ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

สวยครบสูตร ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้าด้วยอะโวคาโด

เคล็ดลับผิวสวย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


แม้อะโวคาโดจะไม่ใช้ผลไม้ประจำถิ่นของบ้านเรา แต่หลายคนคงเคยได้ยินถึงสรรพคุณนานัปการของเจ้าผลไม้ชนิดนี้ สาว ๆ สมัยก่อนต่างใช้อะโวคาโดในการดูแลความงาม ตั้งแต่เส้นผมไปจนถึงปลายเท้าเลยทีเดียวค่ะ อ๊ะ ๆ ไม่ได้โม้จริง ๆ นะ ถ้าไม่เชื่องั้นไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ

1. บำรุงผมได้เงางาม

ใช้อะโวคาโดขนาดกลาง 1 ผล ผ่าครึ่งแล้วคว้านเมล็ดออก บดให้เละด้วยส้อม และนำไปบดผ่านตะแกรงอีกครั้งหนึ่งเพื่อเนื้อที่เนียนละเอียดขึ้น ผสมไข่แดง 1 ฟองกับน้ำมันมะกอก 1/2 ช้อนชา หมักผมทิ้งไว้ 25 นาทีแล้วล้างออก จากนั้นสระผมด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมและบำรุงผมตามปกติ แล้วคุณจะได้พบกับผมที่เงางามมีน้ำหนักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

2. บรรเทาอาการใต้ตาคล้ำโทรมไม่แจ่มใส

หากวันไหนนอนไม่พอ ตื่นขึ้นมาแล้วพบกับตาลึกโหล โทรมจนไม่อยากส่องกระจก เพียงแค่ฝานอะโวคาโดบาง ๆ แปะทิ้งไว้ที่ใต้ตาของคุณราว 15-20 นาที จึงนำออกแล้วล้างหน้า คุณจะพบว่าใต้ดวงตาคุณสดใสขึ้นเยอะเลยค่ะ

3. ใช้มาส์กหน้า

ใช้อะโวคาโดครึ่งผล บดเนื้อให้ละเอียด แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วตามด้วยน้ำเย็นอีกครั้งหนึ่ง ผิวของคุณจะชุ่มชื่นสดใสขึ้นแน่นอนค่ะ

4. ใช้เป็นมอยซ์เจอร์ไรเซอร์

นอกจากเนื้อที่นำมาบดใช้มาส์กหน้าได้ เปลือกของอะโวคาโดก็ยังใช้ได้เช่นเดียวกันค่ะ หลังจากคว้านเนื้อออกจากเปลือกแล้ว ใช้ด้านในเปลือกของผลอะโวคาโดถูเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้าที่สะอาด ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที หรือนานเท่าที่คุณต้องการ จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วตามด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง ผิวคุณจะนุ่มชุ่มชื่นขึ้นจนสังเกตได้เลยล่ะ

5. แฮนด์สครับ

นอกจากเส้นผมและผิวหน้า อะโวคาโดก็ยังนำมาใช้ทำเป็นสครับสำหรับผิวที่มือได้ด้วยนะคะ ใช้อะโวคาโดครึ่งลูกบดให้ละเอียด ผสมข้าวโอ๊ตบดหยาบ 3-4 ช้อนโต๊ะ, ไข่ขาว 1 ฟอง และน้ำมะนาว 1 ช้อนชา ขัดนวดเบา ๆ ที่มือแล้วทิ้งไว้ 10-15 นาที จากนั้นล้างมือแล้วเช็ดให้แห้ง เท่านี้มือก็จะนุ่มน่าสัมผัสแล้วค่ะ

6. บำรุงผิวเท้า

ดูท่าอะโวคาโดจะเป็นมิตรกับผิวทุก ๆ ส่วน ไม่เว้นแม้แต่ผิวที่เท้าของเรา อะโวคาโดสามารถให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้มาก จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเท้าที่มีปัญหาแห้งกร้าน ใช้อะโวคาโดบดทาที่เท้า นวดเบา ๆ เพื่อกระตุ้นให้ผิวหนังซึมซับความชุ่มชื้นจากเนื้ออะโวคาโด จากนั้นพอกทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออก และคุณก็จะมีเท้าจะเนียนนุ่มขึ้นมากเลยล่ะค่ะ

โอ้โห ช่างเป็นผลไม้ที่มหัศจรรย์จริง ๆ ดูแลความงามให้สาว ๆ ได้ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้าเลยทีเดียว ใครที่ชอบทานอะโวคาโด คราวหลังอย่าลืมลองใช้เจ้าผลไม้นี้ ช่วยดูแลผิวตามสูตรที่นำมาฝากกันดูนะคะ




 

Create Date : 15 มิถุนายน 2554    
Last Update : 15 มิถุนายน 2554 8:42:15 น.
Counter : 1367 Pageviews.  

สารพัดวิธีมีมือสวย สำหรับสาววัย 40



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


เพราะวัยของผู้หญิง ดูไม่ได้จากหน้าตาเพียงอย่างเดียว แต่มือของเรา ซึ่งเป็นอวัยวะที่โดดเด่นรองจากรูปร่างและใบหน้า ก็สามารถบ่งบอกอายุได้เช่นกัน ดังนั้น ผู้หญิงวัย 40 ขึ้นไปจึงต้องใส่ใจกับการดูแลมือให้มากขึ้น พอ ๆ กับใบหน้า เพื่อให้ผิวพรรณทุก ๆ ส่วน อ่อนเยาว์ไปพร้อม ๆ กัน วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอหยิบยกสารพัดวิธี มือสวยอ่อนเยาว์มาฝากกัน ให้ผู้หญิงวัย 40 ขึ้นไปได้ลองเลือกและพิจารณากันดูค่ะ

1. เมโสเธอราพี เทคโนโลยีที่กระชับผิวสวย ทำให้ผิวใสวิธีนี้ไม่ได้ทำได้กับใบหน้าได้เพียงอย่างเดียว แต่สามารถทำกับมือด้วยค่ะ

2. เคมิคอลพีล คือกระบวนการที่ขัดลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากผิวชั้นบน ด้วย Glycolic หรือ Salicylic Acid ทำให้มือดูใส ขาวขึ้นได้ ปกป้องก่อนเกิดรอยเหี่ยวย่นได้ดีเลยทีเดียว

3. ขัดกรอผิวมือ หรือ Microdermabrasion เป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็ว ไม่มีผลข้างเคียงและให้ประสิทธิภาพสูง ขจัดเซลล์ผิวหนัง ชั้นบนที่ตายแล้วอย่างนุ่มนวล ทำให้มือของคุณเนียนใสได้ ปกป้องก่อนเกิดรอยเหี่ยวย่นได้ดีเช่นกัน

4. เลเซอร์ จะปรับผิวโดยกระตุ้นให้มีการยืดหยุ่นและคอลลาเจนในผิว วิธีนี้ต้องทำอย่างน้อย 4 ครั้ง จึงจะเห็นผล แต่สามารถแก้ปัญหามือเหี่ยวย่นได้ดีเลยล่ะ

5. เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ หรือ Radiofrequency เป็นวิธีที่แพทย์จะใช้กระแสไฟ คลื่นความถี่วิทยุ กระตุ้นการสร้างและการเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนใต้ผิว สามารถลดริ้วรอยต่าง ๆ ได้ผลดีมาก แถมปลอดภัยด้วย

6.ฟิลเลอร์ เป็นเทคโนโลยีกระชับรอยย่น โดยแพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าใต้ผิวหนังทดแทนคอลลาเจนที่หายไปใน รอยย่นนั้น ทำให้มือกลับมาเต่งตึงสวยเหมือนวัยสาวเลยทีเดียว

และทั้งหมดนี้ก็คือสารพัดวิธีที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ก่อนเข้ารับการรักษา อย่าลืมขอคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อนำมาเปรียบเทียบก่อนก็ดีนะคะ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้การรักษานั้นตรงกับจุดประสงค์ของเรานั่นเองค่ะ




 

Create Date : 14 มิถุนายน 2554    
Last Update : 14 มิถุนายน 2554 8:41:06 น.
Counter : 1850 Pageviews.  

วิธีทำมาสคาร่าโทนสีสดใสด้วยตัวเอง

แต่งหน้า

DIY Coloured Mascara
(Lisa)

เครื่องสำอางโทนสีสดใสกำลังมาแรงในซีซั่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นอายแชโดว์ ลิปสติก หรือแม้กระทั่งมาสคาร่า เพื่อให้คุณสามารถประหยัดเงินในกระเป๋า ไว้สำหรับซื้อสิ่งอื่นที่จำเป็นกว่าได้ เราก็เลยหาวิธีทำมาสคาร่าโทนสีสดใสด้วยตัวเองมาบอกคุณแล้ว

ขั้นตอนที่ 1 : ปัดมาสคาร่าลงบนขนตาหนึ่งรอบ เพื่อเป็นการเตรียมขนตา และทำให้ขนตาเกิดความชื้นเวลาที่คุณกำลังจะเริ่มเติมสีสันลงไป

ขั้นตอนที่ 2 : จุ่มพู่กันเขียนตาลงลิปบาล์ม (หรือวาสลีน) แล้วนำลงไปจุ่มในบลัชออนชนิดฝุ่นที่มีโทนสีสดใสอีกครั้ง หรือจะใช้อายแชโดว์โทนสีสดใสแทนก็ได้

ขั้นตอนที่ 3 : ทาส่วนผสมของลิปบาล์ม และบลัชออนชนิดฝุ่นนั้นลงบนขนตาที่ยังมีความขื้นจากมาสคาร่าอยู่ โดยอาจต้องใช้ปริมาณเยอะพอสมควรในการทา เสร็จแล้วก็ใช้หวีอันเล็ก ๆ หวีขนตา เพื่อป้องกันไม่ให้ส่วนผสมเกาะตัวกันเป็นแผ่น




ขอขอบคุณข้อมูลจาก




 

Create Date : 13 มิถุนายน 2554    
Last Update : 13 มิถุนายน 2554 8:33:49 น.
Counter : 1207 Pageviews.  

เคล็ดไม่ลับจัดการกับความสวย

เคล็ดไม่ลับจัดการกับความสวย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ในแต่ละวัน ผู้หญิงเราต้องวุ่นอยู่กับความสวยของตัวเองรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เช้ายันเย็น ซึ่งแต่ละคนนั้นก็มีเคล็ดลับดูแลความสวยของตัวเองแตกต่างกันไป แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ผู้หญิงเราก็ใช่ว่าจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับการจัดการกับความสวยไปซะทุกเรื่อง วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอนำเคล็ดไม่ลับกับการจัดการกับความสวยในแต่ละวันมาฝาก เผื่อสาว ๆ อาจจะยังขาดตกอะไรไปค่ะ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย

1. น้ำเย็นทำให้เล็บแห้งเร็ว

หากสาว ๆ คนไหนที่ทาเล็บตอนเช้า แล้วต้องรีบออกจากบ้านเพราะไม่มีเวลานั่งเฉย ๆ ให้เล็บแห้ง คงจะเคยเจอปัญหายาทาเล็บเปรอะเปื้อนกันมาแล้ว ต่อไปนี้ให้นำน้ำเย็นใส่ถ้วยแล้วเอานิ้วมือหรือนิ้วเท้าจุ่มลงไปในน้ำเย็นค่ะ เล็บจะแห้งเร็วขึ้น 2 เท่าเลยทีเดียว

2. ใช้คอนดิชันเนอร์ทุกครั้งหลังสระผม

คอนดิชันเนอร์ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงคอนดิชันเนอร์ที่หมักผมหลังสระอย่างเดียวนะคะ เดี๋ยวนี้มีคอนดิชันเนอร์หลายรูปแบบเลยที่จะช่วยรักษาความชุ่มชื้นและดูแลเส้นผมของคุณ ดังนั้น อย่าละเลยค่ะ เพื่อผมสวยของเรานั่นเอง

3. หมักครีมนวดทิ้งไว้ขณะอาบน้ำ

สาว ๆ บางคนมักจะสระผมและล้างผมจนสะอาดเสร็จสรรพก่อนอาบน้ำ แต่คุณ ๆ รู้ไหมว่า การหมักครีมนวดผมทิ้งไว้ขณะอาบน้ำนั้นจะทำให้ครีมนวดผมซึมซาบเข้าสู่ผมได้มากขึ้น

4. แป้งเด็กลดผมมัน

ไม่ว่าจะเป็นผมหน้าม้า หรือเรือนผมทั้งหมด หากเริ่มผมมันระหว่างวันล่ะก็ สาว ๆ สามารถใช้แป้งโรยผมได้ โดยเฉพาะบริเวณรากผม จะช่วยลดความมันได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

5. แต่งหน้าให้เข้ากับชุด

การแต่งหน้าให้เข้ากับชุดจะทำให้คุณดูเด่นและมีสไตล์อย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้นแต่ละวันก่อนออกจากบ้านควรเลือกสีเครื่องสำอางให้เหมาะกับสีชุดกันหน่อย หากไม่รู้จะใช้สีอะไร ขอแนะนำเป็นการแต่งหน้าสีนู้ดค่ะ เพราะมันเข้ากับทุกชุดเลยทีเดียว

เป็นยังไงบ้างคะ มีวิธีจัดการกับความสวยที่คุณยังไม่รู้กี่ข้อกันบ้าง ว่าแล้วก็อย่าลืมนำไปใช้ดูนะคะ รับรองว่าให้ผลลัพธ์ที่ดีได้อย่างแน่นอน




 

Create Date : 12 มิถุนายน 2554    
Last Update : 12 มิถุนายน 2554 11:19:03 น.
Counter : 1198 Pageviews.  

เคล็ดไม่ลับเกี่ยวกับการใช้อายไลเนอร์

อายไลเนอร์

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


อายไลเนอร์ ถือเป็นเครื่องสำอางที่สาว ๆ ขาดไม่ได้เลยในทุกวันนี้ เพราะไม่ว่าใครก็อยากมีดวงตาคมสวยด้วยกันทั้งนั้น แต่ เคยเป็นกันไหมคะ ที่เวลากรีดอายไลเนอร์ออกมา มันก็ดูเหมือนจะไม่เป็นที่พอใจซักที เหมือนรูปทรงและขนาดเส้นมันไม่พอดิบพอดียังไงไม่รู้ วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยมีเคล็ดไม่ลับ เกี่ยวกับการใช้อายไลเนอร์ให้เหมาะกับดวงตาของคุณมาฝากกันค่ะ

1. อายไลเนอร์แบบดินสอ อายไลเนอร์แบบดินสอเป็นอายไลเนอร์ชนิดแรกที่มีใช้กันมานานมาก และยังเป็นอายไลเนอร์ที่ใช้ได้ง่ายอีกด้วย แต่ถึงแม้ว่าจะใช้ง่ายยังไง อายไลเนอร์แบบนี้ก็ดูจะไม่เหมาะกับสาว ๆ หลายคนเท่าไหร่นัก เนื่องจากมันมักจะไม่เป็นเส้นคมสวย และมักจะเปื้อนเปลือกตาระหว่างวันอยู่เสมอ ซึ่งเมื่อสาว ๆ คนไหนที่กรีดตาด้วยอายไลเนอร์แบบดินสอจนหนาแล้วล่ะก็ รับรองว่าต้องมีปัญหาเปลือกตาดำระหว่างวันอย่างแน่นอน ดังนั้น อายไลเนอร์ชนิดนี้จึงเหมาะกับการแต่งหน้าแบบเบา ๆ ที่ไม่ต้องลงอายไลเนอร์หนามากเท่านั้นค่ะ เขียนมันลงไปบริเวณชิดแนวขนตาให้พอดูคมขึ้นก็พอ

2. อายไลเนอร์แบบน้ำ หรือ ลิควิด อายไลเนอร์ เป็นอายไลเนอร์ที่ถือว่าเขียนยากมาก แต่มันก็ทำให้ดวงตาคมสวยได้อย่างใจต้องการเลยทีเดียวล่ะ อ๊ะ ๆ แต่ถ้าหากคุณอยากจะแต่งหน้าลุคธรรมชาติ ๆ ไม่ขอแนะนำอายไลเนอร์ชนิดนี้นะจ๊ะ เพราะมันจะดูหลอกตามาก จนไม่มีใครมองไม่ออกว่าคุณกรีดอายไลเนอร์มาเลย ดังนั้น อายไลเนอร์ชนิดนี้จึงเหมาะกับสาวแต่งหน้ามีสีสันเล็กน้อย กรีดมันลงไปตามรูปตาที่คุณต้องการ จะช่วยทำให้ดวงตาโดดเด่นดึงดูดความสนใจมากขึ้น อย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียวล่ะ

3. อายไลเนอร์เนื้ออายชาโดว์ หรืออาจจะใช้อายชาโดว์มากรีดอายไลเนอร์ก็ได้ อายไลเนอร์ชนิดนี้เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ชอบแต่งหน้าอ่อน ๆ เน้นความเป็นธรรมชาติ และไม่อยากให้อายไลเนอร์ดูชัดเจนเกินไปเหมือนกับอายไลเนอร์แบบดินสอ วิธีนี้เหมาะมากกับสาว ๆ ที่ออกจากบ้านในวันสบาย ๆ แถมยังล้างออกได้ง่ายด้วยค่ะ

4. อายไลเนอร์แบบอัดแข็ง อายไลเนอร์ชนิดนี้ เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่แต่งหน้ามีสีสัน แต่ไม่อยากให้ดวงตาคมเด่น ดูกรีดอายไลเนอร์ชัดเจนเหมือนกับอายไลเนอร์แบบน้ำ แต่สามารถให้ผลลัพธ์เหมือนกับอายไลเนอร์แบบน้ำได้ หากกรีดซ้ำเป็นรอบที่สองค่ะ นอกจากนี้ อายไลเนอร์ชนิดนี้ยังสามารถใช้กับสาวที่แต่งหน้าอ่อน ๆ แต่อยากเน้นให้ดวงตาดูเด่นขึ้นได้ด้วยค่ะ

เอ้า รู้อย่างนี้แล้ว สาว ๆ คงพอจะรู้ว่าอายไลเนอร์แบบไหนเหมาะกับตัวเองแล้วใช่ไหมคะ




 

Create Date : 11 มิถุนายน 2554    
Last Update : 11 มิถุนายน 2554 11:29:38 น.
Counter : 1642 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.