เครดิตภาพ Kitsune จาก //image.blog.livedoor.jp/japminwa/imgs/c/a/cadd9f26.JPG--------------------------------------------------------------------------------เสร็จจากโรงงานช็อคโกแลตก็ไปต่อทันที ทริปนี้เที่ยวหนักแบบไม่มีพักกลางวันกันเลย สังเกตว่าแต่ละที่ๆไป พอออกจากซัปโปโรแล้วก็หิมะตกกันได้ตลอดขาวโพลนกันไปซะทุกที่รูปนี้แอบแคนดิตมา เห็นคุณแม่ยังสาวกำลังใส่หมวกแต่งตัวให้ลูกอยู่ น่าร๊ากกกกกกกเป้าหมายต่อไปวันนี้คือ Otaru (อีกครั้ง) แต่วันนี้มาเร็วไม่มีพลาด แล้วก็กะอยู่นี่ถึงเย็นเลย ดูการประดับเทียนตามริมแม่น้ำอันลือชื่อแล้วค่อยกลับ(กลับไปเที่ยวต่อที่สถานีซัปโปโรนะ ยังไม่กลับไปนอนที่โรงแรม)ส่วนตัวถ้าไหนๆหิมะจะตกก็ชอบให้ตกเต็มที่ให้มันขาวไปเลย ดีกว่าตกนิดๆหน่อยๆแล้วละลายดูแฉะๆสกปรกๆยังไงไม่รู้ เหลือบไปเห็นแท็กซี่แถวนั้นผ่านมาเลยแชะซะหน่อย ดูจากน้ำแข็งที่จับตัวย้อยลงมาหน้ารถนี่ก็ชวนสงสัยนะว่า หิมะมันตกมาเจอความร้อนรถแล้วละลาย แล้วตอนที่กลายเป็นน้ำกำลังจะหยดลงมาก็จับตัวแข็งได้ทันทีอย่างนี้เลยเหรอ ??? อืม อยากดูเป็นวีดีโอแฮะว่ามันเปลี่ยนกันปุ๊บปั๊บเลยหรือเปล่าเป้าหมายแรกที่โอตารุคือไปหาอะไรกินกันก่อน เค้กเมื่อเช้านี่ไม่อยู่ท้องเลยแป๊บเดียวหิวอีกแล้ว เดินๆไปผ่านตามหน้าร้านจะเจอไอ้อย่างในรูปกองหน้าร้านต่างๆเป็นระยะๆ ไม่รู้เรียกว่าอะไรแต่เดาได้ว่าเตรียมเอาไว้ครอบเทียนตอนกลางคืน มีหลายๆสีสวยดีพอมาดูรูปดีๆแล้ว ตึกรามบ้านช่องที่ฮอกไกโดเนี่ยจะออกแนวฝรั่งหมดเลย ก็เป็นไปตามประวัติศาสตร์น่ะนะที่ช่วงนึงเกาะนี้ถูกปกครองโดยอเมริกามาก่อนก็เลยได้รับอิทธิพลหลายๆอย่างจากทางนั้นมาด้วยระหว่างทางก็จะเห็นคนปั้นตุ๊กตาหิมะเป็นระยะๆ เท่าที่สังเกตน่าจะเป็นเจ้าของร้านนั้นๆแหล่ะ มาปั้นตุ๊กตาหน้าร้านไว้เป็นการประดับร้าน เสื้อนวมน้ำตาลคนนี้แน่มาก มือเปล่าๆปั้นตุ๊กตาหิมะท่ามกลางอากาศแบบนี้ จขบ แต่งหนาเลยไม่หนาวก็จริง แต่ถ้าถอดถุงมือเหลือมือเปล่าๆเมื่อไหร่นี่ไม่ถึงสองนาทีเย็นจนชาไปหมดเลย งานนี้ต้องขอคารวะดูเค้าปั้นตุ๊กตาหิมะก็น่าสนุกดี จริงๆก็ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมากมายเลยนะเนี่ย อแด๊ปเอาของใกล้ตัวมาช่วยตกแต่งรายละเอียดอย่างคนนี้ก็ได้จากที่ถามมาแถวนี้ก็แนะนำเป็นพวกอาหารทะเล แต่อย่าลืมว่าตอนนี้อยู่ประเทศญี่ปุ่น แถมมาถึงฮอกไกโดหน้าหนาวมาเดินย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดๆ งานนี้ไปร้านไหนๆก็เจอแต่ปลาดิบเจอแต่ของดิบๆสดๆทั้งนั้น ตัว จขบ กะพี่ชายน่ะสบายเพราะชอบกินปลาดิบอยู่แล้ว แต่คุณแม่ไม่ชอบทานปลาดิบเลย ลองเดินหากันกี่ร้านๆก็หาร้านที่มีแบบสุกๆเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้สุดท้ายก็ลงเอยต้องเลือกมาร้านนึง งานนี้คุณแม่ไม่ค่อย happyแถวนี้อาหารน่าจะสดอร่อยอยู่แล้วเลยเลือกร้านไหนก็ได้ไม่ได้เจาะจงเท่าไหร่ จขบ สั่งเป็นชามนี้ สีสันสดใสน่ากิ๊นน่ากิน >.< เทียบกับอุนิ(ไข่หอยเม่น)ที่เคยกิน(ครั้งนึง)ที่ร้านดังที่อาเมโยโกะ รู้สึกว่าอุนิที่นี่จะหวานกว่านะเนี่ย หรือว่าแค่อุปทานหนอ อยากบอกว่าระยะหลังนี่ไงไม่รู้เกิดอาการเสพติดปลาดิบ(อยู่มาสามปีครึ่งเพิ่งจะเริ่มเป็น) อาทิตย์ไหนไม่ได้กินปลาดิบนี่ชักจะเกิดอาการลงแดง เดี๋ยวนี้ต้องซื้อติดบ้านไว้เผื่อกินตลอดเลย (แล้วอีกหน่อยกลับไทยจะทำไงล่ะเนี่ย)ส่วนของคุณพี่ชายเป็นชามนี้ เน้นๆแซลมอลไว้ก่อน ก็น่ากินเหมือนกันแต่แบบนี้ จขบ กินบ่อยๆที่โตเกียวอยู่แล้วกินกันอิ่มอร่อยมีแรงแล้วก็พร้อมเดินต่อ เป้าหมายถัดไปคือ Otaru Orgel House เดินไกลอยู่เหมือนกันกว่าจะเจอ ระหว่างนี้ก็เลยถ่ายเก็บตุ๊กตาหิมะแบบต่างๆรายทางมาด้วย อย่างตัวนี้ไม่รู้เจ้าของร้านตั้งใจทำเป็นหน้าตัวเองหรือเปล่า แต่เราดูแล้วว่าเหมือนผู้พัน Sandler จาก KFC มากกว่าคนนี้ก็กำลังแกะตกแต่งอยู่เลย ที่โตเกียวไม่ค่อยได้เห็นตุ๊กตาหิมะเท่าไหร่ ที่เห็นก็ตกแต่งด้วยกิ่งไม้ใบไม้ซะมาก(เพราะเดี๋ยวๆก็ละลาย) เพิ่งจะได้มาเห็นแต่งตัวแต่งหน้าให้ตุ๊กตาหิมะกันจริงๆจังๆก็ที่นี่นี่ล่ะอันนี้เป็นรูปคิตตี้ซะหน่อย เสียดายตรงตัวน่าจะตกแต่งอีกหน่อยนะเนี่ย ดูเรียบไปนิดนึงอันนี้เป็นรูปหมีขาวแม่ลูก จะเรียกว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของฮอกไกโดก็คงได้มั้ง จะมีสวนสัตว์ในญี่ปุ่นสักกี่แห่งกันที่คนจะได้มาเห็นหมีขาวเดินอยู่ข้างนอกกันตัวเป็นๆไม่ใช่นอนอยู่แต่ในตู้แคบๆเจ้านี่ก็เจอนะ อิๆ นึกว่าจะไม่เจอซะแล้วตัว Marimokkori มาสคอตดังของฮอกไกโด ที่มาของชื่อมาจาก Marimo ที่เป็นสาหร่ายเขียวรูปร่างกลมๆมีอยู่แต่ในแถบฮอกไกโด คราวนี้ไม่รู้ใครเป็นต้นคิดเอาคำว่า Marimo มาฟิวชั่นกับคำว่า Mokkori กลายมาเป็นเจ้าตัวนี้เลย คำว่า Mokkori แปลว่าอะไร สังเกตได้จากแถวๆเป้าเจ้าหัวกลมหน้าลามกๆในรูป (จะว่าไปร้านนี้มันร้านอะไรแฮะ ไอ้รูปที่เขียนอยู่เหนือเจ้าหน้าลามก Hokkaido no Oppai-do อืมนะ ใครกันช่างคิดมาได้)เดินๆมาจนถึงแถวนี้ไม่รู้เรียกว่าอะไรเหมือนกันแต่เห็นตึกสวยดี ณ จุดนี้หัวหน้าทัวร์คุณพี่ชายเกิดงงทางขึ้นมา เลยได้ยืนถ่ายรูปอยู่แถวนี้แป๊บนึงยิ่งเย็นคล้อยลงหิมะก็ดูจะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ จขบ ใส่เสื้อนวมขาวเลยมองไม่ชัด แต่คนใส่เสื้อหนาวสีดำเนี่ยเห็นหิมะทับกันบนเสื้อชัดเลย (ว้า รู้งี้ใส่สีดำดีกว่า)หิมะตกกันหนัก ถ้าอีกหน่อยมีอินเทรนด์แฟชั่นชุดมนุษย์อวกาศแบบปิดหมดมิดชิดก็คงจะดีนะ เสื้อ กางเกง รองเท้า ถุงเท้า ผ้าพันคอ ก็ใส่กันเต็มที่แล้ว ไอ้จุดที่เหลือๆก็หูกับหน้านี่ล่ะ สองจุดหลังนี่ถ้าไม่หนาวจริงๆ จขบ ก็ปล่อยมันไว้โล่งๆนี่ล่ะ ถ้าไม่ไหวแล้วจะปิดหูก่อน ใช้ที่ปิดหูหรือหมวกหรือฮู้ดครอบครัวก็ช่วยได้ แต่ปิดหน้านี่ จขบ ขอบายกลัวสิวขึ้นหน้าอ่ะ แถมถ่ายรูปออกมาดูเผินๆนึกว่าจะรวมกลุ่มกันไปปล้นแบงค์ที่ไหนเสียอีกแถวๆตรงที่คุณพี่ชายมองหา Orgel House อยู่ข้ามถนนมาเจอตุ๊กตาหิมะน่ารักตรงนี้เข้าชอบเป็นพิเศษเลยลำเอียงลงรูปให้เยอะหน่อย ปั้นเรียงกันเป็นแถวตกแต่งหน้าตาต่างๆกัน ตลกน่ารักดีส่วนตัวชอบเจ้าตัวอ้าปากนี่ ดูเหมือนแต่งตัวให้เด็กทารกตัวเล็กๆเลยเนี่ย น่ารักมากๆ (จขบ เป็นโรคแพ้เด็กๆตัวเล็กๆซะด้วย แพ้ที่ว่าคือเห็นทีไรเหลียวมองคอเอียงทู๊กกกกที)คุณพี่ชายก็พาไปเดินเข้าๆออกๆซอกซอยแถวนั้นหาทางไปอยู่แป๊บนึงแต่สรุปแล้ว Orgel House น่ะมันอยู่ฝั่งถนนตรงข้ามตึกสวยๆตะกี้ที่พวกเราไปยืนกางแผนที่กันเลย เห็นคุณพี่ชายบอกว่าเค้ามองหานาฬิกาเรือนใหญ่ๆที่ควรจะตั้งอยู่ด้านหน้า Orgel House อยู่ อ่านรีวิวมานึกว่ามันจะใหญ่เบ้อเร่อที่ไหนได้เล็กแค่เท่าที่เห็นในรูปนี้เองเนื่องจากที่ต่อๆไปก็รูปเยอะ เลยขอตัดจบบล็อคนี้ไว้ก่อนแต่เพียงเท่านี้ เฮ้อ กว่าจะจบเฉพาะที่เที่ยวของวันนี้วันเดียวหนทางยังอีกยาวไกลนัก--------------------------------------------------------------------------------ภาพส่วนใหญ่ถ่ายจาก Canon Kiss X3 และเลนส์ EF-S 15-85mm F/3.5-5.6 IS USM มีบางภาพจาก Nikon Coolpix P5100 เป็นคอมแพ็คของพี่ชาย ภาพ(เกือบ)ทั้งหมดถูก คร็อป/ปรับแสงและสี/ย่อUSM/ใส่โลโก้ ด้วย PSอย่าแปลกใจไปว่าทำไมบางภาพสปีดชัตเตอร์เร็วขนาดนั้น แบบว่าตั้งแต่จับกล้องมา ถ่ายที่โตเกียวตลอดแดดไม่ค่อยจะมี ใช้ ISO800 ได้นี่หรูแล้ว เลยติดแบบนั้นมาว่าตั้งโหมด Av รูรับแสงกว้างสุดและ ISO800 ยืนไว้ก่อนถ้าภาพเบลอค่อยเพิ่มอีก แต่มานี่แดดก็ไม่มีเหมือนกันแต่คงเพราะหิมะมันขาวโพลนสปีดเลยพุ่งกระฉูด กว่า จขบ จะเริ่มรู้ตัวเรื่องนี้แล้วปรับ ISO ลดลงมาก็หลังจากนี้ไปอีกล่ะค่าเครดิตภาพ Kitsune จาก //image.blog.livedoor.jp/japminwa/imgs/c/a/cadd9f26.JPG--------------------------------------------------------------------------------รวมลิงค์บล็อคทั้งหมดของทริป1. Hokkaido Winter 2010 @1st day: จาก Haneda สู่ Shin-chitose เหนื่อยๆมาแวะกินราเม็งแล้วพักกันเดี๋ยวนึง2. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Ishiya Chocolate Factory มาดูวิธีทำ Shiroi Koibito Chocolate กัน3. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: หนาวๆกับ Yuki-daruma ที่ Otaru แวะกินข้าวปลาดิบสุดโปรด4. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Otaru Orgel House แหล่งรวมหีบเพลงสารพัดชนิด5. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: Famous candle light in Otaru6. Hokkaido Winter 2010 @2nd day: แวะไป Sapporo TV Tower กับ Odori Snow Festival แล้วเข้านอน7. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: รถไฟขบวนพิเศษสวนสัตว์ Asahiyama และพาเหรดเพนกวินที่รอคอย >.<8. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: สัตว์โลก(ฤดูหนาว)น่ารัก นำเสนอโดยสวนสัตว์ Asahiyama ^^9. Hokkaido Winter 2010 @3rd day: Nanda Biking บุฟเฟ่ต์สุดอลังการ และ Ice festival @Susukino10. Hokkaido Winter 2010 @4th day: เก็บตก Sapporo Clock Tower และ Odori Snow Festival แบบ full version11. Hokkaido Winter 2010 @4th day: หิมะขาวโพลนที่ Kaitaku-no-mura และ Mt. Moiwa ที่อดขึ้นไปดูวิวกลางคืน12. Hokkaido Winter 2010 @5th day: สุดท้ายกับ Government Office Building และ Thailand, the champion ^_^13. Hokkaido Winter 2010: รวบรวมผลงานแกะสลักหิมะจากการแข่งขันที่ Odori Snow Festival>> ดูรายการบล็อคอัพใหม่ทั้งหมด