้านที่ร่วมกันกู้เงินเพื่อมาซื้อบ้าน หวังเป็นเรือนหอในอนาคต ทำให้เธอหนีไปไกลถึงเพิร์ธ เมืองๆ นึงในออสเตรเลียทีเงียบเหงา

การิมพบฟ้าใสเพราะบังเอิญได้ยินว่าพูดเป็นภาษาไทยกับเพื่อนของเธอ ลินลา ด้วยขณะนั้น เขาต้องการคนไทยช่วยเหลือเขาในการอ่านภาษาไทย เพราะเขาอ่านไม่ออก เพียงแต่พูดได้ ตามประสาคนไทยที่โตในต่างแดน เขาไม่รู้ว่า ทำไมถึงได้ไว้ใจ 2 คนนี้ให้มาช่วย ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องราวส่วนตัว แต่ก็มีบางอย่างที่เขาแน่ใจ อาจเป็น พรหมลิขิต ก็ได้

แล้วเขาและเธอก็ได้พบความยุ่งยาก ปริศนาที่ถูกไขว่าทำไมแม่ของเขา ไม่ยอมติดต่อญาติทางเมืองไทย ทั่งๆ ทีมีตัวตน และออกเป็นตระกูลใกญ่เสียด้วย ไหนจะเรื่องราวของมรดกที่คุณตายกให้เขาอีก ในฐานะที่เป็นลูกชายของพิมพา บุตรสาวคนที่ 2 ที่ร่วมก่อตั้งบริษัทจวบจนมั่นคงจนทุกวันนี้

ฟ้าใส ยินยอมติดตามกลับมาเมืองไทย เพื่อหวังจะทำธุระของตนกับแฟนเก่าให้สิ้นเรื่องสิ้นราว แต่ระหว่างนั้น กลับได้รับความอ่อนโยน การเอาใจใส่ ความจริงใจที่การิมมอบให้ อีกทั้งเธอยังต้องไปพัวพันกับญาติๆ ของเขา เพียงเพราะแฟนเก่าของเธอต้องแต่งงานกับหลานสาวญาติของเขา

สำนวนการเขียนยังอ่อนเรื่องการบรรยายยังขาดในรายละเอียด การใช้ฉากหลังเป็นต่างประเทศ ควรจะบรรยายให้ผู้อ่านได้มากกว่านี้ หรือไม่รู้ว่า เลขาฯ ติดกับงานเขียนของนักเขียนนวนิยายรุ่นเก่าๆ หรือไม่ ที่มักบรรยายจนเราเห็นภาพและเข้าใจความเป็นมาของเรื่องได้ดี
ปมเรื่องอ่อนไปนิดนึง แต่ก็ถือว่ายังมีประเด็นน่าติดตาม ถ้าพัฒนาความซับซ้อนอีกหน่อย น่าจะชวนอ่านมากกว่านี้ค่ะ


ตัวละคร

ฟ้าใส
คาร์ล การิม
ลินลา
สุชานารถ
พิมอร
จรินยา
อนุวัฒน์
พลพจน์
คุณยายอรทัย


คำโปรยหนังสือ

อุตส่าห์หนีข้ามน้ำข้ามทะเลมาเสียไกล หวังว่าไอ้บาดแผลแย่ๆ ในหัวใจจะดีขึ้นได้บ้าง แต่กลับมีเรื่องยุ่งมาให้ปวดหัวเพิ่มขึ้นเสียนี่ เพราะอยู่ดีๆ ก็มีผู้ชายที่ไม่รู้จักมักจี่มาเสนองานประหลาดให้ แล้วฉันจะไว้ใจได้ไงล่ะ... เรายังไม่รู้จักกันสักหน่อย

ในที่สุด สวรรค์ก็ส่งคนมาช่วยผมได้ทันเวลาพอดิบพอดี เพราะกำลังปวดหัวได้ที่กับการสะสางปมปัญหาแสนลึกลับ แล้วยัยหน้าอมทุกข์เหมือนคนอกหักนี่ดูท่าจะเข้าใจอะไรผิดซะล่ะมั้ง ถึงได้ทำท่าแขยงเหมือนผมจะเข้าไปจีบ แค่จะให้ช่วยงานหรอกน่า อย่าหวังเลยว่าจะเข้ามายุ่มย่ามในหัวใจผมได้

เอ...แล้วจู่ๆ สายลมที่ไหนก็ไม่รู้ดันพัดเปลี่ยนทิศ พัดให้หัวใจสองคนไกลที่มาใกล้ชิด...ผูกติดกันโดยไม่รู้ตัว



เครดิต : รูปภาพปกหนังสือจาก //www.jamsai.com





Create Date : 27 เมษายน 2551
Last Update : 27 เมษายน 2551 22:42:39 น.
Counter : 526 Pageviews.

0 comment
"ฟ้ากลางใจ" โดย ปราณธร




นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่มีส่วนได้หรือเสียใดๆ ทั้งสิ้น

กรุณาอย่านำไปตัดสินใจใดๆ ค่ะ




“ฟ้ากลางใจ” โดย ปราณธร


หยุดยาวๆ แบบนี้ ได้อ่านนวนิยายรุ่นใหม่ หลายเล่มเลย จะค่อยทยอยๆ มารีวิวละกันนะคะ เหอๆๆๆ ไม่รู้ว่าจะลืมหรือป่าว กร๊ากกกกก

สำหรับงานเขียนของคุณปราณธร เรื่องนี้ รู้สึกว่าจะเป็นเรื่องที่ 2 แล้วที่ได้หยิบมาอ่าน เรื่องแรกจำไม่ได้แล้วว่าอ่านเรื่องอะไร ต้องค่อยๆ ทยอยย้อนระลึกไป (เหมือนคนแก่เลยเนอะ)

เรื่องนี้เรื่องราวเน้นถึงความรักที่บริสุทธิ์ของหญิงสาวคนหนึ่งที่ยังเยาว์นัก แต่มั่นคง และสัตย์ซื่อต่อความมุ่งมั่นของตัวเอง กับความรักและสัญญาที่ชายหนุ่มคนหนึ่งยึดมั่นมาเป็นสิบๆ ปี ทั้งๆ ที่มีคนรักมาหลายคน แต่ด้วยความที่ยังหนักแน่นกับรักเก่าครั้งเยาว์วัย ที่ทำให้ชีวิตที่ลำบากและยากเข็ญของเขา มีมุมมองที่อ่อนโยน และไม่กลายเป็นคนแข็งกร้าว

เรื่องนี้นอกจากความรักที่มั่นคงแล้ว ยังมีเรื่องความเชื่อมั่นต่อคนที่เรารักและความไว้ใจด้วย

สำนวนการเขียนถือว่าโอเคสำหรับนักเขียนรุ่นใหม่ๆ ที่ไม่ค่อยชอบเน้นการพรรณนา หรือการบรรยาย ซึ่งการบรรยายภาพหรือฉากหลังของเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ค่อยชัดเจนนัก บางจุดบางตอนของเรื่องยังอ่อนเหตุและผลไปบ้าง แต่ก็ถือว่าไม่น่าเกลียดนัก

ตัวละครหลักไม่มากนัก เหมาะกับขนาดของหนังสือ ทำให้เรื่องไม่ซับซ้อนเกินกว่าขนาดของเรื่อง


ตัวละคร

ฟ้า - นีรัมพร
นายหัวกนธี
ปรานต์
อ้อย - ผานิต
ปลัดอาทร
เขต



คำโปรยหนังสือ

คนอย่างนายหัวกนธี หากรักใครแล้วไม่มีวันที่จะเปลี่ยนใจง่ายๆ เพราะในหัวใจของเขา มีชื่อของคนคนหนึ่งปักลึกตรงกลางอย่างแน่นหนา ถึงจะกล้ามโตแรงเยอะขนาดไหน จะดึงจะถอนให้ตายยังไงก็ไม่สำเร็จ แต่ใครจะรู้ว่ามันไม่ได้ตรึงแน่นไว้อย่างที่คิด เมื่อสาวน้อยคนหนึ่งแค่เข้ามาสะกิด ชื่อที่ปักแน่นกลับโยกไหวได้โดยง่าย แย่แล้ว! หนักแน่นเข้าไว้ กนธี!!

ถ้าไม่ใช่เพราะอดีตแฟนตัวดีที่มีเจ้าของอยู่แล้วมาหลอกว่ายังโสด... นีรัมพรคงไม่ต้องซึมเศร้าจนใครๆ คิดว่าเธอตั้งใจจะฆ่าตัวตายแบบนี้หรอก และเพราะความเข้าใจผิดนี่แหละ ที่ทำให้เธอได้พบกับนายหัวจอมขรึม คนที่ดูยังไง้ยังไงก็แสนจะเย็นชาราวกับคนไม่มีหัวใจ แต่เมื่อได้อยู่ใกล้เขา เธอก็เริ่มเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากเยือกเย็น ซึ่งมันทำให้หัวใจเธอกระตุกไม่เป็นจังหวะ แล้วจะทำยังไงดีล่ะ ในเมื่อเธอรู้ดีว่าเขาไม่เคยเปิดหัวใจให้ใครสักคน



เครดิต : รูปภาพปกหนังสือจาก //www.jamsai.com



Create Date : 16 เมษายน 2551
Last Update : 16 เมษายน 2551 15:41:37 น.
Counter : 433 Pageviews.

0 comment
"ณ ที่แห่งรัก" โดย ปัญญ์ปรียา




นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่มีส่วนได้หรือเสียใดๆ ทั้งสิ้น




“ณ ที่แห่งรัก” โดย ปัญญ์ปรียา


ได้มีโอกาสหยิบงานของ “ปัญญ์ปรียา” มาอ่านอีกเรื่องแล้ว แล้วก็ยังคงรู้สึกหวาน ถึงการบอกรัก ที่โรแมนติกอีกรูปแบบ เพราะเรื่องนี้ สื่อตั้งแต่แรกถึงอาหาร จีงให้บ้านของนางเอก นุกนิก สาวชื่อแปลก มองโลกในแง่ดี ที่เป็นอีกแง่มุม ที่ใครๆ ไม่ค่อยคิดถึง เป็นร้านอาหาร โดยที่นางเอกของเรา ทำอาหารไม่เป็นเลย ผิดกับพระเอกของเรา ที่มีมาด มีฟอร์ม เป็นครีเอทีฟรายการวิทยุ ที่ดูเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ ที่ยังตามหารักแท้ แต่กลับทำอาหารเป็น จัดการงานบ้านงานเรือนได้ดี ทั้งนี้ เพราะต้องพี่ชายคนโต และต้องรับผิดชอบน้องชายที่มีอารมณ์อ่อนไหวเช่นเดียวกัน

เรื่องนี้ต้องการสื่อให้เห็นว่า การมองคน ไม่ควรมองกันแค่เปลือกนอก แต่ต้องมองกันถึงข้างใน เพราะเปลือกนอก ก็แค่สิ่งที่ฉาบเอาไว้ เอ๊ะ คล้ายๆ อีกเรื่องที่เลขาฯ เพิ่งอ่านจบไปเลย แต่ยังไม่ได้นำมารีวิวกัน อิอิ หยุดยาวคราวนี้ ได้อ่านหนังสือไปหลายเล่มเลย เพราะไม่ได้ไปไหน ไม่อยากไป ร้อน อยากอยู่กับบ้าน ที่สำคัญ ได้อยู่เป็นเพื่อนแม่ด้วย

เรื่องนี้ นางเอกนุกนิกของเรา หลงรักพระเอก เพราะมุมมองที่มองใครไม่เหมือนใครของเธอนั่นเอง แม้จุดเริ่มต้นที่ได้เจอกันของสองพระนาง จะไม่โสภานัก แต่ทั้งสองกลับได้เห็นมุมที่แตกต่างจากคนอื่นๆ เพราะแมวเหมียวกำพร้าสองตัว ที่บังเอิญพลัดหลงมาที่บ้านนางเอก และหมาของบ้านพระเอกเป็นแม่ที่เพิ่งเสียลูกไป ทำให้ยังมีน้ำนม แต่ไม่มีลูกให้ดื่ม และเหตุที่นางเอก มองโลกในแง่ดี แต่แตกต่าง จึงเลือก พุดดิ้ง หมาพุดเดิ้ลของพระเอก เป็นแม่นมให้ลูกแมวเหมียวของเธอ

อัย พระเอกของเรา เลยได้เห็นมุมที่แปลก แตกต่าง จากสาวๆ ทั่วไปที่เขาไขว่คว้าอยู่ เขาไม่เคยรักใครจริง เพราะเขายังมองคนแค่เปลือก และคิดถึงแค่ ความเหมาะสม และนั่นก็ทำให้เขาไม่เคยพบรักแท้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

อย่างที่บอก เลขาฯ ติดใจวิธีการบอกรัก ของ ‘ปัญญ์ปรียา’ จากเรื่อง โอบฟ้าล้อมตะวัน ที่เพิ่งรีวิวไป เรื่องนี้ วิธีการบอกรัก ก็ยังคงโรแมนติคเหมือนเดิม เพราะนางเอกชอบกินไข่เจียว ส่วนพระเอกของผัดกะเพรา ทำให้วิธีบอกรักของพระเอก เป็นการทำ ไข่ยัดใส่ผัดกะเพรา เสิร์ฟให้นางเอก แม้ว่าจะดูไม่โรแมนติกเท่าเรื่องที่แล้วที่เมืองฟ้าบอกรักเอื้อมตะวัน แต่ก็เป็นวิธีที่น่ารักเหมือนกันค่ะ ^_^


ตัวแสดง

นุกนิก ณกมล
อัย อธิษฐ์
อั๋น อาณกร
แนน หรือ นินี ธนินี
นลินี
ยักษ์ ยุทธนา
ซอ สินิตา



คำโปรยหนังสือ

เล่นเปียโนอยู่ดีๆ ก็ดันมีลูกแมวมาโผล่หน้าบ้าน กรี๊ด ไม่อยากจะเชื่อ มามะ มาอยู่กับแม่นุกนิกซะดีๆ นะนุ๋งนิ๋ง พยายามเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี แต่โชคร้ายที่แมวน้อยดันกินนมผงไม่ได้ เดือดร้อนจนต้องตามหาแม่นมให้กับลูกๆ กันยกใหญ่ ก็เพราะปฏิบัติการตามล่าหาแม่นม (แมว) นี่ล่ะ จึงทำให้ได้พบกับพุดดิ้ง พ่อพุดดิ้ง และลุงพุดดิ้ง เอ่อ... ไม่จริ๊ง ไม่จริง ทำไมลุงพุดดิ้งถึงกลายเป็นนายผัดกะเพราลามกโรคจิตไปได้ล่ะเนี่ย!!

ซวย อย่างนี้ต้องเรียกว่าดับเบิลซวย เมื่อเที่ยงก็โดนน้ำราดหัวหาว่าเป็นคนลามก กลับบ้านมาก็ดันเจอยัยอวบมือสาดน้ำเมื่อกลางวันมาลอยหน้าลอยตาอยู่ในบ้าน ไม่พอ ยังมาสั่งให้เขาไปทำกับข้าวให้กินอีก หนอย ยัยไข่เจียวเอ๊ย นี่ถ้าไม่เห็นแก่ลูกแมวตาดำๆ ล่ะก็ มีหวังได้ ได้… (คิดไม่ออก ฝากไว้ก่อนเหอะ) แถมคุณเธอเล่นประกาศปาวๆ ว่าจะมาเยี่ยมลูกบ่อยๆ นี่ขนาดเจอกันวันแรกยังทำเขาปวดหัวได้ขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าต่อไปจะขนาดไหน เฮ้อ…



เครดิต : รูปภาพปกหนังสือจาก //www.jamsai.com



Create Date : 14 เมษายน 2551
Last Update : 14 เมษายน 2551 16:20:34 น.
Counter : 617 Pageviews.

0 comment
1  2  

เลขาตัวซน
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เลขาตัวซน ทำงานเป็นเลขาฯ
บวกความซนอันมีมาแต่กำเนิด
เป็นลูกสาวคนเล็ก แม้จะมีน้องชายหนึ่งหน่อ
เลยค่อนข้างเอาแต่ใจ ออกจะใจร้อนตามป๊ะป๋า
แต่ก็เป็นคนตรงและจริงใจนะ
ที่สำคัญเป็นคนรักอิสระอย่างแรง


อาจทำอะไรเหมือนเอาแต่ใจ
...แต่ไม่เคยไร้เหตุผล
ในบางเรื่องอาจไม่มีความอดทน
...แต่ไม่เคยเป็นคนอ่อนแอ
บางเวลาอาจท้อแท้
...แต่ไม่เคยยอมแพ้ต่อสิ่งใด
อาจจะเฉยชาเกินไป
...แต่ไม่เคยทรยศต่อความตั้งใจของตัวเอง
โดย เฉกชนม์