ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
Facebook ซื้อ WhatsApp แล้วได้อะไร ?

จากเหตุการณ์ครั้งสำคัญเช้านี้กับการลงทุนของ Facebook ซื้อกิจการ WhatsApp มาร่วมธุรกิจด้วยมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท แม้จะเป็นเรื่องดีต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคตแต่ดีลครั้งนี้กลับส่งผลให้หุ้นของ Facebook ร่วงมา 3%

อย่างไรก็ตามการซื้อ WhatsApp ในครั้งนี้ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอ Facebook มองในแง่ดีว่าการร่วมธุรกิจในครั้งนี้กำลังมาในทิศทางที่ถูกต้องและจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้ใช้ Facebook กว่า 1 พันล้านคน ซึ่งถือเป็นการให้บริการที่มีคุณค่าที่ไม่อาจประเมินเป็นตัวเลขได้ พร้อมกันนี้การซื้อบริการ WhatsApp นับเป็นเครื่องมือใหม่ที่เข้ามาเสริมประสิทธิภาพของการสนทนาและการส่งข้อความสำหรับสังคมออนไลน์

ทางด้าน Jan Kuam ซีอีโอ WhatsApp ที่กำลังจะเข้าไปนั่งเป็นบอร์ดบริหารใน Facebook กล่าวสนับสนุนดีลดังกล่าวว่าจะช่วยทำให้ WhatsApp มีความยืดหยุ่นในการเติบโตและขยายตัวและยังทำให้ทีมงานมีเวลามากขึ้นในการ พัฒนาบริการการสื่อสารให้เป็นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ประกอบการการร่วมมือระหว่าง WhatsApp และ Facebook ครั้ง นี้ผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลเรื่องโฆษณว่าจะเข้ามารบกวนการสื่อสารแต่อย่างใด ตลอดจนการให้บริการต่างๆ (ในตอนนี้) ยังคงเหมือนเดิมทุกประการ

ทั้งนี้การที่ Facebook ซื้อ WhatsApp ถือเป็นการสนับสนุนเป้าหมายของมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ต่อการพัฒนาบริการบนโทรศัพท์มือถือมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาผู้ใช้ WhatsApp มีอัตราการใช้งานซ้ำคิดเป็น 70% ของผู้เปิดแอพทุกวัน ขณะที่ Facebook มีเพียง 62% เท่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางต่อการดำเนินธุรกิจในตลาดเกิดใหม่ที่จะดึงดูดให้บริการแชทบนมือถือทั้ง Facebook และ WhatsApp ได้รับความสนใจและเป็นการเพิ่มฐานผู้ใช้ต่อไปอีกด้วย


สนับสนุนเนื้อหา: Arip




Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2557 18:58:17 น. 0 comments
Counter : 1288 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.