ท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยงของเดือนเมษายน คนไทยกำลังรอวันสำคัญ เทศกาลสงกรานต์ เพื่อที่จะได้พบกับบรรยากาศสนุกสนาน เล่นสาดน้ำให้ชุ่มเย็นคลายร้อน บางคนอาศัยช่วงวันหยุดยาวนี้กลับบ้านเกิด หรือไม่ก็เดินทางท่องเที่ยวตามต่างจังหวัด และบางคนได้นำรถตระเวนเล่นน้ำกัน แต่เนื่องจากประเพณีสงกรานต์ จุดสำคัญของความสนุก อยู่ที่การสาดน้ำเล่นแป้ง ซึ่งอาจจะส่งผลให้สีรถยนต์หมองและเป็นรอยด่างได้ ดังนั้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ นอกจากเตรียมรถเดินทางไกลแล้ว ยังต้องมีภาระดูแลคืนสภาพสีรถให้ใสกิ๊กเหมือนเดิมด้วย ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง จึงได้นำวิธีเตรียมและปกป้องสีรถ จาก... อาจารย์สมคิด ไกรสิงห์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของเอ็มเอ็มเอส - บ๊อช คาร์ เซอร์วิส (MMS - Bosch Car Service) ศูนย์บริการรถยนต์ที่หมดระยะรับประกันจากผู้แทนจำหน่ายมาแนะนำ...
|
|
ก่อนเดินทางเที่ยวสงกรานต์ การเตรียมรถเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ วิธีการไม่แตกต่างการเตรียมรถเดินทางไกลต่างๆ เพียงแต่อาจจะต้องดูเพิ่มพิเศษขึ้นหน่อย เพราะช่วงนี้อากาศจะร้อนมาก ย่อมส่งผลต่อการทำงานของอุปกรณ์รถยนต์หลายๆ อย่าง และแน่นอนสิ่งสำคัญของการเตรียมรถเดินทางไกล คือเรื่องของอุปกรณ์ที่ส่งผลต่อความปลอดภัยขณะขับรถ 1.ระบบเบรก ตรงนี้ต้องมาดูผ้าเบรก และจานเบรก ซึ่งใครที่เข้าศูนย์ตรวจเช็คประจำ ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่เขาจะแจ้งอยู่แล้วว่า ผ้าเบรกใกล้หมดหรือเหลือเท่าไหร่ และจานเบรกเป็นอย่างไร ควรจะเปลี่ยนแล้วหรือไม่? แต่หากไม่ค่อยได้ตรวจเช็ค ลองสังเกตอาการถ้าเบรกสั่นไม่นิ่ง กระเด้งนิดหน่อย หรือเหยียบเบรกแล้วลื่น และลองฟังเสียงดูมีดังแปลกๆ หากเป็นแบบนี้ต้องเข้าไปตรวจเช็ค ทำการเปลี่ยนแก้ไขก่อนเดินทาง อีกจุดสำคัญน้ำมันเบรก หากภายใน 2 ปี ยังไม่เคยเปลี่ยนต้องจัดการเปลี่ยนซะ เพราะมีผลต่อเรื่องของจุดเดือดน้ำมันเบรก หากไม่ดีจะส่งผลต่อกำลังดันลูกสูบเบรกไม่ดี เรื่องของเบรกจึงสำคัญมาก ยิ่งอากาศร้อนๆ หรือผู้ที่เดินทางขึ้นลงเขาไปทางเหนือ ต้องใช้งานเบรกบ่อยๆ เกิดความร้อนจัด และเบรกไม่อยู่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย 2.ระบบรองรับน้ำหนัก ต้องตรวจสอบสภาพยางรถ ว่าแข็งกระด้าง เสียงดัง ไม่ยึดเกาะถนน เวลาเข้าโค้งลื่นไถล ซึ่งเป็นสาเหตุของยางหมดสภาพ หรือดูดอกยางหมด และแก้มยางบวมหรือไม่? หากพบไม่ควรใช้ยางที่มีสภาพดังกล่าวอีกต่อไป ยางจะต้องมีสภาพดีและเหลือเนื้ออยู่พอสมควร เพราะการเดินทางไกลจะต้องใช้ความเร็วสูง และยางมีส่วนในการช่วยหยุดรถให้มีประสิทธิภาพขึ้น หากยางเสื่อมย่อมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง และต้องทำการตรวจลมยางก่อนเดินทาง อย่าอ่อนหรือแข็งเกินไป ต้องเติมลมยางให้เหมาะสม ตามคู่มือแนะนำหรือที่ระบุไว้ตรงประตูข้างคนขับด้านใน อาจจะเกินได้นิดหน่อย แต่หากยางนิ่มไปหรือต่ำกว่ากำหนด จะทำให้ยางร้อนเกิดระเบิดได้ นอกจากนี้ต้องตรวจสอบระบบช่วงล่าง เวลาวิ่งมีการทรงตัวเสถียรดี เข้าโค้งแรงๆ ควบคุมได้หรือไม่ ซึ่งต้องตรวจสอบพวกบูชปีกนก หรือบูชลิงก์ต่างๆ และความหนืดของโช๊คอัพผิดปกติไหม ลองให้คนแข็งแรงออกแรงกดรถทีละด้าน การเด้งคืนของรถจังหวะเดียวถือว่าใช้ได้ แต่ถ้ากระเด้งหลายจังหวะ หรือสะดุด ควรนำรถไปให้ช่วงตรวจดู |
3.ระบบหล่อเย็น จุดนี้เป็นสิ่งสำคัญที่คนมองข้ามเช่นกัน ควรต้องดูระดับน้ำในหม้อน้ำ/หม้อพักน้ำ อยู่ในระดับหรือไม่ และถ้าไม่เคยเปลี่ยนน้ำเกิน 2 ปี ควรจะต้องทำการเปลี่ยน โดยสัดส่วนระหว่างน้ำกับน้ำยา 70 : 30 และตรวจสอบฝาหม้อน้ำต้องปิดให้สนิท เพราะจะส่งผลต่อการรักษาแรงดัน ช่วยควบคุมจุดเดือดของน้ำ นอกจากนี้ควรจะเช็คการทำงานของพัดลมหม้อน้ำ ติดเครื่องดูการทำงานของพัดลมยังดีอยู่หรือเปล่า เพราะพวกนี้หากทำงานไม่ดีจะส่งผลทำให้เครื่องยนต์ร้อน และยิ่งบวกอากาศร้อนจัดในเดือนเมษายนเช่นนี้ ซึ่งถ้าเกจ์วัดความร้อนขึ้นอย่าฝืนขับเด็ดขาด จะทำให้ฝาสูบโก่ง กลายเป็นเรื่องใหญ่เสียเงินซ่อมเยอะเลยล่ะทีนี้ 4.เครื่องยนต์ จริงๆ น่าจะเป็นสิ่งที่รู้ความผิดปกติง่ายมากที่สุด เพราะมีการใช้งานอยู่เป็นประจำ ดังนั้นหากเห็นความผิดปกติจะต้องแก้ไขก่อนเดินทางไกล เพราะหากเครื่องยนต์เสียระหว่างทาง แทนที่จะได้ไปท่องเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ กลับต้องเสียเวลาอยู่ระหว่างทางเปล่าๆ นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่จะต้องตรวจเช็ค อย่างระบบบังคับเลี้ยว แบตเตอรี่ และระบบแอร์ที่หากไม่เย็นหรือไม่ทำงาน อากาศร้อนอย่างนี้หมดสนุกแน่ และที่สำคัญอีกอย่างใบปัดน้ำฝน และที่ฉีดน้ำล้างกระจก แม้จะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่ช่วงสงกรานต์โดนน้ำ หรือน้ำแป้งอยู่ตลอดเวลา หากไม่เตรียมพร้อมเรื่องนี้แย่แน่ๆ หรือแม้แต่ระบบไฟส่องสว่างต่างๆ เพราะเดินทางไกลบางทีก็ออกเวลากลางคืน หรือบางทีรถติดมากๆ ทำให้การเดินทางลากยาวถึงกลางคืน ซึ่งสิ่งนี้สามารถตรวจสอบได้เองอยู่แล้ว |
เสร็จสาดน้ำภารกิจดูแลรถไม่จบ หลังจากเดินทางไกลและเล่นสาดน้ำกัน สิ่งสำคัญเห็นจะเป็นการดูแลรักษาสีรถให้มีสภาพดี เพราะต้องไม่ลืมว่าน้ำที่เล่นสาดกันไม่รู้มาจากแหล่งไหน มีสภาพเป็นกรดหรือด่างอย่างไร? ยิ่งผู้คนนิยมเล่นน้ำผสมแป้ง ไม่ว่าจะเป็นดินสอพอง หรือแป้งสิงคโปร์ แม้แต่น้ำผสมสี ซึ่งมีฤทธิ์กัดสีรถได้ ทำให้เป็นคราบหมอง หรือดวงด่าง และถ้าทิ้งไว้นานจะกัดสีเป็นรอยชัดเจน ยิ่งช่วงสงกรานต์แดดเปรี้ยง อย่าให้รถตากแดดมีรอยคราบแป้งเกาะติดจนแห้งเด็ดขาด! วิธีการปกป้องสีรถในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อันดับแรกหากรถโดนสาดน้ำปะแป้ง อย่าให้เกิน 1 วัน ควรจะฉีดน้ำล้างฝุ่นละอองและคราบแป้งออกให้หมดทันที อย่าปล่อยไว้นานและจอดรถตากแดด จนคราบฝุ่นและแป้งแห้งเกาะรถ เพราะมันจะกัดสีรถเป็นดวงด่างได้ หรือหากมีสตางค์จะเคลือบสีมาก่อนก็ช่วยได้ และเพื่อให้กระจกใสสะอาด เพราะเจอพวกแป้งแบบเต็มๆ ให้ใช้น้ำยาเช็ดกระจกที่จะมีไอโซโพรพิล แอลกอฮอร์เป็นส่วนประกอบ มีขายตามร้านประดับยนต์ทั่วไป มาเช็ดให้สะอาดเหมือนเดิม ส่วนภายในห้องโดยสาร ช่วงสงกรานต์ยากที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาอับชื้น และบางทีคนขับหรือผู้โดยสารเล่นสนุกสุดๆ ออกไปสาดน้ำกับเขาจนตัวเปียก เล่นเสร็จหนีมานั่งในรถ ย่อมทำให้มีน้ำหรือแป้งเกาะติดตามเบาะ และหยดลงพื้นรถ เมื่อกลับถึงบ้านพวกแผงคอนโซลใช้ผ้าเปียกหมาดๆ เช็ด และเช็ดซ้ำด้วยผ้าแห้ง เบาะควรจะหุ้มพลาสติกไว้ก่อน แต่ถ้าเปียกใช้ผ้าแห้งเช็ดทำความสะอาด ไม่ควรใช้น้ำยาใดๆ |
ขณะที่เบาะหนังให้ชุบน้ำหมาดๆ เช็ด แต่ถ้าสกปรกจนเช็ดไม่ออก ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อ่อนๆ เช็ดทำความสะอาด หรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเบาะหนังโดยเฉพาะ ขณะที่พวกพรม หรือยางรองพื้น ให้รื้อออกมาทำความสะอาดตากแดด หรือผึ่งลมให้แห้ง พร้อมกับเปิดกระจกให้ระบายความชื่นภายในรถ หรือถ้าล้างรถแห้งดีแล้ว นำรถไปจอดตากแดดอ่อนๆ เปิดกระจกไว้ เมื่อเสร็จสิ้นการละเล่นสาดน้ำสงกรานต์แล้ว ควรจะล้างใหญ่ให้สะอาดเกลี้ยงเกลา และหากมีร่องรอยมาก อาจจะต้องขัดและเคลือบสีใหม่ เพื่อให้สีรถกลับมาใสกิ๊กเช่นเดิม และนอกจากนี้ในส่วนของอุปกรณ์ หรือระบบการทำงานต่างๆ ของรถ อย่างคนที่ไปภาคเหนือขึ้น-ลงภูเขาเยอะ ต้องใช้คลัตช์ ใช้เกียร์ และเบรกบ่อย อาจจะมีกลิ่นเหม็นไหม้ จำเป็นต้องตรวจสภาพ และเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้การใช้งานสมบูรณ์เช่นเดิม ทั้งนี้ช่วงรับเทศกาลสงกรานต์ ไม่ว่าจะเป็นก่อนและหลัง บริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ หรือศูนย์ซ่อมและดูแลรักษารถ ต่างมีแคมเปญตรวจเช็ครถฟรีให้กับลูกค้าอยู่แล้ว อย่างเอ็มเอ็มเอสฯ รับตรวจเช็ครถฟรี 24 รายการ ให้กับลูกค้าทุกคันที่เข้ารับบริการ เพื่อเตรียมพร้อมในการเดินทางไกลช่วงสงกรานต์ และยังแบ่งเบาภาระของลูกค้าออกโปรโมชั่น ความปลอดภัยก็เลือกผ่อนได้ แบบ 0% โดยลูกค้าสามารถผ่อนชำระค่าบริการ ได้นานสูงสุด 4 เดือนแบบไม่มีดอกเบี้ย กับบัตรเครดิตชั้นนำ เมื่อใช้บริการมูลค่าตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป และมีโปรโมชั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องราคาพิเศษด้วย นี่เป็นวิธีเตรียมรถรับเทศกาลสงกรานต์ ไม่ได้ยุ่งยากแต่อาจจะจุกจิกหน่อย แต่เพื่อความปลอดภัย ได้สนุกสนานอย่างที่ตั้งใจ และคืนสภาพรถให้เหมือนเดิม จึงจำเป็นต้องเอาใจใส่กันหน่อย... |