www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws

Group Blog
 
All blogs
 
มนต์รักโคกสาริน...ตอนที่ ๒๑

เมื่อประพาสกับผู้ใหญ่พิษณุกลับไปแล้ว...ทั้งห้องก็เหลือคนอยู่ 2 คน...และเงียบ

พัดชาเตรียมยามาให้ประเวศ เดินมาข้างๆเตียง สบตาแล้วเมินหลบ

“ทานยาค่ะ” ยื่นยาให้ แต่ประเวศเอื้อมมือไปจับทั้งถ้วยยา ทั้งมือพัดชา พัดชาสะดุ้ง

“คุณเวศ...ปล่อยค่ะ”

“ขอโทษครับ ผมลืมไปว่าผมไม่ใช่....” ไม่ใช่ประพาสกับผู้ใหญ่พิษณุ ประเวศคิดในใจ

“ไม่ใช่อะไรคะ....” พัดชาถามเสีบงเบา พลางนึกในใจ พัดก็ไม่ใช่ลูกตาลเหมือนกัน

“ไม่ใช่คนที่พัด...เอ่อ ช่างมันเถอะครับ” ประเวศจะพูดแล้วชะงัก ปล่อยมือ

พัดชามองแล้วหน้าหมอง นึกถึงเมื่อคืน...คิดซะว่าฝันไปแล้วกัน

แล้วทั้งคู่ก็ตกอยู่ในความคิดคำนึง....ต่างคนต่างคิด ....แต่ทำไมกลับคิดถึงกันและกัน...บางครั้งความคิดคำนึงสำคัญกว่าคำพูด....เพราะความคิดคำนึงนั้น มีอิสระ...แต่คำพูด
.....บางครั้งทำให้ขาดอิสระ และอาจได้รับความเจ็บปวดพ่วงท้าย

จนดึกดื่น.....พัดชายืนมองดวงดาวที่นอกหน้าต่าง

แอบหันไปมองประเวศ ก็เห็นว่าเขาหลับตาแล้ว จึงเดินไปปิดไฟ....ห้องทั้งห้องอยู่ในความเงียบ.......

พัดชามองไปที่เตียงของประเวศ แล้วเดินไปห่มผ้าให้จรดอก.....พลัน...ก็มือหนึ่งมาจับมือเบาๆ...แต่แนบแน่น

พัดชาชะงัก จะชักมือออกก็กลัวประเวศจะตื่น จึงค่อยๆ ทรุดนั่งลงข้างๆเตียง

คุณเวศคงจะละเมอ...พัดชาคิด.....

...ผมไม่เคยคิดเลยว่า ผมจะได้มีโอกาสได้มาใกล้ชิดคุณ ผมคอยเฝ้ามองคุณมาตลอด แต่ผมไม่เคยรวบรวมความกล้าที่จะเข้าไปหาคุณได้เลย....

เสียงประเวศพึมพำออกมาเบาๆ....พัดชาโน้มตัวเข้าไปฟังแล้วอึ้ง....คุณเวศละเมอใช่ไหมเนี่ย

...ถ้าเรื่องของเรามันจะไม่เป็นจริงขึ้นมาได้...งั้นก็ขอให้ผมอยู่ในความในฝันก็แล้วกัน....

ประเวศพูดขึ้นมาอีก....แล้วก็เงียบ พัดชาพยายามบอกตัวเองว่า ประเวศคงจะละเมอ และคนๆนั้นที่ประเวศหมายถึง ต้องเป็นใครสักคน ที่ไม่ใช่เรา

พัดชามองหน้าประเวศในความมืด มือที่ถูกเกาะกุมอยู่นั้น ช่างอบอุ่นเหลือเกิน พัดชาขยับมือให้กระชับแน่นขึ้นอีก นึกถึงเพลงๆ หนึ่ง

...เธอ คือ คนนั้น คนที่ชั้นไม่เคยคิดฝันว่ามี.... และเธอ....และเธอมายืนอยู่ตรงนี้...

ประเวศลืมตาขึ้นมาในความมืด มองมือพัดชาที่เกาะกุมไว้ แล้วยิ้มนิดๆ

ทั้งสองต่างกุมมือกันอยู่...ต่างนอนกันไม่หลับ....ต่างลืมตาขึ้นมายิ้มในความมืด

และต่างก็พอใจกับความสุขเพียงน้อยนิด....เพียงแต่ทั้งสองคนมองไม่เห็นกันเท่านั้น


เช้าวันรุ่งขึ้น........

พัดชานอนหลับซบอยู่ข้างๆเตียงประเวศ....มือยังอยู่ในอุ้งมือกันและกัน

ประเวศตื่นขึ้นมามองพัดชา แล้วมองมือ แล้วยิ้ม.....

พัดชาค่อยๆ ตื่น....ลืมตาขึ้นมาเห็นประเวศมองอยู่...ก็เผลอยิ้มให้......ประเวศยิ้มตอบ.....


ยามเช้าที่บ้านลูกตาล....

หมวยนกมาเคาะประตูห้อง....พอลูกตาลเดินไปเปิด ก็เจอกระเช้าดอกกล้วยไม้สีส้ม พร้อมการ์ดใบหนึ่งแนบมาด้วย

แม้จะเจ็บปวดและพยายามตัดใจ แต่ลูกตาลก็อดตื่นเต้นไม่ได้....หยิบกล้วยไม้ไปวางไว้บนโต๊ะ เปิดการ์ดออกอ่าน

“ขอแสดงความยินดีด้วยกับข่าวดีที่จะเกิดขึ้น ยังเป็นห่วงอยู่เสมอ น้องสาวของพี่”

ลูกตาลอ่านจบแล้วรีบปิดการ์ดทันทีเหมือนกับไม่อยากจะเห็นอีก พูดกับตัวเอง

“เวศ ชั้นตัดสินใจแล้ว....” แล้วลูกตาลก็รีบไปโรงพยาบาลทันที......

เมื่อลูกตาลมาที่โรงพยาบาล เปิดห้องของประเวศเข้าไป ก็เห็น....นั่น....กระเช้ากล้วยไม้สีเหลืองวางอยู่บนหัวเตียง...

“เวศ....”ลูกตาลเรียก ประเวศหันมามอง “อ้าว ลูกตาล...”

ลูกตาลเดินไปที่กระเช้าดอกกล้วยไม้สีเหลือง หยิบขึ้นมาดู

“กล้วยไม้มาจากไหน”

“ อ๋อ กล้วยไม้นั่นหรอ.....” ประเวศมองไปที่กล้วยไม้สีเหลือง

“มาจากฟาร์มใช่ไหม...” และโดยที่ไม่รอคำตอบ ลูกตาลก็หยิบกระเช้ากล้วยไม้ขึ้นมา แล้ววางลงไปบนถังขยะทันที...

“ทำอะไรน่ะ ลูกตาล” ประเวศตกใจ

“เปล่า.....” ลูกตาลปฏิเสธ “เวศ แกหายแล้ว เราจะหมั้นกันให้เร็วที่สุดนะ”

ประเวศอึ้ง พัดชาที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำได้ยินก็อึ้งเช่นกัน

“หวังว่าจะยังรักชั้นเหมือนเดิม” ลูกตาลว่าแล้วเดินออกจากห้องไป.


ลูกตาลเดินตรงไปที่....ฟาร์มกล้วยไม้

ผู้ชายคนหนึ่งกำลังฮัมเพลงเบาๆ พลางดูแลกล้วยไม้สีม่วงอยู่

...ฉันอาจเป็นสายฝนเมื่อเธอร้อนใจ....อบอุ่นเหมือนไฟ เมื่อเธอเหน็บหนาว....อาจเป็นดนตรีกล่อมเธอเมื่อเหงา...อาจเป็นแสงดาวเมื่อเธอแหงนมอง....

ลูกตาลอึ้ง....ก่อนที่จะหยุดอยู่ด้านหลัง

เขาคนนั้นหันมา...ผู้ใหญ่พิษณุ เมื่อเห็นลูกตาลก็อึ้งเล็กน้อย ก่อนจะยิ้ม

“ลูกตาล สบายดีแล้วหรอ ได้รับกล้วยไม้ที่ส่งไปหรือยัง” ผู้ใหญ่เดินเข้ามาหา

“ทำไมพี่ผู้ใหญ่ต้องทำอย่างนี้” ลูกตาลตัดพ้อ “ถ้าพี่ผู้ใหญ่ไม่รัก ก็อย่ามาสงสาร หรือว่าเห็นใจได้ไหมคะ”

“แต่พี่ เป็นห่วงลูกตาล”

“ความเป็นห่วงของพี่ผู้ใหญ่ มันทำให้ลูกตาลตัดใจไม่ได้สักที เพราะทุกครั้งที่ได้รับกล้วยไม้จากพี่ ลูกตาลจะแอบหวังอยู่เสมอ ทั้งๆที่ มันก็แค่ความสงสารเท่านั้น”

“ไม่ใช่อย่างนั้น ลูกตาล”

“ถ้าจะสงสาร อย่ามาสงสาร ถ้าจะให้ดี ก็เกลียดไปเลยก็ได้...แต่ “ลูกตาลหยุดนิดหนี่ง “อย่ามาสงสาร ขอร้องละค่ะ”

ผู้ใหญ่พิษณุถอนใจ “แต่พี่หวังดีกับลูกตาลจริงๆ พี่เป็นห่วง และหวังดี ไม่ใช่สงสารนะ”

ลูกตาลเชิดหน้าน้ำตาจะไหล

“เก็บความเป็นห่วงหวังดีของพี่ เอาไว้ให้คนอื่นเถอะค่ะ สำหรับลูกตาล ถ้าไม่รักก็ไม่ต้องมาสนใจกันเลยดีกว่า”

ลูกตาลว่าแล้วทำท่าจะหันหลังกลับ แต่ผู้ใหญ่พิษณุเรียกเอาไว้

“ลูกตาล........”

ลูกตาลหยุด แต่ไม่หันกลับมามอง

“ไม่ว่าจะยังไง ลูกตาลก็ยังเป็นน้องสาวของพี่คนนี้เสมอ และพี่ก็รอฟังข่าวดี ที่ลูกตาลจะมีความสุขในเร็วๆนี้นะ”

ลูกตาลหันหน้าไปทันที

“ลูกตาลไม่มีวันมีความสุขได้ เพราะพี่ผู้ใหญ่เอาความสุขของลูกตาลไปหมดแล้ว....”

แล้วลูกตาลก็วิ่งหนีไป มีผู้ใหญ่พิษณุมองตามด้วยความเป็นห่วง พึมพำเบาๆ

“ความสุขของคนเรา เป็นกรรมสิทธิของเรา ไม่มีใครมาทำให้เราหมดความสุขได้ ถ้าใจเราไม่ยินยอมนะ ลูกตาล แต่ยังไงพี่ยังห่วงอยู่เสมอ...”

….แล้วเมื่อถึงเวลาก็จะรู้....เหตุผลที่ชั้นนั้นทำให้เธอไป....จะเขียนข้อความหนึ่งไปกับดอกไม้....ให้เธอเรียกชั้นว่า....สายลมที่หวังดี.....


ที่ตลาดบ้านโคกสาริน......

เปรี้ยวเดินเข้าตลาดมากับบุญออบ ทั้งสองเดินห่างกันเป็นโยชน์ แต่ก็แอบมองกันและกัน

จนมาถึงร้านอาโกชา ต่างก็เข้ามานั่งที่โต๊ะเดียวกัน

อาโกชามองภาพนั้นด้วยความปวดร้าว รีบจัดนมสดกับโอเลี้ยงมาวางไว้ให้ทันที

เปรี้ยวงง “อ้าว โก ยังไม่ได้สั่งเลยนี่”

“อะไรที่เปรี้ยวมีความสุขน่ะ ถึงไม่ได้สั่ง โกก็จัดให้ได้” แน่ะ อาโกชาพูดเสียงขรึมๆ ยังกะพระเอก

“ขอบคุณนะครับ สำหรับนมสด” บุญออบยิ้มให้

“อือๆ ได้ไปแล้วก็ดูแลให้ดีๆล่ะ” เอ๊ะ โกพูดถึงอะไรกันแน่ “ขอให้รู้ว่าชอบจริงเหอะ ถ้าชอบไม่จริงละ โดนแน่...หมายถึงนมสดน่ะ” อ๋อ....

แล้วอาโกก็เรียกเจ้าฟู่เสียงดัง “ไอ้ฟู่ เอ็งไปซื้อน้ำใบบัวบกร้านแม่ยิ้มให้ข้าหน่อย เอามา 2 แก้วเลย ให่ไวนะเว้ย”

อาโกชาว่าดังนั้นแล้วเดินออกไปเหมือนพระเอกมิวสิค...

อนิจจา...ทั้งเปรี้ยวทั้งบุญออบไม่ทันได้สนใจ เพราะมัวมองตากันอยู่...กินกันไปมองตากันไป....เฮ้อ มีความสุข

ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่เสียงๆหนึ่งที่ดังแหวกอากาศเข้ามา

“พี่ออบบบบบ” สุวัจนีนั่นเอง “ทำไม่มานั่งกับยายเด็กนี่อีกแล้วล่ะ นี่ไม่เห็นแก่หน้าสุวัจเลยหรอ”

“สุวัจ อย่าเรียกเปรี้ยวแบบนั้น จะเรียกเขาก็เรียกดีๆ...อีกอย่างหนึ่งนะ” บุญออบหยุดพูดแล้วมองหน้าเปรี้ยว

“ทำไมพี่จะมานั่งกับเปรี้ยวไม่ได้ ก็พี่อยากนั่งกับคนที่พี่รัก.....”อูย

เปรี้ยวเขิน แต่สุวัจนีแทบกรี๊ด พยายามสะกดอารมณ์ไว้

“นี่ พี่ออบ พูดออกมาได้ สุวัจไม่ยอมนะ”

“เธอจะยอมหรือไม่ยอมพี่ก็ไม่สนใจอยู่แล้ว อย่าลืมนะ ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน” บุยออบว่าขรึมๆ

สุวัจนีอยากจะกรี๊ดอีกรอบ แต่เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ก็ยิ้มมุมปาก

“ฮิๆ ถ้าพี่ออบไม่ยอมสุวัจก็ไม่เป็นไร เพราะสุวัจโทรศัพท์ไปบอกพ่อแม่พี่หมดแล้ว ก็คอยดูแล้วกันว่า ถ้าเป็นพ่อแม่พี่ พี่จะมาพูดเสียงแข็ง อย่างที่พูดกับสุวัจหรือเปล่า ฮิๆ”

บุญออบกับเปรี้ยวมองหน้ากัน สุวัจนีเห็นแล้วก็ยิ้มมุมปากอีกรอบ....


ลูกตาลวิ่งน้ำตาไหลมาตามทาง....จนมาชนกับคนๆหนึ่ง...ลูกตาลเสียหลัก กำลังล้ม แต่คนๆนั้นรวบตัวไว้...

ลูกตาลเงยหน้าขึ้นมอง....แล้วก็ร้องว่า

“พี่พาส......”

ประพาสมองหน้าลูกตาลด้วยความเป็นห่วง “ลูกตาล เป็นอะไร ร้องให้ทำไม”

ลูกตาลส่ายหน้า พยายามจะยิ้ม แต่ยิ้มที่ออกมา มันช่างดูฝืนเหลือเกิน

“ลูกตาลไม่เป็นอะไรค่ะ....ก็แค่ “

“อย่าบอกนะ ว่าผงเข้าตาน่ะ “ ประพาสว่ายิ้มๆ

ลูกตาลอดยิ้มไม่ได้ “ลูกตาล...เอ่อ” แล้วก็พูดไม่ออก

“ไม่เป็นไร มาลูกตาลมานั่งก่อน...”แล้วประพาสก็จูงมือลูกตาลมาที่สวนสาธารณะ...นั่งลงข้างๆ แล้วจับมือลูกตาลไว้

“ร้องให้เสียใจเรื่องอะไร....ลูกตาลมีอะไรให้พี่ช่วยไหม”

ลูกตาลเงยหน้าขึ้นมอง “พี่พาส.....”

ประพาสยิ้ม “ถึงแม้เราจะห่างกันไป ตอนที่ลูกตาลไปเรียนเมืองนอก แต่พี่ก็ไม่เคยลืมน้องสาวคนนี้นะ”

“งั้นคงเป็นลูกตาลเอง ที่เป็นฝ่ายห่างพี่ไป....”ลูกตาลยิ้มอ่อยๆ

“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ชีวิตคนเราต้องเจอโลกกว้าง ต้องเจอคนใหม่ๆ อยู่แล้ว”

“แต่ลูกตาลก็ไม่ลืมคนเก่าๆ..โดยเฉพาะคนบางคน” ลูกตาลว่าแล้วเงียบไป

“ถ้าคนบางคนนั้นทำให้เราอยากลืม ก็ไม่มีเหตุผลอะไรไปจำมันนี่”

“แต่พี่พาส...ลูกตาลพยายามแล้ว แต่มันก็ไม่ลืมได้สักที....ลูกตาลจะทำยังไงดี”

“ไม่ลืมงั้นหรอ....อืม งั้นก็ไม่ต้องลืม แค่อย่าไปคิดถึงมากก็พอแล้ว...ทำได้ไหม ลูกตาล”

ลูกตาลส่ายหน้า....ประพาสยิ้มจับมือลูกตาลบีบเบาๆ

“ไม่อยากเห็นลูกตาลเศร้าอย่างนี้เลย มีอะไรให้พี่ช่วยได้บ้างไหม”

“พี่พาส...เอ่อ...ลูกตาลเห็นพี่พาสกับ....พี่ผู้ใหญ่สนิทกัน..เอ่อ”

ลูกตาลพูดแล้วมองประพาสแล้วยิ้มด้วยความหวัง ประพาสมองแล้วอึ้งไปกับความหวังหลังรอยยิ้มนั้น

“ตกลงลูกตาล พี่จะช่วย...” พูดแล้วก็เงียบไป ลูกตาลยิ้มแล้วจับมือประพาสมาแนบแก้ม

“รักพี่พาสจังเลย....”


เจ้ากุ๊กวิ่งกระโดดมาตามทาง มีปลัดกฤตย์เดินตามมาห่างๆ

ปลัดมองเจ้ากุ๊กแล้วอมยิ้ม พลางร้องเรียก

“เฮ้ย กุ๊ก เบาๆหน่อยดิวะ เดินดีๆไม่เป็นหรือไง กระโดกกระเดกไม่มีใครเกิน”

เจ้ากุ๊กหันมาทำหน้ากวนใส่ปลัด

“ก็ขาผมหายเจ็บแล้วนี่ ผมก็ต้องวิ่ง กระโดดให้คุ้มหน่อย”

ปลัดกฤตย์หัวเราะ “เออๆ กระโดดไปเถอะเอ็ง เดี๋ยวก็เจ็บอีก จะขำให้”

เจ้ากุ๊กหันไปแลบลิ้นใส่ปลัด ก่อนจะวิ่งไปที่ริมน้ำ แล้วหันมาบอก

“นี่ไงคุณปลัด ตรงนี้ไงที่ผมเหยียบเศษแก้ว”

“อ้อ มีชี้จุดเกิดเหตุด้วยหรอวะ “ ปลัดหัวเราะ แล้วเดินมาเรื่อยๆ

“เฮ้ยยยย...อ้ากกก” เสียงเจ้ากุ๊กร้องดังลั่น แล้วล้มลงไปทันที

ปลัดกฤตย์ตกใจ รีบวิ่งไปหาทันทีด้วยความเป็นห่วง..ไปถึงก็นั่งข้างๆเจ้ากุ๊กถามด้วยความร้อนรน “เอ็งเป็นอะไร เจ็บตรงไหน”

เจ้ากุ๊กเงยหน้าขึ้นมามอง “ ผม...เอ่อ....”

“ว่าไง เจ็บตรงไหน บอกชั้น เดี๋ยวพาไปหาหมอ” ปลัดร้อนรน

“ผม....เอ่อ.....ผมล้อเล่นนะ” แป่ว......

ปลัดกฤตย์อึ้งไป 3 วิ ก่อนจะเอามือเขกหัวภายใต้หมวกแก๊บของเจ้ากุ๊ก 1 ที

“นี่แน่ะ มาเล่นงี้ได้ไง คนเขาเป็นห่วงแทบแย่”

เจ้ากุ๊กเงยหน้ามองปลัดอีกครั้ง “คุณปลัดห่วงผมจริงหรอ”

ปลัดสบตาแล้วบอกเบาๆ “จริงสิ”

ทั้งคู่สบตากัน เจ้ากุ๊กเขิน จึงรีบลุกวิ่งกระโดดต่อไปทันที ปลัดลุกตาม

สักพักเจ้ากุ๊กก็ร้องอีกรอบ “คุณปลัดดดด.....”

ปลัดยังไม่ยอมเดินไปหา “อาไรอีก อะไรกัดอีกหรอ”

“ไม่ใช่ครับๆ....นี่ครับคุณปลัด...ผมเจอนี่” เจ้ากุ๊กชูกระดาษแผ่นหนึ่งให้ดู

ปลัดกฤตย์รีบเดินเข้าไปหา ถามว่า

“กระดาษอะไร เอ็งไปเอามาจากไหน”

“ผมเห็นมันติดอยู่ที่ริมตลิ่ง ดูสิครับ เปียกน้ำไปตั้งครึ่งหนึ่งแน่ะ ตรงท้ายๆกระดาษน่ะ เลือนหมดเลย....”

“แต่เอ๊ะ....”เจ้ากุ๊กหยุดพูด ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ปลัดหันมามองกระดาษ

“ทำไมหรอ....เอ นี่เขียนว่า My Girl ซะด้วย รูปนี่ก็คุ้นๆนะ.....”

“เอ๊ะ....คุณปลัดลายเส้นกับลายเซ็นเลือนข้างล่างๆนี่ ผมก็คุ้นๆนะ....”

ต่างคนต่างคิดกันใหญ่ สักพักก็ร้องออกมาพร้อมกัน

“พี่เวศ....” เจ้ากุ๊กร้อง

“คุณพัด....”ปลัดร้อง

แล้วก็หันไปมองหน้ากัน ปลัดกฤตย์ขมวดคิ้ว

“เมื่อกี้แกเรียกคุณเวศเขาว่าพี่เชียวหรอ ไปรู้จักมักจี่กันตั้งแต่เมื่อไหร่ ฮะ แล้วลายเส้นกับลายเซ็นน่ะ แกรู้ได้ไงว่าเป็นของคุณเวศเขา” ปลัดว่าอย่างสงสัยพลางนึกถึงเรื่องเมื่อคืนงานวัด

เจ้ากุ๊กอึกอัก เอ่อ เมื่อกี้ลืมตัวไปหน่อย จะแก้ตัวกับปลัดยังไงดีเรา

“ก็ผม...เอ่อ....ก็คุณดลเขาให้ผมเรียกงั้นนี่ วันนั้นที่งานเลี้ยงบ้านเสี่ยมาย คุณดลเขาให้ผมดูรูปที่คุณเวศเขาวาด ผมก็เลยจำได้ ผมความจำดี ผมฉลาดน่ะครับ โฮ่ๆๆ”

เจ้ากุ๊กหัวเราะเสียงใหญ่กลบเกลื่อน แต่เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ก็หยุด มองหน้าปลัด

“แล้วปลัดล่ะ รูปยังวาดไม่เสร็จ แถมเปียกน้ำไปครึ่งหนึ่งอย่างนี้ ทำไมจำได้ทันทีละว่า เป็นคุณพยาบาลน่ะ”

ปลัดทำไก๋ “เฮ้ย แหม จะดูรูปคนมันต้องหาสัญลักษณ์ประจำตัวเค้าเว้ย เอ็งนี่ ไหนว่าฉลาดไง แค่นี้ก็ไม่รู้ ชั้นดูเห็นถุงคุ๊กกี้แม่เนิก ชั้นก็จำได้แล้ว”

ปลัดก็ไปน้ำขุ่นๆเช่นกัน ปลัดพูดไปก็นึกในใจ เรื่องประเวศยังไม่จบนะเจ้ากุ๊ก ชั้นต้องรู้ให้ได้ ว่าเอ็งมีความสัมพันธ์ยังไงกับคุณเวศ

ทั้งสองเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนดูเชิงกัน แล้วก็พูดออกมาพร้อมกัน

“งั้นเราไปเยี่ยมคุณเวศกัน.....”

อ้าว พูดเสร็จแล้วมองหน้ากันเอง เจ้ากุ๊กว่า

“คือ ผมจะเอารูปนี้ไปคืนคุณเวศ มันคงปลิวมาจากที่ไหนสักแห่ง “

“ชั้นก็ว่างั้นแหละ เอาไปคืนคุณเวศเขา”

เจ้ากุ๊กมองปลัดแล้วค้อน ฮึ อยากจะไปหาพี่เวศก็บอกมาเหอะ คุณปลัด เอ๊ะ หรือว่าอยากไปหาคุณพยาบาลกันแน่นะ

ส่วนปลัดก็นึกในใจเช่นกัน ฮึ สงสัยอยากจะไปหาคุณเวศล่ะสิ

แล้วทั้งสองก็ออกเดินแบบคุมเชิงกันไปจนถึงโรงพยาบาล


เมื่อไปถึงที่ห้องพักของประเวศ ก็เจอแต่พัดชา

“คุณปลัดกับกุ๊กมาเยี่ยมคุณเวศหรอคะ ตอนนี้คุณเวศไปตรวจคลื่นสมองน่ะค่ะ แต่คงเป็นชั่วโมงนะคะ รอก่อนไหมคะ”

“อืม พอดีผมมีงานซะด้วยสิครับ งั้นวันหลังผมมาใหม่แล้วกันนะครับ”

ปลัดว่าพลางเตรียมดึงเจ้ากุ๊กออกไป แต่เจ้ากุ๊กนึกขึ้นได้ รีบหยิบกระดาษแผ่นนั้นส่งให้พัดชา

“คือ พอดีผมเก็บรูปที่คุณเวศวาดได้น่ะครับ มันตกอยู่ ฝากให้คุณเวศด้วยนะครับ” พัดชางงๆ แต่ก็รับไปแล้วยิ้ม

“ค่ะ งั้นถ้าคุณเวศตรวจเสร็จแล้ว พัดจะบอกว่าคุณปลัดกับกุ๊กมาเยี่ยมนะคะ”

แล้วปลัดกับเจ้ากุ๊กก็พากันเดินออกไป

ทั้งสองคนนึกชื่อสลับกันไปมา...ประเวศ ...พัดชา...ประเวศ...พัดชา...


ฝ่ายพัดชารับกระดาษแผ่นนั้นมาแล้ว ก็จ้องมองด้วยความสงสัย รูปอะไรที่คุณเวศไปทำตกไว้ ถึงเปียกน้ำไปครึ่งหนึ่ง แต่ก็ยังจำได้ดี....ก็ใครจะจำตัวเองไม่ได้เล่า...




Create Date : 20 ธันวาคม 2548
Last Update : 5 มีนาคม 2549 12:40:46 น. 0 comments
Counter : 182 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชมเช้า
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ชมเช้า..มาจาก ชมเช้า ชมสาย ชมบ่าย ชมเย็น ชมค่ำ ทุกกาลเวลาช่างน่าชื่นชม จะเวลาไหนก็เลือกชมเอาตามสะดวก..

...เวลาเช้า เป็นเวลาที่รู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา ดูสดใส จอมแก่นแสนซน ที่ไหนได้ ใครๆ เห็นชื่อแล้วบอกว่า 40 ขึ้นแน่ๆ บ้างก็ว่าป้า..เอ่อ เป็นงั้นไป...ขอบอกว่ายังห่างค่ะ ห่างมาก อิอิ...

ตอนนี้มีภารกิจเพื่อชาติให้ปฏิบัติค่ะ รู้สึกภูมิใจจังเลย (โบกมือแบบนางงาม) ดิฉันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ เอาใจช่วยด้วยนะคะ อิอิ...

คุณที่เข้ามาอย่าเพิ่งงงค่ะ ภารกิจอะไรขอเก็บไว้เป็นความลับ(ว่าแต่ ไม่ได้มีใครเขาอยากรู้สักหน่อย ^^") แต่ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามานะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ อ้อ อีกอย่าง เป็นแฟนหงส์ค่ะ (เกี่ยวไหมเนี่ย อิอิ)

Friends' blogs
[Add ชมเช้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.