|
ตอนพิเศษ : วุ่นนักรักต้องอุ้ม ๘
๘. _____________________________________________________
หญิงสาวในเดรสยาวสีแดงเดินออกมาจากหลังม่านด้วยท่าทางไม่มั่นใจนัก ปรมัตถ์เงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์ แทบลืมหายใจเมื่อเห็นว่าที่เจ้าสาวของเขาอยู่ในชุดแต่งงาน แม้จะเป็นเดรสที่ค่องข้างเรียบง่ายแต่สีแดงยิ่งขับเน้นให้ผิวของเธอผ่องใสชวนมอง ใบหน้างามหมดจดนั้นสะกดสายตาเขาไว้ทำให้มองไม่เห็นช่างเสื้อที่ยืนอยู่ข้างปานไพลิน
ตาค้างเลยนะคะคุณปอ อารีอดเย้าว่าที่เจ้าบ่าวไม่ได้ หล่อนเป็นเจ้าของร้านตัดชุดแต่งงานที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดสระบุรี และชุดนี้ก็ลงมือตัดเย็บด้วยตัวเอง เพราะปานไพลินเป็นลูกสาวเสี่ยยิ่งยศ สำหรับหญิงสาวทุกอย่างต้องวีไอพีเสมอ
ชายหนุ่มกะพริบตา เรียกสติคืน ก่อนจะฉีกยิ้มกรุ้มกริ่มตามสไตล์เขา ปากตอบเจ้าของร้านแต่ตามองปานไพลิน ทำไงได้ล่ะ ก็ว่าที่เจ้าสาวของผมสวยมากนี่ครับ
ว่าที่เจ้าสาว มองค้อน ทั้งหมั่นไส้แกมขัดเขิน ส่วนอารีหัวเราะชอบอกชอบใจ ก่อนจะถามว่าที่เจ้าสาวว่าอยากให้แก้ไขตรงไหนอีกหรือไม่
ไม่ค่ะ ใส่ได้พอดีแล้ว งั้นเอาแบบนี้เลยนะคะ ถ้าจำเป็นต้องแก้อะไรอีก ป่านจะโทร. บอกพี่อารีอีกทีก็แล้วกัน หญิงสาวตอบแล้วรีบเดินเข้าไปหลังม่านเพื่อเปลี่ยนชุด
สองสัปดาห์มานี้ปานไพลินกับปรมัตถ์แทบจะตัวติดกันทุกวัน สาเหตุเพราะอาการแพ้ท้องของเธอเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวไม่อยากให้คนที่บ้านระแคะระคาย แม้จะปิดตลอดไปไม่ได้แต่ให้พวกเขารู้เองตอนที่เธอย้ายไปอยู่กับชายหนุ่มแล้วคงกระอักกระอ่วนใจน้อยกว่า ดังนั้นเธอจึง สั่ง ให้เขามารับทุกวัน โดยอ้างว่าต้องไปจัดการธุระเรื่องงานแต่งด้วยกัน เสี่ยยิ่งยศจึงไม่ว่าอะไร
ทั้งที่สั่งตัวเองให้ใจแข็ง อย่าหวั่นไหวไปกับเสน่ห์แพรวพราวของปรมัตถ์ แต่เขาก็ขยันหยอดเช้าสายบ่ายเย็นไม่เว้นวัน แถมยังต้องอยู่ด้วยกันเกือบตลอดเวลา แล้วผู้ชายบ้านี่ยังมาทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นคนสำคัญของเขาอีก โดนกร่อนแบบนี้ทุกวันแล้วใจเธอจะแข็งได้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้...
คุณป่านเธอคงเขินหนักมากนะคะ ก็คุณปอจ้องตาเยิ้มซะขนาดนั้น อยากเข้าไปช่วยว่าที่เจ้าสาวเปลี่ยนชุดไหมคะ เจ้าของร้านถามยิ้มๆ ด้วยคิดว่า แม่ม่ายกับผู้ชายเจ้าชู้ระดับตำนานจะแต่งงานกัน พวกเขาคงไม่รอจนถึงวันเข้าหอหรอก ใครๆ ก็พูดแบบนี้กันทั้งนั้น
ไม่ละครับ ผมรอข้างล่างดีกว่า
เขายิ้มกริ่มแล้วเดินออกจากห้องเก็บชุดไปอย่างไม่ลังเล เล่นเอาอารีอึ้งไปเลยทีเดียว
พี่อารีคะ มาช่วยป่านรูดซิปที
เสียงเรียกดังมาจากหลังม่าน เจ้าของร้านตั้งสติแล้วกระวีกระวาดเข้าไปช่วยอย่างไว
ปานไพลินนั่งเงียบตั้งแต่ออกจากร้านตัดชุดแต่งงาน เธอได้ยินอารีกระซิบถามปรมัตถ์กลั้วเสียงหัวเราะคิกคัก คงจะคิดเหมือนทุกคนว่าผู้ชายเจ้าชู้ระดับนี้ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติแม่ม่ายที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้วอย่างเธอ มันรู้สึกจี๊ดๆ ในใจอย่างช่วยไม่ได้ เธอแทบอยากวิ่งออกมาตะโกนใส่หน้าเจ้าของร้านว่า ผู้หญิงที่เป็นม่ายไม่ได้แปลว่าร่าน แล้วจิกหัวตบอีกสักฉาดให้หายแค้นใจที่ผู้หญิงด้วยกันมาดูถูกกันแบบนี้ แต่คำตอบของปรมัตถ์ช่วยบรรเทาโทสะในใจได้อย่างประหลาด ทั้งที่เป็นคำตอบเรียบง่าย แทบไม่สื่อถึงอะไร แต่กลับทำให้เธออยากขอบคุณเขา และแทนที่จะทำอะไรไร้สติอย่างใจคิด เธอก็แค่ขอร้องให้อารีมาช่วยเปลี่ยนชุดเท่านั้น
แพ้อีกแล้วเหรอคุณ เวียนหัวรึเปล่า จอดรถก่อนไหม เผื่อคุณอยากอ้วก คนที่เหมือนตั้งใจอยู่กับการขับรถเอ่ยถาม
เขาไม่คิดว่าเธอมีอาการแพ้ท้องตอนนี้ เพราะหากเวียนหัว พะอืดพะอมขึ้นมาเมื่อไร เธอต้องต่อว่าเขาทุกทีไปที่เป็นสาเหตุให้ต้องทรมาน แต่อาการเงียบกริบของหญิงสาวทำให้เขาเป็นห่วง
ฉันไม่เป็นไร แค่...หิวจนไม่มีแรงจะหาเรื่องคุณ เธอไม่รู้จะตอบอะไรเลยแก้ตัวไปแบบนั้น
งั้นแวะหาอะไรกินก่อนกลับรีสอร์ตก็แล้วกัน ชายหนุ่มเออออด้วยง่ายๆ เหมือนทุกที เขาพยายามชดเชยให้เธอเรื่องที่ดันขอแต่งงานข้างกองขยะ และไม่อยากให้หญิงสาวอารมณ์เสียด้วย เกรงจะมีผลกระทบต่อสุขภาพและเด็กในท้อง
ปานไพลินไม่ว่าอะไรตอนที่เขาเลี้ยวรถเข้าไปในร้านอาหารขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของจังหวัด หญิงสาวเริ่มชินกับการที่มีคนรู้จักเห็นเธอกับปรมัตถ์ไปไหนมาไหนด้วยกันและแวะเข้ามาทักทาย แต่นั่นไม่รวม คนรู้จักในอดีต ด้วย
เธอคอแข็ง วางช้อนส้อม ตั้งท่าระวังตัวโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นผู้ชายคนนั้นลุกจากโต๊ะ ตรงดิ่งเข้ามาพร้อมรอยยิ้มน่ารังเกียจที่อ่านได้ว่า เขากำลังเย้ยหยันเธอ
หวัดดีจ้ะที่รัก ไม่เจอกันไม่เท่าไหร่ได้ข่าวว่ามีผัวใหม่ซะแล้ว ทำไมไม่ร่อนการ์ดให้ผัวเก่าบ้างฮึ วิทยายิ้มยวน มองอดีตภรรยาสลับกับผู้ชายคนใหม่ของเธอด้วยแววตาชวนหาเรื่อง
ปานไพลินเม้มปากแน่น คว้าแก้วน้ำดื่มหวังจะสาดใส่หมาบ้าให้คลั่งตายไปเลย แต่ปรมัตถ์เอื้อมมาแตะข้อมือเธอและกดไว้ไม่ยอมให้ทำอย่างตั้งใจ ก่อนจะลุกขึ้นประจันหน้ากับอีกฝ่ายตรงๆ เนื่องจากเขาสูงกว่าวิทยาจึงทำให้ฝ่ายนั้นเผลอถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว
ไรวะ แค่มาทักทายดีๆ นี่จะหาเรื่องกันเหรอ? คนหาเรื่องกลับโวยเสียงดังให้คนอื่นได้ยินด้วย
วิทยาตั้งใจมากวนประสาทแต่ไม่ได้คิดจะมีเรื่องชกต่อย แค่อยากให้ปานไพลินขายหน้าและอยากให้ผู้ชายคนใหม่ของเธอรู้สึกอับอาย ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายทิ้งมาแต่กลับร้อนรุ่มในอกยามรู้ข่าวว่าหญิงสาวกำลังจะแต่งงานใหม่กับผู้ชายที่เรียกได้ว่าเหนือกว่าตนทุกอย่าง
ปรมัตถ์ยิ้มอย่างใจเย็น ถ้าไม่ติดว่าการมีเรื่องชกต่อยกับวิทยากลางร้านอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดจะทำให้ปานไพลินตกเป็นขี้ปากชาวบ้านเพิ่มอีกหนึ่งหัวข้อ เขาคงต่อยปากพล่อยๆ ของอดีตสามีเธอไปแล้ว มีเรื่องกับคนแบบนี้ได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ
ผมว่าเราออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่านะครับ อยู่ตรงนี้มันจะรบกวนลูกค้าคนอื่น
ไม่ต้องคุยอะไรทั้งนั้นแหละ ฉันกินอะไรไม่ลงแล้ว เรากลับกันดีกว่า
ปานไพลินลุกขึ้นและเร่งฝีเท้าก้าวออกไปโดยไม่มองหน้าใคร วิทยาแสยะยิ้ม ตามไปหาเรื่องอย่างไม่ลดละ ปรมัตถ์ช้าไปหนึ่งก้าวเพราะมัวแต่ควักเงินจ่ายค่าอาหารมื้อนี้ วิทยาจึงมีโอกาสกระชากเรียวแขนของหญิงสาวเข้ามาหาตัวก่อนที่เธอจะเดินถึงรถซึ่งจอดอยู่ในลานด้านหลังตัวร้าน
นี่ปล่อยฉันนะ! หญิงสาวแหวพร้อมสะบัดแขนอย่างรังเกียจ โคตรจะไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าเมื่อก่อนหลงรักผู้ชายคนนี้เข้าไปได้ยังไง ทั้งหยาบคาย ไร้มารยาท และสันดานเสีย
แหม...ต้องทำท่ารังเกียจผัวเก่าขนาดนี้เลยเหรอ ทำไมฮะ ลีลาผัวใหม่มันเร้าใจกว่ารึยังไง
ยังไม่ทันที่ปานไพลินจะได้เงื้อมือขึ้นตบ วิทยาก็ถูกกระชากกลับหลังก่อนจะหน้าหงาย เลือดกบปากเพราะแรงชกของปรมัตถ์
อย่าเอามือสกปรกของแกมาแตะต้องคนของฉันอีก ไม่งั้นฉันจะทำให้แกไม่มีที่ซุกหัวนอนในจังหวัดนี้ ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเย็นพลางคว้าตัวปานไพลินเข้ามาโอบไว้อย่างปกป้อง
ถุย! วิทยาถ่มเลือดในปากทิ้งก่อนจะหัวเราะเยาะเสียงลั่น ผู้หญิงของแกน่ะเมียเก่าฉัน มันก็ไม่ต่างอะไรจากของเหลือเดนของฉันนั่นแหละวะ อย่านึกว่าตัวเองแน่ที่คว้าแม่ม่ายไปเป็นเมียแต่งได้ น่าสมเพชมากกว่า!
ปรมัตถ์โกรธจนหน้ามืด ตรงเข้าไปต่อยปากวิทยาอีกที แต่คราวนี้ฝ่ายนั้นตั้งรับทันและสวนหมัดกลับมาโดนโหนกแก้มของหนุ่มตี๋จังๆ ทว่าด้วยโทสะที่ครอบงำสติทำให้เขาไม่รู้สึกเจ็บจึงชกวิทยาจนล้มคว่ำลงไปคลุกดินด้วยกัน ก่อนจะพลิกกายขึ้นมาด้านบน ประเคนหมัดซ้ำๆ เพราะอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ
พอได้แล้วคุณปอ พอเถอะ ลุกขึ้นเร็ว
ปานไพลินรีบวิ่งมาดึงแขนเขาให้ลุกก่อนที่ชายหนุ่มจะฆ่าคนตาย เธอไม่ได้ห่วงวิทยาแต่ไม่อยากให้ปรมัตถ์กลายเป็นฆาตกรเพราะคนเลวๆ พรรค์นี้
ชายหนุ่มเกือบสะบัดแขนออกแต่สัมผัสจากมือเล็กทำให้เขาได้สติจึงยอมลุกออกมาโดยดี เห็นหญิงสาวหน้าซีดจนไม่เหลือสีเลือดจึงเอ่ยถามแต่น้ำเสียงไม่ได้อ่อนโยนนัก คุณไม่เป็นไรนะ
เธอสั่นหน้าเร็วๆ แทนคำตอบ อดหันไปมองวิทยาไม่ได้ ฝ่ายนั้นเลือดท่วมหน้าและยังนอนแผ่สิ้นฤทธิ์อยู่กับพื้น เขายังมีสติเพียงแค่ไม่อยากลุกเพราะเกรงจะโดนซ้ำ สักพักก็มีเสียงหญิงสาวคนหนึ่งหวีดร้อง ก่อนจะพาร่างอวบอิ่มแล่นถลาเข้ามาประคองกอดคนเจ็บ น้ำตากบตาด้วยความเป็นห่วงชายคนรัก
แกทำอะไรวิทเนี่ย อย่าหนีไปไหนนะ ฉันจะแจ้งตำรวจมาจับแกเข้าตะราง แว้ดใส่ชายหนุ่มร่างสูงซึ่งคาดว่าจะเป็นคู่กรณีของวิทยาแล้วก็ก้มลงมองคนรักด้วยความสงสารจับใจ โถ...วิท เจ็บมากไหม เดี๋ยวพี่จะพาวิทไปหาหมอนะวิทนะ ทำใจดีๆ เอาไว้ก่อน
ดูเหมือนไทยมุงจะแห่แหนตามสตรีสูงวัยผู้นี้มา แต่ละคนตาเป็นมันด้วยความสนใจใคร่รู้
เรารีบไปเถอะ ปานไพลินกระซิบเบาๆ จากที่เป็นฝ่ายโกรธอดีตสามี ตอนนี้เหลือแต่ความรู้สึกสมเพชแกมเวทนาสตรีอีกคนที่หูตามืดบอดด้วยคำลวงของเขา
คุณขึ้นรถก่อน ผมยังไม่เสร็จธุระ ปรมัตถ์บอกเสียงเรียบพลางใช้รีโมตเปิดประตูรถให้หญิงสาว เมื่อรู้สึกว่าเธอยังยืนนิ่งจึงบอกซ้ำด้วยน้ำเสียงคล้ายบังคับ ผมขอให้คุณขึ้นรถ
หญิงสาวรู้สึกใจแป้วแปลกๆ เขาไม่เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้กับเธอมาก่อน กอปรกับสายตาดุดันที่มองมาทำให้เธอต้องกัดริมฝีปากเพื่อถ่ายเทอาการแปล๊บๆ ในอกไปที่อื่นบ้าง แล้วรีบเดินไปขึ้นรถโดยไม่พูดอะไร
ปรมัตถ์ตรงดิ่งเข้าไปหาคู่กรณีด้วยสีหน้าเรียบจัด
สาวใหญ่วัยราวสี่สิบปลายที่กอดประคองชายคนรักในอ้อมแขนเผลอกระถดตัวหนี แหวเสียงดังกลบเกลื่อนความหวั่นกลัว ถอยออกไปนะ ไปยืนห่างๆ ขืนแกทำอะไรผัวฉันอีก แกโดนคนพวกนี้กระทืบปางตายแน่ แกจะเอางั้นใช่มั้ย? ชี้มือไปยังเหล่าไทยมุงรอบด้าน
ชายหนุ่มไม่สะทกสะท้านกับคำขู่ ไม่หันมองทางอื่นด้วยซ้ำ ย่อตัวลงนั่งใกล้คู่กรณีและเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ ผมแค่จะเตือนเอาไว้ บอกผัวคุณด้วยว่าอย่ามายุ่งกับผู้หญิงของผมอีก เพราะคราวหน้าจะไม่แค่เจ็บตัวเหมือนวันนี้
จากนั้นก็ลุกขึ้น ส่งนามบัตรในกระเป๋าสตางค์ให้สาวใหญ่ อยากแจ้งตำรวจหรือใครก็เอาเลย นี่เบอร์ติดต่อผม
แม่ม่ายวัยเกือบห้าสิบพลิกนามบัตรขึ้นดูก่อนจะเบิกตากว้าง นี่มันลูกหลานร้าน ป.กระเบื้องฯ นี่ คนนี้รึเปล่านะที่ว่ากำลังจะแต่งงานกับลูกสาวเสี่ยยิ่งยศ
คนนี้เลยป้า ที่นั่งหน้ารถน่ะคุณป่าน ลูกสาวคนเดียวของเสี่ยยิ่งยศเขาละ เด็กเสิร์ฟในร้านช่วยตอบข้อข้องใจ
ชายหนุ่มถอยรถออกไปแล้ว คนที่ถูกเรียกป้าค้อนขวับ ก่อนจะมองตามท้ายรถปรมัตถ์อย่างไม่สบายใจ ได้ข่าวเรื่อง ร้าน ป.กระเบื้องและวัสดุก่อสร้าง กำลังจะเกี่ยวดองกับเสี่ยยิ่งยศอยู่เหมือนกัน แม้ปัจจุบันเสี่ยใหญ่ร่างกายพิการคนนี้จะหันหลังให้การเมืองแล้ว แต่ใครก็รู้ว่าเขามีเส้นสายคนรู้จักค่อนจังหวัด ทั้งตำรวจ นักการเมือง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อีกเยอะแยะ ขืนหล่อนไปตอแยกับคนบ้านนั้นมีหวังได้เป็นไข้โป้งตายแน่ๆ ถึงสามีเก่าของหล่อนจะตายไปและทิ้งสมบัติไว้ให้พอควร แต่ก็กินใช้หาความสำราญจนพร่องไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะที่หล่อนเอามาบำรุงบำเรอสามีเด็กคนนี้เรียกว่าเกินครึ่งของที่มีเลยทีเดียว อีกทั้งตัวหล่อนเองก็ไม่มีอำนาจบารมีพอจะไปต่อกรกับผู้มีอิทธิพลระดับนั้นด้วย
คิดแล้วก็ใช้มือตบหน้าสามีรักที่แม้ไม่ได้แต่งงานออกหน้าออกตา แต่ก็อยู่กินกันมาร่วมครึ่งปีได้ ความห่วงใยเบาบางลง เหลือแต่ความสงสัยระคนเคืองขุ่น วิท! ตื่นมาคุยกับพี่เดี๋ยวนี้นะ วิทไปมีเรื่องกะคนระดับนี้ได้ยังไง วิท...ตื่น!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวิทยาไม่เคยบอกผู้หญิงที่เขาเกาะว่าเคยเป็นลูกเขยของเสี่ยยิ่งยศมาก่อน...เขาจึงแกล้งหมดสติต่อไป
ปรมัตถ์ไม่ได้พูดอะไรกับปานไพลินสักคำจนกระทั่งถึงรีสอร์ตชิดตะวัน เขาจอดรถในที่ประจำของตัวเองซึ่งอยู่ติดกับห้องพักส่วนตัวที่ต่อเติมออกมาจากอาคารของรีสอร์ต
หญิงสาวเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกัน สีหน้าเขาดูเคร่งเครียด ทำให้เธอคิดว่าชายหนุ่มอาจกำลังคิดเรื่องที่วิทยาพูดวันนี้ เขาอาจกำลังตัดสินใจใหม่เรื่องการแต่งงาน ความเงียบยังปกคลุมห้องโดยสาร เธอรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกจึงเริ่มปลดเข็มขัดนิรภัย จะได้พาตัวเองออกไปจากสถานการณ์แสนอึดอัดนี้เสียที
ชายหนุ่มแตะมือเล็กไว้ ก่อนจะหันมาสบตาเธอตรงๆ เป็นครั้งแรกหลังเกิดเรื่อง ถามเสียงแผ่ว ผมทำให้คุณกลัวรึเปล่า?
ไม่ใช่คำถามที่เธอคาดคิด ไม่ใกล้เคียงเลยด้วยซ้ำ หญิงสาวกะพริบตา งุนงง คุณ...กังวลเรื่องนี้เหรอ?
ก็ใช่น่ะสิ ผมอาจจะฆ่าคนตายก็ได้ คุณเริ่มกลัวผมแล้วใช่ไหม? สีหน้าเขาร้อนรนขณะจับมือหญิงสาวไว้แน่น ไม่กล้าปล่อย กลัวเธอวิ่งหนีไปเสียก่อน
สาบานได้นะ ผมไม่เคยแก้ปัญหาด้วยกำลังเลย ถามหมอเขื่อนดูก็ได้ถ้าไม่เชื่อ เขารู้จักผมดี เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนมัธยม คราวนี้ผมแค่...ฟิวส์ขาด แต่สัญญาว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก
ถ้าต้องจัดการกับวิทยาอีกครั้ง คราวหน้าเขาจะไม่ลงมือเอง!
นั่นคือคำพูดที่ยักไว้ แต่เขามั่นใจว่าตัวเองไม่ใช่คนอารมณ์ร้อนถึงขนาดจะลงมือทำร้ายใครก่อน ถ้าคนคนนั้นไม่บังอาจมาแตะต้องสิ่งที่เขาหวงแหน
ที่หน้าตึงมาตลอดทาง ไม่พูดไม่จาซักคำเพราะเครียดเรื่องนี้เหรอ? หญิงสาวยังไม่วายถามซ้ำ
เธอแน่ใจว่าไม่นิยมผู้ชายรักความรุนแรง แต่คนอย่างวิทยาคงจัดการด้วยวิธีสุภาพไม่สำเร็จ ผู้ชายคนนี้สันดานหยาบกระด้างจนเกินไป โดนซะบ้างก็สมน้ำหน้าแล้ว แต่มาคิดดูดีๆ ที่ปรมัตถ์ฟิวส์ขาดวันนี้ก็น่ากลัวอยู่ไม่น้อย ที่เธอไม่กลัวเขาคงเพราะรู้สึกว่าสิ่งที่ชายหนุ่มทำ...เขาทำเพื่อปกป้องเธอ
ก็ผมกลัวคุณเปลี่ยนใจนี่ เขายอมรับเก้อๆ แต่จับมือเธอแน่น ไม่ยอมปล่อย
เธอกลั้นหัวเราะ รู้สึกโล่งใจจนกลายเป็นขบขัน
น่าขำเหรอ เสียฟอร์มอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย ชายหนุ่มโอดครวญ รู้สึกสมเพชตัวเองจริงๆ
คราวก่อนก็ขอแต่งงานข้างกองขยะ มาคราวนี้ก็กลัวปานไพลินเผ่นหนีจนแสดงความเครียดออกมาอย่างไม่เก็บอาการ นี่เขายังเหลือความเท่ เหลือเสน่ห์อะไรมามัดใจเธอบ้างไหมเนี่ย เฮ้อ!
ปานไพลินมองหน้าเขา เห็นรอยช้ำที่โหนกแก้มก็หายขำและนึกเป็นห่วง เจ็บมากไหม
เขาสบตาเธอ เห็นร่องรอยความห่วงใยปรากฏชัด ไม่เพียงยิ้มได้แต่ยังยิ้มเจ้าเล่ห์อีกด้วย เจ็บมาก นี่ผมมีเรื่องชกต่อยครั้งแรกในชีวิตเพื่อคุณเลยนะ มีรางวัลให้ผมบ้างไหม?
ครั้งแรกเลยเหรอ? เธอถามเหมือนไม่เชื่อ
ถามหมอเขื่อนดูได้
เธอนิ่วหน้า เมื่อกี้คุณบอกว่าเป็นเพื่อนกับหมอเขื่อนเหรอ
ไว้ถามคราวหลัง ผมกำลังพูดเรื่องของเรา ไม่เอาหมอเขื่อน
คุณพูดถึงเขาก่อนนะ
ตอนนี้ผมไม่อยากให้พูดถึงเขานี่ กลับมาเรื่องของเราก่อน ให้รางวัลผมหน่อยสิ นี่ผมเจ็บตัวก็เพราะคุณเลยนะ
เมื่อสบายใจขึ้นแล้วเขาก็กลับมาเป็นหนุ่มขี้อ้อนได้เหมือนเดิม แต่ปานไพลินไม่เล่นด้วย
ฉันนึกว่าคุณกำลังทบทวนเรื่องการแต่งงาน เธอดึงมือออกจากการกอบกุมของเขา
ชายหนุ่มหยุด...คิด ทำความเข้าใจคำพูดของเธอสักพักก็ตบหน้าผากตัวเองไปที ก่อนจะเอื้อมไปดึงมือเล็กกลับมาบีบกระชับอย่างให้ความมั่นใจ เธอหลุบตามองที่มือตัวเอง เขาจึงเอ่ยว่า มองหน้าผม
หญิงสาวทำตามทั้งที่จะไม่ทำก็ได้
อย่าไปคิดมากกับคำพูดของคนพรรค์นั้นเลย คุณสะอาดเกินไปสำหรับผมด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่อยากปล่อยคุณไปและจะไม่ปล่อยด้วย
พร้อมคำมั่นนั้นเขาก็บีบกระชับมือของเธอแน่นขึ้น นัยน์ตาที่เปี่ยมด้วยความแน่วแน่ จริงจัง บอกได้ชัดกว่าคำพูดเสียอีก
คราวนี้ผมขอจูบสักทีเป็นรางวัลได้ไหม เขาโน้มใบหน้าเข้ามากระซิบข้างหูเธอ ปัดปลายจมูกไปกับพวงแก้มอิ่มอย่างแผ่วเบา หลอมเธอด้วยลมหายใจร้อนผ่าวสื่อความรู้สึก
ปานไพลินรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังละลายทีละนิด แต่ถ้าเขาจะถามตรงๆ แบบนี้เธอคงตอบได้คำเดียว ไม่...
ครั้งเดียวเอง ถือว่าผมปล้ำจูบคุณก็ได้ ขอผมเถอะนะ
ไม่ขอเปล่า เขาประทับริมฝีปากร้อนผ่าวลงกับกลีบปากอ่อนนุ่มของเธออย่างแผ่วเบา ไม่พบปฏิกิริยาต่อต้าน เขาจึงไม่หยุดยั้งตัวเองอีกต่อไป
หญิงสาวพริ้มตาหลับ เธอยังไม่ยอมรับว่าคิดอะไรกับเขา แต่ผลักให้เป็นปฏิกิริยาเคมีทางร่างกาย ต้อนรับ ดื่มด่ำ และตอบสนองจุมพิตเรียกร้องของชายหนุ่มอย่างไม่เหนี่ยวรั้งตัวเองอีก
ปรมัตถ์แทบหมดความยับยั้งชั่งใจ เขาอยากกดหญิงสาวลงกับเบาะรถยนต์เสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็สู้ข่มใจไว้สุดฤทธิ์ ต่างคนต่างหอบหายใจถี่รัวเมื่อเขายอมถอนริมฝีปากออกมา แต่ก็เพียงเพื่อจะสูดเอาอากาศเข้าปอดก่อนจะจูบเธออีกครั้งให้สาสมกับความโหยหาในส่วนลึก
ไหนคุณบอกแค่ครั้งเดียวไง เธอประท้วงเสียงสั่นเมื่อรู้สึกว่าถ้าไม่ห้ามเขาตอนนี้เธอคงไม่สามารถห้ามตัวเองได้อีกแล้ว
เมื่อกี้ไม่นับเพราะคุณเต็มใจ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน
สิ้นเสียงกระซิบแผ่วพร่านั้นเขาก็ปิดปากเธออีกที แถมยังได้รับความร่วมมือจากหญิงสาวเป็นอย่างดีด้วย
___________________________________________________
พี่หมูน้อย ไป ตปท อีกแล้วเหรอคะ อิจฉาาาา ดีใจที่ชอบคู่นี้ค่ะ ตอนนี้มีแอบหวิว อิอิ >/////<
|
Create Date : 28 กรกฎาคม 2559 |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2559 20:31:51 น. |
|
3 comments
|
Counter : 728 Pageviews. |
|
|
|
โดย: พี่หมูน้อย IP: 171.4.251.98 วันที่: 29 กรกฎาคม 2559 เวลา:14:34:09 น. |
|
|
|
โดย: sakeena IP: 183.89.148.163 วันที่: 29 กรกฎาคม 2559 เวลา:15:19:42 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เยอรมันไม่มีไรให้ซื่อเลยจ้า ยกเว้นมีดกับแม้กกี้รสเผ็ด ว่าจะซื่อมาฝากเหมือนกันนะ แต่หาไม่ได้(คงไม่ค่อยนิยม หลายๆซุปเปอร์ที่เดินหาไม่เจอ)