Gaggan Progressive Indian Cuisine (Round 2)


กลับมาอีกครั้งสำหรับร้านโปรด แต่ไม่ประจำ ^^
เคยรีวิวร้านนี้มาแล้วครั้งนึง เกือบครึ่งปีมาแล้ว


v
v
v


Gaggan เพิ่งเปิดบริการอาหารกลางวัน เมื่อ 1 ต.ค.ทีผ่านมานี่เอง
เราก็เลยต้องถือโอกาสไปทานอาหารร้านนี้อีกสักครั้ง
จากที่ช่วงดินเนอร์จะเสิร์ฟ Tasting Menu (10 courses) ซึ่งเป็น Surprise Tasting Menu
ใช้เวลาร่วม 2 ชม. เมื่อมาทำเป็นช่วงอาหารกลางวันจึงต้องย่นคอร์สลงจาก 10 คอร์ส
เป็น 3 คอร์สและ 5 คอร์สตามลำดับ ราคาก็ลดลงมาด้วย
ลูกค้าสามารถเลือกได้เองว่าในแต่ละคอร์สอยากจะทานจานไหน




Surprise Tasting Menu 1600++ (10 courses)
ลูกค้าจะทราบแค่ว่าอาหารแต่ละจาน ส่วนประกอบหลักเป็นอะไร
แต่ไม่ทราบว่าจะปรุงออกมาเป็นแบบไหน เมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลค่ะ
เชฟ Gaggan จะสรรหาวัตถุดิบจากทุกมุมโลกมาไว้ที่นี่
ครั้งนึงเราได้มีโอกาสลองชิมเห็ดจากธิเบตที่ร้านนี้


เคยเล่าถึงความพิเศษของร้านนี้ไปแล้วในบล๊อกที่แล้ว
Gaggan เป็นร้านอาหารเพียงไม่กี่ร้านในประเทศไทยที่เสิร์ฟ Molecular Gastronomy
ซึ่งนำวิทยาศาสตร์มาส่วนนึงในการทำอาหาร
เพื่อนๆ จะได้เห็นเทคนิคหลายอย่างที่เชฟใช้ ได้จากในบล๊อกนี้ เช่น Sous Vide, Liquid Nitrogen,
Freeze-drying, Spherification เป็นต้น


.
.
.


การตกแต่ง ปรับปรุงจากบ้านไม้เก่า ทาสีขาวทั้งหมด
ดูสบายตา




บรรยาศแบบนี้ทำให้นึกร้านน้ำชา
ถ้า Gaggan เพิ่มไลน์มาทางเบอเกอรี่บ้างก็น่าจะดีเนอะ




ช่วงกลางวัน เสาร์-อาทิตย์ ลูกค้ายังไม่เยอะ
แต่วันธรรมดา และช่วงเย็นยังแน่นเอี๊ยดเหมือนเดิม




จำได้ว่ามุมนี้ เคยเป็นแค่มุมนั่งเล่น




หน้าต่างบานใหญ่ ทำให้แสงส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึง




ช่วงดินเนอร์จะเปิดไฟสีเหลือง สร้างบรรยากาศโรแมนติค
ทำให้บรรยากาศของร้านทั้งสองช่วงเวลานั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง




เซ็นเตอร์พีซ น่ารัก สดใสเชียว




เมนูเครื่องดื่ม
ค๊อกเทลทั้ง 8 ชนิด ลองมาหมดแล้วค่ะ
เคยชวนเพื่อนมาดินเนอร์ 4 คน แต่ละคนก็สงสัยรสชาติของค๊อกเทลแต่ละชนิด
จากเริ่มมื้ออาหาร จนจบ พวกเราก็สั่งมาครบทุกอย่างจนได้ ^^
ค๊อกเทล แก้วละ 300++ ส่วนม๊อกเทล 220++ ค่ะ
ส่วนน้ำดื่มร้านนี้ราคาแรงหน่อยนะคะ Mont Fleur ขวดเล็ก 60 บาท++




Mango Mania
Freeze dried Thai mango, frozen rum on rocks topped with mango juice
แก้วนี้ถือเป็นแก้วโปรด สั่งทุกครั้งที่มาทานร้านนี้
ครีมมี่ หอมๆ คล้ายกะทิ สั่งเป็นม๊อกเทลก็ได้ค่ะ
อร่อยสุดๆ เหมือนกินไอติม


แก้วนี้ใช้เทคนิคไนโตรเจนเหลว
ใครสนใจหาอ่านได้จากบล๊อกที่แล้วนะคะ




The Happy drink
Refreshing Mint, Cachaça, Passion fruit and Orange juice
แก้วนี้อารมณ์คล้ายโมฮิโต้ เพียงไม่หอมน้ำตาลทรายแดงเหมือนโมฮิโต้
ปล. Cachaça (คาชาซา) คล้ายๆรัมเป็นลิเคอร์ที่หมักจากอ้อย
นิยมมากในประเทศบราซิล




Lunch Tasting Menu 450++ (3 courses)
เซ็ทดินเนอร์ (10 คอร์ส) ต้องเผื่อเวลาไว้ประมาณ 2 ชม.ค่ะ
ส่วนเซ็ทลัช (3 คอร์ส) อย่างน้อยก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.




Lunch Tasting Menu 700++ (5 courses)
คงมีโอกาสได้ไปทานอีกเร็วๆ นี้แล้วจะมารีวิวให้ชมนะคะ
เล็งๆ "Truffle Treasure" ไว้ค่ะ อร่อยแน่นอน





[Appetizer] Yoghurt Explosion (Raita sphere)
ไม่นึกว่าจะทานได้จานนี้อีก เพราะในเมนูไม่ได้แจ้งไว้
Raiata โยเกิร์ตผสมกับเครื่องเทศหลายอย่างสไตล์อินเดีย
เข้าปากปุ๊ป ก็แตกโพล๊ะในปากเลย
ยังอร่อยเหมือนเดิม แต่ไม่ตื้นเต้นเหมือนครั้งแรกๆ ที่ได้ชิม -_-“


เคยมีคนถามว่ามันไม่ละลายหรือ? ขอตอบว่าไม่ค่ะ
เพราะการ Spherification ทำให้ผิวด้านนอกของเหลวจับตัวเป็นเจล


เคยพูดถึง Spherification ไว้ในบล๊อกที่แล้วเช่นกันค่ะ




[Course 1/A] To a Crisp (Chatpata Kekada)
Soft shell crab fried in special tempura mix, with tamarind chutney
เทมปุระปูนิ่ม ซอสมะขาม
เทมปุระกรอบๆ ไม่อมน้ำมัน พร้อมกับซอสมะขามเปรี้ยวๆ หวานๆ เข้ากั๊นเข้ากัน




[Course 1/B] Made in India (Paneer Malai Tikka)
Char-grilled Indian cottage cheese with crushed fennel chutney bubbles


Paneer (พาเนีย) หรือ Indian cottage cheese ของที่นี่นุ่มมาก ประทับใจสุดๆ
ปรกติพาเนียที่เคยทาน เนื้อจะคล้ายๆกับเต้าหู้เหลือง แน่นๆ
แต่ของที่นี่จะคล้ายๆกับเฟรชมอซซาเรลล่าชีสมากกว่า
เชฟใช้เทคนิค Sous Vide พาเนียถึงได้นุ่มขนาดนี้ ^^


Sous-vide คือการทำให้อาหารสุกโดยใส่ถุงสูญญากาศ..
แล้วต้มที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
แถมน้ำในหม้อ ก็หมุนตลอดเวลา (ประมาณ jacuzzi ว่างั้น ^^)




[Course 2/A] Northern Lights (Mushroom Risotto)
Wild Forest Mushrooms together with Carnaroli rice cooked in Traditional Indian kedgeree style
Risotto จานนี้ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นอาหารอิตาเลียน แต่ปรุงด้วยสไตล์อินเดียน
ชิมแล้ว ยังไงก็ยังเป็นอิตาเลียนอยู่นะ




[Course 2/B] You Say Tomato (Paneer Makhani)
Cottage cheese croutons in Himachal tomato curry, and homemade white butter
เป็นพาเนียตัวเดียวกับเมนู “Made in India” พาเนียนุ่มแทบละลายในปาก
ส่วนแกงก็ไม่ฉุนกลิ่นเครื่องเทศอินเดีย คนที่ไม่เคยทานอาหารอินเดียทานได้สบายค่ะ 




Plain & Butter Naan เสิร์ฟมาพร้อมกับ [Course 2]
ไม่ต้องกลัวไม่อิ่มเลยค่ะ




[Course 3] Liquid Magma (Cold Chocolate Lava)
Dark and milk chocolate in soft liquid centre served with soil of nuts and cocoa
เราสองคนสั่งขนมหวานชนิดเดียวกัน ถ้ามา Gaggan แล้วไม่ได้ทานจานนี้ก็เหมือนมาไม่ถึง ^^
จานนี้ใช้ไนโตรเจนเหลว ด้านนอกเป็นชอคโกแลต ส่วนด้านในคล้ายๆกับมูส
แต่งจานด้วยอัลมอนด์บด และผงโกโก้




สุดท้ายและท้ายสุด คาปูชิโน รวมอยู่ในเซ็ท
แก้วกาแฟเก๋มาก แอบพลิกดูด้านล่าง “Made in Spain”




v
v
v


ใครที่อยากจะลองมาทานอาหารร้านนี้ แล้วยังไม่มีโอกาส
แนะนำเลยค่ะ เซ็ทลัช คุ้มค่า อิ่ม อร่อย
ที่แน่ๆ ได้ประสบการณ์การกินใหม่ๆ




Create Date : 17 ตุลาคม 2554
Last Update : 17 ตุลาคม 2554 14:43:11 น. 0 comments
Counter : 1930 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Holly
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




counter for blogger

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Holly's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.