สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


<<
กันยายน 2550
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
1 กันยายน 2550
 

BKK - SINGAPORE ตอนที่ 11 :: Dolphin Lagoon Vs Sentosa Luge แวะกินข้าวมันไก่สิงค์โปร์

หลังจากที่พวกเราออกจาก Underwater World ก็ต้องเจอกับฝูงชน ที่ต้องเรียกว่าฝูงชนก็เพราะคนเยอะมากวันนี้ ขนาดรถบัสใน Sentosa ที่ว่าเยอะแล้ว วันนี้ยังให้บริการไม่พอเลย (ขนาดไปดูโลมาสีชมพูแล้วครึ่งชั่วโมง รถยังขนคนจากจุดเดิมไปไม่หมดเลยล่ะ) วันเสาร์อาทิตย์คนมาที่นี่กันเยอะมาก

ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว พวกเราต้องรีบไปกันแล้วล่ะ เพราะรอบแสดงโลมาสีชมพูเหลือรอบสุดท้ายแล้ว ต้องบอกก่อนว่ารอบแสดงมีเพียง 4 รอบต่อวันเท่านั้น คือ 11.00, 13.00, 15.30, 17.30 ส่วนค่าเข้าชมเค้าคิดมากับ Underwater World แล้วล่ะ แต่ต้องเก็บตั๋วไว้ให้ดีนะ เพราะเค้าจะขอตรวจก่อนเข้าค่ะ

Dolphin Lagoon meet new friends from the sea.

Included in the Underwater World ticket price is admission to the Dolphin Lagoon. You kids will learn to appreciate the intelligence of the Indo-Pacific Humpback Dolphins as they dispaly their skills and fiendly personalities in the various performances. For an up-close encounter with these lovely creatures, a "Swim with the Dolphin's programme is avaible daily at 9.45 am.

สำหรับวันนีเราก็มาถึง Dolphin Lagoon ทันรอบสุดท้ายพอดิบพอพี คนเยอะมาก แต่ด้วยอาศัยความกล้าบวกด้านอีกหน่อย ก็ซอกแซกจนได้ที่เหมาะๆ สำหรับชม เรามาดูความเก่งของเจ้าโลมาสีชมพูกันดีกว่า ตอนนี้เค้าเริ่มแนะนำผู้ฝึกแล้วล่ะ



มาแล้วเจ้าปลาโลมาสีชมพูมาแล้ว มันเล่นกับผู้ฝึกราวกับว่าคุ้นเคยกันมานานเลยล่ะ ปลาโลมาสำหรับใช้โชว์มีสามตัว ความเก่งแต่ละตัวก็ไม่เท่ากันนะ มาดูตัวที่อยู่ตรงหน้าเรากันดีกว่า





ผู้ฝึกจะเริ่มแนะนำปลาโลมาแต่ละตัว ซึ่งเค้าก็จะมีท่าของเค้าด้วยล่ะ เรามาเริ่มดูการแสดงโชว์กันเลยดีกว่า ต้องบอกไว้ก่อนว่าภาพจะไม่ค่อยชัด เพราะเจ้า Sanyo J2 ของเราความสามารถน้อยนิด นี่ก็ซูมจนสุดๆ แล้วเหมือนกัน ในใจอยากได้กล้อง SLR ขึ้นมาบัดดลเลยล่ะ โชว์แรกก็เริ่มลอดห่วง จากนั้นต่อด้วยเลี้ยงลูกบอล





เจ้าโลมาสามารถเอาลูกบอลมาเลี้ยงตรงกลางบ่อน้ำแล้วเอากลับไปให้ผู้ฝึกได้ด้วยล่ะ แสนรู้จริงๆ จากนั้นต่อด้วยกระโดดโชว์พร้อมกัน แล้วก็มีท่าดีใจด้วยนะ น่ารักดี เราว่าดูแล้วตื่นเต้นดี อาจจะเป็นเพราะไม่เคยดูโชว์ปลาโลมาด้วยมั้ง





มาดูผู้คนรอบๆ กันดีกว่า หนาแน่นเชียวล่ะ สำหรับหนึ่งในโชว์ของปลาโลมาสีชมพูแล้ว ก็มีให้ผู้ชมเข้าร่วมกิจกรรมด้วย งานนี้ต้องบอกว่าผู้ชนะเปียกอย่างเดียวเลยล่ะ เริ่มจากให้เต้นด้วยฮูลาฮูปนี้ล่ะ ใครเต้นได้ไม่หล่นคือผู้ชนะ ดูจากรูปจะเห็นว่าไหนเลยจะสู้เด็กๆ เค้าได้ แต่สุดท้ายทั้งสามคนก็ได้ร่วมกิจกรรมกันหมดล่ะ





และผู้ร่วมกิจกรรมก็ได้สัมผัสใกล้ชิดกับเจ้าโลมาที่แสนจะน่ารัก (น้องคนที่ลงไปนี่ก็น่ารัก หล่อเชียวล่ะ) ถึงได้บอกก่อนหน้านี้ไงว่า เปียกแน่ๆ





จากนั้นก็เข้าสู่โชว์โลมาต่อด้วยการโชว์การกระโดดขึ้นมาเกยอยู่บนแพ เก่งมากๆ แล้วก็ต่อด้วยวิ่งบนน้ำ วิ่งได้เร็วมากเลยล่ะ





สำหรับใครที่แวะมาเที่ยวที่นี่ อย่าลืมแวะมาชมนะ เพราะมันน่ารักมาก สะกดคนดูรอบสระได้ดีทีเดียว แบบว่าแพ้ความน่ารักแสนรู้ของมัน โชว์ปลาโลมาสีชมพูใช้เวลาประมาณ 30 นาทีล่ะ พอเสร็จแล้วใครจะถ่ายรูปแบบใกล้ชิดปลาโลมาก็มีนะ แต่ราคาก็แพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ตอนแรกก็จะถ่ายแล้ว แต่ว่าเค้าบังคับให้ถ่ายได้แค่สองคน เราไปกันสามไม่ครบก็เลยไม่เอาดีกว่า



จากนั้นพวกเราก็เดินย้อนไปที่รอรถรางเพื่อกลับไปยังจุดเริ่มต้น ตอนนี้ก็หกโมงนิดๆ แล้วล่ะ ยังเหลือเครื่องเล่นอีกหนึ่งอย่างที่อยากเล่นมากๆ ก็คือ Sentosa Luge ค่าเล่น S$10 เหรียญ ต้องบอกก่อนว่าค่าเข้าชมทุกทีอยู่ราวๆ นี้ทั้งนั้น ถ้าใครมีเวลาพอซื้อบัตรรวมคุ้มกว่า

Sentosa Luge a joyride for all ages.

Sentosa is home to the first ever Luge in Southeast Asia. Part go-cart, part toboggan pure ecxitement - the luge is a fun-filled ride that's safe for all ages. Ride up via the Skyride, a chairlift offering scenic views of the hillside, ang come down via a long winding course that promises the thrill of speed and an adrenaline rush from competing with everyone else to be first! Plan on spending a lot of time here with your kids!

เจ้าเครื่องเล่นอันนี้คือให้ขับรถลงจากเขา ยิ่งเร็วยิ่งสนุกล่ะ แต่ขากลับจะขึ้น Skyride ที่สูงเอาเรื่องเชียวล่ะ กลับมายังจุดเดิม ขอบอกว่าอันนี้ประทับใจมากเพราะสนุกบวกตื่นเต้นมากๆ ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้ถ่ายรูปรถมันมา เพราะขับลงมาแบบเร็วสุดๆ (ยิ่งเร็วยิ่งสนุก) ลืมเบรกถ่ายรูป เลยไปก๊อปเค้ามาเพื่อบรรยายแล้วเห็นภาพมากขึ้น



สำหรับพวกเราได้ถ่ายรูปก็ตอนลงมาแล้ว กำลังจะคืนหมวกเพื่อไปขึ้น Skyride กลับล่ะ



และที่เห็นอยู่ด้านหลังก็คือจุดเริ่มต้นขึ้นของ Skyride ล่ะ นี่ว่าสูงแล้วนะ ยังมีสูงกว่านี้อีก ใครกลัวความสูงอันนี้ไม่ควรเป็นอันขาด







ตอนนี้พวกเราเริ่มขึ้นมาแล้ว ต้องบอกว่าเค้าจัดการงานได้ดีมาก ตอนขามาขับรถลงมา ขากลับรถก็แขวนไปกลับ Skyride ตามที่เห็นในรูป ประหยัดแรงงานคนดีจัง และนี่ก็เป็นรูปด้านหน้าและด้านหลังเรา สูงไหมล่ะ





ขึ้นมาซะสูงก็ต้องมีรูปสามคนกันหน่อย กว่าจะถ่ายได้ พี่เล็กค่อยๆ หมุนกล้องแบบกลัวกล้องตกก็กลัว กลัวสูงก็กลัว แต่สุดท้ายก็ได้อย่างที่เห็นนี่ล่ะ ก็มันสูงนี่นะ


ที่นี่นอกจากจะสูงแล้ว Skyride นี่ยังมีเส้นทางที่ยาวอีกด้วย เรียกว่าคนกลัวก็ต้องหลับตากันนานเลยทีเดียว





ใกล้จะลงแล้ว หันมาดูเพื่อนข้างๆ เห็นพี่นุชเกาะเหล็กแขนแข็งเลย แบบก่อนหน้านี้เก็กสวยทุกท่า ตั้งแต่อยู่สิงคโปร์มามีวันนี้ล่ะ สวยไม่ต้อง ขอบอกว่ากลัวมาก ลงมาถึงกับจะแย่ แต่เราชอบเครื่องเล่นนี้เป็นที่สุด สนุกดี







จากนั้นเราก็เดินไปที่หน้าจอเพื่อดูภาพตัวเองกัน เพราะเค้าบอกแล้วล่ะว่าประมาณจุดที่สองจะมีกล้องถ่ายภาพ แต่ด้วยความที่ลืมเลยไม่ได้สนใจ นั่งถ่ายรูปกันเอง รูปที่ได้เลยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยไม่ได้เอา เค้ามีบริการส่งให้ทาง e-mail ด้วยนะ



จากนั้นด้วยความที่มืดแล้วบวกกับฝนยังตกอยู่เลย พวกเราเลยเดินทางกลับอดดูการแสดงน้ำพุเต้นระบำเลย





พอกลับที่พักพวกเราก็ไปทานข้าวกับเพื่อนพี่เล็ก ที่ River Valley Road ชื่อร้านว่า Boon Tong Kee

ตอนแรกก็นึกในใจว่าทำไมมาที่สิงคโปร์ต้องไปชิมข้าวมันไก่หว่า ดูเป็นเมนูพื้นๆ บ้านเราจัง แต่เชื่อไหมว่าเป็นเมนูยอดฮิตสำหรับที่นี่เลย และที่สำคัญพอมาลองชิมข้าวมันไก่ที่ร้านนี้แล้วต้องบอกว่า "ของเค้าดีจริงๆ " เนื้อไก่นุ่มๆ น้ำจิ้มรสกลมกล่อม เครื่องเคียงรสชาติเหมือนกิมจิ แก้เลี่ยนได้ดีนักเชียว ตามด้วยอีกหนึ่งเมนูที่ติดใจนั่นก็คือ เต้าหู้ทอด อร่อยเลยล่ะเมนูนี้ เต้าหูกรอบนอกนุ่มใน รสชาติข้างในเหมือนนมถั่วเหลืองเลยล่ะ ถือว่าเป็นอีกเมนูหนึ่งที่แนะนำหากมาร้านนี้







จากนั้นก็ไปต่อที่ร้านกาแฟที่ชื่อว่า SPINELLI แถวถนน orchard ที่นี่โก้โก้กะเค้กอร่อยทีเดียวล่ะ แถมบรรยากาศก็ดีอีกต่างหาก





พวกเรานั่งที่นี่กันสักพัก ก็กลับเพราะวันนี้เหนื่อยกับ Sentosa มาทั้งวัน แล้วอีกอย่างพรุ่งนี้พวกเราต้องกลับเที่ยวบินเช้าด้วยเลยต้องรีบนอนกันหน่อย

วันสุดท้าย
เช้านี้เราตื่นแต่เช้าเพราะตั้งใจว่าเราจะไปถ่ายรูปที่ Clarke Quay เพราะว่าที่นี่ช่วงเช้าจะแตกต่างกับกลางคืนอย่างสิ้นเชิง ซึ่งที่นี่นิยมมาถ่ายแบบมากที่สุด ซึ่งพวกเราก็จะไปเก็บภาพที่นี่เช่นกัน แต่เช้านี้ฟ้าไม่เป็นใจเอาเสียเลย อุตส่าห์ตื่นแต่เช้านั่งรอนอนรอ ฝนก็ไม่หยุดเสียที สุดท้ายก็ต้องนอนต่อเพราะฝนตกมากๆ เปลี่ยนแผนกลับบ้านดีกว่า

พวกเรามาถึงสนามบินชางกีประมาณ 9.30 น. ก็เหลือเวลาอีกตั้งเยอะ เพราะเที่ยวบินนี้ตามกำหนดกลับคือ 10.55 น. เลยเดินถ่ายรูปสนามบินนี้กันไปเรื่อยๆ







ต้องบอกว่าสนามบินที่นี่เน้นการออกแบบแนวเส้นสายเสียเป็นส่วนใหญ่ ก็แปลกดี แต่ถามว่าสวยไหม รู้สึกว่าสนามบินสุวรรณภูมิบ้านเราสวยกว่า แต่ความสะดวกสบายต้องยกให้ชางกีเค้า เดินไปเดินมาก็ไปเจอร้านขายน้ำหอมที่ต้องบอกว่าถูกมาก



เราเองก็ไม่ค่อยนิยมน้ำหอมสักเท่าไหร่ ก็เลยเดินออกมาด้านนอกเจอเจ้าตู้อย่างที่เห็นนี่ล่ะ มองจากด้านข้างมันน่าจะเป็นตู้ไปรณีย์แน่ๆ แต่ว่ามันใช้ยังไงล่ะเนี่ย เลยเรียกพี่เล็กมาสาธิตการซื้อแสตมป์ เพราะน้องสุดที่รักของเราให้ส่งโปสการด์กลับเมืองไทย





จากร้านขายน้ำหอมออกมาแล้วเดินตรงไปก็จะเจอกับร้านขายขนม ต้องบอกว่าที่สิงคโปร์มีขนมหลากหลายชนิดมากๆ จากประเทศอื่นก็มีเช่นกัน เช่น ช็อกโกแลตนี่มีหลากหลายประเทศเลยล่ะ แต่ที่น่าสนใจก็คงจะเป็นขนมนี่ล่ะ เป็นขนมของที่นี่ จำชื่อไม่ได้ว่าเค้าเรียกว่าอะไร แต่ขอบอกว่าอร่อยนะ ราคาปอนด์ล่ะ 35 $s แหละ (แพงเอาเรื่องเชียวนะ)



จากนั้นก็ได้เวลา Check in แล้ว พวกเราก็ร่ำลาพี่เล็กสักพักก็เข้าไป Check in ขากลับนี่เร็วหน่อย ก็เลยได้เข้าไปเดินดู Duty free เร็วหน่อย แต่ก็นะมาทริปนี้ทริปประหยัดเลยไม่ได้ซื้ออะไรเลย Window shop อย่างเดียวเลย

สำหรับคนที่มาถึงสิงคโปร์จุดหนึ่งที่ต้องแวะก่อนเลย คือ Singapore Visitor Center (เห็นอยู่ด้านหลังพี่นุชนั้นล่ะ) ที่จุดนี้จะมีของแจกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นโบรชัวร์ต่างๆ สำหรับสิงคโปร์และบัตรชิมอาหาร ซึ่งช่วงที่ไปเค้าแจกคูปองชิมปูในเทศกาลอาหารล่ะ



มาถึงสิงคโปร์เมืองเทคโนโลยีอีกแห่งหนึ่งทั้งที่ ก็ต้องมาลองใช้ Free Access Internet กันเสียหน่อย มาติดตามผลคนเข้าชม Blog กันหน่อย เน็ตที่นี่เร็วใช้ได้เลยนะ จำได้ว่าพอมาถึงก็ได้รับ Account สำหรับ Login เข้า Wireless Internet ได้เลย ทันสมัยดีจัง



เช็ค Blog ได้สักพักก็เดินเล่นกันต่อ ก็ในเมื่อซื้อไม่ได้ก็ดูเอาล่ะกัน เดินไปถ่ายรูปกันไป ป้ายอะไรสวยๆ ก็เก็บหมดล่ะ





และแล้วก็ถึงเวลาอำลาสิงคโปร์แล้ว ก็ Chack in เข้า Gate รอเครื่องเข้า โชคดีจังที่เครื่องบินไม่ดีเลย์ แต่ที่ช้าก็เพราะรอลงเคลียเครื่อง น่าแปลกที่วันนี้คนในเครื่องที่เพิ่งลงมาเป็นเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์พร้อมผู้ติดตามเต็มเลย และที่แปลกกว่านั้นคือ ฝรั่งที่รออยู่ด้วยกันก็รู้จักพระองค์ท่านด้วยเช่นกัน







==============================================


หลังจากกลับมาเมืองไทยได้อาทิตย์หนึ่ง สิ่งที่ได้รับตามมาก็คือโปสการด์ที่ฝากพี่เล็กส่งจากสิงคโปร์ เพราะตั้งใจว่าหากไปเที่ยวประเทศไหนจะส่งโปสการด์ถึงตัวเอง





==============================================


ขอบคุณพี่เล็กที่น่ารัก เจ้าบ้านที่แสนดี พี่นุชพี่สาวที่ร่วมทริปเหยื่อที่เราพาเดินเที่ยวทั่วสิงคโปร์ พี่ชายที่น่ารักที่เป็นสปอนเซอร์ออกค่าตั๋วเครื่องบิน สำหรับประสบการณ์ที่ไม่ลืมเลือนในสิงคโปร์ ...


Create Date : 01 กันยายน 2550
Last Update : 20 พฤษภาคม 2554 15:57:03 น. 5 comments
Counter : 3317 Pageviews.  
 
 
 
 
แวะมาดูคนชอบเที่ยวเหมือนกันครับ

 
 

โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:14:50:03 น.  

 
 
 
haha~

i'm in s'pore now...... saw the chicken rice.. must go down to buy now la~
 
 

โดย: Mcdull วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:15:05:16 น.  

 
 
 
น้ำลายไหล อยากกินข้าวมันไก่ ไม่ไหวแล้ว
 
 

โดย: น้ำเงี้ยว วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:16:53:40 น.  

 
 
 
ตามมาเที่ยวด้วยคนจ้า
 
 

โดย: maxpal วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:19:51:49 น.  

 
 
 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีนะครับ มีประโยชน์มากจริงๆครับ จะเที่ยวแล้วเอารูปมารีวิวให้ดูละกันนะครับ
 
 

โดย: ushio_kub IP: 124.109.31.10 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:20:44 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com