ผกก.หนังคนแสดงของ Kiki's Delivery Service พูดถึง แม่มดกิกิ ในรูปลักษณ์ใหม่ ในหนังของเขา
หนังคนแสดงของ Majo no Takkyūbin หรือ Kiki's Delivery Service ได้ออกฉายที่ญี่ปุ่นไปแล้ว เมื่อ 1 มี.ค. 2014 ที่ผ่านมา
ซึ่งบรรดาคอหนังต่างก็นำหนังชุดนี้ไปเปรียบเทียบกับหนังอนิเมของผกก.ฮายาโอะ มิยาซากิ กันยกใหญ่
ในฐานะที่ทั้งสองเรื่องนี้ต่างก็ดัดแปลงมาจากนิยายแฟนตาซีต้นฉบับของ เอย์โกะ คาโดโนะ เหมือนกัน
โดย ทาคาชิ ชิมิสุ ผกก.ของแม่มดน้อยกิกิฉบับคนแสดง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น โดยพูดถึงหนังชุดนี้ว่า
ตัวหนังจะเป็นบอกเล่าเรื่องราวของกิกิ สาวน้อยวัย 13 ปี ที่ฝึกหัดจนกลายเป็นแม่มด ในมุมมองใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็นในเวอร์ชั่นอื่นๆ มาก่อน
ทาคาชิ ชิมิสุ เป็นผกก.ที่ขึ้นชื่อในการทำหนังแนวสยองขวัญ โด่งดังมาจากหนัง Ju-on
ได้จัดการบอกเล่าเรื่องราวของกิกิในรูปแบบใหม่ ที่แตกต่างจากฉบับหนังอนิเมของมิยาซากิ อย่างเห็นได้ชัด
โดยหนังของเขาจะเน้นเรื่องราวออกโทนมืดมน ผิดกับของมิยาซากิ ที่เน้นด้านสว่าง มาในบรรยากาศใสๆ ไร้เดียงสา มากกว่า
โดยชิมิสุได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแม่มดทางฝั่งตะวันตกมาเป็นตัวอย่างในการกำหนดคาแร็คเตอร์ของกิกิในหนัง
เขากล่าวว่า "แม่มดมักจะมาจากแนวคิดที่มักมาเป็นกลุ่มก้อนกับปีศาจ ซึ่งหนังอนิเมที่มาจากนิยายต้นฉบับของคาโดโนะนั้น
ก็ไม่ได้เป็นแม่มดที่สมจริงสมจังเท่าไหร่ แต่ผมจะตัดความรู้สึกน่ากลัว สยดสยอง ออกไปจากหนังของผม"
จากนั้น ชิมิสุ ได้พูดถึง ฟูกะ โคชิบะ นักแสดงที่มารับบทบาทเป็น กิกิ ในหนังเรื่องนี้ ผู้ซึ่งเคยเป็นนักฟิกเกอร์สเก็ต
และมีประสบการณ์ทางการแสดงอันน้อยนิด เขากล่าวว่า เธอได้เรียนรู้การแสดงบ้าง
แต่ผมคิดว่ามันจะเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ทันที หากไม่ใช้ทักษะแบบ "นักแสดงหน้าใหม่" ของเธอเลย
เขาก็เลยบอกให้เธอพยายามเป็นตัวของตัวเอง อย่าพยายามแสดงเป็นอันขาด
ซึ่งความไร้ประสบการณ์ในฐานะนักแสดงของเธอผู้นี้นั้น จะมีประโยชน์อย่างมากในการรับบทเป็นกิกิ
เพราะ เด็กสาวทั้งคู่นี้ต่างก็มีปมในชีวิต ที่พยายามค้นหาความหลงใหลที่แท้จริง
รวมถึงได้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกที่อยู่รอบๆตัวด้วย และเมื่อกิกิฝึกฝนจนเป็นแม่มดเต็มตัว ฟูกะ โคชิบะ
ก็จะฝึกฝนตนเองจนกลายเป็นนักแสดงชั้นแนวหน้าเช่นกัน
และเพื่อที่จะทำหนังออกมาให้สมจริงที่สุด ชิมิสุ มีเป้าหมายที่จะเน้นอารมณ์ผ่านตัวละครอย่างกิกิและเพื่อนๆ
เขาได้ให้ความเห็นว่า มันเป็นการง่ายกว่าที่จะแสดงอารมณ์เจ็บปวดในหนังที่มีมากกว่าอนิเม หรือ นิยายต้นฉบับ
ซึ่งเขาคิดว่า เราสามารถเชื่อมต่อเข้าถึงมันได้อย่างเต็มที่ ไม่เช่นนั้นแล้ว มันจะไม่มีประเด็นอะไรพิเศษที่สามารถนำไปทำเป็นหนังได้
แม้ว่า มันเป็นการเร็วเกินไปที่จะพูดถึฟีดแบ็คของตัวหนัง เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตัวหนังจะประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นกับต่างประเทศ
รวมถึงมีความเป็นไปได้ที่จะทำหนังภาคต่อด้วย ซึ่งนิยายต้นฉบับของแม่มดน้อยกิกิ มีทั้งหมด 6 เล่มด้วยกัน
แหล่งข่าวและคลิป : The Japan Times,animenewsnetwork.com,kartoon-discovery.com
ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [
