:::เธอ...พวงมาลัยในมือข้างซ้าย:::
เธอ
.... พวงมาลัยในมือข้างซ้าย
ก่อนสามทุ่ม ค่ำคืน วันที่ 14 กันยายน 2550 ที่ร้านพุงกาง สุพรรณบุรี
เธอเดินกะโผลกกะเผลกเข้ามาในร้านพร้อมพวงมาลัยหลายสิบพวงหิ้วอยู่ที่มือข้างซ้าย ในช่วงเวลาเกือบ 3ทุ่ม ..... ขณะที่ผมกำลังใกล้จบเพลงสุดท้ายบนเวที พอดี เธอเดินแวะตามโต๊ะ เพื่อเสนอขายพวงมาลัยดอกไม้สด ให้กับแขกที่กำลังนั่งดื่มกินในร้านแห่งนี้ ผมกล่าวร่ำลาแขกเหรื่อเพื่อปิดเบรกชั่วโมงดนตรี ของผมหลังจบเพลงสุดท้าย แล้วเร่งรีบเก็บเครื่องดนตรีทันที หวังให้ทันก่อนที่เธอจะออกไปจากร้าน แต่กว่าจะเก็บกีตาร์ลงกล่อง พร้อมอุปกรณ์ ก็ใช้เวลาพอสมควร เธอเดินลับหายไปกับความมืดข้างหน้าร้านแล้ว วันนี้ผมไม่ทันเธอ เห็นแต่เพียงเงาขาว ๆของพวงมาลัย และแขนเสื้อยาวข้างขวาปลิวไหว ๆ ก่อนลับหายไปในเงาแห่งค่ำคืน....... 25 กุมภาพันธ์ 2550 ณ.ร้านคาราโอเกะ แห่งหนึ่ง ใน อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ค่ำคืนดึกดื่น.... เดี๋ยวมึงออกไปมึงเจอพวกกูแน่ เสียงห้าว ๆ จากผู้ชายหนึ่งในสามที่นั่งในโต๊ะอาหารนั้น คำรามถ้อยคำข่มขู่เธอดัง ๆ อย่างอาฆาตแค้น ขณะที่เธอก็ให้รู้สึกโมโหกับถ้อยคำขู่นั้น แต่เธอก็ได้ระบายย้อนกลับไปพอสมควรแล้ว ก่อนหน้านี้ กูก็มีศํกดิ์ศรีพอ เธอสบถเบา ๆ ก่อนจะเดินออกจากร้านตรงไปที่มอเตอร์ไซด์ของเธอที่จอดอยุ่หน้าร้าน ขณะมีเสียงเคลื่อนไหว อยุ่ภายในร้าน จากชายกลุ่มนั้น เธอรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยเสียแล้ว ระหว่างทางกลับบ้านคืนนี้ แต่เธอไม่มีทางเลือก เธอต้องกลับบ้านในคืนนี้ แม่ของเธอยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล เธอเพิ่งมาสมัครร้องเพลงที่สวนอาหารแห่งนี้ คืนนี้เป็นคืนที่ 3 เธอยังไม่คุ้นชินกับบรรยากาศและแขกเหรื่อในร้านนี้ อีกทั้งแม่ของเธอก็ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หลังเลิกงานแล้วมุ่งหมายทุกคืนของเธอคือต้องกลับไปดูแลแม่ เธอจึงไม่มีเวลาอ้อยอิ่งและไม่มีอารมณ์พอที่ พูดคุยกับแขกเมามายหลังเลิกงาน คืนนี้เธอปฏิเสธที่จะนั่งโต๊ะ กับกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ หลังคำปฏิเสธของเธอ ก็กลายเป็นน้ำมันราดบนประกายไฟแห่งโทสะ ให้บังเกิดกับพวกเขาเหล่านั้น จนนำไปสู่เหตุเกิดปากเสียงกันขึ้น เธอตอบโต้ด้วยคำพูดรุนแรงกลับไปหลายคำ เมื่อเธอถูกหยามหมิ่นด้วยคำพูดของกลุ่มคนเมาเหล่านั้นอย่างไม่ให้เกียรติผู้หญิง ก่อนจะเดินจากมา....... อารมณ์ฉุนเฉียวของเธอเมื่อครู่ ปรับแปรกลับกลายเป็นความหวาดกลัว.......
เธอสตาร์ทมอเตอร์ไซด์ ออกตัว พุ่งขึ้นสู่ถนนใหญ่ ท้องถนนตกอยู่ในความมืดสนิท อากาศหนาวเย็นเยียบ ขณะลมพุ่งปะทะใบหน้าเมื่อเธอเปลี่ยนเกียร์มอเตอร์ไซด์สูงขึ้น เพื่อเร่งความเร็ว แสงไฟฉีกความมืดเป็นลำแสง โดยมีหมอกบาง ๆ โรยรบกวนแสงไฟข้างหน้า ห่างออกมาจากร้าน ไม่ทันไร เธอเหลียวกับไปมองข้างหลัง อย่างหวาดระแวงและสังหรณ์ใจ เธอใจหายวูบ เมื่อแวบเห็นไฟมอเตอร์ไซด์ ฉีกพุ่งความมืด หักเลี้ยวขึ้นถนนใหญ่อย่างรวดเร็ว ตำแหน่งตรงนั้นคือบริเวณทางขึ้นลงสวนอาหารที่เธอเพิ่งจากมานั่นเอง ไวเท่าความคิด เธอรู้สึกได้ถึงชะตากรรมที่เธออาจจะต้องพานพบอีกไม่กี่นาที ข้างหน้า ถ้าหากมอเตอร์ไซด์คันนั้นตามเธอมาทัน มันไม่ได้ขู่อาฆาตเธออย่างเดียว เสียแล้ว แต่มันกำลังตามมาเพื่อสะสาง ความเจ็บแค้นเมื่อสักครู่ เธอเพิ่มความเร็วมอเตอร์ไซด์ แต่มอเตอร์คันเก่าของเธอ คงทำความเร็วได้ไม่มากนัก.... เป็นไง เป็นกัน เธอคิดในใจ เพราะเห็นแล้วว่าไฟรถข้างหลังนั้นใกล้เข้ามา แสดงว่ามันกำลังไล่กวดเธอมาจริง ๆ ถ้ามันบอกให้จอด เธอก็จะจอด เพราะรุ้ว่า ถ้าขับหนีคงหนีไม่พ้น ดีไม่ดี มันอาจถีบรถเธอตกถนน เธอคิดในใจ แต่เธอก็พยายามที่จะเร่งความเร็ว บางทีเธออาจจะหนีพ้น แต่แล้ว ไฟสว่างจ้าจากข้างหลัง ก็ประชิดท้ายรถของเธอและกำลังตีคู่ขึ้นมา พร้อมกับเสียงแผดดังของเครื่อง... พลัน เธอก็ผ่อนคันเร่ง แล้วหันกลับไปมองรถที่กำลังแซง ให้ตายเถอะ ... พลันเธอก็เห็นเงาคมวาววับกวัดแกว่งเคลื่อนไหวอยู่ในมือของคนที่นั่งซ้อนท้าย เธอตัดสินใจบิดคันเร่งอีกครั้ง แต่ช้าไปเสียแล้ว มอเตอร์ไซด์คันนั้นตีคู่จนเกือบแซงเธอเสียแล้ว พลัน เธอก็ร้องหวีดสุดเสียง เมื่องเงาวับวาวนั้นถูกเหวี่ยงฉับลงบนท่อนแขนข้างขวาของเธอ แม่จ๋า เธอหวีดร้องสุดเสียง....รู้สึกเย็นวูบที่แขน และเบาหวิว มอเตอร์ไซด์ไร้การควบคุมจากคันบังคับทางขวาแล้ว แขนข้างซ้ายกลายเป็นแขนที่เป็นแรงกระชากคันบังคับให้มอเตอร์ไซด์เปลี่ยนทิศทางการวิ่ง เสียหลักพุ่งลงข้างถนน .........ที่มืดสนิทในค่ำคืนนั้น.......
23 มีนาคม พ.ศ. 2550 ข่าวจาก หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์
กรณี น.ส.สุพรรณษา วิชานันท์ อายุ 24 ปี สาวร้านคาราโอเกะ บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. กรณีที่ถูก นายนิรัตน์ กองธรรม อายุ 23 ปี นายประสาน บุญดก อายุ 25 ปี อาสาสมัครรักษาความปลอดภัย และ ส.ต.ต.นิรุต ธรรมทรัพย์ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ขณะขับรถจยย.กลับบ้าน โดยใช้มีดสปาร์ต้าฟันแขนขวาจนขาดกระเด็น ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ ขาขวาหักอีก 3 ท่อน สาเหตุเนื่องจากคู่กรณีไม่พอใจหลังพยายามจีบอยู่นาน แต่ผู้เสียหายไม่เล่นด้วย เลยขี่จยย.ตามไปแก้แค้น เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ทั้งนี้หลังไปแจ้งความคดีส่อแววไม่คืบหน้า มีการช่วยเหลือตำรวจคู่กรณีเห็นได้ชัดจึงต้องเข้ามาร้องเรียนถึง สตช. อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.รณรงค์ ยั่งยืน ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.และโฆษก สตช. ได้รับเรื่องไว้ พร้อมระบุว่า หากพบว่าตำรวจคนดังกล่าวทำผิดจริงจะถูกลงโทษสถานหนัก อีกทั้งพนักงานสอบสวนก็อาจมีความผิดด้วย......
...................................................................... หลังสามทุ่มค่ำคืน 14 กันยายน 2550 ที่ร้านพุงกาง สุพรรณบุรี
เธอเดินกะโผลกกะเผลก ลับหายไปกับความมืดข้างหน้าร้านแล้ว วันนี้ผมไม่ทันเธอ เห็นแต่เพียงเงาขาว ๆของพวงมาลัย และแขนเสื้อยาวสีขาวข้างขวาปลิวไหว ๆ ก่อนลับหายไปในเงาแห่งความมืด.... ไม่เป็นไร คืนพรุ่งนี้ หรือคืนต่อ ๆ ไป ค่อยช่วยอุดหนุนเธอ ผมแอบกระซิบบอกกับตัวเองก่อนหิ้วกีตาร์เดินออกนอกร้านอาหารพุงกาง ที่อาศัยเล่นดนตรี ร้องเพลง ประจำ ทุกคืน เพื่อรับค่าตอบแทนเลี้ยงชีพตัวเองไปวัน ๆ ผมสะพายกีตาร์ไว้ข้างหลัง ก่อนขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซด์ สตาร์ทเครื่อง แล้วออกตัวด้วยความเร็วไม่มากนัก พลัน...ผมก็ต้องรีบหันขวับมองไปข้างหลังเมื่อเห็นไฟมอเตอร์ไซด์อีกคันฉีกผ่านความมืดมาอย่างเร็ว พร้อมกับเสียงก้องคำราม .......ก่อนจะแซงผ่านผมไปอย่างรวดเร็ว
เสียงจากรายการ "เรื่องจริงผ่านจอ"
Create Date : 20 กันยายน 2550 |
Last Update : 20 กันยายน 2550 2:51:12 น. |
|
12 comments
|
Counter : 615 Pageviews. |
|
|
เป็นน้องคนนี้เหรอ...
ฝากช่วยอุดหนุดด้วยคนนะคะ
คุณเล่นดนตรีที่ร้านพุงกาง จว.สุพรรณบุรี เหรอ
ถ้ามีโอกาส จะชวนเพื่อนๆ ไปฟังเนาะ
เพราะเพื่อนๆ เป็นกลุ่มฟังเพลงเพื่อชีวิตค่ะ
และเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งก็เป็นหนุ่มสุพรรณฯ
ที่สำคัญ พวกเขาชอบเล่นดนตรีเหมือนกัน
และเป็นนักดนตรีสมัครเล่นกันมากกว่า
เล่นกันแบบชาวบ้านไม่ไล่ไม่เลิก
หรือไม่ก็ ไม่เมา ไม่ง่วง
มันไม่เลิก
อิอิ
อ้อ...รูปเที่ยวสุพรรณฯ เนี่ย
ไปแค่ตลาด 100 ปี อ.สามชุก และบึงฉวาก เองค่ะ
ไม่ได้ไปเที่ยวไหนไกลเลย
ตลาดสามชุก คนเยอะมาก ทำให้ขี้เกียจถ่ายรูป
หนักไปทางรูปปลาในตู้โชว์ที่บึงฉวาก ซะมากก่า
แล้วจะมาตามไปชมเน้อออ