ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
18 ทิปส์รักษาผิวไม่แห้งเหี่ยวหน้าหนาว!

เมื่อเข้าสู่หน้าหนาวอากาศเย็นแห้ง ผิวของสาวเราต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะความแห้งทำให้ผิวแตก นำมาซึ่งมาความเหี่ยวย่น
เรามีเคล็ดลับ 18 วิธีดูแลผิวมาฝากกันค่ะ

1. ตอนเช้าน้ำเปล่าล้างหน้า
ตอนเช้าควรใช้น้ำเปล่าล้างหน้าเท่านั้น ส่วนสบู่หรือโฟมล้างหน้าให้ใช้ในตอนค่ำ ที่สำคัญควรล้างหน้าด้วยน้ำเย็นดีกว่าน้ำอุ่นเพราะยิ่งใช้น้ำอุ่นหน้าก็จะยิ่งแห้งและคันมากขึ้น

2. เลี่ยงน้ำอุ่นร้อนจี๊ด อาบน้ำอุณหภูมิปกติ
สำหรับหน้าหนาวแล้วการอาบน้ำอุ่นเป็นประจำจะไปชะล้างเอาไขมันในชั้นผิวให้ออกไปจากผิวเกินความจำเป็น รวมถึงลดความสามารถในการเก็บกักความชุ่มชื้น ทำให้ผิวยิ่งแห้งตึงเข้าไปใหญ่ แต่ครั้นจะไม่ให้เปิดเครื่องทำน้ำอุ่น คงไม่ไหวกันใช่ไหมคะ ดังนั้นแนะให้อาบน้ำอุ่นก่อน พอช่วงสุดท้ายหลังจากถูกสบู่ฟอกตัวชำระสิ่งสกปรกเสร็จ เปลี่ยนเป็นน้ำอุณหภูมิปกติ เพื่อปิดรูขุมขนด้วย

3. ไม่อาบน้ำนานเกินกว่า 15 นาที
เพราะการอาบน้ำในเวลาที่มากกว่า 15 นาที จะยิ่งทำให้ผิวแห้งตึง สูญเสียน้ำและความสมดุล ดังนั้นรีบอาบรีบออก

4. ทาครีมบำรุงผิวขณะผิวเปียกหมาดๆ
หลังจากอาบน้าเสร็จไม่ต้องเช็ดตัวให้แห้ง รีบทาครีมบำรุงผิวในขณะที่ผิวยังเปียกหมาดๆ อย่าลืมทาที่มือและผิวหน้าด้วย เพราะจะทำให้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เก็บกักน้ำให้ผิวได้อีกเท่าตัว ถ้าเป็นโลชั่นควรใช้ Body Booster ที่มีส่วนผสมของเมือกหอยทาก, แอสตาเซนธิน และอัลฟ่าอาร์บูตินด้วยจะดีมาก เพราะทั้งสามตัวนี้ จะมีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาปริมาณน้ำในผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น อิ่มน้ำ ผิวแลสุขภาพดี

5. เบบี้ออยล์นวดผิว โอบอุ้มความชุ่มชื่น
ลองใช้เบบี้ออยล์นวดผิวให้ทั่วหลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็จะช่วยให้ผิวมีความสามารถในการโอบอุ้มความชุ่มชื่นได้ดียิ่งขึ้น

6. ทาว่านหางจระเข้ กักเก็บความชุ่มชื่น
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวพรรณแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) จะช่วยในการเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื่นให้แก่ผิวได้อย่างอ่อนโยน

7. ห้ามขัดผิว ไม่ว่าฟองน้ำใยบวบหรือเจลเนื้อสครับ
แน่นอน การขัดผิวยิ่งทำให้ผิวแห้ง หน้าหนาวนี้ควรหลีกเลี่ยง อย่าใช้ผ้าเปียก ฟองน้ำเนื้อหยาบ หรือเจลที่มีเนื้อทรายมาขัดผิวเด็ดขาด

8. หน้าหนาวแดดแรง โบ๊ะครีมกันแดด
หน้าหนาว แดดจะแรงขึ้นอีก แถมเวลาโดนแดดกลับไม่รู้สึกร้อนจึงทำให้อยากตากแดดแท้จริงแล้วแดดกำลังแผดเผาผิวเราอย่างไม่รู้ตัว

9. ดื่มน้ำอุ่นผสมมะนาว ผิวใส คอชุ่มชื่น
มะนาวจะทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ช่วยให้ร่างกายฟอกเลือดได้เร็วขึ้น กำจัดของเสียภายในร่างกายไปในตัว ซึ่งจะทำให้ผิวสดใสน่ามอง แก้เจ็บคอ ให้คอชุ่มชื่นอีกด้วย

10. ปาดลิปมันตลอด กันริมฝีปากแห้ง
เพราะความหนาวจะทำให้ปากแห้งแตกลอกจนเลือดซิบๆ จึงควรพกลิปบาล์ม วาสลีน ลิปมัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นป้องกันความแห้งแตก

11. พกแฮนด์ครีม ทาหลังล้างมือ
เพราะหลังล้างมือผิวจะแห้งกร้าน จึงควรมีโลชั่นพกไว้ทาผิวมือให้ชุ่มชื้นทุกครั้งหลังล้างมือ

12. ใส่เสื้อผ้าปกปิดมิดชิด กันผิวสูญเสียน้ำ
เพื่อลดการสัมผัสกับความแห้ง เป็นการลดการสูญเสียน้ำจากผิวหนัง พยายามรักษาร่างกายให้อบอุ่นไว้เสมอ ด้วยการสวมเสื้อผ้าหนา ๆ และปกปิดร่างกายให้มิดชิดจากอากาศหนาว

13. กินผลไม้ดื่มน้ำอุ่น ผิวชุ่มชื่น
ทานผักผลไม้ และที่สำคัญ ควรดื่มน้ำให้มากๆ ผิวจะได้ไม่แห้ง ไม่ควรดื่มน้ำเย็น ถ้าจะให้ดีที่สุดควรเป็นน้ำอุ่น งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ ชา กาแฟ


14. กินอาหารติดไขมันบ้าง ผิวยืดหยุ่น
สาวญี่ปุ่นมักทานอาหารติดมันบ้าง เพื่อเสริมให้ผิวชั้นในมีความอิ่มฟู และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวสาวๆ

15. ออกกำลังกาย เลือดหมุนเวียนดี
เพื่อให้เลือดหมุนเวียนได้ดี ออกกำลังกาย วันละ 15 - 30 นาที หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน เพื่อผิวพรรณสวยเด้ง

16. สวมถุงเท้า กันผิวแตก
หากอยู่ในสถานที่ที่อากาศหนาวเย็นมาก ๆ ควรสวมหมวก สวมถุงเท้ากันผิวแตก

17. ใช้คอนดิชันเนอร์ป้องกันประจุไฟฟ้า ผมไม่ชี้ฟู
เลือกแชมพูสระผมอ่อนๆ และควรใช้คอนดิชันเนอร์ทุกครั้งหลังสระ เพื่อปรับสภาพปะจุไฟฟ้า ผมไม่ชี้ฟู หวีง่าย

18. นอนหลับอิ่มสนิท หน้าไม่โทรม
เพราะช่วงนอนหลับ เท่ากับร่างกายได้ชาร์ทแบตฯให้ตื่นมาสดใส เพราะโกรทฮอร์โมนจะถูกหลั่งออกมาในช่วง 90 นาทีหลังจากที่คุณนอนหลับสนิท จะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง หน้าไม่โทรม




Create Date : 20 ธันวาคม 2557
Last Update : 20 ธันวาคม 2557 23:10:17 น. 0 comments
Counter : 1634 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.