เวลาเป็นเงินเป็นทอง แต่เวลาที่ใช้อ่านหนังสือสามารถให้สิ่งที่มีค่ากว่าเงินทองแก่เราได้
Group Blog
การคืบคลานของหนอน
นวนิยายที่(อ่านแล้ว)รัก
จิปาถะที่อยากกล่าวถึง
บ่นพร่ำไปตามประสา
สมุดโน้ตจดเล่น
ชั้นหนังสือหมายเลข 1
All Blogs
TBR 2009 คู่มือศึกษาประวัติศาสตร์โลกฉบับไม่งี่เง่า+โครอลไลน์, พร้อมรบรับมือหุ่นยนต์+ผีญี่ปุ่น+SFC1
ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ควันหลงงานสัปดาห์หนังสือ เม.ย .52
เก็บมาจากงานสัปดาห์หนังสือ เม.ย. 52 เหลือไว้เพียงความทรงจำ (ว่าเคยมีตังค์)
Mr.Pig งานหมูหรืองานหนัก เราก็รักที่ทำงาน (มั้ง?) + Love on 20 Pages + โตขึ้นผมอยากเป็นหมา
TBR 2009 แม้จะเริ่มช้าไปแต่ก็ขอ Dare to die + หนังสือที่อ่านจบใน 2 เดือนที่ผ่านมา
แฉด้วยภาพ : กองดองที่หมักบ่มในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา
สรุปกองดอง ปี 51 ยังคงกองสูงมากเหมือนเดิม
แค้นพรางใจ : ซย่าอี (มากกว่ารักเล่มแรกที่ลงทุนซื้อ)
ทวิดารา (Double Star ) : Robert A. Heinlein
งานหนังสือที่ Double A Book Tower (25 ต.ค. 51)
สรุปงานมหกรรมหนังสือ ต.ค. 51 (เดินวันที่ 22 อีกรอบกับวันที่ 23 อีกหน่อย)
บันทึกเดินงาน (หนังสือ) ตอนวิญญาณใกล้หลุด (12 ต.ค. 51)
มองโลกผ่านหนังสือ : สมเกียรติ อ่อนวิมล (หนังสือเกี่ยวกับหนังสือ ประเทศไทย และโลกใบนี้)
อาบูกับสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7
30 วัน เล่ม 1 และ เล่ม 2 : ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา
มหกรรมภาษาและวัฒนธรรม : สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) (บอกเล่างานน่าสนใจ)
30 วัน เล่ม 3 เปิดโลกหนังสือ : ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา
The Edge Chronicles : Paul Stewart & Chris Riddell (ฉบับแปล)
Dragon Delivery เล่ม 3 : พัณณิดา ภูมิวัฒน์
พระราชาชาวนา (Farmer Giles of Ham) : J. R. R. Tolkien
บัลลังก์รักบนเนินทราย : คาซี
พันหนึ่งเม็ดทราย เล่ม 1-2 : คาซี
มอญซ่อนรัก : กนกณัชชา
บันทึกจากงานหนังสือ มี.ค. 51 ตอน 2 : ปิดงบประมาณ (พร้อมกินแกลบเล็กน้อยถึงปานกลาง)
บันทึกจากงานหนังสือ มี.ค. 51 ตอน 1 : ความจริงแค่สองวันก็หมดตัวแล้วT^T
สำรวจชั้นหนังสือ 2 : ทำไมหนังสือให้ความรู้มักไม่ใช่หนังสือที่เราซื้อ+เล็กๆน้อยๆจากงานหนังสือวันแรก
โครงการประกวดเรื่องสำหรับหนังสือการ์ตูน ครั้งที่ 2 : น่าสนใจมาก เผื่อว่าใครอาจจะยังไม่เห็นค่ะ
สำรวจชั้นหนังสือ : เตรียมวางแผนการในงานสัปดาห์หนังสือ เม.ย. 51
เรื่องรักนักจัดรายการ : อณิศยา
กาแฟ น้ำชา และกาน้ำ : เมเปิลสีขาว
พระจันทร์กลางน้ำ : W. Maple
ณ ที่ปลายฟ้าจรดพื้นน้ำ : ลิปิการ์
ไอลีจา...พันธสัญญาแห่งใจ : yayoi
Cursed Heart...วังวนแห่งมนตรา : คาซี (ปราณธร)
ลุยอุตลุดไปกับชุดอวกาศ : Have Space Suit - Will Travel
เพลิงสีน้ำเงิน : ศรีสุรางค์
คีตธร : ฯคีตกาล
ราชันแห่งแอตโทเลีย (The King of Attolia)
ราชินีแห่งแอตโทเลีย (The Queen of Attolia)
วังพญาพราย : พงศกร
จอมโจรยูเจนิดิส (The Thief) (สนุกค่ะ)
20 เล่ม ใน 37 วัน รีวิวมาราธอนรอบที่ 2
งาน Magezine & Book Fair ที่สยามพารากอน 22 พ.ย. 2550
Dragon Delivery 2 "กี๊ซซ..ก๊าซซ" (สำเนียงมังกรแปลว่า กรี๊ด..กร๊าด.)
20 เล่ม ใน 37 วัน รีวิวมาราธอนรอบที่ 1
อาทิตย์แรกแห่งพันต์ : W. Maple
กลิ่นการเวก : พงศกร
โอลีน มินนอร์ไซน์ เจ้าหญิงยอดนักสู้แห่งไมน์
งานหนังสือ 26 ต.ค. เสียเงินปิดท้ายแล้ว(จริง ๆ)
งานหนังสือ 25 ต.ค. (เสียเงินจริงจังแล้ว)
งานฯหนังสือฯวันแรก 17ต.ค.50(นิราศโซน C ชั้น 1)
"12 อาณาจักรเทพยุทธ์ เล่ม 4" กับ "ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ ซ.พระนาง" (ขอบ่นและขอชมค่ะ)
พื้นที่สีเขียวบนโลกใบนี้ หายไปวินาทีละหนึ่งสนามฟุตบอล
พันหนึ่งเม็ดทราย เล่ม 1-2 : คาซี
พันหนึ่งเม็ดทราย เล่ม 1
โดย : คาซี
จำนวนหน้า : 344
ราคา : 209
รายละเอียด : ภายใต้ดวงอาทิตย์แผดจ้า
บนผืนทรายสีทองกว้างไกลสุดสายตา
ณ โอเอซิสชุ่มฉ่ำยังมีเมืองหนึ่ง...อัลบาฮัดซู
ตึกฝรั่งกลางตลาดคือสำนักงานนักสืบของเจค บาวน์ ไม่มีใครในเมืองนี้ไม่รู้จักเขา
ด้วยเพราะความเซ่อซุ่มซ่ามเป็นหนึ่งไม่มีสอง แต่ถ้าทำสิ่งใดสูญหาย มาที่นี่แล้วไม่มีผิดหวัง
เมื่อ วาดี ของสุลต่านหายไปอย่างไร้ร่องรอย องค์หญิงไนฮาจึงว่าจ้างเจคให้ตามมันกลับคืน
จริงอยู่ว่างานนี้สำคัญมาก อีกทั้งไม่อาจรั้งรอ แต่ก่อนหน้านี้เขาได้ตอบรับการว่าจ้าง
สืบหาตัวตนของเด็กหนุ่มลึกลับที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อของตัวเองไปแล้วนี่สิ
คนหนึ่งดื้อรั้นเอาแต่ใจ แถมมีศักดิ์ใหญ่โต อีกคนท่าทางพึ่งพาตัวเองไม่ได้ น่าสงสารชวนให้เห็นใจ
จะตัดผู้ว่าจ้างจากสองเหลือหนึ่งหรือก็ทำไม่ได้ ถึงเป็นนักสืบชื่อเสีย (ง) โด่งดัง
แต่อย่าลืมสิว่าเขามีแค่สองมือสองเท้าเท่านั้น!
พันหนึ่งเม็ดทราย เล่ม 2 (เล่มจบ)
โดย : คาซี
จำนวนหน้า : 312
ราคา : 189
รายละเอียด : เบื้องหลังใบหน้ายิ้มแย้มและท่าทางร่าเริงของเจค บาวน์ นักสืบหนุ่มแห่งตึกฝรั่งกลางตลาด
ที่เหล่าคนทะเลทรายรู้จัก มีความลับอันน่าตื่นตะลึงซ่อนอยู่อย่างมิดชิด
พวกเขาเคยคิดว่ารู้จักสหายต่างเผ่าผู้นี้เป็นอย่างดี หากนั่นเป็นเพียงเศษเสี้ยวซึ่งเจ้าตัวยอมเผยเท่านั้น
มีปริศนามากมายนักชวนให้สงสัย ...กระสุนติดไฟสีฟ้าเผาไหม้พวกปีศาจเป็นสิ่งปกติธรรมดาของอาวุธปืน
อย่างนั้นหรือ ...แววตาหม่นเศร้ารวดร้าวที่แวบขึ้นยามเผลอไผลก็ช่างผิดแผกไปจากตัวตนปกติ
และชื่อ ลูเซีย ที่หลุดออกจากปากเขาโดยไม่ตั้งใจนั่นอีก...หมายถึงใครกัน
เจคเฝ้ารอคอยวันนี้มาเกือบสามปี วันที่ร่องรอยของผู้ที่ทำให้เกิด เรื่องราว เมื่อครั้งนั้นปรากฏ
แม้เขาจะยึดอัลบาฮัดซูเป็นบ้าน แต่การจากลาเพื่อติดตามเธอผู้นั้นไม่อาจไม่สนใจ
ครั้งนี้แหละที่เขาจะต้อง จบ ทุกสิ่งทุกอย่างลง เพื่อปลดปล่อยตัวเองจากพันธะใดๆ
แล้วทำตามสิ่งซึ่งหัวใจปรารถนาเหลือเกินเสียที
ที่มาของข้อมูล เว็บ สนพ. แจ่มใสค่ะ
-----------------------------------------------------------------------
เท้าความ
ดังที่เคยพูดถึงว่า จขบ มีความรักความหลังกับเรื่องนี้มาก ดังนั้นก็ได้เวลาเมาท์แล้วค่ะ ว่าความรักความหลังแต่หนใดกัน
นับย้อนไปตั้งแต่สมัยที่เรื่องนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกกับ สนพ. เดิม เมื่อ 4 ซ้า 5 ปีก่อน จขบ. ก็ได้อ่านเรื่องนี้โดยตอนนั้นยืมจากเพื่อนคนหนึ่งค่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้อ่านผลงานและได้รู้จักชื่อผู้เขียนเรื่องนี้ คือ คุณฯคี และเพียงแค่อ่านเรื่องนี้ครั้งเดียวเท่านั้น จขบ. ก็สาบานตนเป็นสาวกของคุณฯคี ทันที
-------------------------------------------------------------------------
ความรู้สึกหลังจากอ่าน
ความรู้สึก ขอกล่าวรวม ๆ ย้อนไปถึงสมัยที่ได้อ่านครั้งแรกด้วยก็แล้วกันค่ะ
แต่ถ้าถามว่าพิมพ์ครั้งแรกกับพิมพ์ครั้งนี้ต่างกันอย่างไร ขอยืดอกยอมรับอย่างภาคภูมิค่ะ ว่า "จำไม่ได้แล้ว" ก็อย่างที่บอกไปแล้วค่ะ ว่าสมัยก่อนนู้นยืมเพื่อนอ่าน ไม่ได้ซื้อเก็บ ก็เลยจำไม่ได้แล้ว
จำได้อย่างเดียวว่าพิมพ์ใหม่นี้มีตอนพิเศษเพิ่มขึ้นมา กับเชิงอรรถเพิ่มขึ้นมามั้ง
ขออภัยค่ะ
ส่วนความรู้สึกทุกครั้งที่อ่านนั้น จขบ. คิดว่าเรื่องนี้สามารถเล่าให้ จขบ. จินตนาการถึงดินแดนแห่งทะเลทรายทั้งเจ็ดได้ชัดเจนมาก คงเพราะมีรายละเอียดหลายอย่างเกี่ยวกับวิถีชีวิต ประเพณี ศาสนา และแม้แต่กระทั่งตำนานซ้อนอยู่ในฉากหลังด้วย ก็เลยรู้สึกว่าดินแดนแห่งทะเลทรายในเรื่องดูเป็นจริงมาก และได้บรรยากาศของตำนานอาหรับจริง ๆ ในความคิดของ จขบ. ไม่ใช่แค่เซตขึ้นมาว่าฉากเป็นทะเลทราย
อ่านแล้วคิดถึงเสน่ห์ของนิทานอาหรับที่เคยอ่านสมัยเด็ก ๆ มากเลยค่ะ (ถึงตอนเป็นเด็กจะเคยอ่านแต่ อาละดิน กับ อาลีบาบา ก็เถอะ) ทำเอา จขบ. อยากไปหาพันหนึ่งราตรีกับพันหนึ่งทิวามาอ่านมาก เพราะอยากรู้เรื่องตำนานของทางอาหรับให้มากขึ้นกว่านี้ค่ะ
มีข้อความที่ จขบ. อ่านแล้วชอบมากที่สุดในเรื่อง คือ ที่เปรียบชีวิตกับเม็ดทรายค่ะ
...หนึ่งกำมือเม็ดทรายของเจ้าเปรียบดั่งกาลเวลาทั้งชีวิต แม้ผ่านไปสักพันหนึ่งราตรี ยังเหลือเม็ดทรายในมืออีกหลายพัน พันหนึ่งเม็ดทรายคงพอสำหรับการลืมความเศร้าอันเกิดจากการพลัดพราก จงอย่าให้นานกว่านั้น เพราะคนเรามีเรื่องต้องทำมากกว่านั่งนับเม็ดทราย...
จขบ. ชอบข้อความนี้มากค่ะ อ่านแล้วอยากถามผู้เขียนว่า ข้อความนี้เป็นที่มาของชื่อเรื่อง หรือชื่อเรื่องเป็นที่มาของข้อความนี้ มันมองได้สองทางน่ะ
เรื่องราว -- จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ทำให้อารมณ์ จขบ. ค่อนไปทางสนุกสนานค่ะ เพราะเจอกับสารพัดอย่าง นู่น นี่ นั่น อยู่ตลอดเลย ทั้งสุลต่าน เจ้าหญิง เจ้าชาย ปีศาจ พรมวิเศษ ยักษ์ จินน์ ตะเกียง ฯลฯ ให้อารมณ์เหมือนได้ผจญภัยในนิทานอาหรับค่ะ บอกแล้วว่าอ่านแล้วนึกถึงนิทานที่อ่านสมัยเด็ก เพราะมีการดึงเกร็ดตำนานและบรรยากาศของอาหรับมาใช้กับแต่ละเหตุการณ์และเรื่องราวในเรื่องได้ลงตัวมากในความรู้สึกของ จขบ.
ยกเว้นแต่เรื่องของคุณเจค บาวน์ นี่ละค่ะ ที่ยอมรับว่าตอนที่อ่านตอนแรกคาดไม่ถึงว่าผู้เขียนเธอจะดึงเอาตำนานของอีกซีกโลกมาใส่ลงไปได้ แปลกและเดาไม่ได้ แต่มันก็เหมือนพลิกอารมณ์ตลบกลับด้านแบบงง ๆ ตั้งตัวไม่ทันอยู่หน่อย ๆ เหมือนกัน
แต่ถึงอารมณ์ของเรื่องนี้จะเข้าโหมดจริงจังดราม่ามืด ๆ ในช่วงหลัง แต่ก็ดันมีตัวขโมยซีนมาทำให้ จขบ. ไขว้เขวอยู่ดี ตัวขโมยซีนของ จขบ. เป็นใคร อ่านต่อไปแล้วจะทราบเองค่ะ
และที่ทำให้ จขบ. รักเรื่องนี้มาก คือ ตัวละครค่ะ บรรดาชายหนุ่มในเรื่องนี้นั่นเอง (ฮา)
เรื่องนี้เต็มไปด้วยตัวละครที่น่ารักค่ะ แต่เนื่องจากตัวละครหญิงที่เด่นมาก ๆ มีหนูไนฮาอยู่คน กะเจ้าหญิงจัสมินอีกคน รวมลูเซียด้วยแล้วก็...อืม...จะว่าไปเรื่องนี้ก็ไม่ถึงกับขาดแคลนตัวละครหญิงนักหรอกค่ะ แต่ตัวละครชายมันดูมีอะไรเด่นกว่าอยู่บ้าง รู้สึกเหมือนว่ามีภาพที่เด่นชัด
(และแปลก)
กว่ามั้ง
คนแรกก็คือ ตาเจค บาวน์ พระเอกของเรื่อง - เฮียแกเป็นนักสืบค่ะ แต่ดูจะไม่ค่อยได้แสดงฝีมือเท่าไหร่ ถ้าหากไม่ใช่คดีที่มีอาถรรพ์เข้ามาเกี่ยว เจคจะเเอบแสดงฝีมืออยู่เป็นจุด ๆ ค่ะ ต้องจับสังเกตเอา อ่านไปจนถึงหลัง ๆ พึ่งรู้สึกว่า เออ...แกก็เก่งเหมือนกันนี่ (ขอโทษนะเจค - -") เจคเป็นคนสดใสร่าเริง และ (แกล้ง) ซุ่มซ่ามเหมือนนางเอกนิยายลูกกวาดสมัยนี้ แต่เสียใจด้วยนะเจค ถึงช่วงหลังแกจะเข้าโหมดจริงจัง แต่ก็ยังไม่ได้ใจฉันหรอก
มุสตาฟา - ลุงยังหนุ่มของไนฮากะไฟซาล เกือบทำให้ จขบ. โอจิค่อนกำเริบค่ะ แต่ยังเป็นหนุ่มน้อยอยู่เลย จขบ. เลยจิ้นเป็นลุงไม่ออก ชอบตอนลุงมุสตาฟาเจอกะพ่อของอาซามันน่ะค่ะ
คนต่อมาก็คือ อัลบา ไฟซาล เจ้าชายรัชทายาทแห่งอัลบาฮัดซู พี่ชายของหนูไนฮาผู้น่ารักค่ะ รายนี้ เอ๊ย...องค์นี้เป็นเจ้าชายที่ควรค่าแก่การเป็นเจ้าชายสุด ๆ เป็นคนเก่งค่ะ จขบ. อ่านไป ชื่นชมไป เป็นผู้นำ เป็นคนที่น่าชื่นชมจริง ๆ นะ ถ้าเป็นพระเอก เจ้าชายก็ไม่มีทางเป็นพระเอกประเภทซื่อบื้อโดนตัวโกงหรือนางอิจฉาหลอกด้วยมุขโบราณ ๆ หรือประเภทเข้าใจผิดนางเอกทั้งเรื่อง จนจับตัวเขามาทรมานจนเกือบจบแน่นอน คนนี้ได้ความชื่นชม+นับถือไปเต็มที่ แต่ว่าก็ยังไม่ได้ใจ จขบ. ไปจนถึงกับหมดดวงค่ะ
คนที่สามคือ มาฮาลคาซัน ท่านชายแห่งวังทอง ซาฮาบา กอซอรอค่ะ มาฮาลเป็นผู้วิเศษที่มีพลังอำนาจมากมายมหาศาล มีบริวารเป็นยักษ์ทั้งกองทัพใหญ่ ๆ อ่านแล้วรู้สึกว่าถ้ารายนี้เป็นพระเอกเรื่องไหน เรื่องนั้นคงได้มีสงครามมหาเวทพลิกพสุธา ถล่มปฐพี สะท้านไปถึงเวหาอะไรเทือกนั้น เพราะคงต้องขุดจอมปีศาจกับบริวารร้าย ๆ อีกสักกองทัพขึ้นมาจากนรกชั้นโลกันตร์ถึงจะคู่ควรเป็นคู่ต่อสู้ของมาฮาล (รออ่านเรื่องของมาฮาลอยู่นะคะ พี่กก
) ที่จขบ. ชอบเพราะมาฮาลเก่งมาก (จะว่าไปแล้วก็เท่มากด้วย) แต่ดันกวน - -" มาฮาลก็เป็นตัวละครอีกลักษณะหนึ่งที่ จขบ. ชอบมาก แต่น่าเสียดายที่มาฮาลก็ยังไม่ใช่สุดที่รักของ จขบ. อยู่ดี
คนสุดท้ายที่จะขอเมาท์ แต่ไม่ใช่ลำดับที่ท้ายสุด ก็คือ อาซามัน เจ้าชายแห่งเจฮัมซุส ค่ะ คนนี้เป็นเจ้าชาย แต่ว่าเป็นเจ้าชายที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร ก่อนอื่นขอสารภาพก่อนว่า หมอนี่เองค่ะที่เป็นตัวขโมยซีนสำหรับ จขบ. และยังเป็นหนึ่งในบรรดาตัวละครในดวงใจ (นับจากเท่าที่อ่านนิยายมาทั้งชีวิต) ของ จขบ. อีกด้วย
อาซามันเป็นเจ้าชายแห่งเมืองที่สภาพเศรษฐกิจและการคลังไม่ค่อยดี พูดภาษาชาวบ้านคือ...จน... นั่นเอง เพราะความจนอาซามันเลยต้องเรียนหนังสือไป เวลาว่างก็ออกทำมาหากินด้วยการล่าสมบัติบ้าง เป็นโจรปล้นโจรบ้าง จน 99% ของคนทั่วไปจะมีตาแต่หามีแววไม่ เพราะดูไม่ออกว่าอาซามันเป็นเจ้าชาย (อ้างอิงจากข้อความ+เหตุการณ์ในเรื่อง) ทั้ง ๆ ที่แบกพระยศเป็นเจ้าชายตัวจริงเสียงจริงอยู่ค่ะ - -"
และด้วยความจนนี่เองที่ทำให้อาซามันเป็นเจ้าชายที่งก ... เอ่อ...เห็นค่าของเงินมากกก จนขนาดโดนเรียกความสนใจ (หลอก) ด้วยมุขประเภท "ใครทำเพชรหล่นน่ะ" ได้ไม่ยาก ทั้งที่ปกติเป็นคนฉลาดแท้ ๆ
แล้วมุกเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของอาซามันยังมีอีกเยอะมาก เชิญอ่านได้จากในเรื่องและตอนพิเศษของเจ้าตัวท้ายเล่มได้ค่ะ แล้วคุณจะรู้ว่าเจ้าชายที่ทั้งเก่ง แสบ จอมโวย ใจดี งก..เอ๊ย...ละเอียด แต่ฮาสุด ๆ มีจริง !!!
ตั้งแต่ครั้งแรกทื่อ่านเมื่อ 5 ปีก่อนนู้น จขบ. ก็หลงรักอาซามันเอามาก ๆ แล้ว จำได้ว่าตอนนั้นไปอ้อนวอนผู้เขียนว่าอยากอ่านตอนพิเศษของรายนี้มาก (ตอนนั้นเคยขออนุญาตเขียนแฟนฟิคให้อาซามันด้วย แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เขียน
) แล้วก็รอมาตั้งแต่ตอนนั้นจนมาพิมพ์ใหม่ในครั้งนี้ ในที่สุดก็ได้อ่านจนได้
จขบ. ซาบซึ้งกับตอนพิเศษมากค่ะ มันสุดยอดจน จขบ. ฮาดิ้น (แทบดิ้นจริง ๆ เพราะเส้นตื้น) เพราะไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าผู้เขียนจะมาไม้นี้ มุขพี่กกบรรเจิดมากค่ะ มันเหมาะกับความไม่เหมือนใครของอาซามันจริง ๆ (แถมมีการแซว+ล้อเลียนที่อินเทรนด์มากเสียด้วย) ต้องขอบคุณผู้เขียนมา ณ ที่นี้ค่ะ ที่เขียนตอนพิเศษของรายนี้ได้สุดยอดมาก
อยากจะบอกผู้เขียนว่าอย่าพึ่งให้อาซามันมีเมียนะ มันยังเด็กอยู่ ยังเรียนหนังสือไม่จบเลย เพราะถ้าเรียนจบแล้ว จขบ. จะไปสู่ขอเอง
เอ๊ย... ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ คือ จขบ. กลัวมันมีความรักแล้วจะเปลี่ยนไป กลายเป็นพระเอกหวาน ๆ ซึ่งมันไม่ใช่อ่ะ..กิ๊บ เอ๊ย...มันไม่ใช่อาซามันเลย จขบ. ไม่เคยนึกภาพอาซามันหวานกะสาวออกเลยแม้แต่พริบตาเดียวค่ะ
อีกอย่างค่ะ อย่าพึ่งให้อาซามันรวยนะคะ เพราะถ้ารวยแล้วเดี๋ยวจะไม่ใช่อาซามัน (หัวเราะชั่วร้าย)
จะว่าไปแล้วก็สงสารอาซามันเหมือนกันที่เกิดเป็นเจ้าชายแต่ต้องลำบากขนาดนี้ (เพื่อประชาชน บ้านเมือง และน้องทั้งสิบสี่ แถมวังทรุดจวนเจียนจะพังแล้วยังไม่มีปัญญาซ่อมเลย) แต่ว่าเพื่อความสุขของผู้อ่าน ก็สู้ต่อไปเถอะนะ... อาซามัน
เมาท์ไปเมาท์มากลายเป็นว่านินทาตัวละครมากกว่าไปแล้วสิ
บล็อกหน้าพบกับบัลลังก์รักบนเนินทราย (และมาฮาลตอนเด็กที่น่ารัก (แบบแสบ ๆ) จน จขบ. แอบโลลิกำเริบ) ค่ะ
Create Date : 18 เมษายน 2551
Last Update : 18 เมษายน 2551 20:45:01 น.
4 comments
Counter : 3079 Pageviews.
Share
Tweet
อยากอ่านชุดนี้เหมือนกันค่ะ
โดย:
~:พุดน้ำบุศย์:~
วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:7:15:34 น.
เอ่อ...เจอกันคราวหน้าจะเลี้ยงติมมหาชัย (อาซามันมันบอกว่าเลี้ยงแค่นี้พอง่ะ เปลือง)
โดย:
ฯคีตกาล
วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:16:04:22 น.
อ่านรีวิวแล้วอยากอ่านเลยค่ะ จดๆเดี๋ยวไปหาซื้อมาอ่านดีกว่า
ชอบหน้าปกด้วยอ่ะ
โดย:
หมูย้อมสี
วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:17:31:24 น.
คุณพุดน้ำบุษย์ -------->
ลองอ่านเลยค่ะ
คุณฯคี -------->
ขอบคุณค่ะ
ว่าแต่จินตาที่รักมัน (กล้าพูดออกมาได้) ได้แค่ไอติมมหาชัยเองเหรอ
(แซวเล่นนะคะ แค่อาซามันมันไม่บอกว่า...ไม่ต้องเลี้ยงหรอก เปลือง...ก็ปลาบปลื้มแล้ว
)
คุณหมูย้อมสี -------->
ลองอ่านดูสิคะ
แล้วจะเข้าใจว่าทำไม จขบ. ถึงรีวิวออกมาเป็นแบบนี้
โดย:
จินตานุภาพ
วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:12:31:00 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
จินตานุภาพ
Location :
กรุงเทพ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Imagination is more important than knowledge
Friends' blogs
ลวิตร์
GTW
shakri
ฯคีตกาล
วัสส์
เมเปิ้ลสีขาว
ยาคูลท์
~:พุดน้ำบุศย์:~
สาวไกด์ใจซื่อ
Webmaster - BlogGang
[Add จินตานุภาพ's blog to your web]
Links
บ้านเจเจ
all-final
เด็กดี
my mail
SA-Bai-Jai Club
เรื่องที่เด็กดี
เรื่องที่ all-final
my gallery
my ID
สเปซ (อันเหมือนบล็อคทุกประการ)
etc
หาเพลงฟังเล่น
คุยกับคีตกาล
คุยกับพัณณิดา
สำนักพิมพ์แจ่มใส
ร้านนายอินทร์
สำนักพิมพ์มติชน
สำนักพิมพ์ ส.ส.ท.
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.