NETHERLANDS :: มาราธอนทริปตอนที่ 7 Brugge เวนิสแห่งเบลเยี่ยม
ตอนที่แล้วหลังจากพวกเราเที่ยว "ย่านครูนปล้าช" กันมาแล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อไปยังเมืองสวยงามอีกเมืองหนึ่งจาก Antwerp พวกเราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็มาถึงบรูจจ์ (Brugge) รถบัสพามาจอดที่สวนสาธารณะ แล้วก็ให้ประชากรทัวร์เราเดินๆๆ ค๊า บอกแล้วทริปมาราธอนทัวร์อารมณ์เหมือนผ่านแมกไม้แล้วมาเจอเมือง โอ้ว .. สวยจริงสวยจังเลยเมืองนี้สมญานามเมืองนี้เค้าว่าคือ "เวนิสแห่งเบลเยี่ยม"
ระหว่างทางเดินไปยังร้านอาหารมื้อเที่ยงของพวกเรา สองข้างทางมีตึกเก่าๆ เรียงรายทอดยาวดูแล้วสวยงามมากด้วยความเก่าของสถานที่บวกกับอากาศเย็นๆ จึงไม่แปลกใจนักที่นักท่องเที่ยวจะหลงรักบรูจจ์โดยง่าย เพราะ จขบ.เองยังรู้สึกว่าเมืองนี้โรแมนติกจัง
ระหว่างทางกรุ๊ปเราก็กตชัตเตอร์กันระรัว คนคุมทีมก็ตามไปทำไมช้าจัง แหม..เมืองออกจะสวยขนาดนี้ก็อดใจไม่ไหวนะที่จะไม่ถ่ายรูปเนี่ยอ่ะคะ บอกตามตรงเรื่องกินเนี่ยกลายเป็นเรื่องรองไปเลยทีเดียวเมื่อได้มาเห็นเมือง อยากเดินถ่ายรูปมากกว่าอีก เอาล่ะจ้ำๆๆ ตาม Concept มาราธอนทริปก็เดินมาถึงร้านอาหารพิกัดเป้าหมาย "China Restaurant"
ภายในร้านคนก็เยอะเหมือนกันการมาต่างบ้านต่างเมืองเนี่ยอาหารการกินสำหรับบางคนก็ลำบาก ทริปนี้จึงจัดอาหารจีนเป็นส่วนใหญ่เพราะหาทานได้ง่ายในทุกๆ เมือง เอาล่ะได้โต๊ะนั่งอาหารก็พร้อมเสริฟ์มากับทัวร์ก็ดีแบบนี้แหละไม่ต้องคิดอะไรมาก มาตามแพลนที่วางไว้ให้ทันพอ
สำหรับอาหารมื้อนี้ก็เริ่มจากกุ้งลวก ซุปไส (อร่อยดีอันนี้ชอบ) ผัดหมูกับหัวหอมแบบผัดจืดอ่ะ ซี่โครงหมูน้ำแดงอันนี้รสชาติไทยสไตล์มาก ผัดผักบล็อกโครี่เพื่อสุขภาพ ปลาทอดอันนี้ถ่ายไม่ทันมาปุ๊บหมดทันทีอร่อยดี วันนี้อาหารรสชาติใช้ได้คือกลางๆ คนไทยทานสบายตบท้ายด้วยส้มซันควิก
พอทานกันเสร็จก็ได้เวลาเดินกันต่อจ้าตามโปรแกรมพวกเราต้องไปล่องเรือชมเมืองบรูจจ์กันค่ะ ระหว่างทางก็ฟินเลย
ตามกำหนดการพวกเราต้องลงเรือตอนเย็น แต่พี่ไกด์ลองให้พวกเรามารอกันก่อนเผื่อล่องเรือได้เร็วก็จะได้มีเวลาเดินถ่ายรูปกัน แต่พอไปเจรจาแล้วไม่สามารถเลื่อนเวลาได้เลยต้องไปเดินเที่ยวกันก่อนเพื่อรอเวลาค่ะ
พื้นถนนที่นี่เหมือนอิฐบล็อกพื้นมาต่อกันเรียกว่าไม่มีนะจ๊ะยางมะตอยถนนเรียบๆ ไรงี้มีแต่แบบนี้ค่ะ ดังนั้นการมาเที่ยวเมืองแบบนี้ต้องเตรียมตัวเรื่องรองเท้ามาดีมากๆ ผ้าใบน่าจะเหมาะสมที่สุดเพราะเดินสบายไม่เมื่อยด้วยค่ะ ยิ่งมาเจอทริปมาราธอนทัวร์แบบนี้ด้วยแล้วเริ่ดมากค่ะ
มุมนี้เป็นมุมมหาชนอีกจุดหนึ่งของบรูจจ์เลยค่ะ เหมือนเมืองในเทพนิยายเลยทีเดียวอารมณ์ช่างแตกต่างกับคลองแสนแสบบ้านเรานะ
เชื่อยังว่ามหาชนใครเป็นตากล้อง "รอเดี๋ยว" เข้าด้วยจนแถวยาวอย่างที่เห็น โปรดสังเกตุคนเดินเยอะมาก อย่าถามประวัติอะไรนะคะพี่ไกด์เค้าเล่าให้ฟังแต่ได้ฟังไหม "ไม่จ้า" จะไปทันได้ไงแวะกันตลอดทางข้างหน้าก็เดินกันไปข้างหลังก็แวะกันไป
เรื่องประวัติเมืองคงมีกลุ่มนี้กลุ่มเดียวแหละที่ได้ฟัง เพราะพี่ไกด์อยู่ด้วยตลอดเฝ้าบอสของพวกเรา ชอบนางอ่ะแต่งตัวจัดมากเรียกว่าหานางไม่ยากหรอก นางตัวสูงใหญ่เพียวสลิมขนาดนี้แถมเสื้อผ้าหน้าผมและพร็อปนางพร้อมมากอ่ะ คงสังเกตุกันไม่ยากนะคะว่าพี่ไกด์ของเราคือคนไหน !!
เห็นแดดจัดๆ แบบนี้อากาศเย็นนะจ๊ะ มิน่าทำไมใครๆ อยากมายุโรปคืออยากมาสัมผัสอากาศหนาวตอนกลางวันนั่นเอง เห็นรถม้าแบบนี้อารมณ์เหมือนลำปางบ้านเราเนอะ แต่ม้าที่นี่ตัวหย่ายใหญ่แถมรูปร่างพี่ม้าก็สมาร์ทมากๆ เรียกว่านอกจากคนจะหล่อแล้ว "ม้ายังหล่อเลยเหอะ"
นอกจากเมืองสวยแล้วยังมีคนมาแต่งตัวแปลกๆ ยืนกันเป็นหุ่นด้วย อย่างสามคนข้างบน จขบ.ถึงกับต้องขอเดินไปดูใกล้ๆ เลยทีเดียว คือเค้านั่งได้ไงฟ่ะคนจริงๆ อ่ะ ไอเดียดีจังใครมาก็ต้องหยุดมอง ตอนนี้ไกด์เค้าก็ปล่อยให้เราเดินเที่ยวกันก็เดินกันไม่ไกลมากกลัวกลับไปเรือไม่ทัน เพราะพี่ไกด์บอกว่าใครมาไม่ทันนี่ไปเจอกันที่รถเลยนะ
ก็เลยเดินช็อปปิ้งไปเรื่อยเปื่อยก็มีแบรนด์เนมที่เหมือนบ้านเราเนี่ยแหละ เข้าไปดูไม่ได้ลดราคาอะไรมากเทียบเป็นเงินไทยก็ไม่ได้ถูกไปกว่าบ้านเราก็เลยไม่รู้จะซื้ออะไร เคยเป็นเหมือน จขบ. ม๊ะคือซื้อมาไม่ค่อยได้ใช้สุดท้ายก็ได้ข้อคิดสำหรับชีวิตว่า "ถ้าของที่ซื้อมาไม่ใช้ต่างอะไรกับไม่มี" ไปไหนเดี๋ยวนี้ก็ถ้าไม่อยากได้จริงๆ เนี่ยไม่ได้กินเงินอิช้านหรอกค่ะ เอาล่ะได้เวลาเดินกลับไปยังจุดนัดหมายเพื่อจะล่องเรือชมเมืองบรูจจ์กันแล้ว ไว้มาต่อตอนหน้านะจ๊ะ
Photo and Story By Patthanid C.
Create Date : 15 กรกฎาคม 2558 |
Last Update : 15 กรกฎาคม 2558 9:49:55 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1624 Pageviews. |
|
|
|