*** พื้นที่ส่วนตัวของ พันตำรวจเอก ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ รองผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี นี้ จัดทำขึ้นเพื่อยืนหยัดในหลักการที่ว่า คนเรานั้นจะมีความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ได้ ก็ต่อเมื่อมีเสรีภาพในการแสดงความคิดโดยบริบูรณ์ และความเชื่อที่ว่าคนเราเกิดมาเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่มีอำนาจใดจะพรากความเป็นมนุษย์ไปจากเราได้ ไม่ว่่าด้วยวิธีการใด ๆ และอำนาจผู้ใด ***
*** We hold these truths to be self-evident, that all men are created equal, that they are endowed by their Creator with certain unalienable rights, that among these are life, liberty and the pursuit of happiness. That to secure these rights, governments are instituted among men, deriving their just powers from the consent of the governed. That whenever any form of government becomes destructive to these ends, it is the right of the people to alter or to abolish it, and to institute new government, laying its foundation on such principles and organizing its powers in such form, as to them shall seem most likely to effect their safety and happiness. [Adopted in Congress 4 July 1776] ***
Group Blog
 
All Blogs
 
ไปเที่ยวฝรั่งเศส : Galleries La Fayette Haussman




หากพูดถึง ปารีส แล้ว คนส่วนใหญ่ ที่เป็นนักช๊อปปิ้งตัวยง ก็อาจจะนึก ถนน Champs-Elysees หรือ ฌอง อะ ลิ เซ่ (ขออภัยถ้าออกเสียงผิด) ที่มีร้านรวงต่าง ๆ และห้างหรู ๆ ตั้ง เรียงราย ตามถนนนี้ ยาวประมาณ กม. เศษ จาก วงเวียน ประตูชัย (Arc de Triomphe) กับ ลานประหาร (Place de La Concorde)




Arc de Triomphe เป็นสิ่งก่อสร้างที่ นโปเลียนสร้างขึ้น เพื่อเป็นที่ระลึกการมีชัยชนะเหนือ ออสเตรีย ที่มีความสูงถึง ๑๖๕ ฟุต และกว้าง ๑๓๐ ฟุต โดยมีทางแยกของถนนต่าง ๆ ถึง ๑๒ แยก ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่า คนขับรถผ่านวงเวียนแห่งนี้ได้ จะต้องมีความสามารถสูงมาก ประตูชัยแห่งนี้ เปิดให้คนทั่วไป ปีนบันได ๒๘๔ ขั้น ขึ้นไปชมได้ ในราคา ๘ ยูโร ครับ (แต่อย่าลืมนะครับ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน พิพิธภัณฑ์ทั้งหลายในปารีส เข้าฟรีนะครับ ใครมาช่วงนั้น ก็อย่าลืมฉวยโอกาสใช้บริการครับ)

ถนน Champs-Elysees ที่คึกคักมาก เกิดขึ้น ในปี ๑๖๖๗ หลังจาก หลุยส์ที่ ๑๔ ได้สร้างถนน เพื่อเชื่อมต่อไปยัง Tuileries Garden และถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นแห่งเมืองแฟชั่นของฝรั่งเศส ก็ว่าได้ ถนนเส้นนี้ ก็เป็นที่ตั้งของลานประหาร ที่ Guillotine ได้บั่นคอผู้คนหลายพันคน รวมทั้ง หลุยส์ที่ ๑๖ และ เมีย คือ Marie-Antoinettte ด้วย

หากพูดถึง แหล่งช๊อปปิ้ง ของนักท่องเที่ยวแล้ว La Fayette ที่ตั้งอยู่บนถนน Haussman และมีถนนเล็ก ๆ ชื่อว่า Mogador ( ถ้าอ่านเป็น ภาษาอังกฤษ จะออกเสียงว่า โม๊ก กะ ดอร์ มังครับ แต่ไม่รู้ว่า ภาษาฝรั่งเศส ออกเสียงว่าอะไร) ก็จะเป็นอีกแหล่งหนึ่งที่จะได้ยินเสียงคนไทย ระงมไปหมด ผมจึงอยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร จึงได้ไปดูให้เห็นกับตาครับ

จะว่าไปจริง ๆ ผมนี่โชคไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไปที่ไหน ฝนก็ตก เรียกว่าฝนฟ้าไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ วันที่ ๙ ก.ค. ๕๐ ที่ผ่าน ก็เช่นกัน ฝนตก ๆ หยุด ๆ แดดตอนเช้ายันบ่ายไม่ดี เลยต้องตัดสินใจไปเดินดูโรงละคร Opera Granier ซึ่งผมยื่นบัตรนักเรียน และขอลดราคา เหลือ ๔ ยูโร ได้ ในการเข้าชม โรงละครที่สร้างขึ้น เพื่อเป็นที่ระลึกให้แก่ นโปเลียน สมัยที่ ๓ และเสร็จสิ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๘๗๕ ที่ตั้งอยู่บนถนน L' Opera ที่เคยเป็นถนนที่มีร้านรวงนำสมัยที่สุดในปารีสด้วยครับ โรงละครแห่งนี้ เป็นแรงบันดาลใจในการสร้าง Phantom of the Opera ด้วยครับ ผมจะบอกว่า ห้องกระจก และการตกแต่งของโรงละครแห่งนี้ สวยงามกว่าของพระราชวัง Versailles เสียด้วยซ้ำไปครับ แต่มันไม่ได้ใหญ่โตเท่าพระราชวัง Versailles เท่านั้น

ด้านหลังของ โรงละครแห่งนี้ มีห้างดัง คือ La Fayette ครับ เป็นบริเวณที่คึกคักมาก ผมต้องเอาตัวอ้วน ๆ ของผม เบียดเสียดยัดเยียดเข้าไปในห้างนี้ ซึ่งแบ่งเป็น ๓ ตึกใหญ่ ๆ ขนาบสองฝั่งถนน Haussmann ครับ ด้านหนึ่ง จะแบ่งสินค้าสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ... ตั้งแต่ น้ำหอม และเครื่องสำอางค์ หลายร้อยชนิด อยู่ชั้น -1 (ผมละงงวิธีการ เรียงลำดับ ชั้นของตึกในฝรั่งเศส ใช่น้อยครับ) ซึ่งน้ำหอม มีราคา ตั้งแต่ ๔๐ กว่ายูโร ขึ้นไป แล้วชั้นที่เหลือ ก็มีสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นของผู้หญิงทั้งสิ้นครับ จะมีของเด็ก ปนอยู่บ้าง ไม่มาก และมีของกินสักชั้นหนึ่งเท่านั้น ผมสังเกต ราคาแล้ว ผมแทบจะเป็นลมครับ

อีกตึกหนึ่งเป็นสินค้าเฉพาะของผู้ชาย ซึ่งไม่ได้ตกแต่งสวยหรูอย่างห้างฝั่งสำหรับผู้หญิงแม้แต่น้อย เพราะการแต่งอาคารภายในของฝ่ายสินค้าสำหรับผู้หญิงนั้น มีโดมกระจกสีต่าง ๆ ตรงกลาง มีรายสไตล์หลุย ตกแต่งสวยงามครับ แต่ของฝั่งผู้ชายนะเหรอ ไม่มีอะไรเลยครับ แต่สินค้า มีราคา แพงมาก ๆ ยกตัวอย่างเช่น ยี่ห้อ Boss เสื้อยืด อย่างสวนจตุจักร สัก ๑๙๙ บาท ที่นี่ ก็ ๑๐๐ กว่า ๆ ยูโร เสื้อใส่กันหนาว แบบสเวทเตอร์ บาง ๆ ตัวละ ๓๖๐ ยูโร ได้ ยี่ห้อพวก Dior นี่ไม่ต้องพูดถึง เห็นแล้วลมแทบใส่ครับ เพราะมันมีราคา แพงเช่นเดียวกัน และ แพงกว่า งบประมาณ ที่ผมใช้มาเที่ยว ฝรั่งเศส เสียด้วยซ้ำ (เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าที่พัก และทำอาหารกินเองนะครับ ผมจึงมีงบ ไม่เกิน ๓๕๐ ยูโร ในการดำรงชีวิต อาทิตย์เศษ ในฝรั่งเศสได้) นี่ขนาดว่า ราคามันลดลง ไป ๓๐ ถึง ๕๐ เปอร์เซ็นต์ แล้ว .... โอ้ มันแพงมากครับ

โดยเฉพาะ สินค้านำเข้าจากประเทศสหรัฐ และ อังกฤษ ก็ไม่ต้องพูดถึงครับ เพราะภาษีขายที่นี่ราว ๒๐ เปอร์เซ็นต์ แม้จะขอ Tax Refund ได้ ผมก็ไม่ซื้ออยู่ดี เพราะพิจารณาโดยรอบคอบแล้ว เสื้อผ้าที่อเมริกา ถูกกว่ามาก ๆ ยกตัวอย่าง ยี่ห้อง Tommy เสื้อโปโล ๑ ตัว ที่ขายตาม Outlet เหลือ ๕ ถึง ๒๐ เหรียญสหรัฐ แต่ที่นี่ ลด ๓๐ ถึง ๕๐ เปอร์เซ็นต์แล้ว ราคา ก็ยังอยู่ที่ ๓๐ ถึง ๘๐ ยูโร ครับ




ด้วยเหตุนี้ ผมเอาตังค์ไปซื้อ เสื้อในอเมริกา ตอนลดราคา ตัวละไม่เกิน ๔ เหรียญ ตามค่านิยมส่วนตัวของผมดีกว่า .... แล้วพบกันใหม่ครับผม สวัสดีครับ






Create Date : 11 กรกฎาคม 2550
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 7:59:14 น. 13 comments
Counter : 1085 Pageviews.

 
ดีค้าบพี่
ตัวละ4เหรียญเหรอ...อยู่ไหนๆ
ผมจะตามไปคับ

(ตอนผมไป...ซื้อไม่ลงเหมือนกันคับ...จำได้แต่ว่าซื้อโพสต์การ์ดมาแยะทีเดียว)


โดย: Kurt Narris วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:38:57 น.  

 
แวะมาทักทายคะ มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: mintny_n วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:55:19 น.  

 
ชอบ La Fayette ในปารีสค่ะ ของเยอะกว่า La Fayette ในเบอร์ลินมากมาย แต่ที่จริงแล้วชอบ Printemps มากกว่าค่ะ ทัวริสต์ขอบัตรลด 5 เปอร์เซ็นต์ได้ ถึงจะ้น้อยนิดแต่ก็ต้องใช้สิทธิ์นะคะ แฮ่

แต่เห็นด้วยอย่างมากเลยว่าแทบทุกแบรนด์(เดียวกัน) ในอเมริกาถูกกว่ามาก ๆ บางทีลองคิด ๆ ดูแล้วเนี่ย ของมันราคาตัวเลขเดียวกันเลยนะคะ ยกตัวอย่างเสื้อตัวนึงอยู่เมกามันเป็น 320 ดอลล่าร์ มายุโรปในอียูมันเป็น 320 ยูโร และมันก็กลายเป็น 320 ปอนด์ในอังกฤษ ตัวเลขเดียวกันแต่มันต่างกันสุดฤทธิ์เลยเน้อ


โดย: MoneyPenny วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:27:24 น.  

 

หวัดดีค่ะคุณพบ ไม่ได้เข้ามาอ่านซะหลายวัน ไปถึงปารีสแล้วเหรอคะเนี่ย อยากเกาะกระเป๋าไปด้วยจังค่ะ ....


โดย: Htervo วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:53:39 น.  

 
เห็นด้วยกับพี่จูน MoneyPenny เลยค่ะ ...
ราคาเปลี่ยนแค่หน่วยของเงินเท่านั้น ความแตกต่างเลย
มีเยอะเลย .. อีกอย่างก็พอๆ กับค่าเงินเหมือนกัน
เมื่อก่อนอย่างฮอลแลนด์ใช้ค่าเงินเป็น กิลเดอร์ แต่พอ
มาเปลี่ยนเป็นยูโร มันก็ยังเป้นตัวเลขเท่าเดิม ซึ่งจริงๆ
แล้วราคามันต่างกันเยอะเลยน๊า ...


เอ เขียนแล้วอ่านงงหรือเปล่าค่ะเนี่ย ...


โดย: JewNid วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:55:03 น.  

 
Wow, clothes are truly expensive over there in Europe...

Thanks for sharing krub.

BTW, NB was eliminated from a tennis tourney yesterday... It was a 115-min match... The score was 4-6, 6-2, and 8-10.... It was really fun watching him play... even he lost..

I'm a one proud dad... :)

He's now ranked 14th in the state (10-and-under division).... He set his own goal to be #1 before the end of this year...

FYI, he said by himself no dad nor mom's influences whatsoever... :)


โดย: A.T. IP: 129.82.33.213 วันที่: 12 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:01:10 น.  

 
ฝรั่งเศสอยู่ในช่วงที่เค้าเรียกว่า SOLDES คือร้านค้าจะลดราคากันทั้งเมือง ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน

สินค้าต่างๆเค้าก็ลดราคากันจริงๆนะครับ โดยเฉพาะในสัปดาห์สุดท้ายของการลดราคานี้ ก็จะยิ่งลดเยอะมากๆ

..แต่อย่างไรแล้วเมื่อเที่ยบเป็นเงินบาทออกมาก็ยังแพงอยู่ในทุกกรณีครับ

ที่ Galleries La Fayette ปกติมีคนไทยเดินกันเยอะเลย..ดูอบอุ่นดีครับ...ยิ่งเป็นช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.

ผมก็ไปมาหลายครั้งแล้วเหมือนกัน แทบจะไม่เคยซื้ออะไรเลยครับ..อาจเป็นเพราะงบประมาณน้อยด้วย

อีกอย่างผมไม่รู้ว่าตอนนี้เปลี่ยนไปหรือยัง... ไม่ได้ไปนานแล้ว ห้างใหญ่โต ห้องน้ำน้อยมาก แถมยังเก็บตังค์อีกครับ
ตรงนี้ผมว่าแย่มากเลยครับ


โดย: pompier วันที่: 12 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:07:07 น.  

 
แวะมาขอบคุณ คุณ POL_US นะคะ...ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ


โดย: JC2002 วันที่: 12 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:59:03 น.  

 
เห็นของแพงๆ แล้วเศร้านะครับ
ก็มันอยากได้แต่งบไม่มี อิอิ

เมื่อก่อนผมนี่พึ่งแต่ GAP ตลอดเพราะลดแล้วลดอีก
outlet อยู่ไกลไปหน่อย เดินทางไม่สะดวก


โดย: กะได วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:21:02 น.  

 
ไม่เห็นมีรูปเลยพี่ อยากดูอะ


โดย: นายกาเมศ วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:47:26 น.  

 
ช่วงนี้ เป็นเวอร์ชั่นไม่มีรูปครับ พี่น้องครับ

GAP ในอเมริกา นี่ค่อนข้างจะราคาแบบไม่ถูกไม่แพง แต่ตอนลดราคานี่ ก็ใช้ได้เหมือนกัน อยู่ในงบประมาณที่พอซื้อได้ครับ

พูดถึงฝรั่งเศสนี่ เหมือนใน เยอรมันเลย เข้าห้องน้ำห้องท่า เสียตังค์ไปเกือบทุกแห่ง อย่างน้อย ๕๐ เซ็นต์ ประมาณ อารมณ์ว่า อยากจะฉี่ ก็ขอเข้าตามร้านอาหารได้ ฉี่ได้ แต่บางร้านจะเก็บตังค์ บางร้านก็ใจดี ให้ใช้ได้ฟรีครับ

ห้อง ลาฟาเยท นี่ ตอนนี้ มีห้องน้ำฟรี แต่มันค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับคนมาใช้บริการ ยังดีที่ไม่เก็บตังค์นะเนี่ย ไปไหน ก็เห็นป้ายลดราคา สงสัยเตรียมฉลองวันก่อตั้ง พรรค ทรท. เอ้ย วันชาติ ฝรั่งเศส ๑๔ ก.ค.นี้ครับ





โดย: POL_US @ Paris IP: 212.11.27.210 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:45:55 น.  

 
ขยันอัพจังนะคร้าบ (ไม่เคยอ่านบล็อคพี่จบรวดเดียวซะทีจริงๆ นะเนี่ย)


โดย: แ ม ง ป อ วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:40:43 น.  

 
เห็นด้วยกับพี่ POL_US ผมเองก็เลือกชมความงามของโดมที่ห้าง Galleries La Fayette ที่อลังการสุดๆ แต่สินค้าไม่กล้าแตะครับ(กลับมาซื้อเมืองไทยถูกกว่าเยอะ) ต่างกันตรงที่ว่าเมื่อเดินจนเหนื่อยผมเลยขึ้นไปนั่งทานไอศครีมถ้วยโตกับเค็กแสนอร่อย(สนนราคาพอรับได้)เพื่อแลกกับการได้นั่งชมวิวหอไอเฟล และเมืองปารีส ที่ร้านอาหารบนห้าง ยังประทับใจอยู่เลย...ครับ


โดย: หมูอ้วน IP: 203.113.34.10 วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:09:57 น.  

POL_US
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]




คลิ๊ก เพื่อ Update blog พ.ต.อ.ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ ได้ที่นี่
https://www.jurisprudence.bloggang.com






รู้จักผู้เขียน : About Me.

"เสรีภาพดุจดังอากาศ แม้มองไม่เห็น แต่ก็ขาดไม่ได้ "










University of Illinois

22 Nobel Prize & 19 Pulitzer Prize & More than 80 National Academy of Sciences (NAS) members







***คำขวัญ : พ่อแม่หวังพึ่งพาเจ้า

ครูเล่าหวังเจ้าสร้างชื่อ

ชาติหวังกำลังฝีมือ

เจ้าคือความหวังทั้งมวล



*** ความสุข จะเป็นจริงได้ เมื่อมีการแบ่งปัน :

Happiness is only real when shared!














ANTI-COUP FOREVER: THE END CANNOT JUSTIFY THE MEANS!






Online Users


Locations of visitors to this page
New Comments
Friends' blogs
[Add POL_US's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.