|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
วรรณคดี เรื่อง กากี
บล็อกนี้ ฉันจะแนะนำวรรณคดีไทยเรื่องหนึ่งที่คิดว่า น้อยคนนักที่จะไม่ รู้จักวรรณคดีเรื่องนี้ แต่อาจจะรู้จักเพียงคำเปรียบเทียบว่า นางกากีเป็นหญิงหลายผัว ไม่สมควรนำมาเ็นเยี่ยงอย่าง เป็นหญิงไม่ดี แต่คงมีอีกหลาย ๆ คนที่ไม่ทราบเนื้อเรื่องความเป็นมาของเรื่อง
วันนี้ ฉันก็จะมาเล่าวรรณคดีไทยเรื่องกากี ในเชิงวิเคราะห์ วิจารณ์ เกี่ยวกับวรรณคดีเรื่องนี้ นะคะ
ก่อนจะเข้าสู่เรื่องของการแสดงความคิดเห็น ฉันขอเขียนถึงประวัติ ความเป็นมาของวรรณคดี เรื่อง กากีคำกลอน ค่ะ ผู้แต่งเรื่อง กากีคำกลอน คือ เจ้าพระยาพระคลัง (หน) กวีคนดังคน หนึ่งในยุคสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 ที่มาของเรื่องกากีคำกลอน ผู้แต่งนำมาจาก นิบาตชาดก ขุททกนิกาย คือ เรื่อง กากาติชาดก
เนื้อเรื่องย่อ ต้นเรื่อง ได้กล่าวถึงอดึตชาติของพระโพธิสัตว์ที่เสวย พระชาติเป็นพญาครุฑ ต่อจากนั้นก็เล่าเรื่อง ชาดก
ท้าวพรหมทัต ผู้ครองเมืองพาราณสี มีมเหสี มีพระนามว่า กากี นาง มีคุณสมบัติที่แตกต่างจากหญิงงามทั่วไป กล่าวคือ นอกจากมีความงดงามมากแล้ว เธอยังมีกลิ่นกายหอมฟุ้งรัญจวนใจ เหมือนกลิ่นดอกไม้ทิพย์บนสรวงสวรรค์ ชายใดที่ได้สัมผัสกายของนางแล้ว จะมีกลิ่นหอมติดกายชายผู้นั้น นานถึง 7 วัน ท้าวพรหมทัต นอกจากจะมีนางกากีเป็นมเหสีที่ โปรดปรานและหลงใหลแล้ว ยังมีสนมอีกมากมายอีกด้วย ท้าวพรหมทัต เป็นคนชอบเล่นสกามาก ๆ คนที่มาเล่นด้วย ก็คือ พญา ครุฑ ชื่อ เวนไตย แต่แปลงกายเป็นหนุ่มน้อยรูปงาม มาเล่นสกากับท้าวพรหมทัต ทุกเจ็ดวันจะมาเล่นสกาหนึ่งครั้งอย่าง สม่ำเสมอ อยู่มาวันหนึ่ง ทั้งสองเล่นสกาจนเพลิน นางกากี รอท้าวพรหมทัตเสด็จมาหาผิดเวลา จึงได้เดินออกมาชะเง้อ มองมาทางที่ทั้งสองเล่นสกาอยู่และเป็นจังหวะที่ พญาครุฑมองมาทางนางกากีพอดี สายตาทั้งสองคู่จึงได้ประสบพบ กัน เกิดการปฏิพัทธ์ (ปิ๊ง)กัน ต่างคนต่างหลงในรูปกาย ที่งดงามของกันและกัน ตกเย็นหลังจากเสร็จสิ้นการเล่นสกาแล้ว พญา ครุฑในรูปหนุ่มงาม ก็แสดงอิทธิฤทธิ์ แปลงร่างเป็น พญาครุฑ ทำให้มืดฟ้ามัวดินและอุ้มนางกากี บินกลับไปยังวิมาน ฉิมพลี ซึ่งอยู่ที่เชิงเขาพระสุเมรุ เหนือดงงิ้ว และได้เกี้ยวนางกากี นางกากีก็เพียงแต่ปัดป้องเป็นพิธี เพราะตนเองก็ พึงพอใจร่างแปลงของพญาครุฑอยู่แล้ว จึงสมยอมเป็นเมียของพญาครุฑ
ส่วนท้าวพรหมทัตพอทราบว่า นางกากีหายไป ก็ทรงเศร้าโศกเสียใจ เป็นอย่างยิ่ง พระพี่เลี้ยงที่ชื่อว่า นาฏกุเวร ซึ่งเป็นคนธรรมพ์ (ครึ่งเทวดาครึ่งคน)มีความสามารถในการขับร้อง ดีดพิณ เป็นคนสนิท ของท้าวพรหมทัต อีกทั้งเป็นปราชญ์ในราชสำนักด้วย ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ที่นางกากีหายตัวไปนั้น คนที่น่าสงสัยมากที่สุด น่า จะเป็นมานพหนุ่มที่มาเล่นสกาด้วย เพราะตนสังเกต เห็น ทั้งสองคนได้สบตากันในวันนี้และรับอาสาจะสืบเรื่องนางกากีหาย ตัวไป โดยต่อมา พญาครุฑซึ่งลักพานางกากีไปแล้ว 7 วัน ก็กลับมาเล่นสกากับท้าวพรหมทัตเหมือนปรกติ เพื่อไม่ให้มีพิรุธ หลังจากเล่นสกาเสร็จแล้ว นาฏกุเวรก็แปลงเป็นตัวไร แทรกอยู่ที่ขนของพญาครุฑเวนไตย เพื่อให้พญาครุฑพาไปที่วิมาน ฉิมพลี รุ่งขึ้น พญาครุฑออกจากวิมานไป นาฏกุเวร ก็แปลงร่างกลับคืนร่างเดิม และบอกว่าตามนางกากีมา ด้วยความรัก โกหกว่า ท้าวพรหมทัตไม้ได้อาลัยอารวรณ์ นางกากีเลย ว่าแล้วก็ใช้วิธีเล้าโลมนาง นางเลยปล่อยเลยตามเลยตก เป็นเมียของนาฏกุเวรอีกคน เมื่อครบ 7 วันแล้ว พญาครุฑเวนไตยก็เตรียมไปเล่นสกากับท้าว พรหมทัต นาฏกุเวรก็แปลงเป็นตัวไรแทรกขนพญาครุฑ กลับมายังกรุงพาราณสี และใส่ร้ายนางกากีว่า นางกากีไม่ได้ยินดียิน ร้ายในตัวท้าวพรหมทัตและตนต้องปิดปากนางกากี ด้วยการได้นางเป็นเมีย เพื่อไม่ให้นางบอกพญาครุฑมาทำร้ายท้าว พรหมทัต (ช่างเลวจริง ๆ ) ซึ่งท้าวพรหมทัตก็หลงเชื่อ เมื่อพญาครุฑเล่นสกากับท้าวพรหมทัต นาฏกุเวร ก็ดีดพิณขับร้อง เพลง โดยมีเนื้อหาว่า ตนได้เชยชมนางกากีแล้ว ดังนี้
รื่นรื่นชื่นจิตพี่จำได้ เหมือนเมื่อไปร่วมภิรมย์ประสมศรี ในสถานพิมานสิมพลี กลิ่นยังซาบทรวงพี่ทั้งวรกาย นิจจาเอ๋ยจากเชยมาเจ็ดวัน กลิ่นสุคันธรสรื่นก็เหือดหาย ฤาว่าใครแนบน้องประคองกาย กลิ่นสายสวาทซาบอุรามา
พญาครุฑได้ฟังเพลงที่ นาฏกุเวรขับร้องก็รู้แล้วว่า ตนถูกสวมเขา เกิด ความโกรธยิ่งนัก บินกลับมายังวิมานฉิมพลี คาดคั้นเอาความจริงจากนางกากี และด่าว่านางกากี เลี้ยงไม่เชื่อง แล้ว ก็อุ้มนางกากีไปคืนท้าวพรหมทัต โดยทิ้งไว้กลางลานกว้าง ส่วนท้าวพรหมทัต เมื่อได้นางกากีคืนมาแล้ว ก็ทั้งรักทั้งแค้น สั่งให้ ทหารนำนางกากีไปลอยแพกลางทะเล ชีวิตของนางกากีต้องประสบชะตากรรม ลอยอยู่ในทะเล และได้เจอ เรือของพ่อค้าจึงได้่ช่วยนางไว้และรับนางเป็นภรรยา แต่เคราะห์กรรมของนางก็ยังไม่สิ้นสุด เรือพ่อค้าเจอโจรสลัดปล้นและ ฆ่าพ่อค้าตาย นางกากีก็ตกเป็นเมียของหัวหน้าโจรสลัด หัวหน้าโจรหลงใหลนางกากีมาก ไม่แบ่งปันให้ลูกน้องโจรเหมือนอย่าง ที่เคยปฏิบัติมา ทำให้ลูกน้องโจรไม่พอใจและเกิด การสู้รบแย่งชิงนางกากีขึ้น นางเห็นเป็นโอกาสเหมาะ จึงหลบหนีจาก พวกโจรไปและระหกระเหินอยู่ในป่า จนกระทั่งได้พบกับ ท้าวทศวงศ์ แห่งเมือง เวสาลี ซึ่งไปประพาสป่า ท้าวทศวงศ์จึงนำนาง กลับเมืองเวสาลีและตั้งนางเป็นมเหสี มากล่าวถึงเมืองพาราณสี ท้าวพรหมทัต สวรรคตแต่ไม่มีทายาทสืบ ราชวงศ์ ประชาชนจึงให้นาฏกุเวร ซึ่งมีความสามารถและ เป็นคนสนิทกับท้าวพรหมทัตมากที่สุดและเป็นปราชญ์ด้วย จึงพร้อมใจ ให้นาฏกุเวรขึ้นเป็นกษัตย์กครองกรุงพาราณสีต่อไป นาฏกุเวรหลังจากขึ้นครองราชย์แล้ว ก็ยังคิดถึงนางกากี จึงได้ให้ ทหารไปสืบเสาะจนทราบว่า นางกากี ไปเป็นมเหสี ของท้าวทศวงศ์ จึงได้ไปขอให้ท้าวทศวงศ์คืนนางกากีให้กับตน เพราะ นางกากีเคยเป็นมเหสีของตนมาก่อน แต่ท้าวทศวงศ์ ไม่ยอมคืนนางกากีให้ จึงได้เกิดสงครามชิงนางกากีขึ้น และในที่สุด นาฏกุเวรก็ชนะสงครามได้นางกากีกลับคืนมา และแต่งตั้งนางกากีเป็นมเหสีครองเมือง พาราณสี
จะเห็นว่า เรื่องกากีคำกลอน จบลงด้วย สุขนาฏกรรม เรามาลองวิเคราะห์ วิจารณ์วรรณคดีเรื่องนี้ดูว่า ผู้เขียนให้อะไรแก่ คนอ่านบ้าง ผู้อ่านรุ่นหลัง ๆ ต่อมา จึงได้สรุปว่า นางกากี เป็นหญิงชั่ว เพราะมีหลายผัว ใจง่าย อยู่ใกล้ใครก็ได้คนนั้น เป็นสามี และโดยเฉพาะผู้แต่งเรื่อง กากีคำกลอน ยังได้บอกจุดประสงค์ในการเขียนเรื่องนี้ว่า "หวังแสดงแจ้งจริงที่หญิง พาล ให้ชายชาญรู้เชิงกษัตรี " กษัตรี ในที่นี้ หมายถึงมารยาของผู้หญิง ค่ะ จากจุดประสค์นี้หรือเปล่า ที่ทำให้ คนอ่าน ตีความ ตัดสินว่า นางกากีเป็นหญิงชั่ว มั่วผู้ชาย หลายคน การตีความเช่นนี้ ฉันว่า ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย และคนแต่ง เรื่องกากีคำกลอน ก็เป็นผู้ชายด้วย จึงเข้าข้างผู้ชาย ด้วยกัน เหมาเอาว่า เป็นความผิดของผู้หญิงเพียงฝ่ายเดียว มันถูกหรือ ถ้าอีกฝ่ายไม่ร่วมมือ ไม่มาเกี้ยวพาราสี ผู้หญิงเขาจะสมยอมหรือ ที่เราเรียกว่า "ปรบมือข้างเดียว มันจะดังได้อย่างไร" ตามความคิดของฉัน ท้าวพรหมทัตเอง ก็มีส่วนผิด เมื่อได้นางกากีเป็น มเหสีแล้ว ยังมีสนมอีกเป็นร้อยเป็นพัน แล้วยังบ้าเล่นสกา จนไม่รู้เวร่ำเวลา ลืมเวลาที่ต้องเสด็จมาหานาง ทำให้นางต้องออก จากห้องเพื่อไปดูท้าวพรหมทัต เป็นเหตุให้ปะสายตากับ พญาครุฑในร่างปลอมที่เป็นชายหนุ่มรูปงาม เป็นเหตุที่ทำให้พญาครุฑ ลักพานางไปสู่วิมานฉิมพลี แล้วอย่างนี้จะหาว่านางชั่ว ได้เต็มปากหรือ ถ้าพญาครุฑไม่กระทำผิดศีลธรรมพานางไปที่วิมาน ฉิมพลี และเกี้ยวพาราสีจนนางตกเป็นเมียของตน เรียกว่า ตบมือข้างเดียว มันไม่ดัง เรื่องผิดลูกผิดเมียก็ต้องไม่เกิดขึ้นแน่
มาถึงเจ้านาฏกุเวร ก็เช่นกัน เจ้าคนนี้ ต้องยกให้เป็นคนโกหก ปั้นเรื่อง ใส่ร้ายคนอื่น เอาความดีใส่ตน พญาครุฑเวนไตย ว่า ชั่วร้ายที่ผิดลูกผิดเมียแล้ว นาฏกุเวร นี่เลวกว่าพญาครุฑอีก เพราะ นอกจากผิดเมียของเจ้านายแล้ว ยังใส่ร้ายเจ้านาย ตอนที่นางกากีถามว่าเมื่อตนถูกพญาครุฑลักพาตัวมานั้นท้าวพรหมทัต เสียใจ คร่ำครวญถึงนางบ้างไหม (ตามประสาของหญิง ที่อยากรู้ความสำคัญของตน) นาฏกุเวร โกหกว่า ท้าวพรหมทัตไม่ได้ เศร้าโศกเสียใจต่อการหายตัวไปของนางเลย คนที่เป็นทุกข์ เป็นห่วงนางมากที่สุด คือ ตนเอง ที่หลงรักนางมานาน แล้ว ว่าแล้วก็เล้าโลมจนนางกากีอ่อนระทวยและตก เป็นเมียของนาฏกุเวร แล้วคนอ่านก็ประนามว่า นางกากีไม่รักนวลสงวน ตัว มีผัวหลายคน ทำไมไม่คิดว่า หญิงตัวคนเดียว ที่ถูกกักขังอยู่ในวิมานฉิมพลีเพียงคนเดียว ไหนเลยจะสู้แรงของผู้ชาย ที่แข็งแรงกว่า และก็เข้าข่าย ตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง ความเลวของนาฏกุเวรอีกเหตุการณ์หนึ่ง ก็คือ ตอนที่ดีดพิณขับร้อง พรรณนาถึงตนได้อยู่กับนางกากี ที่วิมานฉิมพลี พรรณนาถึงความสุขในการได้เชยชมตัวกากี มีกลิ่มหอมติดตัวมานาน ถึง 7 วัน ซึ่งเข้าสุภาษิตว่า "กินในที่ลับไขในที่แจ้ง" ซึ่งผู้ชายแท้ ๆ เขาจะไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้ แต่ในเนื้อหาสาระไม่ได้ กล่าวถึงผลกรรมของ พญาครุฑและนาฏกุเวรที่ได้กระทำ สิ่งที่ไม่ดีเอาไว้ ตอนจบ นาฏกุเวร กลับได้ครองเมือง พาราณสีแทน ท้าวพรหมทัตซึ่งไม่มีผู้สืบราชบัลล้ งก์ คนทำชั่ว ผิดศีลธรรมกลับได้เสวยสุข ฉันจึงเห็นว่า ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย จิตสำนึกของนาฏกุเวรก็พอมีอยู่บ้าง คือ หลังจากที่ได้ ขึ้นครองราชย์แล้ว ได้ไปชิงนางกากีจากท้าวทศวงศ์กลับมาเป็นมเหสี แต่ก็ไม่ถือว่าทำดีหรอก ค่ะ เพราะนางกากี นางก็อยู่ กับท้าวทศวงศ์อย่างมีความสุขอยู่แล้ว แล้วตนก็ถือว่ามีกองกำลัง ทหารที่มากกว่ายกทัพไปแย่งชิงนางกากี ทั้ง ๆ ที่ ตนเองก็เป็นต้นเหตุทำให้นางกากี ไปตกระกำลำบากเสียนานทีเดียว ซึ่งว่าไปแล้ว การคิดผิดที่หลงคารมของพญาครุฑ และนาฏกุเวร นางก็ได้ใช้กรรมไปตกระกำลำบากมามากพอสมควร เราจึงไม่สมควรไปประนามและเอานางไป เป็นตัวอย่างไม่ดี เอาไปเป็นคำด่าผู้หญิงว่า "นางกากี" ค่ะ สวัสดี ค่ะ
Create Date : 30 มิถุนายน 2564 |
Last Update : 3 กรกฎาคม 2564 9:23:59 น. |
|
30 comments
|
Counter : 10207 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณทนายอ้วน, คุณเริงฤดีนะ, คุณtoor36, คุณ**mp5**, คุณnewyorknurse, คุณSweet_pills, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณหอมกร, คุณอุ้มสี, คุณThe Kop Civil, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณtuk-tuk@korat, คุณร่มไม้เย็น, คุณkae+aoe |
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 2 กรกฎาคม 2564 เวลา:23:33:28 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กรกฎาคม 2564 เวลา:7:19:12 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 3 กรกฎาคม 2564 เวลา:9:33:34 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 กรกฎาคม 2564 เวลา:12:47:01 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กรกฎาคม 2564 เวลา:14:32:40 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 3 กรกฎาคม 2564 เวลา:15:50:48 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 3 กรกฎาคม 2564 เวลา:16:56:29 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 3 กรกฎาคม 2564 เวลา:18:21:30 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กรกฎาคม 2564 เวลา:7:19:11 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 4 กรกฎาคม 2564 เวลา:7:44:27 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กรกฎาคม 2564 เวลา:11:18:54 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 5 กรกฎาคม 2564 เวลา:8:21:31 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 5 กรกฎาคม 2564 เวลา:8:28:47 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 5 กรกฎาคม 2564 เวลา:22:06:31 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กรกฎาคม 2564 เวลา:23:04:08 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กรกฎาคม 2564 เวลา:6:50:01 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กรกฎาคม 2564 เวลา:22:40:01 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 6 กรกฎาคม 2564 เวลา:23:47:17 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กรกฎาคม 2564 เวลา:6:42:49 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กรกฎาคม 2564 เวลา:14:38:26 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กรกฎาคม 2564 เวลา:6:28:21 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กรกฎาคม 2564 เวลา:13:02:13 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กรกฎาคม 2564 เวลา:6:31:13 น. |
|
|
|
โดย: นภัสสร ทวีกาล IP: 1.1.226.138 วันที่: 12 มีนาคม 2567 เวลา:10:18:13 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์ |
|
Rss Feed |
| Smember | | ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]
|
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif |
|
|
|
ได้อ่านหนังสือสมัยที่เป็นบทเรียน และ ได้ดูทั้งละคร และ ภาพยนตร์ครับ
เพิ่งทราบครับ ว่าเป็นบที่เกี่ยวกับอดึตชาติของพระโพธิสัตว์ที่เสวยพระชาติเป็นพญาครุฑ