Group Blog
 
All Blogs
 
5 Steps ติวเข้มก่อนเป็นนักลงทุน



สวัสดีค่ะ

เมื่อพูดถึงความมั่งคั่ง คนส่วนใหญ่จะนึกถึงการลงทุน หรือกล่าวได้ว่า ถ้าอยากรวยต้องรู้จักลงทุน แต่เชื่อว่าน้อยคนนักที่รู้ว่าต้องลงทุนอย่างไร ซึ่งการลงทุนที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จได้นั้น ไม่ได้อยู่ที่ต้องมีเงินลงทุนมากๆ หรือลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงๆ แต่อยู่ที่การวางแผนการลงทุน โดยสิ่งที่เราควรทำหรือวางแผนก่อนลงทุนมีอะไรบ้าง K-Expert มีคำแนะนำค่ะ 

Step 1: กำหนดเป้าหมายการลงทุน

   ก่อนเริ่มต้นลงทุน ควรถามตัวเองให้ชัดเจนก่อนว่า "เป้าหมายการลงทุนคืออะไร" หรือพูดง่ายๆ ว่า "ออมเงินไปเพื่ออะไร" และไม่ควรตอบเพียงว่า เพื่อความร่ำรวย เพื่อเรียนรู้ เพื่อให้เงินทำงาน หรืออยากมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง เพราะคำตอบเหล่านี้เป็นเป้าหมายที่กว้างเกินไป จับต้องยาก ซึ่งอาจส่งผลให้ไม่บรรลุเป้าหมายการลงทุนได้ โดยเป้าหมายที่ดีต้องชัดเจน เป็นไปได้ และมีกำหนดระยะเวลาแน่นอน เช่น ตั้งเป้าหมายว่ามีเงินเก็บ 1 ล้านบาท ภายใน 10 ปี อย่างไรก็ตาม เป้าหมายนี้จะเป็นไปได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรายได้หรือความสามารถในการเก็บเงินของแต่ละคน ซึ่งหากประเมินแล้วเป้าหมายนี้ไม่สามารถเป็นไปได้ หรือทำได้ยาก จะได้ปรับเปลี่ยนเป้าหมาย

   การกำหนดเป้าหมายมีความสำคัญ เพราะเมื่อรู้เป้าหมายว่าลงทุนเพื่ออะไรแล้ว จะสามารถประเมินได้ว่า ต้องลงทุนนานแค่ไหน ลงทุนต่อเดือนเท่าไร และลงทุนอย่างไรเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น นอกจากนี้ หากมีหลายเป้าหมาย สิ่งสำคัญที่ควรทำ คือ จัดลำดับความสำคัญของเป้าหมายตามความจำเป็นในชีวิต

Step 2: ลงทุนด้วยเงินเหลือหรือเงินเย็น

   เงินที่นำมาลงทุนควรเป็น “เงินเหลือ” หรือ “เงินเย็น” คือ เป็นเงินที่เหลือจากการกันเงินส่วนหนึ่งสำหรับใช้จ่ายในยามฉุกเฉินแล้ว โดยเงินที่เก็บไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉินควรมีประมาณ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน เช่น มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน 10,000 บาท ควรกันเงินส่วนนี้ไว้ประมาณ 60,000 บาท สามารถเก็บในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง อย่างเงินฝาก หรือกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น แล้วจึงนำเงินส่วนที่เหลือมาลงทุน ดังนั้น ก่อนลงทุน อย่าลืมกันเงินสำรองเอาไว้ให้เพียงพอใช้จ่ายยามฉุกเฉินนะคะ

   นอกจากนี้ เงินที่นำมาลงทุนไม่ควรเป็นเงินที่มีภาระผูกพัน เช่น เงินกู้ยืมที่มีดอกเบี้ยจ่าย และมีกำหนดชำระคืน เนื่องจากผู้ลงทุนจะได้รับกำไรจากการลงทุนเมื่อสามารถสร้างผลตอบแทนจากสินทรัพย์ลงทุนได้สูงกว่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย หากผลตอบแทนที่ได้รับต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายไป ก็คือ การขาดทุน รวมถึงการนำเงินกู้ไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น แม้ว่ามีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง แต่มีโอกาสขาดทุนสูงเช่นกัน และหากถึงครบกำหนดชำระเงิน แต่เป็นภาวะตลาดหุ้นขาลง อาจต้องขายหุ้นในราคาที่ขาดทุนเพื่อนำเงินมาชำระคืนหนี้ค่ะ

Step 3: ทำความรู้จักตัวเอง

   ในโลกการลงทุนมีสินทรัพย์ให้ลงทุนหลายประเภท แต่ละประเภทมีอัตราผลตอบแทน (return) และความเสี่ยง (risk) ที่แตกต่างกัน ซึ่งความเสี่ยงจากการลงทุน คือ ความผันผวนหรือความไม่แน่นอนของผลตอบแทน การตัดสินใจว่าจะลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดนั้น จำเป็นต้องทำความรู้จักหรือสำรวจตัวเองเสียก่อน เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในการลงทุน คือ ตัวนักลงทุนเอง ซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะนำเงินไปลงทุนอย่างไรเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

   การทำความรู้จักตัวเองเพื่อเลือกสินทรัพย์ลงทุนควรพิจารณาถึงความสามารถในการรับความเสี่ยง (ability to take risk) เช่น อายุ รายได้ ระยะเวลาการลงทุน ควบคู่ไปกับความเต็มใจในการรับความเสี่ยง (willingness to take risk) เช่น ทัศนคติ ความชอบหรือความสนใจในสินทรัพย์ลงทุนแต่ละประเภท โดยความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงจะบอกว่าสามารถลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดได้บ้าง ขณะที่ความเต็มใจในการรับความเสี่ยงจะบอกว่าเราเหมาะกับสินทรัพย์ประเภทนั้นๆ หรือไม่ เช่น คนวัยหนุ่มสาวเป็นวัยที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูง สามารถลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อย่างหุ้น กองทุนรวมหุ้น อย่างไรก็ตาม หากไม่อยากขาดทุนจากการลงทุนมากนัก ก็จะเหมาะกับการเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำมากกว่า อย่างพันธบัตร หุ้นกู้ กองทุนรวมตราสารหนี้ ดังนั้น ทำความรู้จักตัวเองก่อนลงทุนสักหน่อย ยอมรับและเต็มใจรับความเสี่ยงหรือการขาดทุนได้แค่ไหน จะได้เลือกสินทรัพย์ลงทุนได้เหมาะสมนั่นเองค่ะ

Step 4: ศึกษาสินทรัพย์ที่จะลงทุน

   เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองสนใจในสินทรัพย์ลงทุนประเภทใด ควรถามตัวเองก่อนลงทุนว่ามีความเข้าใจในสินทรัพย์นั้นมากน้อยเพียงใด ทั้งผลตอบแทน ความเสี่ยง วิธีการซื้อขาย หากยังไม่รู้หรือไม่แน่ใจ ควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์ลงทุนประเภทนั้นๆ ให้ดีเสียก่อน เช่น สนใจลงทุนในกองทุนรวม ก็ควรอ่านหนังสือชี้ชวนเพื่อศึกษาว่ามีนโยบายการลงทุนอย่างไร ลงทุนในสินทรัพย์อะไรบ้าง มีนโยบายจ่ายเงินปันผลหรือไม่ มีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด ตรงกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้หรือไม่

   การศึกษาทำความเข้าใจในสินทรัพย์ที่ลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะแม้ว่าตัวเราจะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง แต่หากลงทุนด้วยความรู้ความเข้าใจในสินทรัพย์มากเท่าใด ยิ่งมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้นเท่านั้น

Step 5: มุ่งมั่นกับการลงทุนให้สำเร็จ

   สิ่งสำคัญที่ผู้ลงทุนควรมีติดตัว คือ ความมุ่งมั่นตั้งใจ การที่คนเราจะประสบความสำเร็จในเรื่องใดๆ ก็ตาม ตัวเราเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด แม้ว่าแผนการลงทุนที่วางแผนไว้จะดีเพียงใด แต่หากขาดความตั้งใจ ขาดวินัย และขาดความอดทนในการออมการลงทุนแล้ว การไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้คงเป็นไปได้ยากค่ะ เพราะฉะนั้น เมื่อตั้งเป้าหมายการเงินให้ตัวเองได้แล้ว รีบลงมือทำตามแผน อย่าผัดวันประกันพรุ่ง จนไปไม่ถึงเป้าหมายนะคะ

   นอกจากนี้ เมื่อเริ่มลงทุนแล้ว ควรมีการประเมินผลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุก 6 เดือน หรือ 12 เดือน หรือมีเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของแผนการลงทุน เช่น ภาวะตลาดหุ้นผันผวน หรือการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย เพื่อปรับปรุงแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน ดังนั้น เมื่อรู้แล้วว่าการเป็นนักลงทุนต้องทำอย่างไรบ้าง อย่าลืมทำตามคำแนะนำอย่างต่อเนื่องเพื่อความมั่งคั่งในชีวิตค่ะ


เขียนโดย... K-Expert กิฟท์




Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2560
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2560 15:23:03 น. 0 comments
Counter : 971 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

K-Expert
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




ข้อมูลดี ฟรี มีประโยชน์ เพื่อชีวิตดีๆ ที่มีได้ทุกคน
Friends' blogs
[Add K-Expert's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.