BlogGang.com : : karnoi - หวานๆ รับวาเลนไทน์ ทำไมต้อง “ช็อกโกแลต”

หวานๆ รับวาเลนไทน์ ทำไมต้อง “ช็อกโกแลต”

       บรรยากาศแห่งความรักตลบอบอวนไปทั่วเมื่อถึงเทศกาลแห่งความรัก หรือ วันวาเลนไทน์ หลายๆ คนมักจะมอบของขวัญ หรือดอกไม้ให้กับคนที่ตัวเองรัก และอีกสิ่งหนึ่งที่นิยมมอบเป็นของแทนใจกันด้วยก็คือ “ช็อกโกแลต” อันเป็นของหวานที่หลายคนนิยมลิ้มลอง ด้วยความหอมหวานอร่อย

       อาจเป็นเพราะความหวานละมุนนี่เอง ที่ทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นของขวัญยอดนิยมในเทศกาลวาเลนไทน์ แต่ที่จริงแล้ว การมอบช็อกโกแลตเป็นของขวัญในเทศกาลนี้ มีประวัติความเป็นมาที่มากกว่ารสชาติของมัน “108 เคล็ดกิน” มีมาเฉลย

       มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการที่ช็อกโกแลตกลายมาเป็นของขวัญในวันวาเลนไทน์ ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการถือกำเนิดขึ้นของวันวาเลนไทน์นี่เอง โดยในยุคโรมัน ณ กรุงโรม ในสมัยของจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 พระองค์คิดว่าความรักคือความลุ่มหลง หากบรรดาทหารเกิดความรักหรือมีการแต่งงานก็จะอ่อนแอ ไม่ออกไปรบ จึงมีคำสั่งห้ามมิให้ชาวโรมันแต่งงานกัน

       แต่ก็มีนักบวชนามว่า “วาเลนตินัส” ลักลอบช่วยจัดงานแต่งงานให้แก่คู่รักชาวโรมัน เมื่อความลับรั่วไหล นักบวชผู้นี้จึงถูกคุมขัง ซึ่งระหว่างถูกขังอยู่ในคุกนั้น ก็มีคู่รักชาวโรมันจำนวนมากเดินทางมาเยี่ยม จนสุดท้าย นักบวชผู้นี้ถูกประหาร ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ทำให้ชาวคริสเตียนถือเอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันวาเลนไทน์ วันที่รำลึกถึงความรักอันมั่นคงของนักบุญวาเลนตินัส

       ส่วนช็อกโกแลตนั้นก็ได้กลายมาเป็นของขวัญแทนใจ เนื่องจากในยุคที่ต้องหลบซ่อนความรักจากอำนาจของจักรพรรดิ์นั้น คู่รักทำได้เพียงฝากของขวัญส่งถึงกันและกัน และในยุคนั้น ช็อกโกแลตยังเป็นของหายาก มีราคาแพง ทำให้กลายเป็นสิ่งมีค่าที่แต่ละคนจะนำความรักฝากไปกับช็อกโกแลตชิ้นนั้น

       ตำนานความรักในวันวาเลนไทน์กับช็อกโกแลตจึงสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้

       สำหรับส่วนผสมของช็อกโกแลตนั้น ผลิตมาจากเมล็ดโกโก้ ซึ่งในอดีตต้นโกโก้เป็นพืชท้องถิ่นของแถบอเมริกากลางและใต้ ในปัจจุบันเป็นพืชที่ปลูกมากในหลายประเทศแถบร้อน แต่มากที่สุดในแอฟริกาตะวันตก

       ในเรื่องของความเชื่อเกี่ยวกับช็อกโกแลต ชาวมายันโบราณเชื่อว่า ช็อกโกแลตเป็น อาหารของพระเจ้า ต่อมาชาวแอซเต็ก (AZTEC) ในเม็กซิโกเชื่อว่าช็อกโกแลตเป็นอาหารเพิ่มพลังและความรู้สึกทางเพศ เมื่อชาวยุโรปชาติแรกคือสเปน เข้ายึดครองเม็กซิโกก็รับเอาความเชื่อในพลังพิเศษทางเพศ (Aphrodisiac) ของช็อกโกแลตจากชาวแอซเต็กมาด้วย และความเชื่อนี้ก็แผ่ขยายต่อมาจนทั่วยุโรป

       ส่วนในวันวาเลนไทน์นี้ นอกจากจะมอบช็อกโกแลตให้แก่กันและกันแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ความรักและความจริงใจที่จะมอบให้คนรัก ถือว่าเป็นของขวัญที่ดีที่สุดมากกว่าของขวัญอื่นใดในโลกแล้ว

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2558

Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2558 22:22:36 น.

0 comments

Counter : 1051 Pageviews.