*** พื้นที่ส่วนตัวของ พันตำรวจเอก ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ รองผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี นี้ จัดทำขึ้นเพื่อยืนหยัดในหลักการที่ว่า คนเรานั้นจะมีความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ได้ ก็ต่อเมื่อมีเสรีภาพในการแสดงความคิดโดยบริบูรณ์ และความเชื่อที่ว่าคนเราเกิดมาเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่มีอำนาจใดจะพรากความเป็นมนุษย์ไปจากเราได้ ไม่ว่่าด้วยวิธีการใด ๆ และอำนาจผู้ใด ***
*** We hold these truths to be self-evident, that all men are created equal, that they are endowed by their Creator with certain unalienable rights, that among these are life, liberty and the pursuit of happiness. That to secure these rights, governments are instituted among men, deriving their just powers from the consent of the governed. That whenever any form of government becomes destructive to these ends, it is the right of the people to alter or to abolish it, and to institute new government, laying its foundation on such principles and organizing its powers in such form, as to them shall seem most likely to effect their safety and happiness. [Adopted in Congress 4 July 1776] ***
Group Blog
 
All Blogs
 

My Arrival at Kent & Canterbury, UK.

Today (June 16, 2007), I have arrived at Heathrow airport at 0555 hrs in the morning after taking UA 958 from Ohare's airport, Chicago, on June 15, 2007 around 1644 hrs. This trip is fairly exciting for me and something happened beyond my expectationssssss!!!!!!.




I went to Chicago airport at noon and checked in with one carry-on and one big suitcase. Due to my underprivileged, I got the seat number 40J, which is located in very end of the airplane and very close to lavatory. It, indeed, was very bad. However, one guy asked to me to take his seat, 18B, which was located in economy plus class.

It meant that I got a larger seat and more space. I instantly conceded what he offered. You know I accepted it not because of such mentioned reasons but thanks to his own necessity to sit very close to his (girl)friend they met each other at the airport. Hahaha, it was my bad excuse, right? Finally, we agreed to make a pack, which was beyond my expectation, indeed.

After sitting at the new seat, I found that mine was very closed to First class, which I have never thought about reserving this privileged one. The United Airline separates the prohibited seat from economy by the partition. It meant that anyone who did not belong to Business and First Class cannot walk and go into this special partition, I guess.

The airline also provided several and special attendants, which includes the special cloth for them, to take care those privilege persons. The food and other services are also totally different from what I got during on plane until disembarking.

You know, my headset did not work perfectly and I asked them to help me. They just said "We are sorry. Because of the technical problem, we cannot do anything for you." Good for me!




I arrived at Heathrow located in London. It was completely different from those in the United States. Heathrow is comparatively smaller than most airports in the U.S. The roof is very low and no special decoration in this place.

The UK immigration law required me to declare myself why I came here, which is very easy to fill out, around 3 or 4 items needed to be done. No longer did I arrived at this place than my former colleagues, Pol.Maj. Chaovanut, who has been studying in Ph.D. program at Kent University, and his wife as well as his daughter, came to pick me up.

They provided me with the good accommodation and first meal at his home. It, of course, is much better the fucking food provided to me while seating in economy class in UA, hahaha. Kent County is located in the East Southern of U.K. It is very good place to stay and study but the weather is not so good in my view.

Only a half of the day I arrived, the weather changed unexpectedly as well. I was rainy, shiny and rainy again. It was beyond my expectation again. You may feel my perception if you touch four seasons in one day!




Well, regarding to the service at UA Business class, I have not been envious of them but I sometimes think when I can use this class and If I am rich enough, will I use it? Will you?

P.S. I will narrate my story in UK in this groub blog which includes the daily expense and other 'invalue" information to you guys later krub!




 

Create Date : 17 มิถุนายน 2550    
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 8:01:35 น.
Counter : 651 Pageviews.  

ไปอังกฤษ ... เริ่มต้นที่นี่

ผมได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าประเทศอังกฤษ และ ประเทศในกลุ่มยุโรปมาแล้วครับ ผมเลยอยากมาเล่าขั้นตอนการขอหนังสืออนุญาต (ซึ่งจะเรียกว่า วีซ่า) ดังกล่าวให้ฟังเล่น ๆ ครับ (สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านมาก่อน ต้องขอเรียนว่า การขอวีซ่า กรณีของผมนี่ ขอจากสถานกงสุลอังกฤษ และฝรั่งเศส ที่ตั้งอยู่ประเทศสหรัฐฯ นะครับ ไม่ใช่ กรณีขอจากประเทศไทย)




ผมไปขอวีซ่าเข้าประเทศอังกฤษที่สถานกงสุล อังกฤษ ณ มหานครชิคาโก้ มาตั้งแต่วันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๐ และได้วีซ่าตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่ผมเพิ่งจะได้ไปขอวีซ่าเข้ากลุ่มประเทศยุโรป ที่เรียก Schengen ที่สามารถเข้ากลุ่มประเทศยุโรป ได้ ๑๕ ประเทศได้ (รายละเอียด โปรดคลิ๊กที่นี่ครับ ) และเพิ่งได้วีซ่าดังกล่าวมา เมื่อสองวันที่ผ่านมานี้เองครับ



สถานกงสุลอังกฤษ ตั้งอยู่ชั้น ๑๓ Wrigley Building บนถนนและใกล้กับเชิงสะพาน Michigan ครับ


ความจริง ผมตั้งใจจะยื่นเรื่องขอวีซ่าเข้ายุโรป ตั้งแต่วันที่ ๗ และ ๘ พฤษภาคม ฯ ที่ผ่านมาเลย กะว่า ได้หนังสือวีซ่าของประเทศอังกฤษ วันที่ ๗ แล้ว วันที่ ๘ ก็ยื่นเรื่องต่อที่สถานกงสุลฝรั่งเศส เลย แต่ก็ไม่ได้เป็นตามแผนครับ เพราะมีปัญหาและอุปสรรค บางประการครับ

สำหรับขั้นตอนการขอวีซ่านั้น จะว่ายุ่งยาก มันก็พูดได้ว่ายุ่งยาก จะว่าไม่ยุ่งยากก็ได้ครับ (พูดไปพูดมา งงกับตัวเอง) ขึ้นกับสถานการณ์ และความพร้อมของผู้สมัครขอวีซ่าเอง ด้วยส่วนหนึ่งครับ




สำหรับการสมัครขอวีซ่า เข้าประเทศอังกฤษ นั้น ก่อนอื่นจะต้องเข้าไปอ่านรายละเอียดใน เวปไซต์ของสถานกงสุลอังกฤษ ที่ลิงก์นี้(คลิ๊ก) ก่อนครับ เพราะกฎระเบียบต่าง ๆ รวมถึงค่าธรรมเนียมในการสมัครขอวีซ่าสามารถเปลี่ยนได้ตลอด และโดยปกติจะเปลี่ยนทุก ๑๕ วันครับ

โดยสรุปตอนนี้ ผู้ที่จะขอวีซ่าเข้าประเทศอังกฤษ ขั้นตอนแรกจะต้องกระทำนัดหมาย (กรณีต้องการยื่นด้วยตนเอง) และกรอกรายละเอียด ออนไลน์ ก่อนทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการจ่ายเงินด้วย (แต่อาจจะไปจ่ายที่หลัง ถ้าไปยื่นเอกสารตัวเองด้วยตนเอง)



ตอนผมไป เมืองชิคาโก้ ตกแต่งถนนมิชิแกนด้วยทิวลิป หลากสี สวยงามมากครับ



จะว่าไป จริง ๆ ผมเองก็ไม่ค่อยละเอียด ... ไม่ได้เริ่มด้วยตนเอง ตามที่แนะนำข้างต้นหรอก แต่ชอบถามคนอื่นที่เคยไปมาก่อนว่า ทำอย่างไร แล้วก็ไม่ตรวจสอบรายละเอียดในเวปไซต์ของเขา ..... ผมนั้น จึงเพิ่งได้อ่าน ขั้นตอนและกฎระเบียบการขอวีซ่าโดยละเอียดจากเวปไซต์ ของกงสุล อังกฤษ ก่อนจะเดินทางไป เพียงสองสามวัน เท่านั้นเองครับ ซึ่งผมก็ยังโชคดี ที่ตารางนัดหมายกับสถานกงสุลอังกฤษ ยังไม่เต็ม เลยนัดหมายได้ตามแผนที่วางไว้ครับ

ขั้นตอนโดยทั่วไป การขอวีซ่าสำหรับประเทศอังกฤษ สามารถกระทำได้ สองทาง คือ ยื่นด้วยตนเอง กับ ส่งไปทางไปรษณีย์ โดยกรณีจะไปยื่นด้วยตนเอง ก็จะต้องมีการนัดหมายทางออนไลน์ล่วงหน้า ไม่ใช่ อยู่ดี ๆ จะเดินดุ่ม ๆ ไปยื่นเอกสารเลย ทำอย่างนั้น เขาไม่ยอมรับเด็ดขาดครับ

สำหรับในกรณีจะส่งทางไปรษณีย์ ก็ไม่ต้องนัดหมายอะไร แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะวิธีการทางไหน ก็จะต้องการกรอกใบสมัคร หรือแบบฟอร์มการขอวีซ่า โดยวิธีออนไลน์ก่อนทั้งสิ้น เมื่อกรอกข้อความสมบูรณ์แล้ว จึงสั่งพิมพ์



ภาพถ่ายบริเวณ Water Tower ที่หลงเหลือจากไฟไหม้ใหญ่ในชิคาโก้ ( นำภาพมาจาก Reading Dirty Blog ครับ


หากจะยื่นด้วยตนเอง ก็จะได้รู้คำตอบในวันเดียวกัน แต่ถ้าส่งทางไปรษณีย์ ก็อาจจะต้องใช้เวลาประมาณ ๒ สัปดาห์ครับ กรณีผม ใช้นัดหมายแล้วไปยื่นด้วยตนเอง ซึ่งถ้าหลักฐานต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว ก็จะได้รับหนังสือเดินทาง และวีซ่า คืนในภายวันเดียวกันเลยครับ

ตามแผนของผม ก็คือ ไปชิคาโก้ ยื่นเอกสารขอวีซ่า อังกฤษ วันจันทร์ แล้วยื่นขอวีซ่าเข้ายุโรปวันอังคาร แต่ว่า... โชคไม่อำนวย เพราะวันอังคาร สถานกงสุลฝรั่งเศส ปิดทำการ เพราะวันคล้ายวันสิ้นสุด WWII ครับ ... อ้าวเป็นซะงั้น

ผมก็เพิ่งทราบจากการอ่านเวปไซต์ของกงสุลฝรั่งเศสอีกว่า .... ต้องมีการนัดหมายก่อน กฎเกณฑ์นี้ เพิ่งเปลี่ยนไม่นาน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร ผมถามรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย ท่านว่ากรณีของท่าน เดินไปดุ่ย ๆ แล้วก็ยื่นเอกสารต่าง ๆ ไม่ได้นัดหมาย ใช้เวลา พิจารณาไม่ถึง ๑๐ นาที เรียบร้อยแล้ว ก็เลยจะทำตามมั่ง ... โชคดีนะครับ ที่ผมตรวจสอบอีกครั้งก่อน ไม่งั้น ก็เสียเวลาเปล่า เพราะเขาจะไม่พิจารณาเลย หากไม่มีการนัดหมาย ยกเว้นแต่ วันนั้น จะว่างจริง ๆ เขาก็อาจจะให้รอจน ถ้าโชคดีงานไม่ยุ่ง ก็อาจจะเรียกเข้าสัมภาษณ์ ได้



นี่ก็ Tulip บนถนนมิชิแกน ที่ถูกขนานนามว่า Magnificent Mile ครับ





สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปประเทศเหล่านี้ เอกสารทั่วไป ก็จะประกอบด้วย

๑) หนังสือเดินทางของเรา (บางที่อาจจะกำหนดให้สำเนาเอกสารหนังสือเดินทางของเราไปด้วย)
๒) Bank Statement ซึ่งออกโดยธนาคารที่เรามีเงินฝากอยู่ หรือ อาจจะเป็นเอกสารแสดงทรัพย์สินของเรา (สงสัย กลัวเราไปแล้วไม่ยอมกลับ มั๊งครับ)
๓) หนังสือ (หรืออีเมลล์) รับรองการจองโรงแรม (ควรเป็นประเภท ขอเงินคืนได้ ป้องกันความผิดพลาด) หรือ หนังสือเชิญให้ไปเยี่ยม (Letter of Invitation) จากเพื่อน หรือ พี่น้อง ( ระบุชื่อถึง กงสุลของประเทศที่จะไปเยี่ยม) สำหรับกรณี กลุ่มประเทศยุโรป Letter of Invitation จะต้องไปกระทำที่เมือง (City Hall) อย่างเป็นทางการด้วย
๔) เอกสารระบุ Flight Itinerary / แผนการเดินทาง ซึ่งโดยปกติ จะจองกับเอเจ้นไว้ก่อน แต่ยังไม่จ่ายตังค์ครับ ... กันพลาด นั่นแหละครับ เผือวีซ่าไม่อนุมัติ จะได้ไม่เสียตังค์ทั้งค่าวีซ่า ที่ขอคืนไม่ได้ รวมถึงค่าตั๋วเครื่องบินที่ขอยืนไม่ได้เช่นกัน ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็แย่เลย
๕) ภาพถ่ายปัจจุบัน พื้นสีขาวเท่านั้น ปกติ จะใช้รูปเดียว ยกเว้นบางประเทศ อาจจะขอมากกว่า ๑ ภาพ
๖) ถ้าเป็น นร. ก็จะต้องมี I -20 หรือ DS 2019 ไปให้เขาตรวจสอบด้วยครับ (ซึ่งจะต้องให้เจ้าหน้าที่ แผนก International Service Office ของมหาวิทยาลัยของเรา ลงนามด้วย)
๗) ค่าธรรมเนียมวีซ่า ซึ่งอาจจะสำคัญมาก การจ่ายเงินค่าวีซ่าครับ ...... ของอังกฤษ ถ้าเป็น นร. ต้องจ่ายประมาณ ๒๐๓ เหรียญ ถ้าเที่ยวไม่เกิน ๖ เดือน จ่าย ๑๓๒ เหรียญ แต่ของฝรั่งเศส ไปเที่ยว ก็จ่ายประมาณ ๘๑ เหรียญสหรัฐครับ
๘) กรมธรรม์ประกันสุขภาพ สำหรับกลุ่มประเทศยุโรป จะกำหนดให้เราต้องมีประกันสุขภาพด้วยครับ แบบเจ็บป่วย จะได้ไม่ไปทำความสิ้นเปลืองทรัพยากรประเทศของเขา ดังนั้น เราก็ต้องไปหาซื้อประกันด้วยครับ (ส่วนประเทศอังกฤษ ไม่กำหนดครับ)




การรับหนังสือเดินทาง สำหรับประเทศที่ให้ยื่นโดยทางไปรษณีย์ได้ ก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมวิธีการส่งซองไปรษณีย์ลงทะเบียนไปด้วย แต่กรณีของผม ผมนัดหมายไปยื่นด้วยตนเอง

สถานกงสุลอังกฤษนี้ ผมยื่นประมาณ ๙.๔๕ น. ไปรับหนังสือเดินทางคืน พร้อมกับหนังสืออนุมัติการเดินทางเข้าประเทศ ได้ในเวลา ๑๔.๓๐ น.ครับ ของฝรั่งเศส ผมยื่นเวลา ๑๐.๐๐ น. ได้คืนเวลา ๑๒.๓๐ น. ครับ

ข้อสังเกตที่เห็นนะครับ ... จากการไปดูสถานกงสุล มาสองแห่ง พบว่า มาตรฐานความระหวาดระแวง (ระวังป้องกันภัย) ของอังกฤษ จะสูงมากครับ มีการตรวจวัตถุระเบิด ฯลฯ หลักฐานการนัดหมาย ฯลฯ กว่าจะเข้าไปถึงห้องที่มีหน้าต่างยื่นเอกสารสัมภาษณ์ได้ เล่นเอาเหนื่อยใช้ได้เลยครับ ส่วนสถานกงสุลของฝรั่งเศส ง่ายมากครับ ไปถึง Michigan Plaza ขึ้นลิฟต์ไปชั้น ๓๗ เข้าถึงห้องเลย ... มาตรฐานความปลอดภัย เหมือนกงสุลของไทย ที่ระบบรักษาความปลอดภัยไม่เข้มข้นนัก (ต่ำ) ครับ




เนื่องจากถนน Michigan ที่เป็นแหล่งช๊อปปิ้งหรูราคาแพงมาก ๆ ทางเมืองชิคาโก้ จะมีการตกแต่งและมี Theme ต่าง ๆ แตกต่างกันไป ตามช่วงเวลาต่าง ๆ ครับ



ส่วนเรื่องการจ่ายเงินค่าสมัครวีซ่านี่ เดี๋ยวนี้เขาทันสมัยครับ จ่ายเป็นบัตรเครดิตได้ จะจ่ายออนไลน์ หรือ ไปจ่ายต่อหน้าเขาก็ได้ แต่ถ้าจ่ายทางไปรษณีย์ ก็ใช้ Money Order ส่งไปให้เขาครับ

ส่วนประเทศฝรั่งเศส ก็เช่นกันครับ ก่อนอื่น จะต้องเข้าไปนัดหมายเวลาให้เรียบร้อย โดยเริ่มจากที่นี่ครับ จากลิงก์นี้ครับ ไม่ใช่จากเวปไซต์ จากลิงก์นี้ นะครับ (มันจะงงมาก ๆ ๆ กับเวปไซต์นี้) เพราะสถานกงสุลฝรั่งเศส กำหนดว่า จะต้องไปยื่นด้วยตนเองเท่านั้น



นี่ก็ Theme หนึ่งครับ



ข้อดีขอการขอวีซ่าเข้าประเทศฝรั่งเศส คือ ขอประเทศเดียว ที่ขอเข้าแบบหลายครั้ง (Multiply) ในระยะเวลาสั้น (Short stay) ในเวลาไม่เกิน ๓ เดือน เราจะเข้าประเทศในกลุ่ม Schengen ได้ ตลอด ... ต่างจากวีซ่าของอังกฤษ ที่เราเข้าได้ประเทศเดียว ....




เห็นไหมครับ ไม่ยากเลย .... โอ้ ผมทำเหมือนเชี่ยวชาญมากเลย แต่ความจริง ... ผมแทบแย่ กว่าจะได้เรื่องได้ราว เด็กบ้านนอกก็อย่างนี้แหละครับ ..... เท่าที่ผ่านมานี่ Beyond my expectation แล้วครับ ขอบคุณโชคชะตา และความเพียรครับ รวมถึงขอบขอบพระคุณ อาจารย์ที่ปรึกษาของผม Professor Thomas S. Ulen ที่สนับสนุนการเงิน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ บางส่วนด้วยครับ




ปล. ผมขอแสดงความนับถือ อาจารย์ Thomas S. Ulen มากครับ สมัยผมเรียน ป.โท ทางกฎหมาย ผมเคยเถียงกับท่านหน้าดำคร่ำเครียด .... เพราะผมเรียนทางกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาเยอะ ตั้งแต่เรียนที่อินเดียนน่า ... มีอยู่ครั้งหนึ่ง ท่านพูดไม่ครบถ้วน ผมก็บอกว่าท่านผิดในห้องเรียน ..



สถานกงสุลฝรั่งเศส ตั้งอยู่ที่ เลขที่ ๒๐๕ N. Michigan Plaza ชั้น ๓๗ ใกล้ ๆ กับ Millinium Park ครับ



คืนนั้น ...อาจารย์ท่านก็ส่ง อีเมลล์ มายัง นร. ทุกท่านในชั้นเรียน แล้วท่านบอกว่า ขอบคุณผม ที่ทักท้วงในห้อง ... ท่านกล่าวนั้นไม่ครบถ้วน ฯลฯ แล้วกล่าวขอโทษนักศึกษาด้วย

ผมโคตรนับถือการกระทำของท่านมาก ๆ และเห็นว่าเป็นการกระทำที่เป็นตัวอย่างที่ดีมาก ๆ ซึ่งผมไม่เคยเจอในเมืองไทย หลังจากเถียงกันแล้ว ท่านก็จบในห้องเรียน ตอนผมสมัครเรียน ป. เอก ท่านก็อาสาเป็น Advisor หลัก ทั้ง ๆ ที่ท่านมีงานเยอะมาก ต้องไปบรรยายตามประเทศต่าง ๆ หลายสิบประเทศ มีงานโครงการอะไร ท่านก็จ่ายตังค์ให้ผมหมด รวมถึง การจ้างเด็กอเมริกัน ตรวจร่าง Dissertation ด้วย ไปอังกฤษและยุโรป ครั้งนี้ ก็เช่นกัน ท่านก็สนับสนุนเงินทุน เช่นเดียวกับ การไปญี่ปุ่น เมื่อปีที่แล้วด้วย ....




ชาตินี้จะไม่ลืมพระคุณของท่าน
และหากผมได้เป็นอาจารย์ สอนนักศึกษา ผมจะทำแบบท่านครับ










ภาพสุดท้าย เป็นภาพ Bean ที่ทำด้วยสแตนเลส ขัดเงา ว่ากันว่า มันมีราคาประมาณ ๑๗ ล้านเหรียญ ตั้งอยู่ที่ Millinium Park สามารถมองเห็นเมืองได้ทั้งหมด ในฝักถั่วนี้ครับ




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 8:01:51 น.
Counter : 852 Pageviews.  

แผนการ.... ไปอังกฤษ

สืบเนื่องมาจาก blog ก่อน ที่ผมเล่าว่า อาจารย์ที่ปรึกษา คือ Prof. Thomas S. Ulen จะส่งผมไปดูงานที่ประเทศอังกฤษ โดยท่านติดต่ออาจารย์ที่ Manchester ไป แล้วท่านก็งง กับ ปฎิกริยา และพฤติกรรมของ อาจารย์ที่อังกฤษ ที่เคยประสานงานกับท่านเป็นอย่างดีมาก่อน เป็นอย่างมาก ๆ ... ประเภทว่า หมดประโยชน์ แล้วลืม อะไรทำน้องนั้น ... (นิสัย เหมือนใครหว่า...คุ้น ๆ )




ท่านว่า ท่านอีเมลล์ไปแล้ว พร้อมติดต่อทั้งทาง Dean ของ Manchester เพื่อออกหนังสือ Invitation ให้ผมไปในฐานะ Visiting scholar แต่อาจารย์ผมก็งง ๆ กับพฤติกรรมของอาจารย์ที่ Manchester ยิ่งนัก เพราะท่านว่าเคยประสานงานกันอย่างดี .. ท่านเงียบอย่างเดียว ทั้ง ๆ ที่อีเมลล์ไปหลายรอบแล้ว .... ผมก็แซวว่า เขาคงเห็นว่า ท่านไร้ค่า ไร้ประโยชน์ในสายตาของเขาแล้ว ... ท่านก็ได้แต่หัวเราะอย่างเดียว...

ผมก็เคยอีเมลล์ไปยัง UCL ถึงอาจารย์ Dennis ท่านที่มีชื่อเสียงทางด้านกฎหมายเกี่ยวกับวิธีพิจารณาความอาญา และกฎหมายว่าด้วยตำรวจและพยานหลักฐาน (PACE) ของอังกฤษ หนังสือของท่านเกี่ยวข้องกับงานของผมโดยตรง ๔ รอบ ท่านก็ใช้ความนิ่งสงบความเคลื่อนไหวอย่างเดียว ....

ผมเลยคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาถึงสาเหตุดังกล่าว ท่านก็บอกว่า คงจะเป็นพฤติกรรม และความหยิ่งยะโส ของอาจารย์ในอังกฤษ ก็เป็นไปได้ ... แต่เพื่อนผมที่จบมาจากอังกฤษ และสก๊อตแลนด์ บอกว่า แท้จริง อาจารย์ในอังกฤษ ท่านขี้เกียจซะมากกว่า ไม่อยากจะต้อนรับ หรือดูแล อะไรมากมาย เลยใช้ความนิ่ง สยบความเคลื่อนไหว อีเมลล์ อะไร ข้าก็ไม่สนทั้งนั้น เวรกรรม

ไม่เป็นไรครับ อาจารย์ผมว่าจะลองพยายามให้ถึงที่สุด แล้วผมก็อีเมลล์ ไปทางอุปทูตฯ การศึกษาที่อเมริกา คือ คุณวิสูตรฯ ท่านก็กระตือรือร้นมาก เกี่ยวกับโครงการที่ผมจะต้องการดูงานที่ Home Office หรือ กระทรวงมหาดไทยของอังกฤษ กับ London Police Department ท่านบอกว่า ได้โทรศัพท์ประสานงานไปถึงคุณสุชาดา อุปทูตฯ ที่อังกฤษ ในวันรุ่งขึ้น ที่ผมอีเมลล์ไป แล้วท่านก็อีเมลล์กลับมา ..แจ้งให้ทราบ ปัจจุบัน ทาง สำนักงาน ก.พ. อังกฤษ ใช้สูตรเดียวกับ อาจารย์อังกฤษ ... ใช้ความนิ่ง สงบความเคลื่อนไหวอีกตามเคย .... เวรกรรม สงสัยนิสัยจะติดกันได้

แต่ไง แผนผมก็ยังเดินต่อไปครับ อาจารย์ที่ปรึกษาท่านก็จะพยายามติดต่อ แล้วท่านก็ให้ผมจองตั๋ว จองที่พัก แล้วท่านจะออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ ผมละซึ้งจริง ๆ อาจารย์ที่ปรึกษาของผมท่านช่างน่ารัก น่าเคารพ อย่างที่สุดจะหาได้ ... ถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็ Walk in เข้าไปคุยเลย หมดเรื่องหมดราว ... ท่านว่า

ผมได้ติดต่อ ท่าน Weerapong ไปด้วย ท่านก็ได้ให้ความเมตตา กับกระผมอย่างมาก ในการแสวงหาข้อมูล แล้วก็คำแนะนำ ประสานงาน เรื่องที่พัก นัดแนะให้การต้อนรับ ฯลฯ เลยอยากจะกราบขอขอบพระคุณ มา ณ ตรงนี้ไว้ล่วงหน้าเลย ... จะไม่ลืมน้ำใจไมตรีของท่านเลย ...

ตอนผมไปญี่ปุ่น ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก น้อง ๆ ที่จบการศึกษาจาก ม.เกษตร ในการจัดหาที่พัก ให้ผมไปแชร์ค่าใช้จ่าย ซึ่งจริง ๆ ทางน้องเพียว จะไม่ยอมรับเงินค่าช่วยเหลือที่พักของผมเลยด้วยซ้ำ ... ผมว่า เด็กเกษตร นี่ลูกทุ่ง ๆ จริงใจดี ยังซึ้งใจไม่หาย ทั้งน้องนก น้องเพียว อาจารย์ พัชรียา (ม.เกษตร) น้องจ๊ะ ฯลฯ และ อีกหลายท่าน ไม่งั้น ชีวิตในญี่ปุ่นปีที่แล้ว คงจะลำบากมาก เพราะการเช่าบ้านในญี่ปุ่น ต้องเสียค่านายหน้า ค่ามัดจำล่วงหน้า (ซึ่งไม่ค่อยจะคืน) ฯลฯ เป็นค่ากินเปล่า ก่อนจะได้เช่าจริง ๆ เจ๊งแน่ ๆ ครับ .... ขอบคุณอีกครั้ง และตลอดไปครับ

สำหรับแผนการของผม คือ เดินทางออกจากชิคาโก้ไปอังกฤษ ในวันที่ ๒๓ มิ.ย. ๕๐ ที่จะถึงนี้ .. คงได้มีเวลาพักผ่อนหายใจสักพัก แล้วก็จะเรียนกฎหมายเกี่ยวกับ Internet and Information System Law & International Intellectual Property Law ที่ U of Oxford at St. Peter College ในช่วง ก.ค. ถึง ส.ค. ก่อนจะกลับมา ณ สหรัฐฯ ครับ




สำหรับท่านที่อยู่ที่อังกฤษ... ผมขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ






 

Create Date : 02 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 8:02:05 น.
Counter : 506 Pageviews.  

เผื่อไว้ก่อน............

Blog กลุ่มนี้ สร้างเผื่อไว้ครับ เพราะอาจารย์ที่ปรึกษาของผม ท่านกรุณา จะส่งผมไปอยู่อังกฤษ สัก ๑ หรือ ๒ เดือน ในช่วงซัมเมอร์ ที่จะถึงนี้ เพื่อทำวิจัยเพิ่มเติม เกี่ยวกับกฎหมายในยุโรป และอังกฤษครับ ถ้าได้ไปจริง ๆ แล้ว คงมีเรื่องมาเล่าให้ฟังเยอะครับ

ขอบคุณ Professor Thomas S. Ulen อาจารย์ที่ปรึกษาใหญ่ ที่สนับสนุนทั้งเงินทองในการเดินทางและกินอยู่ ตั้งแต่ครั้งไปญี่ปุ่น เมื่อปีที่แล้ว และครั้งนี้ด้วยครับ ...

แย้มนิด ๆ ว่า อาจจะได้ไปสักแห่งครับ คือ ที่ University of Manchester และ Oxford ที่ St Peter's College ครับ แล้วจะกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องทราบนะครับ

และถ้าดวงผมมันเฮงสุด ๆ แล้ว อาจารย์รองอีกท่านหนึ่ง คือ Professor Tom Ginsburg จะส่งไปจีน ทำวิจัยเพิ่มเติม เกี่ยวกับระบบกฎหมาย และสังคมวิทยา ที่จีน และฮ่องกง อีกประมาณ ๖ เดือน .... ต้องรอผลอีกสักระยะครับ ถ้าได้ก็ดี ละครับ จะมีอีกกรุ๊ปหนึ่ง คือ "ย่ำแดนบรรพบุรุษ" ครับ




 

Create Date : 30 มีนาคม 2550    
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 8:02:31 น.
Counter : 462 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

POL_US
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]




คลิ๊ก เพื่อ Update blog พ.ต.อ.ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ ได้ที่นี่
https://www.jurisprudence.bloggang.com






รู้จักผู้เขียน : About Me.

"เสรีภาพดุจดังอากาศ แม้มองไม่เห็น แต่ก็ขาดไม่ได้ "










University of Illinois

22 Nobel Prize & 19 Pulitzer Prize & More than 80 National Academy of Sciences (NAS) members







***คำขวัญ : พ่อแม่หวังพึ่งพาเจ้า

ครูเล่าหวังเจ้าสร้างชื่อ

ชาติหวังกำลังฝีมือ

เจ้าคือความหวังทั้งมวล



*** ความสุข จะเป็นจริงได้ เมื่อมีการแบ่งปัน :

Happiness is only real when shared!














ANTI-COUP FOREVER: THE END CANNOT JUSTIFY THE MEANS!






Online Users


Locations of visitors to this page
New Comments
Friends' blogs
[Add POL_US's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.