หลังจากที่โดนฟันหัวแบะมาจากตอนที่แล้ว ทำธูปหอมและหมวกเวียตนาม  ก็ได้เวลาท่องเที่ยวกันซะที จุดหมายต่อไปของพวกเรานั่นคือ สุสานจักรพรรดิ์ Tu Duc ไม่กล้าสะกดเป็นภาษาไทยกลัวผิดอ่ะ ฟังชื่อก็ดูน่ากลัวเนอะ แต่ขอบอกว่าที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิตของเมืองเว้ ทัวร์ทุกทัวร์ยังไงก็ต้องแวะเหอะ ค่าเข้าชมก็คนละ 55,000 ด่อง เอาล่ะตั๋วพร้อมคนพร้อมลุยกันเลยค่ะ ว่าแต่ร้อนวะไมไม่เอาหมวก 60,000 ด่องติดมาด้วยล่ะเนี่ย ดันฝากไกด์ไว้ข้างนอกซะงั้นอ่ะ

ก่อนอื่นต้องผ่านการตรวจตั๋วเสียก่อน Ticket Checking โต๊ะเก๋ไหมล่ะ พอผ่านเข้าไปได้โอ้...ร่มรื่นจังอ่ะ ตามประวัติเล่ากันว่า "ที่นี่ในอดีตพระเจ้า Tu Duc เป็นคนออกแบบเองทั้งหมด ใช้เวลาการก่อสร้าง 3 ปี ด้วยแรงงานคนกว่า 3,000 คน เก่งเชียวอ่ะ พระเจ้า Tu Duc นั้นทรงเป็นพระโอรสของพระเจ้าเถี่ยวตรีจักรพรรดิ์องค์ที่ 4 ราชวงศ์เหวียนที่ทรงครองราชย์นานถึง 36 ปี" จุดเด่นของที่นี่คือ ตำหนักไม้เก่าแก่ตั้งอยู๋ริมทะเลสาบบลูเคียมและภายในตำหนักหรือสุสาน ณ ปัจจุบัน

อาคารไม้เก่าแก่ที่เห็นอยู่นั้น เดิมที่เป็นสถานที่ที่พระเจ้า Tu Duc ใช้เวลาว่างในตำหนักแห่งนี้ เพื่อนิพนธ์กวีและพักผ่อนหย่อนใจด้วยการตกปลาบริเวณทะเลสาบบลูเคียมแห่งนี้ ว่ากันว่าที่นี่จะรายล้อมไปด้วยดอกบัวที่บานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมไปทั้งบริเวณ เอ๊ะ.. ไหนฟ่ะดอกบัวบานสะพรั่ง ลอยอยู่ยิบย่อยแค่เนี๊ยะ สงสัยพวกเราจะมาผิดฤดูแล้วล่ะ พลาดแระ เอาล่ะไปดูตำหนักแห่งนี้กันใกล้ๆ ดีกว่าคะ  

ตำหนักหลังนี้อายุเกือบจะสองร้อยปีแล้วมั้งเนี่ย โครงสร้างดูแข็งแรงทนทานมากอ่ะ ด้านงานฝีมือบอกได้คำเดียวว่าปราณีตมาก ขนาดคานยังแกะสลักเลยเหอะ ซึ่งการแกะสลักไม้ก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นงานละเอียดอ่อนมาก ต้องใช้ฝีมือจริงๆ อ่ะ และจากมุมนี้ก็จะมองเห็นตำหนักด้านบนได้ด้วย มุมยอดฮิตเลยเหอะ

พวกเราเดินไปเดินมาอยู่พักหนึ่งก็ออกมาแล้วไปต่อกันที่ตำหนักด้านบน ไม้ทั้งหลังเหมือนกันเลยเหอะ ดามกันหลายจุดน่าจะกลัวทรุดล่ะ แหม.. ทรุดมาเนี่ยเสียดายเลยเหอะเก่าแก่ขนาดนี้อ่ะ ตอนแรกที่ จขบ. เห็นซุ้มประตูก็ดูเหมือนจะไม่ใหญ่นะ พอเดินเข้าไปโอ้ว.. จัดว่าใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย ผังตำหนักเป็นอาคารมีทางเชื่อมเป็นสี่เหลี่ยม โดยโซนด้านหน้าเค้ามิให้ถ่ายรูปค่ะ เสียใจด้วยนะจ๊ะต้องมาดูกันเองค่ะ

ถัดไปจากโซนห้ามถ่ายรูปก็จะเห็นเป็นอาคารปีกซ้ายและปีกขวา มีทางเชื่อมเดินถึงกันได้ พวกเราก็เดินตัดเลยไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เค้ามีทางเชื่อมให้เดินร่มๆ ไม่เดินเออเว้ย มาเดินให้มันร้อนเล่นๆ ซะงั้น หากเดินตรงไปก็จะพบกับอาคารด้านหลัง มีของเก่าแก่จัดแสดงอยู่ ดูจากสภาพแล้วเก่าจริงๆ อ่ะ

ตรงนี้เค้าจะอนุญาตให้ถ่ายรูปได้ ที่เห็นเด่นชัดก็จะเป็นงานฝีมือการแกะสลักไม้บนข้าวของเครื่องใช้นี่แหละ พอเดินโซนนี้ได้สักพักพวกเราก็เดินไปทางโซนขวา เป็นโซนที่เค้าจัดฉากจำลองเก้าอี้นั่งองค์จักรพรรดิ์ จัดไว้เสมือนจริงมาก สำหรับนักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูปเป็นจักรพรรดิ์ เสียดายที่คิวรอนานมากอ่ะ เดี๋ยวจะเลยหนึ่งชั่วโมงที่บอกไว้กับไกด์ ก็เลยต้องตัดใจไม่ได้เป็นจักรพรรดิ์เลยอ่ะ

ขอบอกว่ามีชุดให้เลือกเพียบเลยเหอะ พร็อปก็เพียบ หมวก เครื่องประดับจัดเต็มเลยเหอะ ด้วนสนนราคาค่าบริการ 45,000 ด่อง ไม่ถึงร้อยบาทบ้านเราเลยอ่ะ เสียดายชะมัดที่อดถ่าย เอาล่ะเดินไปทางโซนซ้ายกันมั้งดีกว่า ตรงนี้เค้าปิดไม่ให้เดินเข้าไปแหละเลยต้องเดินผ่าน ออกมาด้านข้างโผล่ออกไปดู ป้าด.. ไม่แคบนะที่นี่มีบริเวณอีกหลายไร่เลยนะเนี่ย น้องๆ อยุธยาเมืองเก่าของเราเลย สภาพก็ไม่ค่อยต่างกัน

จขบ. เข้าใจแระทำไมนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะจัง ส่วนใหญ่ฝรั่งชอบเที่ยวสไตล์นี้อ่ะ มาดูความงดงามในอดีต ไม่เหมือนบ้านเราเนอะชอบความงดงามแบบสมัยใหม่ อะไรที่ปรุงแต่งบ้านเรานะฮิตหมดแหละ ว่าไม่ได้สไตล์ใครสไตล์มันเนอะ เอาล่ะได้เวลาไปที่อื่นบ้างแระ นี่ก็ชั่วโมงกว่าแล้วนะเนี่ย เรื่อยๆ จริงเลยพวกเราเนี่ย ป่านนี้ไกด์รอหลับไปแล้วมั้ง .. ด้านหน้าสุสานก็มีของให้ช็อปปิ้งเพียบ อย่าลืมต่อราคากันล่ะ แล้วมาตามต่อตอนต่อไปนะคะ

Create Date : 11 พฤษภาคม 2555
Last Update : 11 พฤษภาคม 2555 9:14:00 น.		3 comments
Counter : 2129 Pageviews.
Share Tweet