Group Blog
 
All Blogs
 
อยากเปิดร้าน แต่กู้ไม่ผ่าน ทำไงดี


สวัสดีค่ะ

ช่วงนี้ หันไปทางไหนก็เจอแต่คนอยากมีกิจการหรือร้านเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเปิดร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือร้านเสื้อผ้า แต่ปัญหาใหญ่ที่เจ้าของกิจการมือใหม่มักเจอคือ ปัญหาเรื่องเงินทุน เพราะพอจะไปขอกู้กับแบงก์ ก็มักจะเจอเงื่อนไขที่ต้องมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาซักระยะหนึ่งก่อน จึงจะมีโอกาสขอสินเชื่อกับแบงก์ได้ แล้วแบบนี้จะเริ่มธุรกิจได้ยังไงบ้าง วันนี้ K-Expert มีคำแนะนำมาฝากกันค่ะ

เริ่มต้นจากกิจการเล็กๆ

เมื่อมีไอเดียว่า จะเปิดร้านหรือทำกิจการ เช่น อยากเปิดร้านกาแฟเป็นของตัวเอง ในช่วงเริ่มต้นแบบนี้ อยากให้เริ่มจากการทำกิจการเล็กๆ ก่อนค่ะ เพราะจะได้ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากนัก สามารถใช้เงินออมที่มีอยู่เริ่มต้นทำกิจการได้ ข้อดีอีกอย่างของการเริ่มจากกิจการเล็กๆ คือ ช่วยลดความเสี่ยง เพราะช่วงตั้งไข่แบบนี้ เรายังต้องลองผิดลองถูก อาจบริหารพลาดพลั้งถึงขั้นต้องปิดกิจการได้ การเริ่มจากกิจการใหญ่ๆ ที่มาจากการกู้ยืมเงิน หากกิจการต้องปิดตัวไป สิ่งที่เหลือไว้คือ ภาระหนี้ที่สูง แต่ถ้าเราเริ่มจากเล็กๆ ด้วยเงินของเราเอง เมื่อต้องปิดกิจการ เราก็สูญไปแค่เงินเก็บ ไม่ได้มีภาระหนี้ตามไล่หลังมาค่ะ

เก็บออมเงินด้วยตัวเอง

แม้ว่าจะเริ่มต้นจากกิจการเล็กๆ แล้ว แต่เงินเก็บที่มีก็ยังไม่พอ แบบนี้คงต้องเก็บออมเงินเพิ่มแล้วล่ะค่ะ เบื้องต้นก็ต้องคำนวณก่อนว่า จะต้องใช้เงินเท่าไร และคิดคร่าวๆ ว่า แต่ละเดือนเราเก็บออมได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าคิดดูแล้ว เราสามารถออมเงินในแต่ละเดือนได้น้อย จนทำให้เริ่มทำธุรกิจในฝันได้ยาก ก็ต้องพยายามกัดฟันปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง และหารายได้เสริมเพิ่มเติมเข้ามา โดยอาจทำงานโอทีหรือทำอาชีพเสริมที่เราชอบหลังเลิกงานก็ได้ค่ะ ส่วนตัวช่วยในการเก็บออมเงินนั้น แนะนำให้นำไปลงทุนในกองทุนตลาดเงิน เพราะความเสี่ยงไม่สูงมาก แถมมีโอกาสได้ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากทั่วไป และที่สำคัญถ้าเราต้องการใช้เงินก้อนนี้ ก็สามารถขายกองทุน และได้เงินในวันทำการถัดไปเลยค่ะ

หลีกเลี่ยงการกดเงินจากบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต

คนที่อยากมีกิจการเป็นของตัวเอง แต่ติดปัญหาเรื่องเงินทุน มักหันหน้าไปหาบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต เพราะเป็นวิธีที่จะได้เงินสดออกมาได้ง่ายและสะดวกที่สุด โดยคาดหวังว่า กิจการจะไปได้ดี และมีเงินมาชำระหนี้บัตรได้ สิ่งที่คนกลุ่มนี้อาจจะลืมนึกไปคือ ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่เกิดจากการกดเงินของบัตรทั้งสองประเภท โดยบัตรเครดิตคิดอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 20% ต่อปี และมีค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดอีก 3% ของยอดเงินที่กด ส่วนบัตรกดเงินสดคิดอัตราดอกเบี้ยได้สูงสุด 28% ต่อปี ถ้าคิดจะกดเงินจากบัตรทั้งสองประเภทนี้ ก็ต้องทำกำไรให้ได้มากกว่าดอกเบี้ยที่จ่ายจึงจะคุ้ม สำหรับกิจการที่เพิ่งเริ่มแบบนี้ โอกาสที่จะได้กำไรสูงๆ นั้นค่อนข้างน้อย ดังนั้น จึงอยากให้หลีกเลี่ยงการกดเงินจากทั้งสองบัตรนี้มาเริ่มทำธุรกิจค่ะ

เมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจไปแล้ว ก็อย่าลืมเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอนะคะ เพราะเราสามารถใช้บัญชีเงินฝากมาเป็นหลักฐานว่า ธุรกิจเรามีรายได้มากน้อยแค่ไหน โดยใช้ประกอบการขอสินเชื่อกับแบงก์ได้ในอนาคตเมื่อเราต้องการขยายกิจการค่ะ ขอให้เถ้าแก่มือใหม่ทุกท่านโชคดีในการทำธุรกิจนะคะ

------------------------------------------------------

Recommended! ตัวช่วยที่เกี่ยวข้องกับบล็อกวันนี้
>>> K-Expert Tool: โปรแกรมรับ-จ่าย สำหรับบันทึกเงินออมและลงทุนอย่างง่าย <<< โหลดฟรี




Create Date : 29 มีนาคม 2559
Last Update : 29 มีนาคม 2559 11:33:01 น. 0 comments
Counter : 853 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

K-Expert
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




ข้อมูลดี ฟรี มีประโยชน์ เพื่อชีวิตดีๆ ที่มีได้ทุกคน
Friends' blogs
[Add K-Expert's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.