บทที่ 11
ปุณฑริกกำลังตากผ้าอยู่นอกบ้านลิ้นจี่กลับไปได้สักพักแล้ว หางตาหล่อนเห็นใครบางคนกำลังเดินมา เมื่อหันไปมอง ก็ตกใจระคนแปลกใจเมื่อคนตัวโตเดินมาในชุดกางเกงขาสั้นเหนือเข่าตัวเดียวในมือถือเสื้อยืดสีขาวเปียกชุ่มกับหมวกแก๊ปทั้งเนื้อทั้งตัวเปียกโชกราวกับไปเล่นน้ำทะเลมา และที่สำคัญเขาเดินขากะเผลกมาข้างหนึ่ง เมื่อเดินเข้ามาใกล้จนเห็นหยดน้ำแพรวพราวเกาะทั่วแผงอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามตึงแน่น หล่อนจึงเลี่ยงไปมองหน้าเขาแทน เพราะรู้สึกขัดเขินเมื่อเห็นแผงอกเปล่าเปลือยนั่น ขาคุณไปโดนอะไรมาคะ ไปเล่นสกีน้ำมา เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย เขาตอบเสียงห้วนๆ ปกติเขาเป็นคนระมัดระวังเรื่องอุบัติเหตุมาก แต่คราวนี้เกิดพลาดเสียหลักขณะเล่นสกีน้ำจนข้อเท้าแพลง อารมณ์เลยไม่ดี หญิงสาวเห็นสีหน้าเขารู้ว่ากำลังหงุดหงิด เลยไม่กล้าถามต่อ ส่วนเขาก็ไม่พูดไม่จา เดินขากะเผลกเข้าบ้านไป เมื่อตากผ้าเสร็จ เดินเข้าไปในบ้านไม่เห็นเจ้าของบ้าน เดาว่าคงขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ชั้นบน...เขากินอะไรมาหรือยังนะ...เมื่อสักครู่อยากถามแต่เห็นหน้าหงิกๆ แบบนั้นเลยไม่กล้า สักพักใหญ่ๆ มรุตก็เดินขากะเผลกลงมา หน้าบูดบึ้งขณะนั่งบนโซฟาในห้องรับแขกเปิดคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่วางอยู่บนโต๊ะ อีกมือกดโทรศัพท์มือถือหาใครสักคน พิชัย ผมเห็นข้อความที่คุณฝากไว้แล้วพรุ่งนี้ผมจะเข้าไปจัดการให้ บอกคุณพิภพไม่ต้องกังวล แค่นี้นะ ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเป็นงานเป็นการ สั่งการอย่างรวบรัดวางสายอย่างรวดเร็ว หญิงสาวกำลังเลื่อนโต๊ะตัวเขื่องกลับเข้าที่ด้วยท่าทางทะมัดทะแมงหลังจากเลื่อนออกมาเพื่อทำความสะอาดด้านใน เมื่อเห็นเขาขมวดคิ้วมองมาก็รีบยิ้มให้ทันที เธอทำอะไรของเธอ มรุตถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นสาวน้อยร่างบางเข็นโต๊ะตัวเขื่องที่น่าจะหนักเอาการ จนผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่น่าจะเลื่อนได้ แต่เจ้าหล่อนก็ดูตั้งอกตั้งใจเลื่อนออกแรงสุดชีวิต จนเห็นหยดเหงื่อเม็ดเล็กๆ เกาะบริเวณไรผมตรงขมับ ด้านหลังโต๊ะนี่ฝุ่นเขรอะก็เลยลากออกมาทำความสะอาดด้านในค่ะ นี่ทำเสร็จแล้ว ก็เลยจะเลื่อนกลับเข้าที่เดิม พูดเสร็จคนตัวเล็ก ก็ออกแรงอีกเฮือก จนโต๊ะเลื่อนเข้าไปชิดกำแพงตามเดิม คราวหลังไม่ต้องเลื่อนโต๊ะตัวใหญ่แบบนี้อีกผู้หญิงตัวเล็กๆ แค่นี้จะเลื่อนโต๊ะตัวใหญ่แบบนี้ได้ยังไง ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันทำไหว หล่อนตอบอย่างมุ่งมั่นและยิ้มให้อย่างจริงใจ อีกฝ่ายมองมาโดยไม่พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่งแววตาคมกล้ายากจะคาดเดาความรู้สึกอีกครั้ง คุณทานอะไรมาหรือยังมีก๋วยเตี๋ยวผัด จะทานมั้ยคะ อือ แล้ว...ขา ดีขึ้นหรือยังคะ คนถามๆ ไม่เต็มเสียงเพราะกลัวคนเจ็บขาจะอารมณ์เสียขึ้นมาอีก เขาเห็นความห่วงใยบนใบหน้าอีกฝ่ายจึงตอบว่าดีขึ้นนิดหน่อย ข้อเท้าแพลงหรือคะ พอเห็นเขาอารมณ์ดีขึ้น ปุณฑริกเลยกล้าถามต่อ อือเขาตอบพลางก้มมองข้อเท้าที่บวมปูดออกมา ทายาหรือยังคะ หล่อนเดินเข้ามาใกล้ เหลือบมองข้อเท้าข้างที่แพลง คิ้วเริ่มขมวด มันบวมเยอะเหมือนกันนะคะ ทาแล้ว เขาตอบทว่าสายตาจดจ้องใบหน้าใสซื่อ เห็นดวงตาคู่สวยที่แสดงถึงความห่วงใยอย่างแท้จริง ฉันพลันหญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นประสานกับดวงตาคมอย่างไม่ทันตั้งตัว หัวใจเริ่มเต้นรัวจึงหลบตาคู่นั้นอย่างรวดเร็วก่อนพูดขึ้น ดิฉันไปเตรียมอาหารให้นะคะ หล่อนเดินเลี่ยงเข้าครัวไป ชายหนุ่มมองตามจนหล่อนหายเข้าไปในครัวสีหน้าครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ ก่อนหันมองคอมพิวเตอร์ตรงหน้า สักพักก็ลุกขึ้น เดินกะเผลกไปยังโต๊ะอาหาร ก๋วยเตี๋ยวผัดของแม่ครัวเขามีรสชาติดีมากจนเขากินไปสองจานเต็มๆ ปุณฑริกแอบยิ้ม...คงจะหิวน่าดูล่ะสิ มรุตลอบมองแม่บ้านสาวทำงานบ้านด้วยท่าทางขยันขันแข็งเหมือนคนที่ชินกับการทำงานเหล่านี้มาทั้งชีวิต เดี๋ยวยกนั้นยกนี่ ย้ายนั่นย้ายนี่ บางครั้งก็ยกของหนักด้วยท่าทางเซไปเซมาจนเขากลัวของจะหล่นโครมลงมา แต่ทุกอย่างก็รอดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เขามองไปรอบๆ ตัวทุกอย่างดูสะอาดสะอ้านไม่ต่างจากตอนที่ป้านวลอยู่ หลังกินอาหารมื้อเที่ยงเสร็จ เขาก็ไปนั่งหน้าคอมพิวเตอร์พกพาตรงโซฟาเพื่อเริ่มทำงานต่อ โดยไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน จนกระทั่งมีเสียงพูดขึ้น ดิฉันขอตัวไปรับไข่ตุ๋นก่อนนะคะ นี่กี่โมงแล้ว เกือบสามโมงแล้วค่ะ ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้โดยไม่พูดอะไรต่อ หล่อนจึงออกไปเพื่อขี่จักรยานไปรับลูก ส่วนเขาก็ก้มหน้าก้มตาทำงาน แม่คับวันนี้คุณลุงไม่ไปทำงานหรือคับ หลังจากผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เสียงเด็กน้อยก็ดังแว่วเข้ามา จ้ะ แต่ห้ามไปกวนคุณลุงนะคุณลุงทำงานอยู่ แล้วก็เจ็บเท้าด้วย ทำไมคุณลุงเจ็บเท้าคับ เกิดอุบัติเหตุข้อเท้าเลยแพลง คุณลุงเจ็บมากมั้ยคับ เสียงเจื้อยแจ้วยังถามไม่หยุด เมื่อไหร่จะเลิกถามล่ะเนี่ยไข่ตุ๋น เอาเป็นว่าอย่าไปกวนคุณลุงก็แล้วกันหล่อนย้ำอีกครั้ง คับผม เสียงรับคำหนักแน่น แต่ไม่ถึงชั่วอึดใจคนรับคำหนักแน่นก็วิ่งกระต่ายขาเดียวเข้ามา โดยยกขาข้างที่โดนกระจกบาดเอาไว้ มาคุกเข่าลงตรงหน้าก้มมองเท้าข้างที่แพลงอย่างพินิจพิเคราะห์ แววตาแสดงถึงความห่วงใยไม่ต่างจากสาวน้อยคนนั้น โอมเพี้ยง! เจ้าหนูเป่าลมพ่นใส่ตรงบริเวณที่บวมก่อนเงยหน้าขึ้นมอง คุณลุงเจ็บมากมั้ยคับ มรุตบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไงแต่บางสิ่งบางอย่างอันอบอุ่นผุดขึ้นในส่วนลึก ขอโทษนะคะมานี่เร็วไข่ตุ๋น หล่อนยิ้มอย่างเกรงใจ และเดินเข้ามาอุ้มเด็กออกไป เขามองตามคนทั้งสองเดินออกไป ไหนดูสิ มีการบ้านอะไร เสียงสาวน้อยดังขึ้นอีกครั้ง วันนี้คุณครูฉอนนิทานเรื่องแมงกินฟันคับ เด็กน้อยพูดเสียงดังฟังชัด พลางหยิบนิทานเล่มหนึ่งขึ้นมา เป็นยังไงเอ่ยเล่าให้แม่ฟังสิ ก็แมงกินฟันตัวนี้นิฉัยไม่ดีชอบกินฟันเด็กทำให้ฟันผุ เจ้าแมงจะมาตอนกลางคืน ถ้าเราไม่แปรงฟันมันจะปีนหน้าต่างเข้ามากินฟันเราคับ ไข่ตุ๋นเล่าอย่างฉะฉาน เปิดสมุดนิทานไปทีละหน้าประกอบตามอย่างคุณครูที่โรงเรียนหญิงสาวมองตามภาพ ภาพที่หนึ่งเป็นภาพเด็กไม่แปรงฟัน อีกภาพเป็นแมงตัวสีดำมิดหมีปีนเข้ามาทางหน้าต่างห้องนอนเด็กคนนั้นเพื่อมากินฟัน เก่งจังเลยงั้นถ้าไข่ตุ๋นไม่อยากฟันผุ ไข่ตุ๋นต้องทำยังไงครับปุณฑริกถามลูก ก่อนนอนก็ต้องปิดหน้าต่างคับ คนในห้องรับแขกยิ้มขำทันทีเมื่อได้ยินคำตอบ ปิดทำไมล่ะ หล่อนถามอย่างสงสัย ไม่เข้าใจคำตอบ เด็กน้อยมองแม่เหมือน...เจ้าหล่อนถามอะไรโง่ๆ ก็แมงจะได้ไม่เข้ามาทางหน้าต่างแล้วมากินฟันไข่ตุ๋นไงคับ หนูน้อยตอบอย่างภาคภูมิใจราวกับเป็นกูรูด้านแมงกินฟันจนหล่อนอึ้งไปเลย ได้แต่ยกมือข้างหนึ่งขึ้นกุมขมับ หน้าละเหี่ย มรุตยังขำกับคำตอบไร้เดียงสาของเจ้าเด็กน้อยพูดมากไม่หายและยังคงเงี่ยหูฟังสองแม่ลูกสนทนากันอย่างตั้งอกตั้งใจ แม่เป๋อคับ วันนี้หนูขอเข้าไปดูโทรทัศน์ได้มั้ยคับ ไข่ตุ๋นขออนุญาต ซึ่งปกติแล้วมักจะไปวิ่งเล่นกับสุนัขคู่ใจด้านนอกแต่เนื่องจากขายังเจ็บ วิ่งเล่นได้ไม่ถนัดนัก อีกอย่างแม่ก็ห้ามไว้ หนูน้อยจึงเปลี่ยนแผนในทันที ไม่ได้จ้ะ รบกวนคุณลุงคุณลุงทำงานอยู่ เด็กน้อยทำหน้าผิดหวัง แต่ไม่ได้พูดอะไร ชายหนุ่มไม่ได้ยินเสียงตอบจากเด็กน้อย แต่เดาว่าเจ้าหนูนั่นคงผิดหวังน่าดูที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ดูโทรทัศน์ ไม่นานแม่บ้านของเขาก็เดินเข้ามาทำความสะอาดชั้นหนังสือในห้องรับแขก ให้ลูกเธอเข้าไปดูโทรทัศน์ก็ได้นี่ฉันอยู่ในห้องนี้ โทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น คนละฝั่งกัน ปิดประตูห้องก็แล้วกัน เขาพูดขึ้นลอยๆ น้ำเสียงเรียบเฉย ตายังจ้องจอคอมพิวเตอร์พกพาตรงหน้า หญิงสาวทำหน้าแปลกใจก่อนพูดขึ้น เอ่อแต่ เขาถอนหายใจอย่างรำคาญตามเคย และเงยหน้าขึ้นมองมา ค่ะอีกฝ่ายรีบตอบรับทันที ใบหน้าอ่อนเยาว์ยังเจือด้วยความแปลกใจ และเมื่อเดินไปบอกลูกชายเด็กน้อยผมหยิกก็ร้องตะโกนอย่างดีใจ และเดินขากะเผลกข้างหนึ่งเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็วเดินผ่านคนขาแพลงที่กำลังนั่งหน้าเฉยเมย วางมาดขรึมเต็มที่แต่หนูน้อยไม่ได้มีท่าทางกลัวคนตัวโตเลยสักนิด ยังยิ้มร่า แวะทำท่าตะเบ๊ะให้ ก่อนเอ่ยขอบคุณ ขอบคุณค้าบ แล้วก็เดินขากะเผลกอย่างน่าขันเข้าไปในห้องนั่งเล่นและปิดประตูตามที่เขาสั่ง เขามองตาม มุมปากข้างหนึ่งกระตุกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว หลังจากนั้นมรุตก็นั่งทำงานอยู่ในห้องรับแขกไข่ตุ๋นนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น ส่วนปุณฑริกก็ทำงานบ้านของตัวเองไปทุกอย่างดูนิ่งสงบในความรู้สึกของเขา จนถึงช่วงเย็น หนูน้อยเลิกดูโทรทัศน์ เขาก็หยุดพัก ต่างคนต่างจัดการกับมื้อเย็นของตัวเองเขากินในห้องอาหาร ส่วนสองแม่ลูกกินนอกบ้านบนโต๊ะหินอ่อน เจ้าหนูคงเข้านอนกับแม่ไปแล้วส่วนเขายังคงนั่งทำงานต่ออยู่ที่เดิม พอสี่ทุ่ม ก็ตกใจที่ตัวเองทำงานจนลืมเวลาจึงปิดคอมพิวเตอร์ เริ่มรู้สึกเพลียๆ ขึ้นมา คลึงขมับสองข้างด้วยนิ้วโป้งกับนิ้วกลางอยากเข้านอน แต่รู้ดีว่าคงนอนไม่หลับง่ายๆ เลยไปหยิบเบียร์เย็นเฉียบมาหนึ่งกระป๋องเพิ่งเห็นว่าทั้งตู้เย็นเหลือเบียร์กระป๋องเดียว วันไหนว่างๆ คงต้องให้เจ้าเหวียงแวะซื้อให้สักหน่อย คืนนี้คงดื่มเบียร์กระป๋องเดียวแล้วก็จะเข้านอน แต่ท้ายสุดก็รู้ว่ายังไม่เพียงพอจะทำให้หลับได้จึงเดินไปหยิบขวดไวน์กับแก้วมาจากในตู้เก็บเครื่องดื่ม และดื่มเข้าไปอีกเท่าไรก็จำไม่ได้ฟุบไปตอนไหนก็ไม่รู้... ^_______^
Create Date : 15 กันยายน 2558 |
Last Update : 15 กันยายน 2558 9:05:17 น. |
|
2 comments
|
Counter : 567 Pageviews. |
|
|