BlogGang.com : : patthanid : Penang :: No.11 ช็อปปิ้งห้าง Plaza Gurney ปิดทริปปีนังค๊า

ในรีวิวบอกว่า
"เจอห้างใหญ่มีป้ายโตชิบาก็ลงเลย"

เอาเข้าจริงๆ มันหายากเหมือนกันนะ โดยเฉพาะมือใหม่หัดเที่ยว
ถ้านั่งทางขวาก็สามารถเห็นได้ชัดแหละ
แต่พอนั่งทางซ้ายนี่ดิจะไปเห็นห้างนี้ได้ไงฟ่ะ
เพราะห้างมันอยู่ทางขวาอ่ะ

ท้ายที่สุด
พวกเราก็หลงตามระเบียบ
มาเที่ยวเมืองนอกทั้งทีไม่หลงดิแปลกว่าม๊ะ
นู้นเลยไปหนึ่งป้ายซึ่งโชคดีที่พวกเราแบ่งกันนั่ง
ซ้ายสองคน ขวาสองคนถึงได้เห็นพิกัดห้าง

ไม่เป็นไรมาด้วยใจหลงนิดหลงหน่อย
ก็เป็นเรื่องปกติก็เดินกลับมาค่ะดีนะหลงไม่ไกล
ไม่งั้นมีหวังขาลากเหอะเมืองนี้รถเมล์ก็รอนานเกิ๊น
เดินยังจะเร็วกว่ารถเมล์อีกเหอะ

พอเดินมาถึงก็เจอเหมือนฟู้ดคอตเลยค่ะ หิวแล้วดิแวะก่อนแระกันนะ มาดูสิว่าอาหารเบสิคของที่นี่มีอะไรกันบ้าง

ร้านอาหารเยอะไปหมดแต่ส่วนใหญ่จะซ้ำๆ กันคนที่นี่ชอบกินของทอดๆ แฮะเห็นมีอยู่หลายเจ้าเลย
ส่วนร้านอาหารทะเลเค้าก็ไม่กินปลาหมึกสดแฮะ ดันกินปลาหมึกกรอบ หอยสังข์ไรงี้
เสียดาย จขบ.ไม่ได้ลองชิม เพราะสมาชิกไม่ค่อยชอบลองของแปลกเท่าไหร่
แล้วเราจะกินอะไรอ่ะ มาดูกัน

เออเห็นแล้วเพลียหัวใจผัดไทยหอยทอด คุณเพื่อนบอกว่าต้องมาลองเค้าบอกว่าร้านอร่อย
เอ่อ .. ไม่ไหวนะชีวิต จขบ.เนี่ยเจอสองอย่างนี้มาตลอดชีวิตเลยนะ
เพราะที่บ้านขายผัดไทยหอยทอด .. ไม่ไหวแระต่อให้อร่อยแค่ไหนก็ไม่ไหวนะ
จขบ.เลยไปจัดลักซามาดีกว่า อิอิ

ต่อด้วยขนมหวานเห็นกินกันเกือบทุกโต๊ะเลยเหอะซะหน่อยเดี๋ยวหาว่ามาไม่ถึง

ขนมหวานที่นี่ที่สุดมากเยอะไปไหนใส่ทุกสิ่งดีนะมาไม่กี่วัน กินงี้ทุกวันมีหวังอ้วนตายแน่
พอท้องอิ่มก็ได้เวลาเดินย่อยช็อปปิ้งกันแล้ว
เอ่อ..แล้วไหนห้างที่ว่าล่ะเนี่ยมองซ้ายมองขวาห้างอยู่ไหนฟ่ะ
ดูเหมือนเมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวแบบอารมณ์หัวหินอ่ะอยู่ติดทะเลด้วย คนเยอะมาก

พวกเราก็เลยถามว่าห้าง Gurney Drive เนี่ยมันอยู่ตรงไหน คนในพื้นที่ก็ชี้ไปที่ตึกข้างๆ ตลาดเนี่ยแหละห้างที่หา
เอาซะงงไปเลยไม่เห็นจะชื่อเดียวกันกับที่บอกมาเลยฟ่ะ ..ห้างนี้ชื่อว่า Plaza Gurney
แต่เวย์นี้ชื่ออะไรก็ช่างมันเหอะอยากเข้าไปช็อปแล้วอ่ะ

ที่ห้างนี้ก็มีหลากหลายแบรนด์เลย ..แต่ปัญหาคือแบรนด์ที่เราจะมาซื้อเนี่ยมันอยู่ไหนฟ่ะ เดินจะทั่วห้างแระก็ยังไม่เห็น Vincci เลยอ่ะ เพราะเค้าบอกว่าแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ในมาเลย์ บ้านเราเป็นพันที่นี่หลักร้อยอ่ะ พวกเราก็เดินดูทุกชั้นเลยมันอยู่ไหนวะ สุดท้ายก็ถอดใจไปซื้อ etude แทนลดเยอะด้วยถูกมาก แล้วก็เลยถามหาแบรนด์ Vincci กับพนักงาน เอ้ย .. พนักงานงงเหอะอารมณ์เหมือนไม่เคยรู้จักแบรนด์นี้เลย เอ้ยไรฟ่ะมันแบรนด์เนมนี่หว่า ทำเอาพวกเรางงกันไปเลย

จนมีพนักงานอีกคนเดินเข้ามาใหม่ พวกเราก็เขียนให้เค้าดูเข้าก็เลยบอกว่ามันอยู่ในช็อปของ PADINI Concept Store เอ่อแล้วตรูจะรู้ไหมเนี่ย ก็เลยไปเดินหาปรากฏว่าเจอค๊า Vincci บานทุ่งลดราคา 80% ถูกเว่อร์ แว่นตาอันสองร้อยกว่าบาท รองเท้าคู่ละสองร้อย กระเป๋าห้าร้อยไรงี้ โอ้วแม่เจ้า .. สวรรค์ของภัทรานิตย์เสียเงิน 2000 บาทไทยได้มาห้าอย่างแนะ จัดมาไหนๆ มาแล้วเหอะ

แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นในบ้านเมืองนี้คือ แบรนด์เนมต้องซื้อถุงใส่นะคะ จึงไม่แปลกเลยที่เห็นคนเมืองนี้ถือถุงผ้ากันค่ะ แม้แต่ขวดน้ำเค้าก็มีขวดน้ำมาจากบ้านไม่ซื้อน้ำทานกันเหอะ ดีนะ จขบ.ว่าเพราะมันการเป็นการรณรงค์ลดโลกร้อนอย่างจริงจังฝึกให้คนมีวินัยดีค่ะ แต่พวกเราซื้อถุงค๊าใบละ 20 บาทเลยนะนั่นเพราะไม่ไหวซื้อกันขนาดนี้ถุงผ้าก็ไม่มีด้วยอ่ะ เอาล่ะช็อปกันเสร็จก็ได้เวลากลับกันค๊า

ขากลับเนี่ยพวกเรารอรถนานมาก ครั้นจะไปแท็กซี่ก็ไม่ไหวนะไกลเกิ๊นระยะทางเนี่ยเป็นชั่วโมงเลยเหอะ ก็เลยตัดสินใจ
รอรถเมล์ดีกว่าเพราะไหนๆ ก็ไม่ได้ไปไหนแล้วอ่ะวันนี้

---------------------------------------

เช้าวันสุดท้ายของการเดินทาง

พวกเราตื่นแต่เช้าก็เดินเล่นในเขตเมืองเก่าอีกสักหน่อย .. เข้าใจเลยว่าเวลาแห่งความสุขเนี่ยผ่านไปเร็วจัง
ดังนั้นเวลาที่มีชีวิตอยู่อยากทำอะไรก็จัดไปนะคะ เพราะเวลาเดี๋ยวนี้เดินเร็วซะเหลือเกิน

วันนี้ตั้งใจมาทานอาหารมาเลย์ซะหน่อยตามโบรชัวร์เค้าบอกว่าร้าน "Kapitan" เนี่ยเป็นร้านแนะนำเลย
พวกเราก็เดินมาทานอาหารที่นี่กันปรากฏว่าไอ้ที่อยากทานอ่ะยังไม่ขายเพราะมาเช้าไป
แล้วกินอะไรดีล่ะ .. ต้องจิ้มแล้วเวย์นี้

นี่ก็เป็นเซตอาหารเช้าที่เค้ามี .. รสชาติไม่อยากจะบอกว่าแปลกไปไหมอ่ะ
รู้งี้ตรูกินติ่มซำอีกรอบดีกว่า เฮ้อ !!
ดีนะที่ไม่แพงประมาณร้อยกว่าบาท ไม่งั้นเสียดายแย่เลยเหอะ หมดกันนาสิกลามัค
กลับไปจัดแมคโดนัลด์ดีกว่าเรา

พวกเราย้อนกลับไปเดินห้างใน Komtar อีกรอบขอบอกว่ามี Vincci ลดราคาด้วยเหอะ
แต่ที่นี่กลับมาเป็นราคาลดแค่ 20% แล้วอ่ะ ดีนะที่ช็อปกันไปเมื่อวาน เพราะเมื่อวานเป็นวันสุดท้ายที่ Sale ค๊า
เมื่อช็อปกันจนกระเป๋าเบาแล้วก็ได้เวลากลับที่พักเก็บกระเป๋ากลับบ้านค๊า
ขากลับพวกเรานั่งรถเมล์สาย 401 กลับได้เห็นสะพานปีนังด้วย

ทำให้รู้ว่ารถเมล์สาย 401E จะใช้เส้นเมือง แต่ 401 จะใช้เส้นเลี่ยงเมืองเพื่อไปสนามบิน โดยเส้นนี้จะเลียบริมทะเลค่ะ เลยทำให้ได้เห็นสะพานปีนังและผ่านห้างใหญ่ๆ ห้างหนึ่งอยู่ติดทะเล ห้างใหญ่มากทำเอาเสียดายเลย ห้างนี้น่าจะมีของเยอะกว่า Plaza Gurney แหละ เพราะใหญ่มาก ดังนั้นหากใครมีเวลาขากลับก่อนไปสนามบินก็แวะช็อปห้างนี้ได้ค๊า เอาล่ะพวกเราก็นั่งรถมาถึงสนามบิน จัดการเช็คอินแลกเงินเรียบร้อยก็จัดการกินค๊า มื้อสุดท้ายในปีนัง

ไม่อยากบอกว่าเพิ่งได้เจอข้าวก็วันนี้แหละ ค่อยแลดูกลมกลืนกะเมืองไทยหน่อยจัดไปเต็มๆ เลยเหอะ พอทานกันเสร็จก็เลือกซื้อของฝากตอนแรกกะซื้อข้างนอก พอไปถามพนักงานสายการบินบอกว่าข้างในมี Duty Free แหมไอ้เราก็คิดว่าจะอลังการ ที่ไหนได้มีไม่กี่อย่างเองพลาดแระ ดังนั้นใครจะซื้อของฝากซื้อมาจากข้างนอกดีกว่าค่ะ บายๆ ค๊าปีนัง

เมืองปีนัง

ความรู้สึกของ จขบ.นะคะ
การเดินทางสะดวกไม่ยุ่งยากมากนัก
มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจทางวัฒนธรรม
ค่อนข้างเยอะที่นี่มีวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง

เมืองเก่าเดินเพลินดีค่ะ
แต่แนะนำให้มาหน้าหนาวดีกว่าค่ะ
หน้าร้อนร้อนเกิ๊น ร้อนกว่าเมืองไทยอีกอ่ะ

อาหารที่นี่มีความหลากหลายดี
เรียกว่ามีหลายเชื้อชาติผสมผสานกัน

ผู้คนที่นี่ก็ใจดีนะคะอัธยาศัยดี
พอรู้ว่าเป็นคนไทยเค้าพยายามคุยกับเรานะ
เพราะเค้ารู้จักเมืองไทยหาดใหญ่เนี่ยเป็นเมือง
ที่เค้านิยมมาท่องเที่ยวเลยล่ะ

ดังนั้นใครมีคะแนนบิ๊กเหลือ
ไม่รู้จะไปไปไหนลองมาเมืองปีนังดูค่ะ
ค่าใช้จ่ายไม่แพงด้วย

แล้วพบกันใหม่ในทริปต่อไปของ จขบ.นะคะ
ก็อำลามหากาพย์ความสนุกบุกปีนังไปเพียงเท่านี้ค๊า

Photo and Story By
Patthanid C.
www.patthanid.bloggang.com