A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
สิ้นปีทีไร ก็ว่างมากเสียจนมาจัดอันดับซีรีย์สุโค้ยย์ประจำปีขาลศก


และแล้ว เมื่อเข้าสู่ต้นเดือนของปีเถาะศก
ผู้เขียนก็ไม่ลืมที่จะมาระลึกพึ่งประเมิน ต่อภาพรวมของงานเขียน
ในช่วงของขาลศกปีที่แล้วมา โดยเฉพาะหมวดหมู่ของ "ดูหนังถ้าฉันมีเวลา"
หรือในอีกความหมายนึง ก็คือ "หมวดซีรีย์ญี่ปุ่น" ที่เล่าได้เป็นคุ้งเป็นแคว
เป็นตุเป็นตะ เป็นเรื่องบ้างไม่เป็นราวบ้าง
ซึ่งก็นึกไม่ถึงว่า ตัวเองจะสามารถร่ายได้สัพเพเหระแบบฟื้นฝอยหาตะเข็บ
จนพอนำมาจัดหมวดให้อันดับ "ความสุโค้่ยย์เน่" ในใจ
ถ้าจะมองให้แง่ดีนัก เท่ากับเป็นการเรียบเรียงและหาข้อสรุป
ในการประกอบความมีรสนิยม (ที่พอมีอยู่บ้างในใจ) ว่ากระแสการรับชม
ในส่วนตัว มีความเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงไร หรือในอีกทาง
ถ้าจะมองในแง่ร้ายลงสักหน่อย ย่อมจะหมายถึง
ผู้เขียนเองเข้าข่าย ขุดของเก่าเอามาหากิน
ให้พอมีเรือ่งเล่าอัพเดทได้ตั้งหนึ่งเรื่อง ซึ่งไม่ได้ประกอบอะไรใหม่
ที่จะสร้างสรรค์และเผยข้อมูลสดใหม่แต่ประการใด เอาเป็นว่า
ก็ต้องทำใจกันนิดนะครับ เพราะเอาเข้าจริงแล้ว
ผู้เขียนแทบไมได้ทำการบ้าน หาซีรีย์เรือ่งใหม่มากำนัลร่ายสู่กันฟัง
ด้วยวันหยุดที่พามา ทำตัวสัพเพเหระบ้านโน้นบ้านนี้ไปทั่ว
และตบท้ายด้วยฤทธิ์สาเกดีๆ ที่ทำเอามึนตึบไม่หาย ณ ปัจจุบัน




ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ปีขาลศกที่ผ่านมา
ผู้เขียนได้ร่ายซีรีย์ญี่ปุ่นเทือกๆ เบ็ดเสร็จแล้ว ๔๘ เรื่อง
นั่นหมายความว่า ถ้าหนึ่งปีมีค่าที่ ๕๒ สัปดาห์ น่าจะมีหนึ่งเดือนที่ผู้เขียน
ไปลงเหวทำหาอะไรไม่ทราบ จะไปโทษการเมืองซะ ก็เกรงว่าจะไม่งาม
จะไปโทษดินฟ้าอากาศ อันนี้ก็พึ่งโทษมาเป็นนิสัย เอาเป็นว่าช่างมันเหอะ
ก็อะไรไอ้เท่าที่มี มาจัดอันดับสุโค้ยย์กันเพลินๆ ตามประสา
คนว่างที่อยากไปเที่ยว แต่ดันไม่มีใครชวน จึงพอมีเวลามากพอ
ที่จะทำกิจบางอย่าง ตามขนบในแต่ละปี ซึ่งเช่นเคย
ครั้งนี้ ก็ขอใช้กติกาของ การนั่งจัดรางวัลซี่รีย์สุโค้ยย์แห่งปีฉลูศก
ที่ไม่ซับซ้อน ไม่ยุ่งยาก ออกจะมักง่ายเสียด้วยซ้ำ เหล่าๆได้ว่า



"ด้วยคณะกรรมการการตัดสิน มีด้วยกันเพียง "หนึ่งท่าน"
และท่านนั้น ก็ยังต้องทั้งคิด ไล่เรียง จัดพิมพ์ ตามเก็บ และทั้งต้องจ่ายค่าไฟตามรอบมิเตอร์
การตัดสินครั้งนี้ จึงอยู่ด้วยกรอบของ "อคติของตัว" และ "มายาคติในใจ"
โดยจะเลือกสรรเฉพาะซีรีย์ญี่ปุ่น ที่ได้ยลในรอบปีนักษัตรศกปีฉลู (ขอเปลี่ยนเป็นปีขาล)
ซึ่งไม่จำเป็นว่า จะต้องเป็นซีรีย์ที่เพิ่งถูกสร้างภายในปีนี้ แต่ยังหมายถึงซีรีย์ค้างเก่า
ที่เอามารีรันชมซ้ำ และไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเรื่องที่เคยรีวิวมาก่อน เพราะเรื่องที่เล่า
ยอ่มน้อยกว่าเรือ่งที่ไม่เล่าเป็นธรรมดา (เพราะต้องให้เวลาเรื่อง "เหล้า" ในวงเพื่อน
มากกว่า) โดยแต่ละสาขา จะล็อกสเป็กกลั่นใจเลือกให้เหลือเพียงหนึ่ง
จำต้องหักห้ามใจมิให้กล่าวถึง ส่วนจะมีรางวัลอะไรกันบ้างนั้น
ผู้เขียนก็ยังไม่สามารถจะบอกกล่าวให้ได้ เพราะเป็นการคิดรางวัลขึ้นมาสดๆ
ไล่ไปเรือ่ยๆ จนกว่าจะจนตรอกไปต่อกันไม่ติด ...................."
(แต่ครั้งนี้ขอประกาศรางวัลสุโค้ยย์โต้งๆ ไม่ไปแงะเอาผู้ท้าชิงให้เสียเวลา
และเป็นการกระชับพื้นที่ในเนือ้หา เพราะบ่ายนี้ผู้เขียนติดงานกาลาดริ๊งเกอร์อีกเช่นเคย)

เพื่อเสริมความเร้าใจในรางวัล ก็เข้าอินโทรนี้ซ้ำ เพื่อเข้าสู่การประกาศรางวัลนะครับ


รางวัลผู้เขียนบทหรือดัดแปลงแสนสุโค้ยย์แห่งปีขาลศก ได้แก่

"โยริชิตะ โยชิโกะ" จากซีรีย์เรือ่ง หมอ Jin

ผู้เขียนซูฮกให้เธอในเหตุผลที่เคยให้ว่า -
"อันนี้ผ่านตาอยู่บ้าง ก็จาก Mr,Brain และ Byakuyako เจ๊คงมีของดีอยู่กับตัว
เลยสะกดภวังค์ให้คนดูลุกออกจากหน้าจอได้ลำบาก
เลยทำให้ซีรีย์ตอนที่หนึ่ง ไม่เคยเพียงพอในความต้องการของคนดู
ที่อยากชมอย่างต่อเนื่อง แม้จะรู้วาจะมีผลต่อหน้าที่การงานในรุ่งเช้าถัดไป"

(เขียนไว้เมื่อ 09 พฤษภาคม 2553)




รางวัลผู้กำกับแสนสุโค้ยย์ประจำปีขาลศก ได้แก่

"ผู้กำกับ "ทาเกอุชิ ฮิเดกิ" จาก Nodame Cantabile

ด้วยเหตุผลที่เคยร่ายว่า -
"ก่อนที่รู้ว่าจะมีการสร้างโนดาเมะ จากฉบับการ์ตูนมาสู่ฉบับซีรีย์
ในฐานะที่ได้อ่านโนดาเมะฉบับมังงะ ของผู้วาดโทโมโกะ นิโนะมิยะมาก่อน
ก็คิดพล็อกเรือ่งไว้ในประมาณหนึ่ง แต่ไม่นึกว่าผู้กำกับจะพาเตลิดและเริ่ดสแมนแตนได้ยิ่งกว่า
ทำให้ซีรีย์คอเมดี้ไก่กาบ้าบอและคอเกือบแตก กลายเป็นซีรีย์สุดคลาสสิก
ที่ไปได้ดีจนเกือบหลุดวงโคจร บนความอ่อนไหวของกวีบทเพลงออเคสตาร์คลาสสิก
ที่ไม่ใช่เพียงแค่การยัดใส่ แต่บรรจงวางเก็บไว้อย่างศึกษาทำการบ้านมาดี
อีกทั้งหยอดลูกรายละเอียดของแต่ละเพลง ทำให้ดนตรีที่ไม่มีคำร้องฟังดูมีความหมาย
ผ่านจินตนาการและแรงบันดาลใจของผู้ประพันธ์"

(เขียนไว้เมือ่ 26 ธันวาคม 2553)



รางวัลนางรองสุโค้ยย์แห่งปีขาลศก ได้แก่

"โอการิ มิกิ" จากซีรีย์เรือ่ง หมอ Jin รับบทเป็น "นางโลมโนวาเซะซัง"

ด้วยเหตุผลที่เคยร่ายไว้ว่า
"ในซีรีย์เรื่องจินนี้ ยังต้องแบกรับกับตัวละครสองตัว สองบุคลิก
ที่ต่างยุคต่างสมัย โดยเฉพาะในบทบาทของตัวละครเกอิชาชั้นครูโนคาเซะ
ที่ต้องเก็งหน้า เม้มปาก ร่ายท่วงท่าฉวัดเฉวี้ยงอย่างมีจริตจะก้าน
เป็นลีลาที่ปกปิดที่อุปนิสัยใจคอลึกๆของตัวเอง ทำให้ผู้เขียน
อ่านไม่ออกและมองไม่เห็น นอกจากกิริยาเปลือกนอก
ในอาภรณ์ของกิโนโมหลากสี ชนิดอยากชวนมาร่วมก๊วนเสื้อหลากสีเสียจริงๆ
".............แม้หวยรางวัลนักแสดงหญิงฤดูกาลดังกล่าว
ไปตกใส่กับเด็กน้อยหน้าใส ชิดะ มิราอิ จากซีรียเรื่อง Shokojo Seira
.แต่ก็ได้ใจมหาชนจากผู้เขียนไปปาดน้ำตาพลางๆก่อนละกัน"

(เขียนไว้เมือ่ 09 พฤษภาคม 2553)





รางวัลพระรองสุโค้ยย์แห่งปีชาลศก ได้แก่

"โอการิ ชุน" จากซีรีย์เรือ่ง Smile ในบท "รุ่นพี่เซอิจิ"

ด้วยเหตุผลที่เคยร่ายว่า -
"เล่นได้เป็นภัยคุกคามอันใหญ่หลวงสำหรับเรื่องนี้ ถึงได้รู้ว่า
บทจะเลว ไอ้หมอนี้ก็เลวได้ไม่หยอกเช่นกัน
เป็นตัวละครที่พัวพันกับแก็งค์อันตพาล เมื่อตอนที่วีโต้ถูกดำเนินคดี
แม้บทพูดจะมีให้ไม่มากนัก แต่ทุกตอนที่เข้าฉากสร้างความรู้สึกไม่ไว้วางใจ
และสมควรที่จะหลีกเลี่ยงไปให้ไกลๆ ตามประสาผู้ก่อการร้ายฉายเดี่ยว
ถือเป็นบทเลวในการแสดงที่ดี พอมีดีกรีเป็นคนขี้คุก
ไม่ต่างจากเจ้าวีโต้เช่นเดียวกัน
ที่นานๆที จะมีตัวละคร "เลวได้ถ้วย" ปรากฎในซีรีย์สักเรื่อง
ทำให้ในบางการกระทำของวีโต้ ที่ขัดแย้งกันผู้เขียนมาโดยตลอด
อย่างน้อยๆ ก็สมประสงค์ใจตรงกันสักอย่าง"

(เขียนไว้เมือ่ 14 พฤศจิกายน 2553)



รางวัลเพลงสุโค้ยย์แห่งปีขาลศก ได้แก่

"เพลง l for You ของวง Luna Sea" จากซีรีย์เรือ่ง Precious Time

ด้วยเหตุผลที่เคยร่ายไว้ว่า
"ซีรีย์เรื่องนี้มันมีเพลงประเภท insert song มาแกะกระแสอยู่พรวด
อาทิ In The Sky กับ Kirara by Kudo Shizuka และ Wishes โดย S.E.N.S.
แต่ก็ไม่มีเพลงไหนโดดเด่นเท่านกับ I For You ที่เป็นเพลงเปิด ที่ดังปุบ
ก็ลิงค์ถึงซีรีย์เรื่องนี้ปับ และไปมีความสำคัญต่อมน้ำตาจี๊ดแม้ไม่เข้าใจภาษา
ถึงขั้นประกาศอุทิศให้ตอนสุดท้าย เรตติ้งเกือบสามสิบในตอนที่มีชื่อว่า
Ep 12: I FOR YOU...For love and brightness of life "

(เขียนไว้เมื่อ 05 กันยายน 2553)







ปีนี้ผู้เขียนจะขอเพิ่มเสนอในส่วนของรางวัลพิเศษเสริม
ในฐานะที่ขยันร่ายเสียจนจะมองข้ามมันไป ก็กระไรอยู่
กลัวว่าเดี๋ยวมันจะน้อยใจไป เพราะเห็นร่ำไรว่า "เทรนด์ใหม่" กำลังจะมา
และถ้าเล่นมุขเก่าเอามาหากิน เกรงจะไม่สมกับสำนวน "นานทีปีหน"

รางวัลซีรีย์ที่ถูกเอาไปหากินในช่องขายตั๋วสุโค้ยย์ประจำปีขาลศก ได้แก่
มหกรรมหนังหลายเวอร์ชั่นNodame Cantabile ทั้งภาคหนึ่ง และภาคสอง ของค่ายฟูจิทีวี

ด้วยเหตุผลที่เคยท่าน warinrata@bloggang ร่ายไว้ว่า -
"จิอากิเป็นเครื่องดนตรีที่ขึ้นสายจนตึงเปรี๊ยะ
โนดาเมะก็คือ เครื่องดนตรีที่สายหย่อนยาน ที่เล่นแทบไม่เป็นเพลง"
แต่ทั้งคู่ก็เติมเต็มกันและกัน จนกลายเป็นลำนำเพลงรักที่แสนจะสุโค้ยย์คลาสสิกไปในบัดดล"<

(เขียนไว้เมื่อ 26 ธันวาคม 2553)



รางวัลซีรีย์ย้อนยุคแห่งความทรงจำสุโค้ยย์ประจำปีขาลศก ได้แก่

ซีรีย์เรือ่ง Fireworks, Should We See It from the Side or the Bottom?
ของ ผู้กำกับและเขียนบท "ชุนจิ อิวาอิ"

โดยผู้เขียนเคยให้เหตุผลไว้ว่า-
"Fireworks แลดูจะแตกต่างจากงานซีรีย์ชิ้นก่อนๆของ อิวาอิ
หากเทียบกับ GhostSoup ที่เเน้นฮฮาคอมเมดี้จ๋า ผสมใช้เทคนิคตัดต่อชนิดกระโฉกโฮกฮาก
ตัวละครก็ล้วนแต่บ้าๆบอๆ ส่วนใน Fried Dragon Fish อันนี้ก็มหาอภิปรัชญา ตัวภาพดูหม่นๆมัวๆ
ที่ผู้เขียนแม้จะเตรียมตัวใจมา ซึ่งถ้าไม่ใช่อิวาอิ ก็ไม่คิดว่าจะเสี่ยงดูเพื่อความตระหนักรู้
อีกสักครั้ง แต่กลับ Fireworks ดูจะเป็นงานที่ประนีประนอมอยู่กลางๆผสมกับลูกเล่นในการถ่ายทำ"

(เขียนไว้เมื่อ 30 มกราคม 2553)



รางวัลฮาเป็นบ้าเป็นหลังอันสุโค้ยย์ประจำปีขาลศก ได้แก่

ซีรีย์เรือ่ง My Boss My Hero ของค่าย NTV


ซึ่งผู้เขียนเคยร่ายเหตุผลจนน้ำตาเล็ดไว้ว่า-
"เสียดายที่การมาพบเจอระหว่างผู้เขียนกับ My Boss My Hero
ดูจะช้าไป อันเป็นเหตุให้ลดความน่าตื่นเต้นและกระตุ้นต่อมฮีทให้ลุกพล่าน
ทั้งหมดนี้ ความที่ผู้เขียนได้ผ่านพ้นกับซีรีย์ในเครือเดียวกัน
ของค่าย NTV ที่Gokusen ไตรภาค ที่สูตรโครงสร้างหลักหลายส่วน
ถูกยกกะปิมาประทับ แล้วปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวละครนิดหน่อย......
ถึงแม้สูตรที่ว่าจะดูจำเจ แต่ทว่าก็ยังเรียกเสียงฮาได้อยู่มิวางวาย
แต่โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว ถือเป็นสูตรที่ดูดีไม่มีอาการยัดเยียด
แบบสร้างสถานการณ์ อย่างที่มีให้เห็นใน Gokusen............
แต่กับ My Boss My Hero แล้ว ดูเขาไม่แคร์กับสูตรนี้สักเท่าไร
มีลูกตลกแบบต๊อตเล็กต๊อตน้อยไปเรื่อย แบบที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น
ก็ยังมีโผล่ปุยๆให้เห็น หรือกำลังเข้มข้นอยู่ดีก็มีจุดเบรกกระชากอารมณ์
ให้กลับมาขำอีกสักแล้ว ความจริงก็ไม่น่าเเปลกใจเท่าไรหรอก
เพราะได้มือนักเขียนบทหญิงสุดฮาแห่งวงการ ที่เห็นชื่อ โอโมริ มิกะ"

(เขียนไว้เมื่อ 13 มิถุนายน 2553)




รางวัลเทคนิคพิเศษสุโค้ยย์ประจำปีขาลศก ได้แก่

ซีรีย์เรือ่ง Mr.Brain ของค่าย TBSทีวี

ซึ่งผู้เขียนเคยร่ายเอาไว้ว่า -
"แค่เห็นโปรดักชั่นตลอดทั้งเรื่อง กับ การประสานซีจีแบบไม่หวงงบ (แต่หวงตอนแทน)
ก็น่าจะเดาได้ว่า น่าจะไม่ใช่ผู้กำกับขี้ไก่ข้างทางที่ไหน
ซึ่งก็เป็นตามนั้น เพราะเป็นการอัญเชิญสามเทพผู้กำกับประจำค่าย TBS.............
แม้แต่ตัวฆาตกรเอง ก็ยังได้ใจสนบสนุนการไล่ล่าฆ่าฟันโดยรู้อยู่แก่ตัว
แต่ทำไงได้ ก็อยากเห็นการคลี่คลายอย่างเทพและไอ้เจ้าเทคโนโลยีล้ำสมัยไฮเทค
ที่แอบกลัวนิดๆว่า ถ้าดีเอสไอบ้านเรามาเห็น อาจมีการติ๊กกาจัดซื้อจากเมืองนอก
ซึ่งก็เป็นเงินภาษีของประชาชนคนรากหญ้าของเราๆท่านๆด้วยกันทั้งน่านเลย"

(เขียนไว้เมื่อ 08 สิงหาคม 2553)



รางวัลภาพยนตร์เมืองยุ่นสุโค้ยย์แห่งปีขาลศก ได้แก่
ภาพยนตร์เรือ่ง Goemon ของผู้กำกับ คาซูอากิ คิริยะ

ซึ่งผู้เขียนเคยร่ายเอาไว้ว่า -
"ความที่เป็นหนังดัดแปลง ทั้งในเรื่องเนื้อหาและจินตนาการ
สิ่งที่คนดูจะทำได้ คือ การเสพอรรถรสของหนัง ตามแต่ใจที่ผู้กำกับอยากจะให้เป็น
คิริยะผู้กำกับ ก็ทำให้การดำเนินเรื่องทุกอย่าง ดูเป็นจริงเป็นจัง สมเหตุสมผล
แม้คนดูอาจไม่รู้สึกแปลกใจ ถ้าหลายพล็อตที่ได้ชม จะเป็นสูตรสำเร็จตามแบบการ์ตูนนิยมศึกษา
ไม่อยากให้ใครเผลอเอาเทียบกับงานซีจีต้นทุนสูงอย่างอวตาร ของเจมส์ คาเมรอน
เพราะเนื้อหาและเจตนา ดูจะแตกต่างกันพอสมควร
ถึงแม้จะมีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือ ต่อต้านสงครามและความปรองดองสมานฉันท์
ด้วยงานของผู้กำกับคิริยะ เขาเล่นกับอดีตที่เป็นประวัติศาสตร์ชาติแบบคู่ขนาน
ขณะที่งานของผู้กำกับคาเมรอน เขาเล่นกับจินตนาการในอนาคตของมนุษยชาติ"

(เขียนไว้เมื่อ 27 ธันวาคม 2552)



รางวัลอ่านพริวิวของเขาแล้วเราอยากดูสุโค้ยย์แห่งปีขาลศก ได้แก่
ซีรีย์เรือ่ง Code Blue 2 โดยท่าน prysang@bloggang
อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไม? เอาเป็นว่าตามอ่านได้ที่ คลิกที่นี้ ละกัน



คำคมในซีรีย์แสนสุโค้ยย์แห่งปีขาลศก ได้แก่
ประโยคพร่ำเพ้อแสนจะศาสตร์สมาน ทั้งความเป็น เทวบัญชา ปรัชญา สังคมศาสตร์
อนาคตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ควอตัม ดาราศาสตร์ ทฤษฎีโกลาหล และประวัติศาสตร์
ที่หมอจินเปรยตั้งแต่ต้นเรือ่ง แบบหน้าสู้ฟ้าส่วน มือคว้าดาวมาประกอบ
ในซีรีย์ หมอ Jin ในประโยคที่ว่า-

"We've forgotten the darkness of the night
But what if there was a day,l wonder if you would be able to grasp the light that was there?
By your own hands
และ God only gives us challenges ,So we can overcome them."

(เขียนไว้เมื่อ 09 พฤษภาคม 2553)



รางวัลนางเอกตัวแม่สุโค้ยย์ประจำปีขาลศก ได้แก่
"ฮารุกะ อายาเซะ" จากเรือ่ง Hotaru no Hikari ในบท"สาวปลาแห้งโอโมริยะ โฮตารุ"

ด้วยเหตุผลที่เคยร่ายว่า -
"เธอมีของและกล้าลองฝีมือในงานที่สุ่มเสี่ยงจะดับอนาคตของตัวเธอเอง
ทำให้พฤติกรรมสุดเพี้ยนของสาวปลาแห้งให้กลายเป็นน้ำปลาตรากระตัก คุณภาพคับ อย.
ที่ไม่ต้องโคลนนิ่งพฤติกรรมแอบเเป๋วแล้วทำแกมป๋อง แต่ขายในจุดที่ตัวเองเป็นอย่างไม่เสแสร้ง
ถ้าจะบอกว่าเป็นงานสร้างภาพ ก็ต้องเป็นงานสร้างภาพให้ดูต่ำลงแต่กลับมีคนดูรักมากขึ้น
จึงทำให้บท อาเมริยะ โฮตารุ ดูเป็นที่น่าจดจำในลำดับทะเบียนผลงานของ อายาเซะ เอง
ไม่แพ้ในบท สุกิมุระ อากิ ใน Crying out , ยุกิโฮะ จาก Byakuyako
และ ทาจิบาน่า ซากิ จากซีรีย์ Jin"

(เขียนไว้เมือ่ 26 กันยายน 2553 )




รางวัลนักแสดงชายตัวพ่อสุโค้ยย์แห่งปีขาลศก ได้แก่
"ทามามุระ ทาคาฮาซุ" จากซีรีย์เรือ่ง Concerto ในบท "สถาปานิกชั้นเทพโคซุเกะ"

ด้วยเหตุผลที่เคยร่ายไว้ว่า
"เป็นนักแสดงที่มีลูกล่อลูกชนแพรวพราว
จนไม่แปลกใจว่าทำไมน้องฮานะ จึงต้องนอกใจมารับการอุปถัมภ์จากลุงท่านนี้
ลุงแกทำให้ผู้พอเชื่อได้ว่า น่าจะเป็นนักสถาปนิกจริงได้
ไม่ได้ด้วยแบบแปลนที่ลุงวาดหรอกนะ แต่ด้วยอารมณ์ติสท์แบบสถาปนิกเขาชอบเป็น
ประเภทเอามือลูบคาง จูนหัวสมอง ขณะที่ในมือคีบบุหรี่ปุยๆ โห!มันใช่เลย
ลีลาการพูดของแก เต็มไปด้ยความเชื่อมั่น พร้อมที่จะให้คนอื่นฟังแก
ขณะเดียวกัน แกก็ไม่พร้อมที่จะยอมให้ใครพูดขึ้นสวน ในขณะที่แกกำลังคุยอยู่
ดูงานซีรีย์จากที่แกเล่นก็ไม่บ่อยนัก เพราะนานๆแกจะรับเล่นซีรีย์สักเรื่อง...........
เป็นความเท่ห์แบบคนมีกะตังค์ ที่ดับรัศมีให้ทาคุยะยังไม่พร้อมแจ้งเกิด
จึงมิแปลกใจหากแฟนทะคุงคลับ จะไม่ค่อยรู้จักมักคุ้นกับซีรีย์เรื่องนักก็ตาม"

(เขียนไว้เมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2553)



และตบท้ายด้วยรางวัลสุดท้าย (เพราะก๊กเพื่อนโทรตามมาชวนแล้ว)

รางวัลซีรีย์สุโค้ยย์แห่งปีขาลศก ได้แก่

"ซีรีย์เรื่อง Dr. Koto Shinryojo โดยค่าย ฟูจิทีวี

ด้วยเหตุผลที่เคยร่ายไว้ว่า -
"โดยภาพรวม ถือเป็นงานสไตล์โคโตะที่ไม่ง่าย
เพราะโดยปกติ ผู้เขียนดูซีรีย์เรื่องหนึ่งเรือ่งใด มักจะจดจำได้เฉพาะเพียงบางตอน
และบางฉาก แต่ในซีรีย์หมอโคโตะแล้วกลับเป็นกลุ่มก้อนและความรู้สึกโดยรวม
ด้วยการดำเนินเรือ่งแบบแยกกระจาย คลี่คลายไปในช่วงเวลาเดียวกัน
กลายเป็นภาคที่แสดงยัตถาปัจจตัง อันยากจะประสานความซ่านเซ็น
ให้กลับมาเป็นกลุ่มก้อนเฉกเช่นเดิมเหมือนกันในภาคแรก
แต่ผู้กำกับก็ยังควบคุมกรรมวิธีแบบโคโตะ ที่เป็นสไตล์เอกลักษณ์เฉพาะตน
ทั้งการตัดต่อ ลำดับภาพ แสง มุมกล้อง การเล่าเรือ่ง มุขตลก
เป็นความหนักหนาที่ไม่ฟูมฟาย ยังพอเห็นประกายความหวังในช่วงเวลาที่ริบหรี่"

(เขียนไว้เมือ่ 06 ธันวาคม 2553)



และก่อนลาที่จะไม่ลืม
รางวัลซีรีย์แสน "อสุโค้ยย์" แห่งปีขาลศก
(ซึ่งจะว่าไปถือเป็นปีที่ซีรีย์ญี่ปุ่นหลายเรือ่ง ที่ชมแล้วก็หวั่นเกรงใจซะ มีทั้งประเภท
ดูตอนแรกก็ฟังธง บางเรื่องก็เป็นประเภทปกหลอกตา และมีทั้งดาราพาเตลิด
หรือประเภทเก่าเก็บกรุไม่เผาผี แต่ความที่ต้องคัดมาเพียงแค่ "หนึ่ง"
มันจึงหนีไม่พ้นสูตร "หวังไว้มาก ก็มีสิทธิ์ (ผิดหวัง) มาก" ซึ่งก็ได้แก่


ซีรีย์เรือ่ง Moon Lovers ที่มี ทาคุยะ คิมูระ เป็นดาราเอกชูโรง
ประกอบมเหสีลือชื่อทั้งสามนาง ไม่ว่าจะเป็น "คิตากาวา เคย์โกะ" "เรียวโกะ ชิโนฮารา"
และหมวยอิมพอร์ต "หลินจื้ออิง" แถมไปถึงไอ้หนุ่มวงใน "มัตซึดะ โชตะ" ทื่กำลังไต่ความดัง
บวกกับเจ้าแม่มือเขียนบทระดับตำนาน
"ทาเคโนะ อาซาโกะ" (Last Friend,Innocent Love)
สุดท้าย ค่ายฟูจิทีวีก็ทำการกระชับพื้นที่ตอนให้ ลดลงเหลือแค่แปดตอน
จากเรตติ้งที่โผล่พรวดตอนแรก ๒๒ กว่ามาเหลือต่ำสุดที่ ๑๓ กว่า
ก็อย่างที่ท่าน prysang@bloggang ว่าไว้นั่นแหละ

"โอ๊ย จะบ้าตาย ดูกี่ตอนๆ จนจะจบเรื่อง
ก็มิอาจฟันธงได้ว่าเรนสึเกะจะเลือกใครกันแน่
ของเขาทำได้ไม่ชัดจริงๆ .....จึงไม่แปลกใจ กับ ความเห็น
ทำไมเลือกอย่างนั้น ไม่ควรเลือกอย่างนี้หรอกหรือ ??
( เออสิ ..มันผิดธรรมเนียมละครไปหรือเปล่า ) และไม่แปลกใจอีกเช่นกัน
กับ ความเห็นอีกด้านที่แสดงความรู้สึก............... เรื่องราววนเวียนอยู่กับชายหนึ่งหญิงสาม
ที่บางครั้งมันก็น่าเบื่อ ถ้าไม่เป็นเพราะแรงจูงใจที่ต้องการพิสูจน์
"มันต้องเป็นอย่างที่ฉันคิดสิ!" ก็คงเลิกดูไปตั้งแต่สองสามตอนแรกแล้วล่ะ
โดยส่วนตัวแล้วเรื่องนี้ไม่ทำให้รู้สึกถึงความโรแมนติกหรือความซาบซึ้งใด
ดูจบแล้ว ต้องบอกเลยว่า Thank goshhhhh ที่สร้างมาทรมานใจกันแค่ 8 ตอนจบ"

(เขียนไว้เมื่อ 07 สิงหาคม 2553)



อันนี้ก็ถือเป็นภาพรวมโดยย่อ ที่ได้คัดสรรเเบบฉับพลันทันด่วน
ชนิดไม่ทันยั้งคิดก็ว่าได้ ซึ่งไม่อาจจะเอามาตราฐานสากลส่วนไหนมาพอชี้วัดได้
นอกจากความได้ใจ-ถึงใจ และสาแก่ใจของตัวผู้เขียนเอง
(ถึงได้บอกแต่ต้นว่ามัน "สุโค้ยย์" นี้ไง)
ก็ถือว่า เป็นการจัดลำดับเอาดูขำๆ สังหารเวลาอันมีค่าของท่านเล่นๆ
เพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจเลือกซื้อ เลือกชมและเลือกโหลด
ตามแต่มรรควิธีในแต่ละท่าน ซึ่งก็อะหน๊า
ระยะหลัง การจะหาอ่านพรีวิวซีรีย์ญี่ปุ่นเล็ดลอดมาสักเรื่อง
ก็ถือเป็นการหางมเข็มในมหาสมุทรที่มีคราบน้ำมันปกคลุมขึ้นอีกชั้น
ซึ่งในปีเถาะศก ผู้เขียนไม่กล้ารับปากกับตัวเองเลยว่า จะพยายามปั่นงานร่ายซีรีย์
ได้มากน้อยประมาณไหน อย่างไรและทำไม เพราะโดยปกติ
ก็เป็นคนที่ผันแปรความสนใจไปเรือ่ย ไม่คอ่ยได้จับเจ่าต่อเรื่องหนึ่งเรื่องใดเท่าไรนัก
แม้แต่ทีมฟุตบอล ก็ยังปรับเปลี่ยนไปตามภูมิทรรศนะของเกจิอยู่ร่ำไป
(ยังไม่รวมกรณี ที่กำลังจะทำท่าว่าตกชั้น ซึ่งคุณก็พอรู้ว่าทีมใด)
เอาเป็นว่า ถ้ายังสนุกกับการได้นำเสนอและมีคนสนอง ก็เชือ่ว่า
คงได้กลับมารับใช้มิตรรักนักอ่านซีรีย์พี่ยุ่นตามวารดิถีปกติต่อไป
และขอบคุณทุกท่าน ที่ได้อยู่ร่วมกันมา ทั้งแบบโผล่มาและแว้บโผล่ให้ได้สะดุ้งเฮือก
ของในปีที่ผ่านมา หวังว่าคงจะสนุกหรรษากับการชมซีรีย์อย่างมากก็ไม่น้อยนะขอรับ
สวัสดีปีใหม่ทุกกัลยาณซีรีย์นะครับ...............



ป.ล. ยังไม่ลืมที่จะต้องปิดท้ายด้วยวาทกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ของปีที่แล้วที่แปะไว้ว่า

"การให้คะแนนเป็นสิทธิ์ส่วนตัว ที่ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณให้จงหนัก"



Create Date : 02 มกราคม 2554
Last Update : 3 มกราคม 2554 13:36:14 น. 6 comments
Counter : 2302 Pageviews.

 
ขอบคุณนะที่เขียนซะยาวเลย^^
ชอบๆ

มาตามเก็บข้อมูลค่ะ
ซีรี่ส์เต็มบ้านเลย บางเรื่องนานมาก
กว่าจะเอาออกจากกรุมาดู
ปกติจะดูเกาหลีเยอะกว่า
เพราะมันไม่ต้องตั้งใจดู
แต่กับญี่ปุ่นต้องตั้งใจดูนิดนึง

แล้วก็ปีนี้อยากไป backpack
2 ที่เลย แต่ยังหวั่นใจกับญี่ปุ่นนี่สิ หุหุ


ยังไงก็ happy new year นะ
ว่างๆก็ดูแล้วมารีวิวอีกนะคะ




โดย: nnn_ngek@hotmail.com IP: 220.244.8.252 วันที่: 3 มกราคม 2554 เวลา:7:02:12 น.  

 
ขอบคุณที่แวะเวียนมานะขอรับ
คุณ nnn_ngek
แต่เสียดาย ที่อยากเห็นอันดับในใจ
ของตัวท่านด้วยเช่นกัน

เอาเป็นว่า ผู้เขียนแอบใส่ตัวยาความสนุก
ไว้ในซีรีย์แต่ละเรื่องเอาไว้แล้ว
ที่เหลือ ก็ขึ้นอยู่กับการเลือกบริโภค
ให้ถูกปากก็แล้วกันนะขอรับ
สวัสดีปีใหม่ครับ


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 3 มกราคม 2554 เวลา:14:36:50 น.  

 


สวัสดีปีใหม่ที่มาช้า แต่ก็อยากมาสวัสดีปีใหม่


โดย: prysang วันที่: 3 มกราคม 2554 เวลา:22:03:25 น.  

 
นึกว่าเปิดมาผิดที่ผิดทางเพราะเสียงธีมดนตรีนี่เอง อ่านไปสองรอบแล้วก็ยังไม่ได้เมนท์สักที สาเหตุที่ต้องอ่านสองรอบ เพราะพอจะเมนท์ก็มีมารมาขัดจังหวะให้ต้องไปทำอย่างอื่น ก็เลยต้องอ่านกันอีกรอบก่อนจะเมนท์

ไปมีเอี่ยวกับรางวัลพิเศษของท่านด้วย หน้าพองเป็นลูกโป่งเพราะบรรจุความปลื้มเลยล่ะ ขอบคุณมากนะคะ เวลาเขียนถึงซีรีย์ดีๆ สักเรื่องแล้วมีคนอยากดูตาม ถ้าดูแล้วชอบเหมือนกัน เห็นว่าดีเหมือนกัน ก็นับว่าเป็นเรื่องน่าดีใจ แต่ถ้าใครดูตามแล้วไม่ชอบ อันนี้เราก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ไป โทษเอาแต่ว่า ลางเนื้อชอบลางยา ต่างคนต่างจิตต่างใจละเนาะ

แต่ตอนนี้เกรงๆอยู่ว่าจะมีคนเอาเข็มมาทิ่มหน้าลูกโป่งใบนี้หรือเปล่า เพราะความเห็นที่โชว์หราต่อ Moon Lovers จะไปกระทบจิตใจแฟนคลับป๋ายะเขาเข้า เอาเถอะ ยังไงแฟนคลับของป๋ายะก็ไม่รู้จักตัวจริงของเรา จงอย่าได้แคร์ ยังไงก็รอดล่ะวุ้ย 555

สนับสนุนกับรางวัลของชุน ตอนดูหนังเรื่อง Spring Story เป็นอีกหนึ่งเรื่องรักของเพื่อนรักเพื่อน ทั้งที่เป็นแนวความผูกพันแบบที่ชอบ แต่น่าแปลกที่จำชุนไม่ได้เลย มาจดจำเอาแม่นยำก็เพราะเรื่อง smile นี่แหละ นักแสดงที่ทำให้รู้สึกชื่นชมได้ในบทร้ายก่อนที่จะมารู้จักกันในบทคนดีๆ แบบนี้ต้องถือว่าแสดงได้เก่ง ชุนในเรื่อง smile เวลาไหนที่โผล่หน้ามา ต้องบอกเลยว่าความเลวที่แฝงอยู่ในสีหน้าแววมา มันชวนขนลุก

Mr.Brain ยังดูไปแค่สามตอน แต่ยอมรับเลยว่าเทคนิคพิเศษของเขามันสุโค้ยของจริง ไม่เคยเห็นภาพเทคโนโลยีหรือความไฮเทคล้ำสมัยที่ดูสมจริงอย่างหรูหราแบบนั้นมาก่อนในซีรีย์ญี่ปุ่น

Nodame ไม่ต้องบรรยายว่าสนับสนุนรางวัลนี้แค่ไหน เพราะเป็นซีรีย์สุดรัก ขอปลื้มกับรางวัลอีกหน

จะมีโนคอมเมนท์หน่อยก็เรื่อง my boss my hero เพราะซีรีย์เรื่องนี้ดูแบบกรอๆ ข้ามๆ เพราะความเบื่อหน่ายเป็นบางขณะ ฮาน่ะยอมรับว่าฮาจริงๆ ไม่ใช่ฮาธรรมดา แต่ฮาพากลิ้งจนอยากจะดิ้นพลาดๆ มุกยากูซ่า นั่งนับนิ้วมือคำนวณอัตราต่อรองราคา และมุกพุดดิ้ง 12 ชิ้น นี่มันสุโค้ยจริงๆ แต่ในส่วนของเนื้อเรื่องอาจจะเป็นเพราะสูตรเคมีของความเป็นตัวเอกไม่โดน เพราะโทโมยะดันไปปิ๊งป๊างกับเด็กนักเรียนด้วยกัน โดยปล่อยให้คุณครูสาวสวยที่น่ารักคนนั้นรับประทานแห้วไปอย่างน่าเสียดาย ก็เลยเกิดความเบื่อหน่ายขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยตั้งแต่กลางๆ เรื่อง หากเป็นว่าพระเอก มีใจให้คุณครูแทนล่ะก็ ความรู้สึกอาจจะเป็นตรงกันข้าม อาจจะขึ้นแท่นซีรีย์สุดรักอีกเรื่องหนึ่งก็ได้

ส่วนเรื่องอื่นๆ ยังไม่เคยดูเลย

Jin เป็นซีรีย์ย้อนยุคต้องรอจังหวะอารมณ์นิดนึง แต่เสียงชื่นชมอย่างหนาหู ไม่ดูคงไม่ได้





โดย: prysang วันที่: 3 มกราคม 2554 เวลา:22:26:16 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
แวะมาทักทายยามเช่าๆ วันนี้เป้นวันแรกของการทำงานในปีกระต่ายนี้ แวะมาเป้นกำลังใจให้สู้ชีวิตกันนะคะ นึกถีงอยู่เสมอค่ะคุณchan


โดย: เกศสุริยง วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:8:00:22 น.  

 
55555555 ตามมาอ่าน พี่เขียนฮาดีครับ และได้อารมณ์จริงๆ 55 เห็นด้วยเรื่อง มิสเตอร์เบรนครับ ไฮเทคแบบสุโค่ยยมาก ถ้ามีสำนักงานไอพีเอส(รึเปล่าหว่าดูนานแล้ว55)จริงๆ ขโมย โจร อาชญากร คงไม่รอดแหงมๆหล่ะครับ อ่อ ต้องมีมิสเตอร์เบรน มาวิเคราะห์สมองด้วยนะครับ


โดย: PRIVATE IP: 223.205.231.187 วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:21:01:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.