ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
พรีวิว Nokia Lumia 1520

กำลังเป็นที่สนใจกันมากเลยทีเดียว สำหรับ สมาร์ทโฟน วินโดวส์โฟน รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็น วินโดวส์โฟน รุ่นแรกที่มาพร้อมกับหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดถึง 6 นิ้ว (ClearBlack IPS LCD ความละเอียดระดับ Full HD 1080p) อย่าง Nokia Lumia 1520 และไม่ใช่เพียงแค่จอใหญ่คมชัดแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะ Nokia Lumia 1520 ยังคงนำเอากล้อง PureView ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล มาใส่ไว้ให้เพื่อผู้ใช้งานที่รักในการถ่ายภาพอีกด้วย บนตัวเครื่องที่เรียบหรู บางเฉียบเพียง 8.9 มิลลิเมตร และประสิทธิภาพในการประมวลผลระดับสูงของ Quad-Core Krait 400 Processor (ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8974 Snapdragon 800) ความเร็ว 2.2 GHz บนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 (Lumia Black Update) และ คุณสมบัติระดับไฮเอนด์อื่นๆ อีกมากมาย โดย Nokia Lumia 1520 ที่จะวางจำหน่ายในบ้านเรานั้น ได้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการออกมาเรียบร้อยแล้ว โดยมีราคาอยู่ที่ 22,900 บาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นราคาในระดับที่ใกล้เคียงกันกับ สมาร์ทโฟน ไฮเอนด์จากแบรนด์อื่นๆ และในวันนี้ทาง โนเกีย (ประเทศไทย) ก็ได้ส่งเครื่อง Nokia Lumia 1520 มาถึงมือทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ของเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นทีมงานของเราก็คงไม่รอช้าที่จะแกะกล่อง และลองสัมผัสแรกกับ Nokia Lumia 1520 พร้อมนำประสบการณ์ในการใช้งานเบื้องต้นมาแชร์ให้ทุกท่านได้ติดตามกัน

แกะกล่อง พร้อมสำรวจอุปกรณ์ต่างๆ ที่มาพร้อมกับ Nokia Lumia 1520

มาถึงมือทีมงานแล้ว สำหรับ Nokia Lumia 1520 ซึ่งดีไซน์โดยรวมของกล่องบรรจุภัณฑ์ก็จะมีลักษณะเดียวกันกับกล่องของ Nokia Lumia ทุกรุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้

ด้านข้างกล่องจะ ระบุข้อมูลเบื้องต้นของ Nokia Lumia 1520 เครื่องนี้เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นหมายเลข IMEI, สีของตัวเครื่อง, สถานที่ผลิต และหากดูข้อมูลของเครือข่ายที่รองรับ ก็จะเห็นว่า Nokia Lumia 1520 นั้นสามารถรองรับเครือข่ายความเร็วสูงแบบ 4G LTE ได้ทั้งหมด 5 คลื่นความถี่ด้วยกัน ได้แก่ 800/900/1800/2100 และ 2600 MHz

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ทีมงานก็จัดการสไลด์กล่องด้านในออกมาโดยเร็ว เพื่อดูว่ามีอะไรใส่มาให้บ้าง

เมื่อสไลด์กล่องออก มา อย่างแรกที่เห็นก็คือตัวเครื่องของ Nokia Lumia 1520 ที่ห่อพลาสติกใสเอาไว้อย่างแน่นหนา โดยเครื่อง Nokia Lumia 1520 ที่เราได้รับมานั้น จะเป็นเครื่องสีแดง

ที่ถาดชั้นถัดมา ก็จะพบกับอุปกรณ์สำคัญเล็กๆ ชิ้นหนึ่งที่เรียกว่า SIM Door Key ซึ่งเอาไว้สำหรับช่วยถอดถาดใส่ซิมการ์ด และการ์ดหน่วยความจำ

ถัดมาจะเป็นกล่องที่บรรจุคู่มือการใช้งานอย่างย่อเอาไว้

ที่ชั้นล่างสุด จะพบกับอุปกรณ์พื้นฐาน 3 ชิ้นด้วยกัน ได้แก่ หูฟังแบบ Stereo (In Ear), Adapter สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และสาย microUSB สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ หรือการเชื่อมต่อข้อมูล

ด้วยการออกแบบให้ สาย microUSB และตัว Adapter แยกออกจากกัน ทำให้เราสามารถนำสาย microUSB ไปใช้งานอย่างอื่นได้ โดยเฉพาะการใช้งานเกี่ยวกับการโอนถ่ายข้อมูลกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโน๊ตบุ๊ค

หูฟังแบบ In-Ear สีแดงแรงฤทธิ์ ซึ่งเป็นสีเดียวกันกับตัวเครื่องนั่นเอง

รูปลักษณ์ภายนอก และการออกแบบดีไซน์ของ Nokia Lumia 1520

ได้เวลาแกะตัวเครื่องมาดูกันว่าจะมีการออกแบบดีไซน์เป็นอย่างไร, การจับถือถนัดมือหรือไม่ และชิ้นงานมีคุณภาพขนาดไหน

เมื่อแกะห่อพลาสติกใสออกไปแล้ว ก็จะพบกับแผ่นพลาสติกเล็กๆ อีกชิ้นหนึ่ง ที่ปิดช่องใส่ซิมการ์ดเอาไว้

โดยซิมการ์ดที่สามารถนำมาใช้งานกับ Nokia Lumia 1520 ได้ จะต้องเป็นซิมการ์ดแบบ nanoSIM เท่านั้น

การที่ทาง โนเกีย ได้ใส่แผ่นพลาสติกเล็กๆ คั่นเอาไว้ตั้งแต่แรก ก็อาจจะเป็นเพราะต้องการให้ผู้ที่ซื้อเครื่อง สามารถนำซิมการ์ดมาใส่ได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาไปแกะ SIM Door Key มาใช้ให้ยุ่งยากนั่นเอง

ที่ด้านหน้าของตัว เครื่องจะมีขนาดใหญ่กว่า สมาร์ทโฟน ตระกูล Nokia Lumia ทุกรุ่นที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด ด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 6.0 นิ้ว ส่วนดีไซน์โดยรวมก็ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์อันเรียบหรู และมีสีสันของ สมาร์ทโฟน ตระกูล Nokia Lumia เช่นเดิม

ที่ด้านหน้าส่วนบน จะประกอบไปด้วยเลนส์กล้องความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล, ลำโพงหูฟังสำหรับการสนทนา, เซ็นเซอร์ Proximity Sensor และเซ็นเซอร์ Ambient Light Sensor ส่วนหน้าจอแสดงผลขนาด 6 นิ้วนั้น จะเป็นหน้าจอแบบ IPS LCD ความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p พร้อมเทคโนโลยี ClearBlack Display ที่ช่วยให้การแสดงผลสีดำมีความเด่นชัดเป็นพิเศษ รวมถึงมีข้อได้เปรียบเมื่อนำไปใช้ในที่กลางแจ้ง และกระจกหน้าจอสุดแกร่งแบบ Corning Gorilla Glass 2

ที่ด้านหลังของตัว เครื่อง หากเป็นสีแดง จะมีพื้นผิวมันลื่นแบบ Glossy ที่มีความแวววาวสวยงาม แต่การจับถือจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจจะหลุดมือได้ง่ายกว่าพื้นผิวแบบด้าน รวมถึงจะเกิดคราบเปื้อน, การเกาะตัวของฝุ่น หรือรอยนิ้วมือได้ง่าย

ที่ด้านหลังส่วนบน จะมีไมโครโฟนตัวที่สอง ซึ่งจะช่วยให้การบันทึกเสียงระหว่างการถ่ายวีดีโอนั้นเป็นแบบ Stereo และรองรับกับเทคโนโลยีการบันทึกเสียงคุณภาพสูงที่เรียกว่า Nokia Rich Recording

ที่ด้านซ้ายของตัว เครื่อง โดยรวมก็จะดูเรียบๆ ไม่มีส่วนประกอบอะไรมากนัก นอกจากช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ที่รองรับได้สูงสุดขนาด 64 GB และช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM

ที่ด้านขวาของตัวเครื่อง Nokia Lumia 1520 จะประกอบไปด้วยปุ่มชัตเตอร์กล้องแบบ 2 จังหวะ, ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อคหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง ซึ่งทุกปุ่มมีดีไซน์ที่เพรียวบาง และค่อนข้างแบนราบไปกับพื้นผิวตัวเครื่อง ดังนั้นการกดปุ่มก็อาจจะต้องอาศัยความตั้งใจมากขึ้นเล็กน้อย

ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องต่อสายหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ และเชื่อมต่อข้อมูล

เมื่อนำ Nokia Lumia 1520 มาเทียบขนาดกับ Nokia Lumia 1020 ก็จะพบว่ามีขนาดที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ด้วยขนาดหน้าจอที่แตกต่างกันอยู่ถึง 1.5 นิ้ว และหากเทียบส่วนสูงกัน ก็จะมีความแตกต่างกันอยู่ราวๆ 30 มิลลิเมตร เลยทีเดียว

หากใครต้องการ จอแสดงผลขนาดใหญ่ ก็คงต้องมองไปที่ Nokia Lumia 1520 แต่หากใครต้องการความกะทัดรัด พกพาสะดวก ก็คงต้องมองไปที่ Nokia Lumia 1020

ความ หนาของ Nokia Lumia 1520 นั้นจะอยู่ที่ 8.7 มิลลิเมตร ส่วนความหนาของ Nokia Lumia 1020 นั้นจะอยู่ที่ 10.4 มิลลิเมตร ดังนั้นเมื่อนำมาเทียบกัน Nokia Lumia 1020 จึงดูหนากว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะโมดูลของกล้องดิจิตอลด้วยนั่นเอง

เมื่ออยู่ในมือของ ผู้ใช้คนๆ เดียวกัน ก็จะพบว่าการจับถือมีความแตกต่างกันมาก โดยการใช้งานด้วยมือข้างเดียวกับ Nokia Lumia 1520 นั้นจะลำบากกว่า และเป็นไปได้ยาก ส่วน Nokia Lumia 1520 นั้นสามารถใช้งานด้วยมือข้างเดียวได้แบบสบายๆ

เมื่อนำ Nokia Lumia 1520 มาเปรียบเทียบกับ สมาร์ทโฟน ไฮเอนด์ ที่มีจอภาพขนาดใหญ่ใกล้เคียงกัน ได้แก่ Samsung Galaxy Note 3 และ OPPO N1 ก็จะเป็นดังภาพ

Nokia Lumia 1520 นั้นมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 เวอร์ชันใหม่ล่าสุดซึ่งได้รับการอัพเดทเป็น Lumia Black มาเรียบร้อยแล้ว


แกะกล่อง Flip Case โนเกีย Nokia Protective Cover CP-623

อุปกรณ์ เสริมชิ้น หนึ่งที่ทาง โนเกีย ได้ส่งมาให้ทีมงานของเราลองใช้งาน ก็คือ Flip Case ของ โนเกีย รุ่น CP-623 ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้งานกับ Nokia Lumia 1520 รุ่นนี้โดยเฉพาะ ซึ่งก็น่าจะมีความจำเป็นไม่น้อย เนื่องจาก Nokia Lumia 1520 นั้นมีหน้าจอ และตัวเครื่องขนาดใหญ่เป็นพิเศษ จึงมีโอกาสที่จะเกิดความเสียหายได้ง่ายมากกว่า สมาร์ทโฟน ขนาดทั่วๆ ไป ดังนั้นก็ควรจะมีสิ่งที่ช่วยปกป้องตัวเครื่องให้มากขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

ลักษณะ โดยรวมของ Nokia Protective Cover CP-623 จะประกอบไปด้วยส่วนฝาหน้า ซึ่งดูคล้ายกับแผ่นยางที่มีความยืดหยุ่น และให้สัมผัสที่นุ่มมือ และส่วนของด้านหลังจะเป็นพลาสติกที่แข็ง และหนา

ลักษณะภายนอกของ Nokia Protective Cover CP-623

ลักษณะภายในของ Nokia Protective Cover CP-623 โดยพื้นผิวด้านในของฝาหน้านั้น จะให้สัมผัสที่คล้ายกับกำมะหยี่

การถอดใส่ Flip Case นั้นก็ไม่ยาก ทำได้ด้วยวิธีเช่นเดียวกันกับการใส่เคสมือถือทั่วๆ ไป

เมื่อใส่ Flip Case แล้ว จะมีความรู้สึกมั่นใจในการจับถือตัวเครื่องมากขึ้น

เมื่อดูที่ด้านข้าง ก็ยังคงให้ความรู้สึกที่บางเฉียบอยู่ ไม่ได้ดูหนาขึ้นมามากนัก

ฝา หน้าของ Flip Case นั้นไม่ได้เป็นแม่เหล็กที่ดูกับตัวเครื่อง และวัสดุจะมีความอ่อนนุ่มยืดหยุ่น เมื่อมองที่ด้านล่างจึงอาจจะดูเผยอขึ้นเล็กน้อย

ลักษณะของ Flip Case เมื่อพลิกมาดูที่สันขอบด้านใน

Nokia Protective Cover CP-623 นี้มีจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ สามารถพับฝาหน้า เพื่อใช้ตั้งหน้าจอขึ้นมาแบบนี้ได้

โดยพับฝาหน้าให้เป็นรูปสามเหลี่ยมดังภาพ

การตั้งตัวเครื่องขึ้นมาแบบนี้ หน้าจอจะมีการเอียงเล็กน้อย แต่ก็จะพอดีกับสายตาของเรา

สรุป แล้ว Flip Case สำหรับ Nokia Lumia 1520 รุ่นนี้ที่มีชื่อว่า Nokia Protective Cover CP-623 ก็เป็นอุปกรณ์เสริมชิ้นหนึ่ง ที่ควรจะมีติดเครื่องเอาไว้ เพื่อการใช้งานที่คล่องตัว และปลอดภัยมากขึ้น แต่สำหรับท่านที่สั่งจอง Nokia Lumia 1520 ล่วงหน้า ทาง โนเกีย ก็ใจดี แถม Flip Case มูลค่า 1,290 บาท รุ่นนี้มาให้แบบฟรีๆ ทันที


สรุปผลการทดสอบในเบื้องต้นของ Nokia Lumia 1520

สำหรับการพรีวิวในวันนี้ ก็เป็นเพียงแค่การแกะกล่อง ลองสัมผัสแรก กับ Nokia Lumia 1520 เท่านั้น ยังมีรายละเอียดอีกมากมายเกี่ยวกับการใช้งานอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานของตัวระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 Black (Lumia Black Update), การใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ หรือการใช้งานฟีเจอร์เด่นๆ ที่มาพร้อมกับ Nokia Lumia 1520 รุ่นนี้ ซึ่งทางทีมงานก็จะทยอยนำมาเสนอให้ทุกท่านได้ติดตามกันในตอนถัดไป ส่วนการสัมผัสแรกกับ Nokia Lumia 1520 ในวันนี้ โดยรวมแล้วก็คงต้องบอกว่า Nokia Lumia 1520 รุ่นนี้นั้นคงไม่ได้ตั้งใจเน้นไปที่ความคล่องตัวในการพกพาเสียเท่าไหร่ แต่จะเน้นไปที่การแสดงผลที่คมชัดเต็มตาเต็มอารมณ์เสียมากกว่า ด้วยหน้าจอแบบ ClearBlack IPS LCD ที่มีขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว และมีความละเอียดมากถึงระดับ Full HD 1080p (1920x1080 พิกเซล) ดังนั้นการใช้งานที่เกี่ยวกับการแสดงผล ไม่ว่าจะเป็นการเปิดดูภาพยนตร์, การเปิดดูรูปภาพ, การเปิดดูเว็บไซต์ หรือการเปิดดูเอกสารต่างๆ จึงทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ และด้วยเทคโนโลยี ClearBlack Display จึงทำให้การแสดงผลสีดำ ดูเป็นสีดำสนิท ไม่ใช่ดูเป็นสีเทาๆ ภาพที่เห็นจึงดูมีรายละเอียดที่ชัดเจน รวมถึงมีมุมมองที่ค่อนข้างกว้าง นอกจากนั้นก็จะช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และที่สำคัญคือหน้าจอจะมีระดับการสะท้อนแสงที่ต่ำ จึงทำให้สามารถแสดงผลในที่กลางแจ้งได้ดี ส่วนกระจกหน้าจอที่ใช้นั้นจะเป็นกระจก Corning Gorilla Class 2 ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันรอยขีดข่วน และมีความแข็งแกร่งทนทาน

นอกจากความโดดเด่นในเรื่องของการแสดงผลอันสมบูรณ์แบบแล้ว ฟีเจอร์อื่นๆ ของ Nokia Lumia 1520 ก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในระดับไฮเอนด์ทั้งสิ้น สมน้ำสมเนื้อกับราคาค่าตัวที่ 22,900 บาท ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต Qualcomm MSM8974 Snapdragon 800 ที่มาพร้อมกับซีพียูแบบ Quad-Core Krait 400, จีพียู Adreno 330, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และรองรับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้สูงสุดถึง 64 GB, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ความจุ 3,400 mAh, รองรับระบบเครือข่ายความเร็วสูงแบบ LTE, เทคโนโลยีการเชื่อมต่อระยะใกล้แบบ NFC และที่โดดเด่นมากๆ ก็เห็นจะเป็นกล้องดิจิตอล PureView ที่มีความละเอียดมากถึง 20 ล้านพิกเซลนั่นเอง ส่วนท่านใดที่สนใจ ก็แนะนำให้สั่งจองล่วงหน้า เพราะนอกจากจะมีโอกาสได้ใช้งานเครื่องก่อนใครแล้ว ยังได้รับของแถมรวมมูลค่ากว่า 2,080 บาทอีกต่างหาก ได้แก่ Flip Case โนเกีย รุ่น CP-623 มูลค่า 1,290 บาท และ Power Bank โนเกีย รุ่น DC-18 มูลค่า 790 บาท โดยสามารถจอง Nokia Lumia 1520 ได้ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2556 ที่ Nokia Shop ทุกสาขา ส่วนการพรีวิว แกะกล่อง ลองสัมผัสแรก กับ Nokia Lumia 1520 ในวันนี้ก็เสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็ไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะทุกท่านยังสามารถติดตามการรีวิวฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายของ Nokia Lumia 1520 ได้อีกในตอนถัดไป ซึ่งจะเป็นการทดสอบในฟีเจอร์ไหนบ้างนั้น ก็รอชมกันได้ครับ สวัสดีครับ

จุดเด่นของ Nokia Lumia 1520

- ตัวเครื่องมีการออกแบบดีไซน์ที่เรียบหรูสวยงาม และมีสีสันที่สดใส อันเป็นเอกลักษณ์ของ สมาร์ทโฟน ตระกูล Nokia Lumia
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 6.0 นิ้ว : 368 ppi : อัตราส่วน 16:9)
- เทคโนโลยี ClearBlack Display ช่วยให้การแสดงผลสีดำ เป็นสีดำสนิท, จอภาพมีมุมมองที่กว้างขึ้น และมีระดับการสะท้อนแสงที่ต่ำ จึงสามารถแสดงผลในที่กลางแจ้งได้ดี
- กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 2 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 330
- คุณสมบัติแบบ Super Sensitive Touch ช่วยให้สามารถสั่งงานด้วยระบบสัมผัสได้ในขณะสวมถุงมือ หรือใช้เล็บมือ
- ประมวลผลการทำงานด้วย Quad-Core Krait 400 Processor (ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8974 Snapdragon 800) ความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows Phone 8 (Lumia Black Update : GDR3)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ได้สูงสุดขนาด 64 GB
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 20 ล้าน Pixels พร้อมเลนส์กล้องคุณภาพสูงจาก Carl Zeiss
- ไฟแฟลชในตัว (Dual LED Flash : ระยะทำการ 3 เมตร)
- ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization)
- เซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/2.5 นิ้ว พร้อมขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.4
- แอพพลิเคชั่น Nokia Camera ซึ่งรวมความสามารถจากแอพพลิเคชั่น Nokia Pro Camera และ Nokia Smart Camera เอาไว้ด้วยกัน
- ถ่ายภาพวีดีโอ (Full HD : 1080p : 1920x1080 Pixels : 30 fps) พร้อมระบบการบันทึกเสียงแบบ Stereo
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางเครือข่ายความเร็วสูงแบบ 4G LTE
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, HSPA+, EDGE และ GPRS
- รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อระยะใกล้แบบ NFC (Near Field Communication)
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
- แอพพลิเคชั่น HERE Maps และ HERE Drive ที่สามารถใช้งานได้ฟรีตลอดชีพ
- วิทยุ FM Stereo ในตัว พร้อมรองรับการใช้งานระบบ RDS (Radio Data System)
- แบตเตอรี่ Li-Ion ความจุขนาดใหญ่ 3400 mAh ซึ่งช่วยให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย (Wireless Charging)

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Nokia Lumia 1520

- ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และค่อนข้างหนัก การพกพาจึงอาจจะไม่สะดวกมากนัก และการจับถือใช้งานด้วยมือข้างเดียวเป็นไปได้ยาก
- ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง มีความละเอียดเพียง 1.2 ล้านพิกเซล
- มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 22,900 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง

 โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง ศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริง บ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *




  • สนับสนุนเนื้อหา thaimobilecenter



Create Date : 06 ธันวาคม 2556
Last Update : 6 ธันวาคม 2556 8:34:07 น. 0 comments
Counter : 2966 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.