W H I T E A M U L E T
Group Blog
 
All blogs
 
[[[ The Colors of Spring in Japan 2011 ]]] 3rd Episode:: The WHITE of Sakura-Panda


>> กระทู้บันทึกนักเดินทางใน pantip@blueplanet
>> คลิกเพื่อดูรายการบล็อคอัพใหม่ทั้งหมด


Episode 1 และ Episode 2 จบไป แต่เรื่องราวของ White Sakura ยังเหลือบทสรุปสุดท้ายอีกนิดนึงค่ะ สัญญาด้วยเกียรติของเนตรนารีสามัญว่าบล็อคนี้สุดท้ายแล้วจริงๆสำหรับ The WHITE of Spring 2011

สำหรับลิงค์รวมทุก Episode ของ The Colors of Spring in Japan 2011 จะอยู่ที่ด้านล่างสุดของหน้านี้นะคะ



.
.
.
.

ซากุระสุดท้ายของปี 2011 ของเราจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากที่สวนอุเอโนะอันแสนคุ้นเคยและใกล้บ้านนั่นเองค่ะ

จำไม่ได้ชัดๆว่าตั้งแต่เมื่อไหร่นะคะ แต่พอรู้ตัวอีกทีเดินแถวอุเอโนะมองไปทางไหนก็เห็นแต่หน้าแพนด้าเต็มไปหมดเป็นการต้อนรับแพนด้าคู่ใหม่ที่เพิ่งได้มาจากจีนค่ะ ได้ยินว่าอาการแพนด้า mania นี้มีไปทั่วโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียงเลย ทีแรกเราก็นึกว่าเฉพาะแถวนี้ซะอีกค่ะที่เห่อแพนด้า

เริ่มจากแพนด้าคู่ในสถานี JR Ueno เมื่อตอนต้นเมษา...


ไม่ใช่แค่นั้นค่ะ ตามเสาไฟทุกต้น...


บนตัวตึกของ Yodobashi camera สาขาอุเอโนะ...


ข้างๆตัวลิฟต์... (เห็นสถานี Keisei Ueno Stn. อยู่ด้านหลังทางซ้ายด้วย)


สถานที่ก่อสร้างใกล้ๆสถานี Keisei Ueno Stn. (ตรงนี้เห็นว่าอีกหน่อยจะเป็นพวกพิพิธภัณฑ์น่ะค่ะ) ...


ป้ายประดับในร้านแถวอาเมโยโกะ (ซอยช้อปปิ้งของถูก ของทะเลสด ผลไม้สด ยอดนิยมแถวอุเอโนะ) ...


ตู้โชว์ร้านอาหารตรงข้ามสถานีอุเอโนะ... (สังเกตดีๆไม่ใช่แค่ตัวใหญ่ แต่มีตัวเล็กตัวน้อยประดับตามจานอีกนะคะ)


เมนูในร้านอาหารตรงข้ามสถานีอุเอโนะ....


ผลิตภัณฑ์ขนมปัง Limited ของร้านในสถานี JR Ueno ที่ไปทีไรก็เห็นต้องต่อคิวรอกัน (เค้ารอขนมปังแถวๆที่ตัดแล้วเป็นหน้าแพนด้าข้างในกันน่ะค่ะ) ....


ขนมอื่นๆในสถานี JR Ueno ...


蒲鉾 Kamaboko (น่าจะเรียกว่าลูกชิ้นปลามั้งคะ ที่เป็นแท่งๆมา แล้วค่อยมาหั่นความหนาตามชอบ) อันนี้ไม่ใช่จาก Ueno แต่เห็นจากใน FB ของพี่ที่อยู่ญี่ปุ่นค่ะ ... น่ารักๆอย่างนี้เอามาทำเบนโตะเด็กๆคงชอบ (ในลิงค์อ้างอิงรูปภาพเค้ายังมี Kamaboko รูปสัตว์อื่นๆอีกนะคะ)

Credit ภาพจาก //www.kagosei.co.jp/products/animal/panda.html

สินค้าในร้านขายของเล่น Yamashiroya ที่ถนนฝั่งตรงข้ามทางออกหลักของสถานี JR Ueno ....


สินค้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง OICITY (มารุอิซิตี้) Ueno .... (ตุ๊กตาแพนด้านี้น่าร๊ากกกมากค่ะ เราเดินผ่านมาสองเดือนไปกอดไปอุ้ม จะซื้อหลายรอบแล้ว ชอบไซส์ขนาดสองตัวใหญ่สุดน่ะค่ะกอดแล้วกำลังดีเลย หรือ อีกทีก็คืออยากซื้อทุกไซส์มานั่งเป็นแถวตอนเรียงหนึ่งแตะไหล่กันแบบในภาพนี้เลยค่ะ )


ถ่ายแพนด้าโน่นนี่มาเยอะแยะแต่แพนด้าตัวเป็นๆที่สวนสัตว์อุเอโนะกลับไม่เคยไปดูเลยค่ะเรา หรือถ้าจะพูดจริงๆก็คืออยู่แถวนี้มาปีที่ห้าแล้ว เรายังไม่เคยไปสวนสัตว์อุเอโนะกะเค้าเลยสักครั้ง...แบบว่าได้ยินว่าคนเยอะก็ขี้เกียจไปแล้ว โดยเฉพาะตอนคนกำลังเห่อๆแพนด้าใหม่กันด้วยได้ยิน(จากคนที่ไปมา)ว่าแถวยาวเหยียดเลยค่ะ

ขอจบเรื่องแพนด้าไว้แค่นี้ก่อนนะคะ ตอนนี้ขอหันเรือกลับลำมาที่ดอกไม้ประจำฤดูใบไม้ผลิที่อุเอโนะก่อนค่ะ ....

ไม่รู้เราขี้ลืมไปเองหรือเปล่า แต่ตงิดๆอยู่ค่ะว่าเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีก่อนๆตามถนนที่เราเดินอยู่ประจำนี่มีดอกไม้สวยๆแบบนี้ปลูกเรียงรายกันแบบนี้ด้วยเหรอ


ไม่รู้ดอกนี้เรียกว่าอะไรนะคะ จะว่าคล้ายซากุระก็คล้ายนิดๆ แต่ดูอีกทีกิ่งแบบตั้งสูงๆแหลมๆขึ้นไปบนฟ้าแบบต้นนี้ก็ไม่ค่อยเหมือนซากุระเลยค่ะ (ข้างๆต้นไม้ดอกสวยๆพวกนี้ก็เป็นป้ายโปรโมทแพนด้าที่แขวนอยู่ตามเสาไฟฟ้าค่ะ)


สำหรับปี 2011 นี้เราดูซากุระมาแล้วจากชินจูกุ แล้วประกอบกับงานยุ่งสุดๆด้วย กว่าจะได้แว่บมาดูบรรยากาศที่สวนอุเอโนะก็ปาเข้าไปวันที่ 14 เมษา 2011 แล้วค่ะ เนื่องจากเมื่อวันที่ 11 เมษา ที่โตเกียวลมพัดแรงสุดๆ(แถม aftershock ก็มาถี๊ถี่) แค่วันนั้นวันเดียวก็เล่นเอาซากุระที่โตเกียวร่วงกันเกือบหมดต้นเลยค่ะ วันที่ 14 ที่เราไป สวนอุเอโนะเลยเหลือแต่กิ่งกับใบเขียวๆอย่างนี้เอง (ยิ่งต้นด้านหน้าๆสวนยิ่งไม่ต้องพูดถึงค่ะ เขียวอื๋อไปหมดแล้ว)


ส่วนคนที่มาเที่ยวสวนก็...น้อยกว่าทุกปีอย่างรู้สึกได้ค่ะ ทุกปิถ้าในช่วงเวลานี้ที่ซากุระเพิ่งจะพีคผ่านไปหมาดๆ ยังไงก็น่าจะเจอกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ทั้งจีน เกาหลี ไทย บ้าง แต่ปีนี้แทบจะเห็นแต่คนญี่ปุ่นล้วนๆเลยค่ะ คนต่างชาติมีเห็นบ้างแต่มากันเดี่ยวๆหรือกลุ่มเล็กๆ 2-3 คนเท่านั้นเอง เราเดาเอาว่าเผลอๆจะเป็นคนที่เรียนหรือทำงานอยู่ในญี่ปุ่นอยู่แล้วด้วยค่ะ


ถึงแม้ปกติเราจะไม่ค่อยชอบทัวร์คนจีน(แผ่นดินใหญ่)ว่ามาทำห้องน้ำสกปรกบ้าง หรือมาแซงคิวอะไรบ้าง แต่เหตุการณ์หนนี้มันก็บอกแล้วค่ะว่ายังไงก็ขาดลูกค้ารายใหญ่อย่างพวกเค้าไม่ได้จริงๆ ไม่งั้นคนทำอาชีพที่อิงกับนักท่องเที่ยวก็พากันลำบากกันถ้วนหน้าเลย เมื่อช่วงเดือนเมษามั้งคะ(ถ้าจำไม่ผิด)ตอนที่ทัวร์จีนและเกาหลีกรุ๊ปแรกกลับมา ที่ญี่ปุ่นก็ออกข่าวถือป้ายต้อนรับกันใหญ่โตเลยค่ะ (รู้สึกกรุ๊ปจีนจะไปคันไซ กรุ๊ปเกาหลีไปคิวชูค่ะ ไกลโรงไฟฟ้าเยอะะะะะ)

กรุ๊ปทัวร์เกาหลีที่ว่าไม่ใช่นักท่องเที่ยวทั่วไปด้วยนะคะ เห็นว่าเป็นกลุ่ม blogger ชื่อดังของเกาหลี(น่าจะได้โควต้ามาฟรี) พาเค้ามาเที่ยวแล้วเค้าก็กลับไปเขียนบล็อคเป็นการช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวญี่ปุ่นให้ไปในตัว ทีวีมีสัมภาษณ์บล็อคเกอร์หญิงคนนึงจากโซล เค้าบอกว่าจริงๆแล้วกังวลเรื่องฝนค่ะ เพราะ ณ ตอนนั้นที่โซลฝนตกทีคนก็หา mask มาปิดมาใส่กันให้วุ่นวาย (เพราะกลัวรังสี) แต่พอมาเห็นที่ญี่ปุ่น ใกล้กว่ากันตั้งเยอะ ฝนตกหรือไม่ตกก็ไม่เห็นมีคนทำอะไรกันขนาดนั้นเลย สาวเจ้าก็เปรยๆว่า หรือว่าคนที่โซลจะกังวลกันมากเกินไปนะ

วันที่เราไปสวนอุเอโนะตรงลึกเข้ามานี้น่าจะเป็นจุดที่คนมานั่งฮานามิกันมากสุดแล้วค่ะ เพราะต้นตรงนี้ยังดอกเยอะอยู่พอควร


ปีนี้ก็นั่งฮานามิกันสบายๆค่ะ คนน้อยไม่ค่อยเบียดเสียด


ไหนๆมาแล้วก็ขอเก็บซากุระพันธ์นี้ไว้อีกภาพค่ะ อันนี้สีออกอมม่วงนิดๆแปลกไปอีกแบบ (หลังจากใช้มาสักพัก เรากล้าพูดเลยค่ะว่า Sony NEX-5 กับเลนส์ที่ซื้อติดกล้องมานี่คุณภาพของภาพสู้ Canon Kiss X3 พร้อมเลนส์ Canon ทุกตัวที่เรามีอยู่ไม่ได้จริงๆ...ก็ราคามันต่างกันเยอะนี่นะคะ ส่วนใหญ่ Sony เราไว้สะพายติดตัวง่ายๆ ถ่ายจุกจิกโน่นนี่ไปทั่วค่ะ ถ้าจะตั้งใจถ่ายรูปจริงๆจังๆก็ยังต้องเป็น Kiss X3 เท่านั้น)


เทียบกับภาพสวนอุเอโนะที่เราคุ้นเคย ถ่ายเมื่อ 30 มีนา 2010 ก็รู้สึกบรรยากาศฮานามิเงียบเหงาไปเยอะเลยล่ะค่ะ แต่มันก็เป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ (บรรยากาศเต็มๆของสวนอุเอโนะช่วง full bloom ปี 2010 อยู่ที่ บล็อคเก่านี้ นะคะ)


อุตส่าห์หลบงานมาเดินสวนเล่นๆก็เลยค่อยๆทอดน่องไปเรื่อยค่ะ เห็นโปสเตอร์งานดอก Botan อยู่ในบริเวณสวนอุเอโนะก็ลองเดินตามไปดูหน่อยค่ะ เผื่อได้เก็บภาพดอกไม้สวยๆเพิ่มอีกชนิด


อยู่ใกล้สวนนี้มาปีที่ห้านอกจากว่าสวนสัตว์อุเอโนะจะไม่เคยเข้าแล้ว ส่วนนี้ของสวนก็ไม่เคยมาเลยค่ะ ปกติคืออยู่แต่ตรงซากุระแล้วก็จบ (ตอนนั้นเพิ่งจะกลางเมษา แต่บรรยากาศรูปด้านล่างนี่ก็เริ่มเขียวขจีแล้วค่ะ สังเกตดีๆจะเห็นต้นมีลูกสีส้มๆด้วยนะคะ ที่มหาลัยก็มีเหมือนกันไม่รู้ว่าใช่ส้มหรือเปล่า)


เดินลึกเข้าไปตามป้ายดอก Botan เรื่อยๆแต่ปรากฏว่าเราไปช้าเกินไปส่วนของสวนเล็กๆที่แสดงดอก Botan เค้าปิดไปแล้วค่ะ เคยคิดว่าจะไปแก้ตัวแต่ไปๆมาๆก็ไม่ได้แวะไปอีกเลยค่ะปีนี้ แต่อย่างน้อยที่เดินมานี่ก็ได้รู้นะคะว่าด้านในลึกๆนี่มีอาคารคล้ายๆศาลเจ้านี่อยู่ด้วย ตอนนั้นปิดปรับปรุงอยู่มีภาพขนาดเท่าของจริงแขวนให้ดูแทนค่ะ (รู้สึกว่าคนอื่นที่เค้ามาเที่ยวสวนนี้จะรู้จักศาลเจ้านี่กันตั้งนานแล้ว)


ใกล้ๆ(ภาพแขวน)ศาลเจ้าเจอนี่ค่ะ เค้าบอกว่าเป็น The Flame of Hiroshima and Nagasaki เรื่องก็มีอยู่ว่าหลังเหตุระเบิดนิวเคลียร์ Tatsuo Kamamoto ได้ไปตามหาคุณลุงของเค้าที่ฮิโรชิม่าแล้วก็เจอไฟนี่กำลังไหม้อยู่ตรงซากบ้านคุณลุงของเค้า ทีแรกเค้าก็เก็บมันไว้เพื่อเป็นสิ่งระลึกถึงคุณลุงของเค้า แต่ต่อมานานไปมันก็ขยายสเกลกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์และรำลึกถึงความสงบสุขแทนค่ะ


เห็นคนโล่งๆแล้วอะไรช่วยอุดหนุนได้เราก็ช่วยค่ะ เลยซื้อเครื่่องราง Limited รูปซากุระ 500 เยนมาหนึ่งอันตามภาพ


ออกจากสวนด้านในกลับมาตรงแถวซากุระอีกทีฟ้าก็เริ่มมืดๆแล้วค่ะ ที่สวนซากุระส่วนด้านบน(ที่ต้องขึ้นบันไดเพื่อขึ้นเนินไป)ยังพอมีกลีบซากุระร่วงบนพื้นเยอะๆให้คนมานั่งฮานามิกันได้บ้างประปราย(แม้ต้นเหนือหัวจะเขียวหมดแล้วก็ตาม)


มุมที่เราเห็นซากุระมากสุดวันนั้นคงแถวๆนี้ล่ะมั้งคะ เนี่ยดูสมเป็นใบไม้ผลิที่สุดแล้วที่ถ่ายมาได้จากที่นี่ในปีนี้


ระหว่างจะเดินออกจากสวนก็เห็นคุณตำรวจกำลังปลุกใครก็ไม่รู้ค่ะที่มานอนยาวขวางบันไดทางลงอยู่ ไม่รู้เมาตอนฟ้ายังสว่างหรือยังไง เดาว่าคงมีคนมาเห็นแล้วเดินไปบอกคุณตำรวจอีกทีแน่เลยค่ะ (ภาพนี้รีบกดเลยเบลอสนิท เอามายำด้วย PS เพื่อกลบเกลื่อน)


ภาพสุดท้ายกับบรรยากาศหน้าสวนอุเอโนะกับเหล่าศิลปินวาดภาพเหมือนค่ะ คิดอยู่ว่าก่อนกลับไทยถาวรอาจจะลองไปนั่งใช้บริการดูสักครั้งนึง


.
.
.
.

สำหรับ The WHITE of Spring in Japan 2011 ก็จบเพียงเท่านี้นะคะ สำหรับสีอื่นๆที่เหลือในแบนเนอร์ตรงหัวบล็อคคงไม่ยาวเท่านี้แล้ว(หวังว่างั้นนะคะ คนเขียนก็เหนื่อยเหมือนกัน) เพราะเป็นทริปหนึ่งวันแบบไปเช้าเย็นกลับหมดเลยค่ะ ซากุระนี่คือแบบว่าเป็นเหตุการณ์ลากยาวประมาณ 2 อาทิตย์เลยมีเรื่องโน้นนี้เกิดเยอะหน่อย ประกอบกับเราเป็นพวกชอบเขียนเก็บรายละเอียดทุกเม็ดซะด้วย (ติดนิสัยมาตั้งแต่ปริญญาตรีที่เป็นมือเลคเชอร์มาจนถึงปัจจุบันที่เขียนเปเปอร์และทีสิสเลยค่ะ...เขียนได้เขียนดีจนใครๆก็ทักเอา )



The Colors of Spring in Japan 2011

1. [[[ The Colors of Spring in Japan 2011 ]]] 1st Episode:: The WHITE of Plum Flower and Sakura
2. [[[ The Colors of Spring in Japan 2011 ]]] 2nd Episode:: The WHITE Spirit of Japanese
3. [[[ The Colors of Spring in Japan 2011 ]]] 3rd Episode:: The WHITE of Sakura-Panda
4. [[[ The Colors of Spring in Japan 2011 ]]] 4th Episode:: The YELLOW of Nanohana กับประสบการณ์โดนน้องแกะ...
5.
6.



ภาพดอกไม้และซากุระถ่ายด้วย Sony Alpha NEX-5 + Sony Alpha E 18-55mm OSS ค่ะ ภาพแพนด้าทั้งหลายก็ปนๆกันหลายกล้องหน่อยทั้ง Canon Kiss X3 และ Sony NEX-5 เลนส์ก็แล้วแต่ว่าวันนั้นเอาอันไหนติดตัวไปนะคะ ภาพทั้งหมดก็ปรับแสง แก้สีเพี้ยน แล้วย่อ usm ปกติค่ะ


>> คลิกเพื่อดูรายการบล็อคอัพใหม่ทั้งหมด



Create Date : 08 มิถุนายน 2554
Last Update : 22 มีนาคม 2556 17:28:02 น. 0 comments
Counter : 3995 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

White Amulet
Location :
Bangkok Thailand / Tokyo Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




บล็อคนี้ถึงไม่ค่อยมีอะไรแต่ถ้าจะก๊อปปี้ข้อความหรือรูปอะไรไปโพสที่อื่น ก็รบกวนช่วยใส่เครดิตลิงค์บล็อคนี้ไว้ด้วยนะคะ

เราไม่สงวนลิขสิทธิ์การนำภาพและข้อความในบล็อคไปเผยแพร่(ในแบบที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์)แต่สงวนลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของภาพถ่ายและเนื้อหาค่ะ

ค้นหาทุกสิ่งอย่างในบล็อคนี้

New Comments
Friends' blogs
[Add White Amulet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.