ท่ามกลางกระแสข่าวรถหรู/ซูเปอร์คาร์จดประกอบเลี่ยงภาษี จนทำให้ธุรกิจนำเข้ารถกลุ่มนี้ปั่นป่วนไปหมด และนับเวลาถอยหลังสู่จุดอวสาน แต่อีกฟากกลุ่มบริษัทรถและผู้แทนจำหน่ายกลับคึกคักอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วง 1-2 สัปดาห์จากนี้ไป เพราะ 3 ค่ายรถหรูต่างพร้อมใจกัน ส่งรถสปอร์ตและซูเปอร์คาร์บุกตลาดไทย ไม่ว่าจะเป็นแบบคูเป้และเปิดประทุน
|
 | | เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส คูเป้ และคาบริโอเลต | |  | เริ่มเขย่ากระเป๋าเศรษฐีแบบเบาๆกับค่ายตราดาว ด้วยการส่ง เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส คูเป้ & คาบริโอเลต (E-Class Coupé & Cabriolet) โดยมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการ วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นรุ่นปรับโฉมตามรุ่นตัวถังซาลูน หรือซีดาน 4 ประตูก่อนหน้านี้ เช่นกันสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปของรถสปอร์ตตราดาวทั้งสองรุ่น นั่นคือชุดไฟหน้าเปลี่ยนมาเป็นแบบดวงเดียว กระจังหน้าแบบชั้นเดียว ด้านท้ายกันชนใหม่แบบ Wing Design พร้อมชุดไฟท้ายใหม่
ภายในห้องโดยสารดูสปอร์ต กับพวงมาลัยแบบ 3 ก้านใหม่ โดยทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบ Direct Steer แปรผันน้ำหนักพวงมาลัย พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์และคันเกียร์ Direct Select สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ และตกแต่งด้วยวัสดุใหม่ สามารถเลือกใช้ไม้หรืออลูมิเนียมได้ แผงแดชบอร์ดแบบโครเมียม บนคอนโซลกลางระหว่างช่องแอร์ ติดตั้งนาฬิกาแบบเข็มอนาล็อก และหน้าจอดิสเพลย์ TFT ขนาด 14.7 นิ้ว
|
|
ในต่างประเทศทุกรุ่นมาระบบ Eco Auto Start/Stop เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยขุมพลังให้เลือกใช้ในยุโรป จะมีเครื่องยนต์เบนซิน 6 รุ่น และดีเซล 3 รุ่น มีพละกำลังตั้งแต่ 181 แรงม้า (E200) ไปจนถึง 402 แรงม้า (E500) แต่เมืองไทยรุ่นคูเป้คงเป็น E200 เช่นเดิม ส่วนสนนราคารุ่นใหม่นี้มีข่าวน่าสนใจมากๆ เห็นว่าเคาะราคาป้วนเปี้ยนแถวๆ 4 ล้านบาทเท่านั้น จากเดิมอยู่ที่ 4.399 ล้านบาท และรุ่นเปิดประทุนจะเป็น E250 (208 แรงม้า) และราคาน่าจะถูกกดลงให้ฮือฮาเช่นกัน
...จริงๆ เดิมก่อนหน้าสองรถสปอร์ตเมอร์เซเดส-เบนซ์เพียงวันเดียว ทางบริษัท เอเอเอส ออโต เซอร์วิส จำกัด ในฐานะผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซูเปอร์รถหรูแบรนด์ เบนท์ลีย์ (Bentley) เตรียมจะเปิดตัวรุ่นเปิดประทุน คอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล (Continental GT Speed Convertible) หลังจากเปิดตัวรุ่นคูเป้เมื่อต้นปี ที่เปิดราคาออกมา 22 ล้านบาท แต่ตัดปัญหาการนำรถเข้ามาไม่ทัน จึงเลื่อนไปเปิดเป็นทางการวันที่ 4 กรกฎาคมที่จะถึงนี้
|
 | | เบนท์ลีย์ คอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล | | |
|
คอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล ว่ากันว่าเป็นรถเปิดประทุน 4 ที่นั่ง เร็วที่สุดในโลก ทำความเร็วสูงสุด 325 กม./ชม. หรืออัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียงแค่ 4.4 วินาที จากขุมพลังเครื่องยนต์ Twin-Turbocharged 6.0 ลิตร W12 กำลัง 616 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร และยังคงมากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตามแบบเบนท์ลีย์ คอนติเนนทัล ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ได้รับการพัฒนาให้เปลี่ยนเกียร์รวดเร็ว และทำการ block shifting ได้เร็วขึ้น (เช่นเปลี่ยนจากระดับเกียร์ 8 เข้าสู่เกียร์ 4 โดยตรงเป็นต้น) ส่งผลให้มีอัตราเร่งที่สมบูรณ์แบบ รวมถึงประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงอีก 15% หากเทียบกับรุ่นสปีดเจเนอเรชั่นเดิม
ไม่เพียงแค่แรงอย่างเดียว แต่ภายในห้องโดยสารของคอนติเนนทัล จีที สปีด คอนเวอร์ติเบิล ยังโดดเด่นกับงานหัตถกรรมชั้นเยี่ยม ด้วยชุดตกแต่งภายใน Mulliner Driving Specification และระบบ Infotainment ที่ได้รับการอัปเกรดซอฟแวร์เวอร์ชั่นใหม่ แตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค โดยมีอุปกรณ์ความสะดวกสบายและข้อมูลที่สำคัญ อาทิเช่น แผนที่สำหรับจุดต่างๆ ที่น่าสนใจ ภาพภูมิทัศน์จากดาวเทียม ข้อมูลการจราจร และ digital radio ระบบ Infotainment มีหน่วยความจำถึง 15 กิกาไบท์ เพื่อใช้ในการเก็บเพลง และเล่นเพลงจากเครื่อง iPod, MP3 Player หรือ CD 6 แผ่นของรถ หรือการ์ด SD ได้เช่นกัน
|
 | | โรลส์-รอยซ์ เรธ | | |
|
แต่หากใครที่เป็นแฟนของรถคู่แข่ง ในตลาดซูเปอร์รถหรู โรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce) ที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้ร่มเงาของบริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก จำกัด ในเครือของมาสเตอร์กรุ๊ป เตรียมจะเปิดตัวรถที่ชูเรื่องความแรงเช่นกัน นั่นคือ... โรลส์-รอยซ์ เรธ (Rolls-Royce Wraith) บุกตลาดไทย กับราคาค่าตัวประมาณ 30 ล้านบาทต้นๆ
โรลส์-รอยซ์ เรธ เป็นรถยนต์ที่ทรงพลังและปราดเปรียวที่สุดในประวัติศาสตร์ของโรลส์-รอยซ์ เครื่องยนต์ Twin-Turbo V12 ขนาด 6.6 ลิตร 624 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็ว 0-60 ไมล์/ชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 4.4 วินาที ขับเคลื่อนผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
เรธไม่ใช่รถยนต์แบบแกรนด์ทัวร์ริสโม ที่มีรูปลักษณ์ขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ได้ออกแบบให้มีรูปลักษณ์ปราดเปรียวในแบบคูเป้ แต่การขับขี่นุ่มนวลสุดๆ อีกทั้งระบบช่วงล่างได้รับการปรับเปลี่ยนมา เพื่อลดขนาดวงเลี้ยว และเพิ่มการตอบสนองอย่างนุ่มนวลเมื่อเข้าโค้ง พวงมาลัยปรับน้ำหนักอัตโนมัติตามความเร็วรถ เพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายคล่องตัว
|
|
|
นอกจากนี้ ในรุ่นเรธยังเปิดตัวครั้งแรกของฟังก์ชั่น Satellite Aided Transmission หรือ SAT เทคโนโลยีที่ช่วยให้รถยนต์ขับเคลื่อนง่ายดาย และมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น จากการใช้ข้อมูล GPS เพื่อช่วยดูเส้นทางเบื้องหน้า ที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นในระยะไกล และเตรียมความพร้อมในการขับขี่ในจังหวะต่อไป ด้วยการวิเคราะห์ตำแหน่งและรูปแบบการขับขี่ในขณะนั้น ซึ่งระบบจะเลือกเข้าเกียร์ที่เหมาะสม สำหรับสภาพถนนเบื้องหน้า ทำให้เรธพร้อมต่อการขับเคลื่อนบนทุกสภาพถนนได้อย่างทันที และยังสะดวกสบายกับระบบเชื่อมต่อคำสั่งด้วยเสียงเพื่อความสะดวกผ่าน on-board valet
เห็นแต่ละคันแล้ว คงได้แต่ร้องโอ้วว!... เอาเป็นว่าเศรษฐีไทยพันธุ์แรง จะเลือกถอยคันไหน? เชิญได้ตามสถานะ กระเป๋าของใครหนัก-เบากว่ากัน... |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [
